มาตรการรัฐปลุกประชาชนใช้จ่าย หนุนธุรกิจบัตรรูดปื๊ดโค้งสุดท้ายปลายปี

[Jessicas]

ธุรกิจบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคลคึกคักปลายปี อานิสงส์คลายล็อกดาวน์-มาตรการรัฐกระตุ้นประชาชนใช้จ่าย หนุนชอปปิง ร้านอาหาร โรงแรมเด่น

น.ส.ณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า ได้ประเมินภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลจะเริ่มดีขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นเทศกาลจับจ่ายส่งท้ายปี ที่ปกติจะมีการใช้จ่ายมากกว่าช่วงอื่นๆ โดยนโยบายคลายล็อกดาวน์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในทุกหมวด โดยเฉพาะหมวดชอปปิง ร้านอาหาร ท่องเที่ยว และโรงแรม

ขณะที่ ตลาดสินเชื่อในไตรมาสสุดท้ายนี้ ก็มีแนวโน้มขยายตัว โดยการปล่อยสินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และการใช้ข้อมูลทางเลือกในการวิเคราะห์การปล่อยสินเชื่อ น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการสภาพคล่องในช่วงโควิด-19 รวมทั้งต้องการความสะดวก รวดเร็วในการเข้าถึงบริการสินเชื่อ และช่วยตอบสนองความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเอกสารแสดงรายได้ เช่น กลุ่มอาชีพอิสระ เป็นต้น

สำหรับธุรกิจของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ช่วง 9 เดือนมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 199,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 54,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 128,000 ล้านบาท โดยหมวดใช้จ่ายที่เติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เติบโต 62%, 2.ประกันภัย เติบโต 15%, 3.ตกแต่งบ้านและของใช้ในครัวเรือน เติบโต 8%, 4.ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เติบโต 7%, และ 5. ร้านสะดวกซื้อ เติบโต 6%


ทั้งนี้ หากพิจารณาแนวโน้มพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตร ข้อมูลจากสายงานยุทธศาสตร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึกของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เห็นว่า ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจจึงต้องเร่งปรับตัว โดยยอดใช้จ่ายหมวดช้อปออนไลน์ ดิลิเวอรี่ ประกันภัยออนไลน์ เติบโตสูง, หมวดใช้จ่ายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ซุปเปอร์มาร์เกต ของใช้ในบ้าน ยาและสุขภาพ ยังคงมียอดใช้จ่ายต่อเนื่อง, หมวดท่องเที่ยว เดินทาง และร้านอาหารยังคงได้รับผลกระทบในเชิงลบ ฉต่เริ่มเห็นสัญญาณบวกหลังคลายล็อกดาวน์ ในยอดใช้จ่ายโดยการจองตรงกับโรงแรมในบางจังหวัดท่องเที่ยว

นอกจากนี้ร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี กรุ๊ปและพันธมิตร เพิ่มโอกาสทางการตลาด หาแหล่งรายได้ใหม่ๆ รวมทั้งขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยดำเนินงานควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และการดูแลช่วยเหลือลูกค้าและพนักงานที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ในปี 64 จะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 285,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 142,000 ล้านบาท