• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jenny937

#2981

ต้องอยู่กับมันให้ได้..สถานที่ท่องเที่ยวดังเชียงราย ทั้งวัดร่องขุ่น-ภูชี้ฟ้า เดินหน้าเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายฝนต้นหนาว หลังปิดหนีโควิดมานาน

สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายที่ต้องปิด-งดการให้บริการ เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 มายาวนานนั้น ขณะนี้หลายแห่งเริ่มประกาศเปิดให้นักท่องเที่ยวกลับเข้าเที่ยวชมอีกครั้งแล้ว แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของยังคงมีอยู่แต่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่มากนัก

ล่าสุดวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ที่ปิดสถานที่เพราะผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.2564 ได้เปิดวัดให้เข้าชมได้บริเวณด้านหน้า ภายใต้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 และระเบียบการเข้าชมศาสนสถานด้วย ซึ่งพบว่าหลังจากมีประกาศดังกล่าวทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวไทยแวะเวียนไปชมและถ่ายรูปกันต่อเนื่อง

ขณะที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) พื้นที่ อ.เทิง และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวตั้งแต่วันนี้(1 ต.ค.64)เป็นต้นไป โดยมีการวางมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดเช่นกัน



นายบันเทิง เครือวงศ์ ที่ปรึกษาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.เชียงราย กล่าวว่าที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจบนบางเส้นทางขึ้นสู่ภูชี้ฟ้าตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 และเพื่อดูแลความปลอดภัยในฤดูฝน ตอนนี้สถานการณ์ที่ภูชี้ฟ้าถือว่าปลอดภัยไม่พบผู้ติดเชื้อมานานแล้ว คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ได้มีมติให้เปิดการท่องเที่ยวบนภูชี้ฟ้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

"ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวซบเซาอย่างหนัก แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและปีนี้ทะเลหมอกบนภูชี้ฟ้างดงามมากทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเห็นทยอยมากันบ้างแล้ว ทั้งนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเขาพักตามรีสอร์ต ห้องพัก ตั้งเต็นท์บริเวณชุมชนและที่ของเอกชนได้เช่นเดิม"

ด้านนางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย กล่าวว่าสภาพภูมิอากาศของปีนี้มีฝนตกหนักมาก ซึ่งตามปกติจะทำให้หนาวมากและยาวนาน คาดหวังว่าฤดูหนาวปลายปีนี้จะเป็นที่ปราถนาของนักท่องเที่ยว ศบค.ก็ผ่อนคลายมาตรการทำให้คนจากกรุงเทพฯ-ภาคกลาง และทั่วประเทศ เดินทางสะดวกขึ้นด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ จึงได้เตรียมการรองรับอย่างเต็มที่ภายใต้มาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

"เชื่อว่าเมื่อนักท่องเที่ยวไทยยังเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้สะดวกและไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวทะเล คนจะพากันเดินทางขึ้นภาคเหนือและเชียงราย เป็นจำนวนมากแน่นอน"
 
#2982

"ไทยเบฟ" เดินหน้าลุยโควิดยังไม่จบ พร้อมปรับกลยุทธ์สู้สถานการณ์ต่อเนื่อง โชว์ 9 เดือนแรกยอดขายรวม 192,120 ล้านบาท โต 1.1% กำไร 36,638 ล้านบาท โต 11.5% เผยต้องแสวงหาสินค้าใหม่ๆ พัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ หาตลาดใหม่ๆ รับโลกเปลี่ยน

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (1 ต.ค. 63-30 มิ.ย. 64) มียอดขายรวม 192,120 ล้านบาท เติบโต 1.1% และมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย 36,638 ล้านบาท เติบโต 11.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรวมส่งผลให้เป็นบริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ติดอันดับ 1 ใน 10 ของเอเชียในด้านรายได้และมูลค่าการตลาด

"แม้ว่าเราจะได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีการปิดช่องทางการจัดจำหน่ายที่สำคัญ แต่จากการปรับแผนการดำเนินงานและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากนี้ไปเราต้องศึกษาพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ช่องทางใหม่ๆ และตลาดใหม่ๆ ด้วย อาทิ การศึกษาตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี)" นายฐาปนกล่าว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยรวมของเศรษฐกิจจากนี้ไป ขณะที่โควิด-19 ยังไม่จบ จะต้องมีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและความต้องการให้ละเอียด เพราะมีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากผลกระทบของโควิด รวมทั้งการทำตลาดแบบใหม่ๆ ที่เข้าถึงผู้บริโภคและตรงความต้องการมากที่สุด เพื่อรองรับการแข่งขันจากนี้ไปที่จะรุนแรงมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการจะต้องพยายามหาทางสร้างรายได้กลับมาให้มากที่สุดทดแทนจากที่หายไป



นายประภากร ทองเทพไพโจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจสุรา กล่าวว่า จะมีการขยายตลาดด้วยสินค้ากลุ่มใหม่ๆ เนื่องจากกลุ่มเดิมเราเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว เช่น ตลาดวอดก้า ที่ส่งคูลอฟเข้าตลาดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จนเป็นผู้นำตลาด ด้วยแชร์ 32% หรือการขยายตลาดต่างประเทศ เช่นเวียดนาม

ภาพรวมกลุ่มสุราของบริษัทยังมีความแข็งแกร่งเพราะความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่บริโภคที่บ้านได้เช่น รวงข้าวสุราขาว และปีนี้ได้ปรับบรรจุภัณฑ์สุราสีหงส์ทองขนาด 350 มล. และ 700 มล.ให้ทันสมัยมากขึ้น ส่วนแสงโสมเติบโต 13% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนเบลนด์ 285 ซิกเนเจอร์ เติบโต 26% ส่วนเมอริเดียนบรั่นดี เติบโต 39%

นายเลสเตอร์ ตัน ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเบียร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ธุรกิจเบียร์จะขยายตลาดกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการผลิตมากขึ้นด้วยเพื่อลดต้นทุน เช่น ที่ผ่านมาจำหน่ายเบียร์กาแฟ เป็นต้น ซึ่งปีนี้แม้ไม่สามารถจำหน่ายในร้านอาหาร และปิดบริการผับ บาร์ต่างๆ แต่บริษัทยังเติบโตด้านกำไร และยังประหยัดค่าใช้จ่ายจากการที่ไม่ได้ทำการตลาด ไม่ได้จัดอีเวนต์

นายโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มีรายได้จากการขาย 11,688 ล้านบาท ลดลง 6.4% เนื่องจากปริมาณการขายลดลง 8.6% โดยยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายด้านโฆษณาและส่งเสริมการขาย ทำให้มีกำไร 1,629 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2%

โดยกลยุทธ์หลักๆ คือ ปรับรูปแบบการขายมุ่งเน้นร้านค้าปลีก ร้านค้าชุมชนมากขึ้น, นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพการขาย, นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, เสริมแกร่งทีมงานเตรียมพร้อมรับมือโลกยุคนิวนอร์มัล



นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจอาหารประเทศไทย เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจอาหารตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจอาหารอันดับ 1 ในแง่รายได้ภายในปี 2568 จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากกลุ่มไมเนอร์ฟู้ด และกลุ่มเอ็มเค ซึ่งปัจจุบันกลุ่มไทยเบฟมีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มประมาณ 23 แบรนด์ มีรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 จำนวน 8,649 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ทางกลุ่มได้มีการจัดพอร์ตโฟลิโอใหม่เป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่รับสิทธิ์แฟรนไชส์มา เช่น เคเอฟซี สตาร์บัคส์ เป็นต้น แต่เป็นกลุ่มที่มียอดรายได้หลัก, 2. กลุ่มที่เป็นเจ้าของแบรนด์เอง จะสร้างกำไรและขยายตัวรวมทั้งการขยายออกต่างประเทศและการขายแฟรนไชส์ด้วย และ 3. กลุ่มที่เป็นเจ้าของแบรนด์เอง แต่ว่ายังไม่แข็งแรงเพราะอยู่ในช่วงเริ่มธุรกิจ แต่มีแนวโน้มที่จะเติบโตและการขยายตัวอย่างดีในอนาคต

โดยมีเครือข่ายร้านอาหารทั้งหมดประมาณ 673 สาขา แบ่งเป็น คิวเอสอาร์ จำนวน 378 สาขา, ร้านอาหารฟูดออฟเอเชีย 40 สาขา และเครือโออิชิ 255 สาขา จากปีที่แล้ว (พ.ศ. 2563) ที่มีประมาณ 649 สาขา และปี 2562 มีประมาณ 620 สาขา

แนวทางขยายสาขาจากนี้จะไม่พึ่งพิงการเปิดร้านในศูนย์การค้ามากนัก ต้องกระจายไปหลากหลายรูปแบบและหลายช่องทาง เพราะหากมีปัญหาหรือปิดศูนย์การค้าขึ้นมาเหมือนที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด ธุรกิจที่อยู่ในศูนย์การค้าจะเป็นศูนย์ทันที แต่เราจะเปิดหลายรูปแบบและนอกศูนย์การค้ามากขึ้น เช่น การขายสินค้าแบบรีเทล จุดขายดีลิเวอรีที่เราโตมาก 60% ในช่วงที่ผ่านมา การเปิดร้านฟูดทรัคซึ่งขณะนี้มี 10 จุดแล้ว โดยปีนี้เปิดจุดขายใหม่มากกว่า 24 แห่ง เป็นการเปิดนอกศูนย์การค้ามากถึง 90%
#2983


บรรยากาศการลงทุนหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่ปีนี้คึกคัก ทำให้นักลงทุนที่จองซื้อได้รับผลตอบแทนที่ดี ขาใหญ่ที่มีโควตาจัดสรรรวยอู้ฟู่ บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหรืออันเดอร์ไรเตอร์มีรายได้ค่าธรรมเนียมงาม ๆ

แม้แต่สื่อหุ้นหลายสำนักยังรับทรัพย์กันนับสิบล้านบาท

9 เดือนแรก มีหุ้นใหม่รวมทั้งสิ้น 24 บริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 12 บริษัท และตลาด MAI 12 แห่ง โดยไม่เคยได้ยินว่า มีบริษัทใดไม่ต้องจ่ายเงินให้สื่อหุ้น

บริษัทจดทะเบียนใหม่ นอกจากต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือตลาด MAI แล้ว

ยังต้องจ่ายเงินให้สื่อหุ้น 2-3 สำนักด้วย แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม

เงินที่ต้องจ่ายให้สื่อหุ้น เป็นไปในรูปค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนใหม่หลายแห่ง มีบริษัทประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ แต่จำเป็นต้องจัดงบให้สื่อหุ้น

เพราะถ้าไม่จ่าย จะถูกรังควาน ถูกกลั่นแกล้งเขียนข่าวโจมตี ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์บริษัทและความเชื่อมั่นของนักลงทุน

งบโฆษณาที่จ่ายให้สื่อหุ้น ไม่แตกต่างจากภาษีเถื่อน หรือเรียกกันในวงการบริษัทที่ปรึกษาการเงินว่า "ค่าปิดปากสุนัข"

ถ้ายินยอมจ่ายแต่โดยดี สื่อหุ้นจะกลายเป็นสุนัขที่แสนเชื่อง ปิดปากเงียบ ไม่เห่าหอน ไม่เสนอข่าวที่เป็นลบต่อบริษัทจดทะเบียนใหม่ ทำให้ประชาชนผู้ลงทุน ไม่ได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้าน เพื่อพิจารณาตัดสินใจลงทุน

แม้จะเป็นหุ้นเน่า เข้ามาซื้อขายแล้วราคาหุ้นต่ำกว่าจอง หรือมีการปั่นราคาในวันแรก ๆ ที่เข้ามาซื้อขาย สื่อหุ้นก็จะเพิกเฉยในการตรวจสอบหรือวิพากษ์วิจารณ์

แต่ถ้าไม่ยอมจ่าย แม้เป็นบริษัทจดทะเบียนดีขนาดไหน จะถูกเขียนข่าวโจมตี ใส่สีตีไข่สร้างข่าวให้ร้าย ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน กระทบต่อการเสนอขายหุ้น

ไม่มีประกาศแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่รับรู้กันในแวดวงบริษัทที่ปรึกษาการเงินและอันเดอร์ไรเตอร์ว่า บริษัทจดทะเบียนใหม่รายใด ไม่จ่ายค่าปิดปากสุนัข จะถูกสื่อหุ้น 2-3 สำนัก หมายหัว ถูกตามราวี และตามเห่าหอนสร้างความรำคาญ

จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือตลาด MAI จะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ระดมทุน 100 ล้านบาทหรือหลายหมื่นล้านบาท ต้องจ่ายเงินฟาดหัวสื่อหุ้นเหมือนกันหมด

สื่อหุ้นบางสำนัก เรียกเก็บภาษีเถื่อนหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่รายละเกือบ 4 แสนบาท บางสำนักเก็บ 3 แสนบาทต้น ๆ และปรับขึ้นทุกปีประมาณ 10%

เจ้าของสื่อหุ้นบางสำนัก กำลังแสยะยิ้มอย่างลำพองใจ เพราะปีนี้จะกวาดเงินค่าปิดปากสุนัขจากหุ้นใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกรับจากหุ้นใหม่ 23 บริษัทไปเกือบ 10 ล้านบาทแล้ว ไม่รวมการตบทรัพย์บริษัทจดทะเบียนในรูปแบบอื่น

การจ่ายเงินฟาดหัวสื่อหุ้น เพื่อปิดปากไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์หุ้นใหม่ ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้นักตบทรัพย์ในคราบสื่อ สร้างความเสื่อมเสียให้วิชาชีพสื่อ

แต่ในแวดวงตลาดหุ้น ไม่มีใครออกมาโวยวาย หรือเปิดโปงพฤติกรรมบัดซบของสื่อหุ้นบางสำนัก

เพราะผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใหม่ยอมจ่าย เพื่อตัดความรำคาญเสียงเห่าหอน ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินทำงานง่ายขึ้น บริษัทอันเดอร์ไรเตอร์ขายหุ้นใหม่ได้คล่องขึ้น

ส่วนที่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องกังวลว่า จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในการรับหุ้นใหม่ แม้จะพลาดรับหุ้นเน่าเข้ามา เนื่องจากนโยบายที่เน้นเชิงปริมาณมากกว่าการกลั่นกรองคุณภาพก็

ทุกฝ่ายได้ประโยชน์หมด เพราะไม่มีสื่อทำหน้าที่ตรวจสอบหุ้นใหม่ เพียงแต่เจียดเศษเงินปิดปากสุนัขเท่านั้น

แต่ประชาชนผู้ลงทุนต้องเสี่ยงกับหุ้นใหม่ เสี่ยงตั้งแต่การจองซื้อ และเสี่ยงการเก็งกำไรช่วงหุ้นใหม่เข้าซื้อขายวันแรก ๆ เพราะสื่อหุ้นจะไม่นำเสนอข่าวด้านลบหุ้นใหม่ แม้จะเป็นบริษัทที่เคยมีประวัติไม่ดี หรือเป็นกิจการที่มีความเสี่ยง

ไม่ส่งสัญญาณเตือนหุ้นใหม่ที่ตั้งราคาเสนอขายหุ้นแพงเกินไป ไม่วิพากษ์วิจารณ์ราคาหุ้นที่ถูกลากขึ้นอย่างร้อนแรง และมีพฤติกรรมเข้าข่ายการสร้างราคาช่วงที่เข้าซื้อขายวันแรก ๆ

ภาษีเถื่อนหุ้นใหม่ กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว บริษัทจดทะเบียนรายใดไม่จ่าย นักตบทรัพย์ในคราบสื่อหุ้น จะแสดงฤทธิเดชเป็นอันธพาลอาละวาดรังควานไม่เลิก

นักตบทรัพย์ในคราบสื่อกลุ่มนี้ ไร้จิตสำนึกในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพ ด้านพอที่จะทนต่อเสียงประณามจากสังคมตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นที่ฟอนเฟะ เต็มไปด้วยหุ้นเน่า หุ้นปั่น เพราะมีนักตบทรัพย์ในคราบสื่อที่ทำตัวเป็นเห็บเหา พร้อมก้มหัวรับใช้ใครก็ตามจ่ายเงินฟาดหัวอย่างไร้ศักดิ์ศรีอยู่มากมาย

กลายวงจรอุบาทว์อันบัดซบในวงการสื่อสายตลาดหุ้น
#2984
การดูดไขมันถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งจำเป็นมากที่ต้องทำด้วยทีมแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้านนี้และก็ที่ FAT Center ก็ได้รับความชื่นชอบในเรื่องของการดูดไขมันที่มีแนวทางเฉพาะตัวในเรื่องนี้รวมถึงประสบการณ์ มาดูกันดีกว่าว่าเพราะเหตุใดจะต้องดูดไขมันที่นี่




เพราะเหตุใดจะต้องดูดไขมันที่ FAT Center 

- FAT Center มีกลุ่มแพทย์ที่มีประสบการณ์แล้วก็มีความชำนาญในด้านการดูดไขมันโดยตรงซึ่งจำเป็นมากสำหรับเพื่อการดูดไขมัน เพราะว่าไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้ การดูดไขมันจำต้องทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมากด้วยเหตุว่าคนไข้แต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน ทั้งรูปร่างของร่างกายและปริมาณไขมันด้วยเหตุนั้นจำต้องประเมินแล้วก็วิเคราะห์ออกมาแบบละเอียด เพื่อผลที่ดีและก็ความปลอดภัยของคนไข้เอง

- FAT Center มีเครื่องมือในการดูดไขมันที่นำสมัยได้มีมาตรฐานในระดับสากล มีคุณภาพและมีความปลอดภัยในการให้บริการ ซึ่งจะมีผลให้ได้สัดส่วนที่ดี สามารถเลือกอุปกรณ์ได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละคนเพื่อจะได้แก้ปัญหาของคนไข้ได้อย่างถูกจุด เพราะว่าความแตกต่างของบุคคลจึงควรใช้อุปกรณ์แต่ละเครื่องให้เหมาะสมด้วย 





- ทีมแพทย์ของ FAT Center มีแนวทางเฉพาะ ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องเกี่ยวกับการดูดไขมันแล้วมีแผลขนาดเล็ก มีความเจ็บปวดน้อยเรียกว่านอนชิลๆระหว่างการดูดไขมันเลยก็ว่าได้ แล้วก็ภายหลังที่ทำแล้วยังพักฟื้นในระยะเวลาไม่นานอีกด้วย
 
- มีบริการภายหลังจากการดูดไขมันที่ดี มีความใส่ใจคนไข้ทุกราย หลังจากที่ดูดไขมันแล้วยังมีแนวทางที่ช่วยทำให้ผิวหนังกระชับได้เร็วขึ้น กระตุ้นให้รูปร่างเข้าที่เข้าทางได้เร็วขึ้น แล้วก็ดูแลใกล้ชิดตั้งแต่ขั้นแรกที่เข้ารับคำปรึกษา การให้คำแนะนำในการเตรียมพร้อมก่อนเข้ารับการดูดไขมัน การติดตามอาการต่อจากนั้นไปจนกระทั่งขั้นตอนสุดท้ายที่ได้รับผลสรุปเป็นที่น่าพึงพอใจ 

มั่นใจได้เลยว่าการดูดไขมันที่ FAT Center พร้อมดูแลแล้วก็ให้บริการแบบเต็มที่ทุกขั้นตอน เพื่อให้คนไข้ได้รับบริการที่ดีตั้งแต่คราวแรกไปจนถึงในตอนที่ได้รับหุ่นสวย รูปร่างดีกระชับอย่างที่อยากได้ และก็ที่สำคัญราคาตรงปกแน่นอน!
ติดต่อพวกเราได้ที่ 099-426-3939 หรือ http://m.me/fatcenter 


 

 

 
 
#2985


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะมีการพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" สำหรับผู้มีกำลังซื้อซึ่งจะได้รับค่าลดหย่อน 7,000 บาท ที่แม้จะมีผู้ใช้สิทธิน้อย แต่ก็จะมีการพิจารณาขยายค่าลดหย่อนให้อีก นอกจากนี้ ยังมีข้อเรียกร้องให้ออกมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" เนื่องจากสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งเรื่องนี้ขอให้ประชาชนติดตามรายละเอียด เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ กับเทศกาลตรุษจีน ในปีหน้า ซึ่งจะเริ่มในเดือน​กุมภาพันธ์ 2565 มีช่วงเวลาใกล้เคียงกัน จึงอาจมีการพิจารณาขยายการใช้จ่ายโครงการ "คนละครึ่ง" และ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ไปจนถึงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากจะต้องพยุงเศรษฐกิจไตรมาส 4 ให้เดินหน้าไปต่อได้ รวมถึงเศรษฐกิจในปีหน้าด้วย



นายอาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังพิจารณาข้อเรียกร้องมาตรการลดหย่อนภาษีอยู่ ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายแล้ว หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ ดังนั้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อาจจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
#2986

อิ้งค์ วรันธร และ ลี ฐานัฐพ์ ชวนทุกคนมาเปลี่ยนบรรยากาศเดิมๆ ให้สดใส ด้วยเครื่องดื่มแสนอร่อยจากแบรนด์ Blendy ยอดขายอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น มอบความ Relax ไปกับกาแฟและเครื่องดื่มทั้งรูปแบบ stick ชงร้อน และรูปแบบขวดพร้อมดื่ม เพลิดเพลินไปกับรสชาตินุ่ม ละมุน สไตล์ญี่ปุ่น มีหลากหลายเมนู ทั้ง กาแฟนม กาแฟดำ ชา และโกโก้ ที่เลือกสรรวัตถุดิบอย่างดีเยี่ยม รวมถึงนำเข้าวัตถุดิบโดยตรง และผ่านกระบวนการการผลิตเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น เหมือนนำความผ่อนคลายด้วยรสชาติละมุนแบบญี่ปุ่นมาเสิร์ฟถึงเมืองไทย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศเดิมๆให้สดใส และเพลิดเพลินได้ตลอดวัน Have a Blendy Day

สามารถหาซื้อได้ที่ 7-eleven หลายสาขาใกล้บ้าน, ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ทั้ง Shopee, Lazada, 7-eleven All Online, และ JD Central

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง blendyth.com และ facebook.com/BlendyThailand
#2987


นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่าตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ครั้งที่ 15/2564 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ที่ผ่านมามีมติคลายล็อกดาวน์ ซึ่งกำหนดห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืนจากเดิมกำหนดไว้ 21.00 - 04.00 น. ปรับไปเป็น เวลา 22.00 - 04.00 น. ตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นั้น

ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับมติข้างต้น บริษัทจึงเปลี่ยนแปลงเวลาให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เป็นเวลา 05.30 - 22.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยรถไฟขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทางคือ สถานีพญาไท และสถานีสุวรรณภูมิ เวลา 21.30 น. และจะถึงสถานีปลายทางเวลา 22.00 น.

ทั้งนี้ตามที่บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในคลองแสนแสบได้ออกประกาศหยุดให้บริการในวันที่ 29 กันยายน 2564 เนื่องจากนำพนักงานทั้งหมดเข้ารับวัคซีน เข็มที่ 3 ที่สถานีกลางบางซื่อ และจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 30 กันยายน 2564 นั้น บริษัทฯขอแจ้งประชาสัมพันธ์สำหรับผู้โดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่ใช้บริการเชื่อมต่อเรือโดยสารคลองแสนแสบโปรดวางแผนการเดินทางของท่านเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกในช่วงดังกล่าว
#2989


โธมัส ทูเคิ่ล ยัน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ติดโควิด ส่งผลให้อดเจอ ยูเวนตุส เช่นเดียวกับ รีซ เจมส์, คริสเตียน พูลิซิช และ เมสัน เม้าน์ท ที่บาดเจ็บ

    เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางคนเก่งทีมชาติฝรั่งเศส จะพลาดลงช่วย เชลซี เกมไปเยือน ยูเวนตุส ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช นัดสอง คืนวันพุธที่ 29 กันยายนนี้ (02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เนื่องจากมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาเป็นบวก

    ก็องเต้ เพิ่งหายบาดเจ็บโคนขาหนีบกลับมาฟิตสมบูรณ์ แต่ก็ต้องมาโชคร้ายอีก หลัง โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี ยืนยันว่า นักเตะติดโควิด และเวลานี้ได้แยกไปกักตัวแล้ว ทำให้อดเจอ ยูเว่ ตาม รีซ เจมส์, คริสเตียน พูลิซิช และ เมสัน เม้าน์ท ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน

    "คริสเตียน, รีซ และ เมสัน หมดสิทธิ์ลงเล่นเพราะบาดเจ็บ ส่วน เอ็นโกโล่ มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกมาเป็นบวก ดังนั้นมันจึงจะต้องใช้เวลาตามมาตรการของรัฐบาล เขาไม่ได้ลงซ้อมในวันนี้ ขณะที่ รีซ ยังคงเจ็บปวดมาก" กุนซือชาวเยอรมัน เผย

    จากการติดโควิดในครั้งนี้ ส่งผลให้ ก็องเต้ ยังจะพลาดช่วย "สิงห์บลูส์" เจอ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม และยังไม่แน่ว่าจะเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส เจอ เบลเยียม ในศึก ยูฟ่า เนชันส์ ลีก วันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค.นี้ ได้หรือไม่อีกด้วย
#2990


สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศยกระดับมาตรฐานการบังคับใช้กฏหมายครอบคลุมทุกการลงทุน จ่อเสนอปรับแก้ไขกฏหมาย 4 ฉบับ เพื่อให้สอดรับกับสังคมการลงทุนในยุคดิจิทัล เหตุสถานการณ์ลงทุนโลกผันผวนรวดเร็วรุนแรงและมีความซับซ้อนพบช่องโหว่มากขึ้น

สืบเนื่องจากเศรษฐกิจและสังคมโลกปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นำไปสู่ความไม่แน่นอนและความผันผวนสูง (VUCA World : ความผันผวน (Volatility) ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความสลับซับซ้อน (Complexity) ความคลุมเครือ (Ambiguity)) การทำธุรกรรมทางการเงินและในตลาดทุนมีความซับซ้อนมากขึ้นเป็นลำดับเช่นเดียวกัน และมุ่งไปสู่ลักษณะที่ไร้พรมแดน นับเป็นความท้าทายของทุกภาคส่วน

ขณะที่ในภาคตลาดทุนเองก็พบลักษณะการกระทำผิดที่มีการวางแผน การอำพรางพยานหลักฐาน และปิดบังซ่อนเร้น เพื่อให้ยากต่อการติดตามตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมเงินสด การใช้อินเทอร์เน็ตในการซื้อขาย ใช้บัญชีในการซื้อขายหลักทรัพย์จำนวนมากในหลายบริษัทหลักทรัพย์ และใช้บัญชีธนาคารจำนวนมาก รวมทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายมีความซับซ้อน

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ได้คาดการณ์ทิศทางความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ และดำเนินการในเชิงรุก นำมาวางแผนและพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเท่าทันความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายนั้นๆ ด้วยการปรับปรุงกระบวนการทำงาน คิด และพัฒนาเครื่องมือที่ทันสมัยโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ (e-enforcement) โดยใช้ประโยชน์จาก Big Data มาตั้งแต่ปลายปี 2562 ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ "การป้องกัน" และ "การตรวจจับ" เพื่อใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลและตรวจจับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งหาความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มคนได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้การตรวจสอบทำได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมี 3 เครื่องมือ ประกอบด้วย

1. AI-Enforcement เป็นเครื่องมือช่วยดักจับและสรุปพฤติกรรมความผิด ที่แสดงผลในรูปแบบ visualize ช่วยสรุปภาพรวมพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายผิดปกติของผู้ต้องสงสัย ที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปช่วยอธิบายในชั้นดำเนินการต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อป้องปรามการกระทำอันไม่เป็นธรรมด้วยพฤติกรรมความผิดต่าง ๆ ที่ระบบ AI-Enforcement จะช่วยวิเคราะห์ออกมาให้ โดยหลักแล้วเป็นพฤติกรรมตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เช่น ผลักดันราคา จับคู่ซื้อขาย พยุงราคา หรือทำราคาเปิด-ปิด เป็นต้น โดยแสดงผลได้ทั้งแบบช่วงที่ต้องการตรวจสอบ (Interday) ทำให้เห็นภาพรวมของพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย หรือ แบบรายวัน (Intraday) ทำให้สามารถพิจารณาเชื่อมโยงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้ชัดเจนมากขึ้น

2. Corporate Surveillance เป็นเครื่องมือคัดกรองและตรวจจับธุรกรรมผิดปกติเบื้องต้น เกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งธุรกรรมที่มีข้อสังเกตที่อาจนำไปสู่การกระทำไม่เหมาะสมหรือทุจริต โดยจะช่วยให้ตรวจจับและคัดกรองธุรกรรมที่ผิดปกติได้รวดเร็ว และยับยั้งไม่ให้ความเสียหายลุกลาม (detect & deterrence) รวมถึงลดระยะเวลาในการทำงานและลดจำนวนเคสทุจริตด้วย เมื่อระบบ Corporate Surveillance ประมวลผลข้อมูลและตรวจจับว่ามีธุรกรรมผิดปกติจะแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น (surveillance) และหากมีมูลว่ากระทำผิดกฎหมายจะส่งเรื่องให้ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในเชิงลึก (investigation) และดำเนินการกับผู้กระทำผิด (enforcement) ต่อไป ช่วยในการดำเนินการของ ก.ล.ต. ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ให้สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ

3. E-link เป็นเครื่องมือช่วยตรวจสอบความเชื่อมโยงบุคคลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ โดยจะช่วยในการวิเคราะห์และหาความเชื่อมโยงจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีธุรกรรมปริมาณมากและมาจากแหล่งต่าง ๆ กัน เช่น ทางเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งจะแสดงผลในลักษณะ visualization ได้หลายมิติ ทำให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ช่วยลดระยะเวลาในการตรวจสอบ และเพิ่มความแม่นยำในการรวบรวมหลักฐานความสัมพันธ์ได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดีระบบ E-link จะมีโมเดลในการวิเคราะห์ เลือกผังความสัมพันธ์ที่เหมาะสมและมุมมองที่ต้องการ visualize ซี่งมีให้เลือกใช้หลายรูปแบบ ทั้งในการใช้วาดความสัมพันธ์ที่เน้นความเชื่อมโยงที่ต้องการโฟกัสได้ คัดกรองรายการที่ไม่จำเป็น มีการวิเคราะห์แบบ timeline ที่แสดงความเกี่ยวเนื่องระหว่างเหตุการณ์ มีการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในเชิง histogram เป็นต้น

นอกจาก การนำ e-enforcement มาใช้ใน "การป้องกัน" และ "การตรวจจับ" แล้ว ก.ล.ต. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนากฎหมายให้ทันสมัยและสอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจัดทำร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.* เพื่อส่งเสริมตลาดทุนดิจิทัลและยกระดับประสิทธิภาพการกำกับดูแลให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี รวมทั้งสภาพแวดล้อม (ecosystem) ของตลาดทุนในยุคดิจิทัล และให้ความคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมกับส่งเสริมการระดมทุนและการประกอบธุรกิจในตลาดทุน และการปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายในชั้นก่อนฟ้องคดี โดยให้เจ้าหน้าที่ของ ก.ล.ต. เป็นพนักงานสอบสวนและมีอำนาจสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในความผิดฐานใช้ข้อมูลภายในซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน ความผิดฐานสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน และความผิดฐานบอกกล่าวเผยแพร่หรือให้คำรับรองข้อความเท็จ และยังมีการเสนอแก้ไขกฎหมายโดยกำหนดให้มีการคุ้มครองพยานในชั้นการตรวจสอบของ ก.ล.ต. เพื่อสนับสนุนให้การบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในส่วนของกฎหมายจำนวน 4 ฉบับที่เสนอแก้ไข ประกอบด้วย
1. พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
2. พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546
3. พระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550
4. พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561
#2991

บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยยัง Sideway Up รับข่าวบวกจีนพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้ บวกแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นกลุ่มสื่อสาร และพลังงาน หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,600-1,660 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ชอปหุ้นได้ประโยชน์จากการที่ศบค. พิจารณาผ่อนคลายเปิดโรงภาพยนตร์-ลดเวลาเคอร์ฟิว-ขยายเวลาเปิดร้านอาหาร

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยว่า Sideway Up จากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาเพิ่มขึ้น ล่าสุด บริษัทซื่อชวน โคลเวอร์ (Sichuan Clover) ผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สัญชาติจีนเปิดเผยผลการทดลองวัคซีนระบุว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 79% ป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการรุนแรงทุกระดับที่เกิดจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา

รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ยังคงมีต่อเนื่อง โดยคาดว่าวันพฤหัสบดีนี้สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติเพื่อผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ และการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบไตรมาส 3/2564

อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นกลุ่มสื่อสาร และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,600-1,660 จุด

นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด การรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในงาน BOT Symposium 2021 ของธนาคารแห่งประเทศไทย อียูรายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. สหรัฐฯ เปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือน ส.ค. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือน ก.ย. และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.ย. และการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัส

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศของ ศบค.ในการผ่อนคลายเปิดโรงภาพยนตร์ อีกทั้งลดเวลาเคอร์ฟิว เป็นช่วงเวลา 22.00-04.00 น. และเปิดห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตลาด และสนามกีฬากลางแจ้ง หรือในร่มที่อากาศถ่ายเทสะดวกได้ถึง 21.00 น. ได้แก่หุ้น MAJOR, AU, ZEN, M และ CPALL

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 10 $/Oz สู่ 1,763 $/Oz โดยราคาทองคำปรับตัวลงก่อนในช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.33% โดยการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย นอกจากนี้ ประธานเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% และหากเศรษฐกิจมีความคืบหน้าตามที่คาดการณ์ไว้ได้เตรียมปรับลดวงเงิน QE ในไม่ช้าส่งผลให้ทองคำลดช่วงบวกลง เนื่องจากการปรับลด QE จะทำให้อุปทานเงินดอลลาร์ลดลงส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันต่อราคาทองคำ

อย่างไรก็ตาม ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากบริษัทเอเวอร์แกรนด์ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอส ลอมบาร์ด เตือนว่า การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์จะทำให้วิกฤตการณ์ทางการเงินลุกลามออกไปจนอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ฝ่ายวิจัยประเมินกรอบทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,730-1,780 $/Oz โดยแนะนำให้หาจังหวะ Short เมื่อทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน เนื่องจากเฟดเตรียมปรับลดวงเงิน QE ภายในปลายปีนี้ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำในระยะกลาง โดยในปี 2013 ที่มีการปรับลดวงเงิน QE ราคาทองคำจะปรับตัวลงและแตะจุดต่ำสุด ณ เดือนที่เฟดมีการปรับลดวงเงิน QE อย่างก้าวกระโดดในอนาคต
URL
 43
 
#2992


ทีมตบขนไก่ไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กวาดเจ้าภาพฟินแลนด์ ขาดลอย 5-0 คู่ การันตีการผ่านเข้าไปเล่นรอบน็อคเอาต์ แบดมินตันสุธีรมาน คัพ 2021 เรียบร้อยแล้ว รอแย่งแชมป์กลุ่มกับ จีน วันที่ 29 ก.ย.นี้

การแข่งขันแบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์โลก 'สุธีรมาน คัพ 2021' ที่เอเนอร์เจีย อารีน่า เมืองแวนตา ประเทศฟินแลนด์ วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ตบขนไก่ทีมชาติไทย ลงเล่นแมตช์สอง รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ พบกับเจ้าภาพฟินแลนด์

คู่แรก ประเภทคู่ผสม สุภัค จอมเกาะ กับ ศุภิสรา เพียวสามพราน เอาชนะ แอนตัน ไคส์ตี กับ เจนนี นีสตรอม 2-0 เกม 21-15, 21-14 ใช้เวลา 25 นาที เก็บแต้มให้ไทยขึ้นนำ 1-0 คู่

คู่สอง ประเภทชายเดียว กันตภณ หวังเจริญ เอาชนะ โยอาคิม โอลดอร์ฟฟ์ 2-0 เกม 21-14, 21-14 ใช้เวลาไป 42 นาที ทำให้ไทยหนีห่างเป็น 2-0 คู่

คู่สาม ประเภทหญิงเดี่ยว พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ชนะ เนลล่า นีควิสต์ 2-0 เกม 21-6, 21-6 ใใช้เวลาไป 18 นาที ทำให้ไทยนำ 3-0 คู่ เก็บชัยเหนือฟินแลนด์ และผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์เป็นที่แน่นอนแล้ว

คู่สี่ ประเภทชายคู่ ตนุภัทร วิริยางกูร กับ ณัฐพัฒน์ ตฤณขจี เอาชนะ แอนตัน ไคส์ตี กับ เยสเปอร์ พอล 2-0 เกม ใช้เวลา 26 นาที ช่วยให้ไทยหนีห่างไปเป็น 4-0 คู่

คู่ห้า พุธิตา สุภจิรกุล กับ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เอาชนะ มาธิลดา ลินด์โฮล์ม กับ เจนนี นีสตรอม 2-0 เกม 21-10, 21-7 คะแนน ใช้เวลา 25 นาที ส่งผลให้ไทยกวาดฟินแลนด์ 5-0 คู่

ทั้งนี้ทีมแบดมินตันไทย การันตีผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ 100 เปอร์เซนต์แล้ว โดยจะลงแข่งขันในแมตช์สุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เพื่อแย่งแชมป์กลุ่ม เอ กับ จีน ในวันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 20.00น. ตามเวลาประเทศไทย ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสด
#2993


ฟอร์ด ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติสหรัฐฯ ประกาศทุ่มทุน 11,400 ล้านดอลลาร์ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำภาคธุรกิจอเมริกันเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ทำลายสภาพภูมิอากาศไปสู่การใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ฟอร์ด มีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรีเพิ่มอีก 4 แห่งที่รัฐเคนตักกีและเทนเนสซี ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท SK Innovation ของเกาหลีใต้ และคาดว่าจะสามารถสร้างงานได้ถึง 11,000 ตำแหน่งภายในปี 2025

ฟอร์ดจะสนับสนุนเงินลงทุนในส่วนนี้ 7,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของวงเงินลงทุน 30,000 ล้านดอลลาร์ที่บริษัทได้ประกาศไปเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่ SK Innovation จะออกค่าใช้จ่ายในส่วนที่เหลือ

บริษัทชี้ว่า โรงงานเหล่านี้ "จะเป็นสายการผลิตรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของฟอร์ดในรอบ 118 ปี" และจะทำให้ฟอร์ดก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ

"การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวของฟอร์ดที่มุ่งสร้างระบบนิเวศด้านการผลิตที่ยั่งยืนในอเมริกา และเร่งรัดกระบวนการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon-neutrality) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่อิงกับหลักวิทยาศาสตร์ตามข้อตกลงปารีส" ฟอร์ด ระบุในถ้อยแถลง

ทั้งนี้ ฟอร์ด ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้ได้ 40-50% ภายในปี 2030

ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ ฟอร์ด ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าล้วนรุ่นแรก F-150 Lightning ที่เวลานี้มียอดจองพุ่งกระฉูด รวมไปถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ของฟอร์ด เช่น E-Transit และ Mustang Mach-E ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน

ที่มา: เอเอฟพี
#2994


โรงพยาบาลต่างๆในนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์(27ก.ย.) เริ่มไล่ออกหรือพักงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่เพิกเฉยคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 ของทางรัฐ ผลก็คือก่อภาวะเจ้าหน้าที่ขาดแคลน ทำให้โรงพยาบาลบางแห่งต้องเลื่อนผ่าตัดเคสไม่เร่งด่วนออกไปหรือไม่ก็จำกัดงานบริการบางอย่าง

บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าโรงพยาบาลต่างๆของเมืองยังไม่พบเห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากคำสั่งบังคับฉีดวัคซีน พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับพื้นที่อื่นๆของรัฐนิวยอร์ก ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกว่าในนิวยอร์กซิตี

โฆษกของคาทอลิกเฮลธ์(Catholic Health) หนึ่งในผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขรายใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันตกของนิวยอร์ก เปิดเผยว่าทางสถานพยาบาลแห่งนี้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเต็มที่ มีทั้งเจ้าหน้าที่ที่ฉีดวัคซีนตามข้อบังคับและคนที่ได้รับการยกเว้น และมีบางส่วนที่ถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง

โจแอนน์ คาวานาห์ โฆษกของ คาทอลิกเฮลธ์ ปฏิเสธให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่มากน้อยแค่ไหนที่ถูกพักงานหรือได้รับการยกเว้นสืบเนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์หรือศาสนา แต่ยอมรับว่าทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องเลื่อนการผ่าตัดเคสไม่เร่งด่วนออกไป "จำนวนเล็กน้อย"

ศูนย์การแพทย์เอรี เคาน์ตี ในบัฟฟาโล ระงับการผ่าตัดผู้ป่วยในที่ไม่เร่งด่วนและหยุดรับผู้ป่วยไอซียูจากโรงพยาบาลอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาเตรียมไล่ออกเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จากการเปิดเผยของโฆษก

ปีเตอร์ คัทเลอร์ โฆษกศูนย์การแพทย์เอรี เคาน์ตี ยอมรับว่าการตัดสินใจจำกัดปฏิบัติการบางอย่างจะก่อความไม่สะดวกกับคนไข้ และส่งผลกระทบทางการเงินกับโรงพยาบาล เนื่องจากการผ่าตัดผู่ป่วยในที่ไม่เร่งด่วนนั้น ก่อรายได้แก่โรงพยาบาลราวๆ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อสัปดาห์

ความพยายามผลักดันฉีดวัคซีนครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำทางการเมืองรัฐอื่นๆและผู้นำทางการเมืองรัฐบาลกลาง ยกระดับกดดันชาวอเมริกันชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน บางรายในนั้นต่อต้านการฉีดวัคซีนในเหตุผลทางศาสนาและสุขภาพ

กระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กออกคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้ว บังคับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคนต้องเข้ารับวัคซีนอย่างน้อยๆ 1 เข็มภายในวันที่ 27 กันนายน กระตุ้นให้โรงพยาบาลต่างๆเร่งรีบผลักดันให้ลูกจ้างฉีดวัคซีน

นายแพทย์มิตเชลล์ คาทซ์ ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขและโรงพยาบาลนิวยอร์กซิตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับบลาซิโอ ว่าในโรงพยาบาลรัฐ 11 แห่งของนิวยอร์กซิตี มีเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น 43,000 ราย ในนั้นราว 5,000 รายยังไม่ฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์(25ก.ย.) เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เผยว่าเธอกำลังพิจารณาเสริมบุคลากรจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิและเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์จากนอกรัฐ เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดแคลน โดยจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมากกว่า 450,000 คนทั่วรัฐ มีอยู่ 16% ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน

ศาลกลางแห่งหนึ่งในออลบานี ออกคำสั่งชั่วคราวถึงเจ้าหน้าที่รัฐนิวยอร์ก ให้กำหนดข้อยกเว้นทางศาสนา ในคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ขณะที่ศาลอุทธรณ์กลางอีกแห่งในวันจันทร์(27ก.ย.) วินิจฉัยว่านิวยอร์กซิตี สามารถบังคับครูและเจ้าหน้าที่สถาบันการศึกษาทุกคนให้ฉีดวัคซีน กลับคำพิพากษาเบื้องต้นที่ให้ระงับมาตรการบังคับฉีดวัคซีนบุคลากรด้านการศึกษา

(ที่มา:รอยเตอร์)
#2995


นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 กันยายนนี้ บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยใช้ชื่อย่อ 'UBE' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ และเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีกำลังการผลิตและส่งออกมันสำปะหลังเป็นอันดับต้นของโลก ทำให้มีความได้เปรียบที่จะต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคต ผ่านการดำเนินธุรกิจที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้ง 3 ธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ

สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 1,370,000,000 หุ้น ประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวน 1,174,286,000 หุ้น (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด จำนวน 97,857,000 หุ้น และ (3) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) จำนวน 97,857,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 2.40 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินกว่าความคาดหมาย ตอกย้ำถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ รวมถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต ทำให้ UBE เป็นหุ้น IPO น้องใหม่ที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

นายเดชพนต์ กล่าวว่า UBE มุ่งมั่นเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านการขยายธุรกิจเอทานอล ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจเกษตรอินทรีย์ เพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจอาหารระดับโลก (Food Tech) เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยาว โดยแผนการลงทุน ประกอบด้วย 1.การขยายธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ภายในปี 2565-2566 ผ่านการลงทุนขยายกำลังการผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลัง ให้เป็น 300 ตันต่อวัน หรือเทียบเท่า 90,000 ตันต่อปี ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตแป้งฟลาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 100 ตันต่อวัน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท และการลงทุนสร้างสายการผลิตสารให้ความหวาน (Sweetener) เช่น ไซรัป (Syrup) และมอลโทเดกซ์ทริน (Maltodextrin) กำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน จำนวน 300 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแป้งมันสำปะหลัง โดยจะลงทุนในเครื่องจักรใหม่ต่างๆ เช่น เครื่องโม่หัวมันสำปะหลัง และเครื่องสลัดแป้ง เป็นต้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท

2.การขยายธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ภายในปี 2565 ผ่านการลงทุนก่อสร้างโรงสีเชอร์รี่กาแฟออร์แกนิค โดยได้เริ่มส่งเสริมการปลูกกาแฟออร์แกนิค ซึ่งเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงกับเกษตรกรในพื้นที่แขวงสาละวัน สปป.ลาว ซึ่งการลงทุนก่อสร้างโรงสีเชอร์รี่กาแฟ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิต ยังช่วยควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟออร์แกนิค และช่วยวางแผนการรับซื้อวัตถุดิบและแผนการผลิตได้อย่างคล่องตัวตามแผนการขาย เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดกาแฟออร์แกนิคโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา (USA) และกลุ่มประเทศแถบยุโรป (EU) ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบเพื่อรับรองมาตรฐานออร์แกนิคสากล คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 65 ล้านบาท สามารถรองรับวัตถุดิบเชอร์รี่กาแฟได้ 200 ตันต่อวัน เทียบเท่า 12,000 ตันต่อปี และการลงทุนก่อสร้างโรงคั่วกาแฟออร์แกนิคในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นช่องทางการจำหน่ายและสถานที่รับรองลูกค้าในการชมกระบวนการผลิตและทดลองชิมกาแฟ ที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟออร์แกนิค ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบโครงการ เบื้องต้นคาดว่าใช้เงินลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท


และ 3.ขยายธุรกิจเอทานอล ภายในปี 2566-2567 ผ่านการลงทุนขยายกำลังผลิตเอทานอลในระยะสั้น โดยการมุ่งปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเอทานอล เพื่อรองรับความต้องการใช้เอทานอลที่อาจเพิ่มขึ้นในระยะใกล้ โดยมีแผนขยายกำลังการผลิตโรงงานเอทานอลผ่านการทำ De-bottlenecking Capacity 40,000 ลิตรต่อวัน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงนโยบายลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อลดการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมในอนาคต

"จะเห็นได้ว่าภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) UBE จะปรับลดการผลิตแป้งมันสำปะหลังแบบทั่วไป (Native Starch) จากปัจจุบัน 1.1 แสนตันต่อปี เหลือเพียง 4-5 หมื่นตันต่อปี และจะเพิ่มการผลิตแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค (Organic Starch) มาทดแทน ซึ่งมีอัตรากำไรต่อหน่วยที่สูงกว่า รวมถึงขยายกำลังการผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลังให้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โดยวางเป้าหมายในอนาคตหรือปี 2569 คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเพิ่มเป็น 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 33% ของรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังทั้งหมด เพื่อรองรับอาหารเพื่อสุขภาพแห่งอนาคต ตอบรับกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และจะเป็นส่วนช่วยสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรไทยให้เติบโตควบคู่กันไปด้วย ถือเป็นหนึ่งในโมเดลของธุรกิจสร้างการเติบโตในภาคธุรกิจและช่วยเหลือชุมชนให้เติบโตไปด้วยกัน" นายเดชพนต์ กล่าว



นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล หรือ UBE เป็นผู้ผลิตและแปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือ Well-Integrated Tapioca Player และหลังจากนี้ UBE จะขยายเข้าสู่การเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ ที่พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างครบวงจร เพื่อส่งเสริมวิถีการเกษตรอินทรีย์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คู่ขนานสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก โดยจะดำเนินการควบคู่กับธุรกิจพลังงาน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว ภายใต้นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเกษตร และพัฒนาชุมชน ให้สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ร่วมกันกับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน จึงเชื่อว่า UBE จะเป็นหนึ่งในหุ้น IPO น้องใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน





"นอกจากเป้าหมายสร้างผลการดำเนินงานที่ดีแล้ว ธุรกิจของ UBE ยังมีส่วนช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย เพราะการลงทุนของ UBE จะเข้าไปดูถึงการผลิตของเกษตรกร ช่วยยกระดับสินค้าให้เป็นออร์แกนิค 100% เพื่อให้ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลซึ่งเป็นที่ยอมรับของลูกค้า สามารถสร้างรายได้ที่มากกว่าปกติ แถมยังช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เกษตรกร ผ่านโครงการอุบลโมเดล ทำให้การผลิตที่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด" นางรัชดา กล่าว
#2996


'แอ๊บโซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้' คว้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) มากสุดรวม 18 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมและกำลังการผลิตเสนอขายรวม 59 เมกะวัตต์ และ 50 เมกะวัตต์

นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) (ACE) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 มีผู้ได้รับการคัดเลือกจำนวน 43 รายนั้น บริษัทย่อยของแอ๊บโซลูท คลีนเอ็นเนอร์จี้จำนวน 18 บริษัท รวม 18 โครงการ ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวมและกำลังการผลิตเสนอขายรวม 59 เมกะวัตต์ และ 50 เมกะวัตต์ตามลำดับ โดยโครงการที่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าวเป็นโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) ทั้งหมด 18 โครงการ โดยอยู่ในจังหวัดเชียงราย กำแพงเพชร บุรีรัมย์ และราชบุรี

สำหรับขั้นตอนต่อไปจะเป็นการศึกษาเงื่อนไขการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 120 วันหลัง กกพ.ประกาศรายชื่อ โดย กกพ.กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายใน 36 เดือนนับจากวันลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือภายในวันที่ 21 มกราคม 2568

"การได้รับคัดเลือกประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าสำคัญของบริษัทที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้นำพลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยเสริมให้เป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่า 1,000 เมกะวัตต์รุดหน้ามากขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการประมูลครั้งนี้มาจากการที่บริษัทมีประสบการณ์และความสำเร็จในการพัฒนาและดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด รวมถึงข้อเสนอที่เชื่อว่าจะช่วยสร้างให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนแต่ละพื้นที่ได้สูงสุด"
#2997
สาวๆตั้งครรภ์ทานข้าวกล้องออแกนิค Low GI น้ำตาลต่ำ ข้าวอร่อยโภชนาการสูงสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร ข้าวสุรินทร์ 100%
การผลิตข้าวอินทรีย์  ส่งออกข้าวอินทรีย์  ส่งเสริม ผลิตข้าวอินทรีย์  'ข้าวออร์แกนิค' ดีต่อสุขภาพ

9 เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ .....ควรรับประทานข้าวกล้องออร์แกนิค (ข้าวออแกนิคสำหรับทารก)
        การรับประทาน "#ข้าวกล้องออร์แกนิค หรือ ขายข้าวอินทรีย์ " ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงไว้ด้วยคุณค่าสารอาหารมากกว่าขาวที่ถูกขัดสีแล้ว  เรามากันทำไมคุณแม่ตั้งครรภ์ควรกิน  "#ข้าวกล้องออร์แกนิค"  ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้




1. ข้าวกล้องมะลินิลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้
2.   ข้าวกล้องหอมมะลินิลเกษตรอินทรีย์สุรินทร์, ข้าวกล้องออร์แกนิคเมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2
3.   ข้าวหอมมะลิสุขภาพ, ข้าวกล้องออร์แกนิคบรรเทาอาการอ่อนเพลีย อาการปวดแสบและเสียวในขา ปวดน่อง ปวดกล้ามเนื้อ
4.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิก, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน และเส้นผม
5.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิคมีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
6.  ขายข้าวปะกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีเกลือแร่ และวิตามินรวมกันกว่า 20ชนิด ซึ่งช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ปลูกข้าวผกาอำปึลอินทรีย์, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ
8.  ข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ , ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญ
9.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออร์แกนิค, ข้าวกล้องออร์แกนิกมีแป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน เนื่องจากได้รับสารอาหารต่างๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้น มีผลทำให้สุขภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์ดีขึ้น เพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง สดชื่น แจ่มใส

หลังจากรู้คุณค่าของ "ข้าวกล้องออร์แกนิค"  กันแล้ว อย่าลืมซื้อ "ข้าวกล้องออร์แกนิก"  มาทานกันนะคะ

ข้าว Hor.Boutique ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือ ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่   ข้าวอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website :  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
2.ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3. ข้าวกล้องปะกาอำปึลอินทรีย์   ข้าวผกาอำปึลเกษตรอินทรีย์(ข้าวพื้นถิ่นออแกนิกสุรินทร์) 4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ออร์แกนิคจังหวัดสุรินทร์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงorganic 6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลปลอดสารพิษ
7. ข้าวไรซ์เบอรี่ปลอดสารพิษ ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อสุขภาพ 

#ข้าวคนท้อง  #ข้าวสำหรับคนท้อง   #ข้าวคนตั้งครรภ์   #ข้าวสำหรับคนตั้งครรภ์  #คนท้องกินข้าวกล้อง  #คุณแม่ตั้งครรภ์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
#2998


"เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ " คว้างานใหม่สร้างโรงไฟฟ้าของ" อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 " มูลค่ารวม 165.85 ลบ. ในโครงการสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด115kV และ22kV ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง หนุนให้มูลค่า Backlog เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5.5 พันล้านบาท ทำให้มีรายได้รอรับรู้ระยะยาวกว่า 3 ปี เดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อีกเพียบ

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ลงนามในสัญญาการจ้างงานในโครงการสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด115 kVและ 22k V มูลค่าโครงการรวม 165.85 ล้านบาท (รวมvat) ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 15 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 - วันที่ 19 ธันวาคม 2565) ซึ่งเป็นประเภทงานวิศวกรรม ก่อสร้าง และงานจัดซื้อของโครงการ

"การได้งานในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้( Backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5,500 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 4/256 ยังมีที่คาดว่าจะประมูลอีกราว 200 ล้านบาท โดยเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 180 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 19 ล้านบาท ส่วนในช่วงปี 2565 คาดว่าจะยังมีงานที่จะเข้าประมูลอีกราว 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 6,700 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 480 ล้านบาท ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า JR ยังคงมีผลงานที่เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว"นายจรัญกล่าว

นายจรัญกล่าวอีกว่าแนวโน้มการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีงานในมือรอรับรู้รายได้ไว้แล้ว ขณะที่มีการประมูลงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติมต่อเนื่อง เน้นงานโครงการที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนงานขายอุปกรณ์มากขึ้นในระหว่างที่รอการเปิดให้ประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่า กว่า 6,000 ล้านบาท รวมทั้งปัจจุบันประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถรักษาอัตราการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดีและมั่นใจว่าผลงานในปี 2564 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้ บริษัทฯยังใช้ความเป็น Engineering Base และ IT Solution Base ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ในการขยายงานไปยังประเภท Oil&Gas มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มลูกค้าและรายได้เริ่มทยอยเข้ามาแล้ว โดยจากที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปเจาะในกลุ่มฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของบริษัทไทยออยล์ ซึ่งบริษัทฯรับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering ทำให้มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่อง
#2999


เอชเอ็มดี โกล. เปิดตัว Nokia G50 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรก รองรับทุกความถี่ 5G ในไทย  หวังขยายฐานลูกค้ายุคใหม่-คนรักเทคโนโลยี 

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกล. จำกัด (HMD) เปิดเผยว่า HMD พร้อมเปิดตัวและจัดจำหน่าย Nokia G50 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ Nokia เพื่อเปิดตลาดในประเทศไทยนับตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลกไป เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 โดยไม่ต้องรอ หรือสั่งจองล่วงหน้า บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่นล่าสุด รองรับทุกการใช้งาน Google Mobile Service  

โดยการเปิดตัว Nokia G50 สมาร์ทโฟน 5G เป็นไปตาม 4 กลยุทธ์การตลาดในประเทศไทย  ได้แก่ 1. แบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ มุ่งพัฒนาให้ตอบโจทย์การใช้งานครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างชัดเจน 2. ขยายช่องทางการจำหน่าย 3. บริการหลังการขายที่เน้นสร้างความอุ่นใจ ประทับใจ ตลอดระยะเวลาการใช้งานกับผู้บริโภค และ 4. กลุ่มพันธมิตร ตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง พร้อมขยายตลาดในทุกช่องทาง 


ทั้งนี้ เพื่อเป้าหมายสำคัญ สู่การเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด Love it. Trust it. Keep it. เพื่อให้โทรศัพท์ Nokia เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงตามแนวคิดของบริษัทฯ ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าเทคโนโลยีได้ HMD ได้ทำงานร่วมกับ บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ YAS ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 

เพื่อกระจายและจัดส่งโทรศัพท์ Nokia ในประเทศไทย ผ่านช่องทางการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ ทั้งในช่องทางหน้าร้านค้า ทางแพลตฟอร์ม E-commerce ต่าง ๆ และช่องทางใหม่ ๆ ในอนาคต ตามกลยุทธ์ด้านการกระจายโทรศัพท์ Nokia ของ HMD รวมถึงการหาพันธมิตรเพื่อกระจายสินค้าในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ อย่างการจับมือกับ TRUE 5G ในการจำหน่าย Nokia G50 ในครั้งนี้

ADVERTISEMENT


"ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยนำ Nokia G50 เข้าไปตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์ พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าเข้าไปในกลุ่มคนรุ่นใหม่และคนรักเทคโนโลยีได้มากขึ้น โดยจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการเติบโตของ Nokia ในประเทศถึง 50% ในปี 2564 ในขณะที่ TRUE 5G ได้ Nokia G50 เพิ่มเป็นอีกทางเลือกของสมาร์ทโฟน 5G คุณภาพจากฟินแลนด์ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น" นายภราดร กล่าว

AIS เปิดให้ลูกค้าจอง iPhone13 วันที่ 1 ต.ค.นี้ พร้อมวางขาย วันที่ 8 ต.ค.
ทรู เตรียมออกหุ้นกู้ 4 ชุด อายุ 3-7 ปี
นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วายเอ เซลล์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ YAS บริษัทในกลุ่มเบญจจินดา ผู้จัดจำหน่ายและจัดส่งโทรศัพท์มือถือ ทั้งฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริมให้กับ Nokia อย่างเป็นทางการ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ที่ YAS ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับทาง HMD ในฐานะผู้จัดจำหน่าย Nokia ที่ครอบคลุมช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ ทั้งทางหน้าร้านขายโทรศัพท์มือถือ กว่า 3,000 ร้านค้า และในช่องทางโมเดิร์นเทรด อย่างบิ๊กซี ซูเปอร์มาเก็ต และ TG Fone รวมทั้งช่องทางออนไลน์ มาร์เก็ตเพลส ได้แก่ Shopee, Lazada และ JD central 

ทั้งนี้ ในฐานะผู้จัดจำหน่ายที่ใกล้ชิดผู้บริโภคและคร่ำหวอดในวงการเทคโนโลยี YAS เห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่กำลังก้าวสู่ยุคเทคโนโลยี 5G ทั่วประเทศ หลายพื้นที่สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนช่องทางจำหน่ายผ่านพันธมิตร โดยมีเป้าหมายในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเครือข่ายโทรศัพท์ 5G ที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั่วประเทศอย่าง TRUE 5G จะช่วยกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟน 5G ในโค้งสุดท้ายของปี และช่วยเร่งการกระจายโทรศัพท์ของ Nokia ให้ได้เพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟน 5G ในประเทศไทยจะขยายตัวขึ้น 42% ภายในปี 2564 

โดย Nokia G50 จำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่านทางช่องทางการขายของ TRUE บนเครือข่ายอัจฉริยะ TRUE 5G ซึ่งการจับมือกับพันธมิตรที่มีความพร้อมทั้งด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และด้านเครือข่ายอัจฉริยะครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนดิจิทัลไลฟ์ของผู้บริโภคชาวไทยในยุคนิวนอร์มอล ที่ต้องทำงานจากที่บ้าน เรียนออนไลน์ ใช้จ่ายทำธุรกรรมบนออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา ทั้งยังมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเจเนอเรชั่นใหม่และคนรักเทคโนโลยี รวมทั้งมีช่องทางจัดจำหน่ายที่มีศักยภาพ ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ 

นายปริญญา พงษ์สิน ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอชเอ็มดี โกล. จำกัด (HMD)  กล่าวว่า Nokia G50 เป็นสมาร์ทโฟนในกลุ่ม G-series ??ใหม่ล่าสุด ด้วยจอแสดงผลระดับ HD + ขนาด 6.82 นิ้ว คมชัดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ กล้อง AI ที่มาพร้อมกับกล้อง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP เก็บทุกภาพพร้อมร่วมแชร์ด้วยความเร็วสูงบนเครือข่าย 5G โดยมีชิปเซ็ต Snapdragon 480 5G จาก Qualcomm ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยี รองรับ 5G ในปัจจุบันและอนาคต พร้อมกับ Android เวอร์ชั่นล่าสุด ที่รองรับการอัพเกรด Android 12 และเวอร์ชั่นใหม่ในอนาคต การันตีการอัปเดตความปลอดภัยรายเดือนเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี อายุการใช้งานแบตเตอรี่นานถึง 2 วัน 

ขณะที่ ตัวเครื่องรองรับการชาร์จไวด้วยอแดปเตอร์ชาร์จ 18W ชาร์จไวไม่เสียเวลา เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการเล่นเกมและชมวิดีโอ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบบนเครือข่าย 5G 

นอกจากนี้ ยังมี Spotify แอพฯ ฟังเพลงที่มอบความบันเทิงให้ผู้ใช้ Nokia G50 เข้าถึงเพลง 70 ล้านเพลง รวมทั้ง 2.9 ล้านพอดแคสต์ฟรี และยังมอบความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานแบบปราศจากมัลแวร์ ด้วย ExpressVPN ที่พร้อมให้ทดลองใช้งานบน Nokia G50 ฟรี 30 วัน อนึ่ง Nokia G50 ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นสี Ocean Blue (สีน้ำเงิน) พร้อมหน่วยความจำและความจุ 6/128 GB
#3000


บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ใช้ชื่อย่อ 'UBE' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังยอดจองซื้อหุ้นไอพีโอ (IPO) ล้นหลาม ชูพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง มุ่งมั่นยกระดับเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจอาหารระดับโลก (Food Tech) เพื่อเติบโตอย่างมั่นคงในระยาว

วันที่ 27 กันยายน 2564 นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (บริษัท) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 กันยายนนี้ บริษัท พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยใช้ชื่อย่อ 'UBE' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ และเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีกำลังการผลิตและส่งออกมันสำปะหลังเป็นอันดับต้นของโลก ทำให้มีความได้เปรียบที่จะต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคต ผ่านการดำเนินธุรกิจที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้ง 3 ธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ



สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมาจำนวน 1,370,000,000 หุ้น ประกอบด้วย

(1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวน 1,174,286,000 หุ้น
(2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด จำนวน 97,857,000 หุ้น
(3) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) จำนวน 97,857,000 หุ้น

ที่ราคาหุ้นละ 2.40 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินกว่าความคาดหมาย ตอกย้ำถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท รวมถึงโอกาสการเติบโตในอนาคต ทำให้ UBE เป็นหุ้น IPO น้องใหม่ที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก


ทั้งนี้ UBE มุ่งมั่นเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านการขยายธุรกิจเอทานอล ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจเกษตรอินทรีย์ เพื่อยกระดับสู่การเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจอาหารระดับโลก (Food Tech) เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยาว โดยแผนการลงทุน ประกอบด้วย

(1) การขยายธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ภายในปี 2565-2566 ผ่านการลงทุนขยายกำลังการผลิตแป้งฟลาวมันสำปะหลัง ให้เป็น 300 ตันต่อวัน หรือเทียบเท่า 90,000 ตันต่อปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท

(2) การขยายธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ภายในปี 2565 ผ่านการลงทุนก่อสร้างโรงสีเชอรี่กาแฟออร์แกนิก โดยได้เริ่มส่งเสริมการปลูกกาแฟออร์แกนิก ซึ่งเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงกับเกษตรกรในพื้นที่แขวงสาละวัน สปป.ลาว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 65 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรองรับวัตถุดิบเชอรี่กาแฟได้ 200 ตันต่อวัน เทียบเท่า 12,000 ตันต่อปี

และการลงทุนก่อสร้างโรงคั่วกาแฟออร์แกนิกในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นช่องทางการจำหน่ายและสถานที่รับรองลูกค้าในการชมกระบวนการผลิตและทดลองชิมกาแฟ ที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟออร์แกนิก ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบโครงการ เบื้องต้นคาดว่าใช้เงินลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท

(3) ขยายธุรกิจเอทานอล ภายในปี 2566-2567 ผ่านการลงทุนขยายกำลังผลิตเอทานอลในระยะสั้น โดยการมุ่งปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเอทานอล เพื่อรองรับความต้องการใช้เอทานอลที่อาจเพิ่มขึ้นในระยะใกล้ โดยมีแผนขยายกำลังการผลิตโรงงานเอทานอลผ่านการทำ De-bottlenecking Capacity 40,000 ลิตรต่อวัน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท


นอกจากนี้บริษัทยังคงนโยบายลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อลดการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมในอนาคต

ด้านนางรัชดา เกลียวปฏินนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า บมจ.อุบล ไบโอ เอทานอล หรือ UBE เป็นผู้ผลิตและแปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือ Well-Integrated Tapioca Player และหลังจากนี้ UBE จะขยายเข้าสู่การเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ ที่พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างครบวงจร



เพื่อส่งเสริมวิถีการเกษตรอินทรีย์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คู่ขนานสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก โดยจะดำเนินการควบคู่กับธุรกิจพลังงาน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว ภายใต้นโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการเกษตร และพัฒนาชุมชน ให้สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ร่วมกันกับสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน จึงเชื่อว่า UBE จะเป็นหนึ่งในหุ้น IPO น้องใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน

"นอกจากเป้าหมายสร้างผลการดำเนินงานที่ดีแล้ว ธุรกิจของ UBE ยังมีส่วนช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย เพราะการลงทุนของ UBE จะเข้าไปดูถึงการผลิตของเกษตรกร ช่วยยกระดับสินค้าให้เป็นออร์แกนิก 100% เพื่อให้ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากลซึ่งเป็นที่ยอมรับของลูกค้า สามารถสร้างรายได้ที่มากกว่าปกติ แถมยังช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เกษตรกร ผ่านโครงการอุบลโมเดล ทำให้การผลิตที่ได้มีประสิทธิภาพสูงสุด" นางรัชดากล่าว