APCO เผยโค้งสุดท้ายปี 64 กำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดี รุกขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม

[fairya]

APCO เผยโค้งสุดท้ายปี 64 กำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดี รุกขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่ม เน้นเสริมสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อสู้ไวรัส

APCO เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/64 กำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น เร่งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ชูนวัตกรรมภูมิคุ้มกันยกระดับคุณภาพชีวิต รุกขยายฐานลูกค้าทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เน้นเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อสู้ไวรัส ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 64 รายได้รวม 161.92 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47.16 ล้านบาท

ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 4/64 หลังจากที่สถานการณ์ไวรัสโควิดเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เน้นขยายฐานลูกค้าผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อทุกชนิด เพื่อกระตุ้นยอดขายรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรในช่วงที่เหลือของปีนี้

"กลุ่มลูกค้าของ APCO มีการขยายฐานที่กว้างขึ้น เนื่องจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ดูแลปัญหาสุขภาพที่ครอบคลุม จากการวิจัยพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ทั้งนวัตกรรมเพิ่มภูมิคุ้มกัน (Boosting Immunity) สำหรับ HIV/AIDS มะเร็ง วัณโรค ไวรัสตับอักเสบ เชื้อรา และแบคทีเรียที่ดื้อต่อยา อีกทั้งยังมีนวัตกรรมที่สามารถช่วยเรื่องของการย้อนวัย ชะลอวัย และอายุยืน รวมถึงนวัตกรรมปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล (Balancing Immunity) สำหรับแก้ไขอาการ เบาหวาน ข้อ/เข่าเสื่อม ตาเสื่อม SLE รูมาตอยด์ พาร์กินสัน สะเก็ดเงิน และอาการแพ้ภูมิ ตลอดจนเซลล์ที่ติดเชื้ออื่นๆ ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง"

นอกจากนี้ ในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2564 APCO ได้ประกาศความสำเร็จในการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดช่วยผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS ตรวจไม่พบเชื้อ โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และมีสุขภาพแข็งแรงต่อเนื่อง คือมีภาวะ HIV หมดฤทธิ์ (Functional Cure) เป็นครั้งแรกของโลก ผลิตภัณฑ์นี้จะสามารถช่วยผู้มีปัญหาได้กว้างขวางมากขึ้น และจะมียอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 45% ของผลิตภัณฑ์ Operation BIM ทั้งหมด เป็น 60% ในปี 2565

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 55.00 ล้าน และมีกำไรสุทธิ 18.95 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 161.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47.16 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 3/64 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทปรับกลยุทธ์ลดต้นทุนการขาย ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในช่องทางออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งมีการควบคุมต้นทุนทางการตลาด อย่างมีประสิทธิภาพ