• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Fern751

#3281
โมเดอร์ฟอร์มกรุ๊ป ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจสตร์ทอัพ ด้วยการลงทุนใน SeaX Ventures กองทุนที่เน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพที่มี Deep Technology หรือเทคโนโลยีชั้นสูง พร้อมผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพให้เติบโต เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจรุ่นใหม่และสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจในเครือให้มีความยั่งยืนและแข็งแกร่ง คาดภายใน 3-5 ปี สัดส่วนรายได้จากการลงทุนจะเพิ่มเป็น 50%

นายสิทธิ เนื่องจำนงค์ Corporate Development Director บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MODERN กล่าวว่า นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ โมเดอร์นฟอร์มยังมองหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจด้านต่าง ๆ ที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและรักษาพยาบาล รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ต่อยอดจากธุรกิจหลักและในเครือ ทั้งในมุมธุรกิจหลัก (Vertical) และขยายสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (Horizontal) เช่น Robotics , IoT ที่จะช่วยสนับสนุนการผลิตและระบบโลจิสติกส์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่จะช่วยในการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าและได้รับบริการจากโมเดอร์นฟอร์ม เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยตั้งงบประมาณการลงทุน 1,500 ล้านบาท

Deep Tech Startup ถือเป็นหนึ่งใน New S-Curve หรือธุรกิจแห่งอนาคตที่น่าสนใจ ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถ ในการรองรับการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตในปัจจุบันรวมถึงอนาคต ด้วยโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่าง สร้างการเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ล่าสุดนี้ โมเดอร์นฟอร์มได้ลงทุนในกองทุน "Southeast Asia Exponential Ventures" หรือ SeaX Ventures กองทุนสตาร์ทอัพภายใต้ความร่วมมือกับ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร ลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพที่มี Deep Technology หรือเทคโนโลยีชั้นสูง ใน 6 ด้าน ได้แก่ Blockchain, Foodtech, Biotech & Life Science, Artificial Intelligence, Robotics และ IoT & Hardware ที่มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ทั้งในอาเซียนและซิลิคอนวัลเล่ย์ ด้วยประสบการณ์ผู้บริหารกองทุนที่มีประสบการณ์ อย่างเช่น น.พ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ รวมทั้งผลการดำเนินงานในการบริหารกองที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ สร้างผลตอบแทนคิดเป็น 308% ของอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR)

โมเดอร์นฟอร์มเล็งเห็นว่า บริษัทสามารถเข้าถึง Deep Technology และนำมาใช้ในองค์กร ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือและนวัตกรรมร่วมกัน รวมถึงนำมาพัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพิ่มโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต.
#3282
แม้อีคอมเมิร์ซจะเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการแต่กระบวนการและขั้นตอนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนจึงมักสร้างปัญหา เช่น การใช้เวลามากเกินไปสำหรับการบริหารจัดการยอดสั่งซื้อออนไลน์ และการเตรียมเอกสารต่าง ๆ เป็นต้น

วันที่ 5 ตุลาคม 2564 นายรัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย ผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุระดับโลก กล่าวว่าปัญหาของธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดเล็กสามารถจัดการได้ด้วยโซลูชั่นจากบริการ UPS Marketplace Shipping ที่จะช่วยจัดการยอดสั่งซื้อโดยอัตโนมัติจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลากหลายแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งยังช่วยเรื่องการพิมพ์ฉลากการจัดส่ง แบบฟอร์มศุลกากร และแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อคำสั่งซื้อได้ส่งออกแล้ว

ดังเช่น กรณี "ไทม์เลส เทรนด์ส" ผู้ผลิตชุดเสื้อผ้าแบบคอร์เซ็ท ที่มีลูกค้าอยู่ทั่วโลก เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใช้บริการ UPS Marketplace Shipping



นายจิม ค็อกซ์ ผู้ก่อตั้งไทม์เลส เทรนด์ส (Timeless Trends) กล่าวว่า "ถ้าคุณไปเที่ยวงานย้อนยุคเรเนสซองส์ หรืองานที่ผู้คนแต่งคอสเพลย์ตามแบบอนิเมะ คุณจะเห็นผู้คนเป็นร้อยใส่คอร์เซ็ทกัน และคอร์เซ็ทเหล่านั้น 80-90% มาจากฝีมือการตัดเย็บของเรา"


"UPS Marketplace Shipping ช่วยให้เราลดเวลาในการเตรียมการจัดส่งไปได้ถึง 75% ขั้นตอนการส่งของที่เคยเป็นปัญหายุ่งยาก กลายเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพขึ้น ทำให้ผมมีเวลามากขึ้น และสามารถอุทิศเวลาเพื่อทำสิ่งที่รัก ในการผลักดันขอบเขตความสร้างสรรค์ด้านแฟชั่น และการสร้างคอร์เซ็ทคุณภาพระดับพรีเมียม ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความสุขกับคอร์เซ็ทของเราตลอดการใช้งาน"

อย่างไรก็ตาม การจัดส่งที่รวดเร็ว และเชื่อถือได้ที่กับลูกค้าทั่วโลกเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ผนวกกับการนำ "โซลูชั่นดิจิทัล" มาใช้จึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยให้บริษัทเชื่อมโยงโครงข่ายของห่วงโซ่อุปทานให้แข็งแกร่งเท่าที่จะทำได้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องมุ่งเน้นยิ่งกว่าเดิมตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา เพราะแม้แต่บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่งก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งรับจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

คุณสมบัติของห่วงโซ่อุปทานที่หลากหลาย และแข็งแกร่ง หมายรวมถึงการมีแผนสำรองต่าง ๆ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการผลิตให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่ผู้ผลิตวัตถุดิบหลักเกิดหยุดชะงัก

นอกจากนี้เจ้าของธุรกิจยังสามารถหาวิธีที่เหมาะสมในการนำข้อตกลงการค้าเสรีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การหาแหล่งที่มาของวัตถุดิบ แหล่งผลิต และการเข้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเข้าถึง


ผู้บริหาร ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า ยูพีเอสเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจทุกขนาด ช่วยกระจายความเสี่ยง และจัดทำแผนห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้ธุรกิจได้เข้าถึงสภาวะตลาดการซื้อขายในยุคปัจจุบันอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด และเข้าใจว่าการบริหารจัดการเหล่านี้อาจสร้างความกังวลใจหรือความสับสนให้กับธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีเวลา และทรัพยากรจำกัด และตระหนักดีว่าสิ่งที่ใช้ได้ผลกับธุรกิจหนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับอีกธุรกิจ ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจยุคนี้ มากกว่าที่เคยเป็นมา คือ "การมีแผนสำรอง"

นอกเหนือจากความเข้าใจ และการกระจายห่วงโซ่อุปทานแล้ว การบริการหลังการขายที่ธุรกิจนำเสนอก็มีความสำคัญเช่นกัน รวมไปถึงกระบวนการคืนสินค้าอาจทำให้ลูกค้าหงุดหงิด หากกระบวนการนี้ไม่มีประสิทธิภาพ

โดยงานวิจัยของยูพีเอส ในหัวข้อ "Pulse of the Online Shopper Study" พบว่า 69% ของนักช้อปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเห็นพ้องกันว่าประสบการณ์การคืนสินค้าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ หากขั้นตอนการคืนสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่นจะช่วยเสริมการสร้างฐานลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อธุรกิจ

และการที่ธุรกิจจะเติบโตได้ ความเข้าใจลูกค้า และการมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ด้วยวิธีและในเวลาที่พวกเขาต้องการเป็นสิ่งสำคัญมาก และเป็นไปได้ว่าวิกฤตการณ์การระบาดครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของผู้คนไปตลอดกาล นอกจากเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กแล้วยังเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจที่มีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และปรับตัวตอบสนองรองรับต่อภูมิทัศน์การค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
#3283

หุ้นปิดเช้าบวก 9.14 จุด ดีกว่าต่างประเทศ รับอานิสงส์ราคาน้ำมันขึ้น เก็งจีนนำเข้าพลังงาน ทำให้นักเก็งกำไรหันมาเล่นน้ำมันกัน อีกทั้งเงินเฟ้อทั้งในยุโรป และสหรัฐฯปรับตัวขึ้นจากการเข้าไปเล่นเก็งราคาน้ำมัน สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งแคบ

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลงตามดาวโจนส์ เนื่องจากตลาดบ้านเราได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ขึ้นมาทะลุ 80 เหรียญ/บาร์เรลแล้ว และมีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อเนื่อง จากจีนที่ยังขาดแคลนพลังงานอยู่ ทำให้นักเก็งกำไรหันมาเล่นน้ำมันกัน โดยเก็งว่าจีนจะต้องนำเข้าพลังงาน อีกทั้งเงินเฟ้อทั้งในยุโรป และสหรัฐฯปรับตัวขึ้นจากการเข้าไปเล่นเก็งราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มอีกหรือไม่ ส่วนนอกประเทศให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,623.62 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.57% มูลค่าการซื้อขายราว 49,945 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,627 จุด
#3284
อันดับเศรษฐีโลก"มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก"วูบ พร้อมสูญเงิน 6,000 ล้านดอลลาร์หลังระบบเฟซบุ๊คล่มกลางดึกวันจันทร์

เว็บไซต์ยาฮู ไฟแนนซ์ รายงานว่าอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของ "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" มหาเศรษฐีพันล้านเจ้าของเฟซบุ๊ค สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังร่วงลงหลังจากสูญเงินในช่วงเวลา6ชม. ไปกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์

เว็บไซต์แห่งนี้รายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีผู้ออกมาให้ข้อมูลโจมตีเฟซบุ๊ค และระบบเฟซบุ๊ค ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทำเงินของบริษัทเฟซบุ๊ค อิงค์ล่มในช่วงกลางดึกถึงเช้ามืดตามเวลาประเทศไทย ส่วนการเทขายหุ้นยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้ ส่งผลให้หุ้นดิ่งลง 4.9% เมื่อวันจันทร์(4ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น หรือลดลงอีก 15% นับตั้งแต่กลางเดือนก.ย.
อ่านข่าว : หุ้น "เฟซบุ๊ค" ดิ่งหนักหลังเว็บล่มทั่วโลกพร้อม IG-WhatsApp



การปรับตัวร่วงอย่างหนักของราคาหุ้นเฟซบุ๊ค ทำให้ความมั่งคั่งของซัคเคอร์เบิร์ก ลดลงเหลือ 121,600 ล้านดอลลาร์ ฉุดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกของซัคเคอร์เบิร์กร่วงลงไปอยู่อันดับ 5 ต่ำกว่า "บิล เกตส์" ตามดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก โดยความมั่งคั่งของซัคเคอร์เบิร์กลดลงเกือบ 140,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

ราคาหุ้นเฟซบุ๊คดิ่งลงหลังจาก "ฟรานเชส โฮเกน" วัย 37 ปี อดีตพนักงานของเฟซบุ๊ค โจมตียักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียรายนี้ว่าเห็นแก่กำไรมากกว่าการพยายามขัดขวางการใช้ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง เผยแพร่ข้อมูลผิดๆ และบุลลี่เด็กสาว


โฮเกน ซึ่งเคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ค ให้สัมภาษณ์รายการ "60 มินิตส์" ทางเครือข่ายโทรทัศน์ซีบีเอสของสหรัฐ และสถานีนำเทปนี้ออกเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ย.)

โดยเปิดเผยว่า เธอคือผู้เปิดโปงที่ส่งเอกสารข้อมูลจนนำไปสู่การสืบค้นของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล และทำให้มีการสอบสวนของวุฒิสภาเกี่ยวกับอันตรายต่อเด็กสาวบนอินสตาแกรม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งในเครือเฟซบุ๊ค

โฮเกน ยังอ้างถึงการวิจัยของเฟซบุ๊คที่พบว่า การปลุกเร้าคนให้โกรธง่ายกว่าการปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกอื่นๆ และบริษัทตระหนักดีว่า ถ้าเปลี่ยนอัลกอริธึมให้ปลอดภัยขึ้น คนจะใช้เฟซบุ๊คและคลิกโฆษณาน้อยลง ส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลง

นอกจากนี้ ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2563 เฟซบุ๊ค ตระหนักถึงอันตรายจากเนื้อหาที่กระตุ้นความเกลียดชังจึงเปิดระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อสกัดเนื้อหาเหล่านั้น แต่ทันทีที่การเลือกตั้งจบลง บริษัทก็ปิดระบบรักษาความปลอดภัยและกลับไปให้ความสำคัญกับการเติบโตมากกว่าความปลอดภัยเหมือนเดิม
#3285
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ต.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ อาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,002.92 จุด ลดลง 323.54 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,300.46 จุด ลดลง 56.58 จุด หรือ -1.30% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,255.48 จุด ลดลง 311.21 จุด หรือ -2.14%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยยังคงปรับตัวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากสัญญาณเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น และปัญหาด้านการเงินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ของจีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 450.77 จุด ลดลง 2.13 จุด หรือ -0.47%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,477.66 จุด ลดลง 40.03 จุด หรือ -0.61%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,036.55 จุด ลดลง 119.89 จุด หรือ -0.79% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,011.01 จุด ลดลง 16.06 จุด หรือ -0.23%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวลง ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,011.01 จุด ลดลง 16.06 จุด หรือ -0.23%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 11 พ.ย.2557

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 81.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.2561

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,767.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.8 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 22.644 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ม.ค. ลดลง 12 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 961.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 28.70 ดอลลาร์ ลดลง 1.5% ปิดที่ 1,875 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย.ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะที่ 93.7795 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.89 เยน จากระดับ 111.04 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9245 ฟรังก์ จากระดับ 0.9300 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2581 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2635 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1623 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1597 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3614 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3553 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7289 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7266 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,002.92 จุด ลดลง 323.54 จุด, -0.94%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,300.46 จุด ลดลง 56.58 จุด, -1.30%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,255.48 จุด ลดลง 311.21 จุด, -2.14%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,011.01 จุด ลดลง 16.06 จุด, -0.23%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,477.66 จุด ลดลง 40.03 จุด, -0.61%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,036.55 จุด ลดลง 119.89 จุด, -0.79%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 59,299.32 จุด เพิ่มขึ้น 533.74 จุด, +0.91%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,342.69 จุด เพิ่มขึ้น 113.84 จุด, +1.83%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,522.47 จุด ลดลง 2.01 จุด, -0.13%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,960.89 จุด เพิ่มขึ้น 37.29 จุด, +0.54%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,089.65 จุด เพิ่มขึ้น 38.54 จุด, +1.26%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,036.37 จุด ลดลง 539.27 จุด, -2.19%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,408.35 จุด ลดลง 162.54 จุด, -0.98%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 28,444.89 จุด ลดลง 326.18 จุด, -1.13%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,278.50 จุด เพิ่มขึ้น 93.00 จุด, +1.29%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,576.80 จุด เพิ่มขึ้น 90.20 จุด, +1.20%

ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวานนี้ (4 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวานนี้ (4 ต.ค.) เนื่องในวันสถาปนาประเทศ
#3286



พิสูจน์คุณค่าของผิวที่แลดูอ่อนเยาว์และแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ด้วยน้ำตบแพลงตอน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในรูปแบบของเอสเซนส์ เนื้อสัมผัสแสนบางเบาพร้อมเปลี่ยนโฉมผิวหน้าของคุณให้แลดูอ่อนกว่าวัย  เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าทันที สำหรับปัญหาผิวหน้าของผู้หญิงในช่วงนี้มักจะเผชิญกับความหมองคล้ำ แห้งกร้าน และผิวที่อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องด้วยผิวหน้าของเราต้องซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ปัญหานี้จะไม่ได้รับการแก้ไขเลยหากว่าเราไม่ตามหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยปลอบประโลมผิว พร้อมฟื้นคืนสภาพผิวให้มีแลดูสุขภาพดี แลดูเปล่งปลั่ง และรู้สึกถึงความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง 


ทางออกของปัญหาผิวอ่อนแอและหมองคล้ำสามารถแก้ไขด้วยน้ำตบแพลงตอน Biotherm Life Plankton™ Essence น้ำตบในตำนานที่ช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดีขึ้นได้ถึง 8 ประการทั้งการมอบผิวที่แลดูเปล่งปลั่ง แลดูกระจ่างใส พร้อมช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น สามารถลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยให้จางลง จนรู้สึกว่าผิวละเอียดและแลดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยความสามารถในการเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เพื่อผิวที่ดูเนียนนุ่ม แลดูกระชับและแลดูยืดหยุ่นขึ้น รวมถึงช่วยปลอบประโลมผิวที่เคยอ่อนแอให้กลับมามีสุขภาพผิวดีและแข็งแรงขึ้นได้อีกครั้งนึงด้วย Life Plankton™ Essence เพียงแค่ขวดเดียวสามารถมอบผิวสวยสุขภาพดีได้ถึง 8 ประการแบบนี้ จึงเป็นน้ำตบอีกตัวที่ควรค่าแต่การจับจองเป็นอย่างยิ่ง 


สูตรลับพิเศษในการปรนนิบัติผิวของน้ำตบขวดนี้คือ LIFE PLANKTON™ ที่มีความเข้มข้นมากถึง 5% ซึ่งมีความเข้มข้นสูงที่สุดเท่าที่ Biotherm เคยใช้มาจึงช่วยมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ผิวหน้า โดย LIFE PLANKTON™  ที่ได้นำมาเป็นส่วนผสมหลักของน้ำตบขวดนี้นั้นได้มาจากแพลงตอนที่มีต้นกำเนิดจากแหล่งธรรมชาติ ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนกลางเทือกเขาพีเรนีส (Pyrenees) ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยฟื้นบำรุงผิว และช่วยทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัยขึ้นนั่นเอง ดังนั้น LIFE PLANKTON™ จึงกลายเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Biotherm ที่ข่วยมอบการบำรุงผิวอย่างเหนือชั้นให้แก่หญิงสาวมาหลาย 10 ปี 

    
โดยประสิทธิภาพของ Biotherm Life Plankton™ Essence สามารถพิสูจน์ได้ด้วยผลการทดสอบจากอาสาสมัครที่มีอายุตั้งแต่ 23-66 ปี โดยพบว่าผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่  พร้อมช่วยปลอบประโลมผิว จนรู้สึกว่าผิวนุ่มนวลขึ้นทันทีที่ใช้ และหลังจากใช้ต่อเนื่องไปแล้ว 8 วันพบว่า ผิวแลดูเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน รวมถึงรู้สึกว่าสีผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ก็แลดูลดเลือนลง มาพร้อมกับผิวที่แลดูเปล่งปลั่ง และแลดูกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งเอสเซ้นส์ขวดนี้มีเนื้อสัมผัสที่แสนบางเบาจึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เสมือนกับเป็น Miracle Essence ที่พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า เหมาะสำหรับหญิงสาวผู้มีผิวแห้งกร้าน รวมถึงผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้น้ำตบขวดนี้ของเราฟื้นบำรุงผิวให้กลับมามีสุขภาพดีขึ้นอีกครั้ง


สำหรับวิธีการใช้น้ำตบขวดนี้ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผิวอย่างแท้จริงคือการใช้น้ำตบแพลงตอน Life Plankton™ Essence เป็นขั้นตอนแรกสุดในการบำรุงผิว ด้วยการใช้น้ำตบลูบไล้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอและตบเบา ๆ ให้ทั่วเพื่อให้น้ำตบสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วมากกว่าที่เคย นอกจากนี้ สามารถใช้ปลายนิ้วนวดวนเป็นเลขแปดนวดเพื่อกระตุ้นผิว ยังจุดที่ค่อนข้างมีปัญหา วิธีการนี้จะทำให้เนื้อเซรั่มเข้าไปจัดการปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 

    
สำหรับใครที่ต้องการใช้เอสเซ้นส์แพลงตอน LIFE PLANKTON™ ESSENCE ขวดนี้ไปปรนนิบัติผิวของคุณสามารถเป็นเจ้าของน้ำตบขวดนี้ได้ในราคา 2,550 บาท ในปริมาณ 125 ml หรือ 3,250 บาท ในปริมาณ 200 ml อยากได้ไซส์ไหนก็สามารถเลือกได้เลย รวมถึงทุกคนยังสามารถใช้น้ำตบแพลงตอนขวดนี้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ในไลน์ LIFE PLANKTON™ อื่น ๆ ได้ อาทิ มาส์กบำรุงผิวหน้า LIFE PLANKTON™ MASK, ครีมบำรุงหน้า LIFE PLANKTON™ SENSITIVE BALM และ อิมัลชั่นบำรุงผิวหน้า LIFE PLANKTON™ EMULSION


หากสนใจสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปยัง https://www.biotherm.co.th/ หรือต้องการสั่งซื้อสามารถสั่งซื้อได้ทุกช่องทางของ Biotherm ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออฟไลน์หรือออนไลน์ แล้วมามีผิวที่ชุ่มชื้นขึ้น ดูอ่อนกว่าวัย และแลดูกระจ่างใสไปด้วยกันนะคะ
#3287
สำหรับลูกค้าที่ต้องการ  มือถือมือสอง โทรศัพท์มือสอง ราคาไม่แพงใช้งาน คุณสามารถหาได้จากเว็บไซต์ 
แหล่งรวมคนขาย  มือถือมือสอง โทรศัพท์มือสอง อย่างเช่นเว็บ โทรศัพท์มือสอง.com เพราะมีผู้ชื้อขายจำนวนมากที่มาลงขายหรือหาชื้อ  มือถือมือสอง โทรศัพท์มือสอง ที่นี่ ลองเข้าไปเลือกกาโทรศัพที่คุณต้งการที่

โทรศัพท์มือสอง.com

#3288



นิยามของการดูแลผิวหน้าของคุณผู้ชายเพื่อ แก้ปัญหาผิวที่ร่วงโรยและเสื่อมสภาพ พร้อมช่วยปรับสมดุลผิวทั้งภายในและภายนอกด้วยเซรั่มบำรุงผิว สำหรับผู้ชาย พร้อมเผยผิวหน้าที่ดูเรียบเนียน แลดูกระจ่างใสพร้อมความมั่นใจมาอย่างเต็มขั้น โดยสถานการณ์ในช่วงนี้ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ต้องซ่อนผิวหน้าของตนเองเอาไว้ภายใต้หน้ากาก รวมถึงต้องเจอกับมลภาวะต่าง ๆ ความเครียด และอาหารที่รับประทาน เป็นเหตุให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ อ่อนแอ และดูไม่มีชีวิตชีวา แต่ปัญหาเหล่านี้เราสามารถแก้ไขด้วย Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum เซรั่มผู้ชาย ที่สามารถเสริมความแข็งแรงให้ผิว ด้วยการบำรุงขั้นสูงสุด ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยพร้อมให้ผิวหน้าของคุณผู้ชายทุกคนดูเรียบเนียน และแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น 


คุณสมบัติที่โดดเด่นของ เซรั่ม Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum คือความสามารถในการดูแลผิวหน้าของคุณผู้ชาย ที่พร้อมฟื้นบำรุง แก้ปัญหาต่าง ๆ บนผิวหน้าที่คุณผู้ชายมักจะต้องเผชิญอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่า เป็นเซรั่มผู้ชาย เพื่อผิวของคุณผู้ชายโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ว่าผิวหน้าที่ร่วงโรย และดูไม่สดชื่นนั้นจะเกิดจากปัจจัยภายในอย่างอาหารที่กิน ความเครียดสะสม หรือเกิดจากปัจจัยภายนอกอย่างมลภาวะ ฝุ่นควันต่าง ๆ ก็สามารถจัดการได้ ด้วยการปรับสมดุลของเซลล์ผิวตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก จึงสามารถแก้ปัญหาผิวเสื่อมโทรมได้อย่างตรงจุด คืนความสดใสและดูมีชีวิตชีวาให้แก่ผิว ซึ่งหากใช้เป็นประจำจะรู้สึกเลยว่ารูขุมขนแลดูกระชับขึ้น ริ้วรอยแลดูตื้นขึ้น รวมถึงผิวหน้ายังแลดูเรียบเนียนละเอียดมากขึ้นอีกด้วย พร้อมให้ผิวใหม่ของคุณผู้ชายแลดูกระจ่างใสความมั่นใจมาเต็มทันที 


โดยคุณสมบัติที่โดดเด่นของเซรั่มบำรุงผิว Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum เซรั่มสีน้ำเงินขวดนี้ได้อัดเต็มไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนช่วยในการฟื้นบำรุงผิวอย่าง Blue Algae Extract สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำเงิน ซึ่งทำหน้าที่ฟื้นคืนสภาพผิวที่เคยโทรมจากปัจจัยภายนอก โดยทำงานร่วมกันกับ PRO-XYLANE™  ที่มีคุณสมบัติในการชะลอความร่วงโรยของผิว ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว และทำให้ผิวที่เคยเสื่อมโทรมกลับมามีแลดูสุขภาพดีได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังมี Japanese Cedar Bud Extract หน่ออ่อนต้นไม้อายุแก่กว่าพันปี ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโน และแร่ธาตุที่จำเป็น จึงสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลัดผิว พร้อมเปลี่ยนผิวได้เคยร่วงโรยให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งนึง โดย Cedar Bud Extract จะฟื้นบำรุงตั้งแต่โครงสร้างของผิวชั้นใน พร้อมเสริมความแข็งแรงให้ผิวหน้าชั้นนอกได้อีกด้วย และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ Life Plankton™ แพลงตอนที่มีต้นกำเนิดจากแหล่งธรรมชาติ และเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับไบโอเธิร์ม ส่วนสำคัญที่ช่วยปลอบประโลม พร้อมลดการระคายเคือง และกระตุ้นการทำงานของผิว เพื่อให้ผิวหน้าของคุณผู้ชายดูแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 


ผลลัพธ์หลังใช้งานจากผู้ทดลองใช้ 42 คนที่ใช้ พบว่าเซรั่ม Biotherm ขวดนี้ไปเพียงแค่ 4 สัปดาห์พบว่าช่วยในการฟื้นบำรุงผิวหน้าให้ดูกระชับขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ก็แลดูลดเลือนลง นอกจากนี้เมื่อใช้เครื่องมือในการทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ พบว่าช่วยในการลดเลือนริ้วรอยได้มากถึง 38% ช่วยให้ผิวแลดูกระชับได้ถึง 15%  รวมถึงช่วยให้ผิวแลดูแน่นขึ้น 9.8% ซึ่งหากคุณผู้ชายคนใดต้องการที่จะทดสอบประสิทธิของผลิตภัณฑ์สามารถใช้ Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum เพื่อพิสูจน์ความเปลี่ยนแปลงของผิวได้เลยค่ะ 


นอกจากนี้ ด้วยเนื้อสัมผัสของเซรั่มบำรุงผิวขวดนี้เราพบว่า เนื้อสัมผัสนั้นแสนบางเบา รวมถึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ในทันทีโดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะเอาไว้ โดยขั้นตอนการใช้งานนั้นก็แสนง่ายดายเป็นอย่างมาก เพราะเพียงลูบไล้เซรั่มให้ทั่วบริเวณผิวหน้าทั้งใบหน้าและลำคอ ทั้งเช้าและเย็นเป็นประจำ คุณก็จะเห็นถึงผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพกับผิวด้วยตาของคุณเอง 


สำหรับท่านใดที่สนใจบำรุงผิวหน้าด้วยเซรั่มบำรุงผิว Biotherm Force Supreme Youth Architect Serum สามารถสั่งซื้อได้ในปริมาณ 50 ml มูลค่า 3,500 บาทเท่านั้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือส่องผลิตภัณฑ์ของ Biotherm ชิ้นอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ผ่านทางเว็บไซต์  https://www.biotherm.co.th/ หรือช่องทางใด ๆ ก็ตามที่เป็นร้านค้าของ  Biotherm แล้วมาพิสูจน์ความแข็งแรงของผิวไปด้วยกันค่ะ
#3289

การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ได้ลงนามข้อตกลงสามปีกับ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม (CJ ENM) หนึ่งในบริษัทผู้นำด้านอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเอเชีย ลงนามข้อตกลงสามปี ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 เพื่อสร้างมุมมองใหม่ต่อฮ่องกงในฐานะสถานที่น่าท่องเที่ยวผ่านซีรีส์ และรายการวาไรตี้เกาหลี และยังเป็นครั้งแรกที่องค์กรด้านการท่องเที่ยวได้ร่วมวางแผนกลยุทธ์ควบคู่กับบริษัทด้านความบันเทิงอย่างซีเจ อีเอ็นเอ็ม ซึ่งมีประสบการณ์ในการผลิตซีรีส์และวาไรตี้ที่ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามในระดับโลกอย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Guardian : The Lonely and Great God), เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West การร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ผู้ชมได้นึกถึงฉากที่ชื่นชอบจากซีรีส์เกาลี และรายการวาไรตี้ต่างๆ ในบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่นในฮ่องกง และยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมื่อสามารถเดินทางข้ามพรมแดนได้อีกครั้งด้วย

การท่องเที่ยวฮ่องกง และบริษัทสัญชาติเกาหลีอย่าง ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหารายการมากมายที่ผลิตโดย ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2567 โดยจะนำเสนอภาพของไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมฮ่องกงอันเป็นเอกลักษณ์ สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ในปัจจุบัน คอนเทนต์อันโด่งดังที่ทางซีเจ อีเอ็นเอ็มผลิตขึ้นนั้น ถ่ายทอดไปแล้วกว่า 200 ประเทศ และมีการรับชมทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังระดับโลกที่เป็นพันธมิตรกับซีเจ อีเอ็นเอ็มอีกด้วย
เมื่อการจำกัดการเดินทางสิ้นสุดลง ภาพบรรยากาศของฮ่องกงก็จะได้รับการถ่ายทอดออกไปในฐานะฉากหลังของละครและรายการวาไรตี้หลายประเภทที่ผลิตโดยบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่เคยฝากผลงานการผลิตซีรีส์สุดฮิตและได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั่วโลก อย่าง ซีรีส์ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing On You), ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Guardian : The Lonely and Great God), เพลย์ลิสต์ชุดกาวน์ (Hospital Playlist), วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย (Vincenzo) รวมทั้งรายการวาไรตี้อย่าง Youn's Kitchen และ New Journey to the West

หุ้นส่วนทั้งสองจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อก่อให้เกิดความกลมกลืนของผลงาน ซึ่งรวมถึงการให้คำแนะนำด้านสถานที่และมุมมองทางวัฒนธรรมของฮ่องกงที่จะปรากฏในแต่ละรายการ ซึ่งจะทำให้ฮ่องกงติดอันดับลิสต์สถานที่น่าท่องเที่ยวของคอซีรีส์เกาหลีอย่างแน่นอน

ดร. วายเค แปง ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง ผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจออนไลน์ ระหว่าง นายเดน เฉิง ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง และ นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวว่า "การท่องเที่ยวฮ่องกงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นองค์กรด้านการท่องเที่ยวแรกที่มีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ลักษณะนี้กับบริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม เป้าหมายของเราคือการสอดแทรกฮ่องกงในเนื้อหาซีรีส์และรายการวาไรตี้เกาหลีชื่อดัง ซึ่งจะช่วยเสริมสถานะให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อีกครั้ง เราคาดการณ์ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะทวีความเข้มข้นขึ้นเมื่อโรคระบาดนี้สิ้นสุดลง ดังนั้น การท่องเที่ยวฮ่องกงจึงออกตัวก่อนด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรที่ทรงอิทธิพลในด้านสื่อ เพื่อให้ฮ่องกงยังคงอยู่ในสายตาและความสนใจของผู้ชมทั่วโลกอยู่เสมอ"

นายลี ซังมู รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายขายโฆษณาและพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ซีเจ อีเอ็นเอ็ม กล่าวปิดท้ายว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้เป็นพันธมิตรกับการท่องเที่ยวฮ่องกง และหยิบยกเสน่ห์ และความน่าตื่นตาตื่นใจของฮ่องกง ออกสู่สายตาของผู้ชมผ่านซีรีส์และรายการวาไรตี้ที่เป็นที่นิยมของเรา และด้วยคอนเทนต์ระดับพรีเมียมของซีเจ อีเอ็นเอ็ม ที่ผ่านการพิสูจน์ทั้งยอดการรับชมและอิทธิพลในระดับโลก เรายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายผลงานสู่ตลาดนานาชาติผ่านกลยุทธ์การร่วมมือจากทั่วโลก"
#3290


"ท็อปส์" และ "เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์" ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ต้อนรับเทศกาลถือศีลกินเจ ชวนละเว้นเนื้อสัตว์ สร้างกุศลยิ่งใหญ่ จัด "เทศกาลเจ 2021" ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่กับสารพัดเมนูเจรสเด็ดพร้อมทานราคาเริ่มต้น 19 บาท และวัตถุดิบเจคุณภาพเยี่ยมหลากหลาย สะดวกช้อปทุกช่องทาง ที่ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา พร้อมสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ www.tops.co.th หรือ แอปพลิเคชั่น Grab พิเศษ! รับฟรีคูปองส่วนลด"เจนี้ เปย์เลย" รวม 150 บาท ที่ไลน์ @TopsThailand ระหว่างวันที่ 1-14 ตุลาคม 2564 เพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้าเจที่ร่วมรายการ ทั้งนี้คาดว่าหลังจากที่ ศบค.มีผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด ลดเวลาเคอร์ฟิว จะทำให้เทศกาลเจในปีนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง



เทศกาลเจ เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะได้ละเว้นบริโภคเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ นอกจากกลุ่มชาวจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังมีกลุ่มผู้รักสุขภาพและ คนรุ่นใหม่ที่หันมารับประทานเจมากขึ้น ซึ่งเทรนด์การบริโภคและรูปแบบของอาหารเจมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย "ท็อปส์ และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์" จึงจัด "เทศกาลเจ 2021" ให้ทุกคนได้อิ่มบุญ อิ่มใจ พร้อมวางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายและการบริโภคช่วงเทศกาลเจให้คึกคัก ได้แก่



ด้านสินค้า จัดเตรียมวัตถุดิบเจหลากหลายประเภท นำไปทำเองได้ที่บ้านตอบโจทย์ผู้ที่ต้อง Work From Home พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษช่วยลูกค้าประหยัด พร้อมทั้งให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้า ความปลอดภัยของผักและผลไม้สด เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ นอกจากนั้นยังมีสารพัดเมนูเจพร้อมทานปรุงสดใหม่ทุกวัน ตอบโจทย์ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่ยังต้องการรับประทานอาหารเจจากครัวเดลิก้าทั้งเมนูผัด ต้ม แกง ทอด เมนูติ่มซำเจ, เมนูจานเดียวจาก at TASTE ที่รังสรรค์เมนูเจรสชาติใหม่ เช่น ผัดมักกะโรแฮมเบิร์กเจ เส้นใหญ่ผัดหนำเลี๊ยบหมูสับเจ, เมนูเจเพื่อสุขภาพจาก Central Eatery ได้แก่ สลัดออลกรีนและ สลัดเต้าหู้ญี่ปุ่น, เมนูอาหารเจแช่แข็งตราท็อปส์ เช่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส แกงเผ็ด เป๋าฮื้ออบวุ้นเส้น, เบเกอรี่เจจาก THE BAKER เช่น พายเผือกแป๊ะก๊วยเจ ขนมปังถั่ว 5 สีเจ โดยทุกเมนูอาหารการันตีความสด สะอาด เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ทำให้ทุกมื้อเจ ไม่จำเจอีกต่อไป



ด้านช่องทางจำหน่าย สะดวกช้อปทุกช่องทาง ทำให้อาหารเจสามารถเข้าถึงได้ง่าย กระตุ้นให้เกิดการซื้อ อาหารเจเพิ่มมากขึ้น ทั้งซื้อที่ร้านเลือกช้อปตามความพอใจ หรือช้อปสะดวกผ่านช่องทางออนไลน์หลากหลาย ได้แก่ www.tops.co.th , บริการช้อปผ่านผู้ช่วยช้อปส่วนตัว Personal Shopper ทางไลน์ @TopsThailand หรือ แอปพลิเคชั่นGrab เลือก GrabFood ,GrabMart และ Central Eatery ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถรับประทานอาหารเจได้ทุกมื้อ



ด้านโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นนักช้อป "เจนี้ เปย์เลย" รับฟรี! คูปองส่วนลดรวม 150 บาทที่ ไลน์ @TopsThailand ใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าเจที่ร่วมรายการที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา สำหรับลูกค้าแฟมิลี่มาร์ท พบกับสินค้าจับคู่ สุดคุ้ม ราคา 39 บาท เช่น ผัดหมี่ซั่วเจหรือคั่วกลิ้งเจพร้อมน้ำดื่มน้ำทิพย์ 550 มล., ท็อปส์เต้าหู้ทอดเจ 120 กรัม กับน้ำผลไม้ยูนีฟขนาด 200 มล. หรือเซตจุใจยังไงก็คุ้ม ซื้อ 3 ชิ้นในราคา 100 บาท เช่น ท็อปส์เมนูอาหารเจที่ร่วมรายการ,โทฟุซังนมถั่วเหลืองรสออริจินอลหวานน้อย 180 มล.แพค 4 กล่อง และร่วมกับกรมการค้าภายในจัดจำหน่ายอาหารเจราคาประหยัดเริ่มต้น 19 บาท เช่น ฟองฟองน้ำนมถั่วเหลือง , ผัดหมี่ซั่วเจ



นอกจากวัตถุดิบเจ เมนูอาหารเจพร้อมทานที่มีให้เลือกจับจ่ายอย่างหลากหลายแล้ว ยังมีเมนูเจคาว -หวานจากร้านค้าชื่อดังต่างๆ มาให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกช้อปเลือกชิม ในงาน " J Festival" ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต และ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 33 สาขาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 5-14 ตุลาคม 2564 ไม่ว่าจะเป็น ร้านตาละลักษมณ์ กับเมนูชาบูเจ และข้าวมันไก่เจ, ร้านเฮียหงี กระเพาะปลาเยาวราช, ร้านเต้าฮวย น้ำเต้าหู้ สวนลุม, ร้านราชาซาลาเปา กับเมนูซาลาเปาเจรสเด็ด, ร้านฮั่วเซ่งฮง ร้านอาหารจีนชื่อดังที่ขนสารพัดเมนูเจมาให้ทุกท่านได้ลอง, เต้าหู้ทอดสวัสดี, กุ้ยช่ายราชวัตร, ขนมไทยคุณยายผ่องศรี เป็นต้น

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, Central Food Hall, FamilyMart Thailand หรือ ไลน์ @TopsThailand และ @FamilyMart Thailand
#3291
บอร์ด EEC เตรียมปรับแผนดึงการลงทุนรอบใหม่ ให้อำนาจ "คณิศ" ร่างสิทธิประโยชน์เจรจานักลงทุนเจาะจงเฉพาะราย ใน 6 เขตส่งเสริมกิจการพิเศษเร็วๆ นี้ หวังดึงการลงทุนเข้าประเทศ จาก 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) 500,000 ล้านบาท/ปี

วันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ เลขาฯ EEC) กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 3/2564 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า EEC อยู่ระหว่างร่างสิทธิประโยชน์ใหม่ เพื่อใช้เป็นหนึ่งในแผนชักจูงนักลงทุนโดยเฉพาะใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาใหม่ (New S-Curve) เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ (EV) ดิจิทัล (5G) การแพทย์สมัยใหม่ หุ่นยนต์ เกษตรมัยไหม้ (BCG) โดยจะใช้หลักการเจรจากับนักลงทุนเฉพาะราย หรือเจาะจงเจรจาเป็นรายบริษัทเพื่อกำหนดสิทธิประโยชน์ตามที่นักลงทุนต้องการ


ซึ่งสิทธิประโยชน์ใหม่นี้จะใช้เจรจากับนักลงทุน ประเภทกิจการ ที่อยู่ในพื้นที่เขตส่งเสริมกิจการพิเศษ 6 แห่งเท่านั้น ประกอบด้วย เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) เขตส่งเสริมรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (EECh) เขตส่งเสริมการแพทย์จีโนมิกส์ (EECg) เขตส่งเสริมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EECi) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เขตส่งเสริมศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร (EECmd)

เช่น ในพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก จะเกิดกิจการอื่นๆ ตามมา ซึ่งบริษัทเหล่านี้ล้วนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นเขตส่งเสริมฯ ที่ EEC ดูแลอยู่ จากนั้นจะกำหนดสิทธิประโยชน์ให้แต่ละรายโดยไม่จำเพาะจำกัดประเภทกิจการเหมือนที่ บีโอไอกำหนด แต่ในเรื่องของสิทธิประโยชน์ว่าจะให้อะไรนั้นคงไม่ต่างจากบีโอไอมากแต่ให้ตามที่นักลงทุนขอ

"อย่างก่อนนี้เราเคยให้กับทางอาลีบาบา ซึ่งเราไม่ได้ให้เหลือกว่าใครแต่เขาขอแค่ว่า ในประเภทกิจการที่จะมาลงทุนในไทย ซึ่งจะมีบริษัทย่อย 4 บริษัทตามมาด้วยอย่าง บริษัทก่อสร้าง โลจิสติกส์ ไอที และมาเก็ตติ้ง อาลีบาบาเขาไม่ใช่บริษัทเดียวถ้าใช้สิทธิประโยชน์บีโอไอเขาก็จะได้แค่ว่าเป็นประเภทกิจการเดียว แต่ถ้าเราเอาสิทธิประโยชน์ EEC ไปใช้เจรจา อีก 4 บริษัทย่อยเขาก็จะได้ด้วย หลักการให้สิทธิประโยชน์ใหม่รอบนี้จึงจะเป็นลักษณะนี้ ให้ตามที่เขาขอ เพราะเราต้องสู้กับคู่ประเทศที่เวียดนาม สิงคโปร์ เขาก็ดึงการลงทุนด้วยแบบนี้"

นอกจากนี้ที่ประชุมยังพิจารณารับทราบก้าวหน้าการดำเนินงานใน EEC เพิ่มเติม โดย ขณะนี้ โครงการพัฒนา
ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ได้ผ่านความเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว และจะนำเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติ พร้อมลงนามสัญญาต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับแผนลงทุนใน EEC เป็น 2.2 ล้านล้านบาท ใน 5 ปี (ปี 2565-2569) มาจากโครงสร้างพื้นฐาน 200,000 ล้านบาท การดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย ปีละ 400,000 ล้านบาท จากการยกระดับชุมชนและประชาชน พัฒนาตลาดสด/ e-commerce ดังนั้นในแผน EEC 5 ปีข้างหน้า จะทำให้มูลค่าการลงทุนใน EEV เพิ่มขึ้น 500,000 ล้านบาท/ปี (จากเดิม 300,000 ล้านบาท/ปี) ช่วยดัน GDP โตได้ 4.5 – 5% ต่อปี

ขณะเดียวกันยังเห็นชอบให้เดินหน้าแผนพัฒนาเกษตร เร่งรัดโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC) ช่วยเกษตรกรเงินเก็บเพิ่ม ผลไม้ไทยสร้างรายได้ โดยโครงการ EFC จะสร้างรายได้ 20-30% มูลค่าประมาณ 10,000-15,000 ล้าน/ปี ที่ประชุมเห็นชอบแผนการพัฒนาตลาดลานโพธิ์นาเกลือ พลิกโฉมพัทยา สู่แหล่งท่องเที่ยวโลก สร้างเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 ล้านคน/ปี และเกิดรายได้ให้คนในพื้นที่กว่า 1,000 ล้านบาท/ปี และที่ประชุมยังเห็นชอบให้ร่งศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐ

และเอกชน (PPP) เพื่อยกระดับโรงพยาบาลปลวกแดง 2 เป็น Sandbox ต่อยอดระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งจะรองรับผู้ประกันตนประมาณไม่ต่ำกว่า 200,000 คน ในอำเภอปลวกแดง
#3292
เช็กดวง! ประจำวันจันทร์ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๔

คนเกิดวันอาทิตย์
เรื่องเข้าใจผิดจะเหนื่อยกับการอธิบาย คนมีตำแหน่งสูง มากด้วยการจับจ้องหรือหวังเลื่อยเก้าอี้ ความลับทางธุรกิจและการงาน ทำให้คุณถือไพ่เหนือกว่าคนอื่น ค้าขาย ระวังบริวารจะมีปัญหา งานที่เป็นตัวกลางในการดำเนินการ รายได้ดี ลงทุนหรือเก็บออม เปลี่ยนเงินเป็นสิ่งของยังปลอดภัย อย่าข้องเดี่ยวกับตลาดพลังงาน หรือการค้าปลีก สุขภาพเจ็บไข้อาการจะเบาลง แต่ยังไม่หายขาด
คุยกับคนรู้ใจ ต้องดักทางในคำพูดเพราะปากไม่ค่อยตรงกับใจ ขี้งอนเก่ง ต้องตามง้อบ่อยๆ แต่ยังคบหากันราบรื่นดี เพศทางเลือก ระวังการข้องเกี่ยวกับคนมีเจ้าของแล้ว หวังรักรีเทิร์นวันนี้ยังไม่มีคำตอบ เสริมดวงคนโดนเท คนโสด ทำบุญหนังสือสวดมนต์

คนเกิดวันจันทร์
อย่าจับงานอะไรอย่างเดียวช่วงเดือนนี้ ชาววันจันทร์มักโดนชักชวนให้ทำนั่นทำนี่ หากพอมีแรงไหวรับทำจะมีค่าขนมไม่ขาดมือ สายงานประจำ พยายามอยู่ในกรอบระเบียบจะไม่เดือดร้อน ของหายไม่ได้คืน และต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของมาทดแทน ธุรกิจความเชื่อความศรัทธา จะได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือร่วมลงทุน ระวังอุบัติเหตุเกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ ชาร์จโทรศัพท์ทางทิศใต้ จะได้โชคทางไกล
ส่วนเรื่องหัวใจ หลายคนอยู่ในสถานะครึ่งๆ กลางๆ ไม่เดินหน้า ไม่ถอยหลังกลับ คนแต่งงานแล้วดูชื่นมื่น แต่มักมีเรื่องภายนอกมาทำให้คุณเข้าใจกันผิด รักต่างวัยคบหากันราบรื่นดี แต่ช่วงสัปดาห์นี้ไม่เหมาะจะสารภาพขอความรักจากเป้าหมาย แอบรักจะโดนจับได้

คนเกิดวันอังคาร
เปิดต้นสัปดาห์ให้สดใสด้วยการเจรจาหรือลงมือจับงานใหม่ๆ ทำ น้องใหม่ที่ทำงานยังต้องปรับตัวกับระบบ วัยเรียนยังไม่สมหวังกับสนามสอบหรือผลการทดสอบต่างๆ การใช้จ่าย อยู่กับเรื่องรายวัน หากจะลงทุนอะไรดูช่วงท้ายสัปดาห์จะเหมาะสมมากกว่า เข้าหาธนาคารยังมากเรื่องต่อรอง เสริมดวงปังๆ วันนี้ ลองพกขนมหรือเครื่องดื่มที่ชอบไว้บนโต๊ะและมุมทำงาน งานและเงินจะราบรื่น
คนรักจะเป็นผู้ช่วยที่ดีในการทำงานหรือการเรียน วัยเรียนอาจช่วยกันติวข้อสอบ วัยทำงานการลงขันกับคนรัก ธุรกิจในครอบครัว หรือการลงทุนอื่นๆ จับคู่ช่วยกันดำเนินการ จะปังกว่าลุยคนเดียว ใครกำลังอกหัก อยู่กับตัวเองสักพัก จะดีที่สุด

คนเกิดวันพุธ
อย่าหัวร้อนกับเรื่องร้อนรายวัน ที่เข้ามาเพราะความต้องการของเจ้านายหรือลูกค้ามากกว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นเร่งรีบ เงินนอกระบบ มีทั้งรุ่งและติดขัด อาจต้องรับแผนการใช้จ่ายของคุณใหม่ ช่วงบ่ายของวันเหมาะจะลงทุนหรือเจรจาเกี่ยวกับตัวเลข ธุรกิจ งานที่ทำกับต่างชาติต่างแดน จะให้คุณในทุกรูปแบบ สุขภาพวันนี้ใส่ใจกับอาหารการกินที่ไม่มากไม่น้อยได้เวลากลับมาดูแลตัวเอง
จะได้พบเจอคนนิสัยคล้ายๆ กัน คนโสด ที่อยู่ว่างๆ จะมีคนเข้ามาในชีวิต ที่คุณสมบัติใกล้เคียงกัน คุณอาจต้องศึกษาไปนานๆก่อนที่จะเลือกใครสักคน ด้านคนมีคู่อยู่แล้ว ดูราบรื่นดี ปากเสียงประปรายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพอเป็นสีสันชีวิต

คนเกิดวันพฤหัสบดี
มีเรื่องเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับการงาน หน้าที่ ความรับผิดชอบหรือคนที่สมัครงานและเพิ่งเริ่มงานใหม่ งานอาจไม่ตรงปกกับการเจรจากันไว้ในตอนแรก แต่ฝึกฝีมือไว้ไม่เสียหาย การเงินมีรายจ่ายเกี่ยวกับสุขภาพ หรือได้นำเงินเก็บมาลงทุนกับธุรกิจสุขภาพ รวมทั้งเรื่องของประกันชีวิต อย่าค้ำประกันใครด้วยเงิน หรือชื่อเสียงของตัวเอง อาจเดือดร้อน ของหายไม่ได้คืน
ความสดใส เป็นกันเอง เข้ากับคนง่าย อาจทำให้คนโสดๆ ตกหลุมรักครั้งใหม่ เพศทางเลือก คนต่างฐานะ คบกันอาจมีปัญหา คู่แต่งงานแล้วมือที่สาม อยู่รอบๆ พวกเขามักเข้ามาตีสนิทด้วยความไม่รู้ มากกว่าจงใจ

คนเกิดวันศุกร์
คนในเครื่องแบบ จะสนุกกับงานใหม่ งานประจำ ตำแหน่งที่ได้รับล่าสุด จะทดสอบคุณให้โชว์ความสามารถ การสอบแข่งขันทำให้วัยเรียนยิ้มออก กับสนามที่สอบมาหลายรอบ การเงินวันนี้อยู่กับการค้าขาย จะของใหม่ ของเก่า ของมือสองล้วนให้โชคลาภ แต่ไม่เหมาะจะเอาไปลงทุนใหม่ๆ จะได้ของฝากของขวัญที่ถูกใจ เสริมดวงสุขภาพและการเงิน ทำบุญใส่บาตรด้วยอาหารที่เป็นเมนูสัตว์ปีก จะดี
ความมั่นคง ดูเรียบง่าย ทำให้ความรักดูยั่งยืน คนมาก่อนจะชนะ ความสัมพันธ์ที่มีปัญหาคู่แทรกมานาน กำลังจะสงบศึก เพศทางเลือก คนที่เพิ่งโสด เพิ่งหายจากอาการอกหัก มีลุ้นรักครั้งใหม่ ที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ใครโดนเท คุณแค่คิดไปเองเท่านั้น

คนเกิดวันเสาร์
งานวันนี้โดดเด่นกับคนมีชั่วโมงบินสูง ทำงานที่เดิมมานาน หรือค่อนข้างเป็นเจ้าตลาดในสายการค้า หากคุณเป็นน้องใหม่ในวงการ คุณยังแพ้ทางคนที่ทำมาก่อน จะได้ควักเงินกับภาระในบ้านที่เพิ่มขึ้นบางประการ สัปดาห์นี้เหมาะจะเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ เปลี่ยนเคสมือถือ โทนฟ้า น้ำเงิน เทา เรียกทรัพย์ หากใชสีเหลืองจะเสริมดวงสุขภาพ ทำบุญกับบริวาร ด้วยน้ำอาหาร ทุกอย่างจะไปได้ดี
คุณอาจได้ยินคำตอบ คำอธิบาย ของคนรัก ที่ไม่ค่อยจะน่าฟัง คนแต่งงานมานานแล้ว ข่าวลือ อาจเป็นเรื่องจริงในบางส่วน คู่ที่กำลังเตรียมงานมงคล ผู้ใหญ่จะเข้ามาช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ เพศทางเลือก คนเก่าๆ มักอยากติดต่อ แต่เหมาะเพียงสถานะคนคุย
 
#3293


ซอน เฮือง มิน ทำคนเดียว 2 แอสซิสต์ ช่วยทัพ 'ไก่เดือยทอง' ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดบ้านเฉือนชนะ 'สิงห์ผยอง' แอสตัน วิลล่า หวุดหวิด 2-1 หยุดสถิติแพ้รวด 3 นัดในเกมลีก

ศึกฟุต.พรีเมียร์ลีก นัดที่ 7 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่เพิ่งเรียกความมั่นใจใน คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาเปิดบ้านพบกับ แอสตัน วิลล่า ที่เพิ่งชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ในสัปดาห์ก่อน

เกมนี้ นูโน เอสปิริโต้ ซานโต้ วาง ซน ฮึง มิน และ แฮร์รี เคน เล่นกองหน้าร่วมกันอีกครั้ง โดยมี ล฿คัส มูร่า สนับสนุน ด้าน ดีน สมิธ เกมนี้ใช้ แดนนี อิงส์ จับคู่กับ โอลลี วัตกินส์

เริ่มเกมมา 27 นาที ซน ฮึง มินได้.ทางฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก แต่งหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยขวาเข้าไปให้ สเปอร์สนำก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 67 แมตต์ ทาร์เกตต์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนครอสเข้าในให้ โอลลี วัตกินส์ โฉบมายิงที่เสาแรกเข้าไปให้ สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

แต่นาที 71 สเปอร์สก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ ซน ฮึง มิน หลุดขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจ่ายถวายพานทองให้ลูคัส มูร่า ยิงจ่อๆเข้าไปให้สเปอร์ส นำวิลล่าอีกครั้งเป็น 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส เอาชนะแอสตัน วิลล่าไป 2-1 มีเพิ่มเป็น 12 แต้ม ขึ้นมารั้งอันดับ 8 ส่วนวิลล่ามี 10 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 10 ทั้งนี้เป็นการหยุดสถิติแพ้รวดในเกมลีกของ 'ไก่เดือยทอง' เอาไว้ที่ 3 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริง
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ : ฮูโก้ โยริส (GK), เอเมอร์สัน รอยัล, คริสเตียน โรเมโร่, เอริค ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีล่อน, โอลิเวอร์ สคิปป์, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่, ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน

แอสตัน วิลล่า : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (GK), เอซรี่ คอนซ่า, คอร์ทนี่ย์ เฮาส์, ไทรอน มิงส์, แมตตี้ แคช, จอห์น แม็คกินน์, ยาค็อบ แรมซี่ย์, ดั๊กลาส ลุยซ์, แมตต์ ทาร์เกตต์, แดนนี่ อิงส์, โอลลี่ วัตกิ้นส์
#3294
 


Kato Bonsai Model
ผลิตและจำหน่ายบอนไซประดิษฐ์
-บอนไซประดิษฐ์ งาน Handmade by Kato
Material : Leaves and Trunks are made from natural materials
- ใช้ใบไม้แท้มาผสมจากเมืองนอกที่ละเอียด อบใบและสี4-5ครั้ง สีพิเศษจากเมืองนอกชนิดนี้เมื่อโดนแสง จะทำให้ใบดูฉ่ำเหมือนมีชีวิต
- อายุของใบไม่ไม่ต่ำกว่า10ปี
- ลำต้นสร้างปั้นแต่งขึ้นจาก วัสดุธรรมชาติ
 
-ความหมาย บอนไซ
        บอนไซ ตามความเชื่อแต่โบราณหมายถึง ต้นไม้มงคลที่เป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง การได้ชัยชนะ การมีอายุยืนยาว และความมั่นคง แก่ผู้ที่ได้รับ เพื่อความเป็นสิริมงคล
        ดังนั้น ความหมายรวมคือ ผู้ที่ได้รับไปจะมีแต่โชคลาภ วาสนา และความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติ ในทุกๆวัน
 
Artificial Bonsai tree . Kato's Handmade products (tree, pot, stones) ** all are done by me ***
- Natural leaves/trunks make it highly realistic
- Handmade ceramic pot come in a wide range of styles and sizes.
- No watering.
- Bonsai' is one of the best trees which represents longevity, luck & prosperity.
- Perfect for your home, wedding, office, restaurant and other place decoration.
- KatoBonsai Gallery is located on.....ถนน (600 metre far from เล่งเน่งยี้ Mrt station)

https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน
 
 
#3295
 
 
 


Kato Bonsai Model
ผลิตและจำหน่ายบอนไซประดิษฐ์
-บอนไซประดิษฐ์ งาน Handmade by Kato
Material : Leaves and Trunks are made from natural materials
- ใช้ใบไม้แท้มาผสมจากเมืองนอกที่ละเอียด อบใบและสี4-5ครั้ง สีพิเศษจากเมืองนอกชนิดนี้เมื่อโดนแสง จะทำให้ใบดูฉ่ำเหมือนมีชีวิต
- อายุของใบไม่ไม่ต่ำกว่า10ปี
- ลำต้นสร้างปั้นแต่งขึ้นจาก วัสดุธรรมชาติ
 
-ความหมาย บอนไซ
        บอนไซ ตามความเชื่อแต่โบราณหมายถึง ต้นไม้มงคลที่เป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง การได้ชัยชนะ การมีอายุยืนยาว และความมั่นคง แก่ผู้ที่ได้รับ เพื่อความเป็นสิริมงคล
        ดังนั้น ความหมายรวมคือ ผู้ที่ได้รับไปจะมีแต่โชคลาภ วาสนา และความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติ ในทุกๆวัน
 
Artificial Bonsai tree . Kato's Handmade products (tree, pot, stones) ** all are done by me ***
- Natural leaves/trunks make it highly realistic
- Handmade ceramic pot come in a wide range of styles and sizes.
- No watering.
- Bonsai' is one of the best trees which represents longevity, luck & prosperity.
- Perfect for your home, wedding, office, restaurant and other place decoration.
- KatoBonsai Gallery is located on.....ถนน (600 metre far from เล่งเน่งยี้ Mrt station)

https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน
 

 

 
 
#3296

 "โลเคเนชั่น" เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เปิดตัวแพลตฟอร์ม 'Locanation' ครั้งแรกในรูปแบบ The First-Ever Social Travel Marketplace พร้อมแข่ง OTA ยักษ์จากต่างชาติ โรงแรมเข้าร่วมไม่เสียคอมมิชชัน สามารถจัดโปรโมชันและนำเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมให้บริการ 1 ตุลาคม 64 ขานรับนโยบายรัฐบาลเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ

นายเปเป้ อรุณานนท์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำความรู้และประสบการณ์จากการทำแพลตฟอร์มการจองโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือกแห่งรัฐ (ASQ) และ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) มาต่อยอดและพัฒนาแพลตฟอร์ม Locanation (www.locanation.com) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มจองโรงแรมเต็มรูปแบบ ภายใต้คอนเซปต์ใหม่ "The First-Ever Social Travel Marketplace" ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มจองโรงแรมรายแรกของโลกที่ไม่เก็บค่าคอมมิชชันจากโรงแรมที่เข้าร่วมระบบ ตั้งเป้าเป็นช่องทางการจองโรงแรมโดยตรงให้กับโรงแรม เพราะโรงแรมสามารถสื่อสารข้อมูลโดยตรงกับลูกค้าที่จองห้องพักและมอบสิทธิประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้นได้อีก



Locanation เล็งเห็นโอกาส หลังจากรับทราบถึงปัญหาของผู้ประกอบการโรงแรม อาทิ เช่น การผูกขาดตลาดของแพลตฟอร์มต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้โรงแรมต้องจ่ายค่าคอมมิชชันสูงถึง 30% หรือการที่โรงแรมไม่สามารถสื่อสารโปรโมชั่นและข้อมูลต่างๆ โดยตรงกับนักท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้ ปัญหาเหล่านี้ ก่อให้เกิดเทรนด์การจองห้องพักโดยตรงที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทว่ากว่า 70% ของโรงแรมในประเทศไทย ยังไม่มีช่องทางออนไลน์ให้นักท่องเที่ยวจองห้องพักหรือแม้แต่สอบถามข้อมูล
"เราพัฒนาระบบการจองโรงแรมรูปแบบใหม่ขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และนำรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดกลับมาอยู่ในอุ้งมือของคนไทย" นายเปเป้ กล่าว

แพลตฟอร์ม Locanation เป็น 1 ในทีมที่ชนะการประกวดโครงการ TAT Travel Tech Startup Season 2 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถูกพัฒนาภายใต้พันธกิจ 'Good for hotels, better for travelers' หรือ 'ดีสําหรับโรงแรม และดียิ่งกว่าสําหรับนักท่องเทียว' พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สอดคล้องกับนโยบายฟื้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยวที่พร้อมจะเปิดประเทศ



นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. สนับสนุนและส่งเสริม Startup โดยเฉพาะในกลุ่ม TravelTech ของประเทศไทย ให้มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับนานาชาติ ซึ่งการพัฒนาแพลตฟอร์มการจองโรงแรมในรูปแบบใหม่โดยโลเคเนชั่นนี้ เป็นการให้บริการที่จะช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการโรงแรมไทยให้สามารถสร้างประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินธุรกิจ ตลอดทั้งสามารถตอบสนองความต้องการตามพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่นิยมจองห้องพักผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่ง ททท. คาดว่า ไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง และอัตราการฉีดวัคซีนครอบคลุมตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว บรรยายการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาสร้างความคึกคัก และความเข้มเข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกครั้ง

นายเปเป้ กล่าวเสริมว่า เมื่อมาตรการของรัฐเริ่มผ่อนคลายจากวิกฤตโควิด-19 จะเห็นคนไทยต้องการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเทรนด์การท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์นั้น ตลาดในประเทศจะกลับมาเร็วที่สุด ซึ่งสอดรับกับททท. ที่ได้เดินหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% การมอบคูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน การลดราคาตั๋วเครื่องบิน 40% ให้เดินทางท่องเที่ยว รวมถึงโครงการทัวร์เที่ยวไทย 1 ล้านสิทธิ์ สนับสนุน 5,000 บาท ในการซื้อแพคเก็จทัวร์ท่องเที่ยว เป็นต้น

แพลตฟอร์ม Locanation จะให้บริการ 3 ภาษา ประกอบด้วยไทย อังกฤษ และจีน โดยเฟสแรกของการเปิดให้บริการจะเน้นผู้ใช้บริการจะเป็นนักท่องเที่ยวไทยในประเทศ 80% อีก 20% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยตั้งเป้าโรงแรมที่จะเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม Locanation เป็น 20,000 โรงแรมได้ภายในปี 2565



จุดเด่น คือ เมื่อผู้ประกอบการโรงแรมที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม Locanation ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน จึงทำให้เปรียบเสมือนช่องทางการจองตรงของโรงแรม สามารถสื่อสารโดยตรงกับนักท่องเที่ยว พวกเขาสามารถนำรายได้ที่เคยสูญเสียไปในจุดนั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของผู้เข้าพักเพิ่มมากขึ้น เช่น บริการรถรับส่งระหว่างโรงแรมไปยังสนามบิน หรือฟรีมินิบาร์ เป็นต้น

นายเปเป้ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่โรงแรมและลูกค้าสามารถสื่อสารกันโดยตรง ทั้งในรูปแบบของโพสต์และแชทส่วนตัว จะส่งผลให้โรงแรมสามารถอัพเดทโปรโมชันและดีลห้องพักได้แบบเรียลไทม์ และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงนักท่องเที่ยวของโรงแรมอีกด้วย

นอกเหนือไปจากนั้น ปัจจุบัน Locanation ได้ทำการจับมือกับพันธมิตรระดับประเทศอย่าง สยามพิวรรธกรุ๊ป และทิพยประกันภัย โดยได้ร่วมกันพัฒนาและออกแบบสิทธิประโยชน์มากมายที่จะนำมามอบให้กับผู้ใช้ เพื่อให้ทุกจองนำไปสู่การเดินทางที่พิเศษและครบครันมากยิ่งขึ้น
#3297
ผญ.ตั้งท้องทานข้าวกล้องออแกนิค Low GI น้ำตาลต่ำ ข้าวอร่อยโภชนาการสูงสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ข้าวสุรินทร์ 100%
เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์  จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวอินทรีย์  คนทำนาข้าวอินทรีย์  ข้าวออร์แกนิค

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค ( ข้าวอินทรีย์ )
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ  ข้าวกล้องออแกนิค " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1.  ขายข้าวมะลินิลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องหอมมะลินิลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิorganic, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ข้าวสุขภาพผกาอำปึล, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.   ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิคสำหรับทารก, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1. ข้าวหอมมะลิเพื่อสุขภาพ
2. ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิคคือ
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ  ข้าวผกาอำปึลออแกนิคคือ(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์จังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงสุขภาพ 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลปลอดสารพิษ
7.  ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ข้าวไรซ์เบอร์รี่ปลอดสารพิษ

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#3298


เสมา 1 มอบนโยบาย สอศ.ตั้งรับการเปลี่ยนแปลงโลกอาชีพ ทบทวนการจัดการเรียนการสอนของอาชีวศึกษาทั้งระบบ ในระดับปวช.-ปวส.ตั้งเป้าเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2565

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกของอาชีพ ที่มีอาชีพใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น และมีความคาดหวังว่านักเรียน นักศึกษาต้องปรับตัวได้ทันกับโลกของอาชีพที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ยังมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ และคาดว่าเราต้องอยู่ร่วมกับโรคติดเชื้อโควิด-19ไปอีกระยะหนึ่ง และจากการที่ตนได้ลงพื้นที่ติดตามการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ก็ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้เรียน สถานศึกษา และประชาชนว่า มีนักเรียนนักศึกษาออกกลางคันเป็นจำนวนมาก โดยสาเหตุหนึ่งคือความแข็งตัวของหลักสูตร และการจัดการเรียนการสอน ดังนั้น จึงต้องมีการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนมีคุณภาพ มีสมรรถนะสูงสุดตรงตามที่สถานประกอบการ หรือ ตลาดแรงงานต้องการ

" ดิฉันได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทบทวนเรื่องการจัดการเรียนการสอนอของอาชีวศึกษาทั้งระบบ ตั้งแต่ตัวหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) การจัดการเรียนรู้ การจัดเวลาเรียน การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ การฝึกอาชีพ การประเมินผลการเรียนรายวิชา ตลอดจนการฝึกอาชีพในระบบทวิภาคี รวมถึงเรื่องสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เรียนสายวิชาชีพ สามารถจบออกไปอย่างมีคุณภาพ มีสมรรถนะสูงสุดตรงตามที่สถานประกอบการ หรือตลาดแรงงานต้องการ และที่สำคัญสามารถเรียนจนจบหลักสูตรโดยไม่ออกจากหลักสูตรกลางคัน ซึ่งการปรับปรุงนี้ควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทันใช้ในปีการศึกษา 2565 นี้ " รมว.ศึกษาธิการ กล่าว.
#3299


ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยกินเจปีนี้ไม่คึกคัก คาดใช้จ่าย 40,147 ล้านบาท ลดลง 14.5% หดตัวครั้งแรกในรอบ 14 ปี เหตุคนกังวลโควิด-19 ราคาสินค้าแพง

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลกินเจ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,208 ราย ว่า เทศกาลกินเจปีนี้ไม่คึกคัก คาดว่ามีมูลค่าการใช้จ่ายอยู่ที่ 40,147 ล้านบาท ลดลง 14.5% เป็นการหดตัวครั้งแรกจากที่เคยทำการสำรวจมาตั้งแต่ปี 2551 หรือหดตัวในรอบ 14 ปี โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน มีความกังวลเรื่องราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ลดการจับจ่ายใช้สอย

นางอุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 60.9% จะไม่กินเจเพราะกังวลเรื่องของเศรษฐกิจไม่ดี ไม่ได้ต้องการจะกินเจ มีเพียง 39.1% ที่ยังคงกินเจอยู่เพราะต้องการทำบุญ โดยช่องทางในการเลือกซื้ออาหารเจ 87.8% จะไปซื้อด้วยตัวเองผ่านร้านค้า ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ และ 12.2% ไม่ได้ไปซื้อด้วยตัวเอง ซื้อผ่านตัวกลาง เช่น ไลน์แมน วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

สำหรับราคาอาหาร และวัตถุดิบในการปรุงอาหารเจปี 2564 เทียบปีที่ผ่านมา ประชาชน 47.6% เห็นว่าแพงขึ้น 45.5% เห็นว่าเท่าเดิม และ 6.9% เห็นว่าลดลง ส่วนการใช้จ่ายในช่วงกินเจ ส่วนใหญ่ตอบว่าเท่าเดิม โดยเงินที่นำมาใช้จ่ายมาจากรายได้ประจำ 81.9% เงินช่วยเหลือจากภาครัฐ 7.7% และเงินออม 4.5%

ทั้งนี้ ได้มีการสอบถามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต พบว่า การจับจ่ายของประชาชนลดลงทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว การซื้อรถคันใหม่ และซื้อสินค้าคงทน ส่วนการคาดการณ์เศรษฐกิจ มองว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นได้ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 เพราะยังห่วงเรื่องของโควิด-19 แต่การล็อกดาวน์ในหลายกิจการ จะทำให้ประชาชนมีความกล้าในการใช้ชีวิตมากขึ้น และจะกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติหลังจากนี้อีก 4 เดือน ส่วนการเปิดประเทศประชาชนส่วนใหญ่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะยังกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่

"สิ่งที่ประชาชนต้องการ คือให้ภาครัฐช่วยเหลือเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ คือ ต้องการเงินเยียวยาต่ออีก และกระจายผู้ที่ได้รับมากขึ้น ต้องการให้การเมืองมีเสถียรภาพ ต้องการให้หาแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ต้องการให้กระตุ้นการลงทุนของนักลงทุน ช่วยหางานสำหรับผู้ตกงานและแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ" นางอุมากมลกล่าว
#3300
3.79 ล้านบาท
ติดต่อสอบถาม โทร.092.979.8924  อีเมลล์ : prankeerin@gmail.com

ขาย บ้านเดี่ยว ใกล้หัวหิน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว  บ้านสไตล์รีสอร์ทสุดหรู

ปราณคีริน พลูวิลล่า @หัวหิน-ปราณบุรี
# ที่ตั้งโครงการ : ซอยหัวหิน 105 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย

# จุดเด่น :
* บ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ท สุดหรู พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวระบบน้ำเกลือ ,อ่างจากุซี่ขนาดใหญ่กลางแจ้ง
* บ้านที่สรรสร้างขึ้นมาอย่างกลมกลืนสวยงาม มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ลงตัว ในการอยู่อาศัยอย่างสุขสบาย ผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติ 
* ระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน (Underground Fiber Optic Electric Cabling)ทั้งโครงการ เพื่อทัศนีย์ภาพที่สวยงาม และปลอดภัย
* วัสดุคุณภาพได้มาตรฐาน ควบคุมงานโดยวิศวะกรมืออาชีพ

# สำหรับลูกค้าต้องการซื้อเพื่อการลงทุน การันตีผลตอบแทนค่าเช่า 200,000 – 550,000 บาท

# ราคาเริ่มต้นเพียง 3.79 ล้านบาท - 8.29 ล้านบาท 
* ขนาดที่ดิน 50 ตารางวา – 100 ตารางวา
* แบบบ้าน 1 ห้องนอน - แบบบ้าน 3 ห้องนอน
* พื้นที่ใช้สอย 115 ตารางเมตร – 265 ตารางเมตร
* อ่าง Jacuzzi ขนาดใหญ่ -  สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดใหญ่สุด 4.60 ม. X 11.20 ม

# จองวันนี้ - 31 ธันวาคม 2564 # รับส่วนลดพิเศษ 300,000 - 500,000 บาท พร้อมรับของแถมสมนาคุณพิเศษ
1. เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง     
2. วอลเปเปอร์และผ้าม่าน       
3. เครื่องปรับอากาศ      
4. ถังเก็บน้ำพร้อมปั้มน้ำ      

# สถานที่ใกล้เคียง : 
* ใกล้หาดปราณบุรี , วนอุทยานปราณบุรี , หาดเข่าเต่า เพียง 5 นาที
* การเดินทางสะดวก จากกรุงเทพใช้เวลาเพียง 2 -2.5 ชั่วโมง และ จากตัวเมืองหัวหิน เพียง 10-15 นาที
* สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่โดยรอบโครงการ เพียง 5-15 นาที เช่น ทะเลหัวหิน, สนามกอล์ฟชื่อดังในหัวหิน, ตลาดโต้รุ่งหัวหิน , ซุปเปอร์สโตร์, ห้างสรรพสินค้า, สวนน้ำยอดนิยม, โรงพยาบาล ฯลฯ

# บริการฟรี ให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อ แนะนำอัตราดอกเบี้ยพิเศษ วงเงินสูงสุด และธนาคารที่เหมาะสม พร้อมบริการยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคาร

ติดต่อสอบถาม โทร.0929798924  อีเมลล์ : prankeerin@gmail.com

-------------------------------------------------------------

FOR SALE : Detached houses near Hua Hin, luxury resort-style

Prankeerin Pool Villas @Hua Hin-Pranburi
# LOCATION : Soi Hua Hin 105, Wang Pong, Pranburi, Prachuap Khiri Khan, Thailand.
  
# Particularity : 
* Luxury resort-style detached houses with private swimming pool with the salt system., Large outdoor Jacuzzi. 
* A house that has been created harmoniously and beautifully. Has a unique identity. Functional design perfectly for comfortably living & relaxing in natural surrounding.
* Underground Fiber Optic Electric Cabling System throughout the project for a beautiful view and safe.
* Standard quality materials. Supervised by professional engineers.

# Good for investment. Monthly rental guarantee of 200,000 – 550,000 baht 

# Starting 3.79 million baht - 8.29 million baht.
* Land size 50 square wa - 100 square wa
* Type 1 Bed - Type 3 Bed 
* Usable area 115 square meters - 265 square meters
* Large Jacuzzi tub - salt system swimming pool, the largest size 4.60 m. X 11.20 m.

# Booking now-31 December 2021, get a special discount of 300,000 - 500,000 baht, and receive special gifts.
1. Fully furnished
2. Wallpaper and curtains
3. Air conditioner
4. Water tanks and pumps

# Places nearby Prankeerin Pool Villas :
* only 5 minutes to Pranburi Beach, Pranburi Forest Park, Khao Tao Beach.
* Easily access. Only 2 -2.5 hours from Bangkok,  10-15 minutes from Hua Hin town.
* only 5-15 minutes access to other spots, Hua Hin Beach, famous golf courses, Hua Hin Night Market, Superstore, Department stores, popular water parks, hospitals, etc.

Contact us : Tel. (+662)92 979 8924  Email : prankeerin@gmail.com

https://goo.gl/maps/89NW9gWRZztsMCG96

https://www.prankeerin.com/

https://www.facebook.com/PoolVillasHuahinPranburi

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=1002&t=7867434