• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Beer625

#9376
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#9380


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบโล่รางวัลให้กับสมาคมการค้าดีเด่นประจำปี 2564  พร้อมกล่าวกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ นโยบายการส่งเสริมการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศ และการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดราคาต่ำ เพื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศ ว่า   โควิดยังจะต้องอยู่กับประเทศไทยและกับโลกอีกนาน สิ่งที่เราต้องคิดและต้องทำคือ เราจะนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤตโควิดไปสู่ความสำเร็จร่วมกันได้อย่างไร ตนยังยืนยันเน้นย้ำการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน เราจะต้องยึดหลักรัฐหนุนเอกชน

 "เอกชนคือทัพหน้าในการทำรายได้เข้าประเทศ ถ้าเป็นทีมฟุต.เอกชนต้องเป็นกองหน้า เพราะต้องทำหน้าที่ยิงประตูทำคะแนนม รัฐบาลเป็นแบ็คสนับสนุนการทำหน้าที่ของภาคเอกชน ต้องจับมือร่วมกันอย่างเข้มแข็งแน่นแฟ้น จึงเป็นที่มาของหลักคิดการตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ หรือ กรอ.พาณิชย์ สามารถทำตัวเลขให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุดคือการส่งออก แต่ถ้าขาดความร่วมมือร่วมใจระหว่างรัฐกระทรวงพาณิชย์กับเอกชน อุปสรรคต่างๆจะไม่คลี่คลาย การจับมือร่วมกันอย่างเข้มแข็ง เข้มข้น และถึงลูกถึงคนจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราจะต้องเดินหน้าร่วมกันต่อไป"


ในด้านการขับเคลื่อนทางการค้า ทีมเซลล์แมนจังหวัดกับทีมเซลล์แมนประเทศจะต้องร่วมมือกันทำงานให้เข้มแข็งและปรากฏเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งทีมเซลล์แมนจังหวัดมีความสำคัญและทรงพลังอย่างยิ่ง โดย 77 ทีมหรือ  77 จังหวัด เพราะเป็นผู้แก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด หาช่องทางจำหน่าย รวมมือกับทุกจังหวัดค้าขายระหว่างกัน เช่น พืชผลเกษตรราคาตก ทีมเซลล์แมนจังหวัด ขวนขวายและไปถึงขั้นข้ามจังหวัดค้าขายระหว่างกันตามนโยบาย มังคุดใต้ล้นอีสานช่วยซื้อ ลำไยเหนือราคาตกจับมือกับทีมเซลล์แมนจังหวัดภาคใต้ ภาคตะวันออกช่วยกันแก้ปัญหา ขณะที่ทีมเซลล์แมนประเทศ ทูตพาณิชย์ 58 แห่ง เป็นหัวเรือใหญ่จับมือร่วมกับนักธุรกิจที่ไปลงทุนในต่างประเทศทำการค้าส่งออกจับมือกันเป็นทีม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ด้านภาคเอกชนไทยจะต้องเร่งปรับตัวให้ทันสถานการณ์โลก เตรียมการรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าที่จะเข้มข้นหนักข้อขึ้นเป็นลำดับ เพราะภายหลังประเทศพัฒนาแล้วใช้มาตรการทางภาษีกีดกันสินค้าจากประเทศกำลังพัฒนาประสบความสำเร็จหลังจากการรวมตัวกันในระบบพหุภาคีหรือในระบบทวิภาคีในรูป FTA หรือ WTO ทำให้กำแพงภาษีทลายลงภาษีเป็นศูนย์ มาตรการทางภาษีจึงลดความสำคัญลง มาตรการใหม่จึงเกิดขึ้นคือมาตรการที่มิใช่ภาษีมาเป็นกำแพงกั้นสินค้าที่ไปจากประเทศคู่แข่งหรือประเทศไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการสิ่งแวดล้อม มาตรการแรงงาน มาตรการสิทธิมนุษยชน สุขอนามัย ล่าสุดภาษีคาร์บอน เพื่อเป้าหมายกีดกันทางการค้าหรือปกป้องการค้าของประเทศ โดยอียูเริ่มแล้วในอีก 2 ปี จะคิดภาษีคาร์บอน 5 สินค้า 1.เหล็ก 2.อะลูมิเนียม 3.ซีเมนต์ 4.ไฟฟ้า 5.ปุ๋ย ขอให้เอกชนทั้งหลายเตรียมความพร้อมไว้


ขณะเดียวกันยังพบว่า มีการนำเอาปัจจัยเศรษฐกิจมาผูกมัดติดกับปัจจัยทางการเมืองและกลายเป็นปัจจัยปกป้องกีดกันทางการค้า ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เราจะอยู่ตรงไหนคือสิ่งที่เราต้องคิด ทุกคนตอบตรงกันว่าเราต้องผนึกกำลังกับอาเซียน จับมือกับอีก 9 ประเทศ จับมือ ระหว่างอาเซียนด้วยกัน ซึ่งเราก็ต้องแข่งกันแต่ความสมดุลอยู่ตรงไหน รัฐต้องคิด เอกชนก็ต้องคิด จับมือให้เข้มข้นเข้มแข็งแข่งกันระหว่างบริษัทแต่ระหว่างกลุ่มประเทศต้องจับมือกัน เราต้องขายบริการด้วย บริการที่มีศักยภาพเช่น ดิจิตอลคอนเทนท์ ประเทศไทยไม่แพ้ใครแต่ขอให้เราส่งเสริม เด็กรุ่นใหม่ไทยเก่งเยอะ อนิเมชั่น ภาพยนตร์ เราต้องช่วยกันหนุน เอกชนต้องกล้าทำกล้านำ รัฐเป็นแบ็ค กระทรวงพาณิชย์ เข้าไปช่วยคิดช่วยทำ ต้องไม่เน้นการแข่งขันเรื่องราคาอย่างเดียวต้องเน้นคุณภาพ

นอกจากนี้ภาคเอกชนต้องเร่งศึกษาหาประโยชน์จาก FTA  และการทำสัญญาการค้าระบบพหุภาคี โดยเฉพาะ RCEP กำลังจะมีผลบังคับใช้ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนให้สัตยาบันประเทศไทย มีกำหนดการชัดเจนแล้วว่าจะให้สัตยาบันไม่ช้ากว่าเดือนพฤศจิกายนปีนี้ หวังว่าจะบังคับใช้ได้ต้นปีหน้า เราต้องรีบศึกษาข้อตกลงว่ามีอะไรบ้างจะเป็นอุปสรรคกับธุรกิจของเรา จะได้เปรียบเรื่องอะไรบ้างโดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซจะแทรกในทุกข้อตกลง สิ่งที่อยากเรียนความคืบหน้าที่เอกชนเรียกร้องมานาน กองทุนFTAต้องตั้งขึ้นเพื่อเยียวยา เพราะบางคนได้บางคนเสีย เพื่อช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในประเทศ โดยขณะนี้ตนได้ลงนามถึงกระทรวงการคลังเรื่องการจัดตั้งกองทุนหลังจากผ่านแล้วจะเข้า ครม.ในเร็วๆนี้
#9381
 กินปลอดสาร โภชนาการสูง ข้าวแท้ 100% ของดีเมืองช้างสุรินทร์
ข้าวอินทรีย์เมืองสุรินทร์ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์  ข้าวเกษตรอินทรีย์ส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" /  ข้าวกล้องมะลินิลออร์แกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก ข้าวอินทรีย์หอมมะลิแดง เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงปลอดสารพิษ
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf3bcuv6dva2b1ntb.com/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.   ข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ 
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
3.  ข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์กรมการข้าว
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสาร จ.สุรินทร์
5.ข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์6.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลินิล7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#9384


นางธารทิพย์ บัวสวัสดิ์ ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า "โควิดระลอกนี้หนักมาก ปีนี้เกษตรกรทุกคนต้องปรับตัว เราพบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว แถมผลผลิตในภาคตะวันออกและภาคใต้ยังออกมาไล่ๆ กัน ปกติจะเว้นช่วง เราโชคดีที่ปีนี้ได้ส่งเงาะให้กับแม็คโคร ทำให้ได้ระบายผลผลิตเงาะคุณภาพมีมาตรฐาน GAP ให้เกษตรกรเครือข่ายที่มีกว่า 114 ราย พื้นที่เพาะปลูกราว 606 ไร่ จำนวนรวมแล้วกว่า 70 ตันทำให้ชาวสวนมีรายได้ที่มั่นคง ไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา"

ด้าน นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คโคร ตระหนักดีถึงผลกระทบที่เกษตรกรไทยได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ จึงมีนโยบายในการช่วยเหลือชาวสวนมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายและบริโภคผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ช่วยระบายผลผลิตผลไม้ฤดูกาล ประกอบด้วย มังคุด ลองกอง ลำไย เงาะ ผ่านแม็คโครทุกสาขาตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2564

"ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 อย่างนี้ มีเกษตรกรอีกมากมายที่เดือดร้อน ผลผลิตล้นตลาด โดยเฉพาะผลไม้ฤดูกาลที่ระบายผลผลิตไม่ทัน ไม่มีช่องทางจำหน่าย กิจกรรมที่เกิดจากการบรูณาการความช่วยเหลือร่วมกับกรมการค้าภายใน ครั้งนี้ ทำให้เราได้ทำงานกับเกษตรกรกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น มีทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรรายย่อย ในหลายพื้นที่ อาทิ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกเงาะบ้านวังผา อำเภอทุ่งช้าง จ.น่าน, กลุ่มแปลงใหญ่ตำบลทอนหงส์ จ.นครศรีธรรมราช, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลไม้คุณภาพเกษตรอินทรีย์ จ.ป.ร. จ.ระนอง, กลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูนทรัพย์ (เงาะแปลงใหญ่) จ.สุราษฎร์ธานี โดยเกษตรกรเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อวางแผนการรับซื้ออย่างต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไป สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวสวนผลไม้ของไทยมากขึ้น"

ทั้งนี้ แม็คโคร ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ 'แม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด' ซึ่งมีพันธมิตรสำคัญที่มาร่วมขับเคลื่อนความช่วยเหลือคือ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงภาคีอื่นๆ ทำให้เกิดพลังสำคัญในการช่วยเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบัน แม็คโครรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรรายย่อย มากกว่า 7,500 ราย และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยังสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
#9385


ยูพีเอส (NYSE: UPS) แต่งตั้งมิเชลล์ โฮ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ผู้นำที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมิเชลล์จะเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจและการปฏิบัติงานในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของยูพีเอสอย่างเอเชียแปซิฟิกที่มีพนักงานกว่า 13,000 คน ในกว่า 40 ประเทศและเขตการปกครอง ภายใต้บทบาทเชิงกลยุทธ์นี้ มิเชลล์จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตและสนับสนุนความต้องการด้านการเชื่อมต่อข้ามพรมแดนสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของยูพีเอส

สก็อตต์ ไพรซ์ ประธานกรรมการระดับสากลของยูพีเอสกล่าวว่า "มิเชลล์ได้นำประสบการณ์ของเธอมาสู่บทบาทที่สำคัญนี้ ควบคู่ไปกับความหลงใหลทางด้านธุรกิจและการอุทิศตนเพื่อลูกค้าของเรา มิเชลล์มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนด้านการเติบโตทางธุรกิจและประวัติการทำงานกับยูพีเอสที่น่าประทับใจในการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในเอเชีย ด้วยความสามารถอันน่าทึ่งของมิเชลล์ จะช่วยส่งเสริมให้เราสามารถสร้างประสบการณ์ด้านนวัตกรรมดิจิทัลที่ขับเคลื่อนโดยเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะระดับโลกตามที่ลูกค้าของเราคาดหวัง นอกจากนี้ แนวคิดของมิเชลล์ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจในภูมิภาคซึ่งคาดว่าจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เติบโตขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ"

ในฐานะประธานกรรมการหญิงคนแรกของยูพีเอสในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มิเชลล์มีประสบการณ์การทำงานเกือบ 30 ปีกับหลากหลายตำแหน่งผู้นำในภูมิภาคเอเชีย โดยในการเลื่อนตำแหน่งของเธอครั้งก่อนหน้าในฐานะประธานกรรมการของยูพีเอสประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน เธอเป็นผู้นำในการนำบริการเชิงกลยุทธ์มาประยุกต์ใช้ และยกระดับเครือข่ายทั้งในหัวเมืองใหญ่และเล็ก นอกจากนี้ เธอยังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ของจีนสามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการใหม่ของลูกค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน และเร่งการเติบโตของธุรกิจทั่วโลก แม้ว่าต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น

มิเชลล์ โฮ กล่าวเสริมว่า "เอเซียแปซิฟิกกำลังอยู่บนเส้นทางแห่งการเติบโต และการแพร่ระบาดได้ขับเคลื่อนความต้องการรวมถึงโอกาสสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจการดูแลสุขภาพ ตลอดจนการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะที่ ยูพีเอสเป็นผู้เชื่อมต่อสู่การค้าระดับโลก บริษัทฯ มีศักยภาพที่จะสนับสนุนความต้องการเหล่านี้และช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับหนึ่งในเครือข่ายทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดของโลกเพื่อนำส่งพัสดุไปสู่มือผู้รับอย่างมีประสิทธิภาพในระยะเวลาที่รวดเร็ว ดังนั้น ดิฉันจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ทำงานร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายและเปี่ยมไปด้วยความสามารถด้านโลจิสติกส์เพื่อมอบการขนส่งที่รวดเร็วยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเรา ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งมากขึ้นในเอเชียและระหว่างทวีป"

มิเชลล์ถือเป็นตัวอย่างผู้นำหญิงชาวสิงคโปร์ที่เป็นผู้บุกเบิกในการสร้างแรงบันดาลใจ ในปี 2553 เธอเป็นหนึ่งในผู้นำหญิงอาวุโสคนแรกของยูพีเอสในตำแหน่งรองประธานฝ่ายการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมิเชลล์เชื่อมั่นในความหลากหลาย การทำงานร่วมกันและส่งเสริมสตรีในด้านธุรกิจอย่างเข้มแข็ง ปัจจุบันเธอยังมีส่วนร่วมในเวทีสาธารณะเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับบทบาทสำคัญที่ผู้หญิงมีต่อเศรษฐกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง
#9386
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#9389


ศึกยักษ์ใหญ่ศูนย์การค้าใจกลางเมืองระอุ "เซ็นทรัลพัฒนา" รับมอบพื้นที่พัฒนาย่านสยามสแควร์เปิดหน้าประชันคู่แข่ง วันสยาม-เอ็มบีเค ปักหมุดแลนด์มาร์คใหม่เทียบย่านการค้าโลก สำนักงานทรัพย์สินจุฬาฯ เดินหน้าปลุกพื้นที่เชิงพาณิชย์ ดัน หมอน 34 ปั้น เวลเนส-เฮลท์ คอมเพล็กซ์

ดีเวลอปเปอร์ยักษ์ใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของและผู้พัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัล 33 แห่งทั่วประเทศ ในฐานะผู้เช่าลงทุนพัฒนาพื้นที่บริเวณ Block A เขตพาณิชย์สยามสแควร์ เป็นระยะเวลา 30 ปี จากสํานักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) นับเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย โดยเซ็นทรัลพัฒนา วางแผนสร้างสรรค์พื้นที่ใจกลางเมืองแห่งนี้้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่จะจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ เป็นศูนย์กลางและพื้นที่แห่งการเรียนรู้สมัยใหม่ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนร่วมขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ในฐานะผู้เช่าลงทุนพัฒนาพื้นที่ Block A ของสยามสแควร์ มีเนื้อที่ทั้งหมด 7 ไร่ 31 ตารางวา อนุญาตให้ก่อสร้างโครงการภายในกรอบพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ 3 งาน 89 ตารางวา โดยต้องเว้นระยะร่นบนพื้นที่ถนนสยามสแควร์ซอย 7 จำนวน 6 เมตร และสยามสแควร์ซอย 1 จำนวน 9 เมตร เป็นอย่างน้อยตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง และการดำเนินการ

แหล่งข่าววงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ค่าเช่า หรือค่าตอบแทนที่เซ็นทรัลพัฒนาจ่ายให้กับ PMCU มูลค่าเกือบ 6,000 ล้านบาท สำหรับอายุสัญญา 30 ปี นั้น ถือว่าคุ้มค่าเทียบศักยภาพของพื้นที่ทำเลทองที่จัดได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ระยะยาวสำหรับดีเวลอปเปอร์ที่มองเห็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจน 

"ย่านสยามมีปริมาณผู้คนหมุนเวียนทั้งชาวไทยและต่างชาติไม่ต่ำกว่า 5 แสนคนต่อวันที่เข้ามา ค่าเช่าและเม็ดเงินลงทุนรวมไม่น่าจะต่ำกว่า 1 หมื่นล้านสำหรับโครงการที่เป็นแฟลกชิพเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับเซ็นทรัลพัฒนาที่มีความถนัดและเชี่ยวชาญ มีพันธมิตรหลากหลายที่จะปั้นโปรเจคระดับแลนด์มาร์ก ประเมินระยะเวลาคืนทุนมากกว่า 8 ปี"


ย่านสยามสแควร์ ที่มีความครบวงจรของโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรม อาคารสำนักงาน สถาบันการศึกษา ห้างร้านค้าปลีกขนาดเล็ก รวมทั้งหอศิลป์ มีโครงการข่ายคมนาคมที่สะดวกอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอส และผู้คนครอบคลุมทุกกลุ่มตั้งแต่นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ในแวดวงต่างๆ  ทำให้ในอนาคตย่านนี้จะถูกยกระดับมากขึ้นเป็นหนึ่งในย่านการค้าสำคัญเช่นเดียวกับมหานครใหญ่ทั่วโลกที่เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนจะต้องแวะมายังชอปปิงเดสทิเนชั่นยอดนิยม เช่น ชินจูกุ ฮาราจูกุ อ็อกฟอร์ดสตรีท ฯลฯ 

ดังนั้น เป็นโอกาสใหญ่มหาศาลของ "เซ็นทรัลพัฒนา" และทุกๆ ดีเวลอปเปอร์ 

เร่งพัฒนาพื้นที่กว่าพันไร่

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นแลนด์ลอร์ด หรือ เจ้าของที่ดินแปลงใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ กว่า 1,000 ไร่ แม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการศึกษา และโรงพยาบาล แต่ราว 30% นำมาใช้ประโยชน์เพื่อการพาณิชยกรรม โดยการปล่อยเช่าระยะยาวให้บุคคลทั่วไป บริษัทห้างร้านต่างๆ มายาวนานหลายสิบปี และช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีที่ดินบางส่วนครบกำหนดสัญญาเช่า จึงมีการปรับรูปแบบสัญญาเช่า และรูปแบบของการใช้ประโยชน์บนที่ดินทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน 

"การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่จึงทยอยเกิดขึ้นโดยรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงแบบชัดเจน คือ สามย่าน และสยาม"

 


ในฝั่งของ "สยาม" เป็นที่สนใจของคนทั่วไปมากกว่า ด้วยแรงผลักดันของสถานีรถไฟฟ้าสยาม และการเปลี่ยนแปลงในฝั่งสยามเซ็นเตอร์ และการเปิดให้บริการของสยามพารากอน อีกทั้งสถานีรถไฟฟ้าสยามเป็นสถานีรถไฟฟ้าที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการจำนวนมาก

รวมทั้งการเกิดขึ้นของอาคารใหม่ เช่น สยามกิตติ์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมโรงเรียนกวดวิชาจำนวนมาก ในอนาคตมีแผนเพิ่มส่วนของโรงแรมระดับ 3 ดาว ขนาด 300 ห้อง รองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต ล่าสุด อาคารสยามสเคป ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ เป็นอาคารสำนักงาน และจะย้ายโรงเรียนกวดวิชาที่อาคารสยามกิตติ์มาไว้ที่อาคารนี้แทน 

ผังเมืองเอื้อพัฒนาอาคารสูง

อย่างไรก็ดี ที่ดินแปลงที่ "เซ็นทรัลพัฒนา" ได้ไปนั้นอยู่ในพื้นที่ผังเมืองสีแดง พ.5-2 ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่มีศักยภาพสูงที่สุดในการพัฒนาบนที่ดิน สามารถพัฒนาอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ได้เต็มที่เท่าที่ FAR จะกำหนด โดย FAR ของที่ดินในพื้นที่นี้อยู่ที่ 10:1 นั่นหมายความว่าพัฒนาอาคารให้มีพื้นที่ได้ 10 เท่าของพื้นที่ดินทั้งหมด แต่หากจะเก็บโรงภาพยนตร์สกาล่าไว้ก็อาจจะทำให้รูปแบบโครงการต้องเปลี่ยนแปลงไป และยังต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุนบนที่ดินสัญญาเช่า 30 ปีด้วย

ที่ดินโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าสยามเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีราคาที่ดินสูงสุดในประเทศไทย แม้ที่ดินทั้งหมด 100% จะไม่มีที่ดินของเอกชนเลยก็ตาม แต่ศักยภาพของที่ดินราคาประเมินราชการสูงที่สุด 1 ล้านบาทต่อตารางวา สูงขึ้นจากช่วงปี 2561 ที่ราคา 900,000 บาทต่อตารางวา แต่ในความเป็นจริงราคาขายมากกว่า 2.5-3 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้ว และคาดว่าถ้าที่ดินในพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้าสยามสามารถบอกขายแบบพื้นที่อื่นๆ ได้ก็คงมีราคาขายกันที่ไม่ต่ำกว่า 2.5 – 3 ล้านบาทต่อตารางวาแน่นอน

ดันที่ดินหมอน 34 โปรเจค'เวลเนส'

ปัจจุบัน สำนักงานจัดการทรัพย์สินฯ กำลังพัฒนาโครงการที่พักอาศัยบนที่ดินที่เรียกว่าหมอน 33 บนถนนบรรทัดทอง ล่าสุดอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนในการพัฒนาที่ดินหมอน 34 ให้เป็นศูนย์การแพทย์และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Wellness/Health Lottovip Complex) ประกอบด้วยศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจร ให้การดูแลผู้ป่วยระดับตติยภูมิ และมีการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ขั้นสูง และศูนย์การดูแลสุขภาพ โดยใช้แนวทางรวมไปถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่นๆ ที่สอดคล้องและส่งเสริมกับแนวคิด เวลเนส และ เฮลท์ คอมเพล็กซ์ บนที่ดินขนาด 12 ไร่ 3 งาน 94.5 ตารางวา ติดกับอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ และที่ดินหมอน 33

"ที่ดินอีกหลายแปลงของสำนักงานจัดการทรัพย์สินฯ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในอนาคต ทั้งโดยการพัฒนาของสำนักงานจัดการทรัพย์สินฯ เอง และเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของที่ดิน ราคาที่ดิน และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น"