• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

เดอบรอยน์หวดชัย แมนซิตี้ทุบเชลซีเฮ12นัดรวด

Started by Fern751, January 17, 2022, 01:16:09 PM

Previous topic - Next topic

Fern751

เรือใบนำโด่งทิ้ง13แต้ม! เดอบรอยน์หวดชัย แมนซิตี้ทุบเชลซีเฮ12นัดรวด
แมนฯ ซิตี้ ยังโชว์ฟอร์มแรงยืดสถิติคว้าชัย 12 นัดรวด หลังเปิดรังทุบ เชลซี 1-0 จากประตูชัยของ เควิน เดอ บรอยน์ พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 56 แต้มหนีห่าง 'สิงห์บลูส์' เพิ่มเป็น 13 คะแนนแล้ว ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา
    ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2564 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูง พบ เชลซี รองจ่าฝูง 

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ เกมนี้มีการเปลี่ยน 11 ตัวจริงจากนัดล่าสุดบางตำแหน่งส่ง แจ็ค กรีลิช ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทำเกมรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น และ ราฮีม สเตอร์ลิง 

    ขณะที่ เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล เกมนี้ต้องส่ง เกปา อาริซาบาลาก้า ลงเฝ้าเสาตัวจริงแทน เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ไปช่วยทีมชาติเซเนกัลลงเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ขณะที่แนวรุกนำมาโดย โรเมลู ลูกากู, ฮาคิม ซิเย็ค และ คริสเตียน พูลิซิช ลงล่าตาข่าย 

    ครึ่งแรกเปิดฉากมาเป็น แมนซิตี้ ที่ครอง.บุกใส่ก่อนตามคาด โดยผ่านไป 7 นาที มาร์กอส อลอนโซ่ แบ็กซ้าย เชลซี ต้องมาเสียใบเหลืองอย่างรวดเร็วจากการไปตัดฟาวล์ใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง 

    โอกาสแรกของ 'เรือใบสีฟ้า' เกิดขึ้นในนาที 14 จากจังหวะเล่นสั้นจากเตะมุมทางฝั่งซ้ายแล้วเป็น แจ็ค กรีลิช ที่เปิด.ไปที่เสาไกลให้ จอห์น สโตนส์ ขึ้นโหม่งเน้นๆ แต่.ไปตรงตัว เกปา รับไว้ได้ไม่ยาก 

    เจ้าถิ่นยังครองเกมบุกใส่ต่อเนื่อง นาที 24 แจ็ค กรีลิช ไหล.ต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ สอดมาซัดตามน้ำด้วยซ้าย.ยังพุ่งไปตรงตัวของ เกปา 

    จากนั้น นาที 39 แมนซิตี้ ชวดโอกาสขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อเมื่อ แนวรับ เชลซี จ่าย.กันพลาดแล้วไปเข้าทางของ แจ็ค กรีลิช หลุดเดี่ยวมาซัดโล่งๆหน้าเขตโทษแต่ เกปา โชว์ซูเปอร์เซฟออกมาปิดมุมได้ใช้เท้าสกัดออกหลังไปได้ 

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ทำให้จบครึ่งแรก แมนซฺตี้ เสมอ เชลซี 0-0

    ครึ่งหลังเล่นมาได้ 2 นาที เชลซี เกือบจะพลิกขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ มัตเตโอ โควิซิช ตัด.ได้จากกลางสนามแล้วแทงทะลุช่องให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเดี่ยวมาปั่นด้วยซ้ายไปติดเซฟ เอแดร์ซอน ปัดมาเข้าทางปืนของ ฮาคิม ซิเย็ค ตามซ้ำดาบสองก็ยังข้ามคาน 

    หลังจากนั้น เชลซี ลุ้นต่อเนื่องในนาที 49 มาร์กอส อลอนโซ่ ลองส่องนอกกรอบด้วยซ้าย.ไม่ตรงกรอบ 

    แมนซิตี้ มาได้โอกาสใกล้เคียงที่จะขึ้นนำอีกครั้ง ในนาที 63 จากจังหวะฟรีคิกหน้าเขตโทษ ก่อนจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ตัดสินใจยิงเองทันทีแต่ไม่ผ่านมือ เกปา 

    เจ้าถิ่นได้ลุ้นต่อีกครั้ง ในนาที 68 จากจังหวะที่ตัด.ได้กลางสนาม.ทะลุมาถึง ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากเข้าเขตโทษแล้วกดด้วยขวา.พุ่งหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว 

    จนกระทั่งนาที 70 ความพยายามของเจ้าถิ่นมาสัมฤทธิ์ผลเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ ลาก.มาจนถึงหน้าเขตโทษแล้วปั่นโค้งด้วยขวาส่ง.เสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงามให้ แมนฯ ซิตี้ นำ เชลซี 1-0 

    นาที 80 แมนซิตี้ เกือบได้ลูกสอง สเตอร์ลิง ไหล.ให้ ฟิล โฟเด้น หลุดมากดด้วยซ็ายหน้าเขตโทษแต่.ปลิ้นหลังเท้าข้ามคานออกไป 

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ ชนะ เชลซี 1-0 ยืดสถิติคว้าชัย 12 นัดรวดพร้อมเก็บเพิ่มเป็น 56 แต้มหนีห่าง 'สิงห์บลูส์' เพิ่มเป็น 13 คะแนนแล้ว 

    

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมริค ลาปอร์กต์, ชูเอา กานเซโล่ - เควิน เดอ บรอยน์ (อิลคาย กุนโดกัน น.85), โรดรี เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา -แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น (กาเบรียล เชซุส น.88), ราฮีม สเตอร์ลิง  

เชลซี (3-4-2-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า - อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ติอาโก้ ซิลวา, มาล็อง ซาร์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่ (เมสัน เมาท์น น.82) - คริสเตียน พูลิซิช (ติโม แวร์เนอร์ น.69), ฮาคิม ซิเย็ค (คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย น.69) - โรเมลู ลูกากู