• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Beer625

#9361


ยืนหนึ่งเป็นคุณแม่สายสตรอง แต่ยังมีอีกหลายมุมของ นางเอกซุปตาร์ตัวแม่ "แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ" ที่หลายคนไม่เคยรู้ งานนี้ว้าวสุด ๆ เมื่อเจ้าตัวมาเป็นแขกรับเชิญคนแรก พร้อมเปิดใจแบบหมดเปลือก ผ่านรายการน้องใหม่แกะกล่อง Songs About (ซองส์ อะเบาท์) บน "JOOX ROOMS" ห้องแชตแบบเห็นหน้า ที่จะมายกระดับความฟินให้กับแฟน ๆ โดยมีพิธีกรอารมณ์ดี "ไตเติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม" รับหน้าที่ดำเนินรายการ ชวนดาราและคนดังมาเล่าเรื่องราวในชีวิตผ่าน 5 เพลงโปรด

ซึ่ง แอฟ ทักษร ได้พูดถึงประโยคเจ็บจี๊ดหัวใจหลังมีคนเคยทักว่า ต้องเชื่อว่าผู้ชายดีๆ ยังมีอยู่บนโลก และถึงแม้ทุกวันนี้จะไม่มีคนคอยถามว่าเหนื่อยไหม เหมือนในเพลงที่ชื่นชอบ แต่ก็มีหนุ่มที่ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง ก่อนจะเฉลยว่า คือ สามีแห่งชาติอย่าง "กงยู" นั่นเอง

รู้มาว่าแอฟชอบเพลง Shallow ของ เลดี้ กาก้า และแบรดลีย์ คูเปอร์ มาก แต่บอกว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนมาถามว่าเหนื่อยไหมเหมือนในเพลง?
"จริง ๆ คอนเซปส์ทั้งหมดของเพลงนี้ คือ เธอเหนื่อยไหมล่ะ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ผู้ชายก็พยายาม ผู้หญิงก็เจออะไรมามากมาย กว่าจะมาถึงจุดนี้ จริง ๆ ที่เราชอบความหมายลึก ๆ ของเพลงนี้ ไม่ใช่ว่า เราเหนื่อยจังเลย หรือโดนแรงกดดันอะไร เพราะถ้าเอาตรง ๆ ชีวิตเราผ่านอะไรมาหมดแล้ว เรามาไกลเกินกว่าที่ชีวิตจะเจ็บปวดจากคนรอบข้าง จากเสียงสะท้อนทั้งหลายในชีวิต มันทำอะไรเราไม่ได้แล้ว แต่ที่ชอบเพราะเป็นเพลงที่แปลกเหมือนกัน เพราะฟังแล้วให้ทั้งความรู้สึกเศร้า แต่ก็มีความแข็งแรงอยู่ในนั้น"

เพลงนี้คล้ายกับตัวแอฟหรือสถานการณ์ที่แอฟเจอที่ผ่านมา ๆ ?
"นี่ไงคะ ถึงได้บอกว่าอยากจะกลับตัว อยากจะมีคนดูแล แต่คนจะบอกว่าถ้าเก่งนักก็ดูแลตัวเองไปแล้วกัน"

ถ้าตอนนี้มีผู้ชายมาถามแอฟว่าเหนื่อย?
"ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ จะตอบว่าไม่ ฉันไม่เหนื่อย ฉันเก่ง ฉันสามารถรับมือได้ จัดการได้หมด แต่ถ้าตัดมาปัจจุบันจะบอกว่า เหนื่อยมากเลย ต้องการกำลังใจ (หัวเราะ) ตอนนี้รู้แล้วว่าเราไม่ควรทำแบบนั้น"

นางเอกที่ผ่านบทดราม่ามาเยอะอย่าง แอฟ เคยเจอฉากที่ต้องร้องไห้กลับร้องไม่ออก?
"มีวันนึงที่เราต้องเข้าฉากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก จนพี่สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับเดินมาคุยกับแอฟ แล้วพูดด้วยประโยคหนึ่ง ซึ่งเจ็บจี๊ดมาก ๆ ว่า แอฟต้องเชื่อก่อนว่า ผู้ชายดี ๆ ยังมีอยู่จริงบนโลก ตอนนั้นอึ้งไปเลยค่ะ กลับไปคิดว่าหรือจะมีปัญหาที่ความเชื่อของแอฟจริง ๆ ทั้งที่เมื่อก่อน ตอนที่เราไม่เคยผ่านอะไรทุกข์ร้อนในชีวิตเลย ต้องพยายามเข้าใจความรู้สึกของตัวละคร ยังเล่นบทร้องไห้ แต่วันหนึ่งเมื่อเราผ่านจุด ๆ นึงมา แต่อาจจะมากไปหน่อยมั้ง (ยิ้ม) กลับเล่นไม่ได้ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองตายด้านไปเลย พอเล่นไม่ได้ แอฟก็พูดกับพี่เปิ้ล (ผู้จัดการส่วนตัว) ว่าทำยังไงดี รู้สึกกลัวตัวเองแล้ว พี่เปิ้ลบอกว่ามีทางเลือกให้แอฟ 2 ทาง คือ กลับไปหาครูแอคติ้ง หรือ ไปหาจิตแพทย์ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเรา แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ"

อยากให้ แอฟ พูดถึงคนที่ตัวเองปลื้มบ้าง?
"ถ้าพูดถึงคนในสเป็ค อย่างสมัยวัยรุ่น เราจะชอบคนที่มีคาแรกเตอร์ อย่าง ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ,แอชตัน คุชเชอร์ หรือ แบรดลีย์ คูเปอร์ เราไม่ได้ชอบคนหล่อเนี้ยบ แต่ชอบคนดูมีเสน่ห์ ดูฉลาด ดูกบฏ คนหน้าตาดื้อ ๆ คนดีเราเก็บไว้เป็นเพื่อน (ยิ้ม) แต่ปัจจุบันเราไม่ได้ชอบแบบนั้นแล้วนะ เราชอบกงยูแล้วนะ"

สมมติว่ากงยูต่อสายหา แอฟ แล้วชวนไปอยู่ด้วย?
"จะรออะไรล่ะคะ (ยิ้ม) จริง ๆ แอฟชอบ โซจีซบด้วยนะ แต่ว่าเขามีแฟนแล้ว เขาแต่งงานแล้ว เหลือกงยูนี่แหละ ที่ยังไม่ได้แต่งงาน เขาจะแต่งได้ยังไงล่ะ แอฟยังอยู่นี่ (หัวเราะ) อยากไปเกาหลีมาก ไปรับบทบทเป็นอาจุมม่าก็ได้ เห็นเขาเล่นซ้ำ ๆ คนเดิม ๆ กันอยู่ เราไปเป็นนักแสดงหน้าใหม่ให้ก็ได้นะคะ"

สุดท้ายขอถามถึงโปรเจ็กต์ ให้ใจ ที่แอฟกำลังจะทำร่วมกับน้องปีใหม่?
"แอฟตกลง คุยกันกับลูก ประชุมกันเครียดเลยกับเด็กหญิงเอวาริณ วัย 6 ขวบ ว่าต่อไปนี้ เราตั้งใจจะทำกิจกรรมการกุศล ตั้งชื่อโปรเจ็กต์ "ให้ใจ" เราอยากทำให้เป็นโปรเจ็กต์ระยะยาว เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ว่าช่วงนี้จะทำอะไร แต่โปรเจ็กต์แรกที่จะเกิดขึ้น วันที่ 9 เดือน 9 นี้ เราจะทำกล่องยา ส่งให้กับผู้ป่วยที่ทำ Home Isolation เราทำกันเอง ไม่มีการเปิดรับบริจาคค่ะ"

เป็นยังไงบ้างกับอีกมุมของคุณแม่คนสวย แอฟ-ทักษอร ที่มาพูดคุยอย่างน่ารักและเป็นกันเองสุด ๆ ด้อมอื่นเตรียมตัวให้พร้อม ติดตามรายการ Songs About พร้อมแขกรับเชิญที่คุณจะต้องร้องว้าว ! ตลอดเดือน กันยายน ทั้ง แจ็คกี้ แม่น้องบอง, พีพี กฤษฏ์ และ มิลลิ ที่จะมาร่วมพูดคุย แบบสด ๆ ครั้งเดียว ไม่มีให้ชมย้อนหลัง ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 2 ทุ่มตรง ที่ JOOX ROOMS ใน JOOX Music Application ที่เดียวเท่านั้น !!!
#9367


แคสเปอร์สกี้ เผยข้อมูลที่น่าสนใจ พบว่า มีภัยไซเบอร์ผ่านเว็บที่คุกคามคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสิ้น 20,598,223 รายการ หรือคิดเป็นผู้ใช้จำนวน 28.4% ที่เกือบโดนโจมตีโดยภัยคุกคามผ่านเว็บ

เซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ ยักษ์ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสัญชาติรัสเซีย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เปิดช่องให้อาชญากรไซเบอร์แฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์ โรคระบาดใหญ่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างการป้องกันองค์กรและการรักษาความปลอดภัยภายในบ้านเริ่มไม่ชัดเจน ทั้งจากการทำงานระยะไกล เรียนออนไลน์ รวมถึงการสร้างดิจิทัลในทุกภาคส่วน

ขณะที่ ข้อมูลของ แคสเปอร์สกี้ ซิเคียวริตี้ เน็ตเวิร์ค ไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ตรวจพบภัยคุกคามไซเบอร์ที่เกิดจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจำนวน 7,491,671 รายการ สูงกว่าไตรมาสแรก 42.34% โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ไทยจำนวน 20.7% หรือ 1 ใน 5 เกือบถูกโจมตีจากภัยคุกคามในช่วงเวลาดังกล่าว โดยไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 84 ของโลก

ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ และระบบคอมพิวเตอร์ทางออนไลน์ ขอบเขตของภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างๆ นั้น รวมถึงภัยคุกคามที่เป็นที่รู้จักคุ้นเคย อย่างฟิชชิ่ง และไวรัสคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามทางเว็บไม่ได้จำกัดอยู่แค่กิจกรรมออนไลน์ แต่อินเทอร์เน็ตก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในบางขั้นตอน

เปิด 5 อันดับการโจมตีผ่านเว็บสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม "ไทย" มีดังนี้

ADVERTISEMENT


1.มัลแวร์จากเว็บทราฟฟิก มักพบขณะกำลังใช้งานเว็บที่ติดเชื้อหรือโฆษณาออนไลน์ต่างๆ

2.การดาวน์โหลดโปรแกรมหรือไฟล์บางชนิดจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตั้งใจ

3.การดาวน์โหลดไฟล์แนบอันตรายจากบริการอีเมลออนไลน์

4.การใช้ส่วนขยายของเบราเซอร์ (browser extensions)

5.การดาวน์โหลดส่วนประกอบต่างๆ การสื่อสารทางไซเบอร์ (C&C) ที่ดำเนินการโดยมัลแวร์

คริส คอนเนลล์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ เผยรายงานฉบับล่าสุดเรื่อง "Mobile Malware Evolution 2020" แสดงการตรวจจับมัลแวร์บนอุปกรณ์โมบาย โดยพบว่าประเทศไทยมีจำนวน 28,861 ครั้งในปี 2563 อยู่ในอันดับที่ 44 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน อินโดนีเซียครองอันดับ 4 ของโลก จำนวน 378,973 ครั้ง และครองอันดับสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยมาเลเซีย 103,573 ครั้ง อันดับที่ 17 ฟิลิปปินส์ 55,622 ครั้ง อันดับที่ 30 เวียดนาม 29,399 ครั้ง อันดับที่ 43 และสิงคโปร์ 8,776 ครั้ง อันดับที่ 86


ภัยคุกคามทางมือถือที่พบบ่อยที่สุด 3 รายการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีดังนี้

• Trojan – โทรจันคือโปรแกรมที่เป็นอันตรายซึ่งดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ โทรจันจะลบ บล็อก แก้ไข คัดลอกข้อมูล และขัดขวางประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์หรือเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์

• Trojan-Downloader – ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรมที่เป็นอันตราย รวมทั้งโทรจันและ AdWare บนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ เมื่อดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตแล้ว โปรแกรมจะเปิดทำงานหรือรวมอยู่ในรายการโปรแกรมที่จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อระบบปฏิบัติการเริ่มทำงาน

• Trojan-Dropper – โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อแอบติดตั้งโปรแกรมที่เป็นอันตรายซึ่งสร้างไว้ในรหัสไปยังคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ โปรแกรมที่เป็นอันตรายประเภทนี้มักจะบันทึกไฟล์ช่วงหนึ่งไปยังไดรฟ์ของเหยื่อ และเปิดใช้งานโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ (หรือการแจ้งเตือนปลอมเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการเก็บ เวอร์ชันระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัย ฯลฯ)

เปิดเคล็ดลับ เวิร์คฟรอมโฮม แบบไม่ต้องเสี่ยง

1.ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานจากระยะไกลอัตโนมัติ

2. ไม่ให้สมาชิกในครอบครัวใช้อุปกรณ์ของบริษัท การทำงานจากที่บ้านหมายความว่า คอมพิวเตอร์ของบริษัทมีแนวโน้มที่จะถูกใช้งานโดยเด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน

3.ใช้ฝาปิดเว็บแคมแบบเลื่อนได้ ผู้โจมตีที่เชี่ยวชาญสามารถเข้าถึงเว็บแคมได้ง่ายดาย โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต

4. ถ้าต้องใช้ VPN การรักษาความปลอดภัย VPN สามารถปรับปรุงได้โดยใช้วิธีการยืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

5.ใช้โซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์

6. รักษาความปลอดภัยไวไฟที่บ้าน สร้างรหัสผ่านที่คาดเดายาก

7. ระมัดระวังการประชุมทางวิดีโอ แนะนำให้ตรวจสอบว่าการประชุมเป็นแบบส่วนตัว โดยกำหนดให้ใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าประชุม

8. ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและปลอดภัย

9. ปกป้องบัญชีธนาคารออนไลน์

10. ระวังอีเมลหลอกลวงและความปลอดภัยของอีเมล

11. สร้างความตระหนักเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์มากขึ้น 

ขณะที่ FortiGuard Labs อีกค่ายหนึ่ง รายงานภัยคุกคามครึ่งแรกของปี 2021 พบแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้น 10 เท่า และเชื่อว่า การผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชนส่งให้สามารถหยุดยั้งภัยคุกคามที่ห่วงโซ่อุปทานของอาชญากรรมไซเบอร์ได้ 

เดอริค มันคี Chief, Security Insights & Global Threat Alliances ที่ฟอร์ติการ์ดแล็บส์ เผยข้อมูลภัยคุกคามประจำช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 นี้ว่า เห็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพและทำลายล้างเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อองค์กรหลายพันแห่งในครั้งเดียว นับเป็นการเปลี่ยนแปลที่สำคัญในสงครามกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ตอนนี้ ทุกฝ่ายมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ในกระบวนการคุกคามทำลายล้าง ที่เรียกว่า Killing chain แข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็นมา 

ความร้ายกาจของภัยไซเบอร์ ยุค New Normal : 
• Ransomware หวังมากกว่าเงิน: ข้อมูลจากฟอร์ติการ์ดแล็บส์แสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของกิจกรรมภัยแรนซัมแวร์ประจำสัปดาห์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสูงกว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาถึง 10 เท่า แสดงให้เห็นถึงแรนซัมแวร์ยังคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยรวมในช่วง 1 ปี 

• ทั้งนี้ แรนซัมแวร์ ส่งผลกระทบที่ห่วงโซ่อุปทานของหลายองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสำคัญอย่างยิ่ง และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ผลผลิตและการค้ามากกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งนี้ องค์กรในภาคโทรคมนาคมตกเป็นเป้าหมายสูงสุด รองลงมาคือภาครัฐ ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยที่มีการจัดการ ยานยนต์ และภาคการผลิต 

การเติบโตของการตรวจพบแรนซัมแวร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2563 – มิถุนายน 2564)
• พบมัลแวร์ถึง 1 ใน 4 องค์กร: การจัดอันดับการตรวจจับมัลแวร์ตามกลุ่มแสดงให้เห็นว่า มีมัลแวร์ประเภททางวิศวกรรมโซเชียลหลอกลวงมากขึ้น ได้แก่ Malvertising (การใช้โฆษณาบนโลกออนไลน์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์) และ Scareware (สแกร์แวร์เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้น เพื่อทำให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เข้าใจว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองมีไวรัส และหลงเชื่อให้ข้อมูลบัตรเครดิต ซื้อหรือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์) มากเพิ่มขึ้น 

• องค์กรมากกว่าหนึ่งในสี่ตรวจพบตระกูล Cryxos ชื่อดังสะท้อนถึงความพยายามคุกคามของมัลแวร์หรือสแกร์แวร์ แม้ว่าพบมัลแวร์จำนวนมากที่รวมกับแคมเปญ JavaScript อื่นๆ ที่คล้ายกันซึ่งยังคงต้องถือว่าเป็นมัลแวร์ ซึ่งเกิดขึ้นมากจากผลของ WFH แบบผสมผสาน เนื่องจากผู้ประสงค์ร้ายพยายามใช้ประโยชน์จากการสร้างความหวาดกลัวของเหยื่อ รวมถึงการกรรโชกด้วย 

• ดังนั้น การรับรู้เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการจัดหาการฝึกอบรมและการศึกษาอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของกลวิธีหลอกลวงของ Malvertising และ Scareware
#9368
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#9369


ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วย นางสาววิลาวรรณ วนดุรงค์วรรณ กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา รับมอบเงิน จำนวน 1.1 ล้านบาท จากชมรมซีพีเอฟรันนิ่งคลับ (CPF Running Club) โดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จากการจัดกิจกรรมวิ่งการกุศลวิถีใหม่ "CP Run For Good Deeds Virtual Run 2021 วิ่งร้อยเรียงความดี" เพื่อร่วมสมทบทุน "กองทุนชัยพัฒนา สู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่างๆ)" ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมี นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ซีพีเอฟ พร้อมด้วย นายบุญเสริม เจริญวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ในฐานะรองประธานชมรมซีพีเอฟรันนิ่งคลับ ร่วมมอบ ณ มูลนิธิชัยพัฒนา



นายบุญเสริม เจริญวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ ในฐานะรองประธานชมรมฯ กล่าวว่า ชมรมซีพีเอฟรันนิ่งคลับ จัดตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้พนักงานและประชาชนทั่วไป หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายเพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยชมรมจะจัดกิจกรรมวิ่งขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 5-6 แห่ง รอบสถานประกอบการทั่วประเทศ และจะนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจัดกิจกรรมวิ่งทั้งหมด ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือ โรงเรียน โรงพยาบาล และหน่วยงานสาธารณประโยชน์ ในจังหวัดนั้นๆ



สำหรับในปีนี้ ชมรมฯ ดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ชมรมฯ ยังคงสานต่อเจตนารมณ์ ที่จะให้พนักงานและประชาชนยังคงได้วิ่งออกกำลังกายในสถานการณ์เช่นนี้ จึงได้จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อการกุศลในวิถีชีวิตใหม่ "CP Run For Good Deeds VIRTUAL RUN 2021 วิ่งร้อยเรียงความดี" ในรูปแบบ Virtual Run วิ่งเสมือนจริง โดยที่นักวิ่งไม่ต้องมารวมตัวกัน สามารถเลือกได้ว่าจะวิ่งที่ไหน และวิ่งเวลาใดก็ได้ที่สะดวกและปลอดภัย รวมทั้งยังได้ทำประโยชน์ให้กับสังคม ภายใต้แคมเปญ "ซีพีร้อยเรียงความดี" เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเครือซีพีครบรอบ 100 ปี โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจัดกิจกรรมได้นำมามอบให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ต่อไป



นายบุญเสริม กล่าวทิ้งท้ายว่า นักวิ่งที่เข้ามาร่วมวิ่งกับเรา ซึ่งในครั้งนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมวิ่งทั้งหมด จำนวน 2,623 คน สิ่งที่จะได้รับ นอกจากสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ทำให้ลดโอกาสในการติดเชื้อโควิด-19 ลงแล้ว ยังได้ร่วมทำบุญให้จิตใจเบิกบานอีกด้วย สำหรับปีหน้า หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ทางเราก็จะกลับมาจัดวิ่งตามโรงงานสถานประกอบการทั่วประเทศไทยอีกครั้ง



นางภากมล รัตตเสรี กรรมการและรองเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า "กองทุนชัยพัฒนา สู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่างๆ)" ตั้งขึ้นเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาที่อยาก ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ที่ติดเชื้อโควิดได้โอนเงินบริจาคเข้ามาที่กองทุน ที่ผ่านมากองทุนฯ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการ หน่วยงานเอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในรพ.ต่างๆ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ อย่าง ซีพีเอฟ ถือเป็นหน่วยงานเอกชนที่ได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือและสนับสนุนกันตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เริ่มเปิดกองทุน ซึ่งได้ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด ทางเราต้องขอขอบคุณซีพีเอฟ มา ณ โอกาสนี้ด้วย



กองทุนฯ ได้จัดซื้อหน้ากากอนามัย และ ชุด PPPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อมอบให้แก่โรงพยาบาล รวมถึงสร้างห้องไอซียูความดันลบ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและบุคคลากรทางการแพทย์อย่างถาวร เพราะแม้ว่าในอนาคตจะหมดโควิดไป แต่ห้องไอซียูก็จะยังคงสามารถใช้ได้กับผู้ป่วยอื่นๆ ต่อไป การสร้างห้องไอซียูความดันลบ ต้องใช้เวลาระดมทุนอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อสร้างให้กับ 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยกองทุนของเราสามารถเข้าช่วยเหลือ เข้าถึงแพทย์และพยาบาลได้รวดเร็วทันต่อความต้องการ หากประชาชนสนใจสามารถร่วมบริจาคกับกองทุนได้
#9372


"วรวัฒน์ นาคแนวดี" หรือ "Acme Traderist" กล่าวว่า จากกระแสของ "Decentralized Huay Finance" (DeFi) ซึ่งเป็นระบบการเงินแบบกระจายอำนาจรูปแบบใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง กำลังเป็นสิ่งที่เข้ามาปฏิวัติ (Disrupt) วงการธนาคารและการเงินโลก ตนจึงได้ใช้ประสบการณ์ในการลงทุนบนตลาดโลกมาพัฒนาและสร้างเหรียญ ACT (Acet) ขึ้น โดยเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่รวมองค์ประกอบของ "Fans Token" และ "Decentralized Finance" เข้าด้วยกันจนเกิดเป็น "DeFansFi Token" เพื่อเปิดให้ "Fanstrade" และ "ผู้คนทั่วไป" รวมถึง "ภาคธุรกิจ" ต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ ผ่านสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า ACT (Acet) ร่วมกันได้ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ในการทำงาน

"ผมให้นิยามของเหรียญ ACT (Acet) ว่าเป็น "DeFansFi" (Decentralized Fans Financial) ซึ่งเป็นคริปโทเคอร์เรนซีรูปแบบใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหา Over Supply ที่เกิดจากความไม่สมดุลกันระหว่าง อุปสงค์ (Demand) และ อุปทาน (Supply) ของเหรียญ ภายใต้แนวคิด "Zero Initial Supply" ที่เชื่อว่าจำนวนในการเริ่มต้นของเหรียญที่จะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในด้าน Supply ควรเริ่มต้นจาก "0" และจำนวนเหรียญจะเกิดขึ้นจากความต้องการของผู้ถือครอง (Holder) เท่านั้น"

วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายของการสร้างเหรียญนี้ ผมตั้งใจที่อยากจะให้เหรียญ ACT (Acet) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถนําไปใช้ได้ทั่วโลก โดยผู้ถือครอง (Holder) และภาคธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้งาน
ซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือทำธุรกรรมใด ๆ ด้วยเหรียญ ACT (Acet) ได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการอย่างเป็นวงกว้าง ซึ่งผู้ถือครองเหรียญ ACT (Acet) กลุ่มแรกส่วนใหญ่จะเป็นเทรดเดอร์และนักลงทุนในตลาดการเงินโลก ทำให้เหรียญ ACT (Acet) มีโอกาสเกิดกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนได้สูงอย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าให้ภายในสิ้นปี 2022 เหรียญ ACT (Acet) จะอยู่ในอันดับ 1,500 แรกของการจัดลำดับสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีจากทั่วโลก

นอกจากนี้ Acme Traderist ยังได้จัดกิจกรรม แจกคนละ 77.77 ACT ฟรี! เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงระบบการเงินยุคใหม่ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และสร้างความพร้อมเพื่อปรับตัวเข้าสู่โลกการเงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามกิจกรรมได้ที่ https://acmetraderist.com/act และ Line OA @acmetraderist.