• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - deam205

#10066
เพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต พร้อมคู่มือ 399 บาท

ประโยชน์ของเพนดูลั่ม
ใช้สื่อสารกับเทพ เทวดาและถามในสิ่งที่เราไม่รู้ ใช้สำหรับตรวจประเมินสุขภาพ ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา ตรวจฮวงจุ้ย ตรวจเช็คพลัง วัตถุมงคล ตรวจหาของหาย ใช้ทำน้ำมนต์ ใช้ดึงพลังเข้าตัว
การตรวจเช็คพุทธคุณ พลังจากพระเครื่อง วัตถุมงคล ของทนสิทธิ์ ต่าง ๆ
โดยปกติจะทำได้เฉพาะผู้ทรงญาณสมาบัติ แต่วิธีง่าย ๆ โดยผู้ที่มีสมาธิเ้พียงขณิกสมาธิ (แนะนำให้ได้ถึงอุปจารสมาธิ) ก็สามารถทำได้ โดยการใช้เพนดูลั่มเป็นตัวตรวจเช็ค ซึ่งจะมีความถุูกต้องประมาณ 80-90 % โดยผู้ที่ตรวจจะต้อง
1. วางอุเบกขา ให้ได้ ไม่คิดไปก่อน หรือบังคับให้เพนดูลั่ม ทำตามสิ่งที่คิด
2. ต้องมีพื้นฐานความรู้เรื่องวัตถุมงคล เล็กน้อย เช่น รู้ว่า พระเครื่อง วัตถุมงคล จะมีความเด่น ด้านใดบ้าง ซึ่งก็จะมี เด่นด้าน
- เมตตามหานิยม คนรักคนชอบ เข้าหาลูกค้า เข้าหาเจ้านาย
- แคล้วคลาดปลอดภัย
- คงกระพันชาตรี
- มหาอุต ปืนแตก
- มหาลาภ เกี่ยวกับด้านโชค ลาภ
- ป้องกันคุณไสย
- กันสะท้อน คือป้องกันคุณไสย แล้วยังสะท้อนกลับไปยังผู้ที่ปล่อยคุณไสยนั้น โดยแรงสะท้อนกลับก็จะขึ้นกับผู้ที่ใส่วัตถุมงคลนั้น ๆ เช่น ผู้ที่ทรงศีลบริสุทธิ์แรงสะท้อนก็จะมากกว่ากว่าคนที่ศีลขาด คนที่มีศีล 8 ก็จะมากกว่า คนมีศีล 5 ....
- ทำน้ำมนต์ คือวัตถุมงคลนั้น ๆ สามารถนำไปทำน้ำมนต์รักษาโรค ได้
- อื่น ๆ
สำหรับวิธีการใช้เพนดูลั่มในการตรวจเช็ควัตถุมงคล
1. นำวัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง ของทนสิทธิ์ นั้น ๆ วาง ไว้บนพื้นโต๊ะ หรือบนภาชนะที่สูงกว่าพื้นธรรมดา หากอาจใช้หนังสือ ผ้ามารองก่อนว่า เพื่อมิให้เป็นการปรามาส
2. ขอขมาพระรัตนตรัย ก่อน เพื่อบอกกล่าว ว่าการตรวจเช็คนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะปรามาส แต่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าวัตถุมงคลชิ้นนี้ได้ผ่านการปลุกเสก หรือพุทธาภิเศก มาแล้ว (วิธีการนี้ก็จะสามารถตรวจดูพระปลอม ที่เขาทำปลอม หรือทำเกินจำนวนแล้วไม่ได้เข้าพิธี แต่ก็มีบางกรณีที่มวลสารในการสร้างพระเป็นมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ในกรณีนี้ก็ต้องยิ่งคำถามที่แตกประเด็นออกไป)
3. ใช้เพนดูลั่ม จ่อเหนือวัตถุมงคลนั้น ๆ ให้ห่างจากวัตถุมงคลประมาณ 1 น้ิว เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันการกระทบด้วยแรงแหว่งซึ่งมาจากวัตถุมงคลนั้น ๆ
4. ดูทิศทางของแรงแหว่งที่ออกมาจากวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าไปตามทิศทางใดบาง ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ โดยทั่วไปถ้าพุทธคุณรอบด้าน จะทำให้เพนดูลั่มหมุนเป็นวงกลม ถ้าแรงแหว่งมีมากก็แสดงว่ามีพุทธคุณมากตาม บางองค์ แทบจะทำให้เพนดูลั่มหลุ่ดจากมือ
5. ตั้งคำถาม ถามเพนดูลั่ม ไปที่ละข้อ ตามความเด่นของวัตถุมงคล เช่น พระองค์นี้เด่นด้านมหาลาภ ด้านคงกระพันชาตรี ... ไปเรื่อย ๆ จนครบ แล้วก็จะทราบว่าพระองค์นี้เด่นด้าน....ครบทุกด้านหรือไม่
การใช้เพนดูลั่มตรวจพลังนี้สามารถตรวจพลังของหิน ได้ จึงเป็นที่นิยมของนักสะสมหิน จะมีเพนดูลั่มในการตรวจพลังหินไว้ติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1134792176-s2626624357...
#10067


บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า  ภาพรวมกำไรสุทธิในงบการเงินรวมสำหรับไตรมาส2/2564และครึ่งปี2564 มีจำนวน 1,703 ล้านบาท และ 3,352 ล้านบาท เติบโต 19%  เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน 

โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัท เคทีซี สำหรับไตรมาส2/2564  จำนวน 1,680 ล้านบาท เติบโต  46.2% และมีกำไรสุทธิครึ่งปี2564  3,314 ล้านบาท เติบโต 18.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน 

ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ระลอกที่ 3 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา กระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าและการจัดหาลูกค้าใหม่ของบริษัทที่ทำได้ยากขึ้น เป็นผลให้จำนวนบัตรใหม่ที่เข้ามาชะลอตัวลง และส่งผลสืบเนื่องต่อการเติบโตของพอร์ตรวมและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทที่ขยายตัวไม่มากนัก

ดังนั้นเพื่อสร้างโอกาสสู่การเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคแบบครบวงจร บริษัทจึงมีแผนสร้างโมเดลธุรกิจที่จะขยายตัวไปยังสินเชื่อมีหลักประกันมากขึ้น อกจากบริษัทจะให้ความสำคัญกับ "สินเชื่อเคทีซีพี่เบิ้ม" ที่เน้นในด้านการจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เป็นหลักประกัน เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันให้หลากหลายยิ่งขึ้นแล้ว

ในปลายเดือนพฤษภาคม 2564เคทีซีได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด หรือ KTBL จำนวนทั้งสิ้น 75,050,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 75.05% ของจ านวนหุ้นทั้งหมดของ KTBL จาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โดยชำระราคาซื้อขายในสัดส่วน 50% ของราคาซื้อขายหุ้นที่ตกลงกัน ด้วยจำนวนเงิน 297.2 ล้านบาท และบริษัทจะชำระราคาซื้อขายหุ้นส่วนที่เหลือ ซึ่งอาจมีการปรับราคาซื้อขายหุ้นต่ำลงหรือสูงขึ้นให้แก่ KTB ภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 ส่งผลให้KTBL ถือเป็นบริษัทย่อยของเคทีซี

ดังนั้นในการวิเคราะห์ผลดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาสสอง ปี 2564 เป็นต้นไป จะเป็นการอธิบายจากงบการเงินรวมที่รวมบริษัทย่อยแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่างบการเงินรวมปี 2563 ที่นำมาแสดงเปรียบเทียบ จะแสดงเป็นงบการเงินที่ปรับปรุงรายการเสมือนว่าการรวมธุรกิจได้เกิดขึ้นตั้งแต่วันต้นงวดในงบการเงินในปีก่อนที่นำมาแสดงเปรียบเทียบ ซึ่งเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการบัญชีสำหรับการรวมธุรกิจภายใต้การควบคุมเดียวกัน ที่ออกโดยสภาวิชาชีพบัญชี แต่ในคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการจะเปรียบเทียบผลดำเนินงานไตรมาสสองปี 2564 นี้ กับ ผลดำเนินงานไตรมาสสองปี 2563 ซึ่งเป็นของเดิมก่อนการปรับปรุงรายการ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบถึงผลการดำเนินธุรกิจตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น

ผลการดำเนินงานในรอบครึ่งปี 2564 เคทีซีมีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 89,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% (yoy) ส าหรับงวดหกเดือนแม้ว่ารายได้รวมของเคทีซีลดลง -2.5% (yoy) แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการ ค่าใช้จ่ายรวมให้ลดลงไป -12.9% (yoy) โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินและมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงไปในอัตรา -6.1% และ -31.3% ตามลำดับ ตลอดจนมีรายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น 

พอร์ตรวมขยายตัว มีเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวมเท่ากับ 89,444 ล้านบาท ขยายตัว 7.1%(yoy) โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิต 4.6%(yoy) และเพิ่มจากยอดลูกหนี้ตามสัญญาเช่าจาก KTBL มีมูลค่า 4,255 ล้านบาท ที่เข้ามารวมในไตรมาสนี้ ขณะที่เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลลดลงเล็กน้อย -2.5%(yoy)

ด้านปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรขยาย แม้ฐานสมาชิกบัตรลด สำหรับไตรมาสสองและครึ่งปี 2564 ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทมีอัตราขยายตัวที่ 13.1% และ 3.9% หรือมีมูลค่า 45,739 ล้านบาท และ 94,160 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมขยายตัวที่ 1.7%  โดยบริษัทมีฐานสมาชิกบัตรลดลง -4.3% (yoy) หรือมีจำนวนฐานสมาชิกทั้งสิ้น 3.3 ล้านบัญชี แบ่งเป็น บัตรเครดิต 2,544,573 บัตร -2.3% (yoy)และสินเชื่อบุคคลจ ำนวน 802,971 บัญชี-10.0% (yoy )

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงรายเดือนสำหรับไตรมาสสองปีนี้พบว่า ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ที่ 38.0% 12.6% และ -0.4% ตามลำดับ ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัท ในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน มีอัตราขยายตัวที่ 41.3% 9.6% และมีอัตราลดลงที่ -3.0% ตามลำดับ เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยมี NPL อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม ภายใต้สถานการณ์ที่มีปัจจัยผันแปรมากยิ่งขึ้น จึงเป็นผลให้ไตรมาสสองนี้บริษัทมี สัดส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวมต่อรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มีกำไรก่อนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงที่ -5.1% (yoy) ทั้งนี้ การที่พอร์ตลูกหนี้มีคุณภาพดี ทำให้ความจำเป็นในการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นน้อยลงไปด้วย

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (% ของ NPL) ของบริษัท ในไตรมาสสองเท่ากับ 4.4% เพิ่มขึ้นจากการนับรวมพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อจาก KTBL เข้ามา ขณะที่ NPL ของธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 1.5% และ 3.0% ตามลำดับ สูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ซึ่ง NPL ของบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลเท่ากับ 1.4% และ 2.9% ตามลำดับ

ทั้งนี้หากพิจารณาถึงมูลค่าสินเชื่อด้อยคุณภาพเฉพาะของบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลของบริษัทในไตรมาสสองปี 2564 ที่มีจำนวน 1,678 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสหนึ่งที่มีค่าเท่ากับ 1,661 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากสิ้นปี 2563 ที่มีจำนวน 1,598 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงพอร์ตของบริษัทที่ยังคงคุณภาพไม่แตกต่างไปจากเดิม
#10068
ขายดาวน์  247,800 ( กค 2564 ) ห้อง 225
#10069
ส่งรูปถ่ายภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถมาที่
ไลน์ : nopcartoday
#10070


การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่มีสายป่านสั้น ซึ่งปัจจุบันมีเอสเอ็มอีรวม 3.1 ล้านราย มีการจ้างงาน 12.7 ล้านคน โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ 5.55 ล้านคน รองลงมาภาคการค้า 4.24 ล้านคน ภาคการผลิต 2.85 ล้านคน แลถธุรกิจเกษตร 63,402 คน

ในขณะที่สถานการณ์เอสเอ็มอีล่าสุดในช่วง 5 เดือน แรกของปี 2564 สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รายงานว่ามีการจัดธุรกิจใหม่ของเอสเอ็มอี 27,607 ราย เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 6.35% และมีการเลิกกิจการ 3,882 ราย ลดลง 20.63%

นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้มีรายได้น้อยและเอสเอ็มอี ซึ่งพึ่งพาการบริโภคและการใช้จ่ายของประชาชนภายในประเทศ ซึ่งในกลุ่มนี้จะแตกต่างจากกลุ่มธุรกิจส่งออกที่ธุรกิจยังไปได้ดีจากการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก


หวังลดปัญหาปลดคนงาน

ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้ากว่าที่คาด และที่ในระบบเศรษฐกิจมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้จากการระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรง และมีผลกระทบต่อเนื่องทำให้มาตรการการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนจากภาครัฐยังคงมีส่วนสำคัญซึ่งนอกจากมาตรการการแจกเงินให้กับประชาชนการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านมาตรการการเยียวยาต่างๆ ที่มีการทำไปก่อนหน้านี้ มาตรการที่ภาครัฐควรดำเนินการ คือ การเร่งมาตรการพยุงการจ้างงานให้กับภาคเอสเอ็มอี เพื่อลดผลกระทบที่นายจ้างจะเลิกกิจการหรือปลดคนงาน 

ปัจจุบันเอสเอ็มอีของไทยมีผู้ประกอบการ 3.1 ล้านราย มีการจ้างงานประมาณ 13 ล้านคน ซึ่งการให้การช่วยเหลือพยุงการจ้างงานให้กับเอสเอ็มอีนั้น ภาครัฐสามารถให้ความช่วยเหลือเป็นรายธุรกิจหรืออาจช่วยเหลือทั้งระบบก็ได้ 

นอกจากนี้ หากช่วยเหลือทั้งระบบโดยการอุดหนุนเงินเป็นรายหัวลูกจ้างรายละ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งหากช่วยทั้งระบบประมาณ 13 ล้านคน จะใช้เงินเดือนละ 4.8 หมื่นล้านบาท หากช่วยเหลือเป็นระยะเวลา 3 เดือน ก็จะใช้เงิน 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งนำเงินกู้ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท มาใช้ได้ 


วางเงื่อนไขอุ้มจ้างงาน

สำหรับเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือพยุงการจ้างงาน ในต่างประเทศมีการวางเงื่อนไขที่จำเป็น ได้แก่ 

1.เงื่อนไขห้ามเลิกจ้างพนักงาน หรือจ้างได้ไม่เกิน 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 

2.กำหนดเงื่อนไขให้นายจ้างมีการอบรมเพิ่มทักษะที่จำเป็นสำหรับสำหรับพนักงานในอนาคต เช่น ทักษะดิจิทัล หรือทักษะงานใหม่ๆที่จำเป็นสำหรับ "โลกหลังโควิด" โดยภาครัฐอาจสนับสนุนค่าฝึกอบรมเพิ่มทักษะเป็นรายหัวให้กับพนักงานเหล่านี้คนละ 1,000 บาท เป็นต้น ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถใช้งบประมาณเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆได้โดยไม่ต้องใช้เงินกู้ก็ได้ 

"การให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีในช่วงนี้ถือว่ามีความจำเป็น เพราะหากช่วยเหลือให้ยังดำเนินกิจการต่อได้ ยังมีกำลังในการจ้างงานได้ ก็จะลดปัญหาการว่างงานลงได้ หากปล่อยให้เอสเอ็มอีต้องปิดกิจการ มีคนงานตกงานจำนวนมากแล้วค่อยมาช่วยเหลือจะแก้ปัญหานี้ได้ยากกว่า" นางสาวกิริฎา กล่าวว่า

แนะอุดหนุนงบอบรมเสริมทักษะ

ดังนั้น ในช่วงที่ภาคส่วนเศรษฐกิจต่างๆ ยังคงไม่ฟื้นตัวได้เต็มที่การแจกเงินเยียวยาประชาชนยังมีความจำเป็น แต่ต้องมีมาตรการที่จะช่วยเหลือพยุงการจ้างงานของเอสเอ็มอี โดยการอุดหนุนงบให้กับเอสเอ็มอีเพื่อใช้ในการฝึกทักษะอาชีพเพื่อให้แรงงานมีทักษะและความสามารถพร้อมที่จะปรับตัวได้หลังโควิด-19 ก็มีความจำเป็น

นางสาวกิริฎา กล่าวว่า ภาคส่วนของเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวกลับมาช้าหลังจากวิกฤติโควิิด-19 คือ ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งกว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทย 39 ล้านคน เหมือนกับก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 จะต้องใช้เวลาอีกหลายปี คาดว่าอาจจะเป็นในปี 2567 เนื่องจากประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายการดึงดูดการท่องเที่ยวของไทยหลายประเทศทั้งในประเทศจีน อินเดีย และในอาเซียจะยังไม่เดินทางท่องเที่ยวมากนัก 

อย่างกรณีของประเทศจีนยังไม่อนุญาตให้คนเดินทางออกนอกประเทศ เพราะกังวลการติดเชื้อจากภายนอกเข้าไปในประเทศ โดยจีนกำลังจะออกวัคซีนตัวใหม่ปลายปีนี้ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าแล้วจะเริ่มระดมฉีดให้กับคนในประเทศซึ่งคาดว่าอย่างเร็วกว่าที่จีนจะให้ประชาชนออกมาท่องเที่ยวนอกประเทศได้อย่างเร็วคือช่วงกลางปี 2565 

แนะรัฐขยายเพดานหนี้

ส่วนประเด็นที่การออกมาตรการเพิ่มเติมและให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีในวงกว้างอาจทำได้ไม่มากนักเนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องของงบประมาณที่มีอยู่ และวงเงินกู้ที่มีอยู่จำกัด นางสาวกิริฎา ให้ความเห็นว่ารัฐบาลเองสามารถที่จะขยายเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นได้หากมีความจำเป็นเพราะในระดับปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็อยู่ที่ระดับ 59% ต่อจีดีพีแล้ว 

ทั้งนี้ หากมีการก่อหนี้เพิ่มขึ้นแล้วนำมาใช้ในรายการใช้จ่ายที่มีความจำเป็น เช่น เรื่องของการซื้อวัคซีน การซื้อเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งการเยียวยาช่วยเหลือภาคเอสเอ็มอีเพื่อรักษาการจ้างงานก็ถือว่าเป็นสิ่งที่รัฐสามารถที่จะทำได้ตามความเหมาะสมเพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้ในระยะต่อไป 

ใช้เงินกู้ซื้อวัคซีนให้เพียงพอ

นางสาวกิริฎา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ยังคงมีความจำเป็น โดยในการล็อกดาวน์แบบในปัจจุบันไม่ใช่การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเหมือนกับช่วงเดือน เม.ย.ปีก่อน ซึ่งได้ทำให้ในช่วงนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายอย่างยังขับเคลื่อนไปได้

ทั้งนี้โมเดลการล็อกดาวน์ของไทยที่ยังให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้แตกต่างจากโมเดลของจีนที่ใช้การล็อกดาวน์แบบเข้มข้นมีการปิดเมืองและห้ามคนออกจากที่อยู่อาศัย ส่วนในยุโรปและสหรัฐที่เริ่มมีการเปิดเมืองเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเต็มที่ได้มาจากการที่ประเทศเหล่านั้นมีการระดมฉีดวัคซีนไปแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่แม้จะมีผู้ป่วยต่อวันเพิ่มมากขึ้นแต่อัตราผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำ

ในขณะที่กรณีประเทศไทยหากต้องการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้ต้องเร่งการนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในอัตราที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อให้กลับมาเปิดเศรษฐกิจได้

นางสาวกิริฎา กล่าวว่า ในการจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติมอยากเสนอให้รัฐบาลวางแผนไปถึงปี 2565 โดยนำเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไปวางเงินจองวัคซีน 100 ล้านโดส ซึ่งต้องใช้เงินประมาณโดสละ 1,000 บาท รวมเป็นวงเงิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งเมื่อได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพเข้ามาแล้วสามารถฉีดได้รวดเร็วก็จะทำให้กลับมาเปิดเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น


นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า มาตรการการช่วยเหลือเอสเอ็มอีจำเป็นจะต้องมีความหลากหลายและครอบคลุมหลายมาตรการ โดยนอกจากข้อเสนอให้มีการช่วยเหลือการจ้างงานงานให้กับเอสเอ็มอีรายละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน ภาครัฐควรมีมาตรการเร่งช่วยเหลือ คือ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน โดยการไม่คิดดอกเบี้ยนั้นหมายถึงว่าภาคธนาคารจะต้องหยุดคิดดอกเบี้ยในส่วนของเงินต้นด้วย เพราะในลักษณะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้หยุดคิดดอกเบี้ยในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยก็จริงแต่ดอกเบี้ยจากเงินต้นยังคงเดินอยู่ทำให้ภาระของผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอียังมีอยู่มาก

นายแสงชัย กล่าวว่า จากมาตรการการล็อกดาวน์ที่ประกาศในพื้นที่ 29 จังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบมาก เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีขนาดจีดีพีรวมกันกว่า 70-80% ของจีดีพีประเทศ ทำให้กิจการจำนวนมากขาดสภาพคล่องหนักขึ้น และหากไม่มีมาตรการเพิ่มเติมจะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการเข้าข่ายกลุ่มเฝ้าระวังเป็นเอ็นพีแอล (กลุ่มสีเหลือง) จำนวนมาก มีหนี้รวม 4.3 แสนล้านบาท หากปล่อยไว้อีกไม่กี่เดือนจะเป็นเอ็นพีแอลได้ถ้าไม่มีมาตรการพักชำระหนี้และดอกเบี้ย

"ขณะนี้ปัญหาการขาดสภาพคล่องมีธุรกิจถึง 13% ที่จะอยู่ไม่รอดภายใน 3 เดือน และอีก 40% ที่อาจอยู่ไม่รอดภายใน 6 เดือน และส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี ซึ่งนอกจากมาตรการเฉพาะหน้าก็ต้องมีมาตรการที่ช่วยเหลืออย่างครอบคลุม โดยมาตรการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกนั้น ต้องการให้แบงก์ชาติ และสมาคมธนาคารไทยเข้ามาเป็นเจ้าภาพ มีการลงทะเบียน และติดตามให้ความช่วยเหลือจริงจัง เพื่อประคองกิจการให้ผ่านช่วงนี้ไปได้" นายแสงชัย กล่าว
#10073
 
ข้าวอินทรีย์สำหรับแม่ตั้งท้อง
ปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์  เส้นทางผลิตข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ความหมายของข้าวอินทรีย์  การปลูกข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวorganic )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ข้าวกล้องมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิปลอดสารพิษ, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7.  ข้าวผกาอำปึลอินทรีย์กรมการข้าว, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ , ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ  ข้าวผกาอำปึลออแกนิคคือ(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิก 6.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดสารพิษ  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 
 
#10075
รับผลิตสเปรย์แอลกอฮอลการ์ดราคาส่ง
ราคาถูก ราคาเบา ราคาโรงงาน
มีเลขที่จดแจ้ง ได้มาตรฐาน 
ราคาเริ่มต้น 15 บาท/ชิ้น
สนใจติดต่อ  https://lin.ee/nXGuYwR
โทร. 0863754112
#10076
ขายดาวน์  247,800 ( กค 2564 ) ห้อง 225
#10077
เพนดูลั่มลูกดิ่งพลังจิต พร้อมคู่มือ 399 บาท

ประโยชน์ของเพนดูลั่ม
ใช้สื่อสารกับเทพ เทวดาและถามในสิ่งที่เราไม่รู้ ใช้สำหรับตรวจประเมินสุขภาพ ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา ตรวจฮวงจุ้ย ตรวจเช็คพลัง วัตถุมงคล ตรวจหาของหาย ใช้ทำน้ำมนต์ ใช้ดึงพลังเข้าตัว
การตรวจเช็คพุทธคุณ พลังจากพระเครื่อง วัตถุมงคล ของทนสิทธิ์ ต่าง ๆ
โดยปกติจะทำได้เฉพาะผู้ทรงญาณสมาบัติ แต่วิธีง่าย ๆ โดยผู้ที่มีสมาธิเ้พียงขณิกสมาธิ (แนะนำให้ได้ถึงอุปจารสมาธิ) ก็สามารถทำได้ โดยการใช้เพนดูลั่มเป็นตัวตรวจเช็ค ซึ่งจะมีความถุูกต้องประมาณ 80-90 % โดยผู้ที่ตรวจจะต้อง
1. วางอุเบกขา ให้ได้ ไม่คิดไปก่อน หรือบังคับให้เพนดูลั่ม ทำตามสิ่งที่คิด
2. ต้องมีพื้นฐานความรู้เรื่องวัตถุมงคล เล็กน้อย เช่น รู้ว่า พระเครื่อง วัตถุมงคล จะมีความเด่น ด้านใดบ้าง ซึ่งก็จะมี เด่นด้าน
- เมตตามหานิยม คนรักคนชอบ เข้าหาลูกค้า เข้าหาเจ้านาย
- แคล้วคลาดปลอดภัย
- คงกระพันชาตรี
- มหาอุต ปืนแตก
- มหาลาภ เกี่ยวกับด้านโชค ลาภ
- ป้องกันคุณไสย
- กันสะท้อน คือป้องกันคุณไสย แล้วยังสะท้อนกลับไปยังผู้ที่ปล่อยคุณไสยนั้น โดยแรงสะท้อนกลับก็จะขึ้นกับผู้ที่ใส่วัตถุมงคลนั้น ๆ เช่น ผู้ที่ทรงศีลบริสุทธิ์แรงสะท้อนก็จะมากกว่ากว่าคนที่ศีลขาด คนที่มีศีล 8 ก็จะมากกว่า คนมีศีล 5 ....
- ทำน้ำมนต์ คือวัตถุมงคลนั้น ๆ สามารถนำไปทำน้ำมนต์รักษาโรค ได้
- อื่น ๆ
สำหรับวิธีการใช้เพนดูลั่มในการตรวจเช็ควัตถุมงคล
1. นำวัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง ของทนสิทธิ์ นั้น ๆ วาง ไว้บนพื้นโต๊ะ หรือบนภาชนะที่สูงกว่าพื้นธรรมดา หากอาจใช้หนังสือ ผ้ามารองก่อนว่า เพื่อมิให้เป็นการปรามาส
2. ขอขมาพระรัตนตรัย ก่อน เพื่อบอกกล่าว ว่าการตรวจเช็คนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะปรามาส แต่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่าวัตถุมงคลชิ้นนี้ได้ผ่านการปลุกเสก หรือพุทธาภิเศก มาแล้ว (วิธีการนี้ก็จะสามารถตรวจดูพระปลอม ที่เขาทำปลอม หรือทำเกินจำนวนแล้วไม่ได้เข้าพิธี แต่ก็มีบางกรณีที่มวลสารในการสร้างพระเป็นมวลสารที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ในกรณีนี้ก็ต้องยิ่งคำถามที่แตกประเด็นออกไป)
3. ใช้เพนดูลั่ม จ่อเหนือวัตถุมงคลนั้น ๆ ให้ห่างจากวัตถุมงคลประมาณ 1 น้ิว เป็นอย่างน้อย เพื่อป้องกันการกระทบด้วยแรงแหว่งซึ่งมาจากวัตถุมงคลนั้น ๆ
4. ดูทิศทางของแรงแหว่งที่ออกมาจากวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าไปตามทิศทางใดบาง ซึ่งต้องใช้ประสบการณ์ โดยทั่วไปถ้าพุทธคุณรอบด้าน จะทำให้เพนดูลั่มหมุนเป็นวงกลม ถ้าแรงแหว่งมีมากก็แสดงว่ามีพุทธคุณมากตาม บางองค์ แทบจะทำให้เพนดูลั่มหลุ่ดจากมือ
5. ตั้งคำถาม ถามเพนดูลั่ม ไปที่ละข้อ ตามความเด่นของวัตถุมงคล เช่น พระองค์นี้เด่นด้านมหาลาภ ด้านคงกระพันชาตรี ... ไปเรื่อย ๆ จนครบ แล้วก็จะทราบว่าพระองค์นี้เด่นด้าน....ครบทุกด้านหรือไม่
การใช้เพนดูลั่มตรวจพลังนี้สามารถตรวจพลังของหิน ได้ จึงเป็นที่นิยมของนักสะสมหิน จะมีเพนดูลั่มในการตรวจพลังหินไว้ติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1134792176-s2626624357...
#10078
สนใจติดต่อคุณเป้ง  087-347-6299
บริษัท  สบายใจการบัญชี  จำกัด

สำนักงานบัญชีนนทบุรี  สำนักงานบัญชีบางกรวย  สำนักงานบัญชีบางใหญ่  สำนักงานบัญชีบางบัวทอง  สำนักงานบัญชีไทรน้อย  สำนักงานบัญชีปากเกร็ด  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีพิมลราช  สำนักงานบัญชีบางคูรัด  สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา  สำนักงานบัญชีบางแม่นาง  สำนักงานบัญชีบางกร่าง  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ  สำนักงานบัญชีบางตะไนย์  สำนักงานบัญชีบางพลับ  สำนักงานบัญชีบางรักน้อย  สำนักงานบัญชีมหาสวัสดิ์  สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี  สำนักงานบัญชีอ้อมเกร็ด  สำนักงานบัญชีแจ้งวัฒนะ  สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนจงถนอม-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์  สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์  สำนักงานบัญชีถนนทวีวัฒนา  สำนักงานบัญชีถนนเทศบาลจังหวัดนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนเทิดพระเกียรติ  สำนักงานบัญชีท่าอิฐ  สำนักงานบัญชีถนนนครอินทร์  สำนักงานบัญชีบางม่วง  สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม  สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน  สำนักงานบัญชีบางกรวย-ไทรน้อย  สำนักงานบัญชีบางคูเวียง  สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง  สำนักงานบัญชีถนนวัดโบสถ์ดอนพรหม  สำนักงานบัญชีไทรม้า  สำนักงานบัญชีถนนพิบูลสงคราม  สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์  สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน  สำนักงานบัญชีถนนเรวดี  สำนักงานบัญชีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี  สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน  รับทำบัญชี
#10080
ส่งภาพภายนอก ภายใน พร้อมรายละเอียดของรถที่ต้องการขายมาที่
Line : nopcartoday