AMARC หุ้นศูนย์แล็บครบวงจรมาตรฐานสากลพร้อมสยายปีกโต เชื่อเป้ารายได้ปีนี้กลับมาโต

[Shopd2]

AMARC หุ้นศูนย์แล็บครบวงจรมาตรฐานสากลพร้อมสยายปีกโต เชื่อเป้ารายได้ปีนี้กลับมาโตโดดเด่น 20%

AMARC หุ้นน้องใหม่ป้ายแดง เข้าซื้อขายในตลาด mai วันนี้เป็นวันแรก แย้มผลงานปี 65 กลับมาเติบโตโดดเด่น ใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดระบาด พร้อมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนรองรับโอกาสติดปีกโต

โดย AMARC เปิดเทรดวันแรกที่ 4.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือ 48.28% จากราคา IPO 2.90 บาท ปิดเทรดวันเรกที่ 3.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 31.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2,798.19 ล้านบาท

ดร.ชินดนัย ไชยยอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMARC (เอมาร์ค) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้นำหลักทรัพย์เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการบริการทางวิทยาศาสตร์ด้านเกษตร อาหาร ยา ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ การสอบเทียบเครื่องมือ การตรวจสอบ รับรอง ตามระบบคุณภาพและมาตรฐานสากล ด้วยห้องปฏิบัติการที่ประกอบไปด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายแขนง มีกลุ่มลูกค้าหลัก ประกอบด้วยเกษตรกรเพาะปลูก ประมง และปศุสัตว์ ผู้ผลิต โรงงานอุตสาหกรรม โรงงานแปรรูป ผู้จัดจำหน่าย และผู้ส่งออก ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหาร และยา ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อย จนถึงบริษัทชั้นนำของประเทศ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานภาครัฐ

บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมอุตสาหกรรมจะยังขยายตัวได้อีกมาก โดยจะนำจุดเด่นของ AMARC ที่โดดเด่นในด้านความมั่นคงและชื่อเสียง จากการเป็นผู้ให้บริการทางวิทยาศาสตร์มายาวนานกว่า 18 ปี มีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยทำให้สินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทยได้รับการควบคุมคุณภาพ เพื่อร่วมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ วางกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการทดสอบ ตรวจสอบ และรับรอง แบบ Comprehensive Supply Chain Service สำหรับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นผู้ให้บริการจากลูกค้า สามารถรักษาฐานลูกค้ารายเดิมในอัตราที่สูง

โดยผลประกอบการปี 2565 คาดว่ารายได้จะกลับมาเติบโตได้ที่ระดับ 20% ใกล้เคียงกับการเติบในช่วงก่อนการระบาดของโควิด สนับสนุนให้ความสามารถในการสร้างรายได้ และกำไรสูงขึ้น ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น รองรับงานโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรในอนาคตให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เป็นอีกหุ้นที่อยู่ในช่วงเติบโต และอยู่ในใจนักลงทุนในระยะยาวได้