• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Jenny937

#2781


งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 ยอดธุรกรรมออฟไลน์และออนไลน์ 3 วัน พุ่งทะลุเป้ากว่า 6,900 ล้านบาท แบงก์แข่งโปรโมชั่นหนุนสินเชื่อบ้านกว่า 3,900 ล้านบาท ประชาชนสนใจซื้อประกันภัย/ประกันชีวิต ทุนประกันรวมกว่า 1,400 ล้านบาท ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยื่นขอกู้กว่า 800 ล้านบาท

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 Money Expo Rayong 2021 ภายใต้แนวคิด "Future Wealth" วันที่ 28-30 มกราคม 2565 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 มียอดธุรกรรมทางการเงินและการลงทุนสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยมีธุรกรรมในแบบออฟไลน์ที่เดินทางมาทำธุรกรรมภายในงาน และแบบออนไลน์ที่ทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์ม Money Expo Online รวม 6,952.28 ล้านบาท จากผู้สมัครใช้บริการกว่า 10,066 ราย

นางสาวภาคนีกล่าวว่า งานมหกรรมการเงินระยอง ครั้งที่ 3 ที่จัดขั้นในปีนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอีกครั้งหนึ่ง โดยมีประชาชนและนักธุรกิจในจังหวัดระยองและจังหวัดในภาคตะวันออก เดินทางเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้ง 3 วัน แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง-บน มีรายได้ 25,000-100,000 บาทต่อเดือน มีทั้งที่เป็นพนักงานเอกชนในนิคมอุตสาหกรรม และนักธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธนาคาร ที่นอกจากจะได้ให้บริการภายในงานแล้ว ยังเป็นฐานข้อมูลเพื่อนำไปต่อยอดบริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคารได้อีกด้วย

สำหรับธุรกรรมที่มีผู้สมัครใช้บริการสูงเป็นอันดับ 1 คือ สินเชื่อบ้านและรีไฟแนนซ์บ้าน รวมวงเงิน 3,935.14 ล้านบาท จากโปรโมชั่นพิเศษประเดิมต้นปี เช่น สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% สินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 1.75% นาน 1 ปี ผ่อนต่ำปีแรกล้านละ 2,500 บาท/เดือน สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษแบบลอยตัวเฉลี่ย 3 ปี เริ่มต้น 2.77% และผู้กู้ยังได้รับเงื่อนไขพิเศษภายในงาน เช่น การยกเว้นค่าบริการสินเชื่อ ค่าประเมินราคา ค่านิติกรรมสัญญา ค่าจดจำนอง รวมทั้งบางธนาคารยังได้ทำพรีเซลส์ร่วมกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระยองและจังหวัดในภาคตะวันออกด้วย

ผลิตภัณฑ์ประกันมียอดธุรกรรมสูงเป็นอันดับ 2 รวมทุนประกันมูลค่า 1,486.26 ล้านบาท โดยในส่วนของประกันชีวิต แบบประกันที่ลูกค้าให้ความสนใจมากในปีนี้คือ แบบประกันสะสมทรัพย์จ่ายเบี้ยระยะสั้น-กลาง แต่ให้ความคุ้มครองระยะยาว นอกจากนี้ ยังมีแบบประกันด้านการลงทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล/หุ้นกู้เอกชน และลงทุนในหุ้น โดยให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและสามารถนำไปใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีประจำปี

ประกันภัยยอดฮิตในงาน ได้แก่ แบบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ที่คุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ แบบประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายมีวงเงินคุ้มครองให้เลือกตั้งแต่ 1-120 ล้านบาท และประกันอัคคีภัยสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีทุนประกันสูงเป็นหลักร้อยล้านบาท

ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอี มีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยื่นขอกู้ในงานสูงเป็นอันดับ 3 รวมวงเงิน 888.56 ล้านบาท บางธนาคารได้มีการทำพรีเซลส์ในกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งธุรกิจบริการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ โดยนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่ต้นปี เช่น สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ ดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 2 ปี ไม่เกิน 2% วงเงินกู้ 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี สินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 4% ใน 2 ปีแรก สินเชื่อเอสเอ็มอีดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% เป็นต้น

สำหรับบริการอื่นๆ นางสาวภาคนีกล่าวว่า มีผู้ยื่นขอกู้สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเงินสดรวม 379.81 ล้านบาท จากผู้สมัคร 1,083 ราย และมีผู้สมัครทำบัตรเครดิต 1,626 ราย รวมวงเงิน 81.30 ล้านบาท

ด้านผลิตภัณฑ์การออมและการลงทุน มีการฝากเงิน/ซื้อสลากออมทรัพย์ รวม 108.84 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานยังได้เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น/กองทุน/ตราสารอนุพันธ์/ทองคำ 278 บัญชี และสมัครใช้บริการออนไลน์และดิจิทัล เช่น บริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายล์แบงกิ้ง บริการพร้อมเพย์อีก 486 ราย
#2782


ให้บริการ
รับเหมาถมที่ ถมดิน, ถมลูกรัง, ถมทราย, ถมบดอัดแน่น- ถมเพื่อสร้างบ้าน, สร้างอาคารพาณิชย์- ถมเพื่อสร้างโรงงาน, สร้างโกดังเก็บสินค้า- ถมเพื่อสร้างลานจอดรถ, โชว์รูมรถ- ถมเพื่อทำถนน, ทางเข้าหมู่บ้านรับเหมางานบดอัด- ทำถนน, ทำลานจอดรถ, ลานอเนกประสงค์, พื้นตลาดนัด- ทำลานฯ ทำถนน ด้วย หินคลุก, ลูกรัง, เศษวัสดุรับเหมางานรื้อถอน- รื้อถอนโครงสร้างอาคาร บ้าน ที่พักอาศัย- รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง, โรงงาน, ทุบตึก- รื้อถอนภายในอาคาร, ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้า- เคลียร์พื้นที่รกร้างเราคือผู้รับเหมาตัวจริงในงานดินทุกชนิด พร้อมดำเนินงาน ปฏิบัติการพื้นที่ทุกขนาด ตั้งแต่ 20 ตารางวา - จนถึง 100 ไร่ให้คำปรึกษา ออกแบบงานถมที่ งานถมดิน งานจัดสวน งานรื้อถอนและ ประเมินราคา ฟรี!บริการคุณภาพมาตรฐานโดยทีมงานมืออาชีพ งานเสร็จตามเวลา ราคาเป็นกันเองไม่ทิ้งงานติดต่อ : 080-022-3804 เกียรติศักดิ์mail : mmee.2000@hotmail.com 
#2783
JETRO Online Business Matching & Exhibition of Japanese Food Products FY 2021
งานเจรจาธุรกิจวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นครั้งที่ 3 จัดยิ่งใหญ่อีกครั้งพร้อมผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้าร่วมกว่า 100 บริษัท ต่อเนื่องจากผลสำเร็จครั้งที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 578 ล้านบาท

ปี 2564 เป็นปีแรกที่ประเทศญี่ปุ่นมียอดการส่งออกสินค้าการเกษตร ประมง และวัตถุดิบอาหารมากกว่า 1 ล้านล้านเยน (ประมาณ 284,900 ล้านบาท มูลค่ารวมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน คิดเป็น 1,077,900 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26.8%)  และมียอดส่งออกมายังประเทศไทยรวม 40,100 ล้านเยน (ประมาณ 11,400 ล้านบาท) เป็นยอดรวมถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเทียบเท่ากับยอดรวมทั้งปีของปี 2563  

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) ได้จัดงานเจรจาธุรกิจออนไลน์อาหารและวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่น "JETRO Online Business Matching & Exhibition of Japanese Food Products FY 2021" ทั้งหมด 3 ครั้ง ในปีงบประมาณ 2564 ของญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ส่งออกสินค้าอาหารจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้งานเจรจาธุรกิจครั้งที่ 3 กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมีผู้ประกอบการญี่ปุ่นเข้าร่วมกว่า 135 บริษัทจาก 40 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น และคาดการณ์การจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 174 คู่เจรจา มีสินค้าหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว อาหารทะเล ชา เครื่องปรุง ขนม เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผลจากการจัดงานเจรจาธุรกิจในครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมและเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดมูลค่าการซื้อขาย(รวมยอดประมาณการณ์) กว่า 2,000 ล้านเยน (ประมาณ 578 ล้านบาท) คิดเป็น 5% ของมูลค่าการส่งออกวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นมายังประเทศไทยในปี 2563 ซึ่งมีมูลค่า 40,100 ล้านเยน (ประมาณ 11,400 ล้านบาท) แม้ว่าด้วยสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ เจโทรมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านงานเจรจาธุรกิจออนไลน์ เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดงานครั้งนี้ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

รายละเอียดงานเจรจาธุรกิจครั้งที่ 3 (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มกราคม 2564)

ชื่องาน           JETRO Online Business Matching & Exhibition of Japanese Food Products FY 2021

ผู้จัด              องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) 

ระยะเวลา วันที่ 7 - 25 กุมภาพันธ์ 2565

จัดแสดงตัวอย่างสินค้าถึงเดือนมีนาคม 2565

จำนวนผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่เข้าร่วมโครงการ: 135 บริษัท
จำนวนผู้ประกอบการในประเทศไทย: 90 บริษัท
จำนวนคู่เจรจาธุรกิจ: 174 คู่เจรจา
เจรจาธุรกิจผ่านโปรแกรม zoom (พร้อมล่ามไทย-ญี่ปุ่นทุกคู่เจรจา)
การจัดส่งสินค้าตัวอย่าง: ผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ต้องการจัดส่งสินค้าตัวอย่างให้คู่เจรจาธุรกิจ สามารถส่งสินค้ามายังประเทศไทย และผู้ประสานงานจัดส่งให้กับคู่เจรจาธุรกิจก่อนเริ่มการเจรจา
เว็บไซต์งานเจรจาธุรกิจ: https://food.thai-japan.net/
ผลการจัดงานเจรจาธุรกิจครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2

งานเจรจาธุรกิจครั้งที่ 1 และ 2 สามารถจับคู่เจรจาธุรกิจได้มากกว่า 400 คู่เจรจาทั้งสองครั้ง เนื่องด้วยวิธีการจัดกิจกรรมที่ทำให้การเจรจาธุรกิจสัมฤทธิ์ผลมากขึ้น โดยการประชาสัมพันธ์ข้อมูลความสนใจของผู้ประกอบการในประเทศไทยผ่านทางเวปไซต์ เพื่อรับสมัครผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่สนใจเข้าร่วมโครงการในเบื้องต้น จากนั้นนำเสนอข้อมูลสินค้าของผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่เข้าร่วมให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย เพื่อทำการนัดเจรจาธุรกิจ นอกจากนั้น ยังจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขายจริงอีกด้วย เช่น การให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นก่อนเริ่มการเจรจาธุรกิจ การส่งตัวอย่างสินค้าจริงให้ผู้ประกอบการในประเทศไทย เป็นต้น

จากผลของการจัดกิจกรรมข้างต้น สามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายสินค้า 1,113 รายการได้กว่า 2,000 ล้านเยน (ประมาณ 578 ล้านบาท รวมตัวเลขประมาณการณ์การซื้อขาย) คิดเป็น 5% ของมูลค่าการส่งออกวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นมายังประเทศไทยในปี 2563 ซึ่งมีมูลค่า 40,100 ล้านเยน (ประมาณ 11,400 ล้านบาท)

ตัวอย่างสินค้าที่มีการซื้อขาย / ประมาณการณ์ซื้อขาย

อาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูป (หอยโฮตาเตะ กุ้งโบตั๋น ไข่หอยเม่น หอยนางรม) เนื้อวะกิว เหล้าสาเกญี่ปุ่น  เครื่องปรุง (โชยุ เหล้าประกอบอาหาร น้ำส้มยูสุ) ขนม ชา (มัจฉะ ชาข้าวบาร์เลย์คั่ว) เครื่องดื่มทั่วไป เป็นต้น
#2784
รมว.คลัง ปลื้มคนละครึ่งเฟส 4 วันแรกคึกคัก กระตุ้นกำลังซื้อช่วงตรุษจีน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 วันนี้เป็นวันแรกนั้น พบว่า ภาพรวมการใช้จ่ายเงินโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ในวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งมาจากที่อยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประชาชนต้องมีการจับจ่ายใช้สอย และส่วนใหญ่ต่างรอโครงการนี้อยู่ ดังนั้นเมื่อเริ่มให้มีการยืนยันตัวตนตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ทำให้เริ่มมีการใช้จ่ายในทันที

"ร้านอาหารเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ประชาชนมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สะท้อนว่าโครงการคนละครึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้มีรายได้น้อย ให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย ช่วยรักษาระดับการบริโภคของประชาชน แม้ว่าอาจจะไม่ได้ช่วยให้การบริโภคกับมาเต็มร้อยเหมือนช่วงก่อนโควิด-19 แต่ก็ช่วยให้การใช้จ่ายดีขึ้น และเท่าที่เคยสอบถามร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า ในช่วงที่โครงการหยุดไปราว 1 เดือนนั้น รายได้ก็ลดลง แต่เมื่อโครงการคนละครึ่งกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ก็มั่นใจว่าจะช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นทันที" นายอาคม กล่าว
ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภาพรวมการยืนยันสิทธิในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ในวันแรก มีประชาชนเข้ามายืนยันสิทธิแล้ว 16.45 ล้านคน ใช้จ่ายเงินราว 445 ล้านบาท แบ่งเป็น ประชาชนใช้จ่าย 225 ล้านบาท และรัฐบาลร่วมจ่าย 220 ล้านบาท
#2785
ราคา 4,530,000 บาท
ติดต่อ : 099.545.9556 , 066.118.6999 , 094.851.8558

ขายที่ดิน เนื้อที่เริ่มต้น  206 ตรว. ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
 

สาธารณูปโภคครบ
เหมาะสำหรับทำโรงงาน โกดัง หรือที่อยู่อาศัย
ถนนคอนกรีตภายในโครงการกว้าง  13 เมตร  
ติดถนนเลียบคลอง ทำเลดี

ราคาเริ่มต้น  22,000 บาท/ตรว.

-ฟรี รั้ว
-ฟรี ค่าธรรมเนียมในการโอน
-ฟรี ค่าขอใบอนุญาตการก่อสร้าง
-ฟรี แบบโรงงาน โกดัง
=============
จุดเด่น/สถานที่ใกล้เคียง : เดินทางสะดวก เข้าออกได้หลายทาง
*ห่างจากถนนพหลโยธิน เพียง 1 กม. 
*ใกล้เขตอุตสาหกรรมโรจนะ
*ใกล้ตลาดน้ำทุ่งบัวชม
*ใกล้ข้าวแกงบ้านสวน

พิกัด : https://goo.gl/maps/nMt2U3TSz9pJaR4o9
พิกัด 14.16478 100.47063

ติดต่อ : 0995459556 , 0661186999 , 0948518558
#ที่ดินวังน้อย   #ที่ดินแบ่งขาย  #พระนครศรีอยุธยา  #ที่ดินราคาถูก

https://www.livingjoin.com/item/250657.html










#2786
ธุรกิจ งาน / สมัคร Exness
February 03, 2022, 02:42:04 PM
สมัคร Exness วิธีเปิดบัญชีจริง Exness แบบละเอียด!!! 2022 เป็นการรีวิวเพื่อให้เทรดเดอร์ได้ตัดสินใจว่าจะเปิดบัญชี Exness แบบไหนดี เงินลงทุนต่ำเพียง $10 leverage แบบไม่จำกัด ฝากถอนผ่านธนาคารไทย รวดเร็วทันใจ การันตรีว่าเร็วกว่า โบรกเกอร์ Forex โบรกอื่นๆ แน่นอน ถอนได้ไม่จำกัด https://bestbroker168.com/register-exness/
#2787
ธอส.จับตาแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ห่วงกระทบปรับค่างวดเพิ่มในรอบกว่า 10 ปี

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มองว่า สถานการณ์ในปี 65 เป็นแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งต้องจับตาว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้หลายครั้งในปีนี้นั้น จะสร้างแรงกดดันส่งผ่านมายังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มากน้อยเพียงใด เพราะหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดกันๆ หลายครั้ง คงเลี่ยงยากที่ กนง.จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย

ดังนั้น สิ่งที่ ธอส.มีความเป็นห่วงมากที่สุด คือ ผลกระทบที่จะมีต่อเงินค่างวดในการชำระสินเชื่อ ที่อาจจะได้เห็นการปรับขึ้นเงินค่างวดในการชำระสินเชื่อเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าว ธอส.จะพยายามปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ช้าที่สุด

"ตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่ภาวะดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาขึ้นพร้อมกัน ลูกค้าที่ชำระค่างวดอิงจากดอกเบี้ยคงที่ คงไม่ได้รับผลกระทบ แต่ที่ห่วงคือ ที่อิงจาก M จะกระทบแน่ เพราะเงินงวดต้องนำไปตัดดอกเบี้ยก่อน แล้วค่อยมาตัดเงินต้น คำถามคือ ถ้าช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น แล้วตัดดอกเบี้ยไม่พอเหลือตัดเงินต้น ก็คงต้องปรับเงินงวดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งการจะปรับขึ้นมาจากปัจจัยเดียว คือ การขึ้นดอกเบี้ยติดๆ กันในช่วงสั้นๆ ต้องตามดูว่า กนง.จะรับ effect โดยตรงจากเฟดหรือไม่" นายฉัตรชัยระบุ
กรรมการผู้จัดการ ธอส. ยังกล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 64 ที่ผ่านมาว่า มียอดสินเชื่อใหม่ 2.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.65% สูงกว่าเป้าหมาย 31,234 ล้านบาท คิดเป็นยอดสินเชื่อสูงสุดในรอบ 68 ปี สินเชื่อคงค้าง 1,458,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.40% สินทรัพย์รวม 1,506,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.04% เงินฝากรวม 1,274,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.74% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 58,381 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของยอดสินเชื่อรวม

 
#2788
NCH เป้าปี 65 รายได้โต 25% นิวไฮ 2.5 พันลบ.-ยอดขาย 4.1 พันลบ.เปิด 5 โครงการใหม่

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New high) คาดว่าจะเติบโต 25% จากปีก่อน โดยที่บริษัทยังคงมั่นใจการโอนโครงการอย่างต่อเนื่องหลังจากลูกค้ายังคงเข้าซื้อโครงการแนวราบตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณืโควิด-19 ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจะมาจากการรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ 700-800 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้ทั้งหมดเข้ามาใช่ช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4.6 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายได้กว่า 4.1 พันล้านบาท โดยวางแผนเปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่า โครงการรวม 4.5 พันล้านบาท โดยจะเน้นโครงการประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดกว่า 70% หลังจากปีก่อนหน้าบริษัทได้เปิดโครงการทาวน์เฮาส์ไปมากแล้ว และในปีนี้จะเน้นทำเลกรุงเทพฯโซนเหนือ เช่น รังสิต และกรุงเทพฯตะวันตก เช่น ราชพฤกษ์ เป็นต้น

บริษัทจะกลับมาซื้อที่ดินใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้บางส่วน โดยเฉพาะทำเลกรุงเทพฯตะวันตก หลังจากที่ในปี 64 บริษัทไม่ได้ซื้อที่ดินเข้ามาเพิ่ม แต่หันมาใช้ที่ดินในพอร์ตในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทำให้ปีนี้ต้องกลับมาซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยวางงบซื้อที่ดินไว้ที่ 800-1,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินทุนของบริษัทเป็นส่วนใหญ่

ขณะเดียวกันบริษัทจะยังมีการลงทุนเพิ่มอีก 200 ล้านบาทในการพัฒนาศูนย์ Wellness & Sport Center ภายใต้แบรนด์ NC Regen 2 แห่ง ในโครงการบ้านฟ้าปิยรมย์ วงแหวนลำมูกกา คลอง 6 พื้นที่ 5,328 ตารางเมตร และโครงการ Thanya Golf Club ลำลูกกา คลอง 5 พื้นที่ 1,015 ตารางเมตร ส่วนหนึ่งจะมาเสริมการให้บริการลูกบ้านในโครงการนั้นๆ รวมถึงเปิดรับสมาชิกจากบุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการด้วย ซึ่งจะเข้ามาช่วยสร้างรายได้จากการบริการเข้ามาเสริมให้กับบริษัท
#2789
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก กลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (31 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีนี้ รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 468.88 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด หรือ +0.72%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,999.20 จุด เพิ่มขึ้น 33.32 จุด หรือ +0.48%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,471.20 จุด เพิ่มขึ้น 152.25 จุด หรือ +0.99% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.37 จุด ลดลง 1.70 จุด หรือ -0.02%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3.5% ในวันจันทร์ แต่ลดลง 12% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551 ขณะที่นักลงทุนคาดว่าผลประกอบการในอนาคตจะได้รับผลกระทบจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานของยุโรปปรับตัวขึ้น 8.6% ในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารบวกขึ้น 7.4%

บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงิน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก

ตลาดคาดว่า ECB จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน แต่ BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน

หุ้นโวดาโฟนพุ่งขึ้น 1.9% หลังจากเปิดเผยว่าจะร่วมงานกับอินเทลและผู้จำหน่ายซิลิคอนรายอื่นๆ ในการออกแบบสถาปัตยกรรมชิปของตัวเองเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพในเทคโนโลยีเครือข่ายโอเพ่นแรน (OpenRAN)

หุ้นเคพีเอ็น ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 1.0% หลังจากประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน และจะจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นในปี 2565
#2790

เครื่องกดผิวประตู หรือ เครื่องทับผิวประตู การทำงานของเครื่องและคุณสมบุติต่างๆ

เครื่องกดผิวประตู ถูกออกแบบมาโดยช่างผู้มีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญ ถูกออกแบบมาเพื่อการกดผิวประตูหรือทับผิวประตู
โดยเฉพาะเพื่อให้ผิวประตูมีความแน่น การปิดผิวหรือทับผิวประตูนั้นต้องใช้ความแรงจากไฮโดรริคเพื่อที่จะได้คุณภาพที่สูงสุดและมีอายุ
การใช้งานของประตูที่นานไม่หลุดหรือร่อนออกมาเมื่อผ่านการเวลา ใช้วัสดุอย่างดีในการทำเครื่องจักรทำให้เครื่องมีความแข็งแรงและมีอายุ
การใช้นานที่ยาวนาน การทำงานของของ เครื่องทับผิวประตู ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้ง่าย ระบบไม่ซับซ้อน ระบบทำงานด้วยไฮโดรริค
เพื่อที่จะทำให้สินค้าได้รับคุณภาพที่สูงสุด การซ่อมบำรุงก็ง่ายไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก มีระบบป้องกันเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปขัดขวาง
ระหว่างเครื่องกำลังทำงาน เช่น มือ, สิ่งของ หรือวัสดุต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเครื่องจักรและอื่นๆ

ติดต่อ :
Email : info@cctgroup.co.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0816428557, 0812079977 (คุณสมนึก)
Website : https://www.cctgroup.co.th 
#2791
'ซีวิลเอนจีเนียริง' โชว์คว้างานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ อีก 3 โปรเจค ประเดิมงานใหญ่ 'ทางหลวงบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ตอน8' เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมสู่ภาคใต้ รับเศรษฐกิจ สังคมและการท่องเที่ยวขยายตัว

'บมจ. ซีวิลเอนจีเนียริง' ผู้นำด้านงานก่อสร้างและวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจรของไทย โชว์ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ คว้างานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมภาครัฐอีก 3 โปรเจค รวมมูลค่างานกว่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ตอน8, งานก่อสร้างทางหลวงชนบทเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว จังหวัดตรัง และโครงการก่อสร้างถนน สาย อย4055 แยกทล.3267 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนที่ดีขึ้น เพิ่ม Backlog หนุนผลการดำเนินงานปี 65 เติบโตต่อเนื่อง

นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันในฐานะผู้นำด้านงานก่อสร้างและวิศวกรรมโยธาที่ครบวงจร ใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ เพิ่มโอกาสเข้ารับงานบริหารโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมภาครัฐ เชื่อมโยงโครงข่ายด้านคมนาคมและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตยั่งยืน โดยล่าสุด บริษัทฯ เซ็นสัญญาเข้ารับงานบริหารโครงการก่อสร้างกับหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท รวมจำนวน 3 โครงการ มูลค่างานรวมกันกว่า 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ งานใหม่ดังกล่าว ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บางแพ้ว ตอน 8 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการทางหลวงพิเศษ สายบางขุนเทียน-ปากท่อ ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองระยะ 20 ปี พ.ศ.2560-2579 ของกรมทางหลวง มีแนวเชื่อมต่อกับโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก บริเวณด่านบางขุนเทียนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดย CIVIL จะเข้าบริหารโครงการก่อสร้างสายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 8 ช่วง กม.31+207-33 ระยะทาง 2.159 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 1,080 วัน มูลค่าโครงการ 1,911 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 ขนาด 6 ช่องจราจร และก่อสร้างปรับปรุง ขยายผิวจราจรเดิมรวมถึงงานระบบระบายน้ำและบ่อพัก งานไฟฟ้าแสงสว่าง งานป้ายจราจรและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย เติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ระหว่างกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มศักยภาพด้านคมนาคมในการขนส่งทางถนนและการเดินทางเชื่อมต่อไปภาคใต้ รองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ สังคมและการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เข้าบริหารโครงการก่อสร้างทางหลวงชนบทเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ถนนสาย บ.หาดสำราญ-ตะเสะ (ตอนที่2) อ.หาดสำราญ จังหวัดตรัง ระยะทาง 5.92 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม - 21 สิงหาคม 2565 มูลค่างานก่อสร้าง 34.5 ล้านบาท เพื่อเป็นเส้นทางคมนาคมสายหลักที่สำคัญของจังหวัด เชื่อมโยงการเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและสนับสนุนการเติบโตอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากนี้ ยังเข้าบริหารโครงการก่อสร้างถนนยางแอสฟัลติกคอนกรีต สาย อย.4055 แยกทางหลวงหมายเลข 3267-บ้านตาลเอน อ.มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 4.075 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 210 วัน มูลค่างาน 45 ล้านบาท เพื่อเป็นเส้นทางคมนาคมเดินทางของประชาชนในพื้นและจังหวัดใกล้เคียงให้ได้รับความสะดวกสบายจากการใช้เส้นทางดังกล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CIVIL กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนศักยภาพดำเนินงานที่มีขีดความสามารถบริหารโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการทั้งกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ให้ CIVIL เข้าไปบริหารโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานงานทางและทางยกระดับให้ประสบความสำเร็จ และส่งมอบผลงานก่อสร้างที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ภายใต้ระยะยเวลาที่กำหนด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างยืน โดย CIVIL ได้นำเทคโนโลยีก่อสร้าง ทีมบุคลากรที่มีความชำนาญในวิศวกรรมโยธา เครื่องจักรอุปกรณ์สมัยใหม่และโรงงานผลิตชิ้นส่วนวัสดุก่อสร้าง เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการทั้ง 3 โครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อการเดินทางและขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การเข้ารับงานครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ มีมูลค่าสัญญางานก่อสร้างที่รอส่งมอบ (Backlog) เพิ่มขึ้น จาก ณ สิ้นปี 2564 ที่มีงานรอส่งมอบประมาณ 16,800 ล้านบาท และบางส่วนจะเริ่มทยอยส่งมอบงานโครงการก่อสร้างภายในปี 2565 ที่จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง
#2792
ALT วางเป้าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปปีนี้ 50 โครงการ เล็งกลุ่มลูกค้าโรงงาน-สำนักงาน-หน่วยงานรัฐ

น.ส.ปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการให้บริการด้านธุรกิจการจำหน่ายและติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ทั้งจากลูกค้าที่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอี และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลาง ในการติดตั้ง Solar Rooftop รูปแบบ Private PPA

"กระแสตอบรับ Solar Rooftop ดีมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่บริษัทได้เริ่มมาทำธุรกิจด้านนี้อย่างจริงจัง โดย ALT เริ่มต้นในกลุ่มลูกค้ากิจการขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่สูงมากนัก" น.ส.ปรียาพรรณ กล่าว
สำหรับรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) นี้ ALT จะเป็นผู้ลงทุนในอุปกรณ์ การติดตั้ง แผงโซล่าร์บนอาคาร รวมถึงดูแลรักษาระบบให้ทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการจ่ายค่าไฟฟ้า (ที่ผลิตจากแผงโซลาร์) รายเดือนตามระยะสัญญา 15 ปี โดยอัตราค่าไฟฟ้าจะลดลงกว่า 10-30% และมั่นใจได้ว่าอำนาจในการผลิตไฟฟ้าที่ใช้งานเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นพลังงานสะอาด ดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลกในขณะนี้ โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด

ส่วนแผนการดำเนินงาน ในปีนี้ ALT ตั้งใจว่าจะบุกตลาดทั้งในกลุ่มเอกชน และขยายฐานลูกค้าไปยังหน่วยงานภาครัฐ โดยประสานงานร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ในรูปแบบเป็นผู้ลงทุน Private PPA โดยมีเป้าหมายในปีนี้ ALT จะต้องวางพื้นฐานระบบ Solar rooftop ให้ได้มากกว่า 50 โครงการ

นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าหลักจะอยู่ในกลุ่มโรงงาน และสำนักงาน ที่มีอัตราค่าไฟฟ้าตั้งแต่ 1 แสนบาท/เดือนขึ้นไป โดยจะเน้นการติดตั้ง Solar rooftop ในรูปแบบ Private PPA เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ระหว่างเจรจา มากกว่า 10 โครงการ ทั้งในส่วนภาครัฐ และเอกชน

น.ส.ปรียาพรรณ กล่าวว่า จุดแข็งของ ALT ในธุรกิจ Solar rooftop ประเด็นแรกมาจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในการติดตั้ง โดยในส่วนของแผ่น PV แบรนด์ Q cells อยู่ในกลุ่ม Tier 1 และได้รับการยอมรับด้านประสิทธิภาพสูงสุดในกลุ่มเดียวกัน เป็นแบรนด์ที่ได้วิศวกรรมจากประเทศเยอรมัน ผลิตในประเทศเกาหลีใต้ มีจุดเด่นเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า ขณะที่ inverter แบรนด์ Huawei ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมสูงสุดในกลุ่มของ inverter

ALT ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับรูปแบบการซื้อขายไฟ หรือการลงทุน และความคุ้มทุนเพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของลูกค้า รวมทั้งการเข้าถึงกลุ่มกิจการขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง และต้องการลดค่าไฟฟ้าลง โดยที่ไม่ต้องการลงทุน และเป็นภาระในการดูแลรักษาระบบเอง การให้คำปรึกษาและเข้าสำรวจหน้างานอย่างรวดเร็ว รวมถึงการออกแบบระบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า

ล่าสุดบริษัท ได้ลงทุนติดตั้ง Solar Rooftop รูปแบบ Private PPA ให้กับบริษัท ไท่ซาน คอร์เปอเรท แล้วเสร็จเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีภาระค่าไฟฟ้าประมาณ 200,000-300,000 บาทต่อเดือน หรือใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 200.7 กิโลวัตต์

ด้านนายวินิทร ตั้งวิรุฬห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไท่ซาน คอร์เปอเรท จำกัด กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจร้านค้าส่งเน้นตลาด 20 บาททุกชิ้น ที่นำเข้าจากประเทศจีนเป็นหลัก โดยเปิดดำเนินการมานานประมาณ 5-6 ปีแล้ว มีสินค้าที่บริษัทจัดจำหน่ายอยู่ไม่ต่ำกว่า 2 แสนรายการ ซึ่งผลิตภัณฑ์สินค้าทุกอย่าง 20 บาทถือเป็นตลาดมีกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และคนจะตัดสินใจซื้อสินค้าง่าย เนื่องจากมีราคาถูก ทำให้ตลาด 20 บาทยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะแม้ว่าจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตลาด 20 บาทก็ยังสามารถเติบโตได้ดี

เหตุที่ติดตั้งแผงโซลาร์ รูฟท็อป นั้น เพราะมองว่าจะช่วยประหยัดใช้ไฟฟ้าได้มาก เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าราว 3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งถือเป็นต้นทุนสัดส่วนราว 20-30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเนื่องจากอาคารและคลังสินค้าติดแอร์ทั้งหมด

"ผมศึกษาเรื่องติดตั้งแผงโซลาร์มาซักพักแล้ว โดยมีความสนใจส่วนตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และศึกษาข้อมูลจากเพื่อนๆ ในแวดวง ซึ่งก็เคยมีบริษัทอื่นมาติดต่อที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ให้เหมือนกัน แต่พอพิจารณาเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ต่างๆ แล้ว ถือว่า ALT ให้ประโยชน์สูงสุด ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยมาก เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าแล้ว ที่สำคัญผมไม่ต้องลงทุนเองด้วย แถมทาง ALT ยังเป็นผู้มาดูแลรักษาให้ตลอดอายุสัญญาอีกด้วย รวมทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" นายวินิทร กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มองว่ารูปแบบ Private PPA เป็นรูปแบบที่ดี ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ทางบริษัทฯ ไม่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายใดๆ และได้รับผลตอบแทนในระยะยาว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่สนใจ เพราะช่วยลดต้นทุนได้จริง
#2793

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ดาวยิงคนใหม่ของ เซบีย่า ได้รับประสบการณ์อันน่าปลื้มปริ่มเมื่อสโมสรใน ลา ลีกา จัดงานเปิดตัวอย่างสุดเซอร์ไพรส์ซึ่งทำเอาเจ้าตัวไม่คาดฝัน
          กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสเซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีม เซบีย่า แบบยืมตัวจนจบซีซั่นอันเป็นการแก้ปัญหาที่ทำให้พ่อค้าแข้งวัย 26 ปีโล่งอกเนื่องจากเขาไม่มีโอกาสได้ลงเล่นมากพอในสีเสื้อของ ผีแดง ซึ่งซีซั่นนี้เขาได้วาดลวดลายใน พรีเมียร์ลีก แค่แปดนัดเท่านั้นโดยเป็นตัวจริงสองนัด

          พร้อมกันนี้ มาร์กซิยาล ยิ่งประทับใจสโมสรใหม่ของเขามากขึ้นไปอีกเนื่องจากในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สังเวียนแข้ง รามอน ซานเชซ ปิซฆวน เมื่อคืนวันพุธที่ 26 ม.ค. เซบีย่า ได้ทำเรื่องเซอร์ไพรส์เขาด้วยการนำวิดีโอของ โรนัลโด้ อดีตศูนย์หน้าทีมขาติบราซิลหนึ่งในไอดอลของดาวเตะเฟรนช์แมนมาเปิดให้เขาดู

          "สวัสดี มาร์กซิยาล สบายดีมั้ย? ยินดีต้อนรับสู่ ลา ลีกา และ เซบีย่า นี่คือสโมสรใหญ่ในสเปน และเป็นสโมสรใหญ่ในยุโรป" อดีตดาวดังทีม เรอัล มาดริด , อินเตอร์ มิลาน และ บาร์เซโลน่า เปิดปากผ่านวิดีโอ

          "พวกเขามีแฟน.ที่เหลือเชื่อ และเล่นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ฉันขออวยพรให้นายโชคดี และหวังว่าเราจะได้พบกันในไม่ช้า โชคดีนะ"

          ทั้งนี้ เจ้าของฉายา "โล้นทองคำ" ซึ่งสอยตาข่ายได้ 414 ประตูจากการค้าแข้ง 616 นัดเป็นหนึ่งในสองไอดอลที่ มาร์กซิยาล ชื่นชอบจากที่เขาเคยเผยผ่านเว็บไซต์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2018

          "ฮีโร่สองคนของผมเป็นชาวบราซิลทั้งคู่ โรนัลดินโญ่ และ โรนัลโด้ เพราะทั้งคู่มีเวทมนตร์ที่เท้า!"
#2794
รมว.พาณิชย์ กำกับวอร์รูมแก้ปัญหาสินค้าแพง พร้อมสั่งใช้กฎหมายเคร่งครัด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิด ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า วันนี้เป็นการประชุมวอร์รูมของกระทรวงพาณิชย์ โดยลงนามแต่งตั้งให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในระดับส่วนกลาง และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นประธานในส่วนภูมิภาคและระดับจังหวัด โดยได้มอบหมายอำนาจหน้าที่สำคัญให้วอร์รูมรับไปดำเนินการ ใน 3 ข้อ คือ 1.ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการโดยใกล้ชิด 2.ให้ลงมือแก้ปัญหาทันทีที่พบปัญหาเกิดขึ้น ทั้งเรื่องปริมาณและราคาสินค้า 3.เมื่อพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฏหมายโดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานว่า มีการจัดชุดเฉพาะกิจในรูปแบบบูรณาการของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนกลางจำนวน 55 ชุด เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าพบการกระทำความผิด ไม่ปิดป้ายราคาสินค้า หรือขายเกินราคาป้ายที่ปิดไว้ รวมทั้งถ้าพบการกักตุน หรือการค้ากำไรเกินควร ก็ให้ดำเนินการโดยเคร่งครัดตามกฎหมาย ซึ่ง 55 ชุดนี้ จะไม่รวมในส่วนของภูมิภาคและจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวเรือใหญ่ในการดำเนินการ

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า จากที่การประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (24 ม.ค.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุมนั้น วันนี้จึงได้ลงนามประกาศให้ไก่และเนื้อไก่เป็นสินค้าควบคุม และจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งถือว่าจะมีผลบังคับใช้ในทันที และจะมีการกำหนดมาตรการให้ผู้ที่ครอบครอง ผู้ผลิตแปรรูปต่างๆ แจ้งต้นทุน และปริมาณการครอบครองซึ่งจะเป็นมาตรการที่ตามมา

นอกจากนี้ ได้มีการประชุมโดยกรมการค้าภายในร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรกรและโรงชำแหละ ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ที่มีข้อสรุปร่วมกันว่าจะตรึงราคาไก่หน้าฟาร์มไว้ที่ไม่เกินกิโลกรัมละ 40 บาท เท่าที่ตรวจสอบยังไม่ถึง 40 บาท อยู่ในช่วงราคาประมาณ 38-39 บาทต่อกิโลกรัม

ขณะเดียวกัน มีการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับห้างแม็คโคร โลตัส และบิ๊กซี เพื่ช่วยตรึงราคาเนื้อไก่สำหรับการบริโภค อย่างน้อยทั้ง 4 รายการ ในทุกสาขาทั่วประเทศ ดังนี้ 1.ไก่สดทั้งตัว ตรึงราคาที่ 60-65 บาท/กก. 2.น่องติดสะโพกราคา 60-65 บาท/กก. 3.น่องแยกกับสะโพก 65-75 บาท/กก. และ 4.เนื้อหน้าอก ตรึงราคาไว้ที่ 70-75 บาท/กก.

โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาชี้นำ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภค และถือเป็นราคาอ้างอิงที่กระทรวงพาณิชย์หรือภาครัฐได้ร่วมมือกับเอกชนในการจัดเนื้อไก่ราคาถูกสำหรับตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งประเทศ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมร่วมกับผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตและการจำหน่ายทั้งหมดในหลายหมวดสินค้า และมีการตรึงราคาสินค้าในหมวดสำคัญในชีวิตประจำวันของหลายหมวดเช่น 1. หมวดซอสปรุงรส 2. หมวดน้ำอัดลม 3.หมวดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4.หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า 5. ไข่ไก่ สำหรับสุกรตรึงราคาหน้าฟาร์มไว้ที่กิโลกรัมละ 100-110 บาท ซึ่งจะส่งผลให้หมูเนื้อแดง มีราคาอยู่ที่กก.ละ 200-210 บาทโดยประมาณ

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาเรื่องหมูจำเป็นที่หลายกระทรวงจะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาในนามของรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวเรือใหญ่ และประกอบด้วยหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เมื่อปริมาณหมูในระบบขาดหายไป ซึ่งขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าปริมาณกี่เปอร์เซ็นต์ จะมีผลกับราคามากน้อยอย่างไร ซึ่งทางแก้ต้องเติมปริมาณหมูเข้าสู่ระบบให้มากขึ้น

ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์จะเป็นหน่วยงานหลักในการเร่งดำเนินการป้อนลูกหมูเข้าสู่ระบบ นอกจากนั้นรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการคลัง จัดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเงื่อนไขผ่อนปรน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยเลี้ยงหมูเข้าสู่ระบบมากขึ้นโดยเร็วที่สุด และดำเนินการทำให้ราคาเนื้อหมูปลายทางสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น

ส่วนเรื่องน้ำมันปาล์ม ยอมรับว่าน้ำมันปาล์มบรรจุขวดราคาปรับสูงขึ้นจริง เพราะราคาผลปาล์มดิบมีราคาสูงขึ้นมาก โดยปัจจุบันนี้ขึ้นจากกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า เป็นกิโลกรัมละ 10-11 บาท เกษตรกรพอใจมากและสามารถแก้ปัญหาในฝั่งเกษตรกรได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ดี เมื่อผลปาล์มราคาสูงขึ้นมาก จะทำให้ต้นทุนของโรงสกัด และโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสูงตามขึ้นไปด้วย

"ได้มอบนโยบายว่าต้องทำให้ทั้ง 3 ฝ่าย สามารถอยู่ด้วยกันได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เพื่อหาจุดสมดุลให้ได้มากที่สุด โดยได้มอบกรมการค้าภายในกับวอร์รูมช่วยกัน และที่ต้องเดินหน้าต่อไป คือรถโมบายพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 16 ที่จะจบโครงการในวันที่ 31 มกราคม จะดูให้เกิดความต่อเนื่อง เพราะประชาชนพอใจมาก" นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ซาอุฯ ประสานงานกับทางการของซาอุฯ และรายงานมาที่ตนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ติดตามมาตลอดโดยเฉพาะสินค้าบางรายการที่มีโอกาสดี เช่น เนื้อไก่ ที่พบว่ามีความคืบหน้ามาโดยลำดับ

"แต่ทั้งหมด ยังนับหนึ่งไม่ได้ เพราะต้องรอความสัมพันธ์ทางการทูตที่เป็นทางการ การที่ท่านนายกฯ เดินทางไปครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์มาก เท่ากับช่วยเปิดประตูให้กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการต่อไปได้ในสินค้าหลายตัว" นายจุรินทร์ กล่าว
#2795
มูดี้ส์เพิ่มอันดับเครดิต 'เทสลา' คาดยังรั้งสถานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่ง

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทเทสลาขึ้น 2 ขั้น สู่ระดับ Ba1 จากระดับ Ba3 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า มูดี้ส์เชื่อว่าบริษัทเทสลาซึ่งบริหารโดยนายอีลอน มัสก์ จะยังคงรักษาสถานะความเป็นผู้นำในด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับแนวหน้าเอาไว้ได้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มูดี้ส์ได้คงแนวโน้มความน่าเชื่อถือของเทสลาเอาไว้ที่ 'เชิงบวก' และเชื่อมั่นว่า เทสลาจะยังสามารถขยายฐานธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และปรับปรุงศักยภาพด้านการทำกำไรได้อย่างมีนัยสำคัญ

มูดี้ส์คาดว่า นโยบายการเงินของเทสลาจะเป็นไปในลักษณะรอบคอบระมัดระวัง และคาดว่าสภาพคล่องของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ดี คาดว่าการแข่งขันเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากบริษัทอื่น ๆ นั้น อาจจะสร้างแรงกดดันต่อผลกำไรของเทสลาในปี 2565

นอกจากนี้ มูดี้ส์คาดการณ์ว่า ยอดการจัดส่งรถยนต์ของเทสลาในปี 2565 จะอยู่ที่เกือบ 1.4 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากราว 936,000 คันในปี 2564
#2796
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#2797

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผย 8 เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตามองหลังเกิดโควิด-19 ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตมากขึ้น

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในรอบปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่มีบทบาทกับการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต ทัศนคติต่อการอยู่อาศัยให้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยาวนาน ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป

ผู้บริโภคใช้ชีวิตภายใต้บริบททางสังคมที่หลากหลายได้ดียิ่งขึ้น สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในแวดวงอสังหาฯ ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้ปรับตัวพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น ชูจุดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีกว่า เพื่อดึงดูดกำลังซื้อจากผู้ที่กำลังมองหาบ้าน

1.การผสมผสานไลฟ์สไตล์ดิจิทัล (Digital Lifestyle Integration) ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในการยกระดับและรองรับการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้สะดวกสบาย เห็นได้จากการที่หลายโครงการได้นำแนวคิดบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) มาใช้มากยิ่งขึ้น

จนแทบจะกลายเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานที่ที่อยู่อาศัยยุคใหม่ต้องมี การที่บ้าน/คอนโดฯ ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ในการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านนั้น นอกจากจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความอุ่นใจในความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในเรื่องการเฝ้าระวัง การตรวจสอบ การเปิดหรือปิดการใช้งานระบบไฟฟ้าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน

 2.การอยู่อาศัยแบบยั่งยืนตอบโจทย์คนหาบ้าน (Sustainable & Green Living) เมื่อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเทรนด์ความยั่งยืน ภาคธุรกิจรวมถึงตลาดอสังหาฯ จึงต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์นี้ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดฯ ที่ผ่านมาที่ผู้บริโภคต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น จึงมองหาบ้านที่มาพร้อมฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานและรักษ์โลก

ข้อมูลจากผลสำรวจ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด เผยว่า คนไทยกว่า 9 ใน 10 (93%) ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน โดยมากกว่าครึ่ง (62%) ต้องการบ้าน/คอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า ตามมาด้วยบ้านที่มีระบบระบายความร้อน (58%) และฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน (48%) นอกจากนี้หลายโครงการยังได้เพิ่มจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลาง รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง 
 

3.บ้านเพื่อผู้สูงอายุ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) แล้วในปีนี้ โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ถึง 20% ของประชากรทั้งหมด หลายโครงการที่อยู่อาศัยมีการออกแบบและนำเสนอนวัตกรรมการสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มราวจับในพื้นที่ต่างระดับ การเลือกประตูที่มีขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับรถเข็น และสร้างทางลาดให้รถเข็นเข้า-ออกในตัวบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งรายละเอียดการออกแบบต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุเท่านั้น

หากแต่เป็นหลักการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยและรองรับการใช้ชีวิตของทุกช่วงวัยได้เป็นอย่างดี ถือเป็นพื้นฐานการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ทุกบ้านต้องมี นอกจากนี้ ยังมีโครงการอสังหาฯ หลายแห่งที่ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพในการเพิ่มบริการดูแลสุขภาพไว้รองรับ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ
 

4.ที่อยู่อาศัย Pet Friendly สำหรับคนรักสัตว์ เทรนด์สัตว์เลี้ยงถือเป็นอีกไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภค แต่ก็กลายเป็นอีกข้อจำกัดเมื่อต้องเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยเช่นกัน ในอดีตโครงการคอนโดฯ ส่วนใหญ่มักไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนเพื่อนร่วมคอนโดฯ หรือมีปัญหาเรื่องความสะอาด ที่อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทตามมาในภายหลังได้

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรักสัตว์มีจำนวนไม่น้อยและถือเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในตลาด ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาฯ มองเห็นโอกาสและหันมาเจาะกลุ่มคนรักสัตว์โดยเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly) พร้อมทั้งมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย 

5.เทรนด์เช่ามาแรง ลดภาระค่าครองชีพ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดฯ ที่ยังมีความผันผวนอยู่ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปก่อน และวางแผนการเงินอย่างรัดกุม เลือกเก็บเงินสดไว้กับตัว ส่งผลให้เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ค่าบำรุงรักษา รวมไปถึงค่าภาษีและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเมื่อตัดสินใจซื้อบ้าน/คอนโดฯ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางและไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมเพียงพอ การเช่าที่อยู่อาศัยจะช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่สามารถเลือกเช่าที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานได้ในราคาที่เอื้อมถึง

โดยไม่มีภาระผูกมัดระยะยาว และยืดหยุ่นกว่าเมื่อคิดจะเปลี่ยนงานใหม่ นอกจากนี้การเปิดประเทศและนโยบายจากภาครัฐจะสนับสนุนให้ Digital Nomad หรือผู้ประกอบอาชีพด้านดิจิทัลชาวต่างชาติเลือกเข้ามาทำงานและพักอาศัยในไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้ตลาดเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตเช่นกัน  

6.สร้างบรรยากาศแบบ Holiday at Home การใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้เกิดแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกของการพักผ่อนที่เหมือนได้ท่องเที่ยวพักผ่อนในต่างจังหวัดแม้จะอยู่ที่บ้าน รวมทั้งการตกแต่ง

การจัดสวนให้มีมุมพักผ่อนที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ สมาชิกในครอบครัวสามารถเลือกนั่งทำงานหรือเรียนออนไลน์ในบรรยากาศที่แตกต่างออกไป ลดความจำเจเมื่อต้องทำงานที่บ้านเป็นระยะเวลานาน และยังสามารถใช้พื้นที่ในสวนเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่บ้านร่วมกันได้อีกด้วย ตอบโจทย์การออกแบบที่อยู่อาศัยให้ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว

7.สกุลเงินดิจิทัลกับโอกาสเป็นเจ้าของอสังหาฯ กระแสของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ในไทยน่าจับตามองและมีบทบาทมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม ไม่เพียงแต่ด้านฟินเทค (Fintech) เท่านั้นแต่รวมไปถึงในธุรกิจค้าปลีก ความบันเทิง และอสังหาฯ

โดยในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ที่กล้ารับความเสี่ยง มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าไม่ต่างจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้ได้ง่ายขึ้น

เนื่องจากการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูงและระยะเวลาผ่อนชำระยาวนาน ผู้ยื่นกู้จำเป็นต้องมีประวัติการเงินที่ดีและมีศักยภาพในการผ่อนชำระจึงจะได้รับการอนุมัติจากธนาคาร ถือเป็นอุปสรรคในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่หรือวัยเริ่มทำงาน

ในขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้ในระยะเวลาไม่นาน ช่วยลดข้อจำกัดเหล่านี้และเปิดโอกาสให้นักลงทุนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำอสังหาฯ นี้ไปลงทุนขายต่อหรือปล่อยเช่าได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตามองต่อไปว่านอกจากการประกาศใช้สกุลเงินดิจิทัลในการซื้ออสังหาฯ หรือจ่ายค่าส่วนกลางและค่าบริการอื่น ๆ ในบางโครงการแล้ว ในอนาคตเทรนด์สกุลเงินดิจิทัลจะสามารถกลายเป็นอีกช่องทางหลักของการซื้อขายในตลาดอสังหาฯ ได้หรือไม่
 
8.Metaverse ยกระดับประสบการณ์ที่อยู่อาศัยบนโลกเสมือน เทรนด์มาแรงที่สั่นสะเทือนทุกธุรกิจส่งท้ายปี ได้แก่ Metaverse นวัตกรรมที่สร้างสรรค์และผสมผสานสภาพแวดล้อมของโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนจริง ให้กลายเป็นชุมชนโลกเสมือนจริงผ่านการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่รองรับการเข้าถึงโลกเสมือนอย่าง Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ถือเป็นแนวคิดที่จะเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตลาดอสังหาฯ ไปไม่น้อย

นอกจากผู้บริโภคจะสามารถซื้อโครงการที่อยู่อาศัยในชีวิตจริงแล้ว ยังสามารถเป็นเจ้าของโครงการในโลกเสมือนได้ผ่านการเชื่อมโยงของ Metaverse อีกด้วย

นอกจากนี้ยังนำไปใช้เพื่อยกระดับการเยี่ยมชมที่อยู่อาศัยก่อนตัดสินใจซื้อแบบ Virtual Tour ในอนาคตให้ได้รับประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้นเหมือนเดินชมที่สำนักงานขายด้วยตนเอง พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจในการเปิดพื้นที่ใน Metaverse ให้สามารถซื้อขายที่ดินเพื่อพัฒนาห้างสรรพสินค้าและโครงการอสังหาฯ ต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
#2798
โปรโมชั่น เพื่อผิวสวยของ สาว ยุคนี้
Mana Gluta Collagen mana gluta collagen
เพี่อผิวสวยของสาวยุคนี้
ต้องกระป๋องขมพู
กูลต้า คอลลาเจน จาก Brand MANA
ไดเปปไทด์คอลลาเจน เกรดพรีเมี่ยม
GLUTA COLAGEN เกรดพรีเมี่ยม
โปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ
ส่งฟรี ทั้งโอนและปลายทาง


สั่งซื้อได้ที่เวปไซต์  MANA THILAND
หรือ แอดไลน์
มานา กูลต้า คอลลาเจน
#2799
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 196.98 จุด วิตกปัญหายูเครน-รัสเซีย,จับตาประชุมเฟด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงในวันจันทร์ (24 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน และนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,297.15 จุด ลดลง 196.98 จุด หรือ -2.63%

ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับรัสเซียและชาติตะวันตกเกี่ยวกับประเด็นยูเครน และการประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ รวมถึงเฟด ได้กระตุ้นแรงเทขายหุ้นในตลาดทั่วโลก

บรรดานักลงทุนจะรอผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ เพื่อดูว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น

แต่หุ้นยูนิลีเวอร์ พุ่งขึ้น 7.3% สวนทางตลาด หลังมีรายงานว่านายเนลสัน เพลตซ์ นักลงทุนและนักเคลื่อนไหวได้เพิ่มการถือหุ้นในยูนิลีเวอร์

หุ้นโวดาโฟน พุ่งขึ้น 4.5% หลังแหล่งข่าวรายงานว่ากำลังเจรจากับบริษัท Iliad เพื่อทำข้อตกลงควบกิจการในอิตาลี
#2800
พาณิชย์ จับมือ Amazon ชี้ช่อง SME ไทยขยายตลาดส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การค้าออนไลน์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ประกอบการทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยได้หันมาใช้ในการดำเนินธุรกิจทั้งในลักษณะช่องทางเสริม ช่องทางหลัก หรือแบบผสมผสาน ผ่านเครื่องมือหรือตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)

ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับบริษัท อเมซอน โกล. เซลลิ่ง จำกัด จัดสัมมนา Amazon Global Selling Thailand Conference 2022 ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถเข้าถึงตลาดในระดับสากล บนแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบ ตามแนวคิด "Go Global, Sell on Amazon" โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 5,000 คน ประกอบด้วย ผู้ค้าออนไลน์ ธุรกิจ SMEs

ซึ่งประชาชนจะได้เรียนรู้เคล็ดลับการขายของออนไลน์ระหว่างประเทศ กับทีมงาน Amazon และผู้เชี่ยวชาญ เรียนรู้การขายบน Amazon ตั้งแต่ก้าวแรก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีผู้ขาย ลิสต์รายการสินค้า โฆษณาหาลูกค้า ไปจนถึงการขอความช่วยเหลือจาก Amazon Seller Central และอีกมากมาย เข้าใจแนวโน้มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์โลกล่าสุด พร้อมรับฟังคำแนะนำและประสบการณ์ตรงจากผู้ค้าตัวจริงที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งพาร์ทเนอร์ และผู้ให้บริการด้านต่างๆ ที่มาแบ่งปันทคนิค และเครื่องมือต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอ และแนะนำความคืบหน้าบริการและเครื่องมือบนแพลตฟอร์ม e-commerce ของอเมซอน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ค้าออนไลน์เดิมที่ใช้บริการอเมซอน หรือผู้ที่สนใจเข้ามาค้าขายบนแพลตฟอร์มของอเมซอน เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเวิร์คช้อปสุดเข้มข้น

นายทศพล กล่าวว่า งานสัมมนา Amazon Global Selling Thailand Conference 2022 เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการด้านการค้าออนไลน์ของไทยสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการส่งออกและการนำเข้าผ่าน third-party platform ของต่างชาติที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เช่น Amazon

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่นิยมค้าขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรูปของตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Facebook Instagram เป็นต้น เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ต้นทุนค่อนข้างต่ำ และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคทั่วไปได้ง่ายและกว้างขวาง จึงถือว่าเป็นความท้าทายและโอกาสของ SMEs ไทยในการขยายตลาดส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์

"ในยุคออนไลน์ ร้านค้าและผู้ประกอบการจะอยู่รอดได้นั้น นอกจากจะต้องปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยีและช่องทางที่เปลี่ยนไปแล้ว หัวใจสำคัญยังคงอยู่ที่คุณภาพสินค้าและบริการที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ที่จะสามารถสร้างความแตกต่าง ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ และครองใจลูกค้าได้ในที่สุด" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุ