• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Beer625

#6721
ก.ล.ต.แถลงแผนยุทธศาสตร์ปี 65/ศูนย์วิจัยกสิกรฯ แถลงวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนผลต่อศก.ไทย
 
ติดตามงานสัมมนาออนไลน์แถลงแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปี 2565 โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "นโยบายพัฒนาตลาดทุนไทย กลไกการพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19"

ต่อจากนั้น น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการฯ และคณะผู้บริหาร ก.ล.ต.จะร่วมกันแถลงแผนยุทธศาสตร์ฯ เสร็จแล้วจะมีการเสวนาในหัวข้อ "แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต.กับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดทุนปี 2565" โดย นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย, นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และ นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย แถลงข่าว "วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และผลต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2565"
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงสถิติการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม Opportunity Day ผลการดำเนินงานงบปี 2564 ได้แก่ บมจ.สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) , บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) , บมจ.นวนคร (NNCL) , บมจ.โฮม พอตเทอรี่ (HPT) , บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK) , บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) และ บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม (TKT)
สายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ เปิดดำเนินการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในเส้นทางกรุงเทพฯ-น่าน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26,050 ราย และมีผู้เสียชีวิต 69 ราย ขณะที่สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร และเครือข่ายผู้ประกอบการถนนคนเดินในจังหวัดต่างๆ จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อขอให้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมฯ ให้เล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้
ยังคงต้องตามบรรยากาศการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่วันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยาอย่างเป็นทางการ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความร่วมมือผู้ที่สนับสนุนผม ขอให้งดการจัดกิจกรรมที่อาจสุ่มเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทุกประเภท และขอให้การสนับสนุนในทางใดๆ ดำเนินการในกรอบของกฎหมายและระเบียบ กกต.อย่างเคร่งครัด

พรรคประชาธิปัตย์ จัดงาน "Go Together, Go Further" โดยมีการปาฐกถาพิเศษจาก นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เรื่อง "เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก" และการแสดงวิสัยทัศน์จากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคหัวข้อ"ยุทธศาสตร์ การนำเศรษฐกิจไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด"
ฟากการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา นายสนธยา คุณปลื้ม ได้ประกาศอำลาตำแหน่ง พร้อมส่งผู้สมัคร "นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ " ชิงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา

ภารกิจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ไม่มีการแจ้งวาระงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ส่วนวาระงานของ รมต.คนอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกล
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบประชุมทางไกลจากห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "สานสัมพันธ์เครือข่ายประชาสัมพันธ์และจัดแสดงดนตรีสร้างสุข" ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ศาลากลางจังหวัดชัยนาท
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังแนวคิดการเชื่อมโยงตลาดพืชผักอินทรีย์ของเกษตรรุ่นใหม่ ณ สหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา ต.แม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
#6722
โบรกฯ จับตาดีล SCB ซื้อ Bitkub เปลี่ยนหรือไม่รับความท้าทายเกณฑ์ใหม่ ธปท.

บทวิเคราะห์ของ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า ดีลที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จะเข้าซื้อหุ้น 51% ใน Bitkub เริ่มไม่แน่นอนและมึความท้าทายมากขึ้น หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกเกณฑ์จำกัดไม่ให้สถาบันการเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเกินกว่า 3% ของเงินกองทุนฯ ซึ่งหากดีลล่มอาจจะทำให้หุ้น SCB ถูก de-rate เพราะในปัจจุบันราคาหุ้นมี premium จากหุ้นอื่นในกลุ่มอยู่ 15% โดยราคาเป้าหมายของเราใช้ P/BV แบบมี premium ที่ 1.2x จากการปรับองค์กรใหม่ ซึ่งรวม Bitkub ด้วย

เพื่อเกาะกระแสการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล SCB ได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาหลายบริษัทเพื่อเจาะธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ อย่างเช่น ICO portal (ธุรกิจ underwriting), ดีลเลอร์ และตลาดกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในส่วนของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งธนาคาร บริษัทแม่ รวมถึงบริษัทลูกต่าง ๆ จะไม่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง แต่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ในเชิงของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล และเพื่อให้เป็นไปตามแผนระยะยาว SCB Securities (บริษัทลูกของ SCB) ได้เข้าทำสัญญาซื้อหุ้น 51% ของ Bitkub Online (ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล) ที่ราคา 1.785 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าดีลจะได้ข้อสรุปภายใน Q2/65

ขณะที่กฎเกณฑ์ของทางการไม่เอื้อกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยธปท. เพิ่งออกเกณฑ์ในการคุมธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคารโดยอนุญาตให้ธนาคารลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้ไม่เกิน 3% ของฐานเงินทุนธนาคาร โดยการลงทุนส่วนที่เกิน 3% จะถูกหักออกจากฐานเงินทุน ซึ่งจะทำให้ CAR ของธนาคารลดลง ทั้งนี้ เนื่องจากดีลซื้อ Bitkub มีมูลค่า 1.785 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของฐานเงินทุน SCB (เกินเพดาน 3% ที่ธปท. กำหนด) ดีลนี้จึงทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น

ทั้งนี้ มองว่ามีหลาย scenario สำหรับดีล Bitkub การที่ ธปท. กำหนดเพดานการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ที่ 3% ของฐานเงินทุนธนาคาร เรามองว่ายังมีความไม่ชัดเจนว่าการลงทุนดังกล่าวหมายถึงเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงเท่านั้น หรือหมายรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย

ในกรณีเลวร้ายที่สุดที่ดีลซื้อ Bitkub ที่ราคา 1.785 หมื่นล้านบาทนับเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย (เทียบกับฐานเงินทุนของ SCB ที่ 4.10 แสนล้านบาท) มูลค่าการลงทุนในดีลนี้ส่วนที่เกิน 3% ซึ่งจะถูกหักออกจากฐานเงินทุนของ SCB จะอยู่ที่ประมาณ 5.5 พันล้านบาท ดังนั้น ฐานเงินทุนที่ถูกปรับใหม่หลังดีล Bitkub จะอยู่ที่ประมาณ 4.04 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้ CAR ลดลงไป 25 bps เหลือ 18.17% (จาก 18.42% ก่อนเข้าซื้อ Bitkub) ทั้งนี้ SCB อาจจะพิจารณาปรับลดราคาเข้าซื้อ Bitkub หรือยกเลิกดีลนี้ไปเลยก็ได้

ทั้งนี้ เมื่อประกอบกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมหภาคจากความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอก ถึงแม้เราจะยังคงคำแนะนำซื้อ SCB แต่เราแนะนำให้ซื้อเมื่อราคาย่อลงมาก่อน

แต่ในด้านของ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ยังแนะ"ถือ" SCB ให้ราคาพื้นฐาน 132.00 บาท โดยคาดว่า SCN จะซื้อ Bitkup ต่อได้ แม้มีเกณฑ์ใหม่ของ ธปท.มีข้อจำกัดในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (DA) ไม่ให้เกิน 3% ของเงินกองทุน จึงทำให้มีการศึกษาเรื่องผลกระทบเงินกองทุนของธนาคารว่าจะกระทบเพียงใด และยังอยู่ในเกณฑ์หรือไม่ และที่สำคัญคือ ยังจะลงทุนต่อใน Bitkup ได้หรือไม่ ตามที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้า

ศึกษาส่วนประกอบการลงทุนใน Bitkup จะประกอบด้วน มูลค่าทางบัญชี และส่วนค่านิยม (Goodwill) จากผลการศึกษาเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CET) ยังเป็นไปตามเกณฑ์ หากนำค่านิยมของ Bitkup ไปหักออกจากเงินกองทุนขั้นที่ 1 พบว่า CET1/Teir 1 จะลดลงเล็กน้อยจากระดับปกติที่ 17.60% และถือว่าสูงกว่าสัดส่วนขั้นต่ำที่ ธปท.กำหนดไว้ที่ 8.00% อยู่มาก ประเด็นนี้จึงผ่านไปได้

สำหรับเกณฑ์การลงทุน DA ไม่ให้เกิน 3% ของเงินกองทุนก็ผ่าน เนื่องจากเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีของ Bitkup ข้างต้นมาเทียบกับเงินกองทุนทั้งหมดที่ราว 4.2 แสนล้านบาท ก็จะมีสัดส่วนที่ยังไม่เกิน 3% จึงคาดว่าจะไม่กระทบต่อแผนการลงทุน และไม่กระทบต่อราคาหุ้น SCB

ขณะที่ราคาหุ้น SCB ณ เวลา 10.13 น.อยู่ที่ 113.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวานนี้
#6723
ทีดีอาร์ไอ ห่วงรัฐบาลหมดกระสุนกระตุ้น ศก.ท่ามกลางความเสี่ยงรอบด้านเพิ่มขึ้น

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ในงานเสวนา "แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. กับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดทุนปี 65" ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 65 คาดว่าจะเติบโตในกรอบ 3.0-3.5% โดยจะได้รับปัจจัยหนุนหลักจากอุตสาหกรรมการส่งออกเป็นหลัก ซึ่งได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก และเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพสูง จึงสามารถเดินหน้าใช้มาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังคงมีความกังวลด้านการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่สามารถอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยลงมาก หลังจากที่ในปี 63 มี พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และในปี 64 มี พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท แต่ในปี 65 คงไม่มีเม็ดเงินในลักษณะดังกล่าวออกมาแล้ว และเมื่อดูการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ได้มีการเติบโต และอาจหดตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นปีนี้ภาคเอกชนและประชาชนคงต้องสู้ด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน แม้ขณะรนี้ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงที่รุนแรงมากนัก แต่ก็มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากนักเที่ยวรัสเซียเป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย และ ยังมีแรงกดดันจากราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่าจะมีความยืดเยื้อ หรือรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน

รวมถึงต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะชะลอลงในรูปแบบเดียวกับในต่างประเทศหรือไม่ เพราะหากตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภาครัฐอาจจำเป็นต้องออกมาตรการควบคุมการระบาดอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นผลกระทบที่มาซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมด้วย
#6724
ภาวะตลาดอนุพันธ์: ปรับขึ้นรับแรงซื้อกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันขึ้นสูง จับตาประชุม NATO

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้ S50H22 ช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลดลงไปตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค แต่อย่างไรก็ตามดัชนีกลับมารีบาวด์ได้ในช่วงบ่าย รับแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และ ADVANC ก็ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี

โดยนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน ขณะที่การประชุมผู้นำองค์การสนธิสัญญา ป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่กรุงบรัสเซลส์คาดว่าจะไม่ทำให้สถานการณ์มีความรุนมากขึ้น ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นรัสเซียให้ดีดตัวขึ้น กว่า 10% หลังกลับมาเปิดซื้อขายเป็นวันแรก หนุนให้ตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมไปถึงตลาดหุ้นยุโปรกลับมายืนในแดนบวกได้

ทั้งนี้มองว่าวันพรุ่งนี้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน หากไม่มีความชัดเจน มองว่าการปรับตัวขึ้นค่อนข้างจำกัด ให้แนวต้าน 1,017 จุด และ 1,026 จุด แนวรับ 1,004 จุด และ 1,002 จุด หากรับไม่อยู่ให้แนวรับถัดไปที่ 997 จุด และ 994 จุด แนะนำให้ซื้อขายเพื่อทำกำไรในกรอบการเคลื่อนไหว

ด้านราคาทองคำอ่อนตัวลงค่อนข้างจำกัด หลังราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตอบรับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย และยูเครน โดยนักลงทุนยังคงติดตามการประชุม NATO ที่มีขึ้นในวันนี้ หากราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงจะกระทบให้อัตราเงินเฟ้อปรับ ตัวสูงขึ้น แต่จะเป็นแรงหนุนราคาทองคำที่เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น

โดยให้แนวรับที่ 1,925 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และ 1,915 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หากไม่หลุดให้เข้าซื้อ แต่หากหลุดแนวรับดัง กล่าวให้มองแนวรับถัดไปที่ 1,895 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ พร้อมให้แนวต้านที่ 1,950-1,958 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวต้านถัดไปที่ 1,974 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,012.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.73 จุด, +0.37%

                                          ปริมาณ                สถานะคงค้าง
Total Market                             599,229               4,163,465
Total Futures                            594,075               4,021,848
SET50 Index                              220,429                 408,267
Sector Index                                -                       -
Single Stock                             310,392               3,408,106
Precious Metal                            40,195                  71,550
- GF10                                     6,306                  20,254
- GF50                                       200                     774
- Gold Online                             33,557                  48,683
- Silver Online                              132                   1,839
Deferred Precious Metal                       22                       2
- GOLD-D                                      22                       2
Currency                                  23,007                 133,633
Interest Rate                                -                        -
Agriculture                                   30                     290
- Japanese Rubber                             30                     290
- RSS3D                                      -                        -
- RSS3                                       -                        -
Total Options                              5,154                 141,617
Call                                       2,309                  50,023
Put                                        2,845                  91,594

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน

                  นักลงทุนสถาบัน          นักลงทุนต่างชาติ          นักลงทุนภายในประเทศ
Futures              +3,417              +23,031                -26,448
Options                +224                 +166                   -390
 
#6725
ส่งสินค้าทางเครื่องบิน ไปเวียดนาม พวกเราบริการขนส่งสินค้าทั้งโลก
มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์และก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์อื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการขนส่งอีกทั้งในและ
ต่างประเทศซึ่งเกี่ยวในอุตสาหกรรมการขนส่ง

ส่งสินค้าทางเครื่องบิน ไปเวียดนาม การส่งมอบผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศมากมาย
กว่า 22 ปีด้วยความตั้งใจจริงที่
ต้องการเน้นย้ำให้ลูกค้าเพื่อได้รับ
ความพอใจและก็บริการอย่างสูง
ส่งสินค้าทางเครื่องบิน ไปเวียดนาม สุด โดยจากจุดเริ่มที่พวกเราเริ่มด้วยบุคลากรที่มี
ความเป็นจริงเป็นจัง
ในการให้บริการซึ่งได้รับ
การฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี


https://bit.ly/3uv7A9Z
#6726
DIPEPTIDE NANO ENCAPSULATION

ใน Mana collagen มานาคอลลาเจน

นวัตกรรมใหม่ ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวจาก Asahi  คอลลาลาเจนไดเปปไทด์ ซึ่งผ่านนวัตกรรม Nano ให้มีอนุภาคเล็กและดูดซึมได้ดีที่สุดในโลก สามารถดูดซึมตั้งแต่ชั้นผิวหนังและดูดซึมสู่เส้นเลือดได้ทันที และนวัตกรรม Encapsulation ช่วยให้คอลลาเจนอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นและสามารถดูดซึมได้ทั้งหมด ทำให้เห็นผลไว ผิวใส เนียน กระชับ
เป็นนวัตกรรมใหม่ Encapsulation ที่ทำให้โมเลกุลเล็กลงจากตัวเก่า มานาคอลลาเจนสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้นถึงชั้นผิวหนัง (ดีที่สุดในโลก) เห็นผลไวกว่า ใสกว่า ละลายน้ำง่าย ไม่มีกลิ่นคาว
และยังเพิ่มสาร Premium Q10 เป็นสารต้านอนูมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันโรคภัยต่างๆอีกด้วย
มานาคอลลาเจน พรีเมี่ยมคอลลาเจน 1 กระป๋อง ปริมาณบรรจุ 110,000 มก.
มานาคอลลาเจน ปริมาณ 5,000 มก. ต่อ 1 ช้อนตวง (มีแถมให้ในกระป๋อง)

ทาน มานาคอลลาเจน วันละ 1 ช้อน สามารถทาน มานาคอลลาเจน ได้ถึง 22 วัน

สนใจ mana collagen ทัก
สมัครตัวแทนจำหน่าย ท้ก
---------------------------------------------------------
Line:@collagen
http://line.me/ti/p/@collagen
FB. https://www.facebook.com/manacollagedipeptide
www.manaok.com
www.manaextra.com
www.manathailand.page
#6727
www.facebook.com/mediapro60
สอนทำพิมพ์ สอนหล่อเรซิ่น น้ำยาดับกลิ่นเรซิ่น
#6730

ในตอนนี้คนประเทศไทยมีสังคมออนไลน์ที่รู้จักกันดีอยู่หลายที่ ไม่ว่าจะเป็น ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ค, IG หรือ Instagram และก็ TikTok รวมทั้งอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหนึ่งโซเชียลมีเดียที่ใครหลายๆคนไม่รู้จักแต่ว่ากำลังเดินทางมาแรงและเต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมายก่ายกองก็คือ Pinterest ที่จะต้องบอกเลยว่าแพลตฟอร์มนี้นั้นมากไปด้วยเรื่องราวที่น่าดึงดูดที่สร้างแรงจูงใจแล้วก็มอบความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ชมเยอะๆจนกระทั่งทำให้หลายท่านอยากที่จะโหลดวีดีโอจาก pinterest มาติดไว้ที่เครื่องอย่างยิ่งจริงๆ


Pinterest หรือ www.pinterest.com หมายถึงการ Pin หรือปักหมุดสิ่งที่คุณพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอ โดยชื่อนั้นมาจากการผสมของคำว่า Pin แล้วก็ Interest โดยสามารถเก็บรวบรวมแล้วก็ปักหมุดสิ่งต่างๆที่คุณสนใจจากตนเองและเว็บต่างๆไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่หรือร้านขายกาแฟ, แฟชั่น, ศิลปะ, การตกแต่งบ้าน, การท่องเที่ยว, ออกแบบ แล้วก็ดนตรี เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงนี้คุณสามารถที่จะเก็บไว้ถึงที่กะไว้ Pinterest


ลักษณะเด่นของ Pinterest เป็นการมีกระดานกระดานส่วนตัวของคุณที่จะสามารถรวบรวมและสิ่งที่น่าดึงดูดเพื่อปักหมุดเอาไว้ ตามเป้าหมายต่างๆยกตัวอย่างเช่น การวางเป้าหมายเกี่ยวกับการแต่งตัว, เก็บรายการอาหารกาแฟที่ชื่นชอบ, คิดแผนหัวข้อการสมรสหรือไปงานสังสรรค์แล้วก็ฯลฯ ทั้งยังยังสามารถที่จะสร้างบอร์ดให้เป็นหมวดหมู่ต่างๆเพื่อง่ายต่อการใช้งานเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หมวดแฟชั่น, วางแบบ, ท่องเที่ยว, อาหาร และอื่นๆฯลฯ ซึ่งใน Pinterest จะมีเหล่าบัญชีต่างๆที่คุณสามารถไปกดติดตามได้เหมือนกันกับที่ผู้คนจำนวนมากก็สามารถมากมายดติดตามได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นการกดไลค์ คอมเม้นต์ราวกับ Facebook อีกด้วย


อย่างไรก็ดี หลายๆคนมักจะเกิดความรู้สึกสนใจหรืออยากจะเก็บวิดีโอที่รู้สึกชื่นชอบเอาไว้เมื่อพบเห็นใน Pinterest แล้วพวกเราจะสามารถโหลดมาเก็บเพื่อดูแบบออฟไลน์ได้ไหม ก็จำเป็นต้องบอกเลยว่าได้อย่างไม่ต้องสงสัย คุณสามารถ ดาวน์โหลดวิดีโอ pinterest ผ่านทางเว็บแล้วก็โปรแกรมสำหรับในการดาวน์โหลดโดยยิ่งไปกว่านั้นเพื่อจัดเก็บต้นแบบที่ตนเองต้องการ วิดีโอที่คุณต้องการส่งต่อหรือจัดเก็บไว้มองส่วนตัวเพื่อประกอบวิชาความรู้ การผลิตสรรค์ เป็นแนวคิดหรือสไตล์ต่างๆซึ่งสามารถกดบันทึกมาเพื่อมองโดยไม่ใช้อินเตอร์เน็ตได้ พูดได้ว่าง่ายรวมทั้งสะดวกเป็นอย่างมาก


แล้วการ ดาวน์โหลดวิดีโอ pinterest นั้นจะเสียค่าใช้จ่ายไหม? ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าการโหลดวิดีโอต่างๆจากแพลตฟอร์มนี้ผ่านทางเว็บรวมทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ฟรีในทุกขั้นตอน ทั้งยังสามารถเลือกขนาดแล้วก็ความละเอียดของวิดีโอได้อีกด้วย พูดได้ว่าถ้าหากว่าคุณกำลังพึงพอใจต้องการ pinterest รูป อยู่ล่ะก็ ไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอน
#6731
ห้ามพลาด!!!! รับจำกัด 50 คนเท่านั้น
สนใจพิมพ์ " สนใจ " หรือ ทักแชทเพจ เพื่อรับสิทธิ์ ด่วน ‼ ‼
---------------------------------------------------------
Line:@collagen
http://line.me/ti/p/@collagen
FB. https://www.facebook.com/manacollagedipeptide
www.manaok.com
www.manaextra.com
www.manathailand.page
#6733
ทริสคงอันดับเครดิตองค์กรของ GLOBAL ที่ระดับ A แนวโน้ม Stable

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. สยามโกล.เฮ้าส์ (GLOBAL) ที่ระดับ "A" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทย รวมทั้งผลการดำเนินงานทางการเงิน ตลอดจนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวก็ลดทอนลงจากความท้าทายที่เกิดจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ตลอดจนการมีฐานลูกค้าซึ่งมีความอ่อนไหวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาพืชผลทางการเกษตร ความผันผวนของต้นทุนราคาเหล็ก และความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้นในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19)

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

แม้จะได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง แต่รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง การดำเนินธุรกิจของบริษัทได้รับแรงกดดันจากผลกระทบของการปิดเมือง (Lockdown) ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2564 รวมทั้งจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บางจังหวัด อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทในปี 2564 ยังคงมีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมาอยู่ที่ระดับ 3.87 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ยอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทในปี 2564 เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยส่วนหนึ่งเกิดจากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้จำนวนลูกค้าเข้าร้านที่เพิ่มขึ้นหลังจากการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีบรรยากาศดีขึ้นและการคัดสรรประเภทสินค้าให้มีความหลากหลายยังช่วยเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิมในปี 2564 ให้เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศทำให้ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้น 10% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหลังจากนั้นจะเติบโตที่ระดับ 9% ต่อปีในระหว่างปี 2566-2567 นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดอีกด้วยว่ายอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4%-6% ต่อปีในช่วงปี 2565-2567

มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 25.1% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากระดับ 23.8% ในปี 2563 จากผลของการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยรายได้จากกลุ่มสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าสินค้าภายใต้ตราสินค้าอื่นในท้องตลาดนั้นมีสัดส่วนคิดเป็น 24% ของยอดขายรวม อีกทั้ง สินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทเหล็กซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมของบริษัทนั้นนับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัทในปีที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้น
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อยอดขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 16.2% ในปี 2564 จาก 14% ในปี 2563 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรที่น่าพอใจเอาไว้ได้ในช่วงปี 2565-2567 ซึ่งภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 13%-14% ในช่วงปี 2565-2567

ระดับหนี้สินทางการเงินจะลดลง อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินรวมต่อเงินทุนของบริษัทปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42.7% ณ สิ้นปี 2564 จากระดับ 45.5% ณ สิ้นปี 2563 เนื่องจากบริษัทมีการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่ลดลง
บริษัทวางแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 7-8 แห่งในปี 2565-2567 ดังนั้น เงินลงทุนของบริษัทจึงคาดว่าน่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2-2.3 พันล้านบาทต่อปี ดังนั้น อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจึงคาดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 35%-41% ในระหว่างปี 2565-2567 โดยลดลงจากระดับ 43%-46% ในปี 2563-2564

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.4-3 เท่าในช่วง 3 ปีข้างหน้าและอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ที่ระดับ 27%-34% ในช่วงปี 2565-2567

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยแหล่งสภาพคล่องประกอบไปด้วยเงินสดในมือและวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 2 หมื่นล้านบาทและเงินทุนจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4-5 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2566-2567 ซึ่งน่าจะเพียงพอรองรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในช่วง 12 เดือนข้างหน้าได้ วงจรเงินสดค่อนข้างยาว

เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความเพียงพอของสินค้าเพื่อให้เหมาะสมกับการให้บริการในรูปแบบร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ บริษัทจึงต้องจัดให้มีปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมากและมีวงจรเงินสดที่ค่อนข้างยาวในระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 220 วัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏว่าบริษัทมีการใช้เงินทุนที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนในปัจจุบันของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ที่ประมาณ 1 เท่าในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาโดยบริษัทมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่ใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการบริหารจัดการสินทรัพย์หมุนเวียนเป็นหลัก (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าคงคลัง)

มีสถานะเป็นผู้นำทางการตลาดในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการค้าปลีกชั้นนำของไทยที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีจำนวนสาขาทั้งหมด 75 แห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศและอีก 1 แห่งในประเทศกัมพูชา โดยทุกสาขาของบริษัทในประเทศไทยนั้นมีทำเลตั้งอยู่ในเขตต่างจังหวัดซึ่งประมาณ 30 สาขาตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่เหลืออยู่ในภาคอื่น ๆ ของประเทศยกเว้นกรุงเทพฯ
บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.4 หมื่นล้านบาทในปี 2564 จากระดับ 2.73 หมื่นล้านบาทในปี 2563 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ระดับ 13%-16% มาโดยตลอดในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งรายใหญ่อื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 11%

การขยายสาขาในต่างประเทศ บริษัทได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กัมพูชา และเมียนมาในช่วงปี 2558-2563 ทั้งนี้ การลงทุนในต่างประเทศน่าจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจค้าปลีกเชิงกลยุทธ์ของบริษัทไปในประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) หรืออาเซียน ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 บริษัท โกล.เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (GBI) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าระหว่างบริษัทและ บริษัท เอสซีจี ดีสทริบิวชั่น จำกัด (SCGD) ได้ประกาศที่จะลงทุนซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 22% ของ Caturkarda Depo Bangunan Tbk (CKDB) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ตลอดจนสินค้าตกแต่งบ้าน และฮาร์ดแวร์ชั้นนำของประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นเจ้าของตราสินค้า "Depo Bangunan" ซึ่งเงินลงทุนรวมของ GBI ในการซื้อหุ้นดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 847 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้ก่อตั้งบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งคือ Guangxi Global House Co., Ltd. เพื่อให้ทำหน้าที่สนับสนุนการจัดซื้อสินค้าจากประเทศจีนมายังประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้แก่บริษัทอีกด้วย
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10% ในปี 2565 และจะเติบโตที่ระดับ 9% ในช่วงปี 2566-2567
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จะอยู่ที่ระดับประมาณ 13%-14% ในระหว่างปี 2565-2567
ค่าใช้จ่ายส่วนทุนและเงินลงทุนรวมจะอยู่ที่ระดับ 2.0-2.3 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2567
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านต่อไปได้ พร้อมทั้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ในช่วงที่มีการขยายธุรกิจอีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยการลดวงจรเงินสดให้สั้นลงและเพิ่มกระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้มากขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในขณะเดียวกันกับที่ยังคงสามารถรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรและเงินสดส่วนเกินที่รองรับการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับที่ดีได้ด้วย ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผลการดำเนินงานของบริษัทถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง หรือบริษัทมีระดับหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งส่งผลทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง
#6734
ทริสคงอันดับเครดิตองค์กรของ GLOBAL ที่ระดับ A แนวโน้ม Stable

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. สยามโกล.เฮ้าส์ (GLOBAL) ที่ระดับ "A" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านในประเทศไทย รวมทั้งผลการดำเนินงานทางการเงิน ตลอดจนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวก็ลดทอนลงจากความท้าทายที่เกิดจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ตลอดจนการมีฐานลูกค้าซึ่งมีความอ่อนไหวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาพืชผลทางการเกษตร ความผันผวนของต้นทุนราคาเหล็ก และความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้นในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19)

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

แม้จะได้รับผลกระทบจากการปิดเมือง แต่รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง การดำเนินธุรกิจของบริษัทได้รับแรงกดดันจากผลกระทบของการปิดเมือง (Lockdown) ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2564 รวมทั้งจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บางจังหวัด อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัทในปี 2564 ยังคงมีความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมาอยู่ที่ระดับ 3.87 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ยอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทในปี 2564 เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยส่วนหนึ่งเกิดจากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้จำนวนลูกค้าเข้าร้านที่เพิ่มขึ้นหลังจากการปรับปรุงสาขาเดิมให้มีบรรยากาศดีขึ้นและการคัดสรรประเภทสินค้าให้มีความหลากหลายยังช่วยเพิ่มยอดขายจากสาขาเดิมในปี 2564 ให้เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
การฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศทำให้ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่ารายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้น 10% ในปี 2565 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหลังจากนั้นจะเติบโตที่ระดับ 9% ต่อปีในระหว่างปี 2566-2567 นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดอีกด้วยว่ายอดขายจากสาขาเดิมของบริษัทจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4%-6% ต่อปีในช่วงปี 2565-2567

มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 25.1% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจากระดับ 23.8% ในปี 2563 จากผลของการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยรายได้จากกลุ่มสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่าสินค้าภายใต้ตราสินค้าอื่นในท้องตลาดนั้นมีสัดส่วนคิดเป็น 24% ของยอดขายรวม อีกทั้ง สินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าประเภทเหล็กซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมของบริษัทนั้นนับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัทในปีที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้น
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อยอดขายของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 16.2% ในปี 2564 จาก 14% ในปี 2563 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรที่น่าพอใจเอาไว้ได้ในช่วงปี 2565-2567 ซึ่งภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 13%-14% ในช่วงปี 2565-2567

ระดับหนี้สินทางการเงินจะลดลง อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินรวมต่อเงินทุนของบริษัทปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 42.7% ณ สิ้นปี 2564 จากระดับ 45.5% ณ สิ้นปี 2563 เนื่องจากบริษัทมีการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่ลดลง
บริษัทวางแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 7-8 แห่งในปี 2565-2567 ดังนั้น เงินลงทุนของบริษัทจึงคาดว่าน่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2-2.3 พันล้านบาทต่อปี ดังนั้น อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจึงคาดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 35%-41% ในระหว่างปี 2565-2567 โดยลดลงจากระดับ 43%-46% ในปี 2563-2564

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2.4-3 เท่าในช่วง 3 ปีข้างหน้าและอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ที่ระดับ 27%-34% ในช่วงปี 2565-2567

ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยแหล่งสภาพคล่องประกอบไปด้วยเงินสดในมือและวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้ซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 2 หมื่นล้านบาทและเงินทุนจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4-5 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2566-2567 ซึ่งน่าจะเพียงพอรองรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในช่วง 12 เดือนข้างหน้าได้ วงจรเงินสดค่อนข้างยาว

เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความเพียงพอของสินค้าเพื่อให้เหมาะสมกับการให้บริการในรูปแบบร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ บริษัทจึงต้องจัดให้มีปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมากและมีวงจรเงินสดที่ค่อนข้างยาวในระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 220 วัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏว่าบริษัทมีการใช้เงินทุนที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนในปัจจุบันของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ที่ประมาณ 1 เท่าในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาโดยบริษัทมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินที่ใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการบริหารจัดการสินทรัพย์หมุนเวียนเป็นหลัก (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าคงคลัง)

มีสถานะเป็นผู้นำทางการตลาดในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการค้าปลีกชั้นนำของไทยที่จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีจำนวนสาขาทั้งหมด 75 แห่งซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศและอีก 1 แห่งในประเทศกัมพูชา โดยทุกสาขาของบริษัทในประเทศไทยนั้นมีทำเลตั้งอยู่ในเขตต่างจังหวัดซึ่งประมาณ 30 สาขาตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่เหลืออยู่ในภาคอื่น ๆ ของประเทศยกเว้นกรุงเทพฯ
บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.4 หมื่นล้านบาทในปี 2564 จากระดับ 2.73 หมื่นล้านบาทในปี 2563 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทอยู่ที่ระดับ 13%-16% มาโดยตลอดในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งรายใหญ่อื่น ๆ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 11%

การขยายสาขาในต่างประเทศ บริษัทได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กัมพูชา และเมียนมาในช่วงปี 2558-2563 ทั้งนี้ การลงทุนในต่างประเทศน่าจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจค้าปลีกเชิงกลยุทธ์ของบริษัทไปในประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) หรืออาเซียน ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2564 บริษัท โกล.เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (GBI) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าระหว่างบริษัทและ บริษัท เอสซีจี ดีสทริบิวชั่น จำกัด (SCGD) ได้ประกาศที่จะลงทุนซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 22% ของ Caturkarda Depo Bangunan Tbk (CKDB) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ตลอดจนสินค้าตกแต่งบ้าน และฮาร์ดแวร์ชั้นนำของประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นเจ้าของตราสินค้า "Depo Bangunan" ซึ่งเงินลงทุนรวมของ GBI ในการซื้อหุ้นดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 847 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้ก่อตั้งบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งคือ Guangxi Global House Co., Ltd. เพื่อให้ทำหน้าที่สนับสนุนการจัดซื้อสินค้าจากประเทศจีนมายังประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้แก่บริษัทอีกด้วย
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 10% ในปี 2565 และจะเติบโตที่ระดับ 9% ในช่วงปี 2566-2567
อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จะอยู่ที่ระดับประมาณ 13%-14% ในระหว่างปี 2565-2567
ค่าใช้จ่ายส่วนทุนและเงินลงทุนรวมจะอยู่ที่ระดับ 2.0-2.3 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2565-2567
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดในธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านต่อไปได้ พร้อมทั้งยังคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ในช่วงที่มีการขยายธุรกิจอีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยการลดวงจรเงินสดให้สั้นลงและเพิ่มกระแสเงินสดจากการดำเนินงานให้มากขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในขณะเดียวกันกับที่ยังคงสามารถรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรและเงินสดส่วนเกินที่รองรับการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับที่ดีได้ด้วย ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผลการดำเนินงานของบริษัทถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง หรือบริษัทมีระดับหนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญซึ่งส่งผลทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง