• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#3201


ราคาน้ำมันดีดตัว 2% ในวันศุกร์(27ส.ค.) นับเป็นสัปดาห์ที่ปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี จับตาพายุลูกหนึ่งกำลังถาโถมเข้าหาอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำปิดบวก จากความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ณ ที่ประชุมประจำปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บรรดาบริษัทน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯเร่งอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะต่างๆนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ก่อนคาดหมายว่าเฮอร์ริเคนไอดาจะซัดถล่มรัฐลุยเซียนาในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

สำนักความปลอดภัยและการบังคับใช้ทางสิ่งแวดล้อมแห่สหรัฐฯเปิดเผยว่าด้วยพายุลูกที่ 9 ของฤดูกาลนี้กำลังคืบคลานเข้าหาแท่นขุดเจาะน้ำมันหลักนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้เหล่าผู้ผลิตน้ำมันในวันศุกร์(27ส.ค.) ต้องลดปฏิบัติการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลง 59%

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(27ส.ค.)พุ่งแรง ดันเอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ เป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ หลังความเห็นของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปี ในเมืองแจ็คสัน โฮล สยบความกังวลเกี่ยวกับกรอบเวลาลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 242.68 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,455.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.37 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,509.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 183.69 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,129.50 จุด

แม้ พาวเวลล์ ไม่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนในเรื่องของกรอบเวลาลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ดูเหมือนเขาส่งสัญญาณอะลุ้มอล่วยกว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)คนอื่นๆ ในนนั้นรวมถึง เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ซึ่งคาดหวังว่าจะเริ่มลดระดับเข้าซื้อพันธบัตรเร็วๆนี้และจะปิดโครงการในปีหน้า

อย่างไรก็ตามด้วยความคิดเห็นของ พาวเวลล์ ไม่ได้ก่อความประหลาดใจใดๆแก่นักลงทุน เกี่ยวกับแผนของเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(27ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#3202


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทได้เข้าซื้อธุรกิจสุกร ในประเทศรัสเซีย โดย LLC RBPI Voronezh ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นใหม่ของ CPF โดยจะชำระค่าตอบแทนเป็นเงิน 22,000 ล้านรัสเซียรูเบิล หรือเทียบเท่าประมาณ 9,900 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าการเข้าทำรายการจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. 2565

ส่วนเงินที่ใช้ในการลงทุนครั้งนี้ จะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและภายในกลุ่ม ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เห็นว่า การเข้าทำรายการดังกล่าว มีความสมเหตุสมผลและจะทำให้บริษัท มีศักยภาพในการขยายธุรกิจสุกรในรัสเซียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ซื้อและผู้ขายได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement หรือ Agreement) โดยภายใต้ Agreement ดังกล่าว โดยผู้ซื้อจะชำระค่าตอบแทนดังกล่าว เพื่อให้ได้มาซึ่งรายการต่อไปนี้ 1.หุ้นทั้งหมดใน LLC Agro-Sojuz TS และ LLC Mjaso-Sojuz T หรือ บริษัทเป้าหมาย และ 2.หนี้เงินกู้ยืมที่ผู้ขายให้กู้ยืมแก่บริษัทเป้าหมาย และเมื่อการทำรายการแล้วเสร็จ บริษัทเป้าหมายดังกล่าวและบริษัทย่อยจะมีสถานะเป็รบริษัทย่อยทางอ้อมของ CPF

ทางด้านผู้ขายหุ้นดังกล่าว ที่ บริษัทย่อย CPF ซื้อมานั้น ประกอบด้วย 1.Tönnies Russland Agrar GmbH 2.RKS Agrar.eiligungs GmbH และ 3.Tönnies Holding ApS & Co. KG
#3203


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางพลังงานไทยกับเป้าหมายลดการปล่อย CO2" ในงานสัมนาทิศทางพลังงานไทย จะไปสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างไร? โดยรัฐบาลมีแผนการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนคือจะเริ่มจากการส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถ EV ในสัดส่วน 30% ภายในปี ค.ศ. 2030  


ทั้งนี้หลังจากที่คณะทำงานเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลได้ทำงานมาระยะหนึ่งในเดือน ก.ย.จะมีความชัดเจนเรื่องของมาตรการสนับสนุนทั้งในเรื่องมาตรการภาษีและมาตรการส่งเสริมที่ไม่ใช่ภาษีซึ่งมาตรการนี้จะช่วยจูงใจทั้งผู้ผลิต และผู้ใช้รถให้มีความสนใจในการใช้รถ EV มากขึ้น 

"การออกมาตรการมาสนับสนุน EV จะเป็นการนำร่องออกมาโดยไม่ต้องรอให้ตลาดมีความต้องการที่ชัดเจนมากแต่มาตรการที่ออกมาจะจูงใจ ควบคู่ไปกับการวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้มีความพร้อมรองรับรถ EV มากขึ้น"


นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่าว่ารัฐบาลมีเป้าหมายที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาพลังงานสะอาดและการลดการปล่อยคาร์บอนไดร์ออกไซด์ (CO2) ที่สอดคล้องกับทิศทางของนานาชาติ โดยในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับล่าสุดได้มีการกำหนดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดไว้ที่ 50% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม


โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ไปกำหนดแผนและรายละเอียดต่างๆแบ่งเเป็นแผนระยะ 5 ปี และ 10 ปี โดยแผนนี้จะต้องสอดคล้องกับแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของไทยให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2075 ที่เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยประกาศเป็นเป้าหมายในการลด CO2 ให้เป็นศูนย์ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่าการทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดการปล่อย Co2 จะต้องมีการปรับลดการผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล การเพิ่มพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมรถ EV รวมทั้งการทำแผนการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแผนนี้ สนพ.อยู่ระหว่างการจะนำแผนไปรับฟังความคิดเห็น และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ในปีหน้า โดยเป็นหนึ่งใน 5 แผนที่อยู่ในแผนทั้งหมดของแผนพลังงานชาติที่จะมีการนำเสนอต่อไป  

โดยการลงทุนในเรื่องของพลังงงานสีเขียวจะมีผลต่อการฟื้นเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 โดยต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาด ความมั่นคงเรื่องพลังงาน และเรื่องของการรักษาเสถียรภาพค่าไฟฟ้าที่ไม่กระทบกับต้นทุนของธุรกิจ และค่าครองชีพประชาชนในระยะยาว 

"แผนพลังงานชาติจะเน้นในเรื่องของพลังงานสะอาด แผนเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมในเขตเมือง โดยในช่วงการเปลี่ยนผ่านยังเป็นการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ต่อที่สุด"
#3204
Zoom Meeting พระเอกตัวจริงของแพลตฟอร์มสื่อสารผ่าน ระบบประชุมทางไกล วันนี้เราสามารถเชื่อมต่อทุกการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Team, Google Meet, Cisco และอื่นๆ แต่เราก็มักพบว่าผู้ติดต่อของเราส่วนหนึ่งก็จะขอประชุมผ่าน Zoom และวันนี้หลายหน่วยงานและมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีการรับสมัคร มีการนัดสัมภาษณ์ผ่าน Zoom หรือส่งการนัดหมายการประชุมเป็น Link สำหรับเข้าประชุมผ่าน Zoom มาให้เรา นอกจากนี้ถ้าเรามองในส่วนของงานสัมมนาและ Event ต่างๆ ต้องบอกว่าส่วนมากเลือกจัดผ่านโปรแกรม Zoom Conference วันนี้ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรม หรือ Zoom Software อยู่บนอุปกรณ์วันนี้ผมมาชวนให้ติดตั้งไปพร้อมๆกันครับ

คำถาม : ผู้เข้าร่วมหรือผู้เข้ารับการสัมภาษณ์จำเป็นต้องซื้อ License Zoom ก่อนหรือเปล่า ..?
คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ วันนี้ หลังจากคุณติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถลงสมัครใช้งาน Zoom Free หรือ แพคเกจ Basic ได้เลย ซึ่งคุณสามารถใช้ฟังชั่น Meeting, Chat, Contact, Apps ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารพัดฟีเจอร์ที่อยู่ได้ Zoom ได้อีกด้วยในเวอร์ชั่นฟรีนี้

ตามที่ได้รายงานไว้ข้างต้น ว่ามีการนำ Zoom Meeting ไปใช้เพื่อประโยชน์ในงานสรรหาบุคลากรด้วยการนำเอาคุณลักษณะอันโดดเด่นของ zoom meeting ไปใช้สัมภาษณ์งานแบบเสมือนจริง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับการทำงาน ทั้งนี้สามารถประเมินผู้สมัครได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงผู้มีความสามารถชั้นนำได้จากทั่วโลก ด้วย Zoom Meeting ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ สรรหาบุคลากรได้ตามความต้องการตามแผนกำลังคน โดยลดขั้นตอนและกระบวนการต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไปได้หลายขบวนการ ทั้งการกรอกใบสมัครการแนบเอกสารหลักฐานที่ปัจจุบันทำได้ผ่านทางออนไลน์แทบทั้งสิ้น ส่วนในการสัมภาษณ์และการทำแบบทดสอบต่างๆ สามารถทำได้ผ่าน Zoom Meeting ทั้งสิ้นและสามารถทราบผลคะแนนได้แบบเรียลไทม์ โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถกำหนดเวลาและจัดการสัมภาษณ์ผู้สมัครได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Zoom ซึ่งสามารถเลือกเวลาได้ตามความหมูของทั้งสองฝ่าย


ติดตามข่าวสารและอัพเดตชีวิตแบบตามติดเทคโนโลยีที่ Zoom ThailandTag : แหล่งที่มา
#3205


'เดลี เมล' หนังสือพิมพ์ของอังกฤษ รายงานตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา (25 ส.ค.) เคน จะปักหลักถิ่น ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดียม ฤดูกาลนี้ ก่อนนักเตะออกมายืนยันด้วยตัวเองทาง โซเชียล มีเดีย

ขณะที่ 'เดอะ ไทม์ส' ตีข่าว กัปตันทีมชาติอังกฤษ ยอมรับความจริงว่า ซิตี ไม่สามารถทุ่มเงินถึง 150 ล้านปอนด์ (ราว 6,750 ล้านบาท) ตามที่ แดเนียล เลวี ประธานสโมสร ตั้งไว้ แต่ต้องการค่าแรงซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญต่อ 'ไก่เดือยทอง' ซึ่งน่าจะกลายเป็นสถิติสูงสุดของ พรีเมียร์ ลีก

ปัจจุบัน เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพ แมนฯ ซิตี เป็นเจ้าของสถิติ 385,000 ปอนด์ (ประมาณ 17.3 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ รองลงมาคือ ดาบิด เด เคอา นายทวาร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 375,000 ปอนด์ (16.9 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

เข้าใจว่า เคน ได้รับการปรับค่าแรงขึ้น หลัง ท็อตแนมฯ ปฏิเสธขายออกจากทีม ช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว โดยสัญญาฉบับปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 300,000 ปอนด์ (13.5 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์

รายงานข่าวระบุ ทีมจากย่านลอนดอนเหนือ จะขึ้นค่าจ้าง จอมถล่มประตูวัย 28 ปี หากสอดคล้องกับเงื่อนไขจ่ายโบนัสต่างๆ รวมยิงประตู

'เดลี เมล' ตีข่าวสัปดาห์ที่แล้ว อ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิด ขุนพล 'สิงโตคำราม' ชุดรองแชมป์ ยูโร 2020 ยังคงทุ่มเทเต็มร้อย ถึงแม้รู้สึกว่าสโมสรไม่สามารถตอบสนองความทะเยอทะยานของตัวเองได้

ฝ่าย ดาวซัลโวสูงสุด พรีเมียร์ ลีก 2020-21 ยืนยันมีการทำข้อตกลงไว้ว่า เคน จะได้รับอนุญาตให้ย้ายสังกัด หาก สเปอร์ส จบซีซันแบบมือเปล่า และไม่ผ่านควอลิฟาย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
#3206


Messenger จาก Facebook ฉลองครบรอบ 10 ปี พร้อมเปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเพื่อสร้างความตื่นเต้นแลสนุกสนานให้กับผู้คน ขณะที่เชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์ม

Messenger สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงช่วง 10 ปีที่ผ่านมาว่า ชุมชนบนโลกอินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่การแชทแบบเรียลไทม์เกิดขึ้น และ Messenger ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมากมายนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์และนวัตกรรมรุ่นใหม่ๆ สำหรับการพูดคุยผ่านวีดิโอ และวิธีการอื่นๆ ในการเชื่อมต่อผู้คนขณะที่อยู่ห่างไกลกัน

รายงานด้านการตลาดประจำปี 2564 โดย SimpleTexting ระบุว่า 78% ของผู้บริโภคกล่าวว่าการเช็ค ส่ง และตอบกลับข้อความ เป็นกิจกรรมที่พวกเขาทำมากที่สุดในแต่ละวันบนสมาร์ทโฟน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ (early adopter) ที่เปิดรับเทคโนโลยีการส่งข้อความด้วยเสียงผ่านแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ โดยได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ที่ใช้งานฟีเจอร์การส่งข้อความเสียงมากที่สุด เช่นเดียวกับประเทศกัมพูชา บราซิล เม็กซิโก และสหรัฐ



Messenger ยังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจและชุมชนในประเทศไทย โดย 92% ของผู้บริโภคชาวไทยได้ติดต่อธุรกิจท้องถิ่นผ่านแอrพลิเคชั่นส่งข้อความ และ 4 ใน 5 กล่าวว่าการสนทนาผ่านการแชทช่วยให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ โซลูชั่นตัวช่วยโฆษณาของธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะ Click-to-Messenger ads ก็เป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่ช่วยสร้างให้ธุรกิจเติบโตผ่านการค้นหากลุ่มเป้าหมาย (leads) เพื่อเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ในที่สุด 

Messenger ฉลองก้าวสำคัญในวันนี้ ด้วยการกำหนดแนวทางในการดำเนินงานในอนาคต ตามพันธกิจในการช่วยเชื่อมต่อผู้คนให้ใกล้ชิดกับคนที่มีความหมายสำหรับพวกเขาผ่านฟีเจอร์ต่างๆ 

แนวทางการดำเนินงานในครั้งนี้รวมไปถึงการสร้างแพลตฟอร์มด้านการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบสำหรับอนาคต ด้วยการพัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์มเพื่อให้ทั้งครีเอเตอร์และธุรกิจได้เชื่อมต่อกับแฟนๆ และลูกค้า รวมถึงสานต่อความมุ่งมั่นด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย พร้อมฉลองและขอบคุณผู้คนที่ให้ความไว้วางใจใช้งาน

เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนสำหรับการสนับสนุนตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา Messenger ได้เปิดตัว 10 ฟีเจอร์ใหม่ อย่างเป็นทางการสำหรับทุกคนที่ใช้งานแอพพลิเคชั่น ได้แก่

ชุดสติ๊กเกอร์ "ยอดนิยม" ("Greatest Hits" Sticker Pack) ชุดสติ๊กเกอร์ที่ถูกคัดเลือกจากสติ๊กเกอร์ยอดนิยมตลอดกาลของ Messenger
การแชร์ข้อมูลการติดต่อ (Contact Sharing) ผู้ใช้งานสามารถแนะนำเพื่อนของเพื่อนให้กันได้แล้วอย่างไร้รอยต่อผ่าน Messenger
เอฟเฟกต์ AR สำหรับวันเกิด (Birthday AR Effects) เอฟเฟกต์ AR ใหม่ล่าสุดสำหรับวันเกิดและการเฉลิมฉลอง
พื้นหลังแบบ 360 องศาสำหรับวันเกิด (Birthday 360 Background) พื้นหลังแบบ 360 องศารูปแบบใหม่เพื่อฉลองวันเกิด
ธีมแชทวันเกิด (Birthday Chat Theme) ฉลองวันเกิดของคุณและของเพื่อนด้วยธีมแชทใหม่
ซาวด์โมจิวันเกิด (Birthday Soundmoji) มีการเพิ่มซาวด์โมจิหรืออิโมจิมีเสียงในธีมวันเกิดในคอลเลคชัน (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์คำ (Word Effects) ความสามารถในการตั้งค่าอิโมจิสำหรับคำและวลีที่ต้องการ โดยเมื่อคำหรือวลีนั้นถูกส่งในแชทก็จะมีอิโมจิโปรยลงมาบนหน้าจอ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เอฟเฟกต์ข้อความ (Message Effects) เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตกแต่งข้อความด้วยเอฟเฟกต์พิเศษต่างๆ เช่น พลุกระดาษหรือกล่องของขวัญผูกโบว์ เป็นต้น (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
เกมส์โพลล์ (Poll Games) ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการสร้างโพลล์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกม "เป็นไปได้มากที่สุดที่จะ" (most likely to) ได้ (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
การจ่ายเงินเป็นของขวัญวันเกิด (Birthday Gift Payments) ผู้ใช้สามารถส่งเงินเป็นของขวัญเพื่อฉลองวันเกิดผ่าน Facebook Pay บน Messenger ได้แล้ว (สหรัฐอเมริกา เท่านั้น)
#3207


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2564

-- -ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มผู้ผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,405.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.24 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,496.19 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด หรือ +0.22% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,041.86 จุด เพิ่มขึ้น 22.06 จุด หรือ +0.15%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเดินทางที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดทั่วโลกปรับตัวในช่วงแคบๆ ก่อนการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 471.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ +0.01%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,676.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,860.66 จุด ลดลง 45.19 จุด หรือ -0.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด หรือ +0.34%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเดินทาง ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วโลก และการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด หรือ +0.34%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับตัวเลขชสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 68.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 72.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2564

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17.5 ดอลลาร์ หรือ 0.97% ปิดที่ 1,791 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.9 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 23.775 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 16.6 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 993.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,430.70 ดอลลาร์/ออนซ์

--ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์เทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการที่ประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.07% แตะที่ 92.8255 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1771 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1754 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3761 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3730 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7279 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.97 เยน จากระดับ 109.68 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์ ที่ระดับ 0.9135 ฟรังก์ จากระดับ 0.9126 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2598 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2594 ดอลลาร์แคนาดา

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,405.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.24 จุด, +0.11%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,496.19 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด, +0.22%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,041.86 จุด เพิ่มขึ้น 22.06 จุด, +0.15%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด, +0.34%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,676.48 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, +0.18%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,860.66 จุด ลดลง 45.19 จุด, -0.28%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 55,944.21 จุด ลดลง 14.77 จุด, -0.03%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,113.24 จุด เพิ่มขึ้น 23.74 จุด, +0.39%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,569.80 จุด เพิ่มขึ้น 16.43 จุด, +1.06%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,822.15 จุด เพิ่มขึ้น 143.33 จุด, +2.15%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,107.49 จุด ลดลง 0.13 จุด, -0.00%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,693.95 จุด ลดลง 33.97 จุด, -0.13%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,540.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.91 จุด, +0.74%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 17,045.86 จุด เพิ่มขึ้น 227.13 จุด, +1.35%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,146.81 จุด เพิ่มขึ้น 8.51 จุด, +0.27%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,724.80 จุด ลดลง 7.30 จุด, -0.026%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,531.90 จุด เพิ่มขึ้น 28.90 จุด, +0.39%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,809.60 จุด เพิ่มขึ้น 35.90 จุด, +0.46%
#3208
 
 
 ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) ข้าวกล้องออแกนิค เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผลข้าวออแกนิคคือที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นข้าวแฟร์เทรด (Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวปลอดสารเคมีสุรินทร์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชน ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด ขายข้าวอินทรีย์, กลุ่มข้าวอินทรีย์ คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์ ปลูกข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิต ข้าวเกษตรอินทรีย์ส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  รูปภาพสำหรับข้าวอินทรีย์ )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

จากนาข้าวเคมีสู่นาข้าวอินทรีย์  ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์    กลุ่มข้าวอินทรีย์สุรินทร์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์สุรินทร์
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7. ข้าวไรซ์เบอร์รี่เกษตรอินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์


 

 

 

 

 

 

 
 
#3209


มหกรรมกีฬาพาราลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เหล่านักกีฬาผู้พิการจากทั่วโลก ไม่เพียงแต่มารวมตัวกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง แต่ยังส่งต่อพลังและแรงใจแก่คนดูที่ติดตามการแข่งขันอยู่ทั้งโลก ดังเช่นนักกีฬาเทเบิลเทนนิสผู้พิการจากอียิปต์ ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาในยามนี้

การแข่งขันเทเบิลเทนนิส พาราลิมปิก เกมส์ อิบราฮิม ฮามัตดู นักกีฬาตัวเก๋าจากอียิปต์ พิการแขนทั้งสองข้าง บรรจงใช้ขาคีบลูกปิงปองขึ้นมาเสิร์ฟ ก่อนใช้ปากที่คาบไม้ปิงปองอยู่ ตีลูกดวลกับคู่แข่งจากเกาหลีใต้ แม้จะแพ้ไป 0-3 เกม แต่ภาพการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ก็ทำให้คนดูรู้สึกประทับใจยิ่ง

ฮามัตดู วัย 43 ปี สูญเสียแขนทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุทางรถไฟตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ แต่เขาก็ไม่ยอมให้ความพิการบั่นทอนจิตใจ เขาพบเจอกับกีฬาเทเบิลเทนนิส ก่อนพยายามฝึกฝนด้วยอวัยวะที่เหลืออยู่ จนในที่สุดก็ยกระดับตัวเองกลายเป็นนักกีฬาเทเบิลเทนนิส รับใช้ชาติอียิปต์ คว้าเหรียญเงิน แอฟริกัน แชมเปียนชิพ 2 สมัย และรายการในประเทศเมื่อปี 2013

"ผมเล่นเทเบิลเทนนิสแทนที่จะเล่นฟุต.เพราะมันท้าทาย ตอนแรกผมพยายามใช้วงแขนหนีบไม้แล้วตี แต่ไม่ได้ผล จนในที่สุดก็พบว่าใช้ปากดีกว่า" ฮามัตตู เปิดเผย โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวกลายเป็นไวรัลจากคลิปวีดีโอการเล่นที่เผยแพร่เมื่อปี 2014 ก่อนพัฒนาฝีมือภายใต้ข้อจำกัดที่มี จนได้ไปแข่ง พาราลิมปิก เกมส์ ครั้งแรกในชีวิตที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ปี 2016

แม้จะไม่ได้รางวัลใดๆ กลับมาจากแดนแซมบ้า แต่ก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของรายการ ก่อนกลับมาอีกครั้งที่ พาราลิมปิก โตเกียว 2020 ถึงจะแพ้ไปก่อนแมตช์แรก กระนั้นเจ้าตัวก็ยังพร้อมจะสู้ต่อจนกว่าจะจบโปรแกรมของตัวเอง "ที่ผ่านมาผมพยายามทำงานอย่างหนัก ทำเท่าที่จะทำได้ และคิดว่าผมจะได้ผลการแข่งขันที่ดีขึ้นจากนี้"
#3210


นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงานไทยแลนด์โฟกัส 2021 โดยระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลาดทุนไทยได้พิสูจน์ความคงทนด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดหลายระลอก แม้ว่าจะมีการระบาดอย่างกว้างขวาง แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังสามารถประสบความสำเร็จได้

ตลาดหุ้นไทยมีการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนมาก โดยในปี 63 ที่ผ่านมา มีมูลค่าของ IPO ทะลุ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการจัดอันดับใน 10 อันดับแรกของโลก ในขณะเดียวกัน ยังเป็น 5 อันดับแรกของเอเชียและเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการนำเสนอขายหุ้น IPO อย่างคึกคัก โดยมูลค่าหุ้นที่นำออกมาเสนอขายพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีสภาพคล่องสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน โดยมูลค่าการซื้อขายต่อวันพุ่งขึ้นมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากฐานของผู้ลงทุนที่มีความหลากหลาย และมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยจำนวนมากเป็นผู้นำในการดำเนินนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้รับรางวัลและคำชมเชยหลากหลาย บริษัทที่จดทะเบียนใน SET ได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นปัจจัยหนึ่งในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) นับเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียน และเมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ในอาเซียนที่สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs)

นายภากร กล่าวอีกว่า เพื่อให้สามารถก้าวหน้าต่อไปได้อีก ตลท. จึงเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นไปสู่ 'next normal' หรือยุคหลังการระบาดของโควิด-19 โดยการรับเอาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ เข้ามาใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถเชื่อมโยงได้กับตลาดทุนระดับโลกต่างๆ มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในด้านต่อไปนี้

1.แพลตฟอร์มข้อมูลการพัฒนาแบบยั่งยืน (ESG data platform) ตลท.ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลออนไลน์ ซึ่งมีการจัดสร้างรูปแบบข้อมูลทั้งหลายอยู่เพื่อแสดงและเปรียบเทียบข้อมูลด้านความยั่งยืนสำหรับนักลงทุนและผู้ใช้อื่นๆ อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่การเปิดเผยข้อของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

2.แพลตฟอร์ม Golbal Product หรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับตลาดทุนไทย เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนโลก SET ได้พัฒนาการออกผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มการซื้อขายเพื่อเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนในตลาดนอกประเทศโดยผ่านกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) และตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) แพลตฟอร์มนี้จะทำให้ทั้งตัวกลางและลูกค้าสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศโดยผ่านตลาดภายในประเทศ

3.โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล SET จะเดินหน้าปรับปรุงด้วยการเพิ่มบริการใหม่ๆ โดยร่วมมือกับผู้เล่นรายสำคัญเพื่อสามารถให้บริการได้ดีกว่าเดิมโดยผ่านบริการออนไลน์ อย่างเช่น การประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-AGM) การออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ (e-proxy voting) และการทำความรู้จักลูกค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) ในกระบวนการนี้ SET จะนำเอาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในปี 65 ซึ่งจะทำให้บรรดาธุรกิจใหม่และนักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนทางเลือกหลากประเภท

'การดำเนินธุรกิจและการลงทุนแบบยั่งยืน การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และการเชื่อมโยงในประเทศเข้ากับภูมิภาคและระดับโลก เป็น 3 ยุทธศาสตร์หลักที่ ตลท. ใช้เพื่อต่อยอดความสำเร็จของปัจจุบัน' นายภากร กล่าว
#3211


ธปท. ประกาศสถานะ "ทีเอ็มบีธนชาต" จัดเข้ากลุ่ม D-SIBs หรือธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ หลังเสร็จสิ้นการรวมกิจการอย่างสมบูรณ์ได้ตามแผน ส่งผลให้ธนาคารมีขนาดสินทรัพย์ ฐานลูกค้า และธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับระบบเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยธนาคารพร้อมเดินหน้ายกระดับบริการและส่งมอบประสบการณ์ทางการเงิน เพื่อสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้คนไทยทั้งวันนี้และอนาคต

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า จากการผสานจุดแข็งของสองธนาคารรวมเป็น "ทีเอ็มบีธนชาต" โดยมีพันธกิจหลักในการเดินหน้ายกระดับบริการและส่งมอบประสบการณ์ทางการเงิน เพื่อสร้างชีวิตทางการเงิน (Financial Well-being) ที่ดีขึ้นให้คนไทย ซึ่งจากความสำเร็จในการรวมกิจการได้อย่างสมบูรณ์ในครั้งนี้ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศให้ทีเอ็มบีธนชาตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic systemically Important bank : D-SIBs) เนื่องจากประเมินแล้วว่าทีเอ็มบีธนชาตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ มีธุรกรรมทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงระหว่างสถาบันการเงินมาก รวมถึงเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่สำคัญต่อฐานลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของระบบการเงินและประเทศ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญกับการเติบโตธุรกิจอย่างมีคุณภาพ เพื่อเป็นสถาบันการเงินที่มีความมั่นคงและสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและเสริมสร้างเสถียรภาพให้อุตสาหกรรมธนาคารและระบบการเงินไทย ดังนั้น นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นได้จากระดับเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอยู่ที่ 19.6% ในปัจจุบัน ซึ่งสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มธนาคาร D-SIBs และสูงกว่าเกณฑ์ปัจจุบันที่ ธปท. กำหนดอัตราขั้นต่ำที่ 11.0% ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับการดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มตามมาตรการที่กำหนดในการกำกับดูแล D-SIBs ที่ 12.0%

"นอกจากนี้ การรวมเป็นหนึ่งเดียวของทีเอ็มบีธนชาตเพื่อเป็นธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้น ยังได้เพิ่มศักยภาพให้ทีมงานสามารถทำงานได้เต็มกำลังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ประชาชนได้รับผลกระทบ ธนาคารพร้อมส่งต่อแนวคิดและโซลูชันทางการเงินเพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้ก้าวข้ามสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน" นายปิติ กล่าวสรุป
#3212


นางสาวศศิธร ริ้วทอง ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การตลาดลำไย ปี 2564 ว่า จากสถานการณ์ลำไยทั่วประเทศในปีนี้ มีปริมาณเพิ่มขึ้นจำนวน 1.4 ล้านตัน หรือ 17 %จากปีก่อน โดยปีนี้ผลผลิตลำไยของจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24 เป็นจำนวนกว่า 420,000 ตัน โดยเป็นผลผลิตในฤดู 260,900 ตัน ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเนื้อที่ให้ผลรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นเอื้ออำนวยต่อการออกดอกและติดผลมากกว่าปีกลาย ประกอบกับมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2563 ถึงกุมภาพันธ์ 2564 ทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอในช่วงออกดอกและช่วงติดผลอ่อน ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตเพิ่มขึ้น

ด้านการส่งออกลำไย แบ่งเป็นการส่งออกทั้งสดและอบแห้ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 พบว่า การส่งออกลำไยแบบสด มีการส่งออกไปยังประเทศจีน เวียดนาม ฮ่องกง อินโดนีเซีย และมาเลเซีย แล้ว 198,079 ตัน และการส่งออกลำไยแบบอบแห้ง มีการส่งไปยังประเทศจีน เวียดนาม ฮ่องกง สิงค์โปร์ และเกาหลี ไปแล้ว 14,069 ตัน โดยขณะนี้ราคายังอยู่ในราคาที่ทรงตัว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทางประเทศจีนได้ตรวจพบการปนเปื้อนเพลี้ยแป้งในลำไยส่งออก จึงขอระงับการส่งออกลำไยจากล้งที่ตรวจพบปัญหาด้านคุณภาพ โดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำการเจรจากับประเทศจีน และอนุญาตให้ส่งออกได้แล้วทั่วประเทศ 50 ล้ง จังหวัดเชียงใหม่ 27 ล้ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 10 ล้ง ซึ่งจะต้องเพิ่มความเข้มงวด มาตรการคัดกรองคุณภาพของลำไยก่อนส่งออกไปจำหน่าย โดยจะมีการสุ่มตรวจทั้งในขั้นตอนการเก็บ การอบ และก่อนการส่งออก ไม่ให้มีเพลี้ยแป้งปะปน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประเทศจีนกลับมาเช่นเดิม



สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกร สำนักงานพาณิชย์ได้มีมาตรการรองรับผลผลิตลำไยในฤดู ทั้งโครงการสนับสนุนจุดรวบรวมและคัดคุณภาพลำไยเพื่อกระจายออกนอกแหล่งผลิตจังหวัดเชียงใหม่ โดยรับสมัครผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งรัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการในการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตไม่เกิน 3 บาท/กก. เริ่มดำเนินการรับซื้อตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2564 ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการผ่านการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการแล้ว 15 ราย, ด้านการเชื่อมโยงตลาด โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดกิจกรรม Online Business Matching สินค้าลำไยและลำไยแปรรูป และกิจกรรมเจรจาการค้าผ่านช่องทาง Online ระหว่างผู้นำเข้าอินโดนีเซียกับผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน

นอกจากนี้ได้จัดประชาสัมพันธ์เชิญชวนบริโภคลำไย ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อรณรงค์การบริโภคลำไย และช่วยซื้อลำไยจากเกษตรกรโดยตรง ,การเชื่อมโยง กระจายผลผลิตลำไยไปยังจังหวัดปลายทาง โดยการสนับสนุนกล่องบรรจุผลไม้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและลดภาระค่าใช้จ่ายบรรจุภัณฑ์, การป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ขึ้นทะเบียนแรงงานรับจ้างเก็บลำไย ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ พร้อมทั้งเข้ารับการอบรมการเก็บลำไยให้ปลอดภัยจากโควิด และการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ชี้แจงสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรเพื่อสร้างความมั่นใจต่อผลผลิตลำไยของเชียงใหม่
#3213


บริษัทผลิตไฟฟ้า จำหน่าย และส่งไฟฟ้าของอิหร่าน (Tavanir) เผยว่าการห้ามทำเหมือง cryptocurrency ที่กำหนดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้า กำลังจะถูกยกเลิกในวันที่ 22 กันยายนนี้ หลังกำลังการผลิตไฟฟ้าเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

จากการเปิดเผยของ financialtribune ระบุถึงถ้อยแถลงของ Mostafa Rajabi Mashhadi โฆษกของหน่วยงานด้านการผลิตไฟฟ้าชั้นนำกล่าวกับ ISNA ว่าบริษัทหวังว่าการใช้พลังงานจะลดลงภายในสิ้นฤดูร้อน ซึ่งสร้างเงื่อนไขสำหรับการดำเนินงานของผู้ขุดสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกกฎหมาย

อย่างไรก็ตามเพื่อลดแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศและป้องกันไฟดับ อดีตประธานาธิบดี Hassan Rouhani ได้สั่งห้ามการขุดคริปโตทั้งหมดจนถึงสิ้นฤดูร้อน โดยประกาศตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม Cryptominers ถูกตำหนิถึงผลกระทบหลังในการสร้างปัญหาที่ทำให้เกิดการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าอย่างร้ายแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความผิดหวังทั่วทั้งกระดานเทรด แม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่าส่วนแบ่งของนักขุดที่ถูกกฎหมายในการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดมีน้อย

โดยในเดือนกรกฎาคม 2562 รัฐบาลกล่าวว่าจะยอมรับการขุด crypto เป็นอุตสาหกรรมที่ถูกกฎหมาย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเหมืองเองก็ต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมและชำระค่าไฟฟ้าตามอัตราที่กฏหมายกำหนด

ทั้งนี้กระทรวงได้ออกใบอนุญาตสำหรับ 30 หน่วยการขุด crypto ในจังหวัด Semnan ตามรายงานที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกระทรวง โดยในพื้นที่ของ Semnan มีเหมืองขุดคริปโตจำนวนมากที่สุด ซึ่งได้รับอนุญาตกว่าหกแห่ง ขณะที่ในจังหวัดอัลบอร์ซมีเหมืองขุดจำนวน 4 แห่ง ตามมาด้วยจังหวัดมาซันดารัน อาซาร์ไบจานตะวันออก และแซนจัน

อย่างไรก็ตามยังมีผู้ประกอบการเหมืองขุดที่ไม่มีใบอนุญาตในการใช้กำลังไฟฟ้าเกือบ 2,000-3,000 เมกะวัตต์ต่อวัน มากเท่ากับครึ่งหนึ่งของการใช้พลังงานทั้งหมดต่อวันในเมืองเตหะราน

อย่างไรก็ดีปัญหาการใช้ไฟฟ้าที่สูงไม่ใช่ปัญหาเดียว เนื่องจากผู้ขุดที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับทางหน่วยงานรัฐ ได้สร้างความเสียหายให้กับระบบจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้เกิดไฟดับในช่วงหลายเดือนที่อากาศร้อน ส่งผลให้เมื่อสถานการณ์ด้านพลังงานเลวร้ายลง Tavanir ได้เริ่มสั่งปิดศูนย์การขุด crypto ที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนและปกป้องเครือข่ายระดับชาติ

ตามรายงานของ Tavanir มีการยึดอุปกรณ์ขุดมากกว่า 212,373 เครื่องในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยในรายงานดังกล่าวระบุว่าอุปกรณ์เหล่านั้นสร้างความเสียหายไม่น้อยกว่า 180 ล้านล้านเรียล ต่อระบบสาธารณูปโภคและอุปกรณ์จ่ายพลังงานของประเทศ
#3214


ซิสโก้ควงบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป สำรวจกลยุทธ์การปรับใช้คลาวด์ และความจำเป็นขององค์กรในการใช้คลาวด์ที่หลากหลาย พบองค์กรในเอเชียแปซิฟิกกำลังสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยใช้เทคโนโลยี "คลาวด์แห่งอนาคต" โดยแต่ละองค์กรมีการกำหนด Cloud Journey ที่แตกต่างเพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจ

นาวีน เมนอน ประธานประจำภูมิภาคอาเซียนของซิสโก้ กล่าวว่าซิสโก้นำเสนอโซลูชั่นที่ใช้ได้กับทุกระบบคลาวด์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทคโนโลยีคลาวด์ ด้วยระบบการตรวจสอบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของซิสโก้ ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและจัดการโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชันได้อย่างครบวงจร เชื่อมต่ออย่างปลอดภัย พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับในอนาคต

"การลงทุนด้านคลาวด์จะยังคงเป็นวาระสำคัญที่ต้องพิจารณาในการประชุมของผู้บริหารองค์กร ขณะที่องค์กรต่างๆ ดำเนินการออกแบบและพัฒนาระบบคลาวด์เพื่อรองรับอนาคต"

รายงานเกี่ยวกับอนาคตของคลาวด์ในเอเชีย-แปซิฟิก (The Future of Cloud in Asia Pacific) ของซิสโก้และบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป (Boston Consulting Group - BCG) ชี้ว่าองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้ความสนใจในนวัตกรรมคลาวด์เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้องค์กรเพิ่มความรวดเร็ว ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการดำเนินงานโดยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างฉับไว

รายงานนี้สอดคล้องกับตัวเลขการใช้จ่ายงบประมาณโดยรวมสำหรับเทคโนโลยีคลาวด์ในภูมิภาคนี้ที่คาดว่าจะสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2567 ตามข้อมูลจากการ์ทเนอร์ โดยการลงทุนในระบบคลาวด์มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 20% ต่อปีนับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา นอกจากนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในสามประเทศในเอเชีย-แปซิฟิกที่มียอดใช้จ่ายด้านไอทีโดยรวมสูงสุด โดยครอบคลุมทั้งในส่วนของแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม โครงสร้างพื้นฐาน และบริการ ในส่วนของภูมิภาคอาเซียน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จัดอยู่ในกลุ่มผู้นำในแง่การเติบโตของการใช้จ่ายด้านคลาวด์ โดยอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 25% ต่อปีภายในปี 2567

ข้อมูลจากรายงานดังกล่าวยังระบุถึงแนวทางที่องค์กรต่างๆ ในภูมิภาคนี้ใช้ประโยชน์จากพับบลิคคลาวด์ ไพรเวทคลาวด์ และไฮบริดคลาวด์ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สอดรับกับความต้องการด้านธุรกิจ การดำเนินงาน และดิจิทัล รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น กฎระเบียบ ความเสี่ยง การขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอื่นๆ และความต้องการด้านข้อมูล ทั้งนี้ ความท้าทายที่สำคัญสำหรับองค์กรในยุคดิจิทัลปัจจุบันก็คือ 'ความเข้าใจในการจัดการการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบคลาวด์ในลักษณะที่ราบรื่น ไร้รอยต่อ และปลอดภัย'

พราซานนา สันฐานาม กรรมการผู้จัดการและหุ้นส่วนของบอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป, สิงคโปร์ กล่าวว่าไม่มีโซลูชั่นแบบ one-size-fits-all สำหรับโรดแมปของคลาวด์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจและไอทีจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับนวัตกรรมคลาวด์ที่หลากหลายและซับซ้อน รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับ ความท้าทายและความเสี่ยงของแต่ละแนวทางทั้งในระยะกลางและระยะยาว

"ขณะที่องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการพลิกฟื้นธุรกิจให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในโลกวิถีใหม่ นวัตกรรมคลาวด์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการสร้างแผนธุรกิจที่ต่อเนื่องและยั่งยืน"



รายงานฉบับนี้จำแนกประเภทขององค์กร 5 ประเภท ตามระดับของ Cloud Journey ได้แก่ Digital Native, Cloud Optimizer, Cloud Pragmatist, Cautious Adopter และ Cloud Onlooker พร้อมระบุถึงคุณลักษณะขององค์กรแต่ละประเภท รวมถึงข้อมูลวิเคราะห์ และบริบทที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ด้านคลาวด์ขององค์กรเหล่านี้ โดย Digital Native คือองค์กรที่เกิดขึ้นมาในยุคของเทคโนโลยีคลาวด์ และถูกสร้างขึ้นจากระบบคลาวด์ตั้งแต่แรกเริ่ม เทคโนโลยีคลาวด์ถูกผสานรวมเข้ากับธุรกิจอย่างกลมกลืน ขณะที่ธุรกิจถูกขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นดิจิทัล และระบบคลาวด์เป็นหลัก พับบลิคคลาวด์คือตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรเหล่านี้ และเทคโนโลยีคลาวด์ทำให้องค์กรสามารถตอบสนองได้อย่างฉับไวต่อสถานการณ์ทางด้านธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และมีความคล่องตัวในการดำเนินงานในระดับที่ดีเยี่ยม

สำหรับ Cloud Optimizer องค์กรเหล่านี้จัดอยู่ในระดับแถวหน้าในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยมีการเปลี่ยนย้ายจากระบบรุ่นเก่าที่ล้าสมัยไปสู่ระบบคลาวด์ องค์กรประเภทนี้มีระบบคลาวด์ที่ทันสมัย และมักปรับใช้แนวทางที่มุ่งเน้นระบบคลาวด์สาธารณะ หรือพับบลิคคลาวด์เป็นหลัก

ขณะที่ Cloud Pragmatist เป็นองค์กรที่มีการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ แต่โดยทั่วไปแล้วจะเลือกใช้ระบบคลาวด์ภายในองค์กรหรือไพรเวทคลาวด์มากกว่าระบบคลาวด์สาธารณะหรือพับบลิคคลาวด์ เนื่องจากมีข้อกังวลใจเรื่องข้อมูลและเวิร์กโหลด นอกจากนี้ เนื่องจากองค์กรให้ความสำคัญต่อการควบคุมข้อมูล ความเสี่ยง และค่าใช้จ่าย ดังนั้นระบบคลาวด์สาธารณะหรือพับบลิคคลาวด์จึงถูกใช้งานในขอบเขตที่จำกัดสำหรับเวิร์กโหลดที่ไม่ค่อยมีความสำคัญต่อธุรกิจ ขณะที่ระบบคลาวด์ภายในองค์กรหรือไพรเวทคลาวด์รองรับเวิร์กโหลดสำคัญๆ

ด้าน Cautious Adopter เป็นองค์กรที่สวนทางกับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น เพราะองค์กรเหล่านี้ยังคงปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพียงแค่ในระดับของโครงการเท่านั้น และไม่ได้กำหนดกลยุทธ์สำหรับการใช้งานระบบคลาวด์ทั่วทั้งองค์กร ผู้บริหารยังขาดความเข้าใจในเรื่องประโยชน์ของเทคโนโลยีคลาวด์ ดังนั้นจึงไม่มีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนในเรื่องการพัฒนาสู่ระบบคลาวด์

สุดท้ายคือ Cloud Onlooker องค์กรเหล่านี้ไม่ได้พิจารณาถึงการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อรองรับเป้าหมายทางธุรกิจ แต่มองว่าเป็นเพียงแค่รูปแบบหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และไม่มีแผนงานที่เป็นรูปธรรมสำหรับการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโมเดลธุรกิจและกลยุทธ์การดำเนินงาน แต่ผู้บริหารอาจริเริ่มการใช้งานโซลูชั่นคลาวด์แบบแยกส่วน หากเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับ

จากข้อมูลการจำแนกประเภทขององค์กรตามที่ระบุข้างต้น รายงานฉบับนี้ได้นำเสนอเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้บริหารองค์กรธุรกิจกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับ cloud journey ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นคือขั้นเริ่มต้นที่อาจมีการปรับใช้ในลักษณะเฉพาะกิจ ขั้นทดลองที่จะมีการใช้ประโยชน์จากระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขั้นขยายขอบเขตที่เริ่มมีการใช้ระบบคลาวด์ที่บูรณาการเข้ากับระบบหลักของธุรกิจ และขั้นที่ 4 คือดำเนินการในขอบเขตที่กว้างขวาง
#3215


มหกรรมกีฬา 'พาราลิมปิก โตเกียว 2020' จะเปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ค่ำวันที่ 24 สิงหาคม นี้ โดย สมเด็จพระจักรพรรดิ นารุฮิโตะ เสด็จเป็นประธานพิธีเปิด ณ โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค 'โควิด-19' มีผู้ชมเข้าสนามได้ 75 คน

ขณะที่พิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 พิธีเปิดการแข่งขันนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิ นารุฮิโตะ ได้เสด็จเป็นประธานพิธี พร้อมด้วย โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)  และ แอนดรูว พาร์สัน ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (ไอพีซี)  ซึ่งกำหนดการเริ่มจากสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ได้ประกาศถ้อยคำแถลงการแข่งขัน 'พาราลิมปิก โตเกียว 2020' โดยทางญี่ปุ่น และไอพีซี นำเสนอรูปแบบพิธีเปิดแสดงถึง 'การก้าวไปข้างหน้าด้วยกันด้วยปีกของเรา' เป็นการสร้างจิตสำนึกในความกล้าหาญของนักกีฬาพาราลิมปิกที่พยายามจะกางปีกไม่ว่าลมจะพัดไปทางไหน

ต่อด้วยการแสดงของทางเจ้าภาพที่เน้นสื่อความหมายถึงการจับมือกันของมวลหมู่ชาติสมาชิกพาราลิมปิกเกมส์ การให้เกียรติ และความกล้าหาญของนักกีฬา ความสามัคคีกันโดยใช้ดนตรีเป็นสื่อถึงเสียงของความปรองดอง สมานฉันท์ ภายใต้คอนเซปต์ 'หลากทำนองสอดประสาน'

จากนั้นเข้าสู่ขบวนพาเหรดของทัพนักกีฬาจาก 183 ประเทศเข้าสู่สนาม โดยทัพนักกีฬาไทย เดินเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 91 มี พล.ต.โอสถ ภาวิไล หัวหน้าคณะนักกีฬาพาราลิมปิกไทย นำขบวน และมี 'กร' พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งเจ้าของ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน พาราลิมปิกเกมส์ 2016 วัย 25 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น และ 'นก' สุบิน ทิพย์มะณี นักกีฬาบอคเซียเจ้าของเหรียญทองประเภททีมบีซี 1-2 พาราลิมปิกเกมส์ 2016 ร่วมกันถือธงไตรรงค์นำคณะนักกีฬาไทยเข้าสู่สนามเพื่อแสดงออกถึงความเท่าเทียมกันทางเพศ

ช่วงสุดท้ายนักกีฬาทุกชาติร่วมกันประกาศสัตยาบันร่วมกันให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ความสามัคคีกัน รักใคร่ปรองดอง ก่อนที่จะมีพิธีจุดไฟในกระถางคบเพลิงซึ่งเจ้าภาพเน้นเรียบง่าย และปิดท้ายที่การจุดพลุไฟเฉลิมฉลองเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
#3216


สมาพันธ์ฟุต.ยุโรป หรือ 'ยูฟ่า' มอบรางวัลเกียรติยศให้กับ ซิมง เคียร์ กองหลังกัปตันทีมชาติเดนมาร์ และทีมแพทย์ หลังสามารถช่วยชีวิตของ คริสเตียน อิริคเซ่น ในศึกยูโร 2020 ที่ผ่านมา

คริสเตียน อิริคเซ่น จอมทัพของทีม 'โคนม' มีอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนล้มฟุบลงไปแบบสุดช็อก ในเกมที่ เดนมาร์ก พบกับ ฟินแลนด์ แต่ด้วยการช่วยเหลือของ เคียร์ และทีมแพทย์คนอื่นๆ ทำให้เขากลับมามีสติได้อีกครั้ง

โดย เคียร์ ได้รับรางวัลจากการกระทำ และความเป็นผู้นำ หลังจัดร่างกาย อิริคเซ่น ให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม และเริ่มปั้มหัวใจเป็นคนแรก พร้อมนำผู้เล่นคนอื่นๆ มายืนบังเพื่อไม่ให้ภาพของเจ้าตัวที่มีสภาพไม่ค่อยดีนั้นหลุดออกไป

ขณะที่ทีมแพทย์ของเดนมาร์ก 2 คน ได้แก่ มอร์เท่น โชลดาเกอร์ และมอร์เท่น โบเซ่น รวมถึงแพทย์ประจำสนาม อย่าง โมเกนส์ ครอยท์เฟลด์ท, เฟรเดริค เฟลนสเตด, อันเดอร์ส โบเซ่น, เปเดอร์ เออร์สการ์ด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของยูฟ่า ก็จะได้รับรางวัลด้วยเช่นกัน
#3217


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ส.ค.2564

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้อัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮลในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการแสดงมุมมองเศรษฐกิจของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,335.71 จุด เพิ่มขึ้น 215.63 จุด หรือ +0.61% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,479.53 จุด เพิ่มขึ้น 37.86 จุด หรือ +0.85% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,942.65 จุด เพิ่มขึ้น 227.99 จุด หรือ +1.55%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมัน เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 471.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.08 จุด หรือ +0.66%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,683.10 จุด เพิ่มขึ้น 56.99 จุด หรือ +0.86%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,852.79 จุด เพิ่มขึ้น 44.75 จุด หรือ +0.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,109.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.12 จุด หรือ +0.30%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ที่พุ่งขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,109.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.12 จุด หรือ +0.30%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. พุ่งขึ้น 3.50 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ 65.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ต.ค. พุ่งขึ้น 3.57 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 68.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอเวลาการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 22.3 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 1,806.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 54.4 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 23.656 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,014.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย. พุ่งขึ้น 108.60 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 2,385.10 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังมีรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ ชะลอลงในเดือน ส.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนลดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.58% แตะที่ 92.9582 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.68 เยน จากระดับ 109.80 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9124 ฟรังก์ จากระดับ 0.9176 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2645 ดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2844 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1748 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1695 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3729 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3622 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7216 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7136 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 35,335.71 จุด เพิ่มขึ้น 215.63 จุด, +0.61%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,479.53 จุด เพิ่มขึ้น 37.86 จุด, +0.85%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,942.65 จุด เพิ่มขึ้น 227.99 จุด, +1.55%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,109.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.12 จุด, +0.30%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,683.10 จุด เพิ่มขึ้น 56.99 จุด, +0.86%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,852.79 จุด เพิ่มขึ้น 44.75 จุด, +0.28%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 55,555.79 จุด เพิ่มขึ้น 226.47 จุด, +0.41%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,109.83 จุด เพิ่มขึ้น 79.06 จุด, +1.31%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,522.43 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด, +0.29%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,591.67 จุด ลดลง 41.55 จุด, -0.63%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,087.56 จุด ลดลง 15.19 จุด, -0.49%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,109.59 จุด เพิ่มขึ้น 259.87 จุด, +1.05%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,477.13 จุด เพิ่มขึ้น 49.80 จุด, +1.45%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,741.84 จุด เพิ่มขึ้น 399.90 จุด, +2.45%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 3,090.21 จุด เพิ่มขึ้น 29.70 จุด, +0.97%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,494.24 จุด เพิ่มขึ้น 480.99 จุด, +1.78%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,489.90 จุด เพิ่มขึ้น 29.00 จุด, +0.39%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,761.10 จุด เพิ่มขึ้น 36.00 จุด, +0.47%
#3218
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ร้านอาหารดังย่านบางปลา 33 มั่นใจอาหารสดใหม่ สะอาดปลอดภัย

ด้วยรสชาติอาหารเป็นเอกลักษณ์ต้นฉบับฮาลาลแท้ ๆ ที่ไม่ว่าใครได้กินก็ต้องติดใจ อร่อยกลมกล่อม เข้มข้นเข้าถึงเครื่องเทศ หลากหลายด้วยเมนูมากกว่า 100 เมนู!
เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เราจึงใส่ใจเลือกวัตถุดิบสดใหม่ทุกวันให้ลูกค้าได้รับอาหารที่ดีมีประโยชน์ และได้อาหารถูกสุขอนามัยเป็นอย่างดี ชาวมุสลิมสบายได้ไม่ต้องกังวลด้วยกรรมวิธีการทำอาหารแบบฮาลาลแท้ 
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีเมนูมากมายกว่า 100 เมนู!! เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เราก็มีพร้อมทุกเมนู อร่อยลงตัวได้อย่างไม่ซ้ำ เมนูครบจบได้ในร้านเดียว 
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ขอแนะนำ! เมนูเด็ดสุดเฉพาะของทางร้านเรา 
- กะเพราเนื้อเปื่อย 
- กะเพราลูกชิ้นปลา 
- กะเพราเนื้อสับ  
- สุกี้แห้งเนื้อเปื่อย 
- ต้มยำเนื้อเปื่อยน้ำข้น 
- กะเพราปลากระป๋อง  
- ต้มยำปลากระป๋องน้ำข้น
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้เลือกตามสั่ง โดยที่"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม"  จะมีบริการทั้งไก่ กุ้ง หมึก เครื่องในไก่  และเนื้อเปื่อย เนื้อสด เช่น
- กะเพราปลาหมึก
- ผัดพริกสดเนื้อ
- กะเพราเครื่องในไก่
- ผัดเขียวหวานเนื้อ
- ลูกชิ้นปลาผัดพริกแกงใต้
- เนื้อผัดขิง
- ผัดพริกแกงเนื้อเปื่อยใส่หน่อไม้เหลือง
คุ้มค่า คุ้มราคา กับ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เริ่มต้นราคาตั้งแต่ 30 บาทเท่านั้น 
ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคาเพียง 30 บาท, ข้าวราดแกง 2 อย่าง ราคา 35 บาทเท่านั้น
ราคาอาหารตามสั่งกล่องละ 40 บาท ใส่ไข่ดาว 45 บาท
ได้อาหารปรุงสุก สดใหม่ รสชาติอร่อยมีคุณภาพในราตาย่อมเยา บริการจัดส่งถึงที่ไม่ต้องเดินทางมาเอง สามารถสั่งผ่านบริการ Food Delivery ผ่านแอปพริเคชันต่าง ๆ 
.
ทำไม "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" จึงได้รับความนิยม
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เป็นอาหารสไตล์ฮาลาลเน้นรสชาติดั่งเดิมที่ผสมผสานอย่างลงตัวให้เข้ากับยุคสมัย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแค่เน้นเรื่องความกลมกล่อม อร่อยลงตัว แต่เรายังใส่ใจเรื่องความสด สะอาด และความปลอดภัยในการบริโภคเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีเมนูมากกว่า 100 เมนูสำหรับอาหาร และเครื่องดื่ม ทำให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนเมนูไปในแต่ละวันได้อย่างไม่ซ้ำกัน อีกทั้งการบริการของ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ที่ใส่ใจลูกค้าเหมือนคนในครอบครัว เรายินดีรับคำติชมเพื่อปรับปรุงและพัฒนา "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" ของเราอยู่เสมอ รับรองมาที่นี่ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน
.
สะอาด ปลอดภัย กับ "ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม"
"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เราคัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ ทำให้มั่นใจเรื่องความสะอาดตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งเพิ่มกรรมวิธีการปรุงอาหารให้ปลอดภัยมากขึ้นด้วยการป้องกันตัวเมื่อต้องประกอบอาหาร และเลี่ยงการสัมผัสอาหารปรุงสุกสดใหม่ก่อนถึงมือลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้อาหารที่ยังคงความอร่อยตามฉบับ"ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม" เช่นเดิม และมีความปลอดภัยในการบริโภคได้เป็นอย่างดีแน่นอน การันตีมาตรฐานคุณภาพดีไม่มีตก ไม่ว่าจะสั่งกินผ่านทางร้านหรือ Food Delivery
.
เวลาทำการ: เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 06.30-17.00
ข้อมูลติดต่อติดต่อสอบถาม: ครัวแชวังร้านข้าวแกงอิสลาม
โทรสายตรง: 087 773 1191, 0846669757 ,0867843638
ที่ตั้ง: จังหวัดสมุทรปราการ ถนนเทพารักษ์กิโล16 บริเวณร้านจะอยู่บางปลา33
Google map: https://g.co/kgs/wcYpd8
id Line   http://line.me/ti/p/~jurassichunters36
.
สั่งอาหาร Online Delivery! 
Grab:  https://bit.ly/3r3Gd4D
Line man:  https://wongn.ai/5bo5
Robinhood:  https://shorturl.asia/a3G2b
Foodpanda   https://shorturl.asia/OwQ3m


























#3219


นายธนพล ประภาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ปตท.(PTT)เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ และราคาปิโตรเคมีทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังที่เหลือของปี 2564 โดยได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้ ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น เพราะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ภายหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง และจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้รายได้ปี 2564 เติบโต จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1.6 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้คาดราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 63-68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ซึ่งบริษัทมีการประเมินความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเพิ่มกำลังผลิตของกลุ่มโอเปคพลัส และกำลังผลิตจากสหรัฐและอิหร่านที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้


นอกจากนี้ บริษัทยังมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจปตท. ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ คาดว่าความต้องการใช้จะเพิ่มขึ้น 1% จากปี 2563 และคาดว่าความต้องการใช้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.1% ขณะที่อัตรากำลังการผลิต (Utilization Rate) ของโรงแยกก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 92-94% จากปีก่อนที่ 88% ธุรกิจสำรวจและผลิต คาดว่าราคาขายจะปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้น รวมถึงยอดขายคาดว่าจะเติบโต 16% จากการเข้าลงทุนโครงการโอมาน บล็อก 61 ขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยคาดว่าจะลดลง 5%

ธุรกิจน้ำมัน แม้ว่าปี 2564 จะยังถูกผลกระทบจากโควิด-19 แต่บริษัทยังขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 140 สถานี สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) 100 สถานี และคาเฟ่อเมซอน 471 แห่ง ธุรกิจโรงกลั่น คาดว่า Utilization Rate จะทรงตัวอยู่ที่ 95-97% แต่คาดการณ์ค่าการกลั่นจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2-2.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนธุรกิจไฟฟ้าได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 4.5%

นายธนพล กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 บริษัทเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่ 5 ในไตรมาส 3 ปี 2564 และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก RA6 - ราชบุรี ในเดือน ก.ย. ขณะที่บริษัทในเครือ ได้แก่ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) คาดจะเปิดดำเนินการโรงงานเบเกอรี่ส่วนกลางในเดือน ก.ย.,บมจ.พีทีที โกล. เคมิคอล (PTTGC) คาดว่าโรงงานพลาสติกเรซิ่นคุณภาพสูงจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4 ปี 2564 ,บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) คาดโรงงานผลิตผ้าไม่ถักทอ (Non-woven Fabric) จะเริ่มผลิตเดือน ธ.ค. และ บมจ.โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) คาด COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศอินเดียภายในปี 2564
#3220


ในขณะที่คนไทยกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ปัจจัยหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้าม แต่มีส่วนช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของวัคซีน โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ก็คือ การมีโภชนาการที่ดีและการออกกำลังกาย และนี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ในการสร้างลักษณะนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ

1.โภชนาการที่ดีคือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย การมีโภชนาการที่ดีและเหมาะสม เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ซึ่งสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น วิตามินซี สังกะสี วิตามินดี วิตามินเอ และวิตามินอี จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อให้รับมือกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสหรือการได้รับวัคซีนได้ดียิ่งขึ้น และขณะที่เรามีอายุเพิ่มขึ้น ภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหารหรือพลังงานในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้ภูมิต้านทานลดลง เราจึงควรหันมาใส่ใจด้านโภชนาการอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงวัยของชีวิต



2.การออกกำลังกายช่วยส่งเสริมระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย การเคลื่อนไหวร่างกายทำให้สุขภาพดีขึ้นและส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การตอบสนองต่อวัคซีนของผู้สูงอายุดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจมีส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ให้ตอบสนองต่อวัคซีนได้ดียิ่งขึ้น

3.ภาวะทุพโภชนาการส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย และอาจมีผลกับการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อวัคซีน

ภาวะทุพโภชนาการ คือภาวะที่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ที่มีน้ำหนักต่ำกว่า หรือสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยกลุ่มของผู้สูงอายุมากกว่าครึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะทุพโภชนาการหรือการขาดสารอาหาร ซึ่งอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของวัคซีนในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันลดลง ภาวะขาดสารอาหารยังสามารถส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำว่า การแก้ไขภาวะขาดสารอาหารอาจช่วยลดความเสื่อมถอยของระบบภูมิคุ้มกัน ที่อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและความรุนแรงของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น



แนวทางการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี

การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และยังไม่สายเกินไปหากเราจะเริ่มปรับพฤติกรรมการบริโภคตั้งแต่วันนี้ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานและความแข็งแรงของร่างกาย เริ่มต้นได้จากการรับประทานผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนมและไขมันดีเพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลัก ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลักที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ดังนี้

โปรตีน: โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างแอนติบอดีและเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน กรดอะมิโนบางชนิดที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน คือแหล่งพลังงานที่สำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผู้สูงอายุควรได้รับโปรตีนประมาณ 25-30 กรัมต่อมื้ออาหาร เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้นในระหว่างมื้ออาหาร



วิตามินและแร่ธาตุ: วิตามินและแร่ธาตุ คือสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อคงความแข็งแรง วิตามินเอและวิตามินดีมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นไปตามปกติ และจากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า วิตามินดีอาจมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ[7] นอกจากนี้ วิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ รวมถึงเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันจากความเสียหาย ในขณะที่สังกะสีมีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

โพรไบโอติกส์: แม้ไม่ใช่สารอาหารหลัก ทว่าโพรไบโอติกส์ หรือแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมของร่างกาย จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ ซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์อยู่ในนั้น

แม้ไม่มีรายงานว่าร่างกายคนเราต้องการโพรไบโอติกส์ในปริมาณเท่าไรในแต่ละวัน ทว่าการรับประทานอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ หรือผักผลไม้ดองในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มปริมาณโพรไบโอติกส์ให้กับร่างกาย



"โภชนาการที่ดีคือพื้นฐานของการมีสุขภาพที่แข็งแรง และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการคงความแข็งแรงของร่างกาย รวมทั้งมีส่วนช่วยในการปกป้องโรคและการฟื้นตัวของร่างกายจากความเจ็บป่วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ" นายแพทย์ไมเคิล หวัง ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ กลุ่มงานธุรกิจโภชนาการของแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า "การรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่สมดุล อาทิ โปรตีน ธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ขณะที่ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหาร หรืออาหารสูตรครบถ้วน ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเพียงพอในแต่ละวัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นและรับประทานง่าย จึงมีส่วนช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันได้"



ด้าน ดร.ภนิตา ศรีชมเชย นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ผู้จัดการศูนย์โภชนาการและการกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์ วิทยากรจากโครงการ Nutrition Expert ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ แนะนำว่า "โภชนาการที่ดีจะช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพของวัคซีนและช่วยลดความรุนแรงของอาการข้างเคียงจากการรับวัคซีน[8] นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ซึ่งการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ ได้แก่ การวิ่งเหยาะๆ การว่ายน้ำ การเดินในน้ำ มวยจีน หรือโยคะ เป็นต้น"

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงการออกกำลังกายแบบแรงต้าน สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกายได้ เช่น

- การเดินอย่างสม่ำเสมอ
- การออกกำลังกายที่เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น การกระโดด หรือ การบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าโดยการย่อขา
- การยกเวท หรือ การใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มแรงต้าน

วิธีง่ายๆ อย่างการให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดีและการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และอาจช่วยในการตอบสนองของร่างกายต่อวัคซีน ท่านยังสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ณ ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการได้แล้ววันนี้ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Nutrition Expert Program เพียงคลิก Abbott Nutrition Care