• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Shopd2

#9736
น้ำมันว่านจูงนาง   ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยม ให้ทุกขวด  ขวดละ 399 บาท


 หุงด้วย น้ำมันบารมีครู 108 มหามงคล (น้ำมันแช่เหล็กไหลไพลดำ น้ำมันว่านไก่แดง น้ำมันว่าน 108 น้ำมันเกราะเพชร น้ำมันจักรพรรดิ น้ำมันชาตรี มวลสารมหามงคล 108 รัตนชาติฐานรองพระธาตุพระสีวลี )  

ช่วยในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์และโชคลาภ

คาถากำกับ     ปาสุอุชา จิตตังภิกขิรินิเม    ท่อง  9 จบ

แล้วอธิษฐานใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ว่านจูงนางนักเลงชาย หญิง แต่โบราณ ชอบสาว ชอบหนุ่มใด มักจะเอาดอกเอาต้นว่านไปแช่น้ำมันจันทร์บ้างน้ำมันเสน่ห์ต่างๆหรือผสมกับสีผึ้งใช้ติดตัวทางปาก ทาหน้าทางมือ เพราะมีความเชื่อว่าว่านจูงนางนี้มีพลังเสน่ห์เมตตามหานิยมรุนแรง ต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน ชักจูงได้ง่าย ทำให้อีกฝ่ายคล้อยตามง่าย เชื่อง่าย และยังกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้เกิดความหลงใหลได้อย่างง่ายดาย และว่านจูงนางนี้ยังสามารถช่วยให้เจรจาค้าขายกับผู้คนต่างๆอย่างได้ผลพ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจมักมีติดตัวไว้ใช้กัน

 ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลย

หรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
 https://www.lazada.co.th/products/-i1162308605-s2732826682.html?search=store?spm=a2o4m.10453683.0.0.10b96d16q6OJEJ&search=store 
#9738
สนใจสอบถามข้อมูล ทางนี้เลย
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8
#9741
ติดต่อเรา  081-355-9481 ค่ะ คุณแพรค่ะ 24 ชั่วโมง 
ไลน์ไอดี : pearlukpee  สะดวกทางไลน์มากที่สุดค่ะหรือเบอร์โทร  ทักไลน์ตอบ 24 ชั่วโมง
#9743
ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดบวก 26.60 จุด รับแรงซื้อหุ้นพลังงาน

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้สกัดแรงบวกของตลาด

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,243.90 จุด เพิ่มขึ้น 26.60 จุด หรือ +0.37% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,535.10 จุด เพิ่มขึ้น 19.30 จุด หรือ +0.26%

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 9.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 94 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า หากรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ในกลุ่มโอเปกพลัส ตัดสินใจบุกโจมตียูเครน ก็จะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก

ทั้งนี้ หุ้นวู้ดไซด์ ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 3.6% หุ้นซานโตส ทะยานขึ้น 4% หุ้นบีช เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 9.4%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองทองคำพุ่งขึ้น 5.3% นำโดยหุ้นนิวเครสท์ ไมนิ่ง และหุ้นนอร์เธิร์น สตาร์ รีซอสเซส พุ่งขึ้น 4.3% และ 5.9% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 0.4% ตามทิศทางดัชนี Nasdaq ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยหุ้นซีโร ผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายใหญ่ของออสเตรเลีย ร่วงลง 1.5%
#9745
กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ร่วงกังวลปัญหาชิปขาดแคลนหากเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลง 2.35% หรือ 139.56 จุด เมื่อเวลา 11.28 น. หลังจากกังวลเกิดสงครามรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้เกิดขาดแคลน Chip ที่ทั้งยูเครนและรัสเซียเป็นซัพพลายเออร์ นำโดย

KCE ปรับลง 2.93% หรือ 1.75 บาท มาที่ 58.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 909.84 ล้านบาท

HANA ปรับลง 2.46% หรือ 1.50 บาท มาที่ 59.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 310.06 ล้านบาท

DELTA ปรับลง 2.24% หรือ 9.00 บาท มาที่ 393.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 150.13 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นลบต่อกลุ่ม Electronic จากความกังวลว่าหากเกิดสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียจะทำให้มีปัญหา supply chain disruption ในกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน electronic เพราะทั้งยูเครนและรัสเซียเป็น supplier วัตถุดิบในการผลิต

ข้อมูลจาก Techcet research พบว่ากว่า 90% ของ semiconductor-grade neon gas ที่ใช้ในสหรัฐนำเข้าจากยูเครน และ 35% ของแร่ palladium ที่ใช้ในสหรัฐนำเข้าจากรัสเซีย โดยวัตถุดิบทั้ง 2 เป็นส่วนสำคัญในการใช้ผลิต chip ดังนั้น สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน electronic ในไทย สอดคล้องกับตลาดอเมริกา

โดยเราแบ่งเป็น 2 สาเหตุ 1.supply chain disruption จะส่งผลให้ปัญหา chip shortage ยืดเยื้อออกไป 2.หากเกิดสงครามจะส่งผลให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเงินเฟ้อ และการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับมาตรการดอกเบี้ยในช่วงมีนาคมนี้ ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นจะยังเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไป

แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่ม electronic ในช่วงนี้ไปก่อน คาดหุ้นที่จะได้รับผลกระทบเรียงจากมากไปน้อย คือ 1.HANA (ซื้อ/เป้า 105.00 บาท) 2.DELTA (NR) 3.KCE (ซื้อ/เป้า 80.00 บาท) 4.HTECH (ซื้อ/เป้า 9.50 บาท)
#9746
BIZ แจกข่าวดี! ได้งานใหม่มูลค่า 423 ลบ. ประเมินปีนี้มีโปรเจคเปิดประมูลไม่ต่ำกว่า 1.5 พันลบ.

BIZ แจกข่าวดีรับปีขาล เซ็นสัญญาขายเครื่องฉายรังสีให้กับโรงพยาบาลรัฐ มูลค่า 423 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่นแล้ว) ประเมินปี 65 มีโปรเจคใหม่เปิดประมูลไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท หนุนธุรกิจโตต่อเนื่อง พร้อมลุย โรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เร่งผลักดันให้เป็นศูนย์กลางด้านการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งชั้นนำของภูมิภาคตะวันออก

นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BIZ) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เครื่องฉายรังสีโรคมะเร็ง ให้กับหน่วยงานภาครัฐ มูลค่า 423,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอากรอื่นแล้ว) ซึ่งมีระยะเวลาของสัญญา 518 วัน

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีโครงการต่างๆรอประมูลอีกหลายโครงการที่เป็นขนาดกลางและใหญ่ของทางภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ที่จะมาช่วยสนับสนุนผลงานผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ในส่วนของธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 65% ยังมีการพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการต่อยอดรักษาผู้ป่วยจากวิธีการฉายรังสี และเคมีบำบัด ควบคู่กับการรักษาร่วมกับการรักษามาตรฐาน และแนวโน้มในปี 65 จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็งที่จะเข้ามาใช้บริการ เพื่อเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ หลังจากโรงพยาบาลฯ ได้เปิดแผนกกัญชาเพื่อการแพทย์ โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ยังเร่งผลักดัน โรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้ก้าวเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งชั้นนำของภูมิภาคตะวันออก ซึ่งจะช่วยสนับสนุน และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

 
#9747
UAC เป้าปี 65 รายได้ 2 พันลบ.EBITDA กว่า 420 ลบ.ลงทุน 500 ลบ.เน้นพลังงานสะอาด

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกล. (UAC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 65 แตะระดับ 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯยังตั้งเป้ารักษาระดับอัตรากำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่า 420 ล้านบาท ของรายได้ยอดขายรวม

โดยภาพรวมเศรษฐกิจในปี 65 มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น และ UAC ก็มีการปรับกลยุทธ์การทำงานผ่านระบบออนไลน์จนสามารถทำงานในแบบ Remote Working อีกทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ต่อยอดมาจากสารปรับปรุงดินที่เป็น By-Product จากโรงงานก๊าซชีวภาพ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ ด้านการลงทุนในรูปแบบใหม่ อาทิ สกุลเงินดิจิทัล (Digital Currency) เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับบริษัทที่หลากหลายมากขึ้น

ในปีนี้บริษัทวางยุทธ์ศาสตร์ทางธุรกิจ เพื่อการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจด้านพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทน ควบคู่ไปกับการการเร่งขยายการตลาดในส่วนของธุรกิจเทรดดิ้ง ไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น อาทิ โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี พลังงานและเคมีภัณฑ์

พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) และการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมทั้งยังมองหาโอกาสการลงทุนร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่ง รวมถึง ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่กำลังพัฒนา อาทิ สารปรับปรุงดิน โรงไฟฟ้า การเข้าเป็นที่ปรึกษากับพันธมิตรในด้านโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ

แผนการลงทุนของบริษัทในปีนี้ว่า UAC ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับรองรับการลงทุนโครงการต่างๆ อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชน ธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจ EV Charging Station เพื่อมุ่งเน้นนโยบายการลงทุนด้าน Energy Efficiency ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานในอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น อยู่ระหว่างรอการเซ็นอนุมัติ PPA จากภาครัฐ ซึ่งหากมีการเซ็น PPA เรียบร้อยสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ และรับรู้รายได้ในปี 65 นี้ เนื่องจากการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และวิสาหกิจชุมชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ส่วนความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ขนาด 6 เมกะวัตต์ ที่นครเวียงจันทน์ของสปป.ลาวนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง หลังจากโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตพลังงานทดแทนและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 64 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พร้อมกันนี้ แผนการขยายธุรกิจเทรดดิ้งในปีนี้ UAC มีการวางกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่การเป็น Service Provision เช่น การให้คำปรึกษาหลังการขาย และการทำการตลาดแบบ Customer Centric เพื่อลดความเสี่ยงของความผันผวน อันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด -19 เพื่อรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ในการขายสินค้าให้อยู่ที่ระดับ 20-22 % รวมทั้งการบริหารต้นทุน Inventory ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามกรอบของ Sustainable Development ที่วางไว้

ขณะที่ความคืบหน้าการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) และพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีน้ำมัน ซึ่งคาดว่าสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ในปี 65 จะติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบชาร์จไฟแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC EV Quick Charger) ที่มีขนาดสูงสุดถึง 200 KW เฟสแรก จำนวน 4 สถานี 12 หัวจ่าย

นอกจากนี้ UAC มีแผนในการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้ โดยจะจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนในปีนี้ไว้หลากหลาย อาทิ แผนการออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท และเงินกู้จากธนาคาร ซึ่งสถาบันการเงิน โดยรักษาระดับอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 1.5 เท่า
#9748
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299

สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#9749
EPG แจง Q3 ปี 64/65 กำไรโต 13.6% คาดงบโค้งสุดท้ายงวดปียอดขายทะลุเป้า

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องของโลก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศยังคงมีความแตกต่างกัน ในสหรัฐอเมริกาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทำได้รวดเร็ว สำหรับไทยเมื่อช่วงปลายปี 64 รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ปัญหาการขาดแคลนชิปในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Semiconductor Shortage) การปรับขึ้นราคาพลังงาน และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังคงเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 ปีบัญชี 64/65 (ต.ค.-ธ.ค. 64) บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,944.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,593.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.6% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31.4% และมีกำไรสุทธิรายไตรมาสที่ 402.0 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 433.4 ล้านบาท หรือ ลดลง 7.2%

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 773.7 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 19.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับยอดขายในประเทศทยอยฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 แม้ว่าการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ขณะที่ยอดขายจากต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ยุโรป และ สหรัฐอเมริกาปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา ได้รับประโยชน์จากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM มีรายได้จากการขาย 1,417.5 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 9.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเติบโตตามอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ต้องการใช้ยานยนต์ส่วนตัวแทนระบบขนส่งสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะซึ่งใช้งานอเนกประสงค์ อย่างไรก็ตามยอดขายของกลุ่มบริษัท แอร์โรคลาส ยังคงได้รับผลกระทบจากความล่าช้าจากกระบวนการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

สำหรับธุรกิจในออสเตรเลีย ยอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งยานยนต์ ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เริ่มเห็นการชะลอตัวจากไตรมาส 2 ปีบัญชี 64/65 (ก.ค.-ก.ย. 64) เนื่องจากผลกระทบของมาตรการปิดเมืองในบางพื้นที่เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 และความล่าช้าจากการส่งมอบรถยนต์ใหม่เนื่องจากชิปขาดแคลน (Semiconductor Shortage)

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มีรายได้จากการขาย 753.3 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 15.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภคในยุควิถีใหม่ (New Normal) ที่นิยมสั่งอาหารแบบ จัดส่งถึงที่ (Delivery) หรือซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น

บริษัทมีต้นทุนขายสินค้าเพิ่มขึ้น 16.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลจากราคาวัตถุดิบกลุ่มปิโตรเคมีบางประเภทปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในหลายประเทศเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยจากราคาวัตถุดิบมีราคาเหมาะสม สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 30.3% มาจากค่าขนส่งของกลุ่มแอโรเฟลกซ์ และ กลุ่มแอร์โรคลาส รวมถึงการเพิ่มร้านค้าสาขา TJM และการเพิ่มบุคลากรในออสเตรเลีย เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ 83.7 ล้านบาท จากการฟื้นตัวตามกลุ่มอุตสาหกรรมฉนวนกันความร้อน/เย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปีบัญชี 64/65 (เม.ย.-ธ.ค. 64)บริษัทมีรายได้จากการขาย 8,858.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,264.3 ล้านบาท สูงขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายเฉลียว ยังคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีบัญชี 64/65 (ม.ค.-มี.ค. 65) มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นเกินกว่าเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท จากอุปสงค์ของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
#9750
ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่น ALPHAX พร้อมใจใช้สิทธิแปลง ร่วม 600 ล้านบาท! ลุยต่อยอดธุรกิจกัญชงกัญชา-อสังหาฯ-Fin-Tech ปักหมุดปี 65 รายได้พุ่งทะลัก 200%
 Facebook 

ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นใน บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX) พร้อมใจใช้สิทธิแปลงสภาพ W3 คิดเป็นมูลค่ารวมราว 600 ล้านบาท ฟากซีอีโอ "ธีร ชุติวราภรณ์" ระบุสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น ช่วยสนับสนุนศักยภาพฐานทุนให้แข็งแกร่ง สำหรับเงินที่ได้จะนำไปรองรับแผนรุกขยายธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจกัญชง-กัญชา และ Fin-Tech พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 65 เติบโตกว่า 2 เท่าตัว

นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือแสดงความจำนงของผู้ถือหุ้น ในการใช้สิทธิในการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ ครั้งที่ 3 หรือ "OCEAN-W3 ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ ระหว่างวันที่ 27 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ 1 บาทต่อหุ้นโดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1ต่อ 1 โดยมีผู้ถือหุ้นได้แจ้งความจำนงใช้สิทธิครบเรียบร้อยแล้ว

"การที่ผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิแปลงสภาพรวมราว 600 ล้านหน่วย สะท้อนให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ซึ่งภายหลังการแปลงสภาพในครั้งนี้ทำให้บริษัทฯได้รับเงินมูลค่ารวม 600 ล้านบาท ช่วยสนับสนุนฐานทุนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และเงินที่ได้บริษัทฯมีแผนที่จะนำไปต่อยอดธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจกัญชง-กัญชา , อสังหาริมทรัพย์ และ Fin-Tech ช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดพร้อมกับให้ผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นในอนาคต"

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจใน ปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 200% ทั้งนี้จะมุ่งเน้นพัฒนาทั้ง 3 ธุรกิจ โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เตรียมจะเปิดตัวโครงการที่เน้นไปทางแนวราบ และโครงการอาคารสำนักงานเพื่อเช่า คาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 4-5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยยังคงมองหาที่ดินที่สามารถพัฒนา Product ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า

ขณะที่ ธุรกิจกัญชง-กัญชา คาดว่าจะได้ใบอนุญาตการสกัดภายในไตรมาส 1/2565 และจะเร่งเปิดตัวลูกค้าที่เป็นพันธมิตรเพื่อเร่งวิจัยและพัฒนาสารสกัดให้พร้อมสำหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เป็น Industrial scales ซึ่งที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนธุรกิจไฟแนนซ์ที่ สปป.ลาว บริษัทฯได้วางเป้าหมายเบื้องต้นไว้ว่าจะเข้าไปทำการตลาดให้มากขึ้น รวมทั้งขยายผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งแต่ละปีจะมีกำไรจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท