• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

อ่านเกม MARK ZUCKERBERG ผู้ก่อตั้ง FACEBOOK ในยุค META ที่ไม่ META อีกต่อไป

Started by dsmol19, February 11, 2022, 01:48:25 AM

Previous topic - Next topic

dsmol19

ตั้งแต่ Facebook เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น Meta เพื่อรันเทรนด์จักรวาลนิรมิตร หรือ Metaverse ทุกสิ่งทุกอย่างที่ Mark Zuckerberg ผู้จัดตั้ง และ CEO ของบริษัทวาดฝันไว้กลับไม่เป็นไปตามที่คิด

เนื่องจากว่าถึงบริษัทจะมีรายได้รวมปี 2021 เติบโต 20% แต่ว่าก็มาพร้อมข่าวร้ายได้แก่ ยอดผู้ใช้งานต่ำลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่จัดตั้งบริษัท และก็ธุรกิจส่วน Metaverse ขาดทุนกว่า 3,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1 แสนล้านบาท

แถมจากผลประกอบการที่ไม่สู้ดี ทำให้ราคาหุ้น Meta ข้างหลังปิดตลาดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2022 ต่ำลง 26% ราคาธุรกิจการค้าหายไป 2.3 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 8 ล้านล้านบาท

ในภาษาเกม Meta มิได้ซึ่งก็คือ Metaverse แต่ว่าคือ Most Effective Tactics Available หรือวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับในการเอาชนะเกมนั้น ซึ่งอาจบอกได้ว่า Facebook ในเวลานี้ไม่ใช่ Meta ของเกม Social Media อีกแล้ว



ทำไม Meta ไม่ Meta อีกต่อไป?
เริ่มกันที่ตัวเลขการใช้งาน Facebook กันก่อน เพราะว่าตัวเลขผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวี่ทุกวัน หรือ Daily Average Users (DAUs) ในไตรมาส 4 ปี 2021 อยู่ที่ 1,929 ล้านบัญชี น้อยลงจาก 1,930 ล้านบัญชี ในไตรมาส 3 ปีเดียวกัน ถือเป็นการต่ำลงของจำนวนผู้ใช้หนแรกตั้งแต่แมื่อ Facebook ให้บริการมานาน 17 ปี

เหตุผลที่ลดน้อยลงคงจะเดากันไม่ยาก เพราะว่ามีตั้งแต่ Facebook เป็นที่นิยมในกรุ๊ปผู้ใหญ่ และก็คนชรา ส่วนคนรุ่นหลังกลับไม่เลือกใช้งาน, ข่าวร้ายเกี่ยวกับการสนใจเรื่องกำไรมากกว่าความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้ และก็การปลดปล่อยให้เกิด Hate Speech โดยตลอดเพื่อกระตุ้นการใช้งานในระบบ

ต้นเหตุกลุ่มนี้ทำให้ Facebook รักษาอัตรา DAUs ได้ยาก และค่อยๆสูญเสียความเป็น Meta ในตลาด Social Media ให้กับคู่แข่งรายอื่น ถึงแม้ Instagram จะยังตอบโจทย์การใช้แรงงานของกลุ่มวัยรุ่นได้ และก็ Whatsapp ยังมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าก็เทียบไม่ได้กับปริมาณผู้ใช้ Facebook ที่เพียงแค่ลดน้อยลง 1 ล้านบัญชี ก็กระทบค่ากิจการค้าทันที

แล้ว Meta จะเดินหน้า Metaverse ได้จริงหรือไม่?
ตั้งแต่แมื่อเปลี่ยนชื่อจาก Facebook เป็น Meta เมื่อสิ้นเดือน ต.ค. 2021 ความเป็นจริงเป็นจัง Metaverse ก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ Facebook ค่อยๆขมักเขม้นกับการรุกตลาด AR และ VR เป็นต้นว่าการซื้อกิจการค้า Oculus (เดี๋ยวนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta Quest) เมื่อปี 2014 และปรับปรุงจนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแว่น VR อันดับที่หนึ่งของโลก

แม้กระนั้นการลงทุนใน Metaverse ถือเป็นเรื่องใหม่ รวมทั้งตลาดอาจยังไม่พร้อมขนาดนั้น เพราะถ้าหากดูรายได้ Reality Labs หรือธุรกิจใหม่ของ Meta ที่มีกลุ่ม Metaverse เป็นหนึ่งในนั้น ในไตรมาส 4 2021 กลับทำเป็นเพียง 877 ล้านดอลลาร์ แต่ขาดทุนถึง 3,304 ล้านดอลลาร์ และก็ขาดทุนทั้งปี 2021 กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์

หากไปเทียบกับรายได้ฝั่ง Family of Apps หรือธุรกิจดั้งเดิม ได้แก่ รายได้โปรโมท Facebook และ Instagram ในไตรมาส 4 ทำได้ 32,794 ล้านดอลลาร์ แล้วก็มีกำไรถึง 15,889 ดอลลาร์ ส่วนทั้งปีมีกำไรถึง 56,000 ล้านดอลลาร์ เรียกว่าการเคลื่อน Metaverse อาจยังเกิดเรื่องฝันกลางวันอยู่ถ้าหากมองในเรื่องเม็ดเงิน

พัก Anti-Meta ด้วยการกลับมาเน้นวีดีโอ
จากผลประกอบการที่ไม่สู้ดี ทำให้ค่าหุ้นที่ตกฮวบจนกระทั่ง Meta สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าธุรกิจการค้าต่ำลงเยอะที่สุดด้านในวันเดียว งานนี้ Mark Zuckerberg ถึงกับพูดในงานสัมมนาองค์กรผ่านออนไลน์ว่า "พวกเราจะกลับมาย้ำวีดีโอสั้น เพราะเหตุว่าเป็นแหล่งรายได้สำคัญภายหลังจากนี้"

งานนี้คำศัพท์ในการเล่นเกมเรียกว่า Meta อาจกลับมาใช้กลอุบาย Meta อีกที เพื่อยืนยันการบรรลุผล รวมทั้งมีผลประกอบกิจการที่ออกมางาม กับพักการ Anti-Meta หรือไม่ทำตามอย่างกลยุทธ์ที่บุคคลอื่นทำด้วยการเร่งเครื่องธุรกิจใหม่ และกลุ่ม Metaverse เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต

ยิ่งไปกว่านี้ยังส่งแผนต่างๆเพื่อรั้งพนักงานมากมายให้อยู่ร่วมกับบริษัทให้นานที่สุด ไม่ไหลออกไปร่วมงานกับคู่ปรับ อย่างเช่น การเพิ่มวันหยุดในการดำเนินงาน แล้วก็กระตุ้นให้พนักงานใช้วันลาพักร้อนเพื่อบรรเทา และไม่เกิดอาการ Burnout จนถึงไม่อาจจะรีดสมรรถนะการทำงานออกมาได้เต็มกำลัง

งานหนัก Mark เพื่อทำ Meta ให้ติด Meta
อย่างไรก็แล้วแต่ไม่ใช่งานง่ายที่ Mark Zuckerberg จะมีผลให้ Meta กลับมาเป็น Meta ของธุรกิจ Social Media. ด้วยเหตุว่าอีกทั้งเหตุข้างต้นเช่น วัยรุ่นละเลยการใช้แรงงาน Facebook รวมถึงการใส่ใจเรื่องรายได้มากเกินความจำเป็นกระทั่งทำให้ผู้ใช้อยากย้ายออกไปอยู่ใน Social Media รายอื่น

ไหนจะเรื่อง Apple ที่ส่งฟีเจอร์ Do not Track ไหมให้แอปพลิเคชันต่างๆรู้ว่าผู้ใช้ชอบพอสิ่งไหน วันแล้ววันเล่าใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อทำอะไรบ้าง จนกระทบกับแนวทางการทำตลาดบริการโฆษณาบน Facebook แล้วก็แอปพลิเคชันในเครือ ด้วยเหตุว่าทำเงินจากบริการโปรโมทได้ลำบากขึ้น

และล่าสุดราคาหุ้นของ Meta ยังไม่รู้สึกตัวกลับมา สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจและความเชื่อมั่นในนักลงทุน และก็อาจจะต้องลุ้นกันว่า Meta จะกลับมาได้หรือไม่ เนื่องจากว่าถ้าหากยังไม่ปรับปรุง จังหวะที่รายได้จากฝั่งประชาสัมพันธ์ก็อาจลดลง ผ่านปริมาณผู้ใช้งานที่ไหลไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ

สรุป
Meta บางทีอาจไม่ Meta อีกต่อไปแล้ว เนื่องจาก Facebook เปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มสำหรับคนวัยชรา แม้จะมี Instagram รวมทั้ง Whatsapp คอยช่วยเหลือ แม้กระนั้นนั่นก็ไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนั้นการจูงใจให้คนสมัยใหม่กลับใช้งานเป็นประเด็นสำคัญ รวมทั้งการยินยอมกลืนเลือดด้วยการพัก Metaverse และก็กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงก่อนน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะที่สุด