• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - luktan1479

#3241



นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS Business กล่าวว่า "จากแผนงานของ AIS ที่มุ่งขยายศักยภาพ 5G เพื่อร่วมยกระดับภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตนั้น เรายังคงเดินหน้าเชื่อมต่อการทำงานจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้าไปมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของภาคอุตสาหกรรมในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่จะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่าย สู่เป้าหมายที่จะร่วมทำให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคการผลิตมีเทคโนโลยีเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะในช่วงระหว่างการแพร่ระบาดที่ต่างต้องปรับตัวให้มีความพร้อม

​ครั้งนี้จึงนับว่าเป็นอีกความร่วมมือครั้งสำคัญของ AIS กับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านวิศวกรรมบนระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเพื่อการผลิต อย่าง ออมรอน (OMRON) ที่ครั้งนี้เป็นการนำเทคโนโลยีการสื่อสาร ประยุกต์การเชื่อมต่อเทคโนโลยีการผลิต ผนวก Information Technology (IT) กับ Operation Technology (OT) อย่างไร้ขีดจำกัดและจะได้ร่วมกันสร้างโซลูชั่นใหม่ ยกระดับภาคการผลิตสู่การเป็น Smart Man.cturing อย่างสมบูรณ์ เพิ่มคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิต บนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล AIS 5G ที่มีออกแบบได้ตามความต้องการใช้งานในรูปแบบเครือข่ายเฉพาะ (Private Network) เพิ่มคุณสมบัติด้านความปลอดภัยของข้อมูล เพิ่มความเร็ว ลดความหน่วง (Latency) เพื่อการรองรับการทำงาน IoT ได้อย่างเต็มรูปแบบ"

โดยการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง AIS และออมรอน (OMRON) จะเปิดขีดความสามารถใหม่ที่ยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม บนโครงสร้างพื้นฐาน 5G และดิจิทัลเทคโนโลยีที่ช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต อาทิ ความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นต่อข้อกำหนด (Flexible Man.cturing) การลดต้นทุนการผลิตสินค้าจำนวนน้อย (Small Lot Size Production) การสอบย้อนกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม (Traceability) และระบบซ่อมบำรุงเชิงรุก (Predictive Maintenance) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยโซลูชันบนโครงสร้างพื้นฐาน 5G Private Network ที่เพิ่มความปลอดภัย ภายใต้การลงทุนที่เหมาะสม สามารถควบคุมต้นทุนได้ในขณะที่ยังคงความสามารถในการผลิต และการแข่งขัน หรือแม้แต่ในเรื่องของการจัดการวัตถุดิบให้ถูกต้อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีควบคุมระยะไกลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ เพิ่มความแม่นยำ ลดเวลาสิ้นเปลืองการใช้แรงงานทำให้บุคลากรสามารถใช้เวลากับการทำงานด้านอื่นได้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดคือภาพของภาคการผลิตแบบอัจฉริยะ หรือ Smart Man.cturing ทั้งนี้จึงเกิดเป็นโซลูชั่นต้นแบบที่จะสร้างประโยชน์จากการนำศักยภาพของทั้งสองมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ

• หุ่นยนต์รถลำเลียงอัจฉริยะ Autonomous Mobile Robot (AMR) อาศัยแผนที่ในการกำหนดเส้นทาง โดยไม่ต้องตีเส้น ซึ่งการสร้างแผนที่จะให้การทำงานรวดเร็ว ง่ายดาย ที่ตัวอุปกรณ์จะมีเซนเซอร์สแกนพื้นที่โดยรอบบริเวณแล้วนำข้อมูลที่ได้มาสร้างเป็นแผนที่ในการลำเลียงสิ่งของ บนเครือข่าย 5G Private Network 

• สายการผลิตแบบยืดหยุ่น Layout-free Production Line การนำเสนอโซลูชั่นที่สามารถสร้างสายการผลิตแบบยืดหยุ่น โดยสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการการผลิตและสภาพแวดล้อมของพื้นที่รวมถึงข้อจำกัดอื่นๆ รองรับความต้องการของการจัดสายงานการผลิตที่หลากหลาย สามารถออกแบบให้เหมาะสม ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วตามรูปแบบ การใช้งาน

• การตรวจจับด้วย Sensors ด้วยอุปกรณ์หรือกล้องความละเอียดสูง เก็บข้อมูลที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต เครื่องจักรในพื้นที่โรงงาน และนำไปประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อใช้คาดการณ์ความผิดปกติ เป็นข้อมูลในการตรวจสอบและแก้ไขก่อนเกิดปัญหาต่างๆ ได้ทันที   

นางสาวศิริวรรณ คูอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออมรอน อีเลคทรอนิคส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า "ออมรอน ในฐานะผู้นำด้านให้บริการด้านเทคโนโลยีด้านการผลิตทั้งสินค้า บริการ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ให้กับภาคอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้ง ยานยนต์,ผู้ผลิตชิ้นส่วน กลุ่มอีเลคทรอนิค์-เครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน-เซมิคอนดัคเตอร์ ตลอดจน อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องอุปโภค และยา ความร่วมมือกับ AIS ในครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งสำคัญของ ออมรอน ที่จะเดินหน้ายกระดับเทคโนโลยีโซลูชั่น ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลที่เร็วและเสถียรภายใต้การทำงานของ5G ซึ่งข้อมูลจะถูกเชื่อมโยงอย่างกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นแง่พื้นที่หรือความครอบคลุมของสัญญาน ความหลากหลายของอุปกรณ์ตั้งแต่เซนเซอร์จนถึงหุ่นยนต์ ทุกหน่วยการผลิตจะสามารถเชื่อมโยงกับระบบการจัดการได้ด้วยความปลอดภัยภายใต้ 5G Private Network  เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานแบบ Industry 4.0ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางหลักของการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งเรามีความคาดหวังที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีในภาคส่วนของอุตสาหกรรมมีความแข็งแกร่งผ่านการใช้ศักยภาพของทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตที่เราจะเข้าไปเพิ่มขีดความสามารถยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนำพาลูกค้าก้าวไปสู่อนาคตด้วยเทคโนโลยี 5G"
#3242


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 29 กรกฎาคมนี้ คณะทำงาน ส.อ.ท. เตรียมหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทาง ส.อ.ท. จะสอบถามความคืบหน้าการจัดสรรวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดให้กับภาคอุตสาหกรรมล่าสุดเป็นอย่างไร รวมทั้งจะแจ้งมาตรการที่ ส.อ.ท. กำลังดำเนินการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขการติดเชื้อในโรงงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ต้องเร่งกันช่วยกันป้องกัน ไม่เช่นนั้นจะกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกระทบการแพร่ระบาดในชุมชน หากต้องปิดโรงงาน จะกระทบต่อกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งจะกระทบทั้งสินค้าในภาคการส่งออก และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในประเทศ เป็นเรื่องใหญ่มาก หรือถ้ารัฐสั่งปิดเอง ต้องจ่ายเงินเยียวยาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ได้เร่งผลักดันให้ทุกโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ประเมินตนเอง และโรงงาน ผ่านไทย สต็อป เซอร์วิส พลัส และไทย เซฟ ไทย รวมทั้งล่าสุดได้ยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทุกแห่งดำเนินการมาตรการ บับเบิล แอนด์ ซีล (bubble and seal) ซึ่งเป็นการควบคุมคนในโรงงาน ให้มีกิจกรรมปะปนกันเอง และกับคนนอกโรงงานให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดการติดเชื้อ โดยแรงงานที่อาศัยนอกโรงงานต้องควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พักอาศัย ไม่แวะทำธุระระหว่างเดินทาง และเมื่อกลับถึงที่พัก ต้องอยู่ภายในที่พักอาศัยเท่านั้น ขณะที่แรงงานที่พักอาศัยในโรงงาน ต้องมีการควบคุมไม่ให้แรงงานออกนอกพื้นที่แรงงาน

นอกจากนี้ ได้แจ้งให้โรงงานขนาดใหญ่เตรียมพร้อมแผนรับมือหากมีการติดเชื้อในโรงงานจำนวนมาก โดยให้จัดโรงพยาบาลสนาม และพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงานหรือในชุมชน เป็นที่พักสำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วย แต่ยังตรวจไม่พบเชื้อหรือยังไม่มีอาการ จัดเตรียมระบบเดินทางรับ-ส่ง คนงาน จากที่พักถึงโรงงานหรือสถานประกอบการ ป้องกันการแวะระหว่างทาง จัดหาร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค ราคาย่อมเยา ในบริเวณโรงงานหรือที่พัก ลดการสัมผัสระหว่างคนงานและคนในชุมชน และให้จัดหาสถานพยาบาลที่พร้อมให้บริการตรวจหาเชื้อ ด้วยพีซีอาร์ (PCR) และแอนทิเจน เทสต์ คิต (Antigen Test Kit)

ส่วนการบริหารจัดการคนทำงานร่วมกันในพื้นที่โรงงาน ให้จัดพนักงานแยกเป็นกลุ่มย่อย หรือแยกเป็นบับเบิล แต่ละกลุ่มสามารถทำงานร่วมกันโดยป้องกันตนเอง แต่ไม่ให้มีการทำงานหรือกิจกรรมข้ามกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มมีสัญลักษณ์แสดงชัดเจน ไม่ให้มีกิจกรรมข้ามกลุ่มจำนวนคนแต่ละกลุ่มยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น โรงงานมีพนักงาน 500 ราย กลุ่มหนึ่งไม่เกิน 20 ราย ถ้าเป็น 1-5 คน จะดีที่สุด หากบับเบิลใดมีผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงก็จะถูกจำกัดในบับเบิลนั้น ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง คนที่มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ให้จัดทำงานที่ไม่สัมผัสคนจำนวนมาก หากให้อยู่ในบับเบิลเฉพาะกลุ่มนี้ได้ จะทำให้เกิดความปลอดภัยสำหรับกลุ่มนี้มากขึ้น

รวมทั้งให้มีการสุ่มคนงานตรวจหาเชื้อในสถานประกอลการขนาดใหญ่ ให้สุ่ม 75 ราย ต่อคนงานทุกๆ 500 ราย สถานประกอบการขนาด 100-500 ราย สุ่ม 75 ราย โดยกระจายการสุ่มให้ครอบคลุมกลุ่มต่างๆ ที่แยกไว้ หากพบผู้ติดเชื้อ ให้แยกไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย หรือรักษาตนเองที่บ้าน ส่วนคนงานที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้ติดเชื้อ ถือว่าเป็นผู้สัมผัส ให้หยุดงานและกักตัว 14 วันทุกราย
#3243
บ้านถั่วลิสง The Peanut House  เรื่องถั่ว... พวกเราถนัด
สืบสานตำนานความอร่อยและส่งต่อภูมิปัญญาการผลิตถั่วลิสงจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก

 โรงงานถั่วลิสง "ซินกวงน่าน" เป็นโรงงานทำถั่วลิสงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดน่าน จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2521 กระทั่งปัจจุบันได้พัฒนาตนเองสู่โรงงานแปรรูปถั่วลิสงครบวงจร ตั้งแต่คัดเลือกเมล็ดพันธ์ลงแปลงปลูกโดยเครือข่ายเกษตรกรของพวกเรา เก็บเกี่ยวรวมทั้งส่งถั่วลิสงไปสู่ขั้นตอนการแปรรูปที่สะอาดปลอดภัยได้มาตรฐาน จนเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงในรูปแบบต่างๆที่พร้อมส่งต่อซินกวงน่านถึงมือคุณ


เรื่องราวของเราแล้วก็แกลลอรี่ถั่วลิสง Our History & Peanut Gallery
ชมประวัติความเป็นมาของโรงงานถั่วลิสงดั้งเดิมเพียงแห่งเดียวของจังหวัดน่าน แผนภาพกรรมวิธีการผลิตวัตถุดิบรวมทั้งขั้นตอนแปรรูปสินค้าถั่วลิสง ยิ่งกว่านั้นชวนทำความรู้จักกับ "ต้นถั่วลิสง" จำลองขนาด 2.5 เมตรที่ออกแบบรวมทั้งสร้างขึ้นเพื่อให้ได้มองเห็นลำต้น ดอก ใบ และเมล็ดถั่วลิสงเสมือนจริงที่สุดตรงนี้ที่เดียวในประเทศไทย และประโยชน์ที่ได้รับมาจากถั่วลิสง - ธัญพืชที่ให้โปรตีนแทนเนื้อสัตว์และก็ไขมันที่ร่างกายต้องการแต่ว่าไม่สามารถสร้างเองได้





 ผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปจังหวัดน่าน Peanuts and many moreด้านในร้านบ้านถั่วลิสง นอกเหนือจากที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วลิสงแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปของจังหวัดน่านที่มีคุณภาพมากมายหลากหลายให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝากจากจังหวัดน่านสำหรับคนที่รักและคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมัลเบอรี่ ลูกเดือย กาแฟ ข้าว ถั่ว งา รวมทั้งธัญพืชในลักษณะต่างๆ ตลอดจนสมุนไพรที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นเครื่องแต่งหน้ารวมทั้งยาด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นประสมประสานกับนวัตกรรมยุคใหม่ 





 กาแฟน่านและเบเกอรี่จากถั่วลิสง Nan Coffee and Peanut Bakery
กาแฟที่เสิร์ฟในร้านบ้านถั่วลิสงเป็นกาแฟอาราบิก้าผสมโรบัสต้าในสัดส่วนที่ลงตัว หอมอร่อย คั่วเข้ม โดยเลือกใช้เม็ดกาแฟเดอม้ง ซึ่งปลูกและก็ผลิตโดยชุมชนบ้านมณีพฤกษ์ ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นกาแฟที่ผ่านการคัดสรรสายพันธ์ที่ดีที่เหมาะสมกับการปลูกในความสูงจากระดับน้ำทะเล 1400-1600 เมตร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้พี่น้องชาวบ้านมณีพฤกษ์มีรายได้ยั่งยืน มีอาชีพที่มั่นคง และก็ช่วยรักษาแล้วก็ฟื้นฟูป่าน่านให้อุดมสมบูรณ์สืบไป  นอกเหนือจากนี้ยังมี "พีนัทซอฟท์เค้ก" และ "พีนัทเบคชีสเค้ก" เบเกอรี่โฮมเมดที่มีส่วนผสมของเนยถั่วลิสงและก็น้ำนมถั่วลิสงที่แสนอร่อย หวานน้อย ครีมเบานุ่ม ไม่เลี่ยน  รวมทั้งหอมกลิ่นเนยถั่วลิสง ซึ่งหาทานได้ที่บ้านถั่วลิสงเท่านั้น
 

นมถั่วลิสง Peanut Milk
ไฮไลต์ที่คุณไม่ควรพลาดบ้านถั่วลิสงชวนลอง "น้ำนมถั่วลิสง" Peanut Milk ที่ทำจากถั่วลิสง 100% ไม่มีครีมเทียม และหัวนมผง และไม่ใส่สารแต่งสีแต่งกลิ่น เป็นน้ำนมจากถั่วลิสงตามธรรมชาติ ต้มสดทุกรุ่งเช้า หอม อร่อย ทานง่าย มีเสริฟทั้งเมนูร้อน เย็น ปั่น ให้ทุกคนได้ทานที่นี่ที่เดียวในน่าน น้ำนมถั่วลิสงให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะสำหรับทั้งเด็กแล้วก็ผู้ใหญ่ ผู้รักสุขภาพ ผู้ที่แพ้นมจากสัตว์  


บ้านถั่วลิสงเปิดรับกรุ๊ปเยี่ยมชมศึกษางานกรรมวิธีการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับกลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน นิสิต นักเรียน หรือกรุ๊ปท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์เพื่อเปิดประสบการณ์เกี่ยวกับการแปรรูปถั่วลิสง (รับเป็นคณะ 20 คนขึ้นไป และติดต่อล่วงหน้าเท่านั้น)


#3244
MEE SK FiR **นวัตกรรมอาหารผิว-เซลล์ ดูดซึม100%เข้าสู่เซลล์ใน5นาทีล่าสุดจากเกาหลีอยากมีผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส่ฟังทางนี้ วิตามินบูสผิว สารสกัดเข้มข้น 18 ชนิด นวัตกรรมอาหารผิว อาหารเซลล์ ลิขสิทธิ์ระดับโลก ''หนึ่งเดียว''ด้วยนวัตกรรม FiR FAR INFRARED... อาหารผิวมาแรงที่สุด โมเลกุลเล็ก ดูดซึมไวเข้าสู่เซลล์ ''ภายใน 5 นาที5 ประโยชน์ทำไม ต้องทาน ?เสริมสร้างภูมิต้านทานลดการเกิดสิวอักเสบผิวเด็กกระจ่างใสช่วยบำรุงสายตาลดรอยดำ รอยแดง ริ้วรอย ฝ้า กระดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอกวิตามินสูงกว่า ทั่วไป 80 เท่า โปรโมชั่นเปิดตัว   # เปิดบิล 2,699฿ เป็นตัวแทนติดบริษัท  ได้รับ 2 กล่อง ไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าเองไม่ต้องแพ็คและส่งสินค้าเองไม่มีความรู้ ก็เริ่มทำธุระกิจได้กำไร 50-75%มีทีมงานการตลาดสอนเทคนิคการขายฟรีมีกลุ่มและทีมงานคอยดูแลให้คำปรึกษาตลอดสามารถเริ่มทำงานได้ทันที  เติมอาหารผิวเพียงวันละ 1-2 ม็ด (30 แคปซูล )ปลอดภัย อย. 13-1-14959-5-1478 สนใจสั่งซื้อหรือสมัครตัวแทนไลน์ไอดี teerapat999โทร 0846623662

ข้อมูลเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1230
  กดเข้าลิ้งค์นี้  ลงทะเบียนฟรี !!! เพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมการสร้างรายได้https://www.metang-solution.com/member/register.php... 

#3245




สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในจังหวัดภูเก็ต รอบ 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 20-26 ก.ค. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมีจำนวน 126 คน มาจากในประเทศ 118 คน และคัดกรองพบจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" อีก 8 คน สร้างความกังวลว่า "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" จะยังดำเนินการต่อได้หรือไม่ เพราะผู้ติดเชื้อเกินเงื่อนไข 90 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักเกณฑ์ของแผนเผชิญเหตุที่จะต้องนำมาพิจารณาในการเดินหน้า ทบทวน ชะลอ หรือยุติโครงการ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้หารือร่วมกับ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 26 ก.ค. เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย หลังมีข้อกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในภูเก็ตที่เพิ่มขึ้นสูง โดยได้มีการพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นๆ ประกอบ ยืนยันว่ายังรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีนัยยะต่อการทบทวนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในตอนนี้ จึงได้ข้อสรุปว่าเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง

แม้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ระหว่างวันที่ 21-27 ก.ค. จำนวน 145 คน จะเกิน 90 รายต่อสัปดาห์ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งอาจนำไปสู่การทบทวนยุติโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หลังเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา 

"แต่เมื่อดูยอดผู้ติดเชื้อสุทธิหลังมีการรักษาหายแล้ว พบว่าเหลือเพียง 60 กว่าคน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และเอกชนท่องเที่ยวได้พิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆ รอบด้าน ต่างยืนยันว่ายังรับมือไหว"


"พิพัฒน์"สั่งกดยอดผู้ติดเชื้อ 7 วัน
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งให้จับตาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ 7 วันจากนี้ เพื่อหาวิธีกดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ลดลง หากตัวเลขผู้ติดเชื้อในภูเก็ตยังเพิ่มขึ้นหรือไม่ลดลง จนกระทบต่อระบบสาธารณสุข ไม่สามารถรับมือไหว ททท.จะมีการดำเนินงานในขั้นต่อไป

ด้านจังหวัดภูเก็ตได้มีการปรับมาตรการตามแผนจากเบาไปหาหนัก ขณะนี้เริ่มปรับลดกิจกรรม ได้แก่ ปิดศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล ฟลอเรสตา ภูเก็ต 7 วัน ตั้งแต่ 27 ก.ค.-2 ส.ค. รวมทั้ง ปิดสนามกีฬาฟุตบอล ฟุตซอล ตั้งแต่ 27 ก.ค.-2 ส.ค.เช่นกัน ปิดโรงเรียนจนถึงวันที่ 16 ส.ค และให้รวมกลุ่มทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 100 คน ขณะที่ตลาดนัด ตลาดสด จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 4 ตารางเมตรต่อ 1 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.

"เอกชนในภูเก็ตได้หารือถึงการยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดไม่ให้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง มีการเสนอให้ปิดเกาะภูเก็ตเพื่อไม่ให้คนในพื้นที่อื่นเดินทางเข้า ทางปฏิบัติคงทำได้ยาก เพราะคนภูเก็ตที่ไปทำงานข้ามจังหวัด หรือมีลูกหลานในจังหวัดอื่นๆ ต้องการเดินทางกลับภูเก็ต จะปิดกั้นไม่ให้กลับคงทำได้ยาก แต่มีวิธีคุมเข้มและรัดกุมมากขึ้น"

ล่าสุด กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากทุกจังหวัด รวมถึงผู้ที่อยู่ในภูเก็ตแต่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ต้องแสดงหลักฐานผลการฉีดวัคซีนครบโดส และมีผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Antigen Test เป็นลบ ภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมง ตั้งแต่ 25 ก.ค.-2 ส.ค.นี้

รักษาป้อมปราการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
นายยุทธศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ททท.ไม่มีความคิดที่จะยกเลิกโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และไม่มีอำนาจในการสั่งยกเลิก เพราะขึ้นอยู่กับทางจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ตัดสินใจ โดยการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ขณะนี้ ถือเป็นการทดลองระบบ รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะเดินทางเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4

ในเดือน ส.ค. นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สามารถต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ โดยจะมีเครื่องบินของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สและไทยสมายล์ที่รับส่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ 

"ททท.ต้องพยายามรักษาป้อมปราการของภูเก็ตเอาไว้ให้ได้ เพราะ 15 เดือนที่เผชิญวิกฤติโควิด คนภูเก็ตที่เคยอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างมาก ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จึงถือเป็นครั้งแรกที่ทำให้ธุรกิจเริ่มเดินได้ พนักงานภาคท่องเที่ยวมีรายได้จุนเจือครอบครัว การทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จึงไม่ใช่การเปิดๆ ปิดๆ ระหว่างทางทำอะไรได้ก็ทำต่อ หากเปิดแล้วยังวิ่งไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ เดินไปอย่างมั่นใจ"

ประเด็นที่ ททท.พยายามสื่อสารไปยังตลาดต่างประเทศ คือ ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมองจำนวนผู้ติดเชื้อในภูเก็ตแยกออกจากภาพรวมของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดในไทยซึ่งมีจำนวนมาก เพราะอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ขณะเดียวกันต้องติดตามการตัดสินใจของสายการบินต่างๆ ที่ทำการบินเข้าภูเก็ตด้วยว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรืองดบินหรือไม่ จากรายงานเดือน ส.ค.พบว่ามีสายการบินทำการบินระหว่างประเทศเข้าภูเก็ตเพิ่มอีก 4 สายการบิน


จองโรงแรมภูเก็ตเฉียด2.8แสนคืน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1-26 ก.ค. ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวสะสมรวม 11,806 คน คัดกรองพบผู้ติดเชื้อ 26 คน ส่วนใหญ่พบจากการตรวจหาเชื้อครั้งแรก 10 คน โดยหลายคนที่ตรวจพบว่าเป็นซากเชื้อ ส่วนการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 พบ 7 คน การตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 พบ 2 คน แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดเชื้อมาก่อน ไม่ได้ติดจากคนในประเทศ ส่วนผู้สัมผัสและมีความเสี่ยงสูงตรวจพบเชื้อ 7 คน

ด้านยอดจองโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 278,623 คืน เดือน ก.ค. 192,916 คืน ส.ค. 79,982 คืน และ ก.ย. 5,725 คืน เมื่อนับรวม ต.ค.2564-ก.พ.2565 ซึ่งตรงกับช่วงไฮซีซั่นอีก 5,250 คืน รวมมียอดจองโรงแรม 283,873 คืน

"ตัวเลขยอดการจองโรงแรมยังไหลเข้ามาต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าการระบาดหนักของไทยส่งผลต่อยอดจอง ส.ค.-ก.ย.อยู่บ้าง แต่การระบาดช่วงนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะในไทย พบระบาดหนักทั้งภูมิภาค ต้องดูการตัดสินใจให้บริการของสายการบินหากยังบินเข้าภูเก็ต ยอดจองโรงแรมก็น่าจะเดินหน้าได้ตามเดิม"

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (27 ก.ค.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 (ศบศ.) ในส่วนมาตรการการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมนอกเหนือจาก ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ โดยเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นำร่องอื่น หลังพำนักในภูเก็ต 7 วัน และเดินทางท่องเที่ยวและต้องพำนักในพื้นที่อื่นอีกเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) เริ่มนวันที่ 1 สิงหาคม 2564

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ และ ททท. ประสานผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 เข้าไปแพร่ระบาดในพื้นที่

สั่งทำแผนยกระดับจุดคัดกรอง
รวมทั้งประสานกระทรวงมหาดไทยพิจารณานำแนวทางของ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" เผยแพร่ให้จังหวัดอื่นเพื่อเป็นกรณีศึกษานำไปวางแนวทางระยะต่อไป และประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจข้อมูลสถานการณ์แพร่ระบาดของไทยในพื้นที่ท่องเที่ยว รวมถึงความคืบหน้าและความสำเร็จของ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ให้สถานทูตประเทศต่างๆ และสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศรับทราบต่อเนื่อง

นอกจากนี้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งทำคำของบประมาณและแผนกำลังคนรองรับการยกระดับศักยภาพของจุดคัดกรองให้เพียงพอ ทั้งกระบวนการคัดกรองผู้เดินทางด้วยระบบดิจิทัล การจัดหา Rapid Antigen Test และอุปกรณ์ต่างๆ ให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ และประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ ในรายละเอียดของแหล่งเงิน เพื่อเสนอ ครม. และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งขึ้นทะเบียนรับรองวัคซีน Sputnik V เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวเดินทางเข้ามาเที่ยวได้
#3246



เบปเป มารอตตา ประธานฝ่ายบริหารของ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ยืนยัน โรเมลู ลูกากู หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ไม่ได้มีไว้ขาย และจะอยู่ล่าตาข่ายในถิ่น จูเซปเป เมอัซซา ต่อไปอย่างแน่นอนในฤดูกาลใหม่

ลูกากู ระเบิดฟอร์มยิงไปถึง 24 ประตูจากการลงเล่น 36 นัดในเซเรีย อา ฤดูกาลที่ผ่านมา และมีส่วนสำคัญในการพา "งูใหญ่" คว้า "สคูเดตโต" ไปครองได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 จนทำให้หลายสโมสรให้ความสนใจ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ซิตี กับ เชลซี ที่กำลังมองหากองหน้าตัวใหม่ไปเสริมคม

อย่างไรก็ตาม มารอตตา ยืนยันว่า ลูกากู คือนักเตะคนสำคัญของ อินเตอร์ และไม่ได้มีไว้ขายแต่อย่างใด โดยระบุว่า "จากมุมมองของฝั่งเรา เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ลูกากู ไม่ได้มีไว้ขาย ลูกากู เป็นนักเตะคนสำคัญสำหรับ ซิโมเน อินซากี (กุนซือคนใหม่ของอินเตอร์)".

ภาพ REUTERS... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/95841/
#3247


ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยักษ์ใหญ่แห่ง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คว้า ไบรอัน กิล แนวรุกอนาคตไกล เซบีญา เรียบร้อยแล้ว ค่าตัว 22 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) แถม เอริก ลาเมลา ปีกอาร์เจนไตน์

สเปอร์ส ขอบคุณ เซร์คิโอ เรกีลอน แบ็กซ้ายเลือดกระทิงดุ ช่วยกล่อม กิล มาร่วมงานกัน ที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม

"ไก่เดือยทอง" ตัดหน้าคู่แข่ง อาทิ อาร์เซนอล อริร่วมเมือง และ 2 มหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิงดุ บาร์เซโลนา กับ รีล มาดริด โดยจับ กิล เซ็นสัญญาจนถึงปี 2026

ปีกวัย 20 ปี ฉายแววบนสังเวียน ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลที่แล้ว ขณะถูก ไอบาร์ ยืมตัว ทะลวงตาข่าย 4 ประตู กับ 3 แอสซิสต์

ส่วน ลาเมลา หอบข้าวของสู่ถิ่น รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ด้วยสัญญา 3 ปี หลังรับใช้ ท็อตแนมฯ 257 เกม ยิง 37 ประตู กับ 47 แอสซิสต์

กิล เป็นสมาชิกใหม่คนที่ 2 ของ สเปอร์ส ต่อจาก ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี นายทวาร ซึ่งถูกยืมตัวจาก อตาลันตา แต่ยังไม่สามารถเข้าแคมป์พรีซีซัน เนื่องจากติดภารกิจเล่นให้ "กระทิงดุ" ในการแข่งขัน โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น
#3248



เมื่อวันที่ 26 ก.ค. สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสมาพันธ์นิสิตนักศึกษานานาชาติแห่งประเทศไทย (International Federation of Medical Students' Associations : IFMSA) จัดงานประกาศผลการตัดสินการประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ภายใต้โครงการ Thailand Youth Policy Initiative (TYPI) เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีเยาวชนและวัยทำงาน อายุ 16-30 ปี เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 120 คน ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดรวม 30 ผลงาน สำหรับประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาและตัดสินอย่างรอบคอบ โดยผู้ได้รับรางวัล Best Innovation ได้แก่ ทีม People Matter (PM 4.0 ) ชื่อผลงานแพลตฟอร์มดิจิทัลสาธารณะ เพื่อการจัดการมาตรการ PM2.5 แบบชี้เป้า และรางวัลชนะเลิศ 3 รางวัล ได้แก่ 1.ทีมDustsappear 2. ทีมAirtopia และ3.ทีมทางของฝุ่น


นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยที่สะสมมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ เนื่องจากมีการก่อสร้างพัฒนาเมืองตลอดเวลา รวมถึงการเผาไหม้ของรถบนท้องถนน จากข้อมูลการประมาณการณ์ความเสียหายจากฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ปี 2563 พบว่า กรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องฟอกอากาศ ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว และค่าเสียโอกาสของภาคธุรกิจ การประกวดนโยบายและนวัตกรรมทางสังคมของคนรุ่นใหม่เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งนี้ ผู้ที่ส่งผลงานเข้าประกวดทุกคน ถือเป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลจะได้รับโอกาสต่อยอดผลงานถูกนำไปใช้งานได้จริง และขยายผลต่อไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่ต้นเหตุ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนได้ในระยะยาว


ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษา30ทีมที่เข้าร่วม และนำเสนอนวัตกรรมวันนี้ เชื่อว่าเราจะได้นโยบายสาธารณะที่ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ได้จากการช่วยกันคิดนวัตกรรมของคนหลายวัย หลายสาขาจะเป็นประโยชน์กับประเทศ รวมถึงขอให้มีการศึกษาวิจัยเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากคือการนำโนยายสาธารณะที่เป็นสากลของประเทศตะวันตกมาใช้นั้นต้องเรียนว่าใช้ได้เพียงเล็กน้อย เพราะบริบทของประเทศไทยกับตะวันตกมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการทำนโยบายสาธารณะจะต้องมีการศึกษาบริบท วัฒนธรรมของประเทศเราเองด้วย เช่น นโยบายสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวกับ PM 2.5 ต้องทราบว่าส่วนหนึ่งมาจากการเผาไหม้ทางการเกษตรในพื้นที่ชนบท รวมถึงเกษตรกรในประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกัน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ที่เราต้องเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และให้ประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้


ศ.พิเศษ ดร.เอนก กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของช่วงวัย (Generation) ซึ่งตนยินดีต้อนรับคนรุ่นใหม่เสมอ ดังนั้น การที่เราได้ตระหนักว่าเราอยู่ในวัยไหนแล้วรู้ว่ามีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร แล้วนำมาปรับเข้าหากันเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งวันนี้ประเทศไทยก็พัฒนาขึ้นมากจากเมื่อก่อน มีเป้าหมายต่อจากนี้ในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับบน ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เช่นอีกไม่นานประเทศไทยก็จะผลิตวัคซีนป้องกันโควิดได้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ไม่ได้แตกต่างกับที่ต่างประเทศทำอยู่


ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดค่ามาตรฐานของฝุ่น PM2.5 ที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพอยู่ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในประเทศไทยกลับพบฝุ่น PM2.5 ที่ 50-68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามากกว่ามาตรฐานเกือบ 2 เท่าตัว กลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศต้นเหตุสำคัญทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินทางใจ สสส. ตระหนักถึงผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 มุ่งขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ต้องเร่งแก้ไขแบบองค์รวม ทั้งการปลูกจิตสำนึกส่วนบุคคล การสร้างความสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมของคนในสังคม เพื่อร่วมแก้ปัญหา ไม่ใช่เป็นการออกกฎ ระเบียบบังคับใช้เท่านั้น


ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า สสส. สนับสนุนการสร้างเมล็ดพันธุ์นักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพจากพลังคนรุ่นใหม่ที่สำคัญของประเทศ เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้เป็นรูปธรรม และขยายผลไปสู่การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ผ่านมา สสส. แก้ปัญหาฝุ่นควันภายใต้แนวคิด 3 ข.คือ 1.เขย่า คิดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น นวัตกรรมธงสุขภาพ สีฟ้า เขียว เหลือง ส้ม แดง ใช้คู่กับเครื่องวัดค่าฝุ่น แจ้งเตือนให้คนในพื้นที่รู้ระดับคุณภาพอากาศ ดำเนินการใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งลดเสี่ยงต่อสุขภาพ 2.ขยับ นำสิ่งใหม่ที่คิดไปปรับใช้จริงตามบริบทของแต่ละพื้นที่และ 3.เขยื้อน ขยายผลจากระดับปัจเจกหรือระดับพื้นที่ นำไปสู่การผลักดันนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเร่งด่วน โดย สสส. ร่วมกับสภาลมหายใจ 8 จังหวัดภาคเหนือ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมทำงานอย่างทุ่มเท สามารถแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม ก่อให้เกิดความร่วมมือและเปลี่ยนแปลงค่านิยมในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ หากทุกพื้นที่นำแนวคิด 3 ข. ไปปฏิบัติได้สำเร็จสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในพื้นที่ได้.
 
#3249

"เลอ ปารีเซียง" สื่อดังในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกลงเรื่องค่าตัวของ ราฟาแอล วาราน กับ รีล มาดริด ต้นสังกัดของนักเตะในศึกลา ลีกา ได้เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 38.5 ล้านปอนด์ และคาดว่าน่าจะมีการเปิดตัวดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้

สื่อดังแดนน้ำหอม รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในของสโมสรดังแดนผู้ดี โดยระบุว่าการเจรจาเรื่องค่าตัวของ วาราน ระหว่าง "ผีแดง" กับ "ราชันชุดขาว" รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะบรรลุข้อตกลงกันได้เรียบร้อยแล้วที่ 38.5 ล้านปอนด์ ขณะที่เรื่องสัญญาส่วนตัวนั้น มีข่าวว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตกลงกับกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสได้ก่อนหน้านี้แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการเปิดตัวเซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 28 ปีเป็นนักเตะใหม่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ภายในช่วงสัปดาห์นี้
#3250
น้ำมันว่านดอกทองมหาลาภหัวใจเศรษฐี ใส่ตะกรุดนะเมตตามหานิยมและหัวใจเศรษฐี ขวดละ 399 บาท

ส่งเสริมในเรื่องเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ คนเห็นคนรัก คนเห็นคนหลง ทั้งยังช่วยเรื่องโชคลาภ ทำมาค้าขายอีกด้วย
ว่านดอกทอง
ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์ ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว หรือใช้สีผึ้งทาปาก เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้คนต่างๆ หรือหนุ่มสาว พอได้กลิ่นว่านในน้ำมันหรือสีผึ้ง มักจะมีอาการใจอ่อนเคลิบเคลิ้มคล้อยตามได้ง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ สะกดจิตสะกดใจต่อผู้เจรจาด้วยยิ่งนัก ใครเห็นใครรักใครหลง ว่านดอกทองหรือว่านราคะ เป็นเมตามหาเสน่ห์ มหานิยม มหาละลวย ลุ่มหลงงวยงง ทำให้คนรักคนหลง ทั้งยังช่วยให้มีโชคลาภ
ว่านมหาลาภ
ความเชื่อ ว่านมหาลาภ หรือ เรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านกวักนางพญาหงสาวดี เป็น มีคุณประโยชน์ด้านเมตตามหานิยม ชักนำให้เกิดลาภผลทวีคูณหลาย ส่งเสริมลาภจากการเสี่ยงโชค
คาถากำกับ
อุ อา กะ สะ
อา กะ สะ อุ
กะ สะ อุ อา
สะ อุ อา กะ
(ท่องเก้าจบ แล้วอธิษฐาน)
ใช้เจิมตามซอกคอ ตามตัว ทาที่คิ้ว เจิมที่หน้าผาก พกติดตัว

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่
โทร. 0846623662
id line : teerapat999

ลาซาด้า
https://www.lazada.co.th/.../-i1140634945-s2648460701...
#3251


แม้ในห้วงวิกฤติเศรษฐกิจที่มีผลจากการหดตัวลงของการค้าทั่วโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเจ้าไวรัสโควิด-19 ที่ทำเอาการค้าอัญมณีและเครื่องประดับหัวทิ่มหัวตำไปตามๆกัน ไม่จำเพาะแต่บ้านเราที่ถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งการขายอัญมณีพลอยก้อน พลอยร่วง (พลอยที่ยังไม่เข้าตัวเรือนเป็นเครื่องประดับ) และที่นำโด่งกว่าใครๆก็คือการเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องประดับเงิน ซึ่งถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย

นับตั้งแต่โควิด-19 ทำพิษมาตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงสิ้นปี 2563 การค้าเครื่องประดับและอัญมณีดิ่งหัวลงสวนทางกับการแพร่กระจายของไวรัส เพราะในปีที่ผ่านมาทั้งโลกยังคงตระหนกกับการกลายพันธุ์ของไวรัส และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น

มาในปีนี้ หลายประเทศได้มีการฉีดวัคซีนกันไปแล้ว แม้จะไม่สามารถสร้างให้เกิด Herd Immunity หรือภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างทฤษฎี แต่ประเทศในแถบยุโรป และหลายรัฐในอเมริกา ก็เริ่มปลดล็อคและหันมาทำการค้าการขายกันได้มากขึ้น แม้จะไม่มากเหมือนในช่วงเวลาก่อนการระบาดของโควิดก็ตาม อัญมณีและเครื่องประดับก็มีแนวโน้มจะกลับมาสร้างความสดใสให้กับผู้บริโภค หลังจากที่ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้านมาเป็นเวลาแรมปี

บ้านเราซึ่งเป็นแหล่งค้าพลอยอันดับโลก พลอยได้รับอานิสงค์ของการเปิดให้ทำการค้าขายด้วย โดยพลอยร่วงของบ้านเราก็ทำการเจียระไน และส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะในทางยุโรปเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะส่งไปยังสหราชอาณาจักร สูงขึ้นถึงร้อยละ 53.71 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (มกราคม - พฤษภาคม 2563) ในทำนองเดียวกันตลาดอย่างประเทศออสเตรเลีย ไทยเราก็ขายไปให้เขาได้สูงขึ้นถึงร้อยละ 456.21 มากถึงสี่เท่าครึ่งทีเดียว ตลาดเก่าและตลาดใหม่ ที่เพิ่มสูงขึ้นนี้มีทั้งตลาดที่ยังคงมีอัตราการติดเชื้อสูง และมีทั้งประเทศที่มีอัตราการระบาดยังคงต่ำอยู่ ซึ่งทำให้ทิศทางของพลอยสีบ้านเรานั้นมีทางรอดจากทั้งสองตลาดนี้ได้

สุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ
สุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ


มาถึงพระเอกของตลาดเครื่องประดับกันบ้าง เรามีชื่อเสียงด้านการผลิตและส่งออกเครื่องประดับเงินมาอย่างยาวนาน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่สามารถควบคุมโควิด หรือปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิตให้อยู่กับไวรัสตัวนี้ได้ ทำให้ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตเกือบเป็นปกติ โดยมีการปรับพฤติกรรมแบบ New normal ส่งผลให้การส่งออกเครื่องประดับเงินของบ้านเรานั้น มีทิศทางสดใสขึ้นแบบอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าทีเดียว โดยเฉพาะเครื่องประดับเงินที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และ ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงร้อยละ 20.26 นำเม็ดเงินมูลค่าถึง 620.91 ล้านเหรียญสหรัฐ เข้ามาในเมืองไทย พอให้ผู้ผลิตสินค้าเครื่องประดับเงินพอได้หายใจคล่องขึ้น

แต่จากการลองสำรวจ พบว่า แนวโน้มผู้บริโภคสินค้าเครื่องประดับเงิน จะซื้อสินค้าที่มีขนาดและราคาย่อมเยาลง ดังนั้นผู้ประกอบการเครื่องเงินจึงต้องประคับประคองตัวด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ถูกใจตลาดมากแบบยิ่งขึ้น และเมื่อราคาต่อชิ้นถูกลง แน่นอนว่าระดับของอายุผู้ใช้เครื่องประดับเงินก็น่าจะขยายวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย

หันมาดูการสนับสนุนจากภาครัฐ จะเห็นได้ว่าเราพยายามจะต่อรองกับนานาชาติในภาพรวม เป็นลักษณะข้อตกลงทางการค้าทวิภาคี หรือพหุภาคี หรือถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ รัฐบาลของเราไปตกลงกับรัฐบาลผู้นำเข้าสินค้าของเราให้ลดข้อจำกัดในการนำเข้าลง เช่น ลดภาษี หรือส่งเสริมให้มีการซื้อขายแบบจับคู่ เราซื้อเขา เขาซื้อเรา

แต่ทว่า การตกลงกันในระดับรัฐบาล ต่อ รัฐบาล ในวันนี้ก็อาจจะยังไม่พอ จึงได้มีความพยายามที่จะลงลึกและกว้างลงไปถึงการไปเจรจากับระดับเมืองกันเลยทีเดียว ล่าสุด เรารู้ว่าชาวโคฟุ เมืองยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในภูมิภาคชูบุ แหล่งปลูกองุ่นเคียวโฮ ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยเฉพาะสถานที่มีชื่อเสียงอย่างทะเลสาบคาวากุจิโกะ ที่มีจุดถ่ายรูปฟูจิซัง หรือภูเขาไฟฟูจิอันสวยงาม ดินแดนอันมีมนต์เสน่ห์แห่งนี้ยังมีความสามารถเรื่องการทำตัวเรือนเครื่องประดับ และเป็นแหล่งผลิตเครื่องประดับชั้นนำของญี่ปุ่น ที่มีช่างฝีมือมากมาย อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการทำคริสตัลที่อย่างยาวนาน



การมีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทย และเมืองโคฟุ นั้นเท่ากับเป็นการเข้าไปล้วงถึงตับ ล้วงถึงแหล่ง ของคนที่ต้องนำเอาพลอยไปใช้จริง แนวโน้มเช่นนี้ จึงเป็นกลยุทธ์ที่เรียกกันว่า "เปิดโอกาสการค้า พัฒนาพันธมิตรเมืองรอง" อันจะทำให้เราสามารถเจรจาโดยตรงกับคนใช้งาน ไม่ต้องผ่านชั้นขั้นตอนต่างๆ ให้เสียเวลา เพราะการค้าต้องทำอย่างรวดเร็ว การยิงลูกตรงเพื่อไปตุงตาข่ายฝ่ายผู้ซื้อแบบนี้ช่วยให้เราสามารถสร้างยอดขายได้อย่างไม่ยากนัก

การลงนามความร่วมมือเชิงลึกในระดับเมืองของประเทศที่มี FTA กันแบบเดิม บวกกับนโยบายการรุกคืบแบบ พันธมิตรเมืองรอง ทำให้การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่าง SME ทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตรงเป้า และเชื่อได้ว่านี่ไม่ได้เป็นเพียงคู่เจรจาเดียวที่จะเกิดขึ้น แต่จะเกิดขึ้นกับเมืองรองอื่นๆ โดยตรงต่อไป

ไทยรวมพลังฝ่าฟันวิกฤติด้วยธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ที่ร่วมประสานการขับเคลื่อนโดย หน่วยงานภาครัฐ สมาคมการค้า สมาคมผู้ผลิต และประสานความร่วมมือจากสถาบันแห่งชาติด้านอัญมณี อย่างสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT น่าจะทำให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยฝ่าวิกฤตินี้ไปได้ อย่างไรก็ดีการโต้คลื่นเศรษฐกิจในปัจจุบัน เราจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกด้าน การควบคุมค่าใช้จ่าย และพัฒนาด้านแรงงานให้มีประสิทธิภาพ จะเป็นทิศทางสู่การรอดจากวิกฤติครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
#3252


ลูกา ดอนซิช ซูเปอร์สตาร์ของ สโลวิเนีย ทาบสถิติคะแนนสูงสุดอันดับ 2 ของการแข่งขันบาสเกต.ชายระดับ โอลิมปิก เกมรอบแบ่งกลุ่ม เอาชนะ อาร์เจนตินา ขาดลอย 118-100 วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม

ในการแข่งขัน โอลิมปิก ของ สโลวีเนีย ครั้งแรก ดอนซิช ปิดสกอร์ 31 แต้ม เฉพาะครึ่งแรก และมีโอกาสทำลายสถิติสูงสุดของ ออสการ์ ชมิดท์ ตำนานยัดห่วงบราซิเลียน 55 แต้ม เมื่อปี 1988

การ์ดสังกัด ดัลลัส มาเวอริกส์ แทบไม่ต้องทำอะไรมากมายช่วงครึ่งหลัง เนื่องจาก สโลวิเนีย ทิ้งห่างไปไกล แต่ยังคงอยู่บนสนามถึงควอเตอร์ 4 และทาบสถิติของ เอ็ดดี ปาลูบินสกัส ที่ทำไว้ 48 แต้ม เมื่อปี 1976 ที่เมืองมอนทรีอัล

ดอนซิช วัย 22 ปี ยังมีเวลาเพียงพอ สำหรับทำลายสถิติ ก่อนออกมานั่งพัก ทว่าไม่อยากทำคะแนนเพิ่ม "ผมไม่สนใจเรื่องสถิติ เราได้ชัยชนะ และนั่นคือเป้าหมายที่เรามาที่นี่"

สโลวีเนีย ยังไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วม โอลิมปิก กระทั่งช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นทีมระดับลุ้นเหรียญ ด้วยความโดดเด่นของ ดอนซิช บนสังเวียน เอ็นบีเอ (NBA)

ขณะที่ อาร์เจนตินา แชมป์ป๊ 2004 อาศัย หลุยส์ สโคลา อดีตผู้เล่นระดับ NBA แบกทีม 23 แต้ม และ ฟาคุนโด คัมปาซโซ การ์ด เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เสริม 21 แต้ม 6 รีบาวน์ด 4 แอสซิสต์ สถิติชนะ 0 แพ้ 1
#3253
 
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ https://web.facebook.com/porntaywa
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  
#3254


GPSC เดินเครื่องโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี กระบวนการผลิตขั้นสูงแบบ SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชู 3 จุดเด่นตอบโจทย์การใช้งานทั้งความปลอดภัย เสถียรภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านแบตเตอรี่เทคโนโลยีและโซลูชั่นการบริหารจัดการพลังงานแบบครบวงจร ภายใต้การขับเคลื่อนนวัตกรรมพลังงานของกลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าเสริมศักยภาพการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนป้อนกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และ SME ลุยต่อยอดแผนการผลิตแบตเตอรี่เพื่อยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง  โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี ผ่านระบบออนไลน์


ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานกรรมการ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้กล่าวถึงโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ Lithium แบบ SemiSolid แห่งแรกของไทย และภูมิภาคอาเซียน ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี โดยโรงงานแห่งนี้ตั้งขึ้นตามวัตถุประสงค์ในการสร้างนวัตกรรมและอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่ Lithium ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และกระตุ้นให้เกิด Ecosystem ของการใช้พลังงานสะอาด และพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่างๆ ที่มากขึ้นในทุกภาคส่วน โดยวางแผนขยายกำลังการผลิตขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีในอนาคต เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายของ GPSC ที่มุ่งพัฒนาพลังงานทดแทน ให้สามารถขยายกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ 8,000 เมกะวัตต์ต่อปี ภายในปี 2573

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell ว่า ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย ในการเริ่มต้นเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงาน ที่จะช่วยให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยรักษาจุดยืนการเป็นผู้นำฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาค และเป็นการต่อยอดเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ได้เร็วขึ้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของอาเซียน ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการมุ่งหน้าพาประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ Net Zero Carbon Country ในอนาคต สอดรับกับทิศทางด้านพลังงานของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่ต่างได้กำหนดเป้าหมายเดียวกัน ภายในปี ค.ศ. 2050 และยังสอดคล้องกับเป้าหมายการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

โดยปัจจุบัน มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (รถอีวี) ตามท้องถนนมากขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น คือ การทำให้ราคารถยนต์ลดลง เพื่อเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมรองรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้เกิดขึ้น


ด้านนายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC กล่าวว่า GPSC พร้อมสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการผลักดันประเทศลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและการลดช่องว่างของระบบพลังงานทดแทน ด้วยนวัตกรรมการผลิตแบตเตอรี่ SemiSolid เทคโนโลยีการผลิตของบริษัท 24M Technologies Incorporation หรือ 24M จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิในการดำเนินการผลิตและจัดจำหน่าย


โดยบริษัทฯ จะเริ่มจากการผลิต G-Cell ในแบบ LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่มีจุดเด่นในเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานสูง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า จึงเหมาะสมกับแอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย รวมทั้งยังสามารถรีไซเคิลได้ง่ายเมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน จึงเป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น ที่ 30 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งสามารถขยายกำลังการผลิตของโรงงานนี้ ได้ถึง 100 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี

โดยแผนระยะยาว ใน 10 ปีข้างหน้า วางเป้าสู่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาด Giga-scale กำลังผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาและพิจารณาแผนการลงทุนในช่วงต่อไป คาดว่าจะเห็นข้อสรุปของพื้นที่ตั้งในปีหน้า ซึ่งเบื้องต้นได้มองถึงพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และตั้งอยู่ใกล้โรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง เพื่อรองรับต่อแผนยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ด้วยเงินทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท


"แผนการดำเนินงานครั้งนี้ จะเสริมสร้างความพร้อมด้านพลังงานให้กับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (S-CURVE) โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) การเพิ่มขึ้นของการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ฯลฯ ซึ่งจะสร้างศักยภาพการแข่งขันให้กับประเทศ และเสริมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนคนไทยตามนโยบายรัฐบาล" นายวรวัฒน์ กล่าว


สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของโรงงานแห่งนี้ มีขีดความสามารถผลิตแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานได้ใน 3 ระดับ คือ 1.G-Cell ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นพื้นฐานในรูปแบบ Battery Pouch Cell 2.ผลิตภัณฑ์ G-Pack ที่มีการนำ Battery Pouch Cell มาเชื่อมต่อกันในรูปแบบ Battery Module และ Pack พร้อมทั้งติดตั้งระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ หรือ Battery Management System (BMS) ร่วมด้วย สำหรับการใช้งานในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ (Mobility Application–Light Duty and Heavy Duty) เช่น รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถตุ๊กต๊กไฟฟ้า รถไฟฟ้าสี่ล้อขนาดเล็ก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Stationary Application) และ 3.กลุ่ม G-Box ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งาน สำหรับระบบสำรองไฟฟ้า (Uninterruptible Power Supply หรือ UPS) และระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System หรือ ESS) ที่มีขนาดตั้งแต่ 10-1,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยี IOT (Internet of Things) AI (ระบบปัญญาประดิษฐ์) และ Blockchain เข้ามาพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการ


โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมด พร้อมรองรับลูกค้าทั้งในกลุ่ม ปตท. กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SME) รวมถึงผู้ประกอบการที่ต้องใช้แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบของสินค้า โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ผลิตและใช้งานระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) และยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ด้วยลักษณะการใช้งานที่เหมาะสมกับจุดแข็งของ G-Cell แบบ LFP (Lithium Iron Phosphate)


ส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม Passenger EV ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ประเทศไทยให้การส่งเสริม และมีเป้าหมายการผลิตให้ได้ 30% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ในปี 2573 ซึ่งมักจะนิยมใช้แบตเตอรี่แบบ NMC (Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide) นั้น ในเบื้องต้นบริษัทฯ สามารถนำเข้าแบตเตอรี่แบบ NMC ที่ผลิตจากเทคโนโลยีเดียวกัน โดยบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. (AXXIVA) ประเทศจีน ที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ ป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการได้เช่นกัน


ทั้งนี้ แบตเตอรี่ G-Cell ที่ผลิตโดย GPSC นับเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของบริษัทฯ ในฐานะแกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ที่ได้มองเห็นโอกาสในการให้บริการด้านแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน และมุ่งสู่การเป็นผู้พัฒนาโซลูชั่นเพื่อบริหารจัดการพลังงานชั้นนำของประเทศ โดยการนำนวัตกรรมใหม่ที่คิดค้นและถูกพัฒนา โดย 24M เป็นแบตเตอรี่ชนิดกึ่งแข็ง ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจากภายในเซลล์แบตเตอรี่ได้เป็นอย่างดี ด้วยโครงสร้างที่มีชั้นฟิล์มพิเศษห่อหุ้มภายใน Unit Cell และด้วยสูตรการผลิตแบบ SemiSolid ส่งผลให้ G-Cell มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยความสามารถในการเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่ายกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป จึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของ GPSC เมื่อนำมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ G-Pack และ G-Box จำหน่ายให้กับลูกค้าแล้วคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานของลูกค้าได้อย่างดี
#3256
ขาย 2.75 ล้านค่ะ เจ้าของขายเอง
ติดต่อ เท็นค่ะ
085.055.4945 ค่ะ

ขายที่ดิน ต.สายห้วยแก้ว อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ใกล้ทางรถไฟสถานีไผ่ใหญ่


จำนวน 22.54 ไร่ค่ะ

เป็นที่ดินทำกิน สวน ไร่นา ค่ะ

สถานที่ใกล้เคียง 
คลองใหญ่ ทางเข้าปากทางวัดจันเสน ใกล้วัดจันเสน ใกล้ทางรถไฟสถานีไผ่ใหญ่และสถานีจันเสน ค่ะ

ติดต่อ เท็นค่ะ
0850554945 ค่ะ

แผนที่ :: https://bit.ly/3hTVqCv

https://www.prakard.com/viewtopic.php?f=61&t=7822630
















#3257
ขายถูกอาคารพาณิชย์นิคมพัฒนาทำเลค้าขาย ระยอง กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง ขนาด 2 ชั้นครึ่ง  21.4 ตร.ว.  ติดถนนเส้น 3191 ใกล้ หมู่บ้านเพลินตา 


ขายถูกอาคารพาณิชย์นิคมพัฒนาทำเลค้าขาย ระยอง  กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง เต็มตามเครดิตผู้กู้ ขนาด 2 ชั้นครึ่ง เนื้อที่ 21.4 ตร.ว. ทำเลทอง ทำเลค้าขาย   ติดถนนเส้น 3191 ใกล้ หมู่บ้านเพลินตา 

ขายถูกอาคารพาณิชย์นิคมพัฒนาทำเลค้าขาย ระยอง  กู้ได้เต็ม กู้ได้สูง  กู้ได้สูงเต็มตามเครดิตผู้กู้ ขนาด 2 ชั้นครึ่ง เนื้อที่ 21.4 ตร.ว. ชั้นล่างกว้างเหมาะแก่การทำธุรกิจ  ทำเลทอง ทำเลค้าขาย ใกล้เเหล่งอำนวยความสะดวกใกล้แหล่งชุมชน ใกล้หมู่บ้านเพลินตา
ติดถนนเส้น 3191 (ถนนสายเอกนิคม ระยอง)


- จุดเด่นทรัพย์

ขายตึกแถวอาคารพาณิชย์นิคมพัฒนา ระยอง 2 ชั้น ครึ่ง มีดาดฟ้า ชั้นล่างกว้างเหมาะแก่การทำธุรกิจ  ทรัพย์ติดถนนเส้น 3191 ใกล้เเหล่งอำนวยความสะดวกใกล้แหล่งชุมชน ใกล้หมู่บ้านเพลินตา 
ที่จอดรถสะดวก 

-รายละเอียด
- 1 ห้องนอน 
- 2 ห้องน้ำ 
- 1 ห้องครัว 
- โถงชั้นล่างกว้าง 
- มีชั้นลอย 

-สถานที่ใกล้เคียง
- ห่างจาก สถานีตำรวจ 1.2 กม. 
- ห่างจาก เทสโก โลตัสนิคมพัฒนา 1.8 กม. 
- ห่างจาก โรงพยาบาลสุขภาพประจำตำบลนิคมพัฒนา (ระยอง) 1.8 กม. 
- ห่างจาก ธนาคารออมสิน สาขานิคมพัฒนา (ระยอง) 2.2 กม. 
- ห่างจาก ร้าน Coffee Today 2.3 กม. 
- ห่างจาก ตลาดใหม่นิคมพัฒนา 2.4 กม. 
- ห่างจาก ธนาคารกรุงไทยสาขานิคมพัฒนา (ระยอง) 2.4 กม. 
- ห่างจาก ไร่ทานตะวันลุงต๊ะ 4.3 กม. 
- ห่างจาก ปั๊ม LPG 7.1 กม. 
- ห่างจากโรงเรียนนานาชาติฯแห่งใหม่(กำลังก่อสร้าง) 100เมตร
ถนนสาย 3191 กำลังขยายเป็น 6 เลน
***พิกัด*** 
https://goo.gl/maps/cKty1b7qciRpyknk7 

ลดราคาจาก 3,800,000
ขายเพียง - ราคา 3,200,000.-
โทร.0924698355


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://pantipmart.com/?p=260

 
#3258
The-.ter-and-cheaper-apartment-in-Sukumvit55 อพาร์ทเม้นท์-แมนชั่นที่ดีและถูกที่สุดในสุขุมวิท55 ทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น

The-.ter-and-cheaper-apartment-in-Sukumvit55 อพาร์ทเม้นท์-แมนชั่นที่ดีและถูกที่สุดในสุขุมวิท55 ทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น  ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 สตูดิโอเหนือระดับ ที่คุณสัมผัสได้ สุขุมวิท-เอกมัย ราคา 6,000-7,000 บาท
The-.ter-and-cheaper-apartment-in-Sukumvit55  อพาร์ทเม้นท์-แมนชั่นที่ดีและถูกที่สุดในสุขุมวิท55 ทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่นห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ-ที่พักสุขุมวิท55 ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น ทองหล่อ25 สตูดิโอเหนือระดับ ที่คุณสัมผัสได้ ห้องพัก-คอนโด-แมนชั่น-อพาร์ทเม้นท์ ที่ดีและถูกที่สุด ในย่านสุขุมวิท-เอกมัย ราคา 6,000-7,000 บาท

ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25 สตูดิโอเหนือระดับ ที่คุณสัมผัสได้ ทีพักทำเลดีทองหล่อ25 ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55
– ใกล้ btsทองหล่อ
– ใกล้ท่าเรือทองหล่อ
– ใกล้แหล่งธุรกิจ ร้านค้า อาคารสำนักงานบริษัทชั้นนำ
– ใกล้แหล่งช๊อปปิ้ง ร้านอาหารชั้นนำ และสถานบันเทิง
ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ Built-In ตู้เสื้อผ้า เตียง+ที่นอน King size โต๊ะเครื่องแป้ง โทนสีขาว สไตล์โรงแรม ห้องน้ำกว้าง แยกส่วนอาบน้ำ พร้อมอ่างอาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น มีพื้นที่ระเบียงกว้างทุกห้อง

The .ter and cheaper aprment inSukumvit55  อพาร์ทเม้นท์-แมนชั่นที่ดีและถูกที่สุดในสุขุมวิท55 ทองหล่อ25 จิตราภาแมนชั่น สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
– ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว สะดวก รวดเร็ว
– บริการตุ้ซักผ้าหยอดเห่รียญ ด้านในตัวอาคาร ปลอดภัย
– มีร้านอาหารบริการถึงเที่ยงคืน
– มีมินิมารท์ เปิดบริการถึง ตี 5 สะดวก
– มี วินมอไซต์ ด้านหน้าแมนชั่น
– ดูแลความปลอดภัย เข้า-ออกด้วยคีย์การ์ด ติดตั้งกล้อง cctv 52 ตัว
– ที่จอดมอเตอร์ไซค์ฟรี
– มีเจ้าหน้าที่บริการประจำเคาท์เตอร์ล๊อบบี้ 24 ชม

The .ter and cheaper place to stay in Thonglor25, Jitrapa Mansion, If you are looking for best and cheap condo,mansion, apartment to stay in Sukhumvit55, Thonglor25
ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ ที่พักสุขุมวิท55
สถานที่ใกล้เคียงแมนชั่นทองหล่อ25 ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ 
สถานที่ใกล้เคียงแมนชั่นทองหล่อ25 ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ
สำนักงานเขตวัฒนา, ตึกลิเบอร์ตี้, ชาญอิสระ, รพ.กรุงเทพ, รพ.คามิลเลียน, รพ.สมิติเวช, สน.ทองหล่อ, J Avenue, Max Value,
แนะนำการเดินทาง :จากบีทีเอสทองหล่อ ขึ้นรถเมล์แดง 8บาท ลงปลายทางที่ใต้สะพานข้ามคลองแสนแสบแล้วเดินเลียบคลองเพียง 200เมตรถึงจิตราภาแมนชั่น, จากหน้าแมนชั่น นั่งวินไปบีทีเอสทองหล่อ ได้ไปเอ็มควอเทียร์ 40บาท, นั่งเรือโดยสารไปประตูน้ำ ไปบางกะปิ แค่ 8 บาท สะดวกมากๆ

The best and cheaper place to stay in Thonglor Area Sukhumvit55
-Near bts Thonglor
-Thonglor pier
-CBD area, office and shopping center, Entertmain pub,restataurant
-Full funished hotel style

Full Facilities
– 2 lifts
– Waching machine coin oprate inside house
– Restaurant open inside till midnight
– Minimart in house open till 5.00 am
– Motorcycle taxi terminal in front of mansion
– Key card sytem, cctv 52 sets
– Free parking lot for Motorbike
– Receptionist 24 HRS

ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ ที่พักสุขุมวิท55
 การเดินทาง/รถประจำทาง
การเดินทาง/รถประจำทาง
 BTS อโศก 2.6 กม. BTS เอกมัย 2.7 กม. MRT พระราม 9 2.5 กม. BTS พร้อมพงษ์ 2.1 กม. BTS ทองหล่อ 2.2 กม. MRT ศูนย์วัฒนธรรม 3.0 กม.

ถนน/ซอยใกล้เคียง
รัชดาภิเษกซอย 3 (ซอยสถานทูตจีน) 2.8 กม. ถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) 1.7 กม. ถนนสุขุมวิท 2.1 กม. ซอยสุขุมวิท 22 2.3 กม. ซอยรามคำแหง 39 (ประชาอุทิศ ห้วยขวาง) 2.9 กม. ถนนพัฒนาการ 1.9 กม.
สถานศึกษาใกล้เคียง
ม.ศรีนครินทรวิโรฒ 2.0 กม. สถาบันรัชต์ภาคย์ 2.9 กม.

แหล่งช๊อปปิ้ง
เอสพลานาด รัชดาภิเษก 3.0 กม. เซ็นทรัล พระราม 9 2.5 กม. ฟอร์จูนทาวน์ 2.6 กม. บิ๊กซี เอกมัย 1.8 กม. Terminal 21 2.6 กม. เดอะมอลล์ รามคำแหง 3 3.0 กม.

สถานที่อื่นๆ
คลองตัน 2.8 กม. แยกเหม่งจ๋าย 3.0 กม. RCA 0.9 กม. สถานฑูตจีน 2.8 กม. รพ.พระราม 9 1.7 กม. รพ.กรุงเทพ 0.7 กม.

ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55
ติดต่อสำนักงาน
02-7126198
คุณมัณฑนา 061-9241665
คุณกุสุมา 095-5618105
ตั้งแต่ 09.00น-20.00 น.ทุกวัน

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://irenthub.com/the-.ter-and-cheaper-apartment-in-sukumvit55/

คำค้น
ห้องพักที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อ, ที่พักดีและถูกที่สุดสุขุมวิท55, ทีพักหรูราคาถูกทองหล่อ25, ทีพักหรูราคาถูกสุขุมวิท55, ทองหล่อ25-ห้องพัก-คอนโด-แมนชั่น-อพาร์ทเม้นท์-ที่ดีและถูกที่สุด, ทองหล่อ25-ห้องพักราคาถูกที่สุด, The best mansion in sukhumvit55, The best place to stay in Thonglor25, Best and cheap condo mansion apartment to stay in Sukhumvit55 Thonglor,
#3259


ผลพวงนโยบายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน สะท้อนต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าปัจจุบันรวม 45 สตางค์ต่อหน่วย และผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศต้องมีส่วนร่วมรับภาระดังกล่าว ขณะที่กระทรวงพลังงาน คาดหวังว่า อนาคตภาระนี้จะลดลงตามการแข่งขันและเทคโนโลยีที่ถูกลง

การส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านการให้เงินสนับสนุนทั้งในรูปแบบการกำหนดส่วนเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Adder) และการใช้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (Feed-in-Tariff) หรือ FiT ตามนโยบายภาครัฐ

ล่าสุดในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2564 คิดเป็นต้นทุนสะท้อนผ่านค่าไฟฟ้าที่ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องจ่าย อยู่ที่ 31.13 สตางค์ต่อหน่วย หรือ เป็นวงเงินรวม 18,302 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2564 ที่กระทบค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 33.28 สตางค์ต่อหน่วย หรือ คิดเป็นวงเงิน 19,934 ล้านบาท

อีกทั้ง ในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2564 ที่อุดหนุน 31.13 สตางค์ต่อหน่วยดังกล่าว เป็นในส่วนของค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (FT) และยังมีการอุดหนุนพลังงานหมุนเวียนก่อนหน้านี้ที่ถูกคำนวณรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าฐานอีก 14.30 สตางค์ต่อหน่วย (คำนวณไว้เมื่อปี 2558 รวมเป็นเงิน 8,284 ล้านบาท)

เท่ากับว่าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2564 ประเทศไทย มีต้นทุนการอุดหนุนค่าไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องจ่ายรวม 45.43 สตางค์ต่อหน่วย ( คิดเป็นเงินประมาณ 26,586 ล้านบาท )​ จากค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ย 3.61 บาทต่อหน่วย

โดยการอุดหนุนพลังงานหมุนเวียนที่มีแนวโน้มลดลงจากช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค.2564 เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเข้าระบบน้อยลง รวมทั้งความผันผวนของสภาพอากาศทำให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่เสถียรและลดลง ประกอบกับโครงการเดิมที่ได้รับเงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder)ในอัตราสูง ก็เริ่มทยอยหมดอายุลง

คมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่าในปี 2564-2565 ยังมีโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่จะทยอยเข้าระบบเพิ่มเติม คือ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา สำหรับกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา โรงพยาบาลและสูบน้ำเพื่อการเกษตร(โครงการนำร่อง) จำนวน 50 เมกะวัตต์ กำหนดผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 31 ธ.ค. 2564 ซึ่งโครงการนี้จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าน้อย เนื่องจากเป็นการกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าต่ำ

รวมถึง ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก นำร่อง 150 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการนี้อาจมีผลกระทบต่อค่าไฟบ้าง แต่ก็เกิดประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายภาครัฐ

ทั้งนี้ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ได้รับเงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตราที่สูงถึง 8 บาทต่อหน่วย ที่มีสัญญาระยะ 10 โดยกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับ Adder ซึ่งมีการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2557 ที่ผ่านมา จะหมดอายุสัญญาในปี 2567 และจะช่วยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนลดลงได้อีก

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนในอนาคตจะมีผลพวงต่อค่าไฟฟ้าน้อยลง เนื่องจากต้นทุนเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มถูกลง และภาครัฐจะใช้นโยบายแข่งขันด้านราคาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น

"ต่อไปพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก ที่สอดรับกับพลังงานสะอาด จะมีต้นทุนถูกลง เพื่อให้แข่งขันได้กับเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งจะไม่เป็นภาระต่อผู้ใช้ไฟฟ้าอีกต่อไป หรือ มีภาระน้อยลงมาก"

อย่างไรก็ตาม  โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ของประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ปัจจุบัน ในบิลเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือน จะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ค่าไฟฟ้าฐาน, ค่าไฟฟ้า Ft (ค่าเอฟที) และภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ในอนาคตอันใกล้ ในบิลค่าไฟฟ้า จะปรากฏข้อมูล "ประมาณการค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ (Policy Expense : PE)" เข้าไปแสดงให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้เห็นถึงรายจ่ายฯที่สะท้อนต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าในอนาคตด้วย 

เนื่องจาก การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2564 มีมติเห็นชอบนโยบายการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า(ปี พ.ศ. 2564 – 2568) และกรอบแนวทางการจัดทำโครงสร้างอัตราค่าไฟ เพื่อให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปจัดทำรายละเอียดในการกำกับดูแลและกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน ให้เกิดความชัดเจน พร้อมนำกลับมาเสนอต่อที่ประชุม กพช. ภายในปี 2565

โดยมติดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสะท้อนต้นทุนในการให้บริการของกิจการไฟฟ้าอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมต่อทั้งผู้รับใบอนุญาตและผู้ใช้ไฟฟ้าทุกกลุ่ม เพื่อให้โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงบริบทของอุตสาหกรรมไฟฟ้า ที่เกิดจากนโยบายและยุทธศาสตร์ของประเทศ

รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อให้โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้ามีความเกื้อหนุนต่อการรักษาประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศโดยรวม
#3260


หลัง ครม. มีมติให้ช่วยเหลือและ "เยียวยา" ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการ "ล็อกดาวน์" ของรัฐบาล ในการป้องกันและควบคุมการระบาดของ "โควิด-19" ที่ระบาดหนักใน 10 จังหวัดที่ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม

โดยในหลักการณ์เบื้องต้น จะมีการช่วยเหลือกลุ่ม "อาชีพอิสระ" และพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ในพื้นที่ 10 จังหวัดด้วย โดยจะได้รับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท แต่ต้องมีการสมัคร "ประกันสังคม" มาตรา 40 ภายในวันที่ 31 ก.ค. นี้ให้เรียบร้อยก่อน 

ล่าสุด "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้สอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 40 จาก "สุชาติ ชมกลิ่น" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงงาน ได้ความคืบหน้าดังนี้


 1. อาชีพอิสระสามารถยังสมัครได้เรื่อยๆ ถึงวันที่ 31 ก.ค. 64 

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นที่มีหลายคนเดินทางไปยังประกันสังคมแล้วได้รับแจ้งว่ายังไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้เนื่องจากยังไม่ได้รับคำสั่ง

รมว.แรงงาน ให้คำตอบในประเด็นนี้ว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระทุกอาชีพสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนในประกันสังคมมาตรา 40 ได้เลย ซึ่งปัจจุบันมีผู้สมัครเข้ามาแล้วราว 2 แสนราย

โดยช่องทางที่สามารถสมัคร มาตรา 40 ได้ มีดังนี้

1. สมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่
2. สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506
3. เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขา
4. ธนาคาร ธกส. ทุกสาขา
5. Big c ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
6. เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ
7. สมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม (https://www.sso.go.th)


 2. ยืนยัน ต้องมีพร้อมเพย์ผูกเลขบัตรประชาชนเท่านั้น 

สุชาติ อธิบายว่าสาเหตุที่ต้องผูก "พร้อมเพย์" สำหรับผู้ประกันตนมาตรา33 ในสัดส่วนของกระทรวงแรงงานในระบบมีการเยียวยา 50% สามารถโอนเงินเข้าบัญชีให้กับลูกจ้างที่กรอกมาในระบบอีเซอร์วิสได้เลย

แต่เงินในส่วนที่รัฐบาลจะสมทบลูกจ้าง 2,500 บาท หรือนายจ้าง 3,000 บาท รวมถึงมาตรา 39 และ มาตรา 40 จำเป็นต้องผูกพร้อมเพย์ เพื่อแยกยอดเงินว่าส่วนไหนคือส่วนเงินเยียวยาจากรัฐบาล หรือส่วนไหนคือของประกันสังคม


 3. อาชีพอิสระที่สมัคร ม.40 ได้เงินเยียวยาเมื่อไร ? 

สุชาติ ชมกลิ่น อธิบายว่าสำหรับกลุ่ม "อาชีพอิสระ" ที่จะต้องสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 รายใหม่ จะต้องใช้เวลาในการหารือและตรวจสอบซึ่งจะ รอความชัดเจนหลังการหารือกับสภาพัฒน์ และต้องรอมติจาก ครม. ซึ่ง คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน ก.ค. 64 นี้

ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีชื่ออยู่ในระบบแล้วสามารถให้การช่วยเหลือได้เลยเนื่องจากมีชื่ออยู่ในระบบอยู่แล้ว 

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิ "โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33" ได้ ผ่านทางเว็บไซต์ประกันสังคม https://www.sso.go.th/eform_news/