รวมข้อมูลการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก ( IVF, In Vitro Fertilization )@@%%

[Naprapats]

     iuiแนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (In Vitro Fertilization, IVF) เป็นเลิศในขั้นตอนการรักษาภาวการณ์มีลูกยากที่มีประสิทธิภาพสูง และอัตราการตั้งท้องเยอะที่สุดจากทุกวิธีในปัจจุบัน วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) จึงแปลงเป็นตัวเลือกแรกๆสำหรับสามีภรรยาที่อยากเป็นว่าที่คุณพ่อและก็คุณแม่ แต่ว่ากำลังเจอปัญหาสภาวะมีลูกยาก แต่แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) จะมีรายละเอียดสำคัญใดบ้างที่ (ว่าที่) คุณพ่อและก็คุณแม่ควรจะทราบ? วันนี้ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. มีคำตอบ



ติดต่อและอ่านรายละเอียดได้ที่ >> ฝากไข่ www.thaisuperiorart.com

     1. แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) เป็นอย่างไร?
     วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก หรือ ที่มักเรียกกันอย่างย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า IVF (In-vitro Fertilization) เป็นขั้นตอนการที่ช่วยให้คู่ที่ไม่อาจจะมีลูกได้เองตามธรรมชาติ สามารถมีลูกได้ ด้วยเทคโนโลยีการปฏิสนธิข้างนอกร่างกาย แนวทางแบบนี้แพทย์จะนำไข่ของฝ่ายหญิงและน้ำเชื้อที่แข็งแรงของข้างชายมาผสมกันให้การเกิดการปฏิสนธิในห้องทดลอง เมื่อไข่กับน้ำอสุจิผสมกันจนกลายเป็น "ตัวอ่อน" ในระยะที่สมควรแล้ว ก็จะย้ายตัวอ่อนดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของข้างหญิง เพื่อให้มีการท้องถัดไป

     2. การทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) ใช้ในกรณีใดบ้าง?
     ต้นเหตุที่มักส่งผลให้สามีภรรยาเผชิญภาวะมีบุตรยากรวมทั้งจำต้องหันมาพึ่งขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก ดังเช่นว่า
     ฝ่ายหญิงมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน
     เยื่อบุมดลูกรุ่งเรืองผิดที่ หรือ chocolate cyst
     ท่อนำไข่ตันหรือถูกทำลาย
     มีการตกไข่เปลี่ยนไปจากปกติ เหตุเพราะภาวการณ์หรือโรคประจำตัวบางอย่างที่ส่งผลให้ระบบฮอร์โมนผิดปกติไป
ข้างชายมีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำอสุจิ อาทิเช่น จำนวนน้อย, รูปร่างผิดปกติ, เคลื่อนที่ไม่ดี เป็นต้น

     3. แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF)  มีขั้นตอนอย่างไร?

     3.1 หารือหมอ

เมื่อใด: สามารถปรึกษาได้ในทุกช่วงของเมนส์

ใช้เวลานานแค่ไหน: 45 – 60 นาที

     ในขั้นตอนนี้ คุณจะได้รับวิธีซักถามประวัติความเป็นมาแล้วก็ตรวจสุขภาพอย่างระมัดระวัง การตรวจอัลยี่ห้อซาวน์มดลูกรวมทั้งรังไข่, ตรวจการดำเนินงานของฮอร์โมน, รวมทั้งการตรวจอื่นๆตามสิ่งที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์รู้เรื่องสภาพร่างกายโดยรวมของคุณ และวางแผนรักษาที่เหมาะสมกับคุณสูงที่สุด

     3.2 การกระตุ้นไข่

เมื่อไหร่: วันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของการมีเมนส์

ใช้เวลานานเพียงใด: 10 – 12 วัน

     เมื่อเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก ลำดับแรกเป็นการกระตุ้นไข่ในรังไข่ให้โตโดยการฉีดยาฮอร์โมน โดยเริ่มฉีดวันที่ 2 หรือวันที่ 3 ของรอบเดือนของคุณ กระทั่งฟองไข่โตได้ขนาด ใช้เวลาประมาณ 9-12 วัน

     ในรังไข่จะมีไข่อยู่ล้นหลาม ในไข่จะประกอบด้วยเซลล์ไข่ หรือ oocyte ในแต่ละรอบเดือน ฟองไข่รวมทั้งเซลล์ไข่จำนวนหนึ่งจะเติบโตกลายเป็นไข่ที่โตเต็มวัย โดยเหตุนั้น เป้าหมายของการกระตุ้นไข่ เป็นการกระตุ้นให้ไข่ที่จัดแจงโตในรอบเดือนนั้นๆโตขึ้นให้ได้มากไม่น้อยเลยทีเดียวที่สุดเท่าที่มีในแต่ละรอบด้วยยา เพื่อเพิ่มช่องทางให้ได้ไข่โตเต็มวัยที่มีคุณภาพสูง

     ระหว่างนี้ คุณจำเป็นต้องมาเจอหมอที่สถานพยาบาลทุกๆ3-4 วัน ในขณะ 10 ถึง 12 วัน เพื่อตรวจเลือดและก็อัลตราซาวด์ ดูว่ารังไข่ตอบสนองต่อยากระตุ้นไข่อย่างไร เมื่อไข่เจริญเติบโตสุดกำลังแล้ว หมอจะให้ฉีดยากระตุ้นการตกไข่ (trigger shot) ที่เป็นฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG) หรือ leuprolide acetate (Lupron) เพื่อช่วยให้ไข่สุกและก็หลุดออกมาจากผนังของฟองไข่ พร้อมสำหรับการเก็บไข่ในลำดับต่อไป

     3.3 การเก็บไข่แล้วก็การเก็บน้ำอสุจิสเปิร์ม

เมื่อไร: 36 ชั่วโมงหลังการฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก

ใช้เวลานานขนาดไหน: 1-2 ชั่วโมง

     ข้างหลังการฉีดยากระตุ้นให้ไข่ตก 36 ชั่วโมง จะเริ่มวิธีการเก็บไข่ โดยใช้อัลตราซาวด์นำเพื่อเห็นไข่แจ่มชัด และใช้เข็มขนาดเล็กใส่ผ่านผนังช่องคลอด เข้าไปในฟองไข่รวมทั้งดูดเก็บไข่ออกมา ตลอดแนวทางการ หมอจะให้ยาสลบ คุณก็เลยแทบจะไม่ทราบสึกเจ็บปวดอะไรก็แล้วแต่ใช้เวลาสำหรับเพื่อการเก็บไข่ประมาณ 15-20 นาที

     ในวันเดียวกับวันเก็บไข่ คู่บ่าวสาวของคุณก็มาเก็บน้ำกาม โดยปกติแล้วเสนอแนะให้ฝ่ายชายเก็บน้ำอสุจิในวันเดียวกับวันเก็บไข่ที่สถานพยาบาล แม้กระนั้นถ้าข้างชายไม่สามารถเก็บอสุจิในวันดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นได้ ก็สามารถมาเก็บน้ำเชื้อก่อน แล้วแช่แข็งน้ำอสุจิไว้ล่วงหน้า แล้วก็ละลายมาใช้ในวันเก็บไข่

     กรรมวิธีการเก็บน้ำกามอสุจิที่ดีเยี่ยมที่สุดเป็นการช่วยตนเอง เพื่อหลบหลีกมิให้น้ำเชื้อปนเปื้อนกับของเหลวอื่นๆของฝ่ายหญิง (ยกตัวอย่างเช่น น้ำลาย น้ำหล่อลื่นช่องคลอด) ซึ่งอาจมีแบคทีเรียปนเปอยู่ ซึ่งอาจมีผลต่อการปฏิสนธิ (fertilization) หรือการเพาะเลี้ยงได้ และหลังจากที่ข้างชายเก็บน้ำเชื้อเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ก็ส่งน้ำอสุจิให้ผู้นักวิทยาศาสตร์ที่รออยู่ในห้องปฏิบัติการ เพื่อตระเตรียมน้ำเชื้อต่อไป

     นักวิทยาศาสตร์จะนำน้ำอสุจิ มาพักไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อน้ำกามละลายตัวให้เหลวก่อน แล้วจะทำปั่นล้างเพื่อเอาอสุจิที่ไม่เคลื่อนและก็เศษเซลล์ต่างในน้ำอสุจิออก และกระทำพินิจพิจารณาคุณภาพน้ำกาม ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่สามารถจะช่วยให้หมอตกลงใจว่าจะทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูกด้วยแนวทาง IVF หรือ ICSI โดยแพทย์จะเลือกกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูกด้วยวิธี IVF ถ้าหากผลน้ำอสุจิปกติ แม้กระนั้นถ้าหากผลน้ำเชื้อมีคุณภาพต่ำยิ่งกว่าค่ามาตรฐาน หมอจะชี้แนะให้ใช้แนวทาง ICSI เพื่อเพิ่มช่องทางให้ไข่และก็สเปิร์มปฏิสนธิได้มากขึ้น

     ในการปฏิสนธิด้วยวิธี IVF อสุจิจะเข้าไปถือกำเนิดกับไข่เอง สำหรับแนวทาง ICSI นักวิทยาศาสตร์จะคัดเลือกสเปิร์มตัวที่แข็งแรงหนึ่งตัวฉีดเข้าไปในไข่ที่โตเต็มวัยโดยตรงเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ แนวทาง ICSI นี้ใช้เวลานานกว่าแนวทาง IVF และจำต้องทำโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความชำนิชำนาญ
ไข่ที่ถือกำเนิดกับน้ำเชื้อแล้วจะถูกเรียกว่า 'ตัวอ่อน'

     3.4 การเลี้ยงตัวอ่อน

เมื่อไร: หลังจากกำเนิดด้วยวิธี IVF หรือ ICSI

ใช้เวลานานแค่ไหน: 5-6 วัน

     ภายหลังที่ไข่และน้ำเชื้อกำเนิดจนกระทั่งแปลงเป็น 'ตัวอ่อน' แล้ว ตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงในห้องปฏิบัติการตรงเวลา 5 – 6 วัน จนถึงพัฒนารวมทั้งเติบโตถึงระยะบลาสโตซิสต์ พร้อมที่จะย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก สำหรับตัวอ่อนที่ไม่สามารถที่จะเติบโตถึงระยะบลาสโตซิสต์นั้นโดยปกตินับว่าเป็นตัวอ่อนที่ไม่แข็งแรง จังหวะฝังตัวในมดลูกน้อย จึงไม่สมควรที่จะนำเอามาย้ายกลับไปสู่โพรงมดลูก แนวทางการเลี้ยงตัวอ่อนเป็นแนวทางการที่ซับซ้อน แล้วก็ประณีตและวิจิตรบรรจงมาก จำเป็นต้องใช้ความชำนิชำนาญและก็ประสบการณ์จากนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน ที่เชี่ยวชาญการใช้งานเครื่องมือเคล็ดวิธีขั้นสูงรวมทั้งกระบวนการจัดการสภาพแวดล้อมภายในห้องปฏิบัติการให้เหมาะแก่การเติบโตของตัวอ่อน

     ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.หน. ใช้ตู้เลี้ยงตัวอ่อน GERI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ข้างในเครื่องติดตั้งระบบกล้องที่มีไว้สำหรับถ่ายภาพจุลทรรศน์ประสิทธิภาพสูง หนึ่งตัวต่อหนึ่งจานเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ช่วยทำให้สามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนได้อย่างละเอียด โดยไม่ต้องขยับจานเพาะเลี้ยงหรือตัวอ่อนเลย แต่ละจานเพาะเลี้ยงเป็นอิสระแยกขาดจากกัน ทำให้สามารถควบคุมรวมทั้งปรับสภาวะแวดล้อมของการเพาะเลี้ยงให้เหมาะสมกับตัวอ่อนแต่ละตัว การใช้ตู้เลี้ยงระบบแยกเลี้ยงนี้ช่วยเพิ่มอัตราการมีท้องเนื่องจากตัวอ่อนสามารถเจริญเติบโตในสภาพการณ์แวดล้อมที่คงที่ผิดก่อกวน  

สำหรับข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนของพวกเรา คลิกที่นี่





     3.5 การย้ายตัวอ่อน

เมื่อไหร่: หลังกรรมวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน

ใช้เวลานานมากแค่ไหน: 2 ชั่วโมง

     ในขั้นตอนสุดท้าย แพทย์จะเลือกตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ ย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ผ่านแนวทางการที่ง่ายและไม่ปวด โดยตัวอ่อนถูกดูดเอาไว้ในสายย้ายตัวอ่อน แล้วก็ใช้อัลตราซาวด์ช่วยนำทางให้มองเห็นปลายสาย ที่ใส่ผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูก ต่อจากนั้นจะฉีดตัวอ่อนเข้าไปฝังตัวที่ผนังมดลูกให้เริ่มเจริญเติบโต

     ราว 7-10 คราวหลังจากการย้ายตัวอ่อน จะทดสอบการตั้งท้อง และประมาณ 2 สัปดาห์ต่อไป ก็สามารถมาตรวจอัลตราซาวด์  เพื่อมองถุงการตั้งท้อง ยืนยันการตั้งครรภ์

     3.6 การแช่แข็งตัวอ่อน

เมื่อไร: ภายหลังจากขั้นตอนย้ายตัวอ่อน

ใช้เวลานานแค่ไหน: 1-2 ชั่วโมง

     สำหรับตัวอ่อนที่แข็งแรงบริบูรณ์ที่ยังมิได้ทำย้ายตัวอ่อน สามารถแช่แข็ง เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต ด้วยวิธีการแช่แข็งตัวอ่อนแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นวิธีที่ลดอุณหภูมิขณะแช่แข็งตัวอ่อนอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องการเกิดผลึกน้ำแข็งในเซลล์ตัวอ่อน ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมของตัวอ่อน กรรมวิธีนี้ช่วยให้ตัวอ่อนถูกเก็บรักษาไว้ได้อย่างยาวนานรวมทั้งคงประสิทธิภาพสูง ถ้าหากรักษาไว้ภายในห้องทดลองที่มีมาตรฐานสูง และควบคุมคุณภาพรวมทั้งติดตามปริมาณไนโตรเจนเหลว ตลอดจนตรวจเช็คความสมบูรณ์ของวัสดุอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ

     แม้คุณต้องการมีท้องอีกที ก็สามารถนำตัวอ่อนแช่แข็งเหล่านี้กลับมาใช้ได้

     4. หมอจะย้ายตัวอ่อนกลับหลายชิ้นน้อยเท่าใด?
     แพทย์จะย้ายตัวอ่อนกลับเยอะๆน้อยเท่าใดนั้น ขึ้นกับความพร้อมของสภาพร่างกายของข้างหญิงรวมทั้งประสิทธิภาพตัวอ่อน  หากเป็นตัวอ่อนที่ได้รับการตรวจโครโมโซมแล้วก็ผลปกติ แพทย์จะแนะนำให้ย้ายตัวอ่อนกลับครั้งละหนึ่งตัว ด้วยเหตุว่าตัวอ่อนที่คุณภาพดี และก็มีโครโมโซมที่ธรรมดา ได้โอกาสมีท้องสูงอยู่แล้ว

     5. กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF)  ไม่มีอันตราย/มีการเสี่ยงเพียงใด?
     แนวทางการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF) มีโอกาสเกิดผลใกล้กันจากการดูแลและรักษาได้ ยกตัวอย่างเช่น ภาวะรังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นไข่มาก (Ovarian Hyperstimulation Syndrome (OHSS), เลือดไหลหรือติดเชื้อข้างหลังการเก็บไข่, มีโอกาสมีท้องแฝด ฯลฯ การเลือกสถานพยาบาล IVF ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องจำเป็น แพทย์จะเลือกแนวทางการรักษาที่ดีเยี่ยมที่สุดในแต่ละราย ตามปริมาณไข่ เพื่อลดจังหวะเกิดภาวะแทรกให้น้อยที่สุด

     6. กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก (IVF)  มีอัตราการบรรลุเป้าหมายเท่าไหร่?
     อัตราความสำเร็จของวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก อยู่ที่ราวๆ 40 – 60% ดังนี้ขึ้นอยู่กับ อายุ, สาเหตุของภาวการณ์การมีบุตรยาก, ตลอดจนลักษณะการดำรงชีวิต ประสิทธิภาพไข่รวมทั้งน้ำเชื้อ ข้างหญิงที่ยังอายุน้อยมีโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายมากยิ่งกว่า แต่ว่าก็มีหลายเคสของผู้เข้ารับการดูแลรักษาที่มีอายุมากรวมทั้งบรรลุความสำเร็จเช่นเดียวกัน การปรึกษาหารือและขอคำแนะนำแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆจะช่วยให้กำหนดแผนการรักษาได้ทันทีทันควัน และเพิ่มจังหวะท้องให้สูงมากขึ้นได้

     7. บทความที่น่าดึงดูดเกี่ยวกับกับ เด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก และก็ IVF
1.กระบวนการทำ ICSI (อิ๊กซี่) คืออะไร? ผิดแผกแตกต่างอย่างไรกับ IVF?
2.วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว ivf iui ฝากไข่ เลือกเพศลูก In Vitro Fertilization (IVF) และก็ Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI)
3.การนำตัวอ่อนแช่แข็งฝังในโพรงมดลูก (Frozen Embryo Transfer: FET)



ที่มา บทความ ivf www.thaisuperiorart.com