หุ้น เทสล ร่วง 35% นับตั้งแต่

[Jessicas]

หุ้น "เทสลา" ร่วง 35% นับตั้งแต่ "อีลอน มัสก์" ประกาศซื้อ "ทวิตเตอร์"

นับตั้งแต่นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาประกาศที่จะซื้อกิจการของทวิตเตอร์นั้น ราคาหุ้นเทสลาได้ร่วงลงแล้วมากกว่า 35% และปิดตลาดดิ่งลงอีก 3.6% ในวันศุกร์ (4 พ.ย.) สวนทางกับการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กโดยรวม

นายมัสก์ประกาศเป็นครั้งแรกว่า เขาได้ตกลงที่จะซื้อทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2565 ซึ่งในวันนั้น ราคาหุ้นเทสลาปิดตลาดที่ 332.67 ดอลลาร์ และล่าสุดปิดตลาดวันศุกร์ (4 พ.ย.) ที่ 207.47 ดอลลาร์

นายรอน บารอน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของเทสลา, สเปซเอ็กซ์ และทวิตเตอร์ ได้สอบถามนายมัสก์เกี่ยวกับบทบาทความรับผิดชอบใหม่ ๆ ของนายมัสก์ในระหว่างการประชุมด้านการลงทุนบารอน (Baron Investment Conference) ประจำปีครั้งที่ 29 ในวันศุกร์ (4 พ.ย.)

นอกเหนือจากการดูแลบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX), เทสลา (Tesla), นิวราลิงค์ (Neuralink) และเดอะ บอริง คอมพานี (The Boring Company) แล้ว ล่าสุดนายมัสก์เรียกตัวเองว่า "หัวหน้าทวิต" (Chief Twit) และหลังบรรลุข้อตกลงซื้อทวิตเตอร์วงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ นายมัสก์ก็ขึ้นเป็นซีอีโอและผู้อำนวยการของทวิตเตอร์แต่เพียงผู้เดียวอย่างเป็นทางการ

นายมัสก์บอกกับนายบารอนว่า "ภาระงานของผมเพิ่มขึ้นจากประมาณนั้น ผมไม่รู้ว่า 78 ชั่วโมงต่อสัปดาห์และอาจถึง 120 ชั่วโมง" และกล่าวเสริมว่า "ทันทีที่ทวิตเตอร์อยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ผมคิดว่า การจัดการจะง่ายมากกว่าสเปซเอ็กซ์หรือเทสลา"

นายมัสก์ไม่ได้บอกว่าใครอาจจะเข้ามาแทนที่เขาในฐานะซีอีโอของทวิตเตอร์ แม้ว่าเขาได้บอกกับผู้ติดตามบนทวิตเตอร์ว่า ตำแหน่งของเขาในฐานะผู้อำนวยการและซีอีโอของทวิตเตอร์นั้นเป็นเพียงชั่วคราว

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การที่นายมัสก์ได้เป็นเจ้าของทวิตเตอร์นั้น ทำให้บริษัทรถยนต์ซึ่งเป็นคู่แข่งกับเทสลา อาทิ จีเอ็มและออดี้ ระงับการโฆษณาบนทวิตเตอร์ แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งผลกระทบต่อเทสลาอย่างไรในระยะยาว

ทั้งนี้ เทสลาพึ่งพาทวิตเตอร์มานาน และมีผู้ติดตามนายมัสก์จำนวนมากในทวิตเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลไปยังผู้ถือหุ้น และนายมัสก์ใช้ทวิตเตอร์เพื่อโปรโมทบริษัททั้งหมดของเขา ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา และภาพลักษณ์ของตนเองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ นายมัสก์มักจะชักชวนบรรดาผู้ติดตามเขาบนทวิตเตอร์ให้เข้าร่วมในการโจมตีบรรดาศัตรูของเขา เช่น เจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้ง, หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, นักข่าว และผู้ให้การสนับสนุนด้านความปลอดภัยยานยนต์ซึ่งถูกมองว่าวิพากษ์วิจารณ์เทสลามากเกินไป