• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Beer625

#9079
www.sctransformer.com
หม้อแปลง หม้อแปลงไฟฟ้า
#9080


การแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ ตัวเร่งสำคัญที่ทำให้บริษัทอสังหาริทรัพย์ปรับตัว หาช่องทางการสร้างรายได้ระยะยาว เพื่อสร้างความสม่ำเสมอทางด้านรายได้ให้กับบริษัท ซึ่งเป็นตัวการันตีว่า แม้จะเกิดวิกฤติหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯ เช่นเดี่ยวกับช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯตระหนักว่าการมีรายได้ระยะยาวที่สม่ำเสมอ คือตัวช่วยให้บริษัทยังคงมีสภาพคล่องทางการเงินที่สามารถใช้ลงทุนและพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบหนัก เช่นเดียวกับบริษัทที่มีสภาพคล่องต่ำ

สุรเชษฐ กองชีพ
สุรเชษฐ กองชีพ

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มขยับตัวแบบจริงจัง และรวดเร็วมากขึ้นในการขยายกิจการหรือธุรกิจของตนเองให้มากกว่าเดิม เพื่อสร้างช่อทางในการสร้างรายได้ให้มากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์จะเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียมเพื่อขาย โดยรายได้จะมาจากการขายโครงการเหล่านี้ซึ่งก่อนหน้านี้อาจจะมีรายได้ดีมาโดยตอด แม้ว่าจะมีบางปีบางช่วงเวลาที่มีปัญหาหรือมีรายได้หรือกำไรลดลง แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาไม่นาน โดยจะเห็นได้ชัดเจนว่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ยังคงมีรายได้และกำไรอยู่ในอัตราที่ไม่แตกต่างกันมากนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอาจจะมีเพียงบางไตมาสเท่านั้นที่รายได้ลดลง ซึ่งไม่ได้มีผลอะไรต่อภาพรวมของบริษัท

การขยายหรือปรับตัวของผู้ประกอบการในตลาดอสังหาริมทรัพย์มีมาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว โดยอาจจะเห็นได้ชัดเจนจาก บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ที่มีการขยายธุรกิจออกไปค่อนข้างหลากหลาย เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน ค้าปลีก ค้าวัสดุก่อร้าง หรือธนาคาร เป็นต้น แต่ถ้าพิจารณาดีๆ จะเห็นว่าส่วนใหญ่ยังคงเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ อาจจะเพียงกิจการธนาคารเท่านั้นที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งการขยายธุรกิจในรูปแบบนี้กลายเป็นแนวางให้บริษัทออื่นๆเดินตามรอย ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าหลายบริษัทที่มีการขยายธุรกิจออกไปในแนวทางที่คล้ายคลึงกับของบมจ.แลนด์
แอนด์ เอาส์ เช่น บมจ.อนันดาฯ ที่มีการพัฒนาโครงการโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เองก็มีการพัฒนาโครงการโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
เช่นกัน แต่การเปิดให้บริการในช่วงที่เศษรฐกิจชะลอตัว จึงยังไม่เห็นว่าโครงการเหล่านี้เมาช่วยเสริมรายได้ของแต่ละบริษัท
บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ก็มีการพัฒนาโครงการโรงแรม สนามกอล์ฟ พื้นที่ค้าปลีก บมจ.แสนสิริ ซึ่งก่อนหน้านี้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ภายใต้ชื่อบริษัท บีเอฟทีแซด บางปะกง จำกัด เพื่อดำเนินการพัฒนาคลังสินค้า และอาคารโรงงานให้เช่า ธุรกิจคลังสินค้าและอาคารโรงงานให้เช่าเป็นอีก 1 ธุรกิจที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ แต่ส่วนใหญ่เป็นการหาพันธมิตรร่วมทุนร่วมกันพัฒนามากกว่าที่จะดำเนินกิจการเอง



นอกจากนี้ แสนสิริ ยังขยายการลงทุนในธุรกิจบริหารทรัพย์สินธนาคารที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ โดยทำสัญญาREVENUE SHARING AGREEMENTกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด (XSpring AMC)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเป็นการลงทุนในกองสินทรัพย์ที่ทางXSpring AMC ชนะการประมูลมาจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง และอีกธุรกิจที่ แสนสิริ เข้าลงทุนคือ ธุรกิจประกันภัย โดยช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2563 ได้อนุมัติให้บริษัท แสนสิริ ไชน่า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่แสนสิริถือหุ้นอยู่100% เข้าร่วมลงทุนในบริษัทร่วมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ชื่อว่าบริษัท ฮักส์ อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด (Hugs)ซึ่งทำธุรกิจนายหน้าประกันภัย

แต่การขยายการลงทุนโดยวาง โครงสร้างให้บริษัทเป็นโฮลดิงส์ ที่พร้อมเข้าไปลงทุนในทุกธุรกิจที่มีแนวโน้มการขยายตัวดีและจะให้ผลตอบแทนในอนาคตซึ่งมีผลต่อรายได้ของบริษัทแม่ที่ชัดเจน เห็นจะหนีไม่พ้น บมจ.สิงห์ เอสเตท ซึ่งก่อนหน้านี้สิงห์อาจจะมีธุรกิจอื่นๆ ที่สร้างรายได้ หรือเป็นรายได้หลักของกลุ่มบริษัทอยู่แล้ว โดยถ้าไม่นับเรื่องของน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พวกเขายังมีธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงานด้วย แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะพบว่าพวกเขาเพิ่มประกาศว่าจะเดินหน้าในเรื่องของนิคมอุตสาหกรรมขนาด 1,800 ไร่ที่จังหวัดอ่างทอง โดยพวกเขาเองก็มีเครือข่ายของบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอยู่แล้ว เรื่องของพลังงานทดแทนซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในหลายจังหวัดรวมไปถึงเรื่องของธุรกิจโลจิสติกส์ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของพวกเขาที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าอยู่แล้วทั่วประเทศ



บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท คืออีกหนี่งบริษัทอสังหาฯที่วางตำแหน่งตัวเองเป็นโฮลดิงส์ ที่พร้อมเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีอนาคต โดยก่อนหน้านี้บริษัทพฤกษาฯ ได้ขยายการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลเพื่อรองรับธุรกิจเพื่อสุขภาพ และธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ โดยนอกจากพฤกษาจะกำลังจะเปิดให้บริการโรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลแห่งแรกของบริษัทแล้ว พฤกษายังเข้าซื้อหุ้นจำนวน 51%ของบริษัท เทพธัญญภา จำกัด เจ้าของโรงพยาบาลเทพธารินทร์ บนถนนพระราม 4 ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ทำให้พฤกษามี 2 โรงพยาบาลในมือจำนวนเตียงทั้งหมด 300 กว่าเตียงแสดงให้เห็นว่าพฤกษาเอาจริงในธุรกิจโรงพยาบาล อีกทั้งพวกเขายังมีแผนจะเปิดศูนย์สุขภาพในพื้นที่ด้านหน้าโครงการบ้านจัดสรรของบริษัทอีกด้วย โดยศูนย์สุขภาพเหล่านี้จะเปรียบเหมือนโรงพยาบาลขนาดเล็กขนาด 30-40 เตียง เพื่อรองรับคนในโครงการและพื้นที่โดยรอบ โดยภายในศูนย์จะมีบริการดูแลผู้สูงวัยแบบรายวัน ศูนย์กายภาพบำบัด คลินิกตรวจเช็คสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งปีนี้จะเปิดที่โครงการบ้านจัดสรรย่านสุขาภิบาล 2 ก่อนที่จะกระจายไปโครงการอื่น ๆ

นอกจากนี้บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้เป็นอีกบริษัทที่ขยายธุรกิจไปยังการผลิตและส่งออกถุงมือยาง โดยมีการตกลงร่วมลงทุนกับ บริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัด โดยมีการก่อสร้างโรงงานผลิตถุงมือยาง ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งทางแกรนด์ แอสเสท คาดว่าจะมีรายได้อีกประมาณ 5,000 ล้านบาท จากความต้องการใช้ถุงมือยางของโลกที่เพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมากรวมไปถึงบมจ.ศุภาลัยที่มีการขยายลงทุนในธุรกิจโรงแรมแต่อย่างไรก็ตามรายได้หลักของพวกเขายังคงมาจากการขายโครงการที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ การที่รายได้จากการขายที่อยู่อาศัยลดลงเพราะหลายปัจจัยรวมไปถึงจากเรื่องของโควิด-19ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ประกอบการอย่าง บมจ.แลนด์ แอนด์เฮ้าส์ ที่มีรายได้จากช่องทางอื่นๆ ยังคงมีกำไรมากเป็นอันดับที่ 1 แม้ว่ารายได้ของพวกเขาจะไม่ได้มาเป็นอันดับที่ 1 ก็ตาม ผู้ประกอบการหลายรายจึงเริ่มมีการปรับตัวเองอีกครั้งในช่วงปี 63
โดยการเปลี่ยนรูปแบบองค์กรใหม่เลย ไม่ใช่การขยายธุรกิจแบบก่อนหน้านี้แล้ว แต่เป็นการเปิดบริษัทใหม่เพื่อรับผิดชอบธุรกิจใหม่ๆ ที่พวกเขาให้ความสนใจและมองว่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาวได้

โดยบริษัทที่เปิดใหม่นี้อาจจะเป็นการร่วมทุนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญในธุรกิจนั้นๆ หรือเป็นบริษัทใหม่ที่เริ่มธุรกิจด้วยตนเองโดยการดึงคนที่มีประสบการณ์หรือมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับมาบริหารจัดการ แล้วก็ปรับรูปแบบการบริหารภายในองค์กรเป็นแบบบริษัทโฮลดิ้ง โดยให้บริษัททั้งหมดอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งเพียง 1 บริษัท ซึ่งรูปแบบการบริหารจัดการแบบนี้เห็นได้ในหลายๆ ผู้ประกอบการที่มีการปรับตัวในช่วงที่ผ่านมา แม้กระทั่งธนาคารไทยพาณิชย์เองก็ปรับตัวเองไปจากการดำเนินกิจการที่ผ่านมาแบบ 100% เช่นกัน ซึ่งถ้าบริษัทที่ตั้งใหม่บริษัทใดมีการดำเนินกิจการที่ดี ประสบความสำเร็จสามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องและมากมายก็ค่อยเข้าไปบริหารจริงจังหรือเข้าไปเพิ่มทุนโดยบริษัทแม่(บริษัโฮลดิ้ง)



จากนั้นก็ผลักดันให้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทโฮลดิ้งที่เป็นบริษัทแม่อีก
1 ช่องทาง กลับกันถ้าเป็นบริษัทที่ดูแล้วไปต่อไม่ได้ก็ปิดกิจการไป ซึ่งการบริหารจัดการแบบนี้เห็นได้มากขึ้นในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ บางบริษัทมีการขยายกิจการรออกไปมากมายครอบคลุมหลายธุรกิจ เช่น ประกันภัย
บริหารอาคาร พลังงาน สุขภาพ โรงพยาบาล ผู้สูงอายุ โกดังสินค้า ดาต้าเซ็นเตอร์ โลจิสติกส์ เป็นต้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขาทำกันมาต่อเนื่องมากกว่า 10 - 20 ปีเลย แต่เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอยจากปัจจัยใดๆ ก็ตาม ในขณะเดียวกันบริษัทหรือผู้ประกอบการที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาก่อนยังเริ่มมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ดำเนินการโดยบริษัทในเครือของพวกเขา เช่น เซ็นทรัลพัฒนาที่มี บริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนส์ จำกัด พัฒนาและเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมบ้านจัดสรรมากมายทั่วประเทศไทย เพราะพวกเขาต้องการรายได้ที่มากขึ้น และเป็นรายได้ก้อนโตที่สามารถคาดหวังได้ในระยะเวลาอันสั้น (1 – 3 ปี)

ในส่วนของผู้ประกอบการรายเล็กก็อาจจะมีการขยับตัวได้ค่อนข้างลำบากในช่วงวิกฤต เพราะนอกจากรายได้จะหดหายแล้ว การขอสินเชื่อก็ทำได้ยากขึ้นอีกทั้งยังไม่สามารถหาช่องทางการระดมทุนได้แบบที่ผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถทำได้ ก่อนหน้านี้อาจจะเห็นผู้ประกอบการรายเล็กรายกลางบางรายที่เร่งสะสมโครงการอสังหาริมทรัพย์ แล้วรีบเข้าตลาดหลักทรัพย์แบบเร็วที่สุด
เพื่อหาช่องทางในระดมทุน หรือหาผู้ร่วมทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ก็ไม่ใช่ผู้ประกอบการรายกลางรายเล็กจะสามารถทำแบบนี้ได้ทุกราย เนื่องจากต้องมีรายได้หรือทรัพย์สินมากพอที่จะสามารถดึงดูดหรือสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ที่ต้องการร่วมทุนได้รวมไปถึงต้องมีรายได้ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในช่วง 1 – 2 ปีข้างหน้ามากพอที่จะการันตีว่าจะมีรายได้ที่มั่นคง



แต่ในช่วงเวลาแบบนี้คงเป็นการยากที่ผู้ประกอบการรายกลางหรือรายเล็กจะขยับหรือหาช่อทางในการร่วมทุนกับต่างชาติแบบก่อนหน้านี้ เพราะรายได้ที่เข้ามาในบริษัทไม่ได้น่าสนใจ ประกอบกับรายได้ในอนาคตก็ยังไม่สามารถคาดหวังได้เช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นการยากที่ผู้ประกบการรายกลางหรือรายเล็กจะยืนระยะให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้
ผู้ประกอบการบางรายมีการปล่อยให้ธนาคารยึดที่ดินไปบ้างเพื่อลดภาระหนี้สิน หรือเลือกที่จะหยุดการก่อสร้างบางโครงการไปเลยก็มี เพราะไม่มีเงินทุนหมุนเวียนที่มากพอ

ขณะที่บางบริษัทที่มีทรัพย์สินเป็นที่ดิน อาคาร หรือโครงการที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จก็อาจจะเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการรายใหญ่จนนำไปสู่กระบวนการควบรวมกิจการก็เป็นไปได้ แต่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 แบบนี้ยังคงยากอยู่ การหาผู้ร่วมทุนต่างชาติก็ไม่สามารถทำได้เช่นในช่วงก่อนหน้านี้เพราะติดขัดในเรื่องของการเดินทาง อีกทั้งรายได้หรือกระแสเงินสดในบริษัทยังไม่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างชาติยกเว้นเป็นการขายกิจการหรือควบรวมกิจการแบบที่มีการลดราคาหรือลดมูลค่าลงมาค่อนข้างมากดังนั้น ช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาจึงเริ่มเห็นผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กมีการเปิดขายโครงการใหม่ลดลง
#9081
เครื่องทำน้ำแข็ง Cleanicethailand
เครื่องทำน้ำแข็ง Clean ice หมดปัญหาสักที กับความสกปรก ของน้ำแข็ง หรือน้ำแข็งละลายเร็ว อีกทั้งยังประหยัดกว่าเดิมถึง 5 เท่า
ไม่ว่าจะใส่เมนูน้ำชนิดไหนๆ เครื่องทำน้ำแข็ง cleanice ก็เอาอยู่ไปซะทุกอย่าง
เครื่องทำน้ำแข็ง ของเรารับประกันความประหยัดคุ้มค่าน่าลงทุน น้ำแข็งที่เย็น ละลายช้า สะอาด ไร้สารเคมีตกค้าง ราคาถูก สามารถทำให้เมนูน้ำของคุณน่ากินได้อีกกกด้วย ! 
เพราะว่าเราใส่ใจในความสะอาด และ ความสะดวกสบาย ด้วยดีไซน์เครื่องที่ออกแบบมา สวยทันสมัยตั้งในคาเฟ่ ก็เชิญชวนลูกค้าได้ดีอีกด้วย!!!! มีคุณภาพ เเละเอื้อต่อการใช้งานจริง
เมนูน้ำไหนๆ ใคร ๆ ก็อยากซื้อ น่าดื่มไปซะทุกอย่างเเบบนี้สิ รักเลย  ต้องลองแล้วค่ะถึงจะรู้ว่าของเราดีจริง
 Made in JAPAN 
สนใจสินค้า ปรึกษา สอบถามได้ที่
Tel: 02-024-9152-3 Mobile: 061-2780-780
ไลน์ไอดี: valaiporn25
website:https://www.cleanicethailand.com
facebook:https://www.facebook.com/cleanicethailand
#เครื่องทำน้ำแข็ง #เครื่องทำน้ำแข็งหยอดเหรียญ #ตู้กดน้ำแข็ง #ตู้กดน้ำแข็งหยอดเหรียญ #cleanice #cleanicethailand
 

 

 

#9082
​​​​​​​https://katoacademy.com/facebook-ads/
สอนเฟสบุ๊ค สอนยิงแอดเฟสบุ๊ค
#9084


กบข. ร่วมกับนักลงทุนสถาบันและภาคธนาคาร ประกาศเจตนารมณ์ "Sustainable Thailand 2021" สนับสนุนการนำหลักการลงทุนอย่างรับผิดชอบ และหลักการการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ มาใช้เป็นกรอบในการดำเนินงาน มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานและสักขีพยานในการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือ "Sustainable Thailand" ในครั้งนี้ กล่าวว่า กระทรวงการคลังมุ่งมั่นสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นมาโดยตลอด ผ่านนโยบายทางการคลังทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงในช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบนั้น รัฐบาลได้ควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และจัดสรรทรัพยากรทางการคลังและการเงินที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อสนับสนุนระบบการรักษาพยาบาล และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจ ผ่านหลากหลายโครงการ เช่น คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็นต้น เพื่อรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศไว้ โดยคาดการณ์ว่าในปี 2564 เศรษฐกิจจะเติบโตที่ร้อยละ 1.3 และจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 4-5 ในปี 2565

สำหรับโครงการ "Sustainable Thailand 2021" เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ นักลงทุนสถาบัน และธนาคาร ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยผลักดันภาคธุรกิจการเงินการลงทุนของไทย ให้นำหลักการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (PRI) และหลักการการธนาคารที่มีความรับผิดชอบ (PRB) มาใช้เป็นกรอบในการดำเนินงาน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้ภาคการเงินและการลงทุนของไทยแข็งแรง พัฒนาไปสู่ความยั่งยืนในระดับภูมิภาคและระดับโลก

ดร.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า การร่วมลงนามในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ นักลงทุนสถาบัน และธุรกิจธนาคาร รวม 43 ราย ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 40.18 ล้านล้านบาท เพื่อร่วมกันผลักดันการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ครอบคลุมทุกมิติและเป็นไปตามมาตรฐานสากล (Sustainable Finance) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญอันจะนำไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) สำหรับสาระสำคัญของความร่วมมือ คือ การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบสอดรับกับความตกลงปฏิญญาปารีส (Paris Agreement) ว่าด้วยความรับผิดชอบร่วมกันต่อภัยคุกคามจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการดำเนินงานและธุรกิจสู่ความยั่งยืน อันจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อทุกห่วงโซ่อุปทาน

อนึ่ง กบข. ในฐานะนักลงทุนสถาบัน ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ลงทุนทั่วโลกกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ตระหนักถึงพันธกิจสำคัญที่นอกเหนือจากการสร้างผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวให้กับสมาชิกข้าราชการมีเงินออมในวัยเกษียณที่เพียงพอ หากแต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และต้องส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่ยึดถือในหลักธรรมาภิบาลควบคู่ไปด้วย (Doing well while doing good) อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนการลงทุนอย่างรับผิดชอบ ตลอดจนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน (Sustainable Economic and Social Development) สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ กบข. ในการเป็นผู้นำและผู้ริเริ่มนวัตกรรมการด้านการลงทุนโดยคำนึงถึงปัจจัยด้าน ESG (Leader in ESG Investing & Initiatives in Thailand)

การลงนามประกาศเจตจำนง "Sustainable Thailand" ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงาน Sustainable Thailand 2021 จัดโดย กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง องค์การสหประชาชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารกสิกรไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564
#9088


โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสขวัญใจแฟนทั่วโลก แนะนำให้บรรดาโค้ชและทีมงานช่วยกันปกป้องนักเทนนิสรุ่นใหม่ จากคำวิจารณ์แง่ลบที่รุนแรงตาม โซเชียล มีเดีย อันมีส่วนทำให้นักหวดวัยรุ่นมีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจอย่างหนัก

แชมป์ แกรนด์ สแลม 20 สมัย ให้สัมภาษณ์สื่อโดยบอกว่าช่วงที่หยุดพัก ได้เห็นฟอร์มการเล่นน่าประทับใจจากผู้เล่นรุ่นใหม่มากมายทั้ง นาโอมิ โอซากะ หวดสาวชาวญี่ปุ่น หรือดาวดวงล่าสุดอย่าง เอ็มม่า ราดูคานู เจ้าของ แกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพน

แต่ด้วยยุคสมัยที่ผู้คนนิยมเล่น โซเชียล มีเดีย ทำให้นักเทนนิสพบเห็นคำวิจารณ์จากคนดูถึงตัวเองได้โดยง่าย และหลายครั้งก็เต็มไปด้วยถ้อยคำรุนแรงจนทำให้ผู้เล่นมีปัญหาสภาพจิตใจ โดยเฉพาะ โอซากะ ที่ต้องพักเบรคไประยะหนึ่งเพราะรับมือกับคอมเมนต์รุนแรงไม่ไหว

และ เฟเดอเรอร์ ก็แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า 'ผมติดตามผลงานของ เอ็มม่า ราดูคานู ในวิมเบิลดัน และ นาโอมิ โอซากะ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พวกเขาน่าทึ่งมาก แต่คุณก็ต้องเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าพวกเธอรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งผมคิดว่ามันมาจาก โซเชียล มีเดีย ตอนที่ผมเริ่มเล่นช่วง 10 ปีแรก มันยังไม่มีโซเชียล มีแค่เว็บไซต์ แต่หลังจากนั้นก็มีโซเชียลผุดขึ้นเต็มไปหมด'

'เราต้องแก้ไขระบบนี้ อย่างน้อยก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม ผมคิดว่าเราต้องช่วยเหลือพวกเขา และให้คำปรึกษาแก่คนรุ่นใหม่มากกว่านี้ ผมนึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าถ้าผมเริ่มเล่นอาชีพในช่วงที่มี โซเชียล มีเดีย แบบนี้ ผมจะรับมือกับมันได้อย่างไร'

'สำหรับความเห็นที่ดี ทุก 10 ความเห็นต้องมีคำวิจารณ์แง่ลบมาสัก 1 อันเสมอ และแน่นอนว่าทุกคนจะให้ความสำคัญกับมัน เป็นเรื่องที่น่ากลัว แม้แต่ตอนที่ผมรู้สึกแย่ ก็ยังต้องแสดงท่าทีปกติต่อหน้าสื่อมวลชน ดังนั้นเราต้องจำกันไว้ว่านักเทนนิส คือนักกีฬา คือมืออาชีพ แต่เราก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน'
#9089
คุณแม่ยังสาวตั้งครรภ์ทานข้าวกล้องออแกนิกน้ำตาลต่ำ Low GI ข้าวอร่อยสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร ข้าวสุรินทร์ 100%
ข้าวอินทรีย์  ทำไมต้องเป็นข้าวอินทรีย์  มาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์  รูปภาพสำหรับข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวอินทรีย์แฟร์เทรด )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ขายข้าวอินทรีย์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวมะลินิลorganic, ปลูกข้าวมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคคือ, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ปลูกข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ปลูกข้าวผกาอำปึลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9. กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวกล้องหอมมะลิออร์แกนิค
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิออแกนิก
2.ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค  ข้าวผกาอำปึลเพื่อสุขภาพ (ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารพิษจังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์สุรินทร์ 6.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดสารพิษ  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออแกนิค

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#9090
​​​​​​​https://katoacademy.com/facebook-ads/
สอนเฟสบุ๊ค สอนยิงแอดเฟสบุ๊ค