สธ.เล็งเพิ่มอีก 18 จังหวัดสีฟ้า ธ.ค.นี้ เตือนการ์ดตกโควิดพุ่ง 4 หมื่นราย

[Prichas]

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 คาดว่าใน 1-2 วันนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนสะสมได้ถึง 80 ล้านโดส เป็นซิโนแวคแล้ว 24.5 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 34.4 ล้านโดส ซิโนฟาร์ม 12.7 ล้านโดส และไฟเซอร์ 6.5 ล้านโดส ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด หรือพื้นที่สีฟ้าที่ต้องฉีดวัคซีนครอบคลุมกว่าพื้นที่อื่นนั้น ยอดรวมสะสมต้องร้อยละ 80 ของประชากร จะมีความปลอดภัย ช่วยลดการติดเชื้อลงได้ และหากติดเชื้ออาการก็จะไม่รุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วร้อยละ 77 เข็มที่ 2 อีก ร้อยละ 64 ส่วนเดือนธันวาคมนี้ จะมีจังหวัดอื่นเข้ามาเป็นพื้นที่สีฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 17-18 จังหวัด ขอให้เร่งฉีดวัคซีนกันต่อไป


นพ.โอภาสกล่าวว่า หลังเปิดประเทศวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 มีการคาดการณ์ใหม่ โดยรูปแบบที่ 1 หากมาตรการผ่อนคลาย ทำกิจกรรมโดยไม่เฝ้าระวัง หรือควบคุมกำกับใกล้ชิด ความร่วมมือลดลง ก็อาจเกิดระบาดเพิ่มขึ้น บางวันอาจพบผู้ติดเชื้อใหม่ถึง 3-4 หมื่นราย มีตัวอย่างหลายประเทศ


"เช่น อังกฤษ ที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับไทย เราจึงดูเป็นต้นแบบ พบว่าเปิดกิจกรรมค่อนข้างเยอะ บางวันติดเชื้อถึง 3 หมื่นคน ฉะนั้นมาตรการต่างๆ ไม่เข้มข้น ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนลดลงจนเป็นที่น่าตกใจจะทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ แต่หากเราให้ความร่วมมือดี มาตรการต่างๆ ประสบความสำเร็จ ก็จะเกิดเป็นรูปแบบที่ 2 จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง เฉลี่ยวันละ 5-6 พันราย ขณะนี้เรายังอยู่ในรูปแบบนี้อยู่ ส่วนรูปแบบที่ 3 หากมาตรการดำเนินได้ปานกลาง ก็จะพบผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 1.2-1.3 หมื่นราย ทั้งนี้ การคาดการณ์ผู้เสียชีวิตก็จะคล้ายคลึงกัน การฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยงจึงมีความสำคัญ เราหวังว่ามาตรการจะคงอยู่ในเส้นสีเขียว แต่ต้องคำนึงถึงการเปิดเศรษฐกิจ ให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งเราต้องรักษาสมดุลนี้ และติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด" นพ.โอภาสกล่าว