• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Hanako5

#10081
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8
#10082
ไทยครองแชมป์ส่งออก 'สิ่งปรุงรสอาหาร' ในตลาดอาเซียน เชียร์ใช้ FTA และ RCEP สร้างแต้มต่อเจาะตลาดเพิ่ม

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ชี้! สิ่งปรุงรสอาหารไทยเป็นสินค้ามาแรงช่วงโควิด ดันยอดส่งออก ตลาดโลก ปี 64 พุ่งถึง 949.11 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12% เผยไทยครองแชมป์ผู้ส่งออกในตลาดอาเซียน สัดส่วนถึง 30% และอับดับ 4 ของโลก แนะผู้ประกอบการใช้ FTA และ RCEP สร้างแต้มต่อขยายส่งออกตลาดต่างประเทศ พร้อมเน้นถึงคุณภาพมาตรฐานสินค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผู้บริโภค

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สินค้าสิ่งปรุงรสอาหารถือเป็นสินค้าดาวรุ่งของไทยที่มีศักยภาพทั้งการผลิตและการส่งออก ซึ่งปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสิ่งปรุงรสอาหารอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน นอกจากนี้ สินค้าสิ่งปรุงรสอาหารมีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น เนื่องจากประชาชนหันมาประกอบอาหารรับประทานในครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงเป็นโอกาสที่สินค้าไทยจะขยายตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

นางอรมน กล่าวว่า ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) เพิ่มแต้มต่อขยายส่งออกสินค้าสิ่งปรุงรสอาหารไปตลาดคู่ค้า FTA ซึ่งปัจจุบัน 15 ประเทศคู่ FTA ของไทย ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ฮ่องกง ชิลี และเปรู ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสิ่งปรุงรสอาหารที่ส่งออกจากไทยแล้วทุกรายการ เหลือเพียง 3 ประเทศ ที่ยังคงภาษีนำเข้าในสินค้าบางรายการ ได้แก่ ญี่ปุ่น เก็บภาษีนำเข้าซอสมะเขือเทศ 15.3-17% เกาหลีใต้ เก็บภาษีนำเข้าซอสถั่วเหลืองและเต้าเจี้ยว 5% และอินเดีย เก็บภาษีซอสและสิ่งปรุงรส 30% นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นความตกลงฯ ฉบับล่าสุดของไทย จะมีผลบังคับให้เกาหลีใต้ทยอยลดภาษีนำเข้าสินค้าเต้าเจี้ยวให้ไทยจนเหลือศูนย์ ภายในปี 2579

?ตลาดสิ่งปรุงรสอาหารไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคในต่างประเทศนิยมรสชาติอาหารไทย และมีสินค้าวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมทั้งการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารไทยในต่างประเทศ ทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นปัจจัยหนุนให้มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยเติบโตในระยะยาว ดังนั้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานและส่วนผสมของวัตถุดิบไม่ให้มีสารปนเปื้อน พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย มีฉลากคำอธิบาย และบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ตอบโจทย์ด้านความสะดวกและกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ? นางอรมนเสริม

สำหรับในปี 2564 ไทยส่งออกสินค้าสิ่งปรุงรสอาหาร มูลค่า 949.11 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่ FTA มูลค่ารวม 509.32 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 53.66% ของการส่งออกสิ่งปรุงรสอาหารทั้งหมดของไทย ทั้งนี้ ตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัวได้ดี เช่น อาเซียน เป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 1 ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกถึง 30% ของการส่งออกทั้งหมด ขยายตัว 10% สหรัฐอเมริกา ขยายตัว 13% เนเธอร์แลนด์ ขยายตัว 26% จีน ขยายตัว 18% และเกาหลีใต้ ขยายตัว 6% เป็นต้น สินค้าส่งออกยังเติบโตได้ดีเกือบทุกรายการ อาทิ ซอสพริก ขยายตัว 37% ซอสถั่วเหลือง ขยายตัว 27% น้ำปลา ขยายตัว 20% ผงปรุงรส ขยายตัว 11% ซอสมะเขือเทศ ขยายตัว 7% และสิ่งปรุงรสอื่นๆ ขยายตัว 6%

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์

21 มกราคม 2565

ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
#10083
Facebook : CCT Fitness นำเข้าเครื่องออกกำลังกาย
Tel: 089-750-7380
สนใจชมตัวอย่างสินค้า >> https://goo.gl/maps/RBNaNTLmk8LD3T2A8
#10084
Green Curmin ปัญหากรดไหลย้อนช่วยได้ นวัตกรรมไทย ชนะรางวัลเหรียญทองระดับโลก กรีนเคอมิน โปรโมชั่นเพียบ 5 แถม 1 หรือ 2 กล่องขึ้นไปส่งฟรี

ปรึกษา/สั่งซื้อทักด่วน
โทร : 080-955-3303
 Line : https://lin.ee/mFNug7i
#10086


รอยสิวและจุดด่างดำบนใบหน้า เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่รบกวนจิตใจของเราได้อย่างมาก ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าตนเองมีจุดด่างดำจากรอยสิว ริ้วรอยต่าง ๆ หลายคนจึงรู้สึกหงุดหงิดใจ และพยายามที่จะจัดการกับปัญหารอยสิวและจุดด่างดำให้เร็วที่สุด ซึ่งหนึ่งในวิธียอดนิยมคือการใช้สกินแคร์ครีมหรือเซรั่มลดรอยสิวต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม รอยสิวและจุดด่างดำนั้นไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ไขได้โดยเร็ว เพราะต้องอาศัยการผลัดเซลล์ผิวเก่าและการลดการก่อตัวของเม็ดสีเพื่อกระจายให้รอบสิว จุดด่างดำต่าง ๆ จางลง หลายคนใจร้อนอยากจะใช้ครีมที่เห็นผลทันทีในการจัดการริ้วรอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเจอสกินแคร์ทีให้ผลไวแต่ไม่มีความปลอดภัย ส่งผลให้สุขภาพผิวแย่ลง

เพื่อการดูแลรักษาผิวที่เจอกับปัญหารอยสิว จุดด่างดำอย่างถูกต้อง ผลิตภัณฑ์คีลส์ สกินแคร์ชื่อดังจากนิวยอร์ค ขอแนะนำ เซรั่มลดรอยสิว Clearly Corrective™ Dark Spot Solution  เซรั่มยอดนิยมขายดีอันดับหนึ่งจากคีลส์ ที่ใช้เฉพาะจุดเพื่อช่วยในการลดการก่อนตัวของเม็ดสี ทำให้รอยสิว รอยฝ้า กระ จุดด่างดำจางลงอย่างเห็นได้ชัดมาเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดรอยสิว ลดจุดด่างดำ พร้อมเผยผิวกระจ่างใสโดยไม่ทำร้ายผิวให้กับคุณ

จบปัญหาทุกรอยสิวจุดด่างดำด้วย Clearly Corrective™ Dark Spot Solution

● Clearly Corrective™ Dark Spot Solution มีความโดดเด่นที่การใช้นวัตกรรม ในการผสมผสาน  Activated C ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยให้ผิวกระจ่างใส ร่วมกับซาลิไซลิกแอซิด (Salicylic Acid)  ส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวดูเนียนละเอียด จนเกิดเป็นสารสกัดลิขสิทธิ์ล่าสุดของแบรนด์ ที่พัฒนาโครงสร้างวิตามินซี ให้ทำงานได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากขึ้น เต็มเปี่ยมด้วยพลังในการลดการก่อตัวของเม็ดสี  ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าเพื่อเผยผิวใหม่ได้เป็นอย่างดี 
● Dark Spot Serum ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว ฝ้า กระ ได้อย่างเห็นได้ชัดถึงผลลัพธ์ และช่วยในการปรับโทนสีผิวให้แลดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ พร้อมเผยผิวดูกระจ่างใสขึ้น
● Clearly Corrective™ Dark Spot Solution เป็นเซรั่มลดจุดด่างดํา ลดรอยสิว ขายดีอันดับหนึ่งในไทย ยืนหนึ่งในผลลัพธ์ทรงประสิทธิภาพในการลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าช่วยเผยผิวกระจ่างใสใน 2 สัปดาห์ และดียิ่งขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง 8 – 12 สัปดาห์

การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำ รอยสิว ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ หากคุณเลือกใช้เซรั่มลดรอยสิว  Dark Spot Serum ต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส เรียบเนียน ลดรอยสิว รอยจุดด่างดำต่าง ๆ ลงได้ภายใน 2 สัปดาห์ และควรใช้ควรคู่กับสกินแคร์ที่ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายของแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ เพื่อลดการเกิดจุดด่างดำเพิ่มเติม
#10088
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ กดดันหุ้นสหรัฐผันผวน-วิตกสถานการณ์ยูเครน

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดในแดนลบ โดยถูกกดดันจากภาวะการซื้อขายที่ผันผวนอย่างหนักในตลาดหุ้นนิวยอร์กจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,466.82 จุด ลดลง 121.55 จุด หรือ -0.44%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,251.52 จุด ลดลง 404.94 จุด หรือ -1.64% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,509.28 จุด ลดลง 14.83 จุด หรือ -0.42%

บรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคได้รับแรงกดดัน หลังจากดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีในตลาดหุ้นนิวยอร์กทรุดตัวลงอย่างหนักในระหว่างวัน โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,000 จุด ก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาด

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน หลังมีรายงานว่าสหรัฐและอังกฤษได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทูตรวมทั้งครอบครัวเร่งอพยพออกจากยูเครน ขณะที่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประกาศเสริมกำลังทหารทั้งทางบก ทะเล และทางอากาศตามพรมแดนฝั่งตะวันออก เนื่องจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่รัสเซียอาจทำการโจมตียูเครนในไม่ช้า

ทางด้านรัสเซียตรึงกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน ขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกยังคงไม่มีความคืบหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 26 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันของพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค.ตามเวลาไทย ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้งในปีนี้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุลในเดือนก.ค.หรือเร็วกว่านั้น จากปัจจุบันที่พุ่งสูงกว่า 8 ล้านล้านดอลลาร์

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่รายงานไปแล้วนั้น ธนาคารกลางเกาหลีใต้เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2564 ของเกาหลีใต้ ขยายตัว 1.1% ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 3 ที่ขยายตัวเพียง 0.3% และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ขยายตัว 4.1% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.7%

ส่วนตัวเลข GDP ตลอดปี 2564 ขยายตัว 4% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่แข็งแกร่งเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ ยอดการส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้นั้น พุ่งขึ้น 4.3% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังได้ปัจจัยหนุนจากการอุปโภคบริโภคและการลงทุนด้านการก่อสร้างที่ขยายตัว 1.7% และ 2.9% ตามลำดับ
#10089
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ม.ค. 2565

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (24 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 1,000 จุดในระหว่างวัน อันเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,364.50 จุด เพิ่มขึ้น 99.13 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,410.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.19 จุด หรือ +0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,855.13 จุด เพิ่มขึ้น 86.21 จุด หรือ + 0.63%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ขณะจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคาร-พุธนี้ และรอดูความคืบหน้าสถานการณ์ในยูเครนหลังความตึงเครียดกับรัสเซียเพิ่มขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 456.36 จุด ลดลง 18.08 จุด หรือ -3.81%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,787.79 จุด ลดลง 280.80 จุด หรือ -3.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,011.13 จุด ลดลง 592.75 จุด หรือ -3.80% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.15 จุด ลดลง 196.98 จุด หรือ -2.63%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันจันทร์ (24 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน และนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.15 จุด ลดลง 196.98 จุด หรือ -2.63%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (24 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.15% ปิดที่ 83.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.62 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 86.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (24 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 9.9 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ระดับ 1,841.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 52 เซนต์ หรือ 2.14% ปิดที่ 23.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 14.8 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 1,020.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 36.70 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,141 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.28% แตะที่ 95.9100 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.82 เยน จากระดับ 113.66 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9145 ฟรังก์ จากระดับ 0.9117 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2647 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2574 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1341 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3481 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3554 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7130 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7175 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,364.50 จุด เพิ่มขึ้น 99.13 จุด, +0.29%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,410.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.19 จุด, +0.28%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 13,855.13 จุด เพิ่มขึ้น 86.21 จุด, +0.63%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.15 จุด ลดลง 196.98 จุด, -2.63%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,787.79 จุด ลดลง 280.80 จุด, -3.97%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,011.13 จุด ลดลง 592.75 จุด, -3.80%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 57,491.51 จุด ลดลง 1,545.67 จุด, -2.62%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,655.17 จุด ลดลง 71.21 จุด, -1.06%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,521.86 จุด ลดลง 5.20 จุด, -0.34%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,252.64 จุด ลดลง 40.88 จุด, -0.56%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,283.35 จุด ลดลง 11.51 จุด, -0.35%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,656.46 จุด ลดลง 309.09 จุด, -1.24%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,524.10 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด, +0.044%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,989.04 จุด เพิ่มขึ้น 89.74 จุด, +0.50%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,792.00 จุด ลดลง 42.29 จุด, -1.49%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,588.37 จุด เพิ่มขึ้น 66.11 จุด, +0.24%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,139.50 จุด ลดลง 36.30 จุด, -0.51%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,441.50 จุด ลดลง 48.60 จุด, -0.65%
#10091
กาแฟสำหรับผู้ชาย ตราม้าขาว โทร.0894028986