• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - kaidee20

#3201
ข้าวออแกนิคคือ   ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวกล้องมะลินิลออแกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวหอมมะลิออแกนิคสำหรับทารกข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวกล้องปะกาอำปึลอินทรีย์เลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์ เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--12cbh7f2bxa6ba6b0a4lsdyb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิorganic
2.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์
4.  ข้าวกล้องอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ6.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 
 
#3202


นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้  กล่าวว่า สำหรับมาตรการใหม่เพิ่มเติมหลังหมดพักหนี้ 2 เดือนแล้ว และคงต้องรอความชัดเจนจากทางธปท. ก่อนว่าจะช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโควิด-19ต่อไปอย่างไร   ซึ่งธนาคารพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่  

ขณะที่ปัจจุบันมาตรการของธนาคารมีการให้ความช่วยเหลือลูกค้าอยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์  มีทั้งปรับโครงสร้างหนี้ พักหนี้ตามมาตรการธปท.และคืนรถปลดหนี้  มองว่าเรามีเครื่องมืือที่ยังเพียงพอดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ปีนี้ได้อยู่  

โดยมาตรการคืนรถปลดหนี้ นับถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ยังเพียงพอดูแลหากลูกค้าไปไม่ไหวจริงยังมีมาตรการนี้รองรับได้ แต่ปัจจุบันกลับพบว่า มีลูกค้าเข้ามาคืนรถปลดหนี้เพียง 1,000 ราย ยังต่ำที่คาดไว้ 5,000 ราย  สะท้อนว่ารถยนต์ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ประกอบอาชีพและสร้างรายได้อยู่ เพื่อพยายามจ่ายหนี้ได้บ้าง 

ทั้งนี้ทางธนาคารพยายามช่วยประคับประคองลูกค้า ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าเป็นรายกรณี ถือว่าตอบโจทย์ลดภาระหนี้ระยะยาวให้ลูกค้าผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19ไปให้ได้  เช่น สามารถลดค่างวดได้ 30-50% หรือยืดระยะเวลาผ่อนออกไป 3-6 เดือน   ขณะที่มาตรการพักหนี้รอบนี้  มีลูกค้ามาขอช่วยเหลือน้อยมากไม่ถึง 1 %ของพอร์ตลูกหนี้ทั้งหมด  
#3203


กรุงเทพฯ, 13 สิงหาคม 2564 – เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัว ทางเชื่อมสกายวอล์กจากบีทีเอสเซนต์หลุยส์ เข้าสู่อาคาร "เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์" เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์อำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางแก่คนในชุมชน พนักงานออฟฟิศ ตลอดจนผู้สัญจรไปมา ตอกย้ำคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, .ter Lives' ที่มุ่งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น เสริมแกร่งเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ยืนหนึ่งในฐานะอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอระดับพรีเมี่ยมย่าน CBD ของกรุงเทพฯ ทั้งยังมุ่งอนุรักษ์​พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐาน LEED EBOM ระดับ Platinum Level พร้อมอีกหลากหลายรางวัลจากเวทีระดับโลก

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า "นับตั้งแต่บริษัท​ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ร่วมกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ เปิดให้บริการสถานีเซนต์หลุยส์ ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในย่านสาทร ซอยเซนต์หลุยส์​ และพื้นที่โดยรอบ รวมถึงนักเรียน บุคลากรของโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ ผู้ที่ทำงานในอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ และอาคารสำนักงานใกล้เคียง ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย วันนี้ เอไอเอ ในฐานะบริษัทประกันชีวิตไทยเพื่อคนไทย ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมเมืองสู่ความยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวทางเชื่อมสกายวอล์ก ระหว่างบริเวณสถานีเซนต์หลุยส์ กับอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกอีกขั้นให้กับผู้ที่เดินทางจากตัวสถานีมายังอาคาร หรือจากตัวสถานีผ่านทางเชื่อมต่อไปยังจุดอื่น ๆ ภายในชุมชน โดยทุกท่านสามารถเดินทางด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม เป็นไปตามคำมั่นสัญญา 'Healthier, Longer, .ter Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น' ซึ่งเอไอเอยึดถือในการดำเนินธุรกิจ และอยู่เคียงข้างคนไทยมาตลอดระยะเวลา 83 ปีที่ผ่านมา"

นายโจฮัน ดีทอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า "ปัจจุบันเอไอเอ ประเทศไทย ได้มีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งสิ้น 3 โครงการด้วยกัน ได้แก่ เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ (AIA Capital Center) เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ (AIA Sathorn Tower) และ เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ (AIA East Gateway) โดยทั้ง 3 อาคารเป็นอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า บนย่านสำคัญทางธุรกิจของไทย โดยปัจจุบันการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทคิดเป็นประมาณ 2% ของพอร์ตการลงทุน ทั้งนี้ การเลือกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเอไอเอนั้น เรามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับคุณภาพอาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยมในเมืองไทยให้อยู่ในระดับสากล ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งแก่ผู้เช่า และชุมชนรอบข้าง เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับสถานีเซนต์หลุยส์ บีทีเอสได้มีการประมาณการผู้ใช้บริการคิดเป็นจำนวนเที่ยวการเดินทางประมาณ 17,000 คน/วัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการคมนาคมด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวถือเป็นแผนการลงทุนระยะยาวของเอไอเอ เนื่องจากเราเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตทั้งทางเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของผู้คนบนย่านที่เราลงทุน"

ด้านนายปกป้อง ยินดีผล ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า "การมีทางเชื่อมโดยตรงจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเข้าสู่ตัวอาคาร เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาคาร เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มขึ้น เพราะนอกจาก เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ จะเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอระดับพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัย และฟังก์ชันพิเศษของอาคารอัฉจริยะที่ครบครันเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เน้นประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED EBOM ในระดับ Platinum พร้อมด้วยรางวัลอันทรงเกียรติจาก 2 เวทีชั้นนำอย่าง Thailand's Property Awards และ Southeast Asia Property Awards ตัวอาคารยังตั้งอยู่บนทำเลทองย่าน CBD ที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะ อันถือเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ผู้เช่าใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกเช่าสำนักงาน"

อาคาร เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ถือเป็นอาคารสำนักงานเกรดเอระดับพรีเมี่ยม สูง 29 ชั้น มีพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่ารวม 38,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยคุณสมบัติของอาคารอัจฉริยะ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED EBOM (The Leadership in Energy and Environmental Design) ในระดับ Platinum ผ่านคุณสมบัติหลัก 5S คือ Space, Saving Energy, Safety, Smart และ Speed ในทุกจุดทั่วอาคาร โดยถือเป็นอาคารประหยัดพลังงานจากความสามารถในการบริหารการใช้พลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมกับความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อตอบสนองต่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้เช่า ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของอากาศที่ดีภายในอาคาร การจัดการขยะและของเสียที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วทั้งโครงการ


นอกจากนี้ อาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ได้รับรางวัลเป็นเครื่องการันตีคุณภาพงานก่อสร้างและออกแบบมากมาย อาทิ Best Office Architectural Design Award อาคารสำนักงานที่มีภูมิสถาปัตย์ยอดเยี่ยม, Best Green Development Award โครงการอาคารสีเขียวยอดเยี่ยม, Best Commercial Development อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ยอดเยี่ยม และ Best Office Development อาคารสำนักงานยอดเยี่ยม และอีก 2 รางวัลจากเวที South East Asia Property Awards 2015 ได้แก่ รางวัล Highly Commended : Best Commercial Development และ รางวัล Highly Commended: Best Green Development
#3204


ท่ามกลางความมืดมิดจากวิกฤตโควิด-19 ผู้คนล้มตายประชาชนสิ้นหวังในเข้าถึงระบบสาธารณสุข โดยเฉพะพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้วยระบบราชการที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด โครงสร้างพื้นฐานสาธารณสุขของกรุงเทพฯ ที่อ่อนยวบ แต่แล้วแสงแห่งความหวังได้ปะทุขึ้นเมื่อ "ชมรมแพทย์ชนบท"เปิดยุทธการ "แพทย์ชนบทบุกกรุง" จัดทัพกู้ภัยโควิด กทม.

โดยแม่ทัพใหญ่ "นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ"ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา หมอของขวัญในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท นำทีมลงพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อปฏิบัติการตรวจเชิงรุก ปักหมุดหมาย "ชุมชนแออัด" ซึ่งเกิดการแพร่ระบาดรุนแรง ตั้งเป้าหาผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด เจอให้เร็วรักษาให้เร็ว พร้อมจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ นำเข้าระบบ Home isolation ตั้งเป้าลดอัตราป่วยหนัก-เสียชีวิต อันเนื่องจากการเข้าไม่ถึงยาและโรงพยาบาล สร้างโมเดลต้นแบบต่อสู้โควิด-19 ทลายข้อจำกัดระบบราชการ มุ่งหวังให้ทุกพื้นที่สามารถนำไปปรับใช้ได้

สำหรับปฏิบัติการ "แพทย์ชนบทบุกกรุง" สำเร็จลุงล่วง ได้รับความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายประชาชนทีมโควิดชุมชน (Com-Covid) ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญ ดำเนินการต่อเนื่องครั้งล่าสุดครั้งที่ 3 ระดมบุคลากรสาธารณสุขในต่างจังหวัดกว่า 400 คน แบ่งทีมย่อยลุยแผนดาวกระจายทั่วกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4-10 ส.ค. 2564 รวมพื้นที่ดำเนินแล้ว 196 จุดตรวจ รวม 369 ชุมชน ตรวจเชิงรุกประชาชน 141,516 ราย พบผลติดเชื้อสะสมจำนวน 15,588 ราย (ร้อยละ 11)

ถอดบทเรียนปฏิบัติ "แพทย์ชนบทบุกกรุง" พูดคุยกับแม่ทัพใหญ่ "นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ" ภายใต้แรงกดดันสถานการณ์โรคระบาด ผู้คนเผชิญกับความทุกข์ยาก ระบบสาธารณสุขที่ใกล้ล่มสลาย ระบบราชการที่เป็นอุปสรรคในการสู้รบกับโควิด แพทย์ชนบทได้จุดไฟแห่งความหวังให้ประชาชน เสมือนเข็มทิศนำทางให้รัฐปรับยุทธศาสตร์แก้วิกฤตโควิด-19

- ทำไมชมรมแพทย์ชนบทเลือกพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งที่จังหวัดอื่นๆ เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงไม่ต่างกัน
จังหวัดอื่นแม้เกิดการระบาดหนัก แต่ว่าปรากฎการณ์ตายคาบ้านแทบไม่มี ไม่เหมือนในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ต่างจังหวัดผู้ป่วยมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สถานการณ์ในโรงพยาบาลต่างจังหวัดหากป่วยอย่างไรก็สามารรับได้ คนต่างจังหวัดหากสงสัยว่าติดเชื้อโควิด โรงพยาบาลยังสามารถตรวจได้ เพราะประชากรน้อยโรงพยาบาลจึงสามารถจัดการได้ แต่ว่ากรุงเทพฯ จุดตรวจโควิดแทบจะหาไม่ได้ ความสูญเสียชีวิตที่บ้านเห็นชัดเจนมาก

การลงพื้นที่กรุงเทพฯ ของแพทย์ชนบท เป้าหมายคือค้นหาผู้ติดเชื้อให้มาก เจอให้เร็ว รักษาจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์เร็ว นำเข้าระบบ home isolation จะได้ลดอัตราป่วยหนักที่ต้องการเตียงโรงพยาบาล และลดอัตราการเสียชีวิตอันเนื่องจากการเข้าไม่ถึงยาหรือเข้าไม่ถึงโรงพยาบาล ถึงแม้ลดอัตราการติดเชื้อไม่ได้โดยง่าย แต่หวังว่าจะลดอัตราเตียงล้นโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และลดอัตราตายลงได้บ้าง

การตรวจเชิงรุกในกรุงเทพฯ เราใช้ Rapid Antigen Test ที่มีคุณภาพสูง ยี่ห้อที่องค์การอนามัยโลกรับรอง เป็นยี่ห้อที่ใช้ในโรงพยาบาลมาตรวจ ซึ่งประเด็นนี้มีความน่าสนใจเพราะองค์การเภสัชฯ ทำการจัดซื้อ Rapid Antigen Test แต่ได้ยี่ห้อที่มีปัญหา ซึ่งน่าเป็นห่วงมาก เพราะการตรวจสามารถรู้ผลได้เลย ความแม่นยำจึงมีความจำเป็น มิเช่นนั้น ต้องไปเสียเวลาตรวจซ้ำ RT-PCR ซึ่งเสียเวลาเสียทรัพยากรด้วย

สรุปผลการลงพื้นที่กรุงเทพฯ ครั้งแรก ระหว่าง 14 - 16 ก.ค. 2564 ครั้งที่ 2 ระหว่าง 21 - 23 ก.ค. 2564 และครั้งที่ 3 ระหว่าง 4– 10 ส.ค. 2564 สรุปผลพื้นที่ดำเนินการสะสม 196 จุดตรวจ รวม 369 ชุมชน มีประชาชนรับบริการสะสมจำนวน 141,516 ราย ผลติดเชื้อสะสมจำนวน 15,588 ราย ผลการตรวจผู้ป่วยทั้งหมดแบ่งเป็นผู้ป่วยระดับสีเขียว 10,838 ราย ระดับสีเหลือง 4,427 ราย และระดับสีแดง 323 ราย แจกยาฟ้าทะลายโจร จำนวน 3,509 ราย และแจกยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 8,939 ราย และให้บริการวัคซีนสะสม จำนวน 7,412 ราย



-ปัญหาที่พบหลังจากทีมแพทย์ชนบทลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกบริเวณชุมชนแออัดในกรุงเทพฯ
แพทย์ชนบทเข้าไปในชุมชนแออัดชัดเจนว่าเป็นกลุ่มคนจน พวกเขาเข้าไม่ถึงบริการสุขภาพ แม้กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยโรงพยาบาล คลีนิคเอกชน เต็มไปศูนย์บริการสาธารณสุขต่างๆ แต่พวกเขาเข้าไม่ถึงบริการเหล่านี้ ซึ่งการล็อกดาวน์เศรษฐกิจฟุบยาวนาน ทำให้เขาแทบจะไม่มีรายได้ ชีวิตยากลำบาก อยากจะตรวจโควิดก็ไม่มีที่ให้ตรวจ ป่วยแล้วก็ไม่รู้จะไปไหน โทร. 1669, 1330 แจ้งไปก็ไม่มีใครมารับ พอติดโควิดอยู่บ้านหลังเล็กแคบอยู่กันแออัด ติดในครอบครัว ติดเพื่อนบ้าน ลามติดกันทั้งชุมชน ยกตัวอย่าง ชุมชนริมคลองสามเสน ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 200 คน คือตัวเลขที่มีการตรวจก่อนแพทย์ชนบทจะเข้าไป ดังนั้น เราคาดการณ์ได้เลยว่าชุมชนนี้แพร่กระจายเชื้อติดกันไปมากกว่า 1,000 แล้ว จากประสบการณ์ทำให้รู้ว่า หากมี 1 คนติดเชื้อ จะมีอีก 5 คนที่ติดเชื้อ อาจจะไม่แสดงอาการ มีอาการเล็กน้อย เพราะการที่ไม่ได้รับตรวจหาเชื้อ ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อแล้ว ทำให้มีการระบาดกว้างขวางมากโดยเฉพาะในชุมชนแอดอัด

-หลังจากแพทย์ชนบทสร้างโมเดลต้นแบบปฎิบัติการเชิงรุกต่อสู้โควิด-19 กู้วิกฤตโรคระบาด เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการบริการสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพฯ บ้างหรือไม่
เราเห็นสัญญาณที่ดีอยู่บ้าง พื้นที่กรุเทพฯ มีการเปิดตรวจจุดเคลื่อนที่เร็ววันละ 5 - 6 จุดเพิ่มขึ้นมาจากเดิม 500-1,000 คน หรืออย่างหน่วยทหารได้เปิดจุดตรวจในค่ายทหารก็เป็นมีสัญญาณที่ดี มีความพยายามในการเพิ่มจุดตรวจมากขึ้น แต่สิ่งที่เราเสนอมากกว่าเปิดจุดตรวจจากประสบการณ์ตั้งแต่เรามาครั้งที่ 1 คาดหวังให้เปิดจุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test มากขึ้น แต่เราพบปัญหาว่าหลังรู้ผลติดเชื้อ ผู้ป่วยหาโรงพยาบาลไม่ได้ไม่มียา สุดท้ายก็เสียชีวิตที่บ้านให้เห็นเป็นจำนวนมาก

ครั้งที่ 3 แพทย์ชนบทมาด้วยชุดโมเดลที่สมบูรณ์ขึ้น ตรวจเสร็จแล้วจ่ายยาเลย เราได้รับการสนับสนุนฟาวิพิราเวียร์จากกระทรวงสาธารณสุข เราตรวจแล้วก็จ่ายยาเลยสำหรับคนที่อยู่ในเกณฑ์ เช่น ผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว มีอาการ ซึ่งจริงๆ เราอยากให้จุดตรวจจุดอื่นจ่ายฟาวิพิราเวียร์ เพราะว่าถ้าผู้ติดเชื้อกลับไปอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้าเขาไม่ได้กินยา

ความยากคือจุดตรวจเหล่านั้นจะเอาฟาวิพิราเวียร์จากไหน เพราะว่าระบบการกระจายยายังเป็นปัญหา การนำเข้าน้อย องค์การเภสัชฯ ผลิตได้ไม่เพียง หรือถึงจะเพียงพอ แต่โจทย์คือจะกระจายยาอย่างไรให้ไปถึงประชาชนที่เป็นโควิด การพึ่งเพียงแต่โรงพยาบาลพึ่งการไปหาหมอที่โรงพยาบาลเป็นไปไม่ได้ ประชาชนเข้าไม่ถึง เรื่องการกระจายยาเป็นโจทย์ยากที่รอการจัดการ ซึ่งจริงๆ ไม่ยากหรอกครับ แค่ทำให้นโยบายเปิด เพราะปัจจุบันยังไม่เปิดเท่าที่ควร ฟาวิพิราเวียร์ยังเป็นยาเทวดาอยู่ คนยากคนจนเข้าไม่ถึง

ณ วันนี้ คนรวยติดโควิดเข้าถึงการรักษาไม่ยากครับ โรงพยาบาลเอกชนยินดีรับ โรงพยาบาลเอกชนยังมีเตียงว่างอยู่พอสมควรไม่ใช่ว่าไม่มีเตียง แต่ว่าเขาเก็บเตียงไว้สำหรับคนที่มีความสามารถในการจ่าย หรือมีประกันชีวิต การเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนต้องมีเงินไม่ต่ำกว่า 2 – 3 แสน นอน 14 วัน เป็นอย่างต่ำ

ส่วนคนจนรอเข้ารับรักษาในโรงพยาบาลของรัฐซึ่งเตียงมันเต็มหมดแล้ว ต้องลุ้นเอาว่าเป็นหนักมั้ย ถ้าเป็นหนักก็อาจจะไม่รอด แม้ว่าเข้าถึงการรักษาเข้าโรงพยาบาลสนามยังอาจไม่รอดเลย ดังนั้น เราต้องกลับมาตั้งหลักใหม่ดูแลประชาชนดีๆ ตรวจเชื้อให้มากที่สุด ให้เขาเข้าถึงยาเร็วที่สุด อัตราเสียชีวิตจะลดลงต้องได้ยาฟาวิพิราเวียร์ตั้งแรกไม่ใช่ว่าอาการหนักแล้วถึงจะได้ยา ถ้าอาการหนักแล้วได้รับยาก็ไม่ทัน การที่เขาได้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็วมีความหมายมากต่อการรอดชีวิต ประเด็นสำคัญฟาวิพิราเวียร์จะได้เร็วก็ต่อเมื่อได้ตรวจเร็ว รู้ผลเร็วตั้งแต่ยังมีอาการน้อย เพราะหลายคนไปตรวจตอนที่อาการหนักแล้ว หอบแล้ว เหนื่อยแล้ว เดินไม่ไหวแล้ว ไปตรวจตอนนั้นกว่าจะตรวจกว่าจะรู้ผลกว่าจะได้ยาก็ช้าไปแล้วดังนั้น การตรวจเชิงรุกในชุมชนมีประโยชน์มาก ทำให้รู้ตัวเร็วว่าติดเชื้อแล้วได้รับยาเร็วมีโอกาสรอดสูง



-ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจเชิงรุกของทีมแพทย์ชนบท มีแนวทางดูแลรักษาอย่างไรต่อ
ทุกคนที่ตรวจโพสิทีฟพบว่าติดเชื้อ เราจะให้เขาสแกนคิวอาร์โค้ดเข้าสู่ระบบ หนึ่ง-เข้าสู่ Home Isolation ของ สปสช. สำหรับอาการไม่รุนแรง เราจะลงข้อมูลให้ประชาชนเข้าสู่ฐานข้อมูลกลาง จากนั้นโรงพยาบาลต่างๆ ก็จะมาช้อนมารับตัวของเขาไปดูแลในระบบ Home Isolation ซึ่งรัฐให้ค่าใช้จ่ายต่อโรงพยบาลที่ดูแลผู้ป่วย 1000 บาทต่อวันต่อคน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูง แต่ปรากฎว่าหลายหมื่นนคนก็ยังค้างอยู่ในระบบ ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับการดูแลยังล่องลอยอยู่ในฐานข้อมูล เป็นสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

สอง-เข้าสู่ Community Isolation หรือศูนย์พักคอย กทม. ซึ่งพื้นที่ที่ศูนย์พักคอยประชาชนก็มีโอกาสเข้าถึงระบบสาธารณสุขมากขึ้น แต่ว่าศูนย์พักคอยที่ กทม. มีน้อยมาก และสามหากอาการหนักส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ซึ่งยิ่งยากเพราะอย่างที่ทราบกันว่าโรงพยาบาลแต็ม แต่ก็มีความพยายามช่วยกันเยอะ จำนวนหนึ่งได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้เข้าทุกคน จำนวนมากต้องยอมกักตัวที่บ้านไปก่อน

-วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ สะท้อนความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานด้านบริการสุขภาพที่ต้องรอการปฏิรูป
มองภาพเปรียบเทียบกับต่างจังหวัด ในต่างจังหวัดระดับตำบลมีสถานีอนามัยดูแลประชาชนประมาณ 2,000 -5,000 คน มีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 5-10 คน ทุกอำเภอมี 1 โรงพยาบาลอำเภอ ดูแลประชาชน 30,000 คน 50,000 คน 100,000 คน แตกต่างกันไป อย่างโรงพยาบาลจะนะดูแล 100,000 คน มีบุคลากร 300 คน ในขณะที่ กทม. แขวงเทียบเท่ากับตำบลดูแลคน 5,000 คน แต่ตัวเลขจริงมากกว่านั้นเป็นหมื่นเพราะมีประชากรแฝงด้วย แขวงไม่มีสถานีอนามัย ไม่มีศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. ทุกคนพึ่งพาคลินิกส่วนตัว ร้านขายยา

โครงสร้างสาธารณสุข กทม. มีแค่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ซึ่งรับผิดชอบระดับเขต มี 50 เขต 65 ศูนย์ บางเขตมี 2 ศูนย์ ซึ่งบุคลากรน้อยมาก แต่ละเขตมีโรงพยาบาลไม่กี่แห่ง มีโรงพยาบาลไม่ครบทุกเขต เขตนึงดูแลคนเป็นแสนๆ แต่ไม่มีโรงพยาบาล หลายเขตพึ่งพาโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย หรืออย่างโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลภูมิพล ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลของ กทม. การเจ็บป่วยไม่ได้มีเรื่องของการป้องกัน เรื่องโครงสร้างการดูแลปฐมภูมิ เรื่องของการควบคุมโรค การดูแลรักษาผู้ป่วยเชิงลึก โครงสร้างพื้นฐานของ กทม. ระบบบริการสุขภาพที่ผ่านมามีการลงทุนน้อยมาก มีการพัฒนาระบบน้อยมาก

โควิดทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า บ้านนอกอย่างน้อยเจ็บป่วยก็มีอนามัยดูแล สงสัยป่วยโควิดก็ได้ตรวจ swab ตรวจแล้วผลเป็นลบอีก 7 วันนัดมาตรวจใหม่ ต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน กทม. โดยสิ้นเชิง ประเด็นโครงสร้างระบบบริการสุขภาพของ กทม. ต้องการการลงทุนอย่างมาก ในอนาคตอันใกล้ต้องปรับระบบขนาดใหญ่ เราคาดหวังกับผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ซึ่งไม่รู้จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ อยากให้เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของผู้ว่าฯ เพราะถ้าไม่แก้ปัญหามันก็จะเรื้อรังระยะยาว ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทำงานหนักมากนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ทำงาน แต่เขาทำงานหนักภายใต้ข้อจำกัดโครงสร้างการทำงานที่เล็กมาก เจ้าหน้าที่น้อยมากทำงานไม่ไหว ดูแลไม่ไหว

-การกู้วิกฤตโควิด-19 สิ่งที่รัฐต้องดำเนินการจัดการโดยเร่งด่วนคืออะไร
เปิดจุดตรวจให้มากที่สุด เพิ่มจุดพักคอย จากการลงพื้นที่ของเราจุดที่เราลงตรวจให้ชาวบ้าน เราใช้วัด มัสยิดใช้ลานชุมชน ลานกลางแจ้ง กางเต้นท์ใต้ทางด่วน เป็นพื้นที่ที่มีชุมชนอำนวยความสะดวกได้ เราแทบไม่ได้ใช้โรงเรียน อาคารสถานที่ราชการ เรารู้สึกได้ว่าหน่วยราชที่ กทม. ยังไม่สามัคคี ไม่ทุ่มเท ทั้งๆ ที่หน่วยราชการมีเยอะมาก อาคารหน่วยราชการเยอะมาก ซึ่งโรงเรียนเป็นอาคารที่น่าสนใจมากที่สุด ถ้าเป็นในต่างจังหวัดโรงเรียนจะถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม เป็นศูนย์พักคอย แต่ใน กทม. ทรัพยากรที่มีไม่ถูกระดมมาใช้กู้ภัยโควิด กับประชาชนต้องเผชิญหน้าอยู่กับเหตุการณ์ด้วยตัวเอง โดยมีกระทรวงสาธารณสุข หรือ กทม. ทำงานกันเต็มที่แต่ก็ไม่ไหว เพราะว่าเป็นการทำงานภายใต้ทรัพยากรที่มีไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงระบบราชการที่มันแตกตัวมาก

-ชมรมแพทย์ชนบทเรียกร้องให้รัฐระงับการส่งออกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าหวังเพิ่มการฉีดวัคซีนให้คนไทยลดอัตราการเสียชีวิต
อัตราการติดเชื้อมันไกลเกินกว่าควบคุมการแพร่ระบาดด้วยวิธีมาตรฐาน ระบาดไปไกลมากแล้ว วิธีการควบคุมระบาดมีวิธีเดียวก็คือฉีดวัคซีนให้ถ้วนหน้า แต่ว่าวัคซีนที่เราได้มาน้อยมากในปัจจุบัน รัฐพูดเองว่าแอสตร้าฯ ได้เดือนละ 10 ล้านโส แต่เอาเข้าจริงได้เดือนละ 5 ล้านโดส ซึ่งมันไม่พอ ซิโนแวคก็เป็นวัคซีนที่ไม่มีใครอยากฉีด การระบาดแย่ลงมากไม่เฉพาะใน กทม. ตอนนี้เราระดมฉีดวัคซีนอย่างหนักใน กทม. แต่ต่างจังหวัดมีการฉีดน้อย ขาดแคลนวัคซีนด้วย

เราคิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศเรามีวัคซีนมากขึ้น ดูรัฐบาลก็ไม่มีความสามารถในการจัดหาวัคซีนได้ ได้รับบริจาคล็อตเล็กๆ เดือนละ 4 - 5 แสนโดส 1 ล้านโดส ก็ไม่พอ ฉะนั้น ช่องทางกฎหมายที่เราทำได้ตาม พ.ร.บ วัคซีนแห่งชาติ คือการจำกัดการส่งออก จัดการได้ตามกฎหมาย เป็นหนึ่งในข้อเสนอต่อรัฐครับ จริงๆ เรามีเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณวัคซีนในประเทศ ถ้ารัฐบาลสามารถใช้มาตรการอื่นจัดการวัคซีนด้วยวิธีการอื่นมาได้ เราก็ยินดีไม่ต้องมาใช้มาตรการทางกฎหมายเช่นนี้ แต่ถ้าหาไม่ได้เลยจริงๆ เราคิดว่านี่คือสิ่งที่จำเป็น มิเช่นนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศจะแย่มาก เปิดประเทศ 120 วันจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง อัตราการตายจะสูงขึ้น อัตราการแพร่ระบาดจะสูงขึ้น อัตราการแพร่ระบาดจะเพิ่ม 4 - 5 หมื่นคนต่อวัน วัคซีนคือคำตอบในการทำให้การแพร่ระบาดลดลง อัตราป่วย อัตราตายลดลง

-การบริหารวัคซีนเราพลาดตรงไหน ประเทศไทยถึงเดินมาถึงจุดนี้
อดีตสถานการณ์เราดีจริงนะ ผู้ติดเชื้อน้อย เราควบคุมการระบาดได้ดี ก็คงทำให้เราประมาทไปในเรื่องการจัดกาวัคซีน พอเราจองวัคซีนช้า ระบบราชการที่เทอะทะเต็มไปด้วยขั้นตอนทางกฎหมายมากมาย ยิ่งทำให้การจองวัคซีนช้า จ่ายเงินช้า ทุกอย่างช้าไปหมด วัคซีนธุรกิจไม่ใช่วัคซีนการกุศล แล้วเราเชื่อมั่นในสยามไบโอไซเอนซ์ว่าจะผลิตวัคซันได้มาก พอผลิตได้น้อยว่าที่ประมาณการณ์ไว้ก็ส่งผลให้มีวัคซีนไม่เพียงพอ ก็มีแต่ซิโนแวคที่เราซื้อได้ตลอด แต่ว่าผู้คนตั้งคำถามต่อซิโนแวคอย่างมาก ที่พลาดไปแล้วไม่เป็นไรนะ แก้ไขให้ได้ แก้ไม่ได้มันก็ไม่ไหว

-ประเด็น ร่าง พ.ร.ก. คุ้มครองบุคลากรสาธารสุข กับข้อครหานิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง คุณหมอมีความเห็นอย่างไร
มี 2 ประเด็นนะครับ โดยส่วนตัวเชื่อว่าความตั้งใจของผู้เสนอ พ.ร.ก. ฉบับนี้ ตั้งใจดูแลบุคลากรที่ฉีดวัคซีนถ้ามีปัญหาจะได้ไม่ต้องรับผิด แต่ว่าด้วยความไม่เชื่อมั่นของผู้คนต่อรัฐบาลรวมถึงความไม่ชัดเจนของเป้าหมายในการออก พ.ร.ก ฉบับนี้ ว่าจริงๆ แล้วควรจะเอาแค่ผู้ปฏิบัติก็เลยทำให้มีความสับสน ผมว่าเริ่มต้นง่ายที่สุดคือการรับฟังเสียงให้กว้างขวางแล้วทำให้เรื่องนี้มันโปร่งใส ไม่ควรเป็นเหมาเข่ง ให้เวลากระทรวงฯ พิจารณา ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง



-จะมีปฏิบัติแพทย์ชนบทบุกกรุง ครั้งที่ 4 หรือไม่
ไม่แน่ครับ เราอยากเห็น กทม. รวมมือจัดการตัวเองให้ได้ เราไม่ได้ต้องบุกกรุงเทพฯ เราจะอยู่ต่างจังหวัด โมเดลตรวจเชิงรุกของแพทย์ชนบทใช้ได้ทั่วประเทศไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะ กทม. อย่าง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเริ่มมีการนำโมเดลไปใช้แล้ว

-ทราบว่าทีมแพทย์ชนบทกว่า 400 คนที่ร่วมปฏิบัติการในกรุงเทพฯ มากันโดยความสมัครใจ ทุกคนฉีดวัคซีนกันครบแล้วใช่ไหม
อัตราการติดเชื้อในกรุงเทพฯ ลงพื้นที่ชุมชนแออัดสูงมาก ทีมที่ลงพื้นที่จะฉีดเข็ม 3 มาเลย ส่วนใหญ่ ซิโนแวค 2 เข็ม แอสตร้าฯ เข็ม 3 ถ้วนหน้า เพราะไฟเซอร์มาช้ามาไม่ทันเราบุกกรุง เรามากันด้วยความสมัครใจ

- ปฏิบัติงานด่านหน้ามีความเสี่ยงสูง ทีมแพทย์ฯ มีความรู้สึกหวาดกลัวบ้างไหม
ทั้งตัวผมเองและทุกคนที่มากลัวติดโควิดหมดเลยนะ แต่เราก็เป็นเหมือนทหาร ถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะทำ เราก็ได้วัคซีนเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 มากกว่าประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้รับวัคซีนสักเข็ม ทีมที่มาฉีดแอสตร้าฯ เข็ม 3 ให้กับตัวเองก่อนเดินทางมา กทม. เรามีชุด PPE หน้ากาก N95 มีองค์ความรู้มากกว่าใคร เราแต่งตัวได้รัดกุมมากในการปฎิบัติงานเมื่อเทียบกับภาคประชาชนที่มาช่วยงานเรา พวกเขาน่าเป็นห่วงกว่าเราเยอะ เขามาช่วยเราเรียกคิวมาช่วยลงทะเบียน การแต่งกายรัดกุมน้อยมากอุปกรณ์ก็ขาดแคลน เรามีความเสี่ยงติดโควิดจริง แต่จริงๆ เราเสี่ยงน้อย

ปฎิบัติการบุกกรุงครั้งที่ 2 มีพยาบาลจังหวัดน่าน ติดโควิด จาก 120 คน ปฎิบัติการบุกกรุง ครั้งที่ 3 ก่อนกลับเราตรวจมีคนติดแล้ว 1 คน ยังต้องติดตามกันว่าพวกเราจะติดโควิดกันกี่คน แต่ถึงติดโควิดก็ไม่เป็นไร เพราะเราเป็นบุคลากรการแพทย์ เรามียาฟาวิพิราเวียร์ โรงพยาบาลเราก็มีเตียง เราเป็นชนชั้นสูงในสายสุขภาพ เราเข้าถึงบริการอยู่แล้ว ติดโควิดก็กักตัวรักษาไม่ใช่ปัญหา เราไม่ใช่ชาวบ้านคนด้อยโอกาสเข้าไม่ถึงบริการ เราไม่ได้ลำบาก แต่เราก็ตรวจตัวเองเพื่อให้เรารู้ให้ไม่ติดคนอื่นในครอบครัว เรามีวินัยในการปฏิบัติงาน เราป้องกันตัวเองดีมีโอกาสติดโควิดน้อยมาก

ผมชื่นชมทีมงานที่มามากเลยนะ มากันตั้ง 40 ทีม 400 คน มันสะท้อนถึงจิตวิญญาณอุดมคติที่มันยังมีอยู่ในตัวบุคลากรสุขภาพ ใครไหวก็มา โรงพยาบาลไหนไหวก็มา ครูบาอาจารย์สอนให้เราทำงานเพื่อชาวบ้าน เพื่อผู้คน จิตวิญญาณยังมีอยู่ซ่อนอยู่ถึงเวลาวิกฤตมีคนอาสามา
#3205


รัสเซลล์ เฮนลีย์ นักกอล์ฟมือ 56 ของโลกชาวอเมริกัน รักษาเก้าอี้ผู้นำศึก วินด์แฮม แชมเปียนชิพ อย่างเหนียวแน่นด้วยสกอร์ 14 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ กิรเดช อภิบาลรัตน์ หนึ่งเดียวจากเมืองไทย ผ่านตัดตัวเข้าไปลุยต่อจนจบ

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ วินด์แฮม แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 212 ล้านบาท) ณ สนาม เซดเกฟิลด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,127 หลา พาร์ 70 สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา เข้าสู่การดวลสวิงวันที่สอง

ปรากฏว่า รัสเซลล์ เฮนลีย์ สวิงชาวอเมริกัน ยังเกาะตำแหน่งผู้นำต่อ หลังออกไปตีเพิ่มอีก 6 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 14 อันเดอร์พาร์ เหนือกว่า รอรี ซับบาตินี, เว็บบ์ ซิมป์สัน, สกอตต์ เพียร์ซี อันดับ 2 ร่วมทั้ง 3 คนอยู่ 4 สโตรก

ด้านสวิงมือดังคนอื่นๆ จัสติน โรส จอมเก๋าชาวอังกฤษ เก็บได้อีก 5 อันเดอร์ สกอร์ขยับเป็น 9 อันเดอร์พาร์ ขึ้นมาที่ 5 ร่วม ตามด้วย ทอมมี ฟลีตวูด ขวัญใจชาวเมืองผู้ดี สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 23 ร่วม

ส่วนฝั่งของ "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ หนึ่งเดียวจากไทย รอบนี้ตี 3 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี จบวันได้มา 2 อันเดอร์ สกอร์เพิ่มเป็น 6 อันเดอร์พาร์ อยู่อันดับ 23 ร่วม ได้เชียร์กันต่อในอีกสองวันที่เหลือจากนี้
#3206


นายสันติสุข  โฆษิอาภานันท์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC ผู้นำธุรกิจให้บริการการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า จากการประเมินภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน พบว่า SONIC หวยออนไลน์  มีรายได้รวมเติบโตเกินเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็นเติบโต 60%จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 20% 

สำหรับผลประกอบการของบริษัทใน 6 เดือนแรก  สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2564  บริษัทมีกำไรสุทธิ  82.54 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 312.91% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19.99 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 525.60 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 ที่มีกำไรสุทธิ  6.68 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 2.55% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 ที่มีกำไรสุทธิ 40.75 ล้านบาท

ขณะที่มีรายได้รวม 1,279.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114.41 %  เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63  เท่ากับ 136.19 %  และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 / 64  เท่ากับ 11.59%  


ทั้งนี้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการขนส่งทางเรือ 997.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน  161.55%  โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 เท่ากับ  189.97 %  และเพิ่มจากไตรมาส 1 ปี 64 เท่ากับ  14.11%   

รายได้จากบริการขนส่งทางบก 218.17 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 24.11% โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63  เท่ากับ  32.78 %  และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 /64  เท่ากับ  3.63% 

รายได้จากบริการขนส่งทางอากาศ 57.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 68.03% โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 เท่ากับ  69.07 % และลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ปี 64  เท่ากับ 3.83%    รายได้จากการให้บริการอื่นๆ 6.32 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.25 % โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63  เท่ากับ 96.06 %  และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 64  เท่ากับ 70.09%  

นายสันติสุข กล่าวต่อว่า  ผลประกอบการของบริษัท 6 เดือนแรก ของปี 64 เป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้  มีเติบโตอย่างก้าวกระโดดและโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้   แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ที่รุนแรงขึ้น แต่การให้บริการด้านขนส่งของบริษัทไม่ได้มีปัญหา  เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้บริการขนส่งสินค้าของลูกค้า  ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในระลอกแรก  และได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าของลูกค้า จึงทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าเดิมและจากกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่มีเพิ่มมากขึ้น 


"SONIC ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบริการขนส่งของเราไม่มีปัญหา  ลูกค้ายังให้ความเชื่อมั่นคุณภาพการให้บริการของ SONIC ลูกค้าเก่ายังเหนียวแน่น ขณะที่ลูกค้าใหม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เราลุยขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ" นายสันติสุข กล่าว  

โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ยังมาจากการให้บริการขนส่งทางทะเล ที่มีสัดส่วนรายได้ถึง  78 %  การบริการขนส่งทางบก  17 % การบริการทางอากาศ 4.5 % และสัดส่วนรายได้อื่น ๆ อีก 0.5%  นอกจากนี้ในไตรมาส 2/64 บริษัท ยังมีรายได้ดอกเบี้ยจากการให้เช่าซื้อรถหัวลาก 1.52  ล้านบาท จากไตรมาส 1 ปี 64 มีรายได้  0.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 94.87%

นอกจากนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64  ได้มีมติอนุมัติการลงทุนเพื่อขยายพื้นที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์   โดยลงทุนในที่ดินเพิ่มจำนวน  33 ไร่  ซึ่งเป็นที่ดินที่ติดกับแปลงเดิมใน อำเภอศรีราชา  จังหวัดชลบุรี  
#3207


แทบไม่น่าเชื่อว่า ปั๊มน้ำยักษ์ฝังอยู่ใต้ดินลึก ณ โรงงานแห่งหนึ่งในสิงคโปร์จะช่วยเปลี่ยนน้ำเสียเป็นสะอาดถึงขนาดมนุษย์ดื่มได้ พร้อมๆ กับช่วยลดมลพิษในทะเล 

เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศเกาะเล็กๆ แห่งนี้มีทรัพยากรน้ำจากธรรมชาติเพียงน้อยนิด จำต้องพึ่งพาน้ำจากเพื่อนบ้านมาเลเซียมาอย่างยาวนาน แต่เพื่อเพิ่มการพึ่งพาตนเอง รัฐบาลสิงคโปร์พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียทันสมัยที่ต้องใช้เครือข่ายอุโมงค์และโรงบำบัดไฮเทค

ขณะนี้น้ำเสียผ่านการบำบัดแล้วสามารถตอบสนองความต้องการน้ำของสิงคโปร์ได้ถึง 40% คาดว่าตัวเลขจะเพิ่มเป็น 55% ภายในปี 2603

แม้น้ำเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ไปเพื่อวัตถุประสงค์ด้านอุตสาหกรรม แต่บางส่วนก็ป้อนให้กับอ่างเก็บน้ำเพื่อจัดทำน้ำดื่มในประเทศที่มีประชากร 5.7 ล้านคน และระบบนี้ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษลงทะเลเนื่องจากน้ำผ่านการบำบัดแล้วที่ถูกปล่อยทิ้งลงทะเลมีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ช่างตรงข้ามกับประเทศส่วนใหญ่ สหประชาชาติประเมินว่า 80% ของน้ำเสียทั่วโลกไหลลงสู่ระบบนิเวศโดยปราศจากการบำบัดหรือนำไปใช้ซ้ำ

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

"สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ พื้นที่ก็มีจำกัด นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงมักหาทางสำรวจทรัพยากรน้ำและขยายแห่งน้ำสำรองอยู่เสมอ" โลว์ เป้ย จิน หัวหน้าวิศวกรแผนกปรับปรุงน้ำ คณะกรรมาการสาธารณูปโภคกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุ ยุทธศาสตร์หนึ่งคือ "เก็บน้ำทุกหยด แล้วนำมาใช้ใหม่ไม่จบไม่สิ้น"

การนำน้ำบำบัดแล้วมาใช้ซ้ำเป็นการเพิ่มเติมจากยุทธศาสตร์หลักในการจัดหาน้ำของประเทศ นั่นคือการนำเข้าน้ำ ใช้อ่างเก็บน้ำ และนำน้ำทะเลมาทำน้ำจืด

หัวใจของระบบรีไซเคิลน้ำอยู่ที่โรงหมุนเวียนน้ำชางงีที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ หลายส่วนของโรงงานตั้งอยู่ใต้ดินเพราะสิงคโปร์หาที่ดินยาก บางแห่งลึกเท่าตึก 25 ชั้น รับน้ำเสียจากอุโมงค์ขนาดใหญ่มหึมายาว 48 กิโลเมตรที่เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำ

ในอาคารหลังหนึ่งมีการติดตั้งระบบระบายอากาศเพื่อให้อากาศสดชื่น แต่กลิ่นเหม็นยังคงอบอวล

รงงานแห่งนี้ประกอบด้วยท่อเหล็ก ท่อพลาสติก ถัง ระบบกรองน้ำ และเครื่องจักรอื่นๆ จำนวนมาก สามารถบำบัดน้ำเสียได้มากถึงวันละ 900 ล้านลิตร มากพอเติมสระว่ายน้ำขนาดแข่งโอลิมปิกตลอด 24 ชั่วโมงได้นาน 1 ปี

น้ำเสียเมื่อเข้ามาถึงโรงงานจะต้องผ่านกระบวนการกรองเบื้องต้น จากนั้นปั๊มพลังแรงส่งน้ำเข้าไปยังโรงงานเหนือพื้นดินเพื่อบำบัดขั้นต่อไปทำให้น้ำสะอาดยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งสกปรกอย่างเชื้อแบคทีเรียและไวรัสถูกขจัดออกไปด้วยกระบวนการกรองขั้นสูง แล้วฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตราไวโอเล็ต

ผลผลิตสุดท้ายที่ชื่อว่า "เอ็นอีวอเตอร์" ส่วนใหญ่นำไปใช้ในโรงงานผลิตไมโครชิพ ซึ่งมีอยู่มากมายในสิงคโปร์และต้องการน้ำคุณภาพสูง นอกจากนี้เอ็นอีวอเตอร์ยังใช้สำหรับระบบทำความเย็นในอาคาร รวมถึงช่วยเพิ่มปริมาณน้ำดื่มสำรอง ระหว่างฤดูแล้งน้ำเหล่านี้จะถูกส่งไปเติมอ่างเก็บน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นหลายแห่ง เมื่อผ่านการบำบัดเพิ่มเติมแล้วก็ส่งเข้าสู่ระบบประปาให้ประชาชน

ขณะนี้สิงคโปร์กำลังขยายระบบรีไซเคิล เตรียมเพิ่มอุโมงค์ใต้ดินพิเศษและโรงงานหมุนเวียนน้ำใหญ่อีกหนึ่งแห่ง รองรับส่วนตะวันตกของเกาะที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2568 โดยต้องใช้งบประมาณปรับปรุงระบบบำบัดน้ำ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่สิงคโปร์ต้องพึ่งตัวเองในเรื่องนี้คือการเคยมีเรื่องบาดหมางกับแหล่งน้ำหลักอย่างมาเลเซียมาแล้วเมื่อครั้งอดีต

ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านสองประเทศดุเดือดมาตั้งแต่มาเลเซียขับสิงคโปร์ออกจากสหพันรัฐมลายาในปี 2508 ทั้งๆ ที่เพิ่งรวมตัวกันมาได้ไม่นาน และมีข้อพิพาทเรื่องน้ำกันบ่อยครั้ง

สเตฟาน เวิร์ตซ อาจารย์ด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยางของสิงคโปร์ ย้ำถึงความสำคัญที่ประเทศอื่นต้องบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วต้องเจอผลกระทบระยะยาว

"น้ำบนโลกนี้มีจำกัด ถ้าเราทำให้น้ำจืดบนโลกนี้ปนเปื้อน วันใดวันหนึ่งอาจไปถึงจุดที่การบำบัดน้ำต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงมหาศาล" นักวิชาการรายนี้กล่าวอย่างกังวลถึงอนาคต
#3208


ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย ที่มีนายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน กรณีเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) 3 คน ที่อคส.ได้แจ้งข้อกล่าวหาจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น ได้พิจารณาความผิดทางวินัยเสร็จแล้ว หลังจากใช้เวลานานถึง 5 เดือน โดยชี้ว่า ทั้ง 3 คน มีความผิดวินัยร้ายแรง และได้ออกหนังสือลงวันที่ 30 ก.ค.64 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน หรือภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้

โดยหลังจากครบกำหนดแล้ว คณะกรรมการ จะสรุปการรับทราบข้อกล่าวหา และเสนอความเห็นเรื่องการลงโทษไปให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการอคส.พิจารณาลงโทษตามที่เสนอ คาดว่า น่าจะลงโทษสถานเดียว คือ ไล่ออกส่งผลให้ทั้ง 3 คนไม่ได้รับเงินบำเน็จ หรือบำนาญใดๆ นอกจากนี้ อคส.จะฟ้องร้องเรียกเงินเดือนกลับจากทั้ง 3 คนนับตั้งแต่ที่ความผิดเกิดขึ้น หรือตั้งแต่เดือนส.ค.63 เป็นต้นมา

สำหรับทั้ง 3 รายที่ถูกสอบวินัยร้ายแรง ได้แก่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการอคส. มีอัตราเงินเดือนกว่า 80,000 บาทและเจ้าหน้าที่บริหาร ระดับ 8 คือ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ เงินเดือนกว่า 30,000 บาท และนายมูรธาธร คำบุศย์เงินเดือนกว่า 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม จนถึงวันที่ 10 ส.ค.64 มีเพียงนายเกียรติขจร คนเดียวที่รับทราบข้อกล่าว และให้การปฏิเสธ ยืนยันว่า ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บริหาร 1 ในคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส.

ส่วนการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่มีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานนั้น ล่าสุด ได้ทยอยเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำแล้ว คาดว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จ และทำคำวินิจฉัยได้อย่างช้าไม่เกินกลางเดือนก.ย.64 เพื่อเสนอต่อผู้อำนวยการอคส. จากนั้นอคส. จะเสนอคำวินิจฉัยไปให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง

หากมีความเห็นตรงกัน อคส.จะออกคำบังคับ แจ้งให้เจ้าหน้าที่อคส. รวมถึงกรรมการในบอร์ดอคส.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ชดใช้ความเสียหายให้อคส. เบื้องต้นราว 2,000 ล้านบาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่หากไม่ชดใช้ให้ อคส.สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครอง หรือถ้าไม่มีเงินชดใช้ ต้องบังคับคดีและยึดทรัพย์

           
ทั้งนี้ คาดว่า ผู้ที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อคส.นอกจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย และ 1 ในบอร์ดอคส.ที่เป็นผู้สั่งการแล้ว ยังจะมีเจ้าหน้าที่อคส.รายอื่นอีก เช่น เจ้าหน้าที่การเงิน ที่ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการทุจริต แต่มีความประมาทเลินเล่อในหน้าที่จนทำให้อคส.เสียหาย รวมถึงกรรมการในบอร์ดอคส.ชุดปัจจุบันทุกคน ที่อาจทราบเรื่องการจัดซื้อถุงมือยาง และมีอำนาจ หน้าที่ควบคุมแลกิจการของอคส. ตามมาตรา 17 พระราชกษฎีกาจัดตั้งอคส.พ.ษ.2498 แต่กลับไม่ยับยั้ง หรือไม่สั่งการให้พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ รายงานบอร์ด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อถึงการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า หลังจากป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งหมดได้ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา และแก้ข้อกล่าวหา คาดว่า ป.ป.ช.จะสรุปผลการไต่วน และชี้มูลความผิดได้ในเร็วๆ นี้ ก่อนส่งให้อัยการส่งฟ้องดำเนินคดีอาญา ขณะเดียวกันสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) จะดำเนินคดีแพ่ง และยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหายให้อคส.
#3209


"ดีแทค" สนับสนุน 2,000 ซิมพร้อมแพ็กเก็จเน็ตอันลิมิเต็ดความเร็ว 4 Mbps แก่กลุ่มเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ ของ กสศ. นำร่องในเขตกรุงเทพฯ สำหรับการเรียนออนไลน์เป็นการเร่งด่วนลดอุปสรรคการเรียนรู้ เตรียมพร้อมหาทางออกระยะยาวในยุคเรียนออนไลน์ มุ่งสู่เป้าหมายความเท่าเทียมทางดิจิทัล (Digital inclusion) ขณะที่ กสศ.เผยพบเด็กเจอปัญหาระหว่างเรียนมากกว่า 2.7 แสนคน ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ย้ำสัญญาณอินเทอร์เน็ตคือโอกาสทางการเรียนรู้ และลดการปิดกั้นแม้เกิดสถานการณ์โควิด-19

ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลกระทบทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจสังคมไทยในวงกว้าง ทำให้ผู้ปกครองนักเรียนครัวเรือนยากจนพิเศษจำนวนมากมีภาวะยากจนเฉียบพลันจากปัญหาการว่างงานและมีรายได้ลดลงสวนทางกับรายจ่าย รวมทั้งมีสมาชิกในครอบครัวที่ย้ายกลับภูมิลำเนาให้ต้องดูแลมากขึ้น จากข้อมูลพบว่ารายได้เฉลี่ยครัวเรือนของนักเรียนยากจนพิเศษหรือนักเรียนทุนเสมอภาคมีอัตราลดลง 11% ระหว่างปีการศึกษา 2562-2563 อยู่ที่ 1,021 บาท/เดือน หรือประมาณ 34 บาท/วัน เท่านั้นในปีการศึกษา 2/2563 ซึ่งการระบาดของโควิด-19 จากการประเมินของคณะผู้วิจัยจากเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่าการระบาดระลอกล่าสุดในปัจจุบันมีแนวโน้มส่งผลให้มีจำนวนนักเรียนยากจนพิเศษเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ในปีการศึกษา 2564 นี้ อันเนื่องมาจากภาวะยากจนเฉียบพลันที่เกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของ COVID-19

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงและยืดเยื้อยาวนาน ส่งผลต่อผู้ปกครองโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ทำให้เด็กในครอบครัวเข้าถึงระบบการศึกษาได้ยากขึ้น จนทำให้เด็กนักเรียนมีความเสี่ยงที่จะออกจากระบบการศึกษาถึงราว 700,000 คน (ข้อมูลโดย กสศ.)

"ดีแทคเชื่อว่าการศึกษาถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับทุกคนในสังคมและจะต้องไม่มีเด็กคนใดถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เทคโนโลยีการสื่อสารจะต้องทำหน้าที่ให้เด็กนักเรียนได้เข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีข้อจำกัดด้านต้นทุน พันธกิจสำคัญประการหนึ่งของดีแทคคือการสร้างสังคมดิจิทัลที่เท่าเทียมและทั่วถึง สอดคล้องกับกลยุทธ์ digital inclusion ภายใต้นโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ดีแทคยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนพันธกิจของ กสศ. ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ทุกภาคส่วนของสังคมจำเป็นต้องร่วมมือกันประคับประคอง เพื่อให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ไปให้ได้" นายชารัด กล่าว

ดร.ไกรยส กล่าวเพิ่มเติมว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสมอภาคของเด็กเยาวชนทุกคนในช่วงเวลานี้คือโอกาสสำคัญที่จะทำให้การศึกษาจะไปถึงเด็กทุกคนได้ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ป้องกันปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ และแสดงให้เห็นว่าความห่างไกลไม่ใช่อุปสรรคหากอินเทอร์เน็ตเข้าไปถึงทุกพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาของเด็กทุกคนได้อย่างเสมอภาค ดังนั้นมาตรการอินเทอร์เน็ตฟรีจึงถือเป็นหลักประกันสังคมที่สำคัญ นอกเหนือจากความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ สัญญาณอินเทอร์เน็ตยังช่วยเปิดประตูแห่งการเรียนรู้ การติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ที่การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ และการช่วยเหลือในภาวะวิกฤตฉุกเฉินเป็นเรื่องที่สำคัญต่อชีวิต รัฐเองไม่สามารถทำงานเพียงลำพังได้ เอกชนจึงมีส่วนสำคัญในการหนุนเสริมและช่วยสร้างโอกาสทางการศึกษาและลดความเหลื่อมล้ำไม่ให้ขยายห่างมากขึ้นให้กับเด็กๆ ของเราทุกคน โครงการนี้เรายังได้รับการสนับสนุนจาก StartDee แอปพลิเคชัน ให้น้องๆ ทั้ง 2,000 คนสามารถเข้าถึงบทเรียนผ่านแอปพลิเคชันฟรีภายใต้โครงการ "Free School-in-a-Box"

นายชารัด กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาดีแทคได้พัฒนาแพ็กเก็จเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักเรียนภายใต้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กับ โปรเสริม Happy Work & Learn สำหรับใช้งานไม่อั้นบนแอป Microsoft 365, Zoom, WebEx, Shopee ที่ความเร็ว 10 Mbps และเน็ตเต็มสปีด 1GB ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้สอดคล้องกับการใช้งานและสถานการณ์ที่ต้องทำงานหรือเรียนหนังสือที่บ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

นอกจากนี้ ดีแทคยังได้ร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. มอบแพ็กเกจเรียนออนไลน์ฟรี โดยสามารถใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อการเรียนการสอนอย่าง MS Teams, Zoom, Google Meet, WebEx และ Line Chat ได้ไม่จำกัด พร้อมเน็ตเต็มสปีด 2 GB ต่อเดือนเพื่อใช้งานนาน 2 เดือน โดยนักเรียนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิโดยแจ้งเบอร์ดีแทคผ่านโรงเรียน โดยแพ็กเกจจะเริ่มใช้งานได้หลังวันที่ 15 สิงหาคม นี้
#3210


นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) (KEX) เปิดเผยว่า บริษัท ร่วมกับ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ในการพัฒนากระเป๋าเงินออนไลน์ "KERRY Wallet" เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าที่ใช้บริการธุรกิจโลจิสติกส์ รวมถึงลูกค้าที่ใช้บริการอีคอมเมิร์ซผ่านเคอรี่ โดยคาดว่าจะพร้อมให้บริการลูกค้าภายในไตรมาส 4 ปี 2564 

นอกจากนี้ บริษัทและ SABUY ยังร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมต่อพาร์ทเนอร์และ Wallet ต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายสูงสุด

"แพลตฟอร์มที่บริษัท กำลังพัฒนา ไม่เพียงเป็นช่องทางการชำระเงิน แต่จะเปรียบเสมือนตู้คอนเทนเนอร์ตู้หนึ่งที่บรรจุผู้เล่นและ Wallet ในตลาดเอาไว้ในที่เดียว เพื่อเวลาลูกค้าใช้งานสามารถทำครบจบในที่เดียวได้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอ"


ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดการณ์ฐานลูกค้าที่ใช้บริการเคอรี่อย่างต่อเนื่องเดือนละ 10 ล้านราย หันมาใช้จ่ายผ่าน Wallet มากขึ้น จากปัจจุบันกว่า 90% ของธุรกรรมลูกค้าเป็นการใช้จ่ายด้วยเงินสด โดยเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) รวมถึงตั้งเป้าหมายดึงดูดลูกค้าที่ไม่ได้ใช้บริการอีคอมเมิร์ซให้มาใช้บริการด้วยเช่นกัน ผ่านการทำโปรโมชั่นในช่วงเปิดตัวสำหรับพันธมิตร

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY กล่าวว่า การพัฒนา KERRY Wallet ในครั้งนี้จะรองรับแหล่งที่มาของเงินทั้งบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต รวมถึง Wallet สกุลต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรอย่าง Rabbit LINE PAY ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทของ บมจ.วีจีไอ (VGI) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KEX และ SABUY Money ของกลุ่ม SABUY ซึ่งลูกค้าบนแพลตฟอร์มสามารถเลือกใช้ Wallet ใดก็ได้ตามที่ต้องการ โดยตั้งเป้าหมายผู้ใช้งานในระยะยาวแตะ 50 ล้านบัญชี หรือมีการทำรายการ 50 ล้านรายการต่อเดือน

ทั้งนี้ ในระยะถัดไปบริษัทตั้งเป้าหมายขยายพันธมิตรเข้ามาให้บริการลูกค้าบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อโอนเงินระหว่างกระเป๋ากับ True Money Wallet ของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ซึ่งคาดว่าจะเป็นรายแรกในไทยที่ทำได้สำเร็จ
#3211

รับเขียนบทความ+พร้อมรูป รองรับ SEO พร้อมลงโพสต์ได้ทันที ราคาถูก คุณภาพงานดี
ขอนำเสนอ บริการ รับเขียนบทความสาระความรู้พร้อมรูป เพื่อลงเว็บไซต์, แฟนเพจและเพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยเรารับเขียนบทความสาระความรู้ทั่วไปพร้อมจัดรูปประกอบเนื้อหา เนื่องจากปัจจุบันนี้การนำเสนอคอนเทนต์ผ่านสื่อออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Website, Faceebok, Instagram, etc... หากต้องการได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นจะต้องอาศัยรูปประกอบเพื่อดึงดูดให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกอยากรู้และติดตามเนื้อหานั้น ๆ

หากต้องการคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนในยุคโซเชียลมีเดีย บริการจัดทำบทความสาระความรู้พร้อมรูปจึงถือว่ามีความสำคัญกับผู้ที่กำลังสร้างคอนเทนต์เเพื่อเพิ่มยอดขาย เพิ่มผู้ติดตาม หรือเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์

ติดต่อ อนุรักษ์ เพื่อรับรับส่วนลดพิเศษ
Line @anurak
https://lin.ee/8rBj2rJ
https://lin.ee/8rBj2rJ
https://lin.ee/8rBj2rJ

อัตราค่าบริการ
เขียนบทความ จำนวน 500 คำ+รูปภาพ พร้อมนำไปโพส บทความละ 600 บาท
(จาก ปกติ 1,000 บาท)
แบบโพสต์ทุกวัน วันละ 1 บทความ (30 วัน 30 บทความ) 15,300 บาท (ลดไปอีก 15%)


เขียนบทความ จำนวน 1,000 คำ+รูปภาพ พร้อมนำไปโพส บทความละ 900 บาท
(จาก ปกติ 1500 บาท)

แบบโพสต์ทุกวัน วันละ 1 บทความ (30 วัน 30 บทความ) 21,600 บาท (ลดไปอีก 20%)

เพิ่มเติม
https://zmartdigit.com/blog/listing/copywriter600/

จ้างเขียน, จ้างเขียนโพส, ต้องการ จ้างเขียนบทความ, ราคา บทความ, เขียนคอนเทนต์ การทำงาน, เขียนคอนเทนต์ การเงิน, เขียนคอนเทนต์ การเรียน, เขียนคอนเทนต์ ความงาม, เขียนคอนเทนต์ ดูดวง, เขียนคอนเทนต์ ลดความอ้วน, เขียนคอนเทนต์ สมัครงาน, เขียนคอนเทนต์ อาหารเสริม, เขียนคอนเทนต์ เทคโนโลยี, เขียนคอนเทนต์ เรื่องแปลก, เขียนบทความรีวิวสินค้า, เขียนบทความสุขภาพ
 
#3212


รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.รับทราบรายงานผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 พร้อมอนุมัติจ่ายเงินชดเชยให้ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก 103 ราย รายละ20,000 บาท

วันนี้ (10 ส.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานผลการดำเนินงานมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประกอบด้วย

1. มาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) และลูกหนี้รายย่อยด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม รวมทั้งสถาบันการเงิน ได้ดำเนินมาตรการแบ่งเบาภาระหนี้สินโดยพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน ให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง เริ่มตั้งแต่งวดชำระหนี้เดือนกรกฎาคม หรือสิงหาคม 2564 แล้วแต่กรณี และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการพักชำระหนี้แล้วจะไม่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมที่ค้างอยู่ในทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักกับลูกหนี้

นอกจากนี้ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ที่ยังเปิดกิจการได้ แต่มีรายได้ลดลงจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของภาครัฐตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกหนี้เป็นกรณีไป

อย่างไรก็ตาม การดำเนินมาตรการพักชำระหนี้ดังกล่าวอาจจะกระทบต่อฐานะ และผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมทั้งตัวชี้วัดทางการเงินที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ผูกพันไว้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ จึงได้มอบหมายให้สคร.พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจแล้ว

2. มาตรการควบคุมการทวงถามหนี้ที่ดำเนินการไม่เป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ ร่างประกาศคณะกรรมการกำกับติดตามทวงถามหนี้ เรื่อง การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ และมอบหมายฝ่ายเลขานุการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ กรณีประชาชนพบผู้ทวงถามหนี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สามารถร้องเรียนไปยังคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ประจำจังหวัด และประจำกรุงเทพมหานครได้

น.ส.ไตรศุลี ยังกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมชลประทาน จ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการของรัฐ กรณีโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง จากการเข้าทำประโยชน์ในแปลงจัดสรรที่ดินไม่ได้จำนวน 103 ราย ในอัตรารายละ 20,000 บาท ในส่วนของอัตรดอกเบี้ยให้เริ่มนับตั้งแต่วั นถัดจากที่ราษฎรร้องเรียนเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินค่าชดเชยเสร็จ

ทั้งนี้ เพื่อให้การจ่ายเงินเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และป้องกันไม่ให้บุคคล หรือกลุ่มบุคคลแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากราษฎร ครม. จึงเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงินจำนวน14 ราย โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานกรรมการ

ให้มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบบุคคลผู้มีสิทธิจำนวน 103 ราย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ รวมทั้งกำกับดูแลการจ่ายเงินค่าชดเชยให้เป็นไปอย่างถูกต้องเรียบร้อย

สำหรับการจ่ายเงินจะใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร (จ่ายตรง) ตามบัญชีรายชื่อบุคคลที่ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการฯ หรือทายาทของบุคคลดังกล่าว และให้ระบุในหลักฐานการรับเงินด้วยว่า "ข้าพเจ้ายินยอมรับเงินค่าชดเชยในครั้งนี้ และจะไม่มาเรียกร้องหรือขอรับความช่วยเหลือใดๆในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก อันเนื่องมากจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง จากทางราชการอีก"

สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงมอก อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ดำเนินการก่อสร้างระหว่างปี 2534-2543
#3213


"เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ยอดนักกีฬาเทควันโด ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกของไทยคนล่าสุด เข้ารับการประดับเครื่องหมายยศ ร.ต. อย่างเป็นทางการ ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา

โดย 'บิ๊กแอร์บูล'พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศร.ต. ให้แก่ ว่าที่ ร.ต.หญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ 'น้องเทนนิส' เพื่อเป็นเกียรติและขวัญกำลังใจ ที่ได้รับเหรียญทองจากกีฬาเทควันโด ในโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

'น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รู้สึกเป็นปลื้มที่ได้รับการแต่งยศในครั้งนี้ โดยโพสต์ขอบคุณกองทัพอากาศ ที่ได้ให้โอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา

"ดิฉันเรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ขอขอบพระคุณกองทัพอากาศ ผู้บังคับบัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก แอร์บูล สุทธิวรรณ , รองผู้บัญชาการทหารอากาศทุกท่าน,ผู้บังคับบัญชาทุกๆท่าน และกรมสวัสดิการทหารอากาศ ที่ให้โอกาสหนูได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอากาศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ~ เป็นหมวดนิสแล้วนะคะทุกคน" เทนนิส กล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
 
#3214


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ดิ่งลง 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.66 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.04 ดอลลาร์/บาร์เรล


ทั้งนี้ รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ระบุว่า ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลเสียต่อสภาพภูมิอากาศไปอีกหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีข้างหน้า

นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหิน รวมทั้งพลังงานอื่นๆที่ปล่อยมลพิษในระดับสูงโดยทันที


"รายงานนี้เป็นการส่งสัญญาณให้ยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินก่อนที่พวกมันจะทำลายโลกของเรา" นายกูเตอร์เรสกล่าวในแถลงการณ์

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งการที่สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายจังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่จีนออกมาตรการคุมเข้มในหลายเมือง รวมทั้งยกเลิกเที่ยวบิน และการขนส่งในภาคสาธารณะ

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล
#3215


"กระบวนกร" จะทำหน้าที่เสมือนไกด์ โค้ช พี่เลี้ยง หรือเพื่อนร่วมทางให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ในการคอยช่วยสร้างเสริมความเข้าใจเนื้อหาและกระตุ้นไอเดีย ให้คุณครูพัฒนาหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ และการสอน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพทางความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ โดยโครงการมีโจทย์ตั้งต้นในหัวข้อนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าจากขยะ

ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้เนื้อหาสาระเกี่ยวกับขยะตั้งแต่ต้นทางจนเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน ด้วยกระบวนการเรียนรู้ที่ผสมผสานสาระเชิงลึกกับเครื่องมือการเรียนรู้สมัยใหม่ที่สร้างความสนุกและเข้าใจง่าย ถ่ายทอดไปสู่เยาวชนให้เกิดการตกตะกอนทางความคิดเพื่อต่อยอดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าจากขยะสู่สังคม

ดังนั้นบทบาทกระบวนกรจึงเป็นการเปิดกรอบการเรียนรู้แนวใหม่ของวงการศึกษาไทย ที่จะไม่เป็นเพียงการเรียนรู้ทฤษฎีแล้วจบในห้องเรียน แต่เป็นการจุดประกายให้เกิดการต่อยอดองค์ความรู้ ซึ่งสามารถนำไปช่วยแก้ปัญหาเชิงกระบวนการและประเด็นทางสังคมได้จริง ดังเช่น ปัญหาการจัดการขยะ ที่ถ้าหากจัดการอย่างถูกวิธีก็สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ โดยเหล่ากระบวนกรมีแนวคิดการจุดประกายกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างประโยชน์ต่อการศึกษา สังคมและโลกใบนี้อย่างไร บทสัมภาษณ์นี้จะพาไปทำความรู้จักเหล่ากระบวนกรในโครงการกัน  

นักออกแบบกระบวนการเรียนรู้ 
"ติ" ชุติมา เรืองแก้วมณี กล่าวว่า ติเป็นนักออกแบบกระบวนการเรียนรู้ (Experiential Learning Designer) และเป็นคนจัดกิจกรรมให้กับหลายๆ กลุ่ม ด้วยเราสนใจกลุ่มเด็กเยาวชน และประเด็นเรื่อง ขยะ ประกอบกับมีน้องทำหลักสูตร STEAM4INNOVATOR ของ NIA ชักชวนให้มาร่วมเป็นพี่เลี้ยงที่ทำหน้าที่โค้ชคุณครูในเรื่องการจัดการขยะ และส่วนตัวอยากทราบว่าคุณครูในระบบการศึกษาตอนนี้เป็นเช่นไรจึงตัดสินใจมาทำหน้าที่ Facilitator ร่วมออกแบบกระบวนการเรียนรู้กับโครงการ The Electric Playground โดย ขยะ และนวัตกรรม นั้นแท้จริงนำมาทำเป็นกิจกรรมสนุกๆ และเรียนรู้ไปพร้อมกันได้

เช่น ขยะ 1 ชิ้นมีเส้นทางการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทางอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะเข้าไปอยู่ในการสอนของคุณครูด้วยวิธีการสอนที่เหมาะกับเขา ซึ่งผลที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจ เพราะคุณครูผ่านประสบการณ์ตรง ได้ทดลองกันในกลุ่ม ก่อนนำไปสอนเด็กนักเรียนของเขาให้เข้าใจ ซึ่งการสอนการจัดการขยะหากคุณครูคิดแบบบูรณาการต่อ สามารถพัฒนาต่อยอดได้อย่างยั่งยืนเลยทีเดียว เพราะขยะนำไปคุยได้หลายเรื่องมากๆ เช่น ขยะกับประเด็นปัญหาสังคม ขยะกับสิ่งแวดล้อม ขยะกับวิทยาศาสตร์ ขึ้นอยู่ว่าจะนำเสนอในแง่มุมใดของขยะต่อไป ซึ่งโครงการนี้ทำให้รู้ว่าคุณครูมีหัวใจการเป็นคุณครูมากๆ พร้อมปรับตัว และเรียนรู้ร่วมกันไปกับนักเรียน


 แม้ตอนนี้การส่งต่อการเรียนรู้ขยะสู่ห้องเรียนยังไม่ครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วไทย แต่ค่อนข้างคาดหวังกับโครงการนี้อย่างมากที่จะขยายสู่ภาคการศึกษาไทยที่ใหญ่ขึ้น เพราะเวลาที่เราทำงานกับคุณครู เราอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบการศึกษา กระบวนการการเรียนรู้นวัตกรรมในเรื่องของขยะเชิงสร้างสรรค์ รวมทั้งกระบวนการออกแบบวิธีคิดที่เกิดขึ้นกับคุณครูจริงๆ นอกเหนือจากนั้นอยากให้ทุกคนในสังคมไทยตระหนักว่า ตนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะจริงจังที่ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะคนมักคุ้นชินกับภาพกองขยะ และมองว่าขยะคือขยะ แต่หากมองลึกลงไปกว่านั้นจะมีเรื่องของระบบการจัดการหรือการหมุนเวียนทรัพยากรด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราทุกคนร่วมเป็นส่วน หนึ่งในการขับเคลื่อน ได้ไม่ยาก


 ทุกๆ การกระทำของทุกคนมีผลลัพธ์ต่อสังคมเสมอ
"ดาว" สุภารัตน์ เชื้อโชติ กล่าวว่า ปัจจุบันดาวเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และคลุกคลีในวงการภาคการศึกษาอยู่แล้ว สิ่งที่ชอบสำหรับ STEAM4INNOVATOR คือเรารู้สึกว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่จะทำให้เราอยู่ในโลกจริงมากขึ้น ไม่ใช่ใช้องค์ความรู้เพื่อที่จะบอกว่าเราเก่ง เราผ่านแล้ว เราได้เกรด A แต่เป็นการใช้องค์ความรู้เพื่อคนอื่นจึงรู้สึกว่า นี่แหละคือเป้าหมายของการเรียนรู้จริงๆ จึงนำมาสู่การเป็น Facilitator ในโครงการ The Electric Playground ที่ต้องการสร้างการรับรู้ต่อคุณครู เด็กและเยาวชนว่าขยะเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ 

เพราะกระบวนการนี้ได้เปลี่ยนวิธีคิดของเด็กเยาวชนต่อขยะที่ดีขึ้นว่า ทุกๆ การตัดสินใจและทุกการกระทำของเขามีผลลัพธ์ที่ตามมากับสังคมด้วย เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ดังนั้นผลลัพธ์นี้จะก่อให้เกิดมลพิษ หรือก่อให้เกิดคุณค่าทางสังคม เศรษฐกิจ ก็ย่อมขึ้นอยู่กับทางเลือกที่เราจะสร้างขึ้น

สำหรับเรื่อง ขยะ หรือสิ่งรอบตัว ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง ในการส่งต่อการเรียนรู้สู่ภาคการศึกษาและต้องการพัฒนาเด็กนั้น ดาวและคุณครูจึงสร้างความเข้าใจว่าถ้าเราจะอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขได้ ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมและทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวนั้นสำคัญ ดังนั้นเรามีโอกาสสร้างขยะใหม่ๆ ขึ้นได้ทุกวัน แต่ขณะเดียวกันก็เราก็ปรับทัศนคติและพฤติกรรมได้ ในระยะเริ่มต้นอาจจะไม่ต้องเร่งเครื่องแรงมาก แต่เริ่มจากมองเห็นอะไรใกล้ตัวแล้วค่อยๆ ปรับก็ได้ เช่น จากเดิมใช้หลอดพลาสติกก็ไม่ใช้ หรือไม่เคยแยกขยะเลย ก็ลองแยกแบบง่ายๆ แค่ใช้แรงนิดหน่อยก็เปลี่ยนให้เรียบร้อยได้

ซึ่งตอนที่เทรนคุณครูก็มีเรื่องน่าประทับใจเกิดขึ้นกัน คุณครูได้กลับไปสำรวจขยะรอบๆ โรงเรียนแล้วก็กลับมาบอกว่า จุดนั้นก็มี จุดนี้ก็มี ซึ่งเราจัดการขยะให้ดีกว่านี้ได้ แต่ทำไมเราไม่เคยมองและลงมือทำสักที รวมทั้งฝึกให้เด็กนักเรียนตั้งคำถามและฉุกคิดว่าขยะนี้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ หรือไม่ แต่ละพื้นที่กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดมีวิธีจัดการขยะแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร ก็นับว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีเลยค่ะ 

หัวใจหลักคือ แยกประเภท-กำจัดให้ถูกวิธี
"แทน" ธัญลักษณ์ แสงลาภเจริญกิจ กล่าวว่า เดิมแทนเป็นนักกำหนดอาหารให้คนป่วยที่โรงพยาบาล และได้ทำงานที่ร้านอาหาร จากนั้นได้เรียนต่อด้าน Food Design และมีโอกาสนำความรู้ที่เรียนไปพูดคุยกับผู้ประกอบการ และเยาวชนที่สนใจสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านอาหาร โดยส่วนตัวแทนสนใจประเด็นสังคมมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องสิ่งแวดล้อม เป็นประเด็นทางสังคมเช่นกัน และตระหนักดีว่า "ขยะ" เป็นปัญหาที่สำคัญมากของทุกคน ยิ่งได้ไปสำรวจบริเวณรอบบ้านเรา พบว่าขยะมีการจัดการที่ผิดวิธีอยู่มาก

 ถ้าเรานำความรู้การจัดการขยะที่ถูกวิธีและใช้ได้จริงส่งต่อข้อมูลไปยังคุณครูตามโรงเรียนเพื่อขยายการรับรู้สู่เยาวชนด้วยการสื่อสารให้ง่ายที่สุด เพื่อให้น้องๆ เข้าใจจุดสำคัญในการจัดการขยะและแก้ปัญหาเป็นอย่างไร รวมถึงคนทั่วไปสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปสื่อสารต่อครอบครัวหรือคนรอบตัวต่อไปได้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์และช่วยพัฒนาสังคมอย่างมาก จึงเป็นที่มาและความตั้งใจของการเข้ามาทำหน้าที่ Facilitator ในโครงการ The Electric Playground ในการส่งต่อการเรียนรู้สู่ภาคการศึกษาไทยร่วมกับคุณครูที่เข้าร่วมโครงการ

ตลอดที่ผ่านมา คุณครูทุกคนมีความตั้งใจมากในการเรียนรู้กระบวนการจัดการขยะ และนำไปคิดตลอดว่าเขาจะไปสอนเด็กอย่างไรให้เข้าใจเหมือนที่เขาเข้าใจแล้วไปใช้จริงได้ จึงร่วมปรับเนื้อหาและวิธีการสื่อสารตามสไตล์คุณครูให้เข้าใจง่าย พร้อมทั้งเสริมการสอนเชิงสร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ ในรูปแบบ Learning by Doing เล่นเกมไปด้วยกัน เช่น เกมแยกขยะ เกมจัดประเภท ซึ่งถ้าให้แนะนำการจัดการขยะเกี่ยวกับอาหาร เช่น ที่ร้านอาหาร วิธีแรกคือควรแยกประเภทของขยะก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขยะอินทรีย์ เศษอาหาร เศษเนื้อสัตว์  ส่วนนี้เราแยกนำไปหมักเป็นปุ๋ยเพื่อใช้ประโยชน์ต่อได้ ส่วนที่เป็นถุงพลาสติก ขวดซอสต่างๆ ควรล้างทำความสะอาดก่อนทิ้ง ก็สามารถส่งต่อไปรีไซเคิลได้ตามจุดต่างๆ ได้ค่ะ 

ผู้ไขประสบการณ์การจัดการขยะ
"สุธี" สุธี สุขสุเดช กล่าวว่า ตนเป็นอาจารย์ทันตแพทย์ ส่วนตัวสนใจกระบวนการจัดการเรียนรู้ และเป็นผู้สอนในระบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน หรือ Problem-based Learning ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์การจัดการขยะ ดังนั้นการเข้าร่วมโครงการ The Electric Playground จึงเป็นการเรียนรู้หน้างานไปพร้อมกับทุกคน ทั้งคุณครูในโรงเรียน และ Facilitator คนอื่นๆ ซึ่งการเข้ามาเรียนรู้เรื่อง ขยะ ทำให้ตระหนักความสำคัญของการคัดแยกขยะและรู้ถึงระบบนวัตกรรมการจัดการขยะ ทำให้เปลี่ยนความคิดจากเดิมที่ว่าแยกขยะไปทำไม เปิดมุมมองเป็นการคัดแยกขยะ รวมทั้งการเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ผลิตไฟฟ้าในการแจกจ่ายไฟฟ้าไปยังตำบล

นอกจากสร้างความเข้าใจให้คุณครูผ่านหลักสูตร STEAM4INNOVATOR แล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมอยากแชร์ขณะทำหน้าที่ Facilitator เทรนคุณครู ซึ่งจะได้รับหน้าที่รับผิดชอบโรงเรียนที่แตกต่างกัน พบว่าโรงเรียนที่ผมดูแลมีระบบการจัดการขยะที่ดีมาก และคุณครูได้สอนเด็กนักเรียน โดยยกเรื่องเตาเผามาสอนในหัวข้อการเปลี่ยนแปลงพลังงาน และเชื่อมโยงไปตั้งแต่พลังงานจลน์ พลังงานไฟฟ้า

โดยใช้ขยะเป็นโจทย์เริ่มต้น ทำให้ผมทึ่งมากว่า ขยะ เชื่อมโยงได้ทั้งโลกและชีวิตมนุษย์ได้หลากหลายมาก เพราะแท้จริงโลกนี้คือพลังงานต่างๆ ที่แปรรูปไปเรื่อยๆ และในร่างกายเราก็มีพลังงานมาจากการเผาไหม้เหมือนกัน แต่เริ่มต้นจากการเผาขยะ ซึ่งจุดนี้ก็สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องต่างๆ ได้อีกเช่นกัน เช่น ฟิสิกส์ เคมี คุณภาพของเชื้อเพลิง กฎทรงมวล กฎของพลังงานจลน์ พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งถ้าหากจะมองถึงการขยายการเรียนรู้ขยะสู่ภาคศึกษาไทย เรื่องจิตสำนึกอาจไม่เพียงพอ แต่โครงสร้างขององค์กรหรือโรงเรียนของนักเรียน เขตการศึกษาต่างๆ ก็ต้องเกื้อหนุนด้วยเช่นกัน
#3216


บางจากฯ ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคนไทยฝ่าวิกฤติโควิด-19 สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนา LINE OA "FAH FIRST AID" ของกรมฯ และใช้สถานีบริการน้ำมันบางจากในกทม. และปริมณฑลเป็นจุดกระจายยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรให้กลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตนเองที่บ้าน ที่ลงทะเบียนผ่าน "FAH FIRST AID" พร้อมรับสมัครจักรยานยนต์อาสาเป็นผู้นำส่งช่วยบรรเทาผลกระทบ ด้วยการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เปิดช่องทาง Line Official Account FAH FIRST AID เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2564 เพื่อให้ผู้ป่วยติดโควิด-19 ที่มีอาการเบื้องต้น เป็นผู้ป่วยสีเขียวหรือผู้มีความเสี่ยงสูง มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ สามารถส่งข้อความปรึกษาทางไลน์และลงทะเบียนรับสารสกัดฟ้าทะลายโจรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยกรมฯจะจัดส่งฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลา 5 วัน ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนโดยใช้การส่งไปรษณีย์เป็นหลัก หลังจากนั้น บางจากฯได้ร่วมสนับสนุนภารกิจของกรมการแพทย์แผนไทยฯด้วยการจัดโครงการนำร่อง "บางจาก x FAH FIRST AID" ใช้ปั๊มบางจาก สุขุมวิท 62 เป็นจุดกระจายยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรนำร่องในพื้นที่เขตพระโขนง บางนา และคลองเตย ก่อนขยายเพิ่มพื้นที่นำส่งเพิ่ม รวมเป็นปั๊มน้ำมันบางจาก 6 สาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ได้แก่ปั๊มบางจาก สุขุมวิท 62 ราษฎร์บูรณะ 1 พระราม 2 กม.12 และพระราม3 (2) ปากน้ำ 1 จังหวัดสมุทรปราการ และลำลูกกา คลอง 1 จังหวัดปทุมธานี

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ ยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายการพัฒนาและปฏิบัติงานของทีมงานผู้ดูแล LINE OA "FAH FIRST AID" และช่วยบรรเทาภารกิจของกรมการแพทย์แผนไทยฯ โดยใช้ปั๊มบางจากเป็นจุดกระจายยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรให้กับผู้ป่วยสีเขียวถึงบ้าน ผ่านผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไฟฟ้าในโครงการวิน โน หนี้ หรือวินจักรยานยนต์ทั่วไป หรืออาสาจักรยานยนต์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้รับยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรเร็วขึ้น และยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ขับขี่จักรยานยนต์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงนี้ด้วยอีกทางหนึ่ง

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวว่าบางจากฯ ได้สนับสนุนกรมฯ ในการกระจายยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในพื้นที่กทม. และปริมณฑล ซึ่งยังมีอัตราการระบาดของโควิด-19 สูง พร้อมจัดหาผู้ขับขี่จักรยานยนต์ช่วยกระจายยาจากปั๊มบางจากถึงบ้าน โดยไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วย เราหวังว่าการที่ผู้ป่วยสามารถลงทะเบียนรับยาผ่าน Line OA จากกรมฯ จะทำให้สามารถมั่นใจว่ามียาสำหรับรักษา ไม่ต้องไปกว้านซื้อหรือกักตุนไว้

ทั้งนี้ ตั้งแต่กรมฯ เปิด Line OA @FAH FIRST AID ให้ข้อมูลยาฟ้าทะลายโจร เดือนพฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนเป็นรายบุคคลกว่า 70,000 คน และได้ส่งยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรเพื่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ผ่าน Line OA @FAH FIRST AID ตั้งแต่กรกฎาคม 2564 มากกว่า 5,000 ราย ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าสู่ระบบได้ โดยค้นหาไลน์ไอดี @fahdtam
#3217

โรงพยาบาลสังกัด กทม.เร่งฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" บูสเตอร์เข็ม 3 บุคลากรการแพทย์-ด่านหน้าสู้ "โควิด-19"
วันที่ 9 ส.ค. ที่โรงพยาบาลกลาง สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(กทม.) ในชุดแรกจากข้อมูลที่รายงานวันแถลงข่าวออนไลน์สรุปการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 6 ส.ค. "กทม.ได้ 'ไฟเซอร์' แล้ว 7.6 พันโดส ย้ำฉีดบูสต์เข็ม 3 เฉพาะบุคลากรด่านหน้าเท่านั้น"

โดยในวันนี้ ได้มีการฉีดวัคซีนไฟเตอร์เข็ม 3 ซึ่งเป็นเข็มบูสต์เตอร์ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้วโดยบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าได้เข้ารับวัคซีน จำนวน 700 คน โดยจะดำเนินการฉีดวัคซีนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน

สำหรับ "ขั้นตอน" การใช้วัคซีนไฟเซอร์นั้น ได้ถูกขนส่งในตู้ความเย็นติดลบ 70 องศาเซลเซียส เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกลาง จะถูกเก็บที่ตู้ทำความเย็นติดลบ 20 องศาเซลเซียส จากนั้นเจ้าหน้าที่เภสัชกรรม จะนำขวดวัคซีนใส่กล่องควบคุมอุณภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส และนำมายังจุดฉีด หลังจากนั้นจะนำวัคซีนออกมาตั้งในอุณหภูมิห้อง 15-30 นาที เพื่อให้ตัวยาในขวดวัคซีนมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิห้อง


โดยก่อนการฉีดต้องทำการเจือจางกับน้ำกลือในปริมาณ 1.8 มิลลิลิตร และทำการคว่ำหงาย 10 รอบ จากนั้นทำการแบ่งบรรจุ เข็มละ 0.3 มิลลิลิตร จำนวน 6 เข็ม ต่อ 1 ขวด เนื่องจากวัคซีนเป็นชนิดเข้มข้น และต้องฉีดภายใน 6 ชั่วโมง โดยใช้เข็มชนิด Lowdead space syringe โลเดสเปสไซลิงค์ เพื่อให้ได้ส่วนผสมยาที่ใช้ครบถ้วน
#3218


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หลังจากที่ ส.อ.ท. ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 10 ขึ้นบริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพียง 28 วัน ซึ่งปัจจุบันที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ได้พิจารณายกระดับให้ศูนย์แห่งนี้เป็นสถานที่รองรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 สีเหลืองเข้ม

โดยปรับรูปแบบจากโรงพยาบาลสนามเดิมให้ใกล้เคียงกับห้อง ICU มากที่สุด เพื่อรองรับผู้ป่วยในจังหวัดสมุทรสาครที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากเดิมโรงพยาบาลสนามสภาอุตสาหกรรมฯ มีเครื่องมือทางการแพทย์พร้อมสำหรับดูแลผู้ป่วยอยู่แล้วในระดับหนึ่ง อาทิ เครื่องเอ็กซเรย์ปอด เครื่องวัดค่าออกซิเจนในปอด ระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงในการพบปะกับผู้ป่วย ซึ่งหุ่นยนต์ดังกล่าวยังสามารถให้แพทย์และผู้ป่วยพูดคุยกันได้ผ่าน Application อีกด้วย

จึงทำให้การปรับรูปแบบเป็น ICU ในครั้งนี้มีการปรังปรุงโครงสร้างเพิ่มเติมหลักๆ คือ การวางระบบจ่ายออกซิเจนทั้งอาคาร และติดตั้งถังออกซิเจนเหลว (Liquid Oxygen) ขนาด 5,000 ลิตร ซึ่งหากมีผู้ป่วย 200 คนรักษาตัวอยู่ จะสามารถใช้ถังออกซิเจนนี้ได้ 3-4 วันต่อถัง

การปรับปรุงในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากนายอุดม ไกรวัฒนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ที่มาให้บริการในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ คือทีมจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย แพทย์ 1 คน เภสัชกร 1 คน พยาบาล 12 คน และทีมพยาบาลจากจังหวัดกาญจนบุรี 3 คน รวมทั้งทีมหลักที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสาครมาร่วมปฏิบัติงานด้วย

นอกจากนี้ ส.อ.ท. ได้ส่งเสริมผู้ประกอบการและสมาชิกจัดทำมาตรการ Bubble and seal ในโรงงาน ที่มีพนักงานตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยไม่ต้องปิดโรงงาน พร้อมสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในรูปแบบ Community Isolation ในโรงงาน ที่รับรองโดยสาธารณสุขจังหวัดและดูแลโดยโรงพยาบาลในสังกัดประกันสังคม ยกตัวอย่างในนิคมอุตสาหกรรมสินสาครในจังหวัดสมุทรสาครที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (Factory Accommodation Isolation: FAI) ด้วยความร่วมมือจากสถานประกอบการภายในนิคมฯ มีจำนวนเตียงเพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่า 10%

ซึ่งการทำ Factory Quarantine ในจังหวัดสมุทรสาคร แบ่งเป็น 2 กรณี คือ หากพบผู้ติดเชื้อในโรงงานน้อยกว่า 10% ให้ดำเนินการจัดทำ FAI แต่หากเกินกว่า 10% โรงงานจะต้องการ Bubble & Seal พร้อม FAI

โดยมี 6 ขั้นตอน ดังนี้ 1) จัดเตรียมสถานประกอบการให้พร้อมสำหรับการทำ FAI 2) ส่งข้อมูลการจัดทำ FAI ไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร 3) ส่งภาพการจัดทำ FAI ที่เรียบร้อยแล้วให้สำนักงานสาธาณสุขจังหวัดสมุทรสาคร

4) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครนัดหมายสถานประกอบการประเมินผ่านระบบ Video Conference โดยให้นำตรวจสถานที่แบบ Real Time ผ่านระบบ Video Conference 5) เมื่อผ่านการประเมิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครจะจัดทำใบรับรองส่งให้

และ 6) ดำเนินงานตามมาตรการ Bubble & Sealed กรณีที่โรงงานสุ่มตรวจและพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 10% ของจำนวนพนักงาน โดยการจัดการระบบดูแล ลดการกระจายเชื้อสู่ภายนอก จำนวน 28 วัน

ส.อ.ท. ยังได้จัดตั้ง "กองทุน ส.อ.ท. สู้ภัยโควิด-19" ภายใต้มูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อระดมทุนจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ สิ่งของจำเป็น อาทิ ห้องความดันลบแบบประกอบเคลื่อนย้ายได้ (Modular Unit) , "ชุดจัดทำห้องความดันลบแบบติดตั้งถาวร (Non-Mobility), ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 (Antigen Test Kit), เมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรและกล่องห่วงใยจากใจ ส.อ.ท.

ส่งมอบกับให้สถานพยาบาลนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 จึงขอเชิญร่วมบริจาคเงินได้ที่ชื่อบัญชี มูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรม เลขที่บัญชี 009-1-71583-0 ธนาคารกรุงไทยสาขาไทยเบฟควอเตอร์ (ใบบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 100%) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน ส.อ.ท. หมายเลข 1453 ทุกปัญหาอุตสาหกรรมมีคำตอบ
#3219


รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 9,690 คนในวันอาทิตย์ (8) นับเป็นยอดติดเชื้อรายวันที่สูงเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่พบในวันเสาร์ (7) ที่ 7,334 คน

กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่พบในนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางการระบาด และ จ.บิ่งเซวือง กับ จ.ด่งนาย ที่อยู่ติดกัน

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ประเทศเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็วและติดง่ายขึ้น

ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 210,405 คน ตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,397 คน ตามข้อมูลของกระทรวง

เวียดนาม ประเทศที่มีประชากร 98 ล้านคน จนถึงขณะนี้ ได้แจกจ่ายวัคซีนไปแล้วเกือบ 8.9 ล้านโดส แต่มีประชาชนไม่ถึง 900,000 คน ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.
#3220


เมื่อเร็วๆนี้ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้นขณะนี้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัล 5G มาใช้ในการทำงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 เช่น การนำร่อง Smart Hospital ณ โรงพยาบาลศิริราช การทำเกษตรดิจิทัล ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี จ. เชียงราย และการส่งเสริมคนรุ่นใหม่ หรือ Startup ให้ตระหนักถึงการดำเนินงานขับเคลื่อน 5G ของภาครัฐ และทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการสร้างกำลังคนด้านดิจิทัลให้เพียงพอและมีทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงานได้

ที่ประชุมเห็นชอบการดําเนินโครงการนําร่องการพัฒนาย่านเทคโนโลยี 5G ต้นแบบสําหรับให้บริการประชาชน (5G District) จังหวัดเชียงใหม่ ใน 2 ด้าน ด้านการเดินทาง (5G Mobility) การสร้างบริการผ่านการให้บริการในแอปพลิเคชันเดียว อาทิ รถเมล์ รถแดง และด้านสุขภาพ (5G Healthcare) จัดตั้ง 5G Hospital ยกระดับอุปกรณ์ Telemedicine ในพื้นที่ห่างไกล