• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#3121


ฝากไว้ให้คิด และติดตามกัน  สำหรับ ลวง ฆ่า ล่า รัก  ที่จะเสนอเป็นตอนแรก  พุธที่ 25 สิงหาคมนี้  ผลงานคุณภาพ โดยผู้จัด น้ำฝน กุลณัฐ  ปรียาวัฒน์  นำแสดงโดย พิ้งกี้ สาวิกา , อาร์ต พศุตม์ , คารีสา , ณัฐ ศักดาทร ร่วมด้วยนักแสดงมืออาชีพอีกมากมาย ซึ่งฉากเปิดตัวยิ่งใหญ่  เปิดปมเรื่องราวต่าง ๆ   เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรมอย่างไม่คาดคิดกับ พิ้งกี้ สาวิกา (เพียงจันทร์)  ภรรยาสาวของ อาร์ต พศุตม์ (แทนพล) เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำทีมโดย คารีสา (ทะเล) และ ณัฐ ศักดาทร (สิบทิศ)  รวมถึง  ดาว พิมพ์ทอง (จิตใส) นักข่าวสาว   จึงเข้ามาทำข่าวในที่เกิดเหตุ    คดีนี้ตำรวจจึงต้องตามสืบหาฆาตกร รวมถึงผู้คนที่รายล้อมพิ้งกี้ ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยด้วยกันทั้งหมด  รวมถึงตัว อาร์ต พศุตม์ด้วย เพราะก่อนหน้าที่พิ้งกี้จะถูกฆาตกรรม สองผัวเมียก็มีปากเสียง  ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด

เรียกว่าเป็นฉากเปิดตัวอันชวนลุ้นระทึกของ พิ้งกี้ สาวิกา ที่จะต้องถูกคนร้ายฆาตกรรม   โดยเจ้าตัวนั้น ก็ตั้งอกตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างดี เพราะการถ่ายทำ เป็นเหตุการณ์ในตอนกลางคืน กว่าจะถ่ายทำกันเสร็จสิ้น ก็กินเวลาหลายชั่วโมง แต่เจ้าตัวก็ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีปริปากบ่นเลยสักคำ และใครจะเป็นฆาตกร   ต้องจับตาดูกันให้ดี ซึ่งเหตุการณ์ยังคงต่อเนื่องกันไป ถึงการถ่ายทำในช่วงเช้า ซึ่งจะมี คารีสา ,ณัฐ ,  รวมทั้ง ดาว พิมพ์ทองมาเข้าฉากด้วยกัน  งานนี้ยิ่งใหญ่จัดเต็ม เพราะมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายฝ่ายมาเข้าฉาก   นอกจากคารีสา กับณัฐ  จะสวมบทบาทของตำรวจได้อย่างสมจริง   พูดบทได้อย่างแคล่วคล่อง ว่องไว   ด้านดาว พิมพ์ทอง ก็ไม่ยอมน้อยหน้า  งานนี้สวมบทบาทเป็นนักข่าวสาว สายอาชญากรรมได้อย่างสมจริงกันสุด ๆ ไปเลย  เรียกว่าเป็นการรวมตัวของนักแสดงมากฝีมือ    ติดตามชม พร้อมร่วมลุ้นไปด้วยกัน ว่าตำรวจ จะตามล่า หาฆาตกรได้หรือไม่

ออกอากาศ วันพุธที่ 25 สิงหาคม เวลา 21.30 น. ทางพีพีทีวี ช่อง 36
#3122


วันนี้ (24 สิงหาคม )  ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยงานวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจอลิส ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ JAMA Pediatrics ซึ่งเป็นการศึกษาเพื่อทราบว่าวัยรุ่นที่ไม่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะเกิดผลอย่างไร การวิจัยครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวน 32 คน (ชาย 19 คน หญิง 13 คน มีอายุเฉลี่ย 24 ปี) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มแรก 11 คน เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน กลุ่มที่สอง 12 คน เป็นผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ และกลุ่มที่สาม 9 คน เป็นผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ผู้วิจัยได้วัดระดับภูมิคุ้มกันชนิดต่างๆ ของร่างกายก่อนและหลังให้ผู้เข้าร่วมสูบบุหรี่ไฟฟ้าจริง และบุหรี่ไฟฟ้าแบบหลอกเป็นเวลา 30 นาทีเพื่อนำมาเปรียบเทียบ ผลการศึกษาพบว่า วัยรุ่นที่ไม่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อนเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าครั้งแรกเพียง 30 นาที จะมีระดับของอนุมูลอิสระในเซลล์ หรือ cellular oxidative stress เพิ่มขึ้นถึง 2-4 เท่า แต่ระดับของอนุมูลอิสระนี้ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากนักในกลุ่มที่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะมีระดับของอนุมูลอิสระที่สูงกว่าปกติอยู่แล้ว

นพ.Holly Middlekauff นักวิจัยอาวุโสของการศึกษาครั้งนี้ กล่าวว่า อนุมูลอิสระเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเสียสมดุล หากมีจำนวนมากขึ้นจะเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เซลล์เกิดความเสียหาย ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคทางระบบประสาท รวมทั้งโรคมะเร็ง ซึ่งผลจากการศึกษามีความสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันมีวัยรุ่นจำนวนมากหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า เช่น สหรัฐอเมริกาพบ 1 ใน 3 ของนักเรียนมัธยมปลายเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ แม้จะมีความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่แท้จริงแล้วไม่มีระดับความปลอดภัยของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า มีรายงานจากประเทศแคนาดา พบการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก แต่การเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2553 มีผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน 535,900 คน ในจำนวนนี้ เป็นวัยรุ่น 314,000 คน ขณะที่มีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกสูบบุหรี่ 64,300 คนที่ มีตัวเลขการเลิกสูบได้ไม่แตกต่างจากการใช้วิธีอื่นในการเลิกสูบ ขณะนี้มีหลักฐานมากขึ้นว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เข้ามาเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า การห้ามบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นการปกป้องเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่ให้เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า กฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และการรณรงค์เพื่อให้คงกฎหมายนี้ไว้ของเครือข่ายควบคุมยาสูบของไทยได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยจึงควรที่จะห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป


ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า มีรายงานจากประเทศแคนาดา พบการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก แต่การเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2553 มีผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน 535,900 คน ในจำนวนนี้ เป็นวัยรุ่น 314,000 คน ขณะที่มีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกสูบบุหรี่ 64,300 คนที่ มีตัวเลขการเลิกสูบได้ไม่แตกต่างจากการใช้วิธีอื่นในการเลิกสูบ ขณะนี้มีหลักฐานมากขึ้นว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เข้ามาเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า การห้ามบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นการปกป้องเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่ให้เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า กฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และการรณรงค์เพื่อให้คงกฎหมายนี้ไว้ของเครือข่ายควบคุมยาสูบของไทยได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยจึงควรที่จะห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป
#3123


ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 316 ล้านบาท ที่สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 รัฐนิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็นการชิงชัยในวันสุดท้าย

กำหนดการเดิมการแข่งขันต้องจบลงตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้ต้องเลื่อนการดวลวงสวิงในวันที่สี่ ออกมาเป็นวันจันทร์

ปรากฎว่า โทนี ฟีนัว โปรกอล์ฟอเมริกัน กับ คาเมรอน สมิธ จากออสเตรเลีย จบสกอร์สี่วันเท่ากันที่ 20 อันเดอร์พาร์ ต้องมาเล่นเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ชนะในหลุม 18 และสุดท้ายเป็น โทนี ฟีนัว ที่เอาชนะเพลย์ออฟไปได้ คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ

ทั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี และถือแชมป์อาชีพรายการที่ 3 ของ ก้านเหล็กวัย 31 ปี จากยูท่าห์ โดยเป็นแชมป์ระดับพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 2 ในชีวิต หลังจากเคยได้แชมป์ที่เปอร์โตริโก โอเพ่น เมื่อปี 2016

ส่วนผลงานของโปรกอล์ฟคนอื่นๆ ที่น่าสนใจ จอน ราห์ม จากสเปน เกือบจะมีโอกาสได้ลุ้นแชมป์ แต่ดันมาออกโบกี้ในหลุมที่ 15 และ 18 ทำให้เขาจบที่ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 3, จัสติน โธมัส จากสหรัฐฯ จบที่ 15 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 4 ร่วม, แซนเดอร์ ชัฟเฟล จากสหรัฐฯ จบที่ 11 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 16 ร่วม, ลี เวสต์วูด จากอังกฤษ จบที่ 9 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 27 ร่วม, ไบรสัน เดอแชมบัว จากสหรัฐฯ จบที่ 8 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 31 ร่วม
#3124
ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล

ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต  219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล เหมาะสำหรับสร้างบ้านพัก,หอพัก,โฮมเสตย์,
ขายที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล เหมาะสำหรับสร้างบ้านพัก,หอพัก,โฮมเสตย์, ร้านหอาหาร, คาเฟ่,อพาร์ทเม้นท์,ห้องพัก, ตึกแถว ขายถูกกว่าใกล้เคียง 3,590,000 บาท
ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต   เนื้อที่ 219 ตรว. ซอยท่าหลา ห่างจะอนุสาวรีย์ 6 กิโล อ.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต ที่ดินด้านหน้าติดถนน ด้านข้างมีทางสาธารณะ ห่างชายทะเล แค่ 400 เมตร ปากซอยมี7-11 ถนน 4เลนเตรียมตัดผ่านหน้าซอย เหมาะสำหรับสร้างบ้า
นพัก,คาเฟ่,ห้องพัก ตึกแถว

สนใจที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต
สอบถาม ได้ที่ คุณ ศุภโชค 085-8206618
Id line: suppachok18 เจ้าของขายเอง ราคาพิเศษ 3,590,000 บาท


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.banforum.com/?p=14676


คำค้น
ขายที่ดินแปลงใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ต, ขายที่ดินซอยท่าหลาป่าคลอกภูเก็ต, ขายที่ดินใกล้ทะเลป่าคลอกภูเก็ตเหมาะสำหรับสร้างบ้านพักหอพัก, ขายที่ดินใกล้ทะเลภูเก็ต
#3125


แม้จะมีมาตรการ Home Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI)แนวทางในการแก้ปัญหาเตียงเต็มในโรงพยาบาล ให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวแยกกันตัวที่บ้าน แยกกันตัวที่ชุมชน เนื่องด้วยไม่สามารถเข้าถึงยารักษาได้

ทั้งที่ทุกหน่วยงานทางการแพทย์ต่างยืนยันว่า หากผู้ป่วยโควิด-19 ได้รับ 'ยารักษา' เร็วที่สุดจะช่วยบรรเทาอาการไม่ให้จากผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว กลายเป็นผู้ป่วยอาการหนักกลุ่มสีเหลือง หรือสีแดง แต่ด้วยระบบการจัดส่งยา  โดยเฉพาะ 'ยาฟาวิพิราเวียร์' ยาหลักในการต้านโควิด-19 กว่าจะถึงมือผู้ป่วยโควิด บางทีก็สายไปเสียแล้ว

ใช้ไรเดอร์ จัดส่งยาถึงผู้ป่วยโควิด
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทาง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 สังกัด ที่ทางกรมการแพทย์จะจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ในกลุ่ม  HI และCI ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายยา เพื่อให้ถึงมือผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  กล่าวว่า สปสช ไม่ได้มีบทบาทในการกระจายยา แต่หน่วยบริการทั้งหมดต่างหากที่ต้องเป็นผู้จ่ายยาให้ผู้ป่วย แต่เนื่องจากหน่วยบริการหลายแห่ง ระบบการเบิกจ่ายไปถึงกรมการแพทย์ไปถึง สธ อาจจะยังไม่คล่องตัว หรือยังมีระบบราชการอยู่ สปสช. จึงช่วยประสานให้มันเกิดความคล่องแคล่วขึ้น เมื่อคล่องขึ้น สปสช. ก็จะส่งถ่ายหรือกระจายตรงนี้ไปยังหน่วยบริการ

สปสช.ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีเขียว HI ยังมีผู้ติดเชื้อส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างรอการลงทะเบียนกับหน่วยบริการ ทำให้ยังไม่ได้รับการดูแล หากมีการอาการขยับสู่กลุ่มอาการสีเหลืองและสีแดง และโทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330 เมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินอาการตามเกณฑ์และจะจัด ยาฟาวิพิราเวียร์ ให้กับผู้ติดเชื้อโดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาใช้วิธีส่งยาให้ผู้ติดเชื้อหลายรูปแบบ อาทิ ส่งพัสดุไปรษณีย์ ส่งยาผ่านหน่วยงานต่าง ๆ หรือมีผู้มารับยาเพื่อส่งต่อให้กับผู้ติดเชื้อ เป็นต้น


"บางครั้งการจัดส่งอาจเกิดความล่าช้าและไม่สะดวกกับผู้ติดเชื้อที่รอรับยา ล่าสุด สปสช. จึงได้รับความร่วมมือจากธนาคารออมสินจัดส่งไรเดอร์ (Rider) มาร่วมบริการส่งยาให้กับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ติดเชื้อได้รับยารักษาโดยสะดวกและรวดเร็วขึ้น ช่วยยับยั้งภาวะรุนแรงของโรคและการเสียชีวิตได้" นพ.จเด็จ กล่าว

สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย


สปสช.ซื้อ 'ยาฟาวิพิราเวียร์'เพิ่ม 27 ล้านเม็ด
นอกจากนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา สปสช. ได้ช่วยกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ไปแล้วหลายแสนเม็ด และตอนนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 อีกจำนวนมากยังไม่ได้รับยา ซึ่งทางสธ. มีแผนจัดซื้อ ณ เดือน ก.ย. 2564 จำนวน 40 ล้านเม็ด ซึ่งคาดว่าอาจไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ยา

ในส่วนนี้ สปสช. จึงเสนอขอเตรียมงบประมาณเพื่อจัดซื้อไว้จำนวนไม่เกิน 27 ล้านเม็ด ในวงเงิน 891 ล้านบาท โดยจะเพิ่มรายการในแผนการจัดหา เพื่อให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลราชวิถี จัดหาเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนในปี 2564 และต่อเนื่องไปปี 2565


ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาปัญหาหลักของ 'ยารักษาโควิด-19' ตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องของการขาดแคลนเหมือนกับวัคซีน แต่เป็นเรื่องของการจัดส่งยาจากต้นทางไปถึงผู้ป่วยโควิด-19  มติบอร์ด สปสช. จึงได้มีแนวทางการให้ 'ร้านขายยา' เข้ามาเป็นจุดกระจายทั้งยา และชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ฟรี 8.5 ล้านชิ้นให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ ซึ่งทาง 'สภาเภสัชกรรม' ก็รับลูกเรื่องนี้ทันที

กระจาย 'ATK' ให้ร้านขายยาแจกจ่ายฟรี
ศ.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม และกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ร้านขายยาที่จะเป็นจุดกระจายชุดตรวจ ATK นั้นจะต้องเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย1) ที่มีเภสัชกรประจำตลอดเวลาทำการ และต้องเปิดทำการอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันรวมไปถึงต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด้วย  

ร้านขายยาประเภท ขย 1 ทั่วประเทศมีอยู่ประมาณหลักหมื่นร้าน โดยขณะนี้มี ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 1,000 ร้าน และกำลังทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งก็จะพยายามประชาสัมพันธ์ให้ร้านขายยาเข้ามาร่วมโครงการ


รศ.ภญ.จิราพร กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่จะได้รับชุดตรวจ ATK จะต้องเป็นประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ครอบครัวมีผู้ติดเชื้อ หรือเดินทางไปในที่ที่มีผู้ติดเชื้อ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการคล้าย โรคโควิด-19 เช่น ไอ มีไข้ เป็นต้น ซึ่งเมื่อเป็นกลุ่มเสี่ยงเราไม่ได้อยากให้ออกมาเดินกับผู้อื่น เนื่องจากเมื่อเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ควรจะต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ฉะนั้น สปสช. จึงมีระบบสำหรับกลุ่มเสี่ยงเพื่อขึ้นทะเบียนก่อน

เมื่อขึ้นทะเบียนเสร็จสิ้น สปสช. จะแจกจ่ายรายชื่อไปตามร้านยาใกล้บ้าน หรือตามความจำนงของผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยร้านขายยาจะติดต่อไปยังกลุ่มเสี่ยงเพื่อซักถามอาการ หรือข้อมูลเพื่อยืนยันว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงจริงผ่านทางโทรศัพท์ หรือไลน์แอพพลิเคชั่น จากนั้นจะดำเนินการส่ง ชุดตรวจ ATK ไปให้ที่บ้าน พร้อมคำแนะนำและอธิบายให้เข้าใจถึงวิธีการ ตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง


'ร้านขายยา' จ่ายยาให้ผู้ป่วยโควิด HI ได้
เช่นเดียวกับ การกระจายยา เพื่อให้เข้าถึงผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2564 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา แพร่ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ 56/2564 เรื่อง แนวทางการให้บริการยาฟาวิพิราเวียร์ และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจสำหรับโควิด-19 ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Self-Test Kits) หรือ ATK โดยกำหนดขั้นตอนเภสัชกรชุมชน ประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิดหรือผู้สงสัยติดเชื้อเพื่อคัดกรองเบื้องต้นว่าควรได้รับการตรวจ และเป็นผู้จ่าย ATK

รวมถึงประกาศรายการยาสำหรับ Home Isolation ประกอบด้วยรายการยาจำเป็นสำหรับการรักษาตนเองตามอาการ และ ยาต้านโควิด-19 ตามแนวทางที่กรมการแพทย์กำหนด ดังนี้


1.ยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม สำหรับลดไข้ แก้ปวด จำนวน 30 เม็ด รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4 – 6 ชั่วโมง เวลามีไข้

2.ยาเด็กซ์โทรเมทอร์แฟน สำหรับแก้ไอแห้ง จำนวน 30 เม็ด รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน และเย็น

3.ยาอะเซทิลซีสทีน สำหรับละลายเสมหะ จำนวน 20 เม็ดหรือ 20 ซอง ละลายยา 1 เม็ด หรือ 1 ซอง ในน้ำ 1 แก้ว รับประทาน วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า หรือ เย็น

4.ยาคลอเฟนนิรามีน 4 มิลลิกรัม สำหรับลดน้ำมูก จานวน 30 เม็ด รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า

5.ผงเกลือแร่ ORS สำหรับท้องเสีย จำนวน 5 ซอง ละลายผงเกลือแร่ 1 ซองในน้ำ 1 แก้ว จิบแทนน้ำ เมื่อท้องเสีย น้ำเกลือแร่ไม่ควรเก็บเกิน 24 ชั่วโมง

6.ยาฟ้าทะลายโจร สำหรับลดไข้ แก้เจ็บคอและต้านเชื้อโควิด-19 จำนวน 60 เม็ด รับประทาน ครั้งละ 3 – 4 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน (โดยให้มีปริมาณของ Andrographolide 180 มิลลิกรัมต่อวัน)

7.ยาฟาวิพิราเวียร์ 200 มิลลิกรัม สำหรับต้านเชื้อโควิด-19 จำนวน 50 – 64 เม็ด โดยวันแรก รับประทาน ครั้งละ 9 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น วันที่ 2 – 5 รับประทาน ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น ส่วนกรณีน้ำหนักตัว มากกว่า 90 กิโลกรัม วันแรก รับประทาน ครั้งละ 12 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น วันที่ 2 – 5 รับประทาน ครั้งละ 5 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น

8.รายการยาอื่น ๆ ตามแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์

กรณีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงขึ้นถึงขั้นที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ เภสัชกรชุมชนจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังสถานพยาบาลต่อไป

วิชาชีพเภสัชกรรม พร้อมให้บริการช่วยประเทศ
ทั้งนี้ ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้ กรณีมีปัญหาในการตีความหรือในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด ในกรณีที่นายกสภาเภสัชกรรมเห็นสมควรอาจเสนอให้คณะกรรมการสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด

"เราจะได้ใช้วิชาชีพเภสัชกรรมในการให้บริการ เพื่อช่วยประเทศในการแก้ปัญหาโรคระบาด เพราะเรามีความรู้เรื่องยาเราก็สามารถให้คำแนะนำการใช้ยา-ชุดตรวจที่ถูกต้อง เหมาะสม ทำให้ระบบเดินต่อไปได้ เพราะตรวจได้เร็วก็สามารถที่จะควบคุมการกระจายของโรคได้" รศ.ภญ.จิราพร กล่าว

 ทั้งนี้ ระหว่างรอชุดตรวจ ATK ที่ยังไม่มานั้น สปสช. พยายามที่จะประสานกับสภาเภสัชกรรม และ อย. เพื่อทำให้ระบบสามารถเดินได้ ในขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเตรียมตัว-บริหารจัดการ ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อมีชุดตรวจมาถึงร้านขายยารวมถึงระบบต่างๆ ก็จะพร้อมและจะสามารถแยกคนที่ติดเชื้อออกจากคนที่ไม่ติดเชื้อ ทำให้การแพร่เชื้อลดลง

ศ.ภญ.จิราพร กล่าวต่อไปว่า ระหว่างรอชุดตรวจ ก็มีการเตรียมงานหลังบ้านให้เรียบร้อย เมื่อไรที่ชุดตรวจมา ก็จะสามารถบริหารจัดการได้ด้วยระบบที่โปร่งใส ฉะนั้น ก็จะมีระบบการขึ้นทะเบียน และระบบการป้อนข้อมูลก็จะทำให้ทราบว่าชุดตรวจใช้ไปเท่าไร มองว่าต้องทำทุกอย่างให้โปร่งใสและไม่มีข้อกังขากับประชาชน

ย้ำปชช.ดูแลป้องกันตนเอง ถึงภาครัฐจะช่วย
ศ.ภญ. จิราพร กล่าวด้วยว่าขณะนี้เท่าที่ทราบ มีร้านขายยาลงทะเบียนกับทางสปสช.ไปมากกว่า 1,500 แห่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี และอยากให้ร้านยาเข้าร่วมมากกว่านี้ เพราะนั่นหมายถึงการกระจายชุดตรวจ ATK และยาสู่ผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว  ซึ่งเมื่อทางร้านยาขึ้นทะเบียน และทางสปสช.ได้ชุดตรวจมากระจายให้ร้ายยาที่ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยก็สามารถดำเนินการแจกจ่ายไปยังผู้ป่วยได้ทันที ซึ่งเภสัชกรมีองค์ความรู้ และสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

"ร้านขายยาอยู่ใกล้บ้านประชาชน สามารถเข้าถึงง่าย และตอนนี้สปสช. พยายามใช้แอปพลิเคชั่น อย่างเป๋าตัง เพื่อให้ประชาชนได้รับแจกทางช่องทางดังกล่าว ซึ่งชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุดนี้ จะเป็นการแจกฟรีให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ดังนั้น ไม่ต้องกังวลหากไปร้านขายยาที่เข้าร่วมขึ้นทะเบียน จะเห็นป้ายติดให้บริการชัดเจน เช่น ป้ายคลินิกชุมชนอบอุ่น หรือป้ายจากสปสช."ศ.ภญ.จิราพร กล่าว


การที่สภาเภสัชกรรม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงแนวทางการให้บริการยาฟาวิพิราเวียร์ และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจสำหรับโควิด-19 ประเภท ATK นั้น เพื่อเป็นการประกาศให้ประชาชนรับทราย และเกิดความมั่นใจว่าผู้ป่วยทุกคนจะได้รับชุดตรวจ ATK และเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเป็นการป้องกันการแอบอ้าง หรือการนำชุดตรวจ ATKไปดำเนินการในแนวทางอื่นๆ ที่ไม่เหมาสมะ

"มาตรการให้ร้านขายยาเป็นจุดกระจายชุดตรวจ ATK และยาให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาการเข้าไม่ถึงยาของประชาชนได้ และจะลดอัตราการเจ็บป่วย ดังนั้น อยากฝากประชาชน ถึงภาครัฐจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือ แต่ทุกคนป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใกล้ชิดกัน หมั่นล้างมือบ่อยๆ และฉีดวัคซีน ถ้าสงสัยว่ากลุ่มเสี่ยงก็พยายามกักตัว อย่าออกไปข้างนอก ขอให้ใช้บริการของรัฐ"ศ.ภญ.จิราพร กล่าว

ต้องได้รับ'ยาฟาวิพิราเวียร์' ภายใน 4 วัน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่าข้อมูลการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศไทย จากกรมการแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆในกทม. รวมทั้งรพ.ในกทม. ได้รวบรวมข้อมูลเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมาจากคนไข้กว่า 400 คน พบว่า ผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์เร็วภายใน 4 วันหลังเริ่มมีอาการ พบว่า ลดอาการรุนแรงได้ 28.8% ขณะที่ค่ามัธยฐานของระยะเวลาการเริ่มให้ยา จนถึงผู้ป่วยอาการดีขึ้น หากผู้ป่วยโรคปอดบวมรุนแรงใช้เวลา 17 วันดีขึ้น แต่หากปอดบวมไม่รุนแรงใช้เวลา 9 วัน ซึ่งกรณีนี้ทางรามาธิบดีศึกษา


สำหรับ ยาฟาวิพิราเวียร์ ขณะนี้ทางองค์การเภสัชกรรมมีการสั่งจองและเตรียมผลิตเอง 20-30 ล้านเม็ด ซึ่งจะเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งมีการติดตามศึกษาผล โดยจะทำเป็นบิ๊กดาต้า ที่ดูว่าผลของฟาวิพิราเวียร์ในรอบระบาดเดลตา เป็นอย่างไร ?

เมื่อพิจารณาการสั่งจอง และเตรียมการผลิต 'ยาฟาวิพิราเวียร์' ของประเทศไทย คงหวังได้ว่าการขาดแคลน ยาฟาวิพิราเวียร์ คงไม่มีทางการเกิดขึ้น แต่การจะจัดส่งยาให้ถึงแก่ผู้ป่วยโควิด-19 คงต้องติดตามกันต่อไปว่ามาตรการใหม่ๆ ที่กำลังดำเนินการนี้ จะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน และหน่วยงานหลักในการส่งยาอย่าง กรมการแพทย์ โรงพยาบาลต่างๆ ต้องปรับระบบอย่างไร? เพื่อให้ยา เวชภัณฑ์ ระบบการบริการสาธารณสุขช่วยชีวิตผู้ป่วย ลดการสูญเสียได้
#3126


Facebook ประเทศไทย และ มูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้ร่วมเปิดตัวแคมเปญออนไลน์ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ที่จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม 2564 -5 กันยายน 2564 เพื่อเชิญชวนให้คนไทยได้ส่งแรงใจเชียร์ทีมนักกีฬาพาราลิมปิกไทย ในการแข่งขัน โตเกียวพาราลิมปิกเกมส์ 2020 และส่งเสริมค่านิยมเรื่อง Inclusion หรือการเห็นคุณค่าและนับรวมคนทุกกลุ่มผ่านแนวคิด This is for everyone*

มหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าทุกคนบนโลกได้ร่วมกันฉลองให้กับความสำเร็จ และศักยภาพของทุกชีวิตได้อย่างไร และแคมเปญล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วยแนวความคิดทางสังคมนี้ก็สะท้อนพันธกิจที่มีมาอย่างต่อเนื่องของ Facebook ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงความหลากหลายของผู้คนโดยไม่มองถึงความแตกต่างทางความสามารถทางร่างกาย และการทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม รวมทั้งการเดินหน้าสนับสนุนผู้คนให้เติบโตไปด้วยกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าให้กับทุกชีวิต

การร่วมมือกับมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทยครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้แฟนกีฬาชาวไทยสามารถส่งแรงเชียร์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพาราลิมปิกเกมส์ได้หลายวิธี ผ่านแอปพลิเคชันในเครือของ Facebook เช่น

• แฟนกีฬาและผู้สนใจสามารถติดตามบัญชี Instagram ภายใต้ชื่อ @ThaiParaHeroes และใช้แฮชแท็ก #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย เพื่อเป็นช่องทางให้แฟนๆ ได้ส่งเสียงเชียร์ผ่านโลกออนไลน์รวมทั้งผ่านเพจ Facebook Thailand ด้วย

• ศิลปะบอกเล่าเรื่องราวของเหล่านักกีฬาพาราลิมปิกของไทยผ่านงานภาพถ่ายจากทีม Sculpture Bangkok ที่เป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานชุด Photoautomat ที่นำความรู้สึกดีๆ ในวันเก่าๆ มาบอกเล่าผ่านตู้ถ่ายภาพสติ๊กเกอร์

• ฟีเจอร์สนุกๆ ภายใต้แคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ที่สร้างขึ้นจากแนวคิด This is for Everyone* (การเห็นคุณค่าและนับรวมคนทุกคน) นั้นรวมไปถึงกรอบรูปโปรไฟล์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบน Facebook และ AR Camera Effect ฟิลเตอร์ใหม่ 3 ชุดบน Instagram ที่ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มข้อความเพื่อส่งกำลังใจให้นักกีฬาได้ รวมทั้งสติ๊กเกอร์ภาพเคลื่อนไหว (giphy) บนไอจีชุด Virtual automat ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันและเชียร์เหล่านักกีฬาระหว่างการลงแข่งได้แม้ไม่มีผู้เข้าชมในสนาม

• มีการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันล่าสุด รวมถึงเนื้อหาสร้างแรงบันดาลใจและบอกเล่าเรื่องราวของนักกีฬาพาราลิมปิกไทยและชุมชนกีฬาผู้พิการตลอดช่วงวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน

นอกจากนี้แคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ยังมีการจัดทำหมวกรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น This is for Everyone* ที่ออกแบบโดย Sculpture Bangkok มาในแนวมินิมัล 2 สี (สีขาวและสีกรมท่า) โดยรายได้จากการจำหน่ายหมวก This is for Everyone* จะส่งมอบให้มูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุนกีฬาสำหรับผู้พิการต่อไป



"จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี" ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ทางมูลนิธิรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Facebook ในการเปิดตัวแคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย สะท้อนการให้ความสำคัญและเล็งเห็นการทำงานหนักของนักกีฬาพาราลิมปิกและเจ้าหน้าที่ทีมไทย ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกสอน แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด หัวหน้าคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมคณะนักกีฬาคนพิการไทย

ทำให้นักกีฬาคนพิการไทยได้แสดงความสามารถ ความเพียรพยายาม การมีน้ำใจนักกีฬาและผลงานอันเป็นเลิศให้ได้เห็นเสมอมา เราเชื่อว่าผู้ชมชาวไทยจะส่งแรงเชียร์ให้นักกีฬาคนพิการและเจ้าหน้าที่ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 16 นี้ แคมเปญนี้จะช่วยให้แฟนๆ ชาวไทยได้ร่วมส่งแรงใจและเฉลิมฉลองพลังแห่งความหลากหลายในสังคมของเรา"

"แพร ดํารงค์มงคลกุล" Country Director ของ Facebook ประเทศไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า "เนื่องด้วยกีฬาพาราลิมปิกในครั้งนี้จะจัดขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 Facebook รู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสทำงานผ่านแคมเปญนี้เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ชมชาวไทยได้ส่งแรงใจให้กับเหล่านักกีฬาพาราลิมปิกของไทย ซึ่งได้แสดงให้เราเห็นว่าพวกเขาสามารถเดินหน้าสู่ความสำเร็จในการแข่งขันได้อย่างงดงาม"

"ค่านิยมในเรื่อง Inclusion หรือการนับรวมคนทุกคน ถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์หลักของเราที่ Facebook โดยภารกิจที่เรายังคงเดินหน้าทำอย่างต่อเนื่องในเรื่องของการเข้าถึงโอกาสต่างๆ ก็คือการทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะสามารถรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และสามารถมีส่วนร่วมในการพูดคุยและบทสนทนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนแอปพลิเคชันในเครือของ Facebook ได้อย่างเท่าเทียม สำหรับการร่วมมือกับมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิคแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ของ Facebook ประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจของเราและเป็นการต่อยอดภารกิจที่เราทำอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนชุมชนที่อาจจะถูกกีดกันให้เป็นคนชายขอบ และเพื่อฉลองพลังของการเชื่อมต่อกันของผู้คน"

การเปิดตัวแคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทยเกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศของ Facebook ในโครงการระดับโลกเพื่อสนับสนุนกีฬาพาราลิมปิกด้วย โดยได้ร่วมมือกับคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee - IPC) เพื่อเปิดตัวภาพยนตร์สั้นซีรีส์แนวสารคดีเพื่อสนับสนุนแคมเปญ #WeThe15

โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของกีฬากับชุมชนผู้พิการจาก 4 ประเทศ พร้อมชี้ให้เห็นว่ากีฬาได้เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับพวกเขาอย่างไร โดยภาพยนตร์ดังกล่าวมุ่งสร้างการตระหนักรู้ถึงกลุ่มคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความพิการซึ่งมีประมาณ ร้อยละ 15 ของประชากรโลก พร้อมแสดงให้เห็นว่ากีฬาจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่เปิดกว้างมากขึ้นได้ทั่วโลก

พวกเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #ส่งใจเชียร์ฮีโร่พาราลิมปิกไทย ได้โดยการติดตาม @ThaiParaHeroes บน Instagram หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ Facebook ของ Facebook Thailand รวมทั้งสามารถรับชมภาพยนตร์สั้นซีรีส์แนวสารคดีเพื่อสนับสนุนแคมเปญ #WeThe15 ที่มาพร้อมคำบรรยายภาษาไทยได้แล้ว

https:// www.facebook.com/FacebookThailand/posts/368808974780450

และ https:// www.facebook.com/paralympics/
#3127


ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพคนกำลังเก็บ กวาด สถานที่แห่งหนึ่ง พร้อมข้อความว่า "ความน่ารักของผู้ป่วยศูนย์ CI สะเดียง เมื่อโทรไปบอกว่า..วันนี้เหนื่อยมากเคสจะเข้าอีก 8 คน ช่วยพี่ทำความสะอาดรับผู้ป่วยรายใหม่หน่อยได้มั้ย ผู้ป่วยรายเดิมขออุปกรณ์ทันที ไม้กวาดไม้ถูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ ช่วยกันทำความสะอาดหอพักผู้ป่วย จัดเตียงรับเพื่อนใหม่ แบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ได้เยอะทีเดียว...ทุกคนน่ารักช่วยกันดูแลกันและกัน ใครมาก่อนก็สอนคนมาทีหลัง ข้าวปลาอาหาร ของใช้ต่างๆก็รู้จักแบ่งปันกัน ##ผู้ป่วยของทีมงานเราน่ารักทุกคนค่ะ##มื้อเย็นมีรางวัล ขนม เป๊ปซี่ ตามขอค่ะ"

จากนั้นได้มีตนเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ซึ่งล้วนแต่ชื่นชมผู้ป่วยเหล่านั้น พร้อมทั้งให้กำลังใจให้หายป่วยโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวศิริพร นาคสำราญ นักพัฒนาชุมชนชำนาญการพิเศษ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งได้เปิดเผยว่า อบต.สะเดียง ได้จัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับประชาชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ที่อยู่ต่างจังหวัดที่โควิด-19 แพร่ระบาด ต้องการที่จะกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งเป็นที่พักคอยของคนในพื้นที่ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิดโดยวิธี ATK รอผลการตรวจจากโรงพยาบาลเพื่อยืนยัน โดยตั้งอยู่ภายในสนามกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทั้งหมด 80 เตียง

ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ป่วยรายเก่า(สีเขียว) อยู่จำนวน 33 คน ต่อมาได้รับแจ้งว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่(สีเขียว)เข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 8 ราย แต่เนื่องจากตนและทีมงานที่ดูแลเรื่องสถานที่ติดภารกิจ จึงได้โทรไปแจ้งตัวแทนผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์ฯ เพียงแค่นั้นผู้ป่วยที่สุขภาพแข็งแรงก็ได้ช่วยกันเก็บ กวาดพื้น ล้างห้องน้ำ ช่วยกันคนละไม้ละมือ พร้อมทั้งถ่ายภาพมาให้ดูด้วย

ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นผู้ป่วยที่อยู่ภายในศูนย์แห่งนี้ก็จะช่วยกันเก็บกวาดและทำความสะอาดกันเองอยู่เป็นประจำ ตนจึงเกิดความประทับใจจึงได้นำเรื่องราวและภาพดังกล่าวมาโพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อบอกกล่าวเรื่องราวดี ๆ ภายในศูนย์CIแห่งนี้

นางสาวศิริพร ยังเปิดเผยอีกว่าสิ่งที่ตนและทีมงานประทับใจอีกประการหนึ่งก็คือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของผู้ป่วย เมื่อมีผู้ป่วยรายใหม่เข้ามา ผู้ป่วยรายเก่าก็จะคอยแนะนำในการปฏิบัติตัว หากมีผู้ป่วยสูงอายุก็จะมีผู้ป่วยที่แข็งแรงค่อยดูแล ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจเป็นอย่างมาก
#3128


ศึกฟุต.บุนเดสลีกา เยอรมนี ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 เกมที่น่าสนใจ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยกพลไปเยือน ไฟร์บวร์ก

พลพรรค "เสือเหลือง" ภายใต้การคุมทีมของ มาร์โก โรเซ่ เกมที่แล้วทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเปิดบ้านถล่ม ไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต 5-2 แต่เมื่อกลางสัปดาห์พ่ายให้กับ บาเยิร์น มิวนิก ในศึกเดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ 1-3 เกมนี้ยังนำทัพมาโดย เออร์ลิง ฮาแลนด์, มาร์โก รอยส์, ดอนเยลล์ มาเลน

ปรากฏว่า เกมนี้เป็นเจ้าถิ่น ไฟร์บวร์ก ที่อาศัยเกมรับอันเหนียวแน่น และรอจังหวะสวนกลับเล่นงาน ดอร์ทมุนด์ ได้ 2 ประตูขึ้นนำ 2-0 จาก วินเชนโซ่ กริโฟ น.6 และ โรแลนด์ ซัลไล น.53

ส่วน "เสือเหลือง" ได้ประตูตีไข่แตก จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ยานนิค คีเทล ในนาทีที่ 59 แต่ก็ไล่ไม่ทัน หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ บุกพ่าย ไฟร์บวร์ก 1-2

จากผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังมี 3 คะแนนเท่าเดิม จากการลงสนาม 2 นัด ส่วน ไฟร์บวรก์ มี 4 คะแนน จากการลงสนาม 2 นัดเช่นกัน

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
กรีกอร์ โคเบล (GK), เฟลิกซ์ พาสแล็กซ์, อาเซล วิตเซล, มานูเอล อาคานยี, นิโก ชูลซ์, มาห์มูด ดาฮูด์, จู๊ด เบลลิงแฮม, จิโอวานนี เรย์นา, มาร์โก รอยส์, ดอนเยลล์ มาเลน, เออร์ลิง ฮาแลนด์


ผลฟุต.บุนเดสลีกา เยอรมนี วันที่ 21 สิงหาคม 2564 คู่อื่นๆ
โบคุม 2-0 ไมนซ์
ไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต 0-0 เอาก์สบวร์ก
กรอยเธอร์ เฟือธ 1-1 อาร์เมเนีย บีเลเฟลด์
แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 1-2 โวล์ฟบวร์ก
#3129


วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564 — Entrust ผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการระบุตัวตน การชำระเงิน และการป้องกันข้อมูลขั้นสูง ประกาศว่าบริษัทและ MK Group Joint Stock Company (MK Group) ประเทศเวียดนาม ได้ร่วมกันเปิดตัวโครงการบัตรประจำตัวประชาชนสมาร์ทการ์ดของเวียดนาม โดย Entrust และ MK Group จะนำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงพร้อมกับการสนับสนุนภาคสนามร่วมกันในการดำเนินการโครงการนี้ในประเทศเวียดนาม เพื่อให้สามารถออกบัตรประจำตัวสมาร์ทการ์ดได้ 50 ล้านใบแก่พลเมืองโดยเริ่มมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ต้นปีนี้

ระบบการออกบัตรและโซลูชั่นซอฟต์แวร์ของ Entrust ร่วมกับ MK Group ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการงานภาคสนามและดูแลการออกบัตรในภูมิภาคต่างๆ ในประเทศ จะช่วยให้ประชาชนเวียดนามชุดแรกกว่า 50 ล้านคนมีบัตรประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ภายใต้การควบคุมดูแลข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูง บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดใหม่นี้จะแทนที่และรวมบัตรประจำตัวประชาชนสามแบบหลังที่ทำการออกให้ประชาชน อันได้แก่ บัตรประชาชนแบบเลขประจำตัว 9 หลัก แบบเลขประจำตัว 12 หลัก และแบบบาร์โค้ด ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2542, 2555 และ 2559 ตามลำดับ ด้วยบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดใหม่นี้จะทำให้กระบวนการต่างๆ ในการตรวจสอบตัวตนของพลเมืองเวียดนามมีความปลอดภัยและเป็นมาตรฐานมากขึ้น

MK Smart ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ MK Group ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการของชิปบนสมาร์ทการ์ดและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ตามมาตรฐาน ICAO และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของประเทศเวียดนาม บัตรประจำตัวที่ฝังชิปนี้จะเก็บข้อมูล e-ID ตามมาตรฐาน ICAO โดยมีความสามารถในการลงลายมือชื่อแบบไบโอเมตริกซ์และดิจิทัล เพื่อใช้เข้าสู่ระบบเวปพอร์ทัลภาครัฐและเอกชนหลายหลายพันรายที่ให้บริการแก่ประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงประชาชนยังสามารถใช้บัตรสมาร์ทการ์ดนี้เพื่อรับรองตัวตนกับหน่วยงานราชการและธนาคารได้

Entrust ได้ทำการส่งมอบระบบการออกบัตรที่มีคุณภาพสูงพร้อมทั้งให้บริการคำปรึกษาในด้านต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญได้อย่างครบถ้วน และโครงการสามารถเริ่มดำเนินการออกบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด 50 ล้านใบแรกได้เรียบร้อยแล้ว
#3130


นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานของครึ่งปีแรกปี 2564 มีรายได้จากการขาย 1,401.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือนแรกของ ปี 2563 ซึ่งมีรายได้จากการขาย 849.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 65.08% บริษัทมีรายได้รวม 522.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.99 ล้านบาท ในไตรมาส2/2564 ทำให้มีมีผลประกอบการ 6 เดือน กำไรสุทธิ 132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีต้นทุนทางการเงินลดลง ร้อยละ 47.58 ด้วยปัจจัยสนับสนุนความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทอยู่ในระดับสูง บริษัทพร้อมเดินตามแผน เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ตลาดระดับราคาบ้าน 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก อาทิโซนเหนือ และโซนตะวันออก ในไตรมาส 3 นี้ เพื่อเร่งหนุนรายได้ทั้งปีโตอย่างต่อเนื่อง

"เอ็น.ซี มีการปรับตัวได้ดี มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการออกมาดูแลลูกค้า ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผนวกนวัตกรรม Smart Eco, Smart Care"

นายสมนึก กล่าวถึงสถานการณ์ COVID-19 ยังส่งผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคยังมีความไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 3 เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนยอดขายให้เติบโต สำหรับยอดขาย เป็นที่น่าพอใจสามารถทำยอดขายได้กว่า 2,200 ล้านบาท

พร้อมยังกล่าวเสริมต่อ เอ็น.ซี คงมุ่งเดินหน้าเพื่อเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในปี 2564 ตามเป้า 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท พัฒนาสินค้าทาวน์เฮาส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ด้วยราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ (โซนเหนือ , โซนตะวันตก,โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯและปริมณฑล) เพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ ทำให้ เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเดินตามแผน ในตลาดศักยภาพใหม่ๆ รุกต่อด้วยเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปีที่ 2,000 ล้านบาท.
#3131


หลังจากโรงเรียนล่องแพวิทยา ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เผยแพร่ภาพการเดินทางของคุณครู ที่เดินทางออกแจกใบงานตามหมู่บ้านต่างๆ ทั้งในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ ต.แม่สวด อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน - ต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และ ต.แม่วะหลวง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบ On-Hand ภายใต้สถานการณ์โรคระบาด COVID-19

ซึ่งทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่นชมจิตวิญญาณของ "ครูล่องแพ" กันอย่างล้นภาพ เพราะเห็นถึงความยากลำบากในการเดินทางแต่กลับไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อจิตวิญญาณความเป็นครู ที่มีความตั้งใจให้เด็กได้เรียนรู้ ไม่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะเป็นอย่างไร

โดยในภาพ จะพบว่าในห้วงฤดูฝนจากโรงเรียนไปถึงหมู่บ้านของนักเรียน คุณครูต้องอาศัยความชำนาญในการขับขี่รถขึ้นดอยสูง ผ่านลำน้ำ ป่าเขา ลัดเลาะลำห้วย ทั้งผลักทั้งดันรถมอเตอร์ไซด์ที่เต็มไปด้วยโคลน และต้องใช้เวลาในการเดินทางมากถึง 5-6 ชั่วโมง เพื่อส่งใบงานให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนล่องแพวิทยา ทั้งหมด 679 คน ที่กระจายอาศัยอยู่ตามหมู่บ้าน

แต่เพื่อเด็กนักเรียนของ "ครู" ซึ่งเปรียบเสมือนนักรบในสมรภูมิการเรียนรู้ภายใต้สถานการณ์โรคระบาด จึงต้องเลือกใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ on ต่างๆ ตามสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา โดยเฉพาะรูปแบบ "on-feet" และ "on – heart" หรือ การจัดการเรียนรู้ด้วยการเดินเท้าเข้าสู่พื้นที่และการขับเคลื่อนการเรียนรู้ด้วยหัวใจของ "ครู" ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโรงเรียนชายขอบที่นี่เสมอ
#3132


เดินหน้าส่งต่อให้กำลังใจทีมแพทย์และพยาบาลกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด "มาร์ค ภาวริสร์ พานิชประไพ" หรือ "น้องมาร์ค Masterchef Junior Thailand" ก็ได้ออกมาโพสต์แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ด้วยการทำความดีกับโครงการ Time to smile ซึ่งเจ้าตัวร่วมกับเพื่อนๆ ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือสังคม ด้วยการทำอาหาร-เครื่องดื่ม ไปมอบให้หมอ พยาบาลและผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลแพทย์รังสิต พร้อมกับระบุข้อความว่า "เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มาร์คกับเพื่อนๆได้เริ่มทำโครงการ Time to smile โดยเริ่มด้วยกิจกรรม การทำอาหารและสั่งซื้ออาหาร จำนวน 70 กล่อง รวมทั้งได้นำน้ำและเครือดื่ม อีกจำนวนหนึ่ง ไปมอบให้คุณหมอ บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยโควิค ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต เฉพาะทางแม่และเด็ก

กิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมที่มาร์คกับเพื่อนๆ ตั้งใจทำขึ้นมาร์คขอฝากให้ช่วยติดตาม IG @timetosmile.th กันด้วยนะครับ ซึ่งในอนาคตพวกเราจะจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคมร่วมกันอีกครับ มาติดตามกันนะครับว่ากิจกรรมต่อไปพวกเราจะทำอะไร ขอบคุณมากๆครับ

มาร์คขอส่งกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังต่อสู้กับโรคโควิดนะครับ Stay safe and healthy ครับ" เรียกว่าทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก แถมยังใจบุญอีก งานนี้แฟนๆ ก็เข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญกันเพียบ
#3133


เรียกเสียงฮือฮาในโลกโซเชียลได้อย่างล้นหลาม เมื่อผู้ผลิต "กระดาษกงเต็ก" รายหนึ่งในประเทศมาเลเซีย เกิดไอเดียสุดบรรเจิดออกแบบ กงเต็กวัคซีนโควิด ต้อนรับเทศกาล "วันสารทจีน" ปี 2564 ลูกหลานแดนมังกรที่อยากให้บรรพบุรุษปลอดภัยจากโควิด-19 น่าจะถูกใจไม่น้อย

โดยเว็บไซต์ TheStar - มาเลเซีย รายงานว่า ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่กระจายไปทั่วโลก ผู้คนต่างก็ต้องการฉีดวัคซีนโควิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 และด้วยกระแสมาแรงของวัคซีนโควิดในยุคนี้

"เรย์มอนด์ ชีห์" เจ้าของร้านกระดาษกงเต็กเจ้าหนึ่ง ในเมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซียจึงได้ออกแบบ กงเต็กวัคซีน ที่ทำจากกระดาษที่ขึ้นรูปเองด้วยมือ วางจำหน่ายในช่วงวันสารทจีนของปีนี้ เพื่อให้ลูกหลานได้เผาส่งไปให้บรรพบุรุษ (ตามความเชื่อของชาวจีน) จะได้ปลอดภัยจากโควิดกันถ้วนหน้าในปรโลก


เจ้าของร้านดังกล่าว เล่าว่า ไอเดียนี้เกิดจากลูกค้าบางคนอยากให้เขาทำกงเต็กในรูปแบบ "วัคซีนกระดาษ" เนื่องจากพวกเขาต้องการส่งมอบวัคซีนไปให้แก่ญาติๆ ผู้ล่วงลับ รวมถึงวิญญาณเร่ร่อนสำหรับเทศกาลวันสารทจีน (Hungry Ghost Festival) ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 22 สิงหาคม 2564

"ผมตัดสินใจลองทำดู เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านการทำกระดาษกงเต็งเหล่านี้อยู่แล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 2 วัน ในการสร้างชุดกระบอกฉีดยาขนาดใหญ่ และขวดวัคซีนกระดาษที่เลียนแบบจากของจริง หลังจากที่แชร์รูปกงเต็กวัคซีนดังกล่าวไปบนหน้าเพจเฟซบุ๊คของผม ผมก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า และมีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างรวดเร็ว" ชีห์บอก

ทั้งนี้ กงเต็กชุดวัคซีนโควิด 3 ขวด พร้อมเข็มฉีดยา 1 เข็ม จำหน่ายในราคาชุดละประมาณ 30 ริงกิตมาเลเซีย คิดเป็นเงินไทยประมาณ 236.13 บาท

ส่วนที่เห็นผลงานออกมาดูดีเหมือนจริงได้ขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่า ชีห์ เคยทำงานเป็นนักออกแบบกราฟิกในสิงคโปร์มาก่อน จากนั้นเขาได้กลับมาอาศัยอยู่ที่เมืองยะโฮร์บารู เพื่อเริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับกระดาษกงเต็กชนิดต่างๆ เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว

เขาบอกเล่าเพิ่มเติมว่า ธุรกิจของเขาเอง ก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจย่ำแย่ในช่วงโควิด-19 ระบาดเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงต้องปรับตัวให้สินค้าของเขาเท่าทันยุคสมัย เพื่อให้ลูกค้าไม่เบื่อกับรายการสินค้ารูปแบบเดิมๆ ซึ่งในภาพรวมธุรกิจของเขามียอดขายลดลงเพียงประมาณ 10% ซึ่งก็เรียกว่ายังไหวอยู่ เมื่อเทียบธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องปิดตัวในช่วงการระบาดใหญ่ 

"มีร้านขายของกระจุกกระจิกมากมายในยะโฮร์บารู ดังนั้นสินค้าในร้านผมเลยต้องโดดเด่นกว่าคู่แข่ง ลูกค้ามักจะชื่นชมผลิตภัณฑ์ในร้านที่เราตั้งใจทำ ผมเองก็หวังว่าผลิตภัณฑ์ในร้านผมจะสามารถให้ความอุ่นใจแก่ลูกค้าและช่วยให้พวกเขาเติมเต็มความปรารถนาดีไปยังบรรพบุรุษที่พวกเขารักได้" ชีห์กล่าว

----------------------

อ้างอิง : thestar.com
#3134


"20Something Bar" ร้านอาหารกึ่งบาร์ชื่อดังแห่งย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ประกาศปิดอย่างเป็นทางการ หลังทนวิกฤตโควิดครั้งนี้ไม่ไหว ด้านลูกค้าแห่คอมเมนต์รู้สึกใจหาย

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เพจ "20Something Bar" หรือ ร้าน ทเวนตี้ ซัมติง บาร์ ร้านอาหารกึ่งบาร์ชื่อดังแห่งย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ประกาศปิดอย่างเป็นทางการ รับวิกฤตโควิดครั้งนี้ไม่ไหว โดยระบุข้อความว่า "งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา วันนี้ถึงเวลาที่ร้าน 20somethingbar ต้องเลิกลาแล้ว...

จากวิกฤตโรคระบาดที่เกิดขึ้น ทางร้านได้ทำการปรับตัว และยื้อจนร้านไม่สามารถไปต่อได้แล้วจริงๆ ถึงวันนี้ค่าเช่ายังคงต้องจ่าย ค่าไฟที่ต้องเปิดเพื่อให้คนมาเฝ้าของกันขโมย มันหนักหนาตั้งแต่โควิดครั้งแรก จนมาถึงวันนี้...ทางร้านจึงขอประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ

ขอบคุณสำหรับความทรงจำตลอด​เกือบ​ 12​ ปี​ เราเชื่อว่าหลายคนมีความทรงจำมากมายกับที่นี่แน่นอน​ ใครอยากแชร์​ความทรงจำอะไรใส่ไว้ในคอมเม้นได้เลยนะครับ แล้วเรามาอ่านด้วยกัน

ส่วนท่านใดที่สนใจบริหารร้านต่อ สนใจเซ้งร้าน หรือสนใจจะเซ้งแต่ชื่อร้าน 20something และสื่อ โซเชียล เพื่อไปทำร้านต่อในพื้นที่อื่นๆในอนาคตสามารถติดต่อได้ที่ Line: nookp Tel : 081-8257555 , 061-6524246"
#3135


นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน–สหรัฐฯ ครั้งที่ 34 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา เพื่อหารือแผนงานความร่วมมือฉบับใหม่ภายใต้กรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียน–สหรัฐฯ สำหรับปี 2564-2565 และจะเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-สหรัฐฯ ในเดือนก.ย.2564

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียนและสหรัฐฯ ได้เห็นชอบร่วมกันต่อสาขาความร่วมมือภายใต้แผนงานฉบับใหม่ดังกล่าว ครอบคลุมเรื่องสำคัญ เช่น การค้าดิจิทัล แนวทางการจัดทำกฎระเบียบที่ดี การอำนวยความสะดวกทางการค้า การเชื่อมโยงระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย รวมถึงความร่วมมือด้านแรงงานและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการค้า



ขณะเดียวกัน ภายใต้แผนงานฉบับใหม่ มีกิจกรรมความร่วมมือที่น่าสนใจ เช่น การจัดทำรายงานดัชนีการรวมกลุ่มพัฒนาด้านดิจิทัลของอาเซียน การพิจารณาความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการส่งออกระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ การสร้างความพร้อมให้กับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อยในการประกอบธุรกิจออนไลน์และการค้าดิจิทัล และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านมาตรฐานแรงงานและสิ่งแวดล้อม

"คาดว่าแผนงานความร่วมมือฉบับใหม่ จะช่วยสานต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ และช่วยส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ และสนับสนุนให้อาเซียนเกิดการปรับตัวและฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้"นายดวงอาทิตย์กล่าว

ในช่วงปี 2563-2564 สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกอาเซียนในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนใบรับรองสุขอนามัยพืชทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ การจัดสัมมนาเรื่องการค้าและแรงงานเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ และการส่งเสริมการมีบทบาทของนักธุรกิจสตรีในอาเซียน เป็นต้น ซึ่งช่วยพัฒนาศักยภาพด้านการค้าการลงทุนของอาเซียน รวมถึงประเทศไทยในเวทีโลก

การค้าระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ช่วง 6 เดือนปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 181,664.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอาเซียนส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 135,764.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 45,900.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกัน มีมูลค่า 27,049.0 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 19,873.8 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และไทยนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 7,175.2 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วน
#3136


นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยภายในงานสัมมนา 50 ปี เครือเนชั่น Virtual Forum Thailand Next EP.1 : Innovation Beyond Business โอกาสนวัตกรรมเศรษฐกิจ ในหัวข้อ "Thailand New Outlook Innovation and Opportunity Post Covid" โดยระบุว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โควิด 19 ตอนนี้วิกฤติมาก ในแง่ของภาคสาธารณสุข โรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ถือว่าทำงานเต็มศักยภาพแล้ว

อย่างไรก็ดี สถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเมืองไทย แต่เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านเราเหมือนกัน เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม อีกทั้งเดือนนี้เราจะเริ่มเห็นสถานการณ์ในอเมริกา ในยุโรป อังกฤษ ที่เจอการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า พบว่าผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ภาพรวมทั้งโลกในเดือน ส.ค.ที่เริ่มมานี้ สถานการณ์คนติดเชื้อ 2 ใน 3 ของตัวเลขพีคในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าสถานการณ์เรียกว่าค่อนข้างหนัก

"วันนี้คำถามที่ว่าเมื่อไหร่โควิดจะหมดไป เมื่อไหร่จะพีค หรือเมื่อไหร่จะหายไป โรคนี้จะหายไปไหม อาจเป็นคำถามที่เราต้องคิดใหม่ว่า หรือเป็นสิ่งที่เราต้องอยู่กับมัน เพราะแม้จะมีวัคซีน เราก็ต้องปรับตัวให้อยู่กับมัน เพราะวัคซีนป้องกันระบาดไม่ได้ 100% แต่ป้องกันการเจ็บตัวลงได้"



ทั้งนี้ ในแง่ของภาคธุรกิจ ที่ก่อนหน้านี้เรียกว่าต้องปรับตัวรับ นิวนอร์มอล (New Normal) ตอนนี้ส่วนตัวผมคิดว่าไม่แน่ใจแล้วกับการปรับตัวหลังโควิดคลี่คลาย แต่สิ่งที่เห็นคือการปรับตัวให้เป็น นาวนอร์มอล (Now Normal) เป็นสิ่งที่เราต้องอยู่กับมันให้ได้ในวันนี้ สิ่งนี้มีผลอย่างมากกับภาคธุรกิจ สังคม และสาธารณสุข เป็นสิ่งที่เราต้องปรับตัวทำทันที ทำไปเรื่อยๆ และต้องอยู่กับมันให้ได้

สำหรับการปรับตัวสู่นาวนอร์มอลของเอสซีจี เมื่อเจอการแพร่ระบาดของเดลต้า ได้ปรับแผนจากการทำไข่แดง มาเป็นการทำ มาตรการการควบคุมโรคลักษณะ หรือบับเบิ้ลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) และทำให้เป็นการปรับตัวรับกับนาวนอร์มอล โดยการเอาเทคโนโลยีมาใช้กับสิ่งเหล่านี้ให้เป็นการปรับตัวที่อยู่กับเอสซีจีตลอดไป

ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ที่เคยคิดว่าเมื่อโควิด 19 คลี่คลายแล้วจะกลับไปเป็นแบบเดิม อย่างภาคการท่องเที่ยว ขณะนี้อาจต้องเริ่มคิดแล้วว่าจะเป็นแบบเดิมอย่างไร หรือจะปรับเป็นนาวนอร์มอลเพื่ออยู่กับสิ่งนี้ เพราะทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ กับทุกธุรกิจที่รู้จักปรับตัว และผู้ที่อยู่รอดค คือผู้ที่ปรับตัว นวัตกรรมจะเป็นนาวนอร์มอลในยุคต่อไปนี้ และความเร็วจากการใช้นวัตกรรม เพื่อการปรับตัวให้เป็นไปตามคความต้องการของลูกค้า จะเป็นนาวนอร์มอลที่ทำให้เราอยู่กับโควิด 19  

นายรุ่งโรจน์ ยังกล่าวด้วยว่า เอสซีจีมองว่านาวนอร์มอล คือ 4 กลุ่มธุรกิจที่หากเปลี่ยนแปลงด้วยนวัตกรรมและดิจิทัลจะเกิดโอกาสอย่างชัดเจน ได้แก่

1.เรื่องของอีคอมเมิร์ซ การเอาดิจิทัล ไปใช้ในการให้บริการ การทำระบบอัตโนมัติ คือการพัฒนาโมเดลในการทำธุรกิจ

2.เรื่องของการใช้ชีวิต นาวนอร์มอลเรื่องของบ้าน ปัจจุบันไม่ใช่เพียงการอยู่บ้าน แต่หมายถึงการอยู่บ้านยังไงให้สบาย เพราะตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคต้องทำงานที่บ้านด้วย

3.เรื่องของธุรกิจกลุ่มเฮลแคร์ หรือสุขภาพ

4.เรื่องของการเกษตร เอาเทคโนโลยีมาใช้ จะทำให้ประเทศของเราเปลี่ยนแปลงเป็น Food Chain สมัยใหม่
#3137


จอน ราห์ม นักกอล์ฟมือ 1 โลกชาวสแปนิช เปิดฉากการแข่งขัน เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ด้วยผลงานเยี่ยมตี 8 อันเดอร์พาร์ เป็นผู้นำร่วมกับ จัสติน โธมัส เจ้าบ้าน เมื่อจบรอบแรก วันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 316 ล้านบาท) ณ สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 นิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เปิดฉากแข่งรอบแรกไปแล้ว

จบวันแรก ผู้นำคือ จอน ราห์ม สวิงเบอร์ 1 โลกจากสเปน ตีได้อย่างไร้เทียมทาน 8 เบอร์ดีไม่มีพลาด กินเต็ม 8 อันเดอร์พาร์ แต่ก็ต้องแชร์เก้าอี้กับ จัสติน โธมัส มือ 5 โลกชาวอเมริกัน ที่ตีสกอร์ขึ้นมานำร่วมเท่ากัน

"ผมรู้สึกว่าตัวเองตีได้ดีกว่าที่เห็นภายนอกมาก เมื่อคุณจัดการตัวเองได้ดี ทุกอย่างก็จะดูง่ายขึ้นจากสกอร์ที่ออกมา" ราห์ม เผยหลังจบวันแรก

ด้านผู้เล่นคนอื่น ฮิเดกิ มัตสึยาม่า มือดังจากญี่ปุ่น อันดับ 15 ร่วม หลังตีวันแรก 2 อันเดอร์พาร์ ส่วน บรูค์ส โคปก้า ซูเปอร์สตาร์เจ้าบ้าน ตีได้ 1 อันเดอร์พาร์ อันดับ 34 ร่วม
#3138


หนึ่งในโครงการสำคัญในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) คือโครงการพัฒนา "สนามบินอู่ตะเภา" และ"เมืองการบินภาคตะวันออก" ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองการบินรวมทั้งเริ่มต้นลงทุนระบบเติมน้ำมันอากาศยาน

การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีการวางแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์แล้ว และหลังจากนี้จะเป็นการพัฒนาในแต่ละส่วน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานรองรับ โดยความคืบหน้า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่มีการรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 พบว่า

บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ซึ่งรับหน้าที่พัฒนาสนามบิน ได้จัดทำแผนแม่บทสนามบินฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้ว และมีการจ้างผู้ออกแบบระดับโลก

กองทัพเรือ (ทร.) ที่รับหน้าที่พัฒนาสนามบินได้ออกแบบทางวิ่ง 2 เสร็จแล้ว และมีการปรับถมดินทางขับระยะที่ 1 คืบหน้า 80.53%

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ "อีสท์วอเตอร์" รับผิดชอบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้เตรียมก่อสร้างระบบประปาและบำบัดน้ำเสีย

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับผิดชอบวางแผนแม่บทการพัฒนาภายในสนามบินได้จัดทำแผนแม่บทศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) แผนแม่บทศูนย์บริการอุปกรณ์ภาคพื้น และแผนแม่บทศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรทักษะชั้นสูงด้านอุตสาหกรรมการบิน

บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เคยมีแผนพัฒนา MRO ได้กันพื้นที่ให้การบินไทย 103 ไร่ หากต้องการลงทุนในอนาคต

ในขณะที่การวางระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือก คือ บริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด (GAA) ซึ่งร่วมทุนระหว่าง บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ "BAFS" ถือหุ้น 55% และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ "OR" ถือหุ้น 45% ภายใต้ทุนจะทะเบียน 600 ล้านบาท

สกพอ.ได้ลงนามการเช่าพื้นที่ราชพัสดุเพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศยานกับบริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2564 โดยเป็นการเช่าพื้นที่บริเวณสนามบินอู่ตะเภา 17 ไร่ สัญญาเช่า 14 ปี

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีลงนามครั้งนี้ โดยระบุว่า โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คืบหน้าเป็นลำดับแต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับการบิน 3 โครงการ สะดุดบ้าง แต่มั่นใจว่าเมื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้ และมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นจะทำให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการบินในสนามบินอู่ตะเภาคืบหน้า โดยการลงทุนระบบการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานที่เป็นการเตรียมความพร้อมสำคัญที่จะเดินหน้าโครงการต่างๆ ในอีอีซี โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศทั้งการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานภายในสนามบินเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของสนามบิน

คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดย สกพอ.ร่วมกับกองทัพเรือคัดเลือกเอกชนพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ซึ่ง GAA มีประสบการณ์มานานและเชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่จากภาคเอกชน อีกทั้งลดภาระงบประมาณและบุคลากรภาครัฐ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้ทำธุรกิจมากขึ้น


หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล ประธานกรรมการ GAA กล่าวว่า การเช่าที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุน โดยโครงการมีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 2,237 ล้านบาท ซึ่ง GAA จะเตรียมความพร้อมในด้านระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ส่งเสริมศักยภาพสนามบินอู่ตะเภาที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานรองรับการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของสนามบินอู่ตะเภา ในปี 2568 และการเติบโตของอีอีซีตามนโยบายการพัฒนาประเทศ

รวมทั้ง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม ด้วยความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการและการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและธุรกิจด้านพลังงาน มามากกว่า 30 ปี โดย BAFS และ OR จะสนับสนุนให้ GAA มีศักยภาพ ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การบริหารจัดการและการให้บริการณสนามบินอู่ตะเภามีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการค้าน้ำมันเสรีแบบ Open Access ดูแลระบบท่อส่งน้ำมันใต้ลานจอด

ประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BAFS กล่าวว่า "BAFS" เป็นผู้นำในด้านการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจรของประเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทน้ำมันและสายการบินจากทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศ โดยการจัดตั้ง GAA จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และเป็นก้าวสำคัญในการรองรับการเติบโตของโครงการในอีอีซีและประเทศไทยต่อไปในอนาคต

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR กล่าวว่า OR ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน Flagship ของกลุ่ม ปตท. และเป็นผู้นำด้านพลังงาน OR ให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานภายในสนามบินอู่ตะเภา สอดคล้องเป้าหมายยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานานชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3
#3139


เว็บไซต์นิคเคอิ เอเชีย รายงานวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า โตโยต้า ผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลก มีแผนผลิตรถ 5 แสนคันในเดือนหน้า ลดลงจากแผนเดิมซึ่งอยู่ที่ 9 แสนคัน

รายงานระบุด้วยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. เป็นต้นไป โตโยต้าจะระงับการดำเนินงานในโรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่น และลดขนาดการผลิตลงในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตา" ที่รวดเร็วและรุนแรงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ของโตโยต้าด้วย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

หลังมีรายงานของนิคเคอิ ปรากฏว่า ราคาหุ้นของโตโยต้าปิดตลาดวันนี้ ร่วงลง 4.42% มาอยู่ที่ 9,295 เยน


อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังไม่แสดงความคิดเห็นต่อรายงานนี้

ก่อนหน้านี้ บรรดาคู่แข่งของค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น จำเป็นต้องชะลอหรือระงับการผลิตรถชั่วคราว เนื่องจากขาดแคลนชิพ ซึ่งไมโครชิพเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับระบบไฟฟ้าในรถรุ่นใหม่ และประสบปัญหาขาดแคลนมาตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว

เดิมนั้น ปัญหาขาดแคลนชิพและปัญหาด้านซัพพลายเชนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่นของโตโยต้าต้องระงับการดำเนินงานไปก่อนแล้ว

ต้นเดือนนี้ โตโยต้ารายงานว่า มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลจากยอดขายรถอันแข็งแกร่งหลังฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดได้
#3140


มื่อวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็น ในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยอนุญาตให้ธนาคารสถาบันการเงินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดให้บริการได้ มีผลวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป โดยพิจารณาข้อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 26 ข้อ ของสมาคมศูนย์การค้าไทย

สมาคมธนาคารไทยได้ประสานกับธนาคารสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการของสาขา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของลูกค้าที่มาใช้บริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ภายใต้การบริหารจัดการภายในสาขาและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนลูกค้าและช่องให้บริการเพื่อลดความแออัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารสมาชิกแต่ละธนาคารจะพิจารณาการเปิดสาขาตามความเหมาะสม  และความเสี่ยงของแต่ละธนาคารรวมถึงประกาศของเจ้าของพื้นที่และการประกาศของจังหวัด โดยมีแนวทางในการเปิดให้บริการ ดังนี้ 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
1. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จะพิจารณากลับมาเปิดให้บริการ โดยให้บริการไม่เกิน 17.00 น.

2. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ แต่ไม่เกิน 17.00 น.


3. สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone สามารถเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ  ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกิน 15.30 น.

4. สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกิน 15.00 น

ทั้งนี้ การเปิดสาขาและจำนวนวันทำการของแต่ละสาขาจะเป็นไปตามการพิจารณาของแต่ละธนาคารสมาชิก โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาที่เปิดให้บริการได้ทาง website หรือช่องทาง Call Center อย่างไรก็ตาม สมาคมธนาคารไทยขอแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking  หรือตู้ ATM และติดต่อธนาคารที่ใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ทาง Call Center  Line@ Facebook Website เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด ทั้งนี้ ภาคธนาคารขอแจ้งงดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อยเพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัส