• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

🥇งานทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน🥇 Field Density Test👉

Started by hs8jai, July 19, 2024, 02:09:04 PM

Previous topic - Next topic

hs8jai

การทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน (Field density test) เพื่อใช้เปรียบเทียบกับความหนาแน่นสูงสุดของการบดอัดดินที่ได้จากห้องปฏิบัติการ จุดประสงค์ของการทดสอบ เพื่อประเมินความหนาแน่นของดินในสนาม ว่าภายหลังการบดอัดพื้นที่ด้วยเครื่องมือต่างๆ นั้นพื้นที่นั้นมีความหนาแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่คำนวณไว้หรือไม่

โดยทั่วไปการทดสอบหาความหนาแน่นแห้งของดินในสนาม คือ การหาค่าความหนาแน่นเปียกและปริมาณความชื้นเปียกในบริเวณบดอัดด้วยเครื่องจักร ในการทดสอบหาค่าความหนาแน่นของดินในสนาม จะมีอยู่ด้วยกัน สามวิธี คือ

👉👉👉1. วิธีกรวยทรายวิธีนี้ใช้ทรายในการหาปริมาตรของหลุมโดยทรายที่ใช้คือ ทราย Ottawa ซึ่งขนาดของเม็ดทรายจะมีลักษณะกลมและมีขนาดเท่าเท่ากัน (Uniform) หรือจะใช้ทรายที่ผ่านการร่อนตามมาตรฐาน เพื่อที่จะให้ผลของความหนาแน่นที่เท่ากันโดยตลอดและไม่เกิดการแยกตัวของเม็ดหยาบและเม็ดเล็ก (Segregation) ขณะทำการทดสอบ
🥇🥇🥇2. Rubber Balloon Methodวิธีนี้ใช้น้ำในการหาปริมาตรของหลุม ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า ในการทดสอบต้องใช้ลมในการบีบอัดน้ำลงไปในหลุมทดสอบ ลมช่วยให้น้ำในลูกโป่งแนบสนิทกับก้นหลุมและได้ค่าปริมาตรที่แม่นยำ
🦖🦖🦖3. Nuclear Methodเป็นการหาค่าความหนาแน่นของดินและปริมาณความชื้นของดินบดอัดแห้ง หาค่าความหนาแน่นเปียก โดยใช้รังสีแกมม่า (Gamma Ray)ส่งผ่านดินที่ต้องการ ก่อนที่จะไปเข้าเครื่องรับรังสี ถ้ารังสีสะท้อนกลับไปเครื่องรับมาก แสดงว่าดินมีความหนาแน่นสูง ส่วนการหาปริมาณความชื้นโดยใช้นิวตรอน (Newtron)ส่งผ่านเข้าไปในดินและสะท้อนไปยังเครื่องรับช้าแสดงว่าปริมาณน้ำในมวลดินมีมาก วิธีนี้จะสะดวกและรวดเร็วให้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูง
🛒🛒🌏🦖
Quoteบริการ Soil Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Boring Test บริการ เจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 เว็บไซต์: เจาะสำรวจดิน.com
✅✨🛒📌
การก่อสร้างถนน สนามบิน เขื่อน พื้นที่โรงงานต่างๆ จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ตามชนิดและประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง หลังจากบดอัดได้ที่แล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบผลของการบดอัดนั้นว่ามีความแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่ได้ออกแบบคำนวณไว้หรือไม่ เช่น งานชั้นรองพื้นทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100% ชั้นดินเดิมและดินถมต้องบดอัด 95% การบดอัดนี้จะต้องมีการควบคุมความชื้นในดินและพลังงานที่จะใช้ในการบดอัดให้พอเพียงและประหยัด ถ้าบดอัดมากไปจะสิ้นเปลือง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปจะไม่ถึงความแน่นที่ต้องการ

การหาความแน่นของดิน คือ การหาน้ำหนักของดินในบริเวณที่บดอัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หารด้วยปริมาตรของหลุมที่ขุดดินออกมา และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นและความถ่วงจำเพาะที่แน่นอนในการแทนที่ ซึ่งการทดสอบดังกล่าวอาจกระทำได้โดยวิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Sand Cone Method) ช่วยในการทดสอบหรือใช้น้ำ (Balloon Density Method) ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็อาศัยหลักอันเดียวกัน

✅✅✅ขั้นตอนการทดสอบ Field Density Test🎯🎯🎯

📢🌏⚡1. ปรับพื้นผิวทดสอบให้เรียบขนาดประมาณ 450×450 ตารางเซนติเมตร จากนั้นก็วางแผ่นฐานรองให้สนิทกับพื้นดิน แล้วตอกตะปูยึดแผ่นฐานรองให้แน่น ปัดฝุ่นที่ผิวดินและที่แผ่นฐานออกให้หมด
🛒📌🦖2. ใช้สกัด เจาะดินบริเวณตรงกลางแผ่นฐานรองให้มีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และก้นหลุมต้องเท่ากับปากหลุม ใช้ช้อนเล็กตักดินที่ขุด ในกรณีเหลือดินน้อยๆให้ใช้แปรงทาสีปัดเศษดินที่อยู่ในหลุมให้เรียบร้อย
⚡✨🥇3. นำดินที่ได้จากการขุดมาชั่งและจดบันทึกค่าไว้หลังจากนั้น นำดินส่วนหนึ่งที่ขุดได้ไปชั่งเสร็จแล้วนำตัวอย่างดินส่วนหนึ่งไปหาค่าปริมาณความชื้น
📌🦖🎯4. ทำการคว่ำกรวยทรายที่เตรียมไว้แล้วลงบนปากหลุมโดยให้กรวยทรายพอดีกับแผ่นฐานรองแล้วเปิดวาล์ว ระวังอย่าให้เกิดการกระทบกระเทือนในขณะปล่อยทรายลงหลุม เพราะจะทาให้ค่าที่ได้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
⚡✨🥇5. เมื่อทรายหยุดไหล ปิดวาล์วและนำทรายที่เหลือในกรวยไปชั่งน้ำหนักพร้อมกรวย และบันทึกค่า
✅👉📢6. นำทรายที่อยู่ในหลุมใส่ลงในกระป๋องเก็บทรายตามเดิมโดยพยามอย่าให้มีดินที่อยู่ในก้นหลุมติดทรายขึ้นมาด้วย เพราะว่าทรายที่เก็บขึ้นมาจะต้องทดสอบในหลุมอื่นๆ อีกต่อไป
Tags : เจาะสํารวจดิน