แผนปราบหุ้นปั่น..ความพยายามที่สูญเปล่า / สุนันท์ ศรีจันทรา

[Panitsupa]

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำลังปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น โดยระหว่างวันที่ 1 ถึง 12 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดให้สาธารณชนร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อให้มาตรการกำกับการซื้อขายมีประสิทธิภาพขึ้น

แนวทางการปรับปรุงเบื้องต้น กำหนดมาตรการกำกับการซื้อขายไว้ 3 ระดับ ระดับที่ 1 กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด และห้ามนำหลักทรัพย์เป็นหลักประกันคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย

ระดับที่ 2 กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด ห้ามนำหลักทรัพย์เป็นหลักประกันคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และขายซื้อขายหักกลบชำระค่าซื้อขายหุ้นภายในวันเดียวกันหรือห้าม เนท เซทเทิลเมนท์

และ ระดับ 3 พักการซื้อขายหุ้น 1 วัน และเมื่อเปิดการซื้อขายใหม่ ยังใช้มาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 และระดับ 2 ต่อไป

มาตรการกำกับการซื้อขายทั้ง 3 ระดับ สิ่งที่เพิ่มเติมคือ การพักซื้อขายหุ้น 1 วัน

ตั้งแต่ต้นปีมีหุ้นหลายสิบบริษัทที่เคลื่อนไหวผิดปกติ โดยราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่สูงกว่าปกติ จนตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย

แต่มาตรการกำกับซื้อขายแม้จะประกาศใช้ระดับที่เข้มข้นสูงสุด รวมทั้งประกาศเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย แต่ไม่อาจสยบความร้อนแรงของหุ้นได้

หุ้นบางตัวถูกลากขึ้นจากราคา 2 สตางค์ แม้ะถูกประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายขั้นสูงสุดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ราคายังพุ่งทะยานต่อเนื่อง จนราคาทะลุ 60 สตางค์ หรือพุ่งขึ้นกว่า 3,000% ภายในเวลาประมาณ 7 เดือน ทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน

และหุ้นนับสิบตัวราคาถูกลากขึ้นจนค่าพี/อี เรโช พุ่งทะลุ 500 เท่า รวมทั้งหุ้นอีกหลายตัวที่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องหลายปี แต่ราคากลับปรับตัวขึ้น

ความพยายามในการสยบหุ้นร้อนของตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมาตรการกำกับการซื้อขายอย่างเข้มข้น พิสูจน์แล้วว่าไร้ผล

ก่อนประกาศปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ได้ติดต่อประสานกับโบรกเกอร์รายบริษัทโดยตรง เพื่อขอความร่วมมือในการช่วยสอดส่องดูแลคำสั่งซื้อขายของลูกค้า ตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อขาย และขอข้อมูลการซื้อขายหุ้นของลูกค้า

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยินยอมให้ความร่วมมือด้วยดี บางแห่งส่งสัญญาณเตือนลูกค้า หรือลดวงเงินมาร์จิ้นของลูกค้า เพื่อลดอำนาจการซื้อขายหุ้น แต่ไม่อาจแก้ปัญหาการซื้อขายที่ผิดปกติได้

การสู้รบกับหุ้นที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายปั่น ตลอด 10 เดือนแรกในปีนี้ ผลที่ออกมาคือ ตลาดหลักทรัพย์พ่ายแพ้อย่างราบคาบ มาตรการกำกับการซื้อขายกลายเป็นเสือกระดาษ ไม่อาจสกัดกั้นหุ้นที่ซื้อขายผิดปกติได้ จนต้องยกเครื่องมาตรการกันใหม่

แต่การเพิ่มความเข้มข้น โดยเติมมาตรการพักการซื้อขายหุ้น 1 วัน จะสยบกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้นนับร้อยตัวได้หรือ

ในอดีตตลาดหลักทรัพย์เคยใช้มาตรการขึ้น "SP" พักการซื้อขายหุ้นที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมาแล้ว และพักการซื้อขายยาวถึง 7 วัน แต่ปลด SP เปิดการซื้อขายเมื่อไหร่ นักลงทุนขาใหญ่หรือเจ้ามือลากหุ้นขึ้นต่อทันที เย้ยมาตรการตลาดหลักทรัพย์เสียอีก

การปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายให้เข้มข้นขึ้น เพื่อควบคุมดูแลการซื้อขายหุ้นให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นเจตนารมณ์ที่ดีของตลาดหลักทรัพย์ แต่จะสามารถกำราบหุ้นที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายปั่น และจะทำให้กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการสร้างราคาหุ้น เกิดความเกรงกลัวและหยุดพฤติกรรมลงได้หรือ

ตลาดหลักทรัพย์มีข้อมูลการซื้อขายหุ้นแต่ละตัวอยู่แล้ว มีรายชื่อนักลงทุนที่สั่งซื้อสั่งขาย แต่สิ่งที่สาธารณชนไม่เข้าใจคือ เหตุใดตลาดหลักทรัพย์จึงตรวจสอบไม่พบกลุ่มคนที่เป็นต้นตอของความไม่ปกติหุ้นแต่ละตัว


X


ความผิดปกติของหุ้นแต่ละตัวไม่ได้เกิดจากตัวหุ้น แต่เกิดจากการกระทำของคนหรือกลุ่มบุคคลที่เข้าไปซื้อขายหุ้นนั่นแหละ ซึ่งหากตรวจสอบไม่พบความผิดของกลุ่มคนนี้ เล่นงานไม่ได้ มาตรการอะไรก็กำราบหุ้นปั่นไม่หมด

มาตรการกำกับการซื้อขายที่ปรับปรุงใหม่ และกำลังเปิดพลับลิกเฮียริ่ง แม้จะมีความเข้มข้นขึ้น แต่ไม่เด็ดขาดเพียงพอที่จะสยบหุ้นร้อนได้

และอาจทำการแก้ปัญหาหุ้นปั่นของตลาดหลักทรัพย์เป็นความพยายามที่เหนื่อยเปล่า