Influencer Marketing ทางเลือกใหม่ของการดำเนินการการตลาดออนไลน์

[Joe524]

ถ้าพูดถึงการตลาดที่ได้ผลที่สุดวิธีหนึ่ง หลายคนย่อมนึกถึงการตลาดแบบปากต่อปาก (Word of Mouth Marketing) เพราะเป็นการสื่อสารด้วยกันบอกต่อกันระหว่างผู้บริโภคที่ได้ใช้สินค้าจริงๆ ดังนั้นหลายๆ แบรนด์จึงเลือกที่จะใช้การตลาดแบบใช้คนที่มีชื่อสิ้นอายุขัยงอย่าง Influencer Marketing เพราะเปรียบเสน้ำมือนหนึ่งในผู้บริโภคที่ได้ใช้สินค้า พร้อมทั้งมีอิทธิพลในการบอกต่อ พร้อมกับโน้มน้าวให้คนมาใช้สินค้าด้วยกันบริการตาม

Influencer คือ

        Influencer คือ ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล โดยเป็นผู้ที่ลงมือคอนเทนต์เผยแพร่ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ดั่ง แล้วมีคนสนใจติดตาม ยิ่งมีผู้ติดตามมากก็ยิ่งมีอิทธิพลล้นหลาม ผู้ติดตามส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งเท่านั้นเด็กไปจนถึงวัยเนรมิต งาน พร้อมทั้งมักคล้อยตามเนื้อหาหรือสิ่งที่ Influencer พูดโน้มน้าวใจได้ง่าย เพราะรู้สึกถึงความใกล้ชิดด้วยกันจริงใจกว่าสื่อโฆษณาของแบรนด์ต่างๆ



Influencer Marketing คืออะไร

        Influencer Marketing หมายถึง ประเภทของการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้ Influencer ในการประชาสัมพันธ์ โฆษณา และสื่อสารตราสินค้า เพื่อเป้าประสงค์ทางการตลาด โดยเกิดจากการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์พร้อมทั้งตัวอินฟลูเอนเซอร์


Influencer สามารถแบ่งได้หลายประเภท ส่วนใหญ่มักแบ่งตามจำนวนผู้ติดตาม ดังนี้


1. Nano Influencer: ผู้ติดตาม 1,000 - 10,000 คน
        เปรียบเสมือนบุคคลทั่วไปที่มีอิทธิพลในหมู่คนรู้จักหรือเพื่อนๆ เช่น ดาวโรงเรียน นักกีฬา ประธานนักเรียน หรือสมมติว่าขนาดนั้นคนที่มีลักษณะโดเด่นจนเป็นที่น่าจดจำในหมู่เพื่อนๆ ก่อให้การว่าจ้างจึงไม่สูงเหลือแหล่นัก พร้อมกับยังมีอิทธิพล มีความน่าเชื่อถือต่อบุคคลรอบข้างทั้งเพื่อน ครอบครัว คนรู้จัก ฯลฯ


2. Micro Influencer: ผู้ติดตาม 10,000 - 50,000 คน
        มีฐานแฟนคลับจากวิถีทางหรือคอนเทนต์ที่นำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ พร้อมด้วยสร้างสรรค์ล้นหลามยิ่งขึ้น กระทำการให้สามารถดึงดูดผู้คนได้ล้นหลามขึ้น กับจะมีสปายทางการกระทำคอนเทนต์ที่ชัดเจน เป็นต้นว่า ช่องกระทำการอาหาร ช่องรีวิวร้านอาหาร ช่องท่องเที่ยว ฯลฯ จัดทำให้แบรนด์สินค้าสามารถเลือกว่าจ้างไต่ำต้อย่างมีจุดประสงค์ว่อนขึ้น


3. Mid-Tier Influencer: ผู้ติดตาม 50,000 - 100,000 คน
        มักจะมีจำพวกทาง พร้อมกับตัวตนที่ชัดเจนอยู่แล้ว และยังมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับผู้คนได้ชัดเจนมากมายก่ายกองยิ่งขึ้น รู้ว่ากลุ่มผู้ติดตามอยากอะไร คอนเทนต์ลักษณะไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ติดตามได้ ดำเนินการให้สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้ตรงกลุ่มมหาศาลยิ่งขึ้น เป็นต้นว่า ชอบคอนเทนต์เส้นรีวิวอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ

4. Macro Influencer: ผู้ติดตาม 100,000 - 1,000,000 คน
        กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความเป็นอาชีพเยอะแยะยิ่งขึ้น และมักจะโดดเด่นในช่องทางด้วยกันแนวทางชัดเจน พร้อมกับส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่สร้างรายได้จากการปฎิบัติงานคอนเทนต์ของตัวเอง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการสร้างการรับรู้ได้ชัดเจน เพราะการสื่อสารมักจะถูกออกแบบมาโดยทะลุทะลวงกระบวนการคิด พร้อมทั้งเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคไห่วย่างตรงจุด รวมไปถึงการทำการคอนเทนต์ที่เป็นมืออาชีพ ตัวตนที่โดดเด่, และพันธุ์ทางของช่องทางที่ชัดเจน ส่วนใหญ่แล้วขั้นนี้มักจะหันมาเป็น Influencer เต็มตัว เพราะสามารถหารายได้ที่ครบแล้วจากการเนรมิต คอนเทนต์ของตัวเองได้แล้ว ประกอบกิจให้มักจะมีการกลั่นกรองแบรนด์สินค้า ด้วยกันมีความละเอียดยิบในการปฎิบัติงานคอนเทนต์


5. Mega Influencer: ผู้ติดตาม ท่วมท้นกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป
        บุคคลเหล่านี้จะมีชื่อพลาดงมากมายในด้านด้านหนึ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีชื่อตายง ประดุจดัง ดารา นักกีฬา นักร้อง ที่ผู้คนให้การยอมรับ หรือเป็น Influencer ที่มีชื่อชำรุดงในวงกว้างซึ่งสามารถช่วยสร้างการรับรู้แบบไม่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย มีแรงจูงใจที่แตกต่าง อาทิเช่น ซื้อสินค้าตามดาราคนนี้ เพราะเป็นแฟนคลับ เป็นต้น

ข้อดีของการก่อ Influencer Marketing

1. เข้าถึงและโน้มน้าวผู้บริโภคได้ดีกว่าการตลาดแบบอื่น

 ผู้บริโภคจะรู้สึกถึงความใกล้ชิดล้นหลามกว่าการโฆษณาจากแบรนด์เอง ไม่ว่าจะทางโทรทัศน์ วิทยุ หรือแบรนด์เนอร์ในเว็บไซต์ต่างๆ เพราะรู้สึกว่ามีผู้ใช้สินค้าจริงพร้อมทั้งเป็นบุคคลที่ตนรู้จัก ยิ่งเป็น Influencer ที่มีความสนใจตรงกับสินค้าพร้อมกับบริการก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ ด้วยกันโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้ดีขึ้น

2. มีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
        การเลือกใช้ Influencer ที่เหมาะสมจะดำเนินงานให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดีขึ้น หรืออาจเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปเลยก็ได้ ราวกับ สบู่สมุนไพรที่เดิมมีลูกค้าเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ แต่โหยขยายกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น การเลือกใช้คนที่มีอิทธิพลในกลุ่มวัยรุ่นก็ส่งผลต่อความคิดที่มีต่อแบรนด์เยอะจัดขึ้น พร้อมด้วยช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้

3. วัดและประเมินผลได้
        แบรนด์สามารถดูกระแสตอบรับได้จากยอดการเข้าถึง (Reach) คือ ยอดผู้เข้าชม พร้อมกับยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) คือ จำนวนยอดการกดไลค์ (Like) การแชร์ (Share) การคอมเมนต์ (Comment) ไปจนถึงการตรวจสอบกับติดตามข่าวผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่คลิกทะลุทะลวงลิงค์จาก Influencer แล้วเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บไซต์ของแบรนด์ก็สามารถทำการได้ เพื่อประเมินผลว่ากลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ กับดำเนินงานให้วางแผนกลยุทธ์ครั้งต่อไปได้ดียิ่งขึ้น

กลยุทธ์การก่อ Influencer Marketing

        การกระทำ Influencer Marketing ต้องมีกลยุทธ์ที่ปฎิบัติงานให้แบรนด์ดูน่าสนใจ มีเอกลักษณ์ ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งกลยุทธ์ที่เหมาะสมเยี่ยม คือ กลยุทธ์ "SEED Strategy" ซึ่งมีไม่ทันเวลาทางกลยุทธ์ ดังนี้

S: Sincere (จริงๆ แล้วใจ)
       ผู้บริโภคในปัจจุบันรู้เท่าทันสื่อและการตลาดมากมายก่ายกองขึ้นกับยังมีช่องทางการรับข้อมูลสะพรั่งมาย ดังนั้นการตลาดที่ดีต้องมีจริงๆ แล้วใจ Influencer ที่เลือกใช้ควรเป็นคนที่มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง ดูน่าเชื่อถือ เป็นธรรมชาติ และเนื้อหาของการรีวิวไม่ควรพูดถึงเฉพาะข้อดีของสินค้าจนดูเป็นการอวยเกินไป ให้พูดถึงข้อเท็จจริงด้วย แค่นั้นไม่ใช่การพูดถึงข้อเปลือง


E: Expertise (ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน)
        การก่อการตลาดที่มีข้อมูลครบถ้วน พิสูจน์ได้ จะกระทำการให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์เชื่อถือได้ นำมาสู่การตัดสินใจซื้อสินค้าพร้อมด้วยบริการ ดังนั้นการเลือก Influencer ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านที่ตรงกับแบรนด์จึงเป็นเรื่องสำคัญ

E: Engagement (การเข้าถึง)
        การสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพไม่ได้วัดจากจำนวนผู้ติดตามเพียงอย่างเดียว เท่านั้นทางแบรนด์ควรดูยอด Engagement ด้วย คือ การกดไลค์ (Like) การแชร์ (Share) การคอมเมนต์ (Comment) สะสมแล้วควรคำนวณได้เป็น 5% ของจำนวนยอดผู้ติดตามทั้งหมด

D: Different (ความแตกต่าง)
        Influencer ในปัจจุบันมีจำนวนไม่ใช่น้อย ดังนั้นนอกจากยอดผู้ติดตาม ความรู้ความเชี่ยวชาญของ Influencer แล้ว ก็ควรเลือกผู้ที่มีเอกลักษณ์ เพื่อให้โดดเด่นออกมาจากคนอื่นๆ โดยต้องไม่ลืมคำนึงถึงความเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย

สรุป
        การดำเนินงาน Influencer Marketing เป็นหนึ่งในการตลาดใหม่ในยุคดิจิตัลที่เพิ่มทางเลือกให้แบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากมายก่ายกองขึ้น ทุกแบรนด์เริ่มตระหนักถึงความสำคัญ ลงมือให้การแข่งขันเพิ่มสะพรั่งขึ้น แค่นั้นสิ่งที่ต้องระวังยิ่งในการทำ Influencer Marketing คือ การเลือก Influencer ให้เหมาะสมกับแบรนด์และสินค้าที่โหยขาย อย่าคำนึงเพียงนั้นจำนวนผู้ติดตามเท่านั้น เพราะถ้าเลือกไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ก็จะเป็นการสร้างตลาดที่หมดลมหายใจเปล่า หรือถ้าคนที่เลือกมามีประวัติหรือพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่น่าเชื่อถือ ก็จะส่งผลหมดลมต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้