• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Fern751

#11432


เพจเฟซบุ๊ค Trash Hero Thailand รณรงค์ให้ใช้มาสก์แบบใช้ซ้ำแทนมาสก์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อลดปัญหาต่อสังคม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม โดยระบุถึงปัญหาที่เกิดขึ้น "ใช้ครั้งเดียว=ภัยสามต่อ" พร้อมอธิบายว่า

ทุกคนรู้ดีว่าหนึ่งในมาตรการหลักที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 คือการใช้หน้ากากหรือมาสก์หน้า วางอยู่เหนือจมูกและปาก เพื่อป้องกันละอองฝอยเข้าทางเดินหายใจซึ่งส่งเชื้อไวรัส และหยุดการแพร่กระจายไปยังผู้อื่น

หน้ากากมีหลายประเภท แต่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส COVID-19 คือการใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ทั้งที่จริงถ้าเราอยู่ภายนอกสถานที่กักกันโรค โรงพยาบาล แหล่งแพร่ระบาด ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ด่านหน้า การใช้หน้ากากแบบผ้าก็สามารถใช้ป้องกันความปลอดภัยในระดับที่ยอมรับได้ และไม่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ทั่วโลกเราใช้มาสก์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้งประมาณ 129 พันล้านชิ้นทุกเดือน สมมติว่าแต่ละรายการมีน้ำหนัก 4 กรัม นั่นคือ 516,000 เมตริกตันของขยะอันตรายที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 30 วัน หากมีเพียง 1% ของสิ่งนี้กลายเป็นขยะ (ประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม) นั่นหมายความว่าหน้ากาก 23 พันล้านชิ้นได้เข้าสู่แม่น้ำ มหาสมุทร และป่าไม้ของเราในช่วง 18 เดือนนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด และแน่นอนว่ายังมีของเสียปนเปื้อนเพิ่มเติมอีกหลายแสนตันสำหรับเทศบาล ชุมชนที่จะจัดการ สมมติว่าพวกเขามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้

สถิติดังกล่าวเป็นปัญหาน่าวิตก ซึ่งจากประสบการณ์ของแทรชฮีโร่ในการทำความสะอาดทั่วโลกในปี 2020 และ 2021 ตามบทบาทของแทรชฮีโร่ ที่วางระบบบันทึกจำนวนมาสก์แบบใช้ครั้งเดียว และ PPE อื่นๆ ทุกสัปดาห์ในระดับเครือข่าย เพื่อจะสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเรามองว่าเป็นภัยคุกคามสามประการของมาสก์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง

ข้อมูลอ้างอิง https:// trashhero.org/single-use-mask-pollution/,Trash Hero Thailand
#11436


อย่างที่รู้กันอยู่ว่าทุกวันนี้การสำรวจเรตติ้งในประเทศเรานั้น ที่ได้ยินกันบ่อยๆ และมักจะเอามาอ้างอิงในศึกชิงความเป็นหนึ่งในสมรภูมิหน้าจอทีวีนั้น มักจะอ้างอิงตัวเลขมาจาก "นีลเส็น (Nielsen)" บริษัทวัดเรตติ้งเพื่อการตลาด ซึ่งตัวเลขเหล่านั้นก็จะส่งผลให้เอเจนซี่สามารถนำไปตัดสินใจว่าจะเทเม็ดเงินโฆษณานั้นลงไปให้กับช่องใดบ้าง เพราะถ้าพูดถึงว่าเรตติ้งดีเท่าไหร่ งบโฆษณาในแต่ละไตรมาสก็จะเทมามากเท่านั้น จึงไม่แปลกใจว่าทำไมช่อง 7HD ถึงยืนหนึ่งในเรื่องเรตติ้ง

แต่หลังจากพฤติกรรมคนดูในบ้านเราได้เปลี่ยนไป แม้ทีวีจะยังเป็นสื่อหลักในการเข้าถึงทุกบ้าน แต่ "สื่อออนไลน์" ก็เติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน เลยทำให้ผู้ชมบางส่วนดูผ่านออนไลน์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งก็มีให้เลือกสรรตามความชอบและความพึ่งพอใจของแต่ละบุคคล จึงทำให้หลายช่องก่อนหน้านี้ ลงทุนให้ "นีสเส็น" จัดตั้งโครงการวัดเรตติ้งทางออนไลน์ซึ่งไม่รวมกับการวัดเรตติ้งจากจอทีวี โดยเริ่มตั้งแต่ต้นปี 60 ซึ่งมีทีวีดิจิตอลช่องต่างๆ เข้าร่วมอาทิ ช่อง 7, เวิร์คพอยท์ ทีวี, ไทยรัฐทีวี, ช่อง 3

ล่าสุด "สมาคมทีวีดิจิตอล" ได้ยื่นเสนอโครงการขอสนับสนุนงบประมาณ 288.8 ล้านบาท จาก กสทช.ก็ผ่านการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญาบันทึกความเข้าใจร่วมกันแล้ว โดยมี "นีลเส็น (Nielsen)" เป็นผู้รับจ้างสมาคมฯ ทำการสำรวจแบบข้ามแพลตฟอร์ม (Cross Platform) เพื่อให้ได้ผลความนิยมทั้งจากการรับชมแบบเดิมผ่านหน้าจอทีวีและการรับชมแบบใหม่ผ่านจอออนไลน์ ในกรอบระยะเวลา 4 ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป และแปลตามความเข้าใจแบบชาวบ้านง่ายๆ คือครั้งนี้จะเป็นการวัดเรตติ้งจากแพลตฟอร์มที่เป็นออนไลน์เกือบทั้งหมด เพราะนอกจากจะวัดผลจากหน้าจอทีวีแล้ว ในส่วนของหน้าจอออนไลน์ที่ออกอากาศแบบ streaming สดพร้อมกัน (ไม่นับการดูย้อนหลังแบบ VOD video on demand ) เพื่อรายงานผลเรตติ้งแบบ total rating เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการอีกด้วย โดยในครั้งนี้จะเป็นการวัดทุกช่อง ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจะทำไปพร้อมๆ กันทั้งอุตสาหกรรมทีวีบ้านเรา

โดย "สุภาพ คลี่ขจาย" นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล(ประเทศไทย) ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการนี้ว่า "เป็นโครงการที่สมาคมฯ ผลักดันอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าสองปี นับตั้งแต่มีประกาศตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 4/2562 (ม.44) ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของผลการสำรวจความนิยมของผู้ชมเป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาคุณภาพรายการของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลซึ่งเป็นสื่อหลักของชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของสังคมที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้ชมทั้งผ่านจอทีวีและจอออนไลน์ โดยโจทย์สำคัญคือ จะทำอย่างไร ? ให้เกิดความน่าเชื่อถือ แม่นยำ และสามารถตรวจสอบความโปร่งใสในที่มาของกลุ่มตัวอย่างและระเบียบวิธีวิจัยในมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปพัฒนารูปแบบรายการ และมีเดียเอเจนซีผู้นำไปใช้ประโยชน์วางแผนในการซื้อสื่อโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่งสาระสำคัญในการสำรวจความนิยมโทรทัศน์แบบใหม่นี้ จะขยายหน่วยตัวอย่างที่ใช้เป็นพื้นฐานพัฒนาเรตติ้งรายการ จากเดิม 9,000 ตัวอย่าง เป็น 13,000 ตัวอย่าง ควบคู่กับการพัฒนาโปรแกรมการสำรวจ (Software) ระบบใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การวัดความนิยมของรายการโทรทัศน์แบบข้ามแพลตฟอร์ม (Cross Platform) ทั้งจากหน้าจอทีวีภาคพื้นดินและหน้าจอของแพลตฟอร์มออนไลน์ การสำรวจความนิยมรายการโทรทัศน์แบบข้ามแพลตฟอร์มนี้ เป็นเทคโนโลยีระบบการวิจัยล่าสุดที่ นีลเส็น ได้พัฒนาและเริ่มใช้แล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก ล่าสุดได้ทำการติดตั้งระบบที่ประเทศเดนมาร์ก และซาอุดิอาระเบีย ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะใช้ระบบการวัดทีวีเรตติ้งแบบใหม่นี้"

และการวัดเรตติ้งในครั้งนี้ทั้งทางหน้าจอทีวี และทางแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างนั้นๆ จะถือได้ว่าเป็นทางการ โดยตัวเลขที่ได้มานอกจากจะการันตีให้รายการในช่องต่างๆ แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้เอเจนซี่ใช้ไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อโฆษณา โดยอาจจะซื้อโฆษณาแบบเป็นแพ็กเกจพร้อมกันทั้งหน้าจอทีวี แพลตฟอร์มออนไลน์ นี่ก็ถือได้ว่าจะทำให้เม็ดเงินในอุตสาหกรรมทีวีบ้านเราเติบโตคักคักอีกครั้ง หลังจากต้องเผชิญปัญหาโควิดอยู่ ณ ตอนนี้
#11437


ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เผยว่า จากที่ธนาคารได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการ ผ่านมาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน โดยเปิดให้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และกำหนดปิดรับแจ้งความประสงค์ในวันที่ 15 สิงหาคม 2564 นี้

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารเข้าถึงมาตรการได้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ธนาคารได้ขยายระยะเวลาแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 2 เดือน ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 นี้ โดยลูกค้าธนาคารสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของธนาคาร เช่น เว็บไซต์ https://www.smebank.co.th , LINE OA : SME Development Bank และแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357
#11439
ขายดาวน์  215,800 ( กค 2564 ) ห้อง 812
#11440
สนใจติดต่อคุณเป้ง 087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน
#11441


นับเป็นก้าวสำคัญที่แฟน.ชาวไทยต้องติดตามด้วยใจระทึก เมื่อ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กองกลางดาวรุ่งชาวไทย ได้รับโอกาสจาก เลสเตอร์ ซิตี ให้ติดทีมชุดใหญ่สำหรับลุยศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ซีซัน 2021/22 อย่างเป็นทางการ

พลพรรค "สุนัขจิ้งจอก" ทำการประกาศรายชื่อนักเตะชุดใหญ่ที่จะลงเตะ พรีเมียร์ ลีก ซีซันนี้ ซึ่งปรากฏว่า มีชื่อของ "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร เป็น 1 ใน 30 คนของทีมชุดนี้ ซึ่งจะได้สวมใส่หมายเลข 48 สำหรับการเล่นอาชีพ

ก่อนหน้านี้ ธนวัฒน์ ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับ "เดอะ ฟ็อกซ์" ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซัน และทีมชุด U-23 เป็นการชิมลางมาแล้ว ก่อนได้รับการยอมรับจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีม ให้ขยับมาเตะทีมชุดใหญ่ได้ในที่สุด

สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี จะประเดิมศึก พรีเมียร์ ลีก นัดแรกเจอ วูล์ฟแฮมตัน ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดียม คืนวันที่ 14 สิงหาคม นี้