• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - fairya

#3161



วันที่ 26 ก.ค.64 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการรัฐในการบรรเทาปัญหาหนี้สินประชาชน และการเข้าถึงสภาพคล่องของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งในเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้การดำเนินการต้องครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการในภาคการเกษตรด้วย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้ออกมาตรการสินเชื่อ 2 โครงการ วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท

ผู้ว่าฯสมุทรสาครโพสต์ตัดพ้อ "ผมขออนุญาตพิจารณาตนเองออกจากผวจ."
คือ 1) โครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้แก่เกษตรกรหรือหรือบุคคลทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อการประกอบอาชีพเกษตร หรือลงทุนค้าขายที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ให้กู้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี ดอกเบี้ย 4% ต่อปีปลอดชำระต้นเงิน 2 ปีแรก และ 2) โครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน วงเงินรวม 6 หมื่นล้านบาท ปล่อยกู้ให้เกษตรกรหรือบุคคลทั่วไปที่มีทักษะและประสบการณ์ในการประกอบอาชีพนั้นๆ อาทิ กลุ่ม Smart Farmer เพื่อมีเงินไปฟื้นฟูหรือต่อยอดธุรกิจ ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะเวลาชำระคืน ไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปีแรก


สำหรับการพักชำระหนี้ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือแก่ลูกค้าเกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ และสถาบันเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย เป็นการพักชําระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ถึงกําหนดชําระอย่างน้อย 2 เดือน นับจากงวดชําระเดิม ทั้งนี้ แนวทางการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับการได้รับผลกระทบและศักยภาพของลูกค้า ผู้สนใจแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมโครงการได้ผ่านช่องทาง LINE Official : BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. – 15 ส.ค.นี้ และสำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล 19 ก.ค. -15 ธ.ค. ปีนี้เช่นกัน

คู่ขนานไปกับสองมาตรการดังกล่าว น.ส.รัชดา กล่าวเพิ่มว่า กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ได้จัดโครงการ "บังคับคดีร่วมใจไกล่เกลี่ยช่วยเหลือเกษตกรถูกยึดทรัพย์จำนอง" เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ และเป็นธรรม ผู้ไกล่เกลี่ยกรมบังคับคดีเป็นคนกลางในการเจรจา โดยเจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้ และลูกหนี้ก็สามารถชำระหนี้ได้เช่นกัน ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ หรือนำไปขายทอดตลาดในที่สุด โครงการนี้มีจนถึง 15 ก.ย.นี้ ในพื้นที่กทม. และสำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ

"รัฐบาลได้ออกมาตรการให้การช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มุ่งหวังให้ครอบคลุมกับประชนทุกกลุ่ม โดยพร้อมรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและภาคเอกชนเพื่อให้การขับเคลื่อนฟื้นตัวเป็นไปอย่างมีส่วนร่วมและตรงจุดให้มากที่สุด สำหรับการประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาถึงมาตรการลดค่าเทอมของนักเรียน-นักศึกษาทั้งสถาบันรัฐและเอกชน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนได้มาก" นางสาวรัชดา กล่าว
#3162



สุธาสินี เสวตรบุตร นักเทเบิลเทนนิสหญิง เอาชนะ เอลิซาเบตา ซามารา จาก โรมาเนีย 4-1 เกม เข้ารอบ 16 คนสุดท้าย ประเภทเดี่ยว โอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม

การแข่งขัน เทเบิล เทนนิส โอลิมปิก 2020 ณ สนาม โตเกียว เมโทรโปลิแทน ยิมเนเซียม ดำเนินมาถึงรอบ 3 ประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งมี 2 ตัวแทนของไทย สุธาสินี เสวตรบุตร กับ อรวรรณ พาระนัง ลงสนาม

ปรากฏว่า อรวรรณ วัย 24 ปี ต้านทาน คาซึมิ อิชิคาวา ดีกรีเหรียญเงิน ลอนดอน เกมส์ 2012 และเหรียญทองแดง ริโอ เกมส์ 2016 ไม่ไหว พ่ายไป 2-4 เกม 5-11, 11-5, 4-11, 11-6, 4-11 และ 8-11

ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง สุธาสินี เสวตรบุตร มือ 41 ของโลก ออกแรง 29 นาที ปราบ เอลิซาเบตา ซามารา จอมเก๋าวัย 32 ปี 11-7, 11-6, 4-11, 11-8 และ 11-2 ยืนรอผู้ชนะระหว่าง มิมะ อิโตะ มือ 3 ของโลก กับ หยู ฟู่ จาก โปรตุเกส
#3163



นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO)หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยความคืบหน้าธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ระลอกใหม่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ลูกค้าชะลอแผนการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปออกไปก่อน

"ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันลำบาก ไม่มีคนอยากจะลงทุน และหลายโรงงานก็มีปิดตัวลง ทำให้ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปยังไม่คืบหน้า ตอนนี้ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ในอนาคตยังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ และบริษัทยังไม่ล้มเลิกธุรกิจนี้แน่นอน เพียงแต่รอความพร้อมของลูกค้าที่ขอชะลอการติดตั้งออกไปก่อน"

ทั้งนี้บริษัทระบุว่ามีลูกค้าในมือแล้ว 40เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตการบริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแตะระดับ 200 เมกะวัตต์ใน 5 ปี โดยจะมุ่งเน้นเจาะตลาดในกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังคงเดินหน้าเร่งรัดขยายการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพการเติบโตมากกว่าแทน โดยเฉพาะการลงทุนในพลังงานทดแทน ที่จะเป็นส่วนของสำคัญของการพลังงานสะอาดที่มีอนาคตเติบโตอีกมาก โดยปรับเป้าหมายจะมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 30% จากเดิม 25% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม ภายในปี 2573 และอีก 75% จะเป็นกำลังการผลิตจากพลังงาน Conventional และธุรกิจใหม่ จากปัจจุบันสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอยู่ที่ 22-23% ของกำลังการผลิตทั้งหมด

ส่วนโอกาสปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนให้มากกว่า 30%คงต้องรอดูความชัดเจนจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP 2022) เนื่องจากปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศขณะนี้สูงถึง 40% การเติมพลังงานทดแทนช่วงดังกล่าวอาจยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟได้

ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,016 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 29 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,695 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายตามสัดส่วนการถือหุ้น 321 เมกะวัตต์
#3164


บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส ล็อตแรกจำนวน 150,000 กล่อง หรือ 750,000 ชุด ได้รับการจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งกระจายส่งร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว หวังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลงได้ ซึ่งชุดตรวจแบบโฮมยูสนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการแยกกักตัวตนเองจากครอบครัว และผู้ใกล้ชิดได้อย่างทันท่วงที ก่อนเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป
 
 
นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าขณะนี้ บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียน ชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส (Home Use) จาก อย. ไทยแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศในร้านขายยาและสถานพยาบาล ได้ราวต้นเดือนสิงหาคม นอกจากนี้  ปัจจุบัน บริษัทฯ ยังมีชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดแบบแรพิด  แอนติเจน เทสต์ (Professional Use) ซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียน อย. ภายในประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้วเช่นกัน และอนุญาตให้ใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพ และบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น 
 

"ขณะนี้ เราได้วางแผนการนำเข้าชุดตรวจโควิด 19 ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรก ที่จัดส่งถึงประเทศไทยแล้วมีจำนวน 150,000 กล่อง หรือ 750,000 ชุดตรวจ โดยในหนึ่งกล่องจะประกอบไปด้วยเทสต์ตรวจ 5 ชุด สำหรับให้แต่ละครอบครัวสามารถใช้ตรวจกันเองได้ คาดว่าน่าจะมีวางจำหน่ายในร้านขายยา และสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตเร็วที่สุดคือต้นสัปดาห์หน้า หรือช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 นี้แน่นอน และจะมีการนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษารายละเอียดการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งที่กล่องชุดตรวจโควิด 19 แบบโฮมยูส จะมีฉลากภาษาไทยติดกำกับพร้อม QR Code สำหรับชมวิธีการใช้อย่างชัดเจน"
#3165


ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ในปัจจุบัน ถือเป็นภาวะวิกฤตที่ทุกประเทศในโลก ต้องจัดหาวัคซีน และยารักษา เป็นอันดับสำคัญ ถือเป็นการก้าวเท้าซ้ายขวาที่ต้องเดินไปพร้อมกัน โดยต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนให้รวดเร็ว และครอบคลุมมากที่สุด ทั้งนี้ เมื่อความต้องการวัคซีนทั่วโลกมีสูง การจัดซื้อวัคซีนต้องใช้กระบวนการในภาวะฉุกเฉินแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) เท่านั้น ย้ำว่า เอกชนไม่สามารถจัดซื้อโดยตรงได้ แม้กระทั่งวัคซีนทางเลือกก็ต้องให้ภาครัฐเป็นตัวกลางในการจัดซื้อ ดังนั้นภาครัฐถือว่า เป็นแกนหลักในการจัดหาและบริหารวัคซีนที่ต้องคล่องตัวและโปร่งใส โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต ประชาชนเกิดความสับสนและลังเล ดังนั้น ภาครัฐจึงต้องเปิดแผนว่า รัฐจัดหาวัคซีนตัวไหนมาเมื่อไร ใครจะได้ฉีดก่อนหลัง เพื่อให้ประชาชนสบายใจ และเกิดความเชื่อมั่น

วันนี้ (25 ก.ค.)ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงสูงขึ้นไปถึง 15,335 คน และยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 129 คน การจัดหาวัคซีนทั่วโลก ถือเป็นความท้าทายของทุกประเทศ ในขณะที่ประเทศไทยยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นหลายประการ อาทิ ประการแรก การจัดสรรวัคซีนของแอสตร้าเซเนกา ในปัจจุบันมีจำนวนแตกต่างจากที่รัฐคาดการณ์ไว้ โดยประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ทำจดหมายเปิดผนึก ชี้แจงวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทว่าจะส่งมอบให้ไทยได้เพียง 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ประการที่สอง ความต้องการวัคซีน mRNA มีมาก ทำให้ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนประเภทนี้ยังคงรอบนสภาวะความไม่แน่นอน และต้องการความมั่นใจจากภาครัฐในการจัดสรรวัคซีน และประการสุดท้าย การสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมจากประเทศจีน ทำให้ประชาชนบางส่วนอาจเกิดความไม่สบายใจว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ทำไมจึงสั่งวัคซีนซิโนแวคเพิ่มในจำนวนมากกว่าที่รัฐเคยประกาศไว้ ประเด็นเหล่านี้ รัฐควรชี้แจงให้ชัดเจน โปร่งใส



โดยที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้แถลงการณ์ไปแล้วหลายครั้ง ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคของรัฐบาล แต่เมื่อยังคงมีกระแสบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิด ทำให้ซีพี ต้องออกมายืนยันอีกครั้งว่า การจัดหาวัคซีนดังกล่าวเป็นไปภายใต้การพิจารณาของรัฐบาล และเป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ โดย เครือซีพีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งทางตรงและทางอ้อม ยืนยันตามแถลงการณ์เดิมว่า เห็นด้วยต่อการนำเข้าวัคซีนที่หลากหลาย

ทั้งนี้ล่าสุดเครือซีพี ได้ใช้งบประมาณของบริษัทจัดหาวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มาจัดฉีดให้กับพนักงานด่านหน้า และในอนาคตหากมีการนำเข้าวัคซีนประเภท mRNA เข้ามาในประเทศไทย ซีพีก็พร้อมจัดซื้อวัคซีนประเภท mRNA วัคซีน Viral Vector และวัคซีนแบบเชื้อตาย จากผู้นำเข้า เพื่อมาเสริมให้กับพนักงานตามความมั่นใจของพนักงานเช่นเดียวกัน
#3166


นักวิจัย มหาวิทยาลัยศิลปากร นำนวัตกรรมระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ "พาราโบลาโดม" แก้ปัญหาและเพิ่มมูลค่าการผลิตเมล็ดกาแฟอบแห้ง วิสาหกิจชุมชน จ.แม่ฮ่องสอน โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สามารถใช้งานบนพื้นที่สูงอย่างมีประสิทธิภาพ

การอบแห้งเมล็ดกาแฟของเกษตรกรบนพื้นที่สูงทางภาคเหนือ นิยมใช้วิธีการตากแห้งแบบดั้งเดิม จึงประสบปัญหาเรื่องฝนตก แมลงรบกวน ขนาดพื้นที่ที่จำกัดและระยะเวลาการตากแห้งหลายสิบวัน จนเกิดเชื้อรา ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำ ขายได้ราคาถูก ซึ่งในแต่ละปีจะมีผลผลิตเมล็ดกาแฟเกิดขึ้นในพื้นที่จำนวนมาก


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรากรณ์ มหาโยธี ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย จากมหาวิทยาลัยศิลปากร เล่าว่า พาราโบลาโดม ถูกใช้อย่างกว้างขวางกับผลิตภัณฑ์อบแห้งหลากหลายชนิด สำหรับการอบแห้งเมล็ดกาแฟ นักวิจัยได้ใช้พาราโบลาโดมมาตรฐานขนาดเล็ก ขนาดพื้นที่ฐาน 6.0 x 8.2 ตร.ม. และพาราโบลาโดมขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่จำกัดบนดอย คือ ขนาดพื้นที่ฐาน 3.0 x 6.2 ตร.ม. ติดตั้งใน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านห้วยไม้ดำ กลุ่มเกษตรกรบ้านหนองขาวกลาง และวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบ้านหนองขาวเหนือ ตำบลห้วยปูลิง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาและต่อยอดผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟได้ดี



"จุดเด่น คือ ได้ผลลัพธ์ของกาแฟอาราบิกาคุณภาพพิเศษ ที่เรียกว่า Honey Process และใช้เวลาอบแห้งเพียงแค่ 3 วัน ลดลงจากเดิมถึง 3 เท่า สามารถรักษารสชาติของกาแฟไว้ได้เป็นอย่างดี และขายได้ในราคาที่สูงกว่าเดิมหลายเท่า เป็นการส่งเสริมเกษตรกรที่ปลูกกาแฟแบบ Shade-Grown Coffee ซึ่งเป็นการทำเกษตรแบบอนุรักษ์ป่าอีกทางหนึ่ง นวัตกรรมมีกระบวนการไม่ซับซ้อน ตามแบบนวัตวิถี เหมาะต่อการใช้งานของเกษตรกร โดยวางเป้าหมายการขยายผล ด้านการเผยแพร่ความรู้ไปยังเกษตรกรบนพื้นที่สูงมากยิ่งขึ้น หากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ก็จะสามารถร่วมกันอบรมต่อยอดนวัตกรรมนี้ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ เกษตรกรเกิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์อื่นตามมา เกิด Local Enterprise และการซื้อขายที่เป็นธรรมต่อเกษตรกร สร้างโมเดลภาคธุรกิจชุมชนที่มั่นคงต่อไป"ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุศรากรณ์ กล่าว

ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ มีโครงสร้างแบบเรือนกระจก (Greenhouse) เป็นรูปพาราโบลา ปิดคลุมด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนต เพื่อให้เกิดหลักการเรือนกระจก คือ เมื่อรังสีดวงอาทิตย์ผ่านแผ่นโพลีคาร์บอเนต ไปยังผลิตภัณฑ์ในชั้นวาง บางส่วนจะตกกระทบพื้นของระบบอบแห้ง ทำให้ภายในระบบอบแห้ง มีอุณหภูมิสูงขึ้น รังสีอินฟราเรดในแสงแดดถูกเก็บกักไว้ภายในระบบอบแห้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านแผ่นโพลีคาร์บอเนตออกไปได้ อุณหภูมิภายในระบบจึงสูงขึ้น น้ำในผลิตภัณฑ์จะระเหยออกมา และถูกพัดลมดูดอากาศด้านหลังของระบบดูดออกไปภายนอก อากาศภายนอกจะไหลเข้ามาแทนที่ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์แห้งเร็วกว่าการตากแดดตามธรรมชาติ ประหยัดเวลา ช่วยป้องกันฝนและแมลงรบกวน



ด้านดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า วช. มีนโยบายสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาของไทยพัฒนานวัตกรรมในด้านต่างๆ ปัจจุบันมหาวิทยาลัยหลายแห่งสามารถผลิตนวัตกรรมเพื่อตอบสนองการแก้ปัญหาด้านต่างๆ เช่น การแพทย์ การเกษตร สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ตามความเร่งด่วนของปัญหาที่เกิดขึ้น นวัตกรรมหลายประเภทสามารถผลิตออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ และอีกหลายโครงการเป็นการวางรากฐานงานวิจัยของไทยให้เกิดความเข้มแข็งในระยะยาวต่อไป เช่นเดียวกับ นวัตกรรมพาราโบลาโดมนี้ ที่ช่วยแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ให้กับวิสาหกิจชุมชนด้านการทำการเกษตร ซึ่งเป็นฐานรากทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอีกด้านหนึ่ง
#3167


สภากาชาดไทย ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง ขอความร่วมมือในการ แจ้งจองวัคซีนสําหรับฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มอื่นๆ โดยไม่คิดมูลค่า ตามแนวทางการบริหาร จัดการวัคซีนสําหรับประชาชนของสภากาชาดไทย โดยกําหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสั่งจองเข้ามายัง สํานักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย ภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 นั้น

สภากาชาดไทย ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งสิ้น 38 จังหวัดที่ดําเนินการ แจ้งการจองวัคซีนเข้ามายังสภากาชาดไทย ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด

นนทบุรี
ปทุมธานี
สมุทรปราการ
เชียงใหม่
ชลบุรี
ราชบุรี
อุดรธานี
สระบุรี
มหาสารคาม
สิงห์บุรี
ลําพูน
กระบี่
แพร่
สมุทรสาคร
เพชรบูรณ์
นครปฐม
ร้อยเอ็ด
นครนายก
พะเยา
กาฬสินธุ์
พระนครศรีอยุธยา
น่าน
นราธิวาส
ศรีสะเกษ
สุพรรณบุรี
อุทัยธานี
เชียงราย
สุโขทัย
อ่างทอง
ภูเก็ต
อุตรดิตถ์
มุกดาหาร
ตาก
ชุมพร
พังงา
ลพบุรี
สุรินทร์
ปัตตานี

ดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้ง 38 จังหวัด ได้นําเสนอแผนการฉีดวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมาย ที่สภากาชาดไทยกําหนด และผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัด รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดได้เซ็นกํากับรับรองส่งมายังสภากาชาดไทย เพื่อพิจารณาจัดสรรโควต้าวัคซีน พร้อมชําระเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ราคา 1,100 บาท/โดส) ซึ่งสภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคซีนให้ไป ดําเนินการฉีดให้แก่ประชาชน โดยไม่คิดมูลค่าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
#3168
 
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ https://web.facebook.com/porntaywa
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  
#3169


Team Thailand จะแข่งแล้ว มาร่วมกดอิโมจิ และส่งข้อความให้กำลังใจนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยทั้ง 2 คน ก่อนแข่งนัดสำคัญวันพรุ่งนี้  ในการแข่งขัน Olympic Games Tokyo 2020

มาร่วมแสดงความคิดเห็นเชิงบวก และส่งมอบกำลังใจก่อนแข่งไปถึงน้องๆ เพื่อเป็นกำลังใจและแรงผลักดันในการแข่งขัน เราจะไม่ปล่อยให้น้องๆต้องสู้เพียงลำพัง เพราะเราคือทีมเดียวกัน #TeamThailand

ติดตามการแข่งได้ตามวันและเวลาดังต่อไปนี้

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม 2564

น้องเทนนิส เริ่มแข่งเวลา 09.38 น. (เวลาไทย)

ฝ่ายหญิง รุ่น -49 กก. สนาม 1 คู่ที่ 8

คู่แข่ง (รอผลคู่ที่ 1)

น้องจูเนียร์ เริ่มแข่งเวลา 10.48 น. (เวลาไทย)

ฝ่ายชาย รุ่น -58 กก. สนาม 1 คู่ที่ 13

คู่แข่งจากประเทศออสเตรเลีย Khalil Safwan

ร่วมเชียร์และส่งกำลังใจให้กับน้องๆ พาชัยชนะกลับมาฝากคนไทยไปด้วยกัน ผ่านการถ่ายทอดสดทางทีวิดิจิตอล 2 ช่อง คือ GMM 25 และ JKN 18 และทางออนไลน์ AIS Play ช่อง 3

#Tokyoolympics #Olympics #Tokyo2020 #Taekwondo #TeamThailand #Thailand #Tokyo #TaekwondoAssociationofThailand #สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย
#3170
Metang Application คือแพลตฟอร์ม Affiliate eCommerce
สามารถสร้างรายได้ผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น

Metang แพลตฟอร์มของคนมีตังค์ สร้างรายได้ หลักแสน หลักล้าน
เร็วกว่าที่คุณคิด ไม่ต้องสปอนเซอร์ให้เจ็บคอ

แพลตฟอร์มจะขับเคลื่อน ด้วยแพลตฟอร์มในตัวของระบบเอง
เพียงแค่แชร์ลิ้งค์ออกไป

Metang มีตังค์ คืออะไร?
Metang คือ แพลตฟอร์ม Affiliate eCommerce ที่ผสมผสานระหว่าง Affiliate Marketing และ ธุรกิจ eCommerce อย่างลงตัว
เจ้าแรกของประเทศไทย ที่ตอบโจทย์ การสร้างรายได้ออนไลน์
ในยุค Covid-19 เหมาะกับปัจจุบัน

Affiliate eCommerce คืออะไร?
Affiliate eCommerce คือการที่เจ้าของธุรกิจทำการตลาดออนไลน์ โดยจะขายสินค้าหรือบริการผ่านตัวแทนโฆษณา หรือจะเรียกว่าตัวแทนการขาย หรือนักแอฟฟิลิเอทก็ได้ โดยตัวแทนเหล่านี้จะนำลิ้งค์สินค้าหรือลิ้งค์ร่วมธุรกิจ ไปโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆเช่น เว็บไซต์, blog, ไลน์, เฟสบุ๊ค, IG, tiktok หรือแฟนเพจของตัวเอง และหากมีลูกค้าสนใจ
คลิกลงทะเบียนและเข้าไปซื้อสินค้าหรือบริการผ่านลิ้งค์ของตัวแทน
หรือนักแอฟฟิลิเอท ตัวแทนหรือนักแอฟฟิลิเอทเหล่านั้น
ก็จะได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นตามที่ได้ตกลงกันไว้ในแพลตฟอร์ม
ช่องทางการหารายได้นี้ ในแพล็ตฟอร์ม Metang Platform เราเรียกว่า
นัก Affiliate eComerc โดยที่ไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง
ไม่ต้องทำการจัดส่งเองไม่ต้องสต็อกสินค้า
เพียงแค่โปรโมทหรือโฆษณาให้ลูกค้ามาสนใจซื้อสินค้าหรือบริการ
ผ่านลิ้งค์ Affiliate ของเราเท่านั้นเอง

แพลตฟอร์ม Affiliate eCommerce สามารถสร้างรายได้ผ่านสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น

สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

ลงทะเบียนฟรีเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ในกลุ่มปิดเปิดเผยชัดเจน
https://www.metang-solution.com/member/register.php...

รายละเอียดเพิ่มเติม https://web.facebook.com/richbyteerapat
#3171
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด

สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย

เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด

คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย

คาถามหาหลง

โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้งยืน หลงทั้งนั่ง หลงทั้งนอน สวาหะจับติด นะจับจิต โมจับใจ พุทจับไว้ ธาจดจำ ยะจำใส่จิต ติดไว้ใส่ใจ พระอิศวรนารายณ์ พระพาย พระภูมิ พระพรหมเจ้าที่ ครูปู่อยู่ถ้ำ สิทธิให้หลง...ติด

วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย

สอบถามเพิ่มเติม
ไลน์ไอดี teerapat999
โทร 0846623662

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก
https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.searchlist.list.1.54a9133d7TxmgS&search=1&freeshipping=1
#3172


เฮนรี่ ชิน หัวหน้าฝ่าย Investor Thought Leadership และหัวหน้าแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี เอเชียแปซิฟิก ซีบีอาร์อี เปิดเผยผลการสำรวจตลาดพื้นที่สำนักงานในย่านเอเชียแปซิฟิกปี 2564 พบว่า บริษัทที่เป็นผู้เช่าพื้นที่สำนักงานยังคงวางแผนจะขยายพื้นที่สำนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นในระยะยาว พร้อมกับเพิ่มความยืดหยุ่นและการทำงานแบบผสมผสานในรูปแบบใหม่ (Hybrid Working)มาใช้ โดยกลุ่มผู้เช่าในทุกธุรกิจประมาณ 50% ของผู้ตอบแบบสำรวจได้ส่งสัญญาณที่จะเพิ่มพื้นที่สำนักงานในพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ในอีก 3 ปีข้างหน้าจาก 23% ในเดือนต.ค. 2563

โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทในเอเชีย อาทิ กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยี และบริษัทด้านการลงทุนและประกันภัยบางแห่ง มีความต้องการขายพื้นที่ออฟฟิศสูง เช่นเดียวกับบริษัทข้ามชาติและการควบรวมสาขาต่างๆ ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น


ส่วนปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทต่างๆขยายพื้นที่เช่าเพิ่ม คือ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทั่วทั้งภูมิภาค โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 71% เชื่อว่าสภาวะตลาดในปัจจุบันกำลังดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ตอบแบบสำรวจในจีนและแปซิฟิกมีระดับความเชื่อมั่นสูงสุด ขณะที่อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย มีความเชื่อมั่นน้อยสุด

เนื่องจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ แต่การฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคจะทำให้ความเชื่อมั่นของบริษัทต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และพร้อมจะให้พนักงานกลับมาทำงานในสำนักงานมากกว่าทำงานจากที่บ้านทำให้การทำงานแบบไฮบริดจะกลายเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ได้เริ่มกำหนดนโยบายการทำงานนอกสำนักงาน โดยขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติหรือการอนุมัติของแต่ละบริษัท ทำให้หัวหน้างานสามารถกำหนดตารางการทำงานของทีมงานและความเหมาะสมในการทำงานนอกสำนักงานได้


นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทย การทดลองทำงานนอกสำนักงานในช่วงล็อกดาวน์ได้ก่อให้เกิดผลที่น่าพึงพอใจ ทำให้หลายบริษัทตั้งใจที่จะอนุญาตให้พนักงานทำงานนอกสำนักงานได้ ในทางกลับกัน ก็เป็นการกระตุ้นให้มีการหันกลับมาประเมินกลยุทธ์ด้านกำลังคนใหม่ และให้ความสำคัญกับเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่สำนักงาน แต่แทนที่จะลดทอนความต้องการพื้นที่สำนักงานอันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าจะมีการทำงานนอกสำนักงานมากขึ้น

"เชื่อว่าผู้เช่าจะยังคงต้องการสำนักงาน โดยที่สำนักงานได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้มีการจัดพื้นที่ทำงานมีความหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรูปแบบการทำงานของพนักงานที่แตกต่างกัน และทำให้สถานที่ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสนับสนุนการทำงานร่วมกัน การทำงานเป็นทีม การมีส่วนร่วมของพนักงาน และนวัตกรรมที่นำมาใช้"
#3173


"ประกันสังคม" เข้มมาตรการรัฐ ขอประชาชนงดเดินทางติดต่อตรง ต้องติดต่อรับสิทธิประกันสังคมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขสำคัญอะไรที่ต้องทำความเข้าใจ เช็ค!

ภายหลังสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศยังพุ่งสูงต่อเนื่อง ศบค. ประกาศยกระดับล็อกดาวน์ ให้ 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เพิ่มเติมคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่ง 3 จังหวัดดังกล่าวเคยถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 

ทั้งนี้คำประกาศศบค. เมื่อ 9 กรกฎาคม ได้ประกาศจังหวัดเขตสีแดงเข้ม แค่ 10 จังหวัด เท่านั้น ได้แก่  จังหวัดกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสงขลา ทำให้พื้นที่สีแดงเข้ม มียอดรวมจังหวัดทั้งสิ้น 13 จังหวัด และจำกัดการเดินทาง
ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม จึงขอความร่วมมือนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน งดการมาติดต่องานหรือทำธุรกรรม ณ สำนักงานประกันสังคมในช่วงนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ "SSO e-Service" หรือระบบออนไลน์ www.sso.go.th แทนนั้น

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมช่องทางการติดต่อ "ประกันสังคม" และดูขั้นตอนการกรอกข้อมูล และข้อควรรู้ต่างๆ ดังนี้


ติดต่อ "ประกันสังคม" ผ่านระบบ "SSO e-Service" หรือออนไลน์ www.sso.go.th 

กรณีผู้ประกันตน ขอรับประโยชน์ทดแทน

  • กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ว่างงาน และชราภาพ
  •  
  • สามารถรับแบบขอรับสิทธิประโยชน์ได้ที่ช่องทาง download แบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทนใน www.sso.go.th
  •  
  • ส่งแบบพร้อมเอกสารได้ที่ไปรษณีย์ลงทะเบียน (AR ตอบรับ) โทรสาร (Fax) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) แอพพลิเคชั่น (Line)
  •  
  • รายละเอียดของแต่ละหน่วยงานท่านสามารถเข้าดูได้ที่ www.sso.go.th
  •  
  • มีข้อสงสัยเกี่ยวกับงานประกันสังคมสามารถติดต่อสอบถามที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th
  •  
  • ผ่านช่องทาง E-mail : info@sso1506.com
  •  
  • Webboard (กระดานสนทนา) Live Chat
  •  
  • Facebook : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
กรณีนายจ้างขอทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

ให้นายจ้างเข้าช่องทาง e-Service ในเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th

ในหัวข้อบริการอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอ User สถานประกอบการ และ Password เพื่อการนำส่งข้อมูลเงินสมทบ แจ้งผู้ประกันตน เข้า - ออก จากงาน หรือแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ประกันตน

พร้อมชำระเงินสมทบของผู้ประกันตน ผ่านระบบ e-payment ได้ตลอดเวลา

กรณีการตรวจสอบข้อมูลของ "ผู้ประกันตน"

สามารถตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตนส่งเงินสมทบยอดเงินชราภาพ และการรับสิทธิประโยชน์รวมถึงเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทุกกรณี

สามารถตรวจสอบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่

  • ช่องทางระบบสมาชิกผู้ประกันตนในเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
  •  
  • สามารถดาวน์โหลด Application SSO Connect
  •  
  • สอบถามผ่าน facebook Messenger ของ สำนักงานประกันสังคม
  •  
  • โทรสายด่วน 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า กรณีเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส) แท้จริงแล้วเว็บไซต์ไม่ได้ล่ม เพียงแต่สำนักงานประกันสังคมได้ปิดปรับปรุงเว็บไซต์ 1 วัน เพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลให้สอดคล้องกับประกาศ ศบค.ที่จากเดิมกำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 6 จังหวัดและเพิ่มเติมเป็น 10 จังหวัด

รวมทั้งขยายประเภทกิจการที่ให้ความช่วยเหลือจากเดิม 4 เป็น 9 ประเภทกิจการ เป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นคนละส่วนกับข้อมูล ผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 ที่มีรายชื่อทั้งหมดอยู่ในระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไร

"อาชีพอิสระ" สมัครได้หลายช่องทาง

นางเธียรรัตน์ ยังกล่าวถึง กรณีที่สำนักงานประกันสังคมให้ผู้ที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมและต้องการรับ "เงินเยียวยา" 5,000 บาท ได้สมัครมาตรา 40 นั้น ในเรื่องการสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 นั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สามารถมี 3 ทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบรายเดือนระยะยาว เพื่อรับการคุ้มครองที่ต่างกัน คือ

  • ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท
  •  
  • ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ยังไม่มีหลักประกันทางสังคมให้ได้สมัครมาตรา 40 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยการออมในระยะยาวเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิต
#3174


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ  (FTA) ไทย-ปากีสถาน ว่า ขณะนี้การเจรจามีความคืบหน้าต่อเนื่อง โดยสามารถเจรจาในส่วนของการค้าสินค้าไปแล้ว 9 รอบ สามารถสรุปผลการเจรจาได้แล้ว 12 เรื่อง จากทั้งหมด 13 เรื่อง เหลือเพียงเรื่องพิธีการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้าและประเด็นการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน ที่จะต้องเจรจากันต่อเพื่อเร่งหาข้อสรุปต่อไป โดยตั้งเป้าที่จะเจรจากันให้จบภายในปีนี้ เพื่อใช้ในการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน

สำหรับการทำเอฟทีเอ  ไทย-ปากีสถาน จะก่อให้เกิดประโยชน์กับไทย โดยในด้านเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.18-0.32% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 200–800 ล้านดอลลาร์ และสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งไทยมีส่วนแบ่งถึง 1 ใน 5 ของตลาดปากีสถาน ปัจจุบันถูกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 30–100% เคมีภัณฑ์ 0-20% เหล็ก 3–30% ผักและผลไม้ 16–20% พลาสติก 0–20% และยางพารา 0–30% เป็นต้น

ทั้งนี้ การทำเอฟทีเอ จะช่วยให้ไทยสามารถใช้ปากีสถานเป็นฐานการผลิต เพื่อเจาะเข้าสู่ตลาดเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และจีน จากการที่ปากีสถานมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีมากกว่า 22 แห่ง กระจายอยู่ทั้งในกรุงอิสลามมาบัด และ 4 แคว้นของปากีสถาน ได้แก่ ปัญจาบ สินธ์ บาลูจิสถาน และไคเบอร์ปัคตูนควา โดยนักลงทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีรายได้นิติบุคคลเป็นเวลา 10 ปี ได้รับการยกเว้นภาษีสินค้าทุน และได้ประโยชน์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ถนน ทางยกระดับ ท่าเรือน้ำลึก ภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน (China-Pakistan Economic Corridor SEZ: CPEC) มูลค่ากว่า 6,500ล้านดอลลาร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ของจีน ซึ่งเน้นการเชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถานกับภาคตะวันตกของจีน 

ขณะเดียวกัน ปากีสถานยังได้เปิดเสรีการลงทุนในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรม เช่น แปรรูปอาหาร โลจิสติกส์ สิ่งทอ ยานยนต์ ไอที การก่อสร้าง การท่องเที่ยวและการโรงแรม ยกเว้นสาขาด้านความมั่นคง อีกทั้ง ปากีสถานยังมีสินค้าที่น่าสนใจ และสามารถเป็นวัตถุดิบสำหรับผู้ประกอบการไทยได้ เช่น สิ่งทอ ยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์กีฬา ผลไม้ (ส้มแมนดาริน ฝรั่ง อินทผาลัม) ซีเมนต์ หินอ่อน หินแกรนิต เกลือหิมาลัย เคมีภัณฑ์ พรมเปอร์เชีย ข้าวบาสมาติ เป็นต้น โดยสินค้าที่ผลิตในปากีสถานได้รับการยอมรับมาตรฐานสินค้าฮาลาลจากประเทศที่บริโภคสินค้าฮาลาลเป็นหลัก ทำให้สะดวกและช่วยเพิ่มแต้มต่อในการส่งออกไปกลุ่มประเทศเป้าหมายนี้ด้วย

 ปัจจุบันปากีสถาน เป็นตลาดที่น่าสนใจและมีขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 220 ล้านคน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก เป็นผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมากถึง 30 ล้านคน อีกทั้งยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ทองแดง ถ่านหิน ทองคำ และทรัพยากรประมง เช่น กุ้ง ปู ปลา และหอย ซึ่งเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอาหารทะเลแปรรูปของไทยได้ รวมทั้งที่ตั้งของประเทศที่เชื่อมโยงกับเอเชียใต้ เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง และจีน จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ไทยสามารถปักหมุดสานสัมพันธ์ในด้านการค้าและการลงทุน

ในด้านการค้า ปากีสถานเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดีย โดยการค้ารวมระหว่างไทย-ปากีสถานในปี 2563 อยู่ที่ 1,108 ล้านดอลลาร์ เป็นการส่งออกจากไทยไปปากีสถาน 980 ล้านดอลลาร์ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เส้นใยประดิษฐ์ เม็ดพลาสติก เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เป็นต้น และนำเข้าจากปากีสถาน 128 ล้านเหรียญสหรัฐ เช่น สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่น้ำอัดลม และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เป็นต้น
#3175
5 วัน 5 คอร์ส เรียนออนไลน์ พื้นฐานสู่มือาชีพ

ประกาศๆ แจ้งให้ทราบ ถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่
ไม่มีประสบการณ์เลย
วิกฤตธุรกิจไปต่อไม่ได้
อายุเยอะแล้วกลัวเรียนไม่ทัน
อยากขายออนไลน์เป็น แต่ไม่มีคนสอน
เอาความรู้ไปต่อยอด

>>> 97 บาท <<<
ตอบโจทย์ที่สุดแล้ว ตอนนี้!!!
เพราะเราออกแบบคอร์สนี้
มาให้สำหรับท่านแล้ว
____________________________
5 วัน 5 วิชา
ที่สามารถพาคุณไปเจอกับโลกใบใหม่
เรียนผ่านมือถือเครื่องเดียว
วัยไหนก็เรียนได้
ปรึกษาได้ตลอด
ดูแลอย่างใกล้ชิด
วันที่ 1 การปรับหน้าโปรไฟล์
วันที่ 2 การสร้างวีดีโอ / รูปให้ดูน่าสนใจ
วันที่ 3 การสร้าง Content
วันที่ 4 การสร้างเพจมืออาชีพ
วันที่ 5 สอนยิงตรงกลุ่ม ยิงถูก ปิดยอดเก่ง
พร้อมวิธีหากลุ่มเป้าหมายแบบตรงเป๊ะ
.
เรียนจบครบทั้ง 5 วัน รับวุฒิบัตรได้ด้วย
ทั้งหมดนี้
เราเก็บค่าคอร์สกับคุณเพียง 97 บาท
ย้ำ!!คุณดูไม่ผิดหรอก 97 บาท
จากราคาปกติ 7,990 บาท
.
จำนวนจำกัด
สิทธิ์ 97 เฉพาะ 100 ท่าน
.
ขอท่านที่สนใจเรียนจริงๆ
เพราะเราก็ตั้งใจสอนให้ท่านจริงๆเช่นกัน
 
ติดต่อ line id คลิก : teerapat999
ติดต่อ facebook คลิก https://www.facebook.com/teerapat992018
รายละเอียดเพิ่มเติม https://teerapat99.iconsalepage.com/
#3176
รับถมที่ ถมดิน รับเหมา รับถมที่

รับเหมาถมที่ ถมดิน, ถมลูกรัง, ถมทราย, ถมบดอัดแน่น

  • ถมเพื่อสร้างบ้าน, สร้างอาคารพาณิชย์
  • ถมเพื่อสร้างโรงงาน, สร้างโกดังเก็บสินค้า
  • ถมเพื่อสร้างลานจอดรถ, โชว์รูมรถ
  • ถมเพื่อทำถนน, ทางเข้าหมู่บ้าน
รับเหมางานบดอัด

  • ทำถนน, ทำลานจอดรถ, ลานอเนกประสงค์, พื้นตลาดนัด, ลานปูน
  • ทำลานฯ ทำถนน ด้วย หินคลุก, ลูกรัง, เศษวัสดุ
รับเหมางานรื้อถอน

  • รื้อถอนโครงสร้างอาคาร บ้าน ที่พักอาศัย
  • รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง, โรงงาน, ทุบตึก
  • รื้อถอนภายในอาคาร, ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า
  • เคลียร์พื้นที่รกร้าง
website : http://www.mmee2000.comtel : 080-022-3804   ID : LINE  MMEE2000
#3177


วานนี้ (16 ก.ค.) ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ออกประกาศ ด่วนที่สุด! ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ระบุถึงหลักเกณฑ์การฉีด "วัคซีนไขว้" หรือการฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า และประชาชน โดยรายละเอียดมีดังนี้

ด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบการคิดเชื้อไวรัสสายพันธุ์กลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เดลตา เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการศึกษาโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะต้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย (ไบโอเทค) พบว่า

การฉีดวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 1 และฉีควัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงได้เร็วมากขึ้น โดยสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีใกล้เคียงกับ Astrazeneca 2 เข็ม ซึ่งคาดว่าจะมีผลตีต่อการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา และไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงภายหลังได้รับวัคชีน

จากกรณีดังกล่าว การประชุมคณะกรรมการโรคติตต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ปค.ส5) ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม

มีมติเห็นชอบการฉีดวัดซีนโควิด-19 สลับชนิด (ฉีดวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 1 และตามด้วยวัดซีน AstraZeneca เป็นเซ็มที่ 2) และการฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า แล้วนั้น

กระทรวงสาธารณสุข จึงขอแจ้งแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิดสำหรับประชาชน และการฉีดวัคชีนโควิด-19 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ดังนี้

1. การฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิด สำหรับประชาชน

1.1) ให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 ด้วยวัคซีนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด และเข็มที่ 2 เป็นวัคชีน AstraZeneca ของบริษัท AstraZeneca จำกัด โดยมีระยะห่างระหว่างเข์ม 3-5 สัปดาห์ หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา

โดยจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงใกล้เคียงกับผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca 2 เข็ม แต่ใช้ระยะเวลาสั้นกว่า เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ของโรค ในระยะที่มีวัคซีนจำนวนจำกัด

1.2) ในกรณีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เป็น AstaZeneca กำหนดให้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นวัคซีน AstraZeneca เช่นเดิม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม 12 สัปดาห์


2. การฉีดวัคซีนโควิด-19 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า

2.1) กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เช่น บุคลากรที่ปฏิบัติงานแผนกผู้ป่วยโควิด-19 แผนกผู้ป่วยนอก คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉินแผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน Hospitel ที่ได้รับวัคซีนโคโรนาแวค (Coronavac)  ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ครบ 2 เข็มแล้ว จะได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยการรับวัคซีน AstraZeneca หรือวัคซีนชนิด messenger Ribonucleic Acid (mRNA) จำนวน 1 เข็ม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้น อย่างน้อย 4 สัปดาห์

หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็มนั้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอ จึงยังไม่ต้องฉีดเข็มกระตุ้นในระยะนี้

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ จะได้รับการจัดสรรวัคนเข็มกระตุ้นในระยะถัดไป

2.2)  ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำรวจรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 พร้อมทั้งเสนอรายชื่อดังกล่าว ต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาตรวจสอบ ยืนยันสถานะของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแต่ละคน

และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข (MOPH IC White Ist) เพื่อฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ได้รับวัคซีนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ครบ 2 เข็มแล้ว และมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโควิด 19 จากการปฏิบัติงานประจำในการดูแลผู้ป่วย เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทย

อนึ่ง หากท่านมีข้อสอบถามเพิ่มเติม สามารถติตต่อได้ที่ นางปียดา อังศุวัชรากร ตำแหน่งแพทย์ปฏิบัติการ และนางสาวนพรัตน์ วิหารทอง ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ โทร. 02-590-3196 (ประเด็นแนวทางการให้วัคซีนโควิด 19) นายชัตติย อุตม์อ่าง ตำแหน่งเภสัชกรชำนาญการ และนางสาวปิยะนาถ เชื้อนาค ตำแหน่งเภสัชกรปฏิบัติการ โทร. 02-590-3222 (ประเด็นการบริหารจัดการวัคชีนโควิด 19)
#3178
ถ้าถามถึงเหตุผลว่าเพราะเหตุใดถึงมีปัญหาผิว ทั้งยังริ้วรอย เรื่องสิว ผิวแห้งกร้าน คำตอบที่ได้คงจะมีร้อยพันที่รู้จักกันดี ทำงานมากไปบ้างละ เครียดมากมายไปใช่ไหมนะ พักผ่อนน้อยสินะ หรือ อี๋ คุณไม่รักษาความสะอาด ผิวหน้าเลยสกปรกน่ะสิ!!

อ้ะๆก็จริงอยู่นะ กับบรรดาเหตุผลมากมายก่ายกองต้นเหตุปัญหาผิวที่ว่ามา แต่หากถามเคยมีใครได้ยินบ้างหรือเปล่านะ ว่า "สมดุลไมโครโอมน้อยลง ผิวเลยแย่ไง" ???

ถ้าหากยังไม่เคยรู้ หรือเกิดสงสัยใจ อะไรนะ อะไรนะ ไมโครโอม? เกี่ยวอะไรกับผิวเราล่ะ? บทความนี้ มาไขคำตอบกันจ๊ะ

รู้จัก Microbiome
Microbiome ของพวกเรา เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่บนผิวของเรา มีมาตั้งแต่คลอดเป็นเด็กแรกเกิดน้อยๆจากท้องแม่ ซึ่งเจ้าไมโครโอมนี้คอยทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนของผิวพรรณ คอยดูแลผิวของพวกเราไม่ให้ถูกแบคทีเรียตัวร้ายมารุกราน และยังดีต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ช่วยปรับดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงบอกได้ว่ายิ่งไมโครโอมดี หรือมีสมดุลไมโครโอมดีแล้วล่ะก็ ผิวของคุณก็จะแข็งแรง ยิ่งดูอ่อนเยาว์ และไม่แก่ชรานั่นเอง





ถ้าไมโครโอมแย่ ผิวก็ไม่โอเค
เป็นที่น่าเสียดายที่ไมโครโอมไม่ได้อยู่ให้พวกเราสวยและสาวตลอดไป เพราะว่าเมื่ออายุมากขึ้น ไมโครโอมบนบริเวณใบหน้าก็ลดลง สิ่งที่เกิดตามมาก็คือ ความชรา และปัญหาผิวต่างๆทั้งยังโรคผื่น โรคผิวหนัง ไปจนถึงริ้วรอย แต่ว่าก็ยังโชคดีที่เรามีวิธีทวงคืนความสมดุลของไมโครโอมอยู่ด้วยล่ะ





เพิ่มความสมดุลไมโครโอม กับ
เซรั่มบำรุงผิวหน้าสูตรใหม่ของ Lancôme Genifique Serum
Lancôme Genifique Serum เซรั่มบำรุงผิวหน้าจาก Lancôme สูตรใหม่ที่มีประสิทธิภาพเสริมสมดุลให้ไมโครโอม ด้วยการเพิ่มส่วนประกอบหลัก Active Ingredients นั้นก็คือ Pre และ Probiotics Fractions 7 ชนิด เอกสิทธิ์ของทางลังโคม ที่ต่างก็เป็นประโยชน์เพิ่มสมดุลให้กับไมโครโอมเพื่อการมีคุณภาพผิวที่ดีขึ้น อ่อนเยาว์ บริเวณใบหน้ากระชับ แล้วก็ให้คุณสามารถรู้สึกถึงผลของการใช้ Genifique Serum ได้อย่างรวดเร็ว

LANCÔME GENIFIQUE สูตรใหม่ทำงานด้วยประสิทธิภาพการมอบทรัพยากรแล้วก็คุณค่าจำเป็น อาทิ น้ำตาล อะมิโนแอซิด (amino acid) และลิพิด (lipid) ให้กับผิวและไมโครโอม โดยสำหรับในการใช้เซรั่ม Lancôme 1 หยด สามารถประสานพลังแห่งสารสกัดจากไมโครไบโอมได้ถึง 30 ล้านไมโครโอมเลยทีเดียว เมื่อได้ใช้เป็นประจำ สัญญาณความร่วงโรยหลักๆแล้วก็ปัญหาผิวต่างๆจะถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด





เมื่อรู้กันเช่นนี้ อย่าลืมดูแลสมดุลของไมโครโอม เติม Probiotics Fractions 7 ชนิด โดยใช้ Lancôme Genifique เป็นประจำทุกครั้งหลังทำความสะอาดผิวเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับไมโครโอม อัพเกรดสุขภาพผิวดี คืนความกระชับ และมอบความอ่อนวัยแก่ผิวพรรณของคุณ
 
#3179

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกล. เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แจ้งว่าบริษัทย่อย บริษัท โกล. รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSC) ได้ลงนามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท Copenhagen Infrastructure Partners (CIP) เพื่อเข้าลงทุนในสัดส่วน 25% คิดเป็นมูลค่าลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน จากกองทุน Copenhagen Infrastructure II K/S (CI-II) และ Copenhagen Infrastructure III K/S (CI-III) ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารของ CIP 

โครงการดังกล่าวมีกำลังผลิตรวม 595 เมกะวัตต์ ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี กับ บริษัท Taiwan Power Company ซึ่งการเข้าลงทุนในครั้งนี้เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้กับ GPSC อีก 149 เมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 25% ส่งผลให้บริษัทมีกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2,294 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 34% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 6,761 เมกะวัตต์ 

ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ และกระจายแหล่งผลิตพลังงานทางเลือกให้มีความหลากหลาย ยังเป็นการเพิ่มประสบการณ์การพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในต่างประเทศ ที่สร้างโอกาสและขยายลงทุนตามกลยุทธ์การเติบโตด้านพลังงานทดแทนในกลุ่มตลาดเป้าหมายต่อไป

โดยแผนพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งดังกล่าว กำหนดแผนการติดตั้งแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2565 จำนวน 96 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 คาดจะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2566 จำนวน 499 เมกะวัตต์ นับเป็นโครงการขนาดใหญ่สามารถจ่ายไฟฟ้าครอบคลุมได้มากกว่า 600,000 ครัวเรือน โดยทั้งโครงการจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567

ทั้งนี้ GPSC มองว่าไต้หวันถือเป็นหนึ่งพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดชั้นนำของโลก และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล สะท้อนผ่านอัตราการใช้พลังงานทางเลือกที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าว จะต้องดำเนินการยื่นขออนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Investment Approval) และขออนุมัติจาก Ministry of Economic Affairs ของไต้หวันต่อไป โดยหลังจากการซื้อขายหุ้น CI-II และ C-III ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเป็นผู้ดำเนินการหลักของโครงการ CFXD
#3180


สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยยังมีแนวโน้มรุนแรงต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ทรงตัวในระดับสูง ซึ่งการแพร่ระบาดระลอกนี้ทวีความรุนแรงจากการกลายพันธุ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ "เดลต้า"

ส่งผลให้สำนักวิจัยหลายแห่งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงจากเดิมคาดจะเติบโตได้ราว 3% เหลือเติบโตไม่ถึง 1% และในกรณีเลวร้ายเหลือ 0% ล่าสุดวานนี้ (15 ก.ค.) ในรายงาน "เส้นทางสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" โดยธนาคารโลก ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2564 เหลือเติบโต 2.2% จากคาดการณ์เดิมในเดือน มี.ค.2564 ที่คาดว่าจะเติบโต 3.4% เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สามที่มีต่อการบริโภคภาคเอกชนและแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในจำนวนที่ต่ำมากจนถึงสิ้นปีนี้

เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวเพียงเล็กน้อยที่ 2.4% เพราะถูกผลกระทบจากมาตรการลดและจำกัดการเคลื่อนย้าย ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน และการสูญเสียรายได้ แม้จะได้รับมาตรการช่วยเหลือทางสังคมบางส่วนแล้วก็ตาม 

ขณะที่การท่องเที่ยวปี 2564 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพียง 6 แสนคน จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 4-5 ล้านคน และต่ำกว่าในปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศสูงถึง 40 ล้านคน

ทั้งนี้ ในกรณีเลวร้ายหากมาตรการล็อกดาวน์ลากยาวในไตรมาส 3 ปี 2564 (ก.ค.-ก.ย.) ธนาคารโลกคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ที่ 1.2% และ 2.1% ในปี 2565

อย่างไรก็ตามปัจจัยหนุนจากการส่งออกสินค้าและมาตรการทางการคลังที่จะออกมาจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม โดยการส่งออกสินค้าและบริการยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในกลุ่มประเทศคู่ค้าหลักของไทย ตามทิศทางการฟื้นตัวของอุปสงค์โลกต่อชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล และผลผลิตทางการเกษตร โดยคาดว่าการส่งออกปีนี้จะเติบโต 7.3%

ส่วนมาตรการทางการคลัง ล่าสุด ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติมอีก 5 แสนล้านบาท เพื่อจะใช้ในการช่วยเหลือครัวเรือน และคาดว่าจะกระตุ้นจีดีพีให้เพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 1.5% เมื่อเทียบกับกรณีฐานที่คาดไว้ ขณะที่ความกังวลระดับหนี้สาธารณะของไทยที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นมาในปีนี้ที่ 59.3% และปี 2565 ที่ 62.1% ซึ่งมากกว่าเพดานหนี้ที่กฎหมายระบุไว้ที่ 60% แต่ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนทางการคลังของไทยยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ เพราะส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่เป็นเงินตราภายในประเทศ อีกทั้งหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเทศไทยยังมีระดับเงินทุนสำรองที่ค่อนข้างสูง

ขณะที่ข้อกังวลของธนาคารโลก คือ การให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในกลุ่มเปราะบาง สะท้อนจากระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจาก 80% มาอยู่ที่ 90% โดยหลักมาจากรายได้ที่หายไปในช่วงโควิด-19 ส่งผลให้ภาระหนี้ต่อรายจ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมาตรการเยียวยาและมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง โดยแนะนำรัฐบาลควรดูแลให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจำกัดภาระทางการคลังโดยรวม เพราะการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังคาดเดาได้ยาก

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากความมีประสิทธิภาพของวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และความไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่สมบูรณ์ในการดำเนินการตามแผนด้านการคลัง เหล่านี้อาจมีผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจช้าลง

"หากอัตราการฉีดวัคซีนของประชากรอยู่ในดับนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2564 คาดว่าประมาณ 70% ของประชากรจะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มภายในสิ้นปีนี้ และจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มภายในกลางปี 2565 และจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวเท่ากับก่อนเกิดโควิด-19 ในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป"

เกียรติพงศ์ กล่าวอีกว่า ธนาคารโลกคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะไม่กลับไปอยู่ในระดับก่อนการระบาดจนถึงปี 2565 ขณะที่การฟื้นตัวคาดว่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ และไม่สม่ำเสมอ โดยคาดการณ์จีดีพีปี 2565 จะปรับขึ้นสูงอยู่ที่ 5.1% 

อย่างไรก็ตามประมาณการดังกล่าวตั้งอยู่บนสมมติฐานที่สำคัญ 3 ประการได้แก่ 1.ความก้าวหน้าของอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศ 2.ความเพียงพอของการได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้นจนทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศกลับมาฟื้นตัวได้ และ 3. ความสามารถในการเบิกจ่ายงบประมาณ 5 แสนล้านบาท

เดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก คาดว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกไม่รวมจีนปีนี้ เศรษฐกิจขยายตัว 4% ลดลงจาก 4.4% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือน มี.ค. เนื่องจากหลายประเทศ เช่น เมียนมาเศรษฐกิจดิ่งลงกว่าคาด

หากรวมจีนเข้าไปด้วย ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกปีนี้จะขยายตัว 7.7% สูงกว่า 7.4% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือน มี.ค. ส่วนจีนปีนี้เติบโต 8.5%

มัลพาส กล่าวด้วยว่า ความเร็วในการฉีดวัคซีนของชาติต่างๆ ยังคงเป็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโต หลายประเทศในภูมิภาคไม่มีทีท่าว่าสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ครบโดสก่อนปี 2567

"ความสำคัญเฉพาะหน้าของประเทศกำลังพัฒนาคือประชาชนฉีดวัคซีนได้ทั่วถึงสอดรับกับแผนการฉีด"

ประธานธนาคารโลก กล่าวด้วยว่า เขากังวลเรื่องการฟื้นตัวไม่เท่ากันในการฟื้นตัวสองระดับประเทศกำลังพัฒนาฟื้นตัวหลังเขตเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ที่แกร่งกว่าเนื่องจากประชาชนฉีดวัคซีนครบโดสมากกว่า

"นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราถึงให้ความสำคัญมากกับการขยายการเข้าถึงวัคซีน" มัลพาส ระบุ ไม่กี่วันก่อนเขาเพิ่งประกาศว่า ธนาคารโลกเพิ่มงบประมาณซื้อและฉีดวัคซีนป้องกันโควิดจาก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 2 หมื่นดอลลาร์เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ตอนนี้กำลังต้องการวัคซีนอย่างมาก