• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chanapot

#9481
สำนักงานบัญชี เอทีเอส บริการบัญชีและภาษี
1158/14  ซอยจันทน์ 37/1  ถนนจันทน์  แขวงทุ่งวัดดอน  เขตสาทร  กรุงเทพฯ 
สนใจติดต่อคุณสมบูรณ์ 089-793-5707 , 02-212-3064
Email : ats_audit@hotmail.com

สำนักงานบัญชี , รับทำบัญชีถนนจันทน์ , รับทำบัญชีบางคอแหลม , รับทำบัญชียานนาวา , รับทำบัญชีพระราม 3 , รับทำบัญชีสาทร , รับทำบัญชีบางรัก ,รับทำบัญชีทุ่งมหาเมฆ , รับทำบัญชีสีลม , รับทำบัญชีศาลาแดง , รับทำบัญชีพระราม1 , รับทำบัญชีสยาม , รับทำบัญชีเพลินจิต , รับทำบัญชีชิดลม , รับทำบัญชีปทุมวัน , รับทำบัญชีเซ็นหลุยส์ , รับทำบัญชีสาธุประดิษฐ์ , รับทำบัญชี , รับทำบัญชีรายเดือน , รับทำบัญชีรายปี , ตรวจสอบบัญชี , ตรวจสอบบัญชีบริษัทจำกัด , ตรวจสอบบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด
#9482



สอวช. จับมือ วช. และ มจธ. เดินหน้าพัฒนาระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และพัฒนากลไก ในการขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม

 นอกจากนี้ ยังเป็นการร่วมพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรด้านการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในการเพิ่มขีดความสามารถและการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมของประเทศ และเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ให้เกิดเครือข่าย การวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย ที่จะนําไปสู่การร่วมกําหนดและผลักดันนโยบาย ววน. ร่วมกันได้อย่าง มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล

โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมด้วย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ (ระบบ ZOOM)

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวถึงการเชื่อมโยงบทบาทของ วช. กับนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศในฐานะ PMU ด้วยว่า การมี กระทรวง อว.เกิดขึ้นในส่วนของการรวมกลไกหลักสำคัญของประเทศ ทั้งในเรื่องของการอุดม วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและต้องมีความเข้าใจอย่างมาก สำหรับทีมงานของ วช.ที่ต้องเข้าไปสัมพันธ์กับรูปแบบการทำงานที่มีความเชื่อมโยงทั้งเรื่องเชิงระบบ เชิงกลไก เชิงแผนงาน และการนำส่งผลสำเร็จผลลัพธ์ของงาน อย่างไรก็ตาม การที่จะขับเคลื่อนงานให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพสิ่งหนึ่งคือการเชื่อมต่อในเชิงนโยบาย

สำหรับบทบาทของ PMU ที่ วช.ให้ความสำคัญคือนโยบายและยุทธศาสตร์ อววน.ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ในส่วนของการลงนามวันนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตัวสมรรถนะของความเข้าใจของบุคลากร วช. ในเรื่องของการพัฒนานโยบาย ววน.มีความเข้มแข็ง สามารถเข้าไปทำความใจระบบใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ


ด้าน ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผอ.สอวช.กล่าวถึง ความสำคัญของระบบและนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ว่า การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่เกิดขึ้นขณะนี้ที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ก็เพื่อให้ระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) มีความเข้มแข็งมากขึ้น ในส่วนของการจัดการนั้นจะต้องดำเนินการในเชิงระบบให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้ง ววน.จะต้องมีมากกว่างานวิจัย และต้องไปถึงการพัฒนาที่มีฐานความรู้ทั้งจากงานวิจัยและนวัตกรรม โดยจะต้องมีการถ่ายทอดให้ความรู้ลงไปถึงกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น


ขณะที่ รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึงงนวัตกรรมหลักสูตรเพื่อส่งเสริมสมรรถนะของบุคลากรในการบริหารการวิจัยของประเทศด้วยว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความสำคัญอย่างมาก ในการบริหารจัดการงานวิจัยให้ตอบสนองนโยบายของประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลักสูตรการพัฒนาบุคลากร ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่มีการคิดอย่างตนวางระบบที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
#9484
ค่าเช่า 30,000 บาท/เดือน 
ติดต่อ คุณ จิรเมธ นะมิ
เบอร์ 099.461.1840
@line: chiramathe.nami

อาคารพาณิชย์ ชั้นเดียว ทำเลดี ด้านหน้าติดกับถนนใหญ่ สุขุมวิท 77 เขตประเวศ กทม


เหมาะสำหรับทำการค้า สำนักงานเชิงพาณิชย์ 

เนื้อที่ขนาด 180 ตารางเมตร หน้ากว้าง 9 เมตร ลึก 20 เมตร 

ด้านหน้าอาคารติดกับถนนใหญ่ สุขุมวิท 77 ด้านข้างอาคารติดกับ ร.พ.วิภารามอ่อนนุช ขนาด 400 เตียง 19 ชั้น 

และซอย อ่อนนุช 78 ภายในอาคารในมี ห้องโถงขนาดใหญ่ 1 ห้อง ห้องกระจก 3 ห้อง ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง

ค่าเช่า 30,000 บาท/เดือน 
- สัญญา 2 ปี 
(สัญญาเช่า 2 ปี = จ่ายเงินประกัน 2 เดือนและค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน เข้าอยู่ได้เลย)

พื้นที่
ขนาด 180 ตารางเมตร หน้ากว้าง 9 เมตร ลึก 20 เมตร
ภายในอาคารในมี ห้องโถงขนาดใหญ่ 1 ห้อง ห้องกระจก 3 ห้อง ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง

ทำเลที่ตั้ง
บ้านเลขที่ 39/15 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม 10250

สถานที่ใกล้เคียง
-ร.พ.วิภาราม อ่อนนุช
-เทสโก้โลตัส อ่อนนุช
-ไปรษณีย์อ่อนนุช
-สวนหลวง ร.9
-Seacon square
-Paradise park

ติดต่อ คุณ จิรเมธ นะมิ
เบอร์ 0994611840
@line: chiramathe.nami

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=73&t=7827111


























#9486



ถือได้ว่าการปล่อยอัลบั้มเต็มครั้งแรกในชีวิตของ มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ กับอัลบั้ม "365" (Three Six Five) ในวันแรกบน iTunes ช่างร้อนแรงและสั่นสะเทือนทุกชาร์ตของ iTunes ทั่วโลก เพราะหลังจากที่ปล่อยอัลบั้มออกมาในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ทั้งตัวอัลบั้มและเพลงต่างๆ ล้วนทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 และ Top10 ในหลายประเทศทั่วโลก

และยังเป็นเพียงศิลปินไทยหนึ่งเดียวที่สามารถพุ่งทะยานเข้าสู่ อันดับ 13 Global Digital Artists Rankings ท่ามกลางศิลปินอินเตอร์ระดับโลกในอันดับ Top20 นี้

เรียกได้ว่า มิว ศุภศิษฏ์ สร้างสถิติใหม่อันน่าทึ่งขึ้นอีกครั้ง กับการปล่อยอัลบั้ม "365"(Three Six Five) บน iTunes เพราะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนคลับทั่วโลก จนสามารถไต่อันดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ Top10 และติดอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในส่วนของตัวเพลงในอัลบั้ม และตัวอัลบั้มเอง

ดูได้จากชาร์ตล่าสุดในตอนนี้ที่เพลงฮิตมาแรงน่าจะเป็น Drowning ขึ้นอันดับ 1 ทั้งของประเทศไทยและในหลายที่ เช่น สิงคโปร์, ไต้หวัน, มาเลเซีย และยังทะยานขึ้นสู่ชาร์ตต่างๆ ในอีกกว่า 28 ประเทศทั่วโลก และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ การเข้าสู่อันดับที่ 13 บน Global Digital Artists Rankings ที่ยังไม่เคยเห็นมีศิลปินไทยได้ขึ้นมาสูงผ่านเข้ามาในอันดับ Top20 ได้


ก็ต้องเรียกว่าการที่ มิว ศุภศิษฏ์ ขึ้นมาสู่อันดับ 13 อยู่ท่ามกลางศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายในชาร์ตนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องอย่างสุดๆ และนับว่าแฟนคลับต่างภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่มีศิลปินไทยสามารถเข้าสู่ชาร์ตนี้และติด 1 ใน Top20 ได้ ถือว่าได้รับการยอมรับในการเป็นศิลปินอย่างเต็มตัวจากอัลบั้มนี้

นี่ถือเป็นเพียงก้าวแรกของ อัลบั้ม "365" (Three Six Five) เท่านั้น เพราะในวันที่ 1 สิงหาคม จะสามารถฟังอัลบั้มนี้กันได้แบบเต็มๆ ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ถึงเวลานั้น สถิติต่างๆ น่าจะเกิดการขยับขึ้นอีกครั้ง.
#9489



"เมย์" รัชนก อินทนนท์ ตบขนไก่สาวขวัญใจชาวไทย ทำเสียวเล็กน้อยเมื่อเสียเกมแรกให้กับ โซเนีย เชี๊ยะ จากมาเลเซียไปก่อน แต่สุดท้ายสามารถพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 2-1 จบแชมป์กลุ่ม เอ็น เข้ารอบน็อคเอาต์ไปเจอนักแบดมินตันอินโดนีเซีย

การแข่งขันแบดมินตันในกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันพุธที่ 28 กรกฎาคม 2564 เป็นการแข่งขันกันในวันที่ 5

ประเภทหญิงเดี่ยว "เมย์" รัชนก อินทนนท์ ขนไก่สาวขวัญในชาวไทย มืออันดับ 6 ของโลก ลงเล่นแมตช์สุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ็น พบกับ โซเนีย เชี๊ยะ มือ 35 ของโลกจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งใครจะชนะเกมนี้จะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ทันที

เกมแรก โซเนีย เชี๊ยะ เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม อาศัยการเล่นที่เหนียวแน่น ขณะที่ รัชนก ตีผิดพลาดเองอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ขนไก่สาวมาเลเซียเก็บเกมแรกไปได้ก่อน 21-19 ขึ้นนำ 1-0

เกมสอง รัชนก อินทนนท์ แก้เกมของตัวเองมาได้ดี ตีผิดพลาดน้อยลง และมีเกมบุกที่หลากหลายขึ้น ก่อนจะเบียดเอาชนะในช่วงท้ายไป 21-18 คะแนน ตีเสมอ 1-1

เกมตัดสิน โซเนีย เชี๊ยะ ดูจะมีความฟิตที่เป็นรอง เคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าในสองเกมแรก ทำให้ รัชนก อินทนนท์ เล่นได้ง่ายขึ้น บุกใส่สาวจากมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเป็นขนไก่สาวจากไทยที่เก็บเกมนี้ไปได้ 21-10 คะแนน

ส่งผลให้ รัชนก อินทนนท์ พลิกกลับมาเอาชนะ โซเนีย เชี๊ยะ 2-1 เกม 19-21, 21-18, 21-10 จบแชมป์ของกลุ่ม เอ็น ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปพบกับ เกรกอเรีย มาริสกา ทันจุง มือ 23 ของโลกจากอินโดนีเซีย โดยจะแข่งขันในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
#9490



กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)เตือนสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ ขณะที่มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีคนจนเพิ่มขึ้น ผู้คนออกมาชุมนุมประท้วงเพราะปัญหาปากท้องกันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เกิดปัญหาความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น

ไอเอ็มเอฟ ออกรายงานเตือนเมื่อวันอังคาร(27ก.ค.)ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินอยู่แต่ก็ยังคงมีความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้า ตลาดเกิดใหม่หลายประเทศและประเทศกำลังพัฒนา เพราะการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ที่ไม่เท่าเทียมกัน และการขาดการสนับสนุนด้านงบประมาณ

รายงานเตือนของไอเอ็มเอฟฉบับล่าสุด มีขึ้นหลังจากประมาณกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในคิวบา ที่เป็นอีกประเทศหนึ่งที่พึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ต้องเผชิญภาวะชะงักงันจากวิกฤตโรคระบาด จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชน

ชาวคิวบานับหมื่นคนออกมาเดินขบวนประท้วงในหลายเมือง เพื่อแสดงความไม่พอใจการบริหารจัดการของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลนำมาใช้ได้สร้างความยากลำบากให้ชาวคิวบา ก่อให้เกิดความไม่พอใจสะสมจนนำมาสู่การชุมนุมประท้วง

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุจลาจลและปล้นสะดมร้านค้าในหลายประเทศของแอฟริกาใต้ โดยมีสาเหตุมาจากความไม่พอใจที่รัฐบาลไม่เร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน รวมทั้งความยากลำบากและความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นจากเศษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคโควิด-19 ระบาดจำนวน จนส่งผลให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 77 ราย

รายงานฉบับนี้ของไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะทำให้ความสามารถในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วกับกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยแตกต่างกัน

"ประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์และมีผู้ติดเชื้อโควิด-19จำนวนมากอาจจะไม่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าที่วางไว้ และสิ่งนี้จะทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)โลก ภายในปี 2568"กีตา โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ ระบุ
#9491
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th/

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#9492
 App "มีตังค์" ทำจริงจัง ก็ได้เงินจริงนะ ไม่จกตา สร้างรายได้หลักแสน หลักล้าน อย่างง่าย ๆ
App "มีตังค์" คือ ธุรกิจที่ใช่ ในยุค COVID ครองเมือง
ระบบ Content Builder System
ที่ทำทุกอย่างผ่าน Social บนมือถือเพียงเครื่องเดียว ง่าย ๆ เพียงแค่แชร์
เปลี่ยนใจสมัครกับเราตอนนี้ยังทัน


ธุรกิจ New Platform(แฟลตฟอร์มใหม่)
ที่ลงทุนด้วยเงิน 2,699 ครั้งเดียวผ่าน App เก็บเกี่ยวได้ตลอดชีวิต
รับเฉพาะคนที่จริงจังพร้อมทำเท่านั้น


สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat

#9493
 สีผึ้งว่านดอกทอง ฝังดอกว่านดอกทองและตะกรุดนะเมตตามหานิยม



พุทธคุณ เน้นเรื่อง เสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย

ก่อนว่าคาถาก็ให้นึกขอบารมีพระพุทธเจ้า และคุณครูบาอาจารย์

คาถากำกับ

โอมละลวยมหาละลวย หลงกันจนงงงวย จะภะกะสะภะคินี อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ นะโมพุทธายะ 

นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ

(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)

แล้วใช้นิ้วชี้ข้างขวาป้าย แล้วทาที่ปาก

ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632497251.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfF8zGh5



#9494



สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (Global Compact Network Thailand – GCNT) ได้จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง "บทบาทภาคเอกชนไทยในการส่งเสริมการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน" เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 เพื่อยกระดับการจัดการด้านระบบอาหารที่ยั่งยืนจากภาคธุรกิจเอกชนไทยสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบการประชุมสุดยอดด้านระบบอาหารของสหประชาชาติ

โดยข้อสรุปจากเสวนาครั้งนี้จะรวบรวมเป็นข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจไทยสู่การประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก (UN Food Systems Summit 2021) ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อพัฒนาระบบอาหารโลกให้เกิดความแข็งแรงและยั่งยืน โดยในงานมีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 100 คน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ประสานงาน UN Food System Summit National Convener กล่าวว่า ภาคเอกชนมีส่วนสำคัญในการเสนอแนวทางการพัฒนาการจัดระบบอาหารโลกให้ยั่งยืน โดยข้อเสนอแนะจากงานเสวนานี้จะนำไปเชื่อมโยงกับข้อเสนอจากผู้ที่มีบทบาท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการผลิตในแต่ละภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อนำไปเป็นแนวทางและข้อเสนอจัดทำนโยบายแผนงานการปฏิรูประบบอาหารและการเกษตรอย่างมั่นคงในการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก UN Food Systems Summit 2021 เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี 2573

โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบความมั่นคงและเป็นจุดเปลี่ยนทางด้านอาหารโลกที่หลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก จะต้องนำประสบการณ์การจัดการระบบอาหารของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 3 S คือ Safety, Security และ Sustainability ของภาคเกษตรและระบบอาหารให้มีความยั่งยืน ผู้ประกอบการทางด้านภาคเกษตรจะต้องปรับตัวนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ต่อกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเน้นไปสู่รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ โดยมุ่งเป้าหมายด้าน Zero Waste ลดขยะให้เป็นศูนย์เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน พร้อมกับการพัฒนาอาหารในอนาคต Future Food ที่จะต้องเน้นในเรื่องของการพัฒนาสมุนไพรไทย และการพัฒนาอาหารจากพืช รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการอาหารสัตว์ ซึ่งจะเป็นการจัดการทั้งระบบของอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน


นายนพปฏล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในฐานะเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจเอกชนต่างๆได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ดำเนินการตามแนวทางพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน หรือ Food Systems Sustainability ภายใต้กรอบของสหประชาชาติที่มีความท้าทายในเรื่องการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนต่อประชากรทั้งโลก 9 พันล้านคนภายในปี 2050 โดยมีความท้าทายตั้งแต่การผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการจำนวนมาก

ตลอดจนการผลิตและจัดการอาหารให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้มากที่สุด ซึ่งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้โลกจะพัฒนาด้านความยั่งยืนดีขึ้นหลายด้านตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะประเทศไทยที่ได้พัฒนาตามแนวทาง SDGs เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ในลำดับต้นๆของเอเชีย แต่การจะบรรลุสู่เป้าหมาย SDGs ในปี 2030 ไม่ใช่เรื่องง่าย และขณะนี้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนต่างๆถดถอย อาทิ

เป้าหมายที่ 2 ของ SDGs คือ No Hunger ที่ผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนประชากรโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสหประชาชาติได้พยายามสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนที่เป็นระบบมากขึ้นผ่าน UN Food Systems Summit ที่กำลังจะมีการจัดประชุมเร็วๆนี้ และเล็งเห็นว่าประเด็นการจัดการอาหารโลกที่ยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญระดับโลกเช่นเดียวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ


ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภาพรวมของกระบวนการ UN Food Systems Summit ซึ่งเป็นการประชุมที่เน้นให้ความสำคัญการร่วมมือของทุกภาคส่วนในการร่วมกันจัดการระบบอาหารโลกตลอดห่วงโซ่อุปทานให้เกิดความยั่งยืน โดยเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ เป็นกลุ่มภาคเอกชนที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือและข้อเสนอแนะจากประเทศไทยสู่การประชุมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นภายใต้กรอบแนวทางการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนทั้ง 5 แนวทางที่จะเป็นแนวทางสร้างเครือข่ายความร่วมมือยกระดับการเติบโตของภาคเกษตร การจัดการระบบอาหารไทยสู่ระบบอาหารโลกให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มธุรกิจจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนางสาวอินทิรา พฤกษ์รัตนนภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักพัฒนาและประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 1 :อิ่มถ้วนหน้า ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ โดยกล่าวว่า เครือซีพีและซีพีออลล์ให้ความสำคัญกับระบบอาหารที่ยั่งยืนทำให้ประชากรเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อช่วยลดอัตราการป่วยจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามยังมีประชากรบางกลุ่มประสบปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งการสร้างสุขภาพและสุขภาวะประชากรที่ดีต่อประชาชนในแต่ละประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศนั้นๆ ประเทศไทยในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเกษตรในภูมิภาคนี้จึงมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้ประเทศพัฒนา ซึ่งนโยบายของเครือซีพีและซีพีออลล์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราร่วมสร้างระบบอาหารโลกที่ยั่งยืนตั้งแต่การสร้างสรรค์สินค้าที่มีโภชนาการที่ดี เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย และสร้างความมั่นคงอาหารให้ประเทศไทย โดยนำนวัตกรรมที่ได้ศึกษามาต่อยอดสร้างอาหารที่ถูกหลักโภชนาการมีความปลอดภัยตลอดจนร่วมสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยการบริหารจัดการคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

นางสาวศิรภัสสร สกุลวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 5: อิ่มทุกเมื่อ เสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของระบบอาหาร กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารมาโดยตลอดตามแนวทางอาหารมั่นคง สังคมมั่นคง ดินน้ำป่าคงอยู่ โดยเฉพาะการสร้างแหล่งอาหารให้ชุมชนที่ดำเนินการมากว่า 30 ปี โดยการสร้างองค์ความรู้ให้ชุมชนมีศักยภาพผลิตอาหารได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้

นอกจากนี้ยังได้นำองค์ความรู้เข้าสู่ชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาระบบอาหารยั่งยืนผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน โครงการอิ่มสุขปลูกอนาคต โดยสร้างองค์ความรู้ให้เยาวชนได้เข้าใจการผลิตอาหารที่ถูกโภชนาการได้ด้วยตัวเอง และร่วมรักษาเสถียรภาพความมั่นคงในระบบห่วงโซ่อุปทาน แบ่งปันและถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับเกษตรกรรายย่อยโดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ