8 สิ่งที่คนทำงานประจำ ต้องพบ

[Prichas]

1. อย่าเป็นตัวของตัวเองเกินความจำเป็นในโลกออนไลน์

หลายท่านเชื่อว่าโลกอินเตอร์เน็ตเป็นหลักที่ส่วนตัว จะโพสต์อะไรมันก็สิทธิ์ของพวกเรา แต่ทราบรึเปล่าว่า HR ปัจจุบันนอกเหนือจากการที่จะมอง resume พวกเราแล้ว ยังมองเฟสของเราด้วย เพื่อนพ้องเราที่เป็น HR รับรองมาว่าหน้าเฟสบอกความเป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเราได้มากกว่า

Resume เป็นสิบเท่า สิ่งที่เราโพสลงบนโลกออนไลน์ของพวกเรานั้นส่งผลกับเราตั้งแต่ก่อนเข้างานซะอีก เมื่อเราเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มกำลัง เรื่องพวกนี้ยิ่งต้องระวัง หรือ


ถ้าหากอย า กมีพื้นที่ส่วนตัวจริงๆเสนอแนะให้แยกเฟสที่ทำงาน กับ เฟสส่วนตัวเลย แล้วปิดสาลำธารณพด้วย ยิ่งเรื่องดราม่าในสถานที่สำหรับทำงาน เกลีย ดคนนั้น เบื่องาน หัวหน้าโง่เขลา ห้ามโพสต์เด็ดขาด โพสต์ปุ้บมีคนแคปไปฟ้องแน่นอน

2. ต้องเป็น "ลูกจ้างมืออาชีพ"

ถ้าเกิดอย า กเป็นพนักงานประจำที่ไปถึงเป้าหมายแล้วก็สุขสบาย ควรเป็น "ผู้รับจ้างมืออาชีพ" ให้ได้ ลูกจ้างมืออาชีพก็คือคนที่ตระหนักได้ว่า "พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยค่าแรงปริมาณหนึ่ง"

นั่นถือได้ว่าบริษัทเค้าอยากบางสิ่งจากพวกเราแลกกับค่าแรงนั้นๆเราต้องรู้ดีว่าบริษัทจ้างพวกเรามาทำอะไร แล้วก็ทำมันให้ดีกว่าที่บริษัทคาดหมายหากต้องการความรุ่งเรืองในหน้าที่

ถ้าเกิดงานที่ทำอยู่มีความรู้สึกว่าไม่ตรงกับ skill หรือ passion ของเรา ก็ไม่สมควรอดทนทำไป ควรจะหางานที่พวกเราทำแล้วพวกเรามีความสุขและทำได้ดีเพื่อดึงประสิทธิภาพของตนเองออกมาให้เยอะที่สุด


นอกเหนือจากที่จะทำให้พวกเราเติบโตในองค์กรแล้ว ยังส่งผลให้พวกเราพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาและไม่เบื่อด้วย แต่ก็ไม่ได้จะเชียร์ให้เป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนะ อดทนทำไปจนกระทั่งจุดหนึ่ง

พวกเราจะทราบเองว่าควรจะไปทางไหนต่อ รีบหาสายงานที่ใช่ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วพวกเราจะเป็น Expert ได้เร็วกว่าบุคคลอื่น อายุเท่านี้ไม่ต้องกลัวการลาออก จะลาออกจำนวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าหากในที่สุดพวกเราเจอสายอาชีพที่เรารักและก็อย า กทำ จะเป็นอะไรที่คุ้มมากมาย

รวมทั้ง ด้วยคอนเซ็ปท์เดียวกัน "พวกเราถูกว่าจ้างมาด้วยเงินเดือนปริมาณหนึ่ง" อย่าทำงานหนักเกินกว่าค่าตอบแทนจนกระทั่งเกินไป ทุ่มเทได้ แม้กระนั้นควรจะมีผลที่ดีตามออกมาด้วย ตัวอย่างเช่นได้ปรับค่าจ้างรายเดือน ได้ประเมินดี

หาเวลาอยู่กับบิดามารดา ญาติๆบ้ า ง หันกลับไปดูด้านหลังบ้ า งว่าผู้ที่เป็นบันไดให้เรามายืนจุดนี้ ในช่วงเวลานี้เค้าเป็นอย่างไรกันบ้ า งนะ? อย่าลืมว่าบิดามารดาแก่ลงทุกวัน ดูแลสุ ข ภ า พ ท่านด้วย ถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือก็ตรวจสุ ข ภ า พ ให้แก่คุณแล้วหาเวลาไป มันไม่ทุกข์ยากลำบากหรอก แลกกับความสบายของบิดามารดา

3. มีคนรักในสถานที่สำหรับทำงานได้แต่ว่าต้องยอมรับผลที่ตามมา

ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก แนะนำว่าอย่ามีแฟนในสถานที่สำหรับทำงาน มิได้บอกว่าไม่สมควรคบคนภายในสถานที่สำหรับทำงาน แต่ว่าหากคบรวมทั้งจะต้องเห็นด้วยผลที่ตามมาให้ได้ อาจต้องเจอสถานะการณ์ได้แก่

ทะเลาะเบาะแว้งกับแฟนมาแล้วต้องมาคุยงานกัน มีคนใดกันบ้ า งแยกประเภทเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากงานได้ 100% บ้ า ง ถ้าไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวันหรือดำเนินงานใกล้ชิดก็ยังพอเพียงโอเค แต่ว่าถ้าเกิดทีมเดียวกันบางทีก็อาจจะเมื่อยล้าหน่อย ทะเลาะกันขึ้นมาเมื่อไหร่รู้ทีค่อนบริษัท

4. หาคนที่เป็นมากกว่าเพื่อนผู้ร่วมการทำงานให้เจอ

ความไม่เหมือนระหว่าง "สหาย" กับ "สหายร่วมงาน" เป็นยังไง...? ที่เค้าพูดว่ายิ่งโต ยิ่งหาสหายย า กก็คงจะจริง สมัยประถม การหาเพื่อนพ้องใหม่ไม่ย า กเท่ายุคมัธยม รวมทั้ง การหาสหายในสมัยมัธยมก็ไม่อย า กเท่าตอนเข้ามหาวิทย า ลัย มันมีความหมายว่ายิ่งเราโตขึ้นเยอะแค่ไหน เราจะหาเพื่อนฝูงย า กขึ้นเพียงแค่นั้น และไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการหาเพื่อนฝูงแท้จริงดวงใจคนนึงในสถานที่ทำงานมันย า กมากแค่ไหน นอกเหนือจากที่จะมีเรื่องผล

ทดแทน ทั้งยังตำแหน่ง ค่าจ้างรายเดือน การประเมิน เข้ามาเกี่ยวด้วย หน้าที่หลักของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราคือไปดำเนินการ ไม่ได้ไปทำกิจกรรมสานสโมสรหาเพื่อนพ้อง โดยเหตุนี้วันๆเราจึงจะเจอแค่เพื่อนร่วมกลุ่ม ซึ่งจำนวนมากและก็เป็นการคุยกันแค่เรื่องงานแค่นั้น การมีทีมที่อยู่ด้วยแล้วสนิทใจแบบงี้ พวกเรารู้สึกว่ามันเป็นกำไรชีวิต


พย า ย า มหาคนเหล่านี้ให้เจอในสังคมการทำงาน แล้วพวกเราจะอย า กไปทำงานมากขึ้น ให้พวกเราทดลองถามตัวเองว่า "หากพวกเราลาออกจากที่นี่ เรายังจะอย า กนัดคนนี้ทานข้าวอยู่ไหม...?" ถ้าคำตอบเป็นใช่ ยินดีด้วย คุณพบสหายจริงๆในที่ทำงานแล้วววว

5. สนใจแต่ว่าอย่าตั้งใจลู่วิ่งบุคคลอื่น จุดโฟกัสที่ลู่วิ่งของพวกเรา

เมื่อดำเนินการไปนานๆพวกเราบางทีอาจมองเห็นสหายๆในสถานที่สำหรับทำงานของเราคนจำนวนไม่น้อยเริ่ม ออกไปเรียนต่อ สร้างครอบครัว บางคนเปลี่ยนงานไปงานที่ค่าจ้างรายเดือนสูงสุดๆบางบุคคลเริ่มธุรกิจของตนเอง

ไอคนนั้นคนนี้ได้ดีแล้วตัวเราล่ะทำอะไรอยู่ ควรจดจำไว้ว่าอย่าเอาจังหวะชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเด็ดขาด จุดโฟกัสที่ทางวิ่งของพวกเรา ทราบว่าเรากำลังจะทำอะไร

รู้ว่าที่หมายเราอยากได้อะไร รู้ว่าวันนี้เราประพฤติดีกว่าเมื่อวานนี้แล้วหรือยัง ก็พอเพียงแล้ว แอบดูทางวิ่งคนอื่นๆบ้ า งเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นแรงกระตุ้นตนเองให้พย า ย า มมากขึ้น แต่ว่าอย่าเอามาเปรียบเทียบจนถึงทำให้ตัวเองทุกข์

6. เล่นการเมืองกับทุกคน

เล่นการเมืองกับทุกคนไม่ได้มีความหมายว่าให้เราไม่จริงใจกับผู้ใด แต่ว่าการเล่นการเมืองกับทุกคนคือ.. การที่พวกเราดูว่าคนนี้เป็นคนอย่างไร จะเข้ากับเขาได้เช่นไร มิได้บอกว่าให้สตอเบอร์ปรี่ หรือฝืนตัวเองมากมายๆนะ แต่แต่ละคนเขาก็มีพื้นฐานนิสัย ความพอใจ โตมาในสังคมที่ต่างกัน การที่พวกเราดูแล้วรู้ดีว่าจะ "อยู่ร่วมกับเขาแบบเป็นมิตร"

ได้อย่างไรจะมีผลให้เราดีกว่ามากมายๆนอกจากวางตัวง่ายแล้ว พวกเราจะไม่มีศั ต รู เคสนี้รวมทั้งบางคนที่ดูแล้วผิดจริตกัน การวางตัวกับเขาก็คือเฉยๆทักทายสวัสดีตามมารย า ท ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปคุยก็ไม่ต้องคุย... พวกเราไม่รู้เรื่องหรอกว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงเราเข้าไปดำเนินงานกับใครกันแน่ ด้วยเหตุนั้น อย่าสร้างศั ต รู เด็ดขาด...!!!

7. โดนด่าวันนี้ ดีกว่าโดนด่าทอตอนอายุ 50

ด้วยความที่อายุพวกเรายังน้อยนี่คือข้อดีสุด เพราะว่า อายุยังน้อยความมุ่งหวังจากคนที่อยู่รอบข้างมันเลยน้อยตามไปด้วย ทำอะไรผิดก็มักมีคนยกโทษเสมอ ถึงแม้เราจะรู้สึกกดดันสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานสุดๆแต่ว่าเชื่อเถอะ เราล้มเหลววันนี้ ดียิ่งกว่าพวกเราไปล้มตอนอายุ 50 ถึงวันนั้นจะไร้คนคุ้มกบาลเราด้วย

8. เรามิได้เกิดขึ้นมาเพื่อทำงานอย่างเดียว

เราไม่ได้ปฏิบัติงานแล้วแฮปปี้วันแล้ววันเล่า หลายคราวที่เรากลับไปบ้ า นแล้วอย า กจะลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าหากพวกเรามีเป้าหมายอื่นๆในชีวิต อย่างเช่น คิดบัญชีซื้ อ บ้ า น ซื้ อ รถ ท่องเที่ยวรอบโลก การเปลี่ยนมาทำเรื่องที่พวกเราชอบจะทำให้ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น และก็เพิ่มความแน่ใจ เพราะว่าการเฟลจากที่ดำเนินการส่วนมากมักทำให้พวกเราท้อแท้ใจ

และก็ขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง ส่วนตัวเรามันส่งผลถึงการเข้าสังคม การตัดสินใจในเรื่องงาน แล้วก็อีกเยอะมาก ยกตัวอย่าง พวกเรามีสหายคนนึงถูกใจตัดเย็บเสื้อผ้ามากมาย ขมักเขม้นขนาดลงคอร์สเรียนเส า ร์อาทิตย์ ช่วงนี้ปฏิบัติงานประจำไปด้วย ตัดเสื้อผ้าขายไปด้วย ตั้งอกตั้งใจดำเนินการเกิดเรื่องที่ดี แต่หาอันอื่นทำบ้ า งชีวิตจะได้ไม่เฉาคาที่ทำงาน
ประจำพนักงาน
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13496/