• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#2381
PRINC ควัก 300 ล้านลุยธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ลงทุนใน "ผิวดีคลินิก" (PEWDEE CLINIC) ประเดิมขยายสาขาในต่างจังหวัด 4 แห่ง ภายในปี 66

วันที่ 14 มี.ค. 65 บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนาม "เครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์" แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด บริษัทในเครือ PRINC เข้าลงทุนในบริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ PEWDEE Clinic โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทในการเข้าซื้อหุ้นสามัญจากผู้ขายเป็นเงินจำนวน 252.5 ล้านบาท และจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของผิวดีคลินิกเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 302.5 ล้านบาท ซึ่งมีผลทำให้บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็น 55% ขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ PEWDEE Clinic มีสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็น 45% และบริหารงานร่วมกัน เพื่อขยายธุรกิจให้บริการด้านผิวพรรณ ศัลยกรรมความงามและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC กล่าวถึงเหตุผลที่ขยายธุรกิจสู่คลินิกเสริมความงาม ระบุเนื่องจากจุดแข็งของเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ โดยเฉพาะการให้บริการทางการแพทย์ที่สามารถต่อยอดจากลูกค้าฐานผู้ใช้บริการเดิม ประกอบกับพื้นที่ตั้งของโรงพยาบาลในหัวเมืองสำคัญ เช่น นครสวรรค์, พิษณุโลก, อุบลราชธานี ฯลฯ ยังมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งภาพรวมอัตราการเติบโตในธุรกิจในธุรกิจคลินิกเสริมความงาม โดยเฉพาะในต่างจังหวัดยังโตได้ดี คาดการณ์เติบโตในการการเติบโตของผิวดีคลินิก (EBITDA) เฉลี่ยที่ 28.8% ต่อปี คาดการณ์รายได้ปี 65 ประมาณ 190 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้ช่วงก่อนโควิด-19 จากสถานการณ์โควิด-19

ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะขยายเข้าสู่ธุรกิจคลินิกเสริมความงาม โดยต่อยอดจากธุรกิจหลักคือการบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน และตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งการกระจายรายได้เข้าสู่ธุรกิจคลินิกเสริมความงามและเวลเนสนี้ จะสร้างการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน

"สถานการณ์โดยรวมเศรษฐกิจ ภาพรวมการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มารับการรักษาพยาบาลในไทย และสถานการณ์การระบาดโควิดโอไมครอนจะทยอยดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ประกอบกับเตรียมขยายธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอางค์ ภายใต้แบรนด์ "ผิวดีคลินิก" เป็นอีกตัวธุรกิจใหม่ที่เสริมที่จะมาเสริมและกระจายความเสี่ยงจากรายได้ให้ธุรกิจหลัก อย่างธุรกิจบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน มียังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายธานี กล่าว
ขณะที่ แพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ อาจารย์แพทย์ และผู้บริหาร บริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ "ผิวดีคลินิก" (PEWDEE Clinic) กล่าวว่า ความร่วมมือการลงทุนครั้งสำคัญนี้ จะทำให้ "ผิวดีคลินิก" ขยายฐานขยายฐานลูกค้าผู้ใช้บริการไปต่างจังหวัด และตอกย้ำจุดแข็งของผิวดีคลินิกที่ให้บริการดูแลรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง เรามีความเชี่ยวชาญด้านหัตถการด้านเลเซอร์ โดยได้การการันตีประสบการณ์การรักษาฝ้าและจุดดำ รางวัลอันดับที่ 1 ในระดับภาคพื้นเอเชีย The Luminary Gem Award 5 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน

"ผิวดีคลินิก ภายใต้การร่วมบริหารงานกับทีมผู้บริหารจากเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ เราเตรียมต่อยอดไปสู่การให้บริการการดูแลรักษาด้านเวลธ์เนส (Wellness) เมื่อมีพาร์ทเนอร์เป็นโรงพยาบาล ทำให้คลินิกสามารถส่งต่อผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการดูแลรักษาด้านผิวหนังเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลได้ เป็นอีกจุดแข็งด้านเครือข่ายการดูและรักษาที่จะทำให้เราเข้าถึงฐานลูกค้าทั่วประเทศ และตรงกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เมื่อผู้ใช้บริการมีปัญหาด้านผิว เข้ามารับการดูแลรักษา เราจะต้องแก้ไขปัญหาเขา เพื่อทำให้เขาดูดีขึ้น หรือหายขาดจากโรคผิวหนังนั้นๆให้ได้", แพทย์หญิงกุหลาบ กล่าว

ทั้งนี้นอกจากแนวทางการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นอย่างห้างสรรพสินค้าแล้ว บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ในเครือ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC มีแผนขยายสาขาเพิ่มในพื้นที่โรงพยาบาลในเครือฯ อีกอย่างน้อย 4 แห่ง ได้แก่ รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (ย่านบางนา กม.7) คาดพร้อมเปิดให้บริการภายในเดือนเมษายน 2565 และคาดเปิดให้บริการภายในปีหน้า (2566) ได้แก่ รพ.พริ้นซ์ ปากน้ำโพ (จ.นครสวรรค์), รพ.พิษณุเวช (จ.พิษณุโลก) และรพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี (จ.อุบลราชธานี) โดยตั้งเป้าขยายสาขาทั้งหมด รวมทั้งหมด 7 แห่งภายในปี 2568 จากปัจจุบัน ผิวดีคลินิก (PEWDEE CLINIC) มีทั้งหมด 10 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน (SIAM PARAGON), ศูนย์การค้าไอคอน สยาม (ICON SIAM), เซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค และปิ่นเกล้า

 
#2382
MICHELIN Pilot Sport 4S K1 และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 ยางสองรุ่นที่ผลิตขึ้นเพื่อซูเปอร์คาร์ Ferrari 296 GTB โดยเฉพาะ


ยางสองรุ่นนี้ผลิตมาเพื่อการใช้งานสองรูปแบบ สำหรับบนถนนทั่วไปและสนามแข่ง โดยเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ Ferrari 296 GTB
ทุ่มเทพัฒนากว่า 18 เดือนเพื่อนำเสนอสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบควบคู่ไปกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากโครงการที่พัฒนาร่วมกับทีมเฟอร์รารี่ โดยใช้เทคโนโลยีการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง
เฟอร์รารี่วางใจเลือกมิชลินให้เป็นตัวแทนจัดหายางรถยนต์อย่างเป็นทางการสำหรับ Ferrari 296 GTB ซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ของเฟอร์รารี่ ซึ่งมิชลินได้ส่งมอบยางยางสมรรถนะสูงพิเศษที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันให้สองรุ่น คือ MICHELIN Pilot Sport 4S K1 สำหรับการขับขี่บนท้องถนนเป็นหลัก และ และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 ยางสำหรับสนามแข่งที่ใช้งานบนถนนทั่วไปได้ (Road Legal Tires) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของรถในสนามประลองความเร็ว

เฟอร์รารี่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของรถให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าเสมอในทุกครั้งที่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ มิชลินเองก็ยึดถือแนวคิดเดียวกันและทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์รายนี้มายาวนานเพื่อออกแบบและผลิตยางแบบพิเศษให้กับรถเฟอร์รารี่

สมรรถนะ
สำหรับยานยนต์ที่เหนือชั้นเช่นนี้ สมรรถนะของยางมีความสำคัญมากกว่าประโยชน์ใช้สอยทั่วไป โดยในการพัฒนาสมรรถนะให้ถึงขีดสุดนี้จะต้องคำนึงถึงทั้งความปลอดภัย ความแม่นยำ และความเพลิดเพลินในการขับขี่ รวมถึงต้องมีความมีสอดคล้องกลมกลืนกับรูปโฉมของยานพาหนะด้วย

พัฒนาขึ้นตามความต้องการพิเศษ
ยางสำหรับ Ferrari 296 GTB ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษภายใต้ความร่วมมือกับทีมงานของเฟอร์รารี่ และมีความโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ 'K' ซึ่งปรากฏอยู่ที่แก้มยาง โดยการออกแบบพิเศษตามสั่งนี้เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้ได้สมรรถนะตามเกณฑ์ที่เฟอร์รารี่กำหนด

ทีมงานของมิชลินมีส่วนร่วมกับโครงการนี้ทันทีภายหลังจากที่ได้รับทราบข้อกำหนดต่าง ๆ ในทางเทคนิค โดยกว่าที่จะพัฒนามาเป็นยางที่พร้อมจำหน่ายแบบนี้ได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์มาถึงสี่รอบ และใช้ระยะเวลาในการออกแบบยางอีก 18 เดือน

การนำซอฟต์แวร์จำลองสถานการณ์เสมือนจริงที่ล้ำสมัยมาใช้ในโครงการนี้มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทำให้สามารถลดจำนวนการผลิตยางต้นแบบสำหรับใช้ในการทดสอบลงได้ รวมถึงลดจำนวนครั้งในการทดสอบกับรถจริง และย่นระยะเวลาที่ใช้ในการพัฒนายางนอกจากนี้การจำลองสถานการณ์เสมือนจริงยังช่วยให้สามารถปรับแต่งยางให้เข้ากับรถได้อย่างแม่นยำมากขึ้นด้วย

โดยในระหว่างที่ทำการทดสอบ ซึ่งบางส่วนจัดขึ้นที่สนามแข่งฟีโอราโน (Fiorano) ในอิตาลี มิชลินได้บันทึกข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเพิ่มสมรรถนะให้อยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษทั้งในด้านการยึดเกาะถนน ความนุ่มนวล และความแม่นยำในการขับขี่

เออร์เว ชาร์บอเนล วิศวกรพัฒนายางของมิชลิน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ Ferrari 296 GTB ตัวใหม่นี้เอาไว้ว่า "มันเป็นความท้าท้ายและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ความต้องการของทีมวิศวกรจากเฟอร์รารี่ทำให้เราต้องใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการพัฒนายาง MICHELIN Pilot Sport 4S K1 และ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 และด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการจำลองสถานการณ์เสมือนจริงของมิชลิน เราจึงสามารถเพิ่มขีดจำกัดในการยึดเกาะถนนได้ไม่ยาก ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพหน้ายางแบบใหม่ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความแม่นยำและประสบการณ์การขับขี่ในแบบสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเฟอร์รารี่"

ยางสองรุ่นเพื่อการใช้งานสองรูปแบบ
มิชลินได้พัฒนาส่วนประกอบใหม่สองแบบและนำสองเทคโนโลยีพิเศษมาใช้พัฒนายางรถยนต์สำหรับรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยในขั้นตอนเหล่านี้เราปฏิบัติตามแนวทางด้านความยั่งยืนทั้งหมดของเรา ได้แก่ ลดจำนวนวัตถุดิบที่ใช้ ลดแรงต้านการหมุนของล้อ ลดจำนวนการผลิตยางสำหรับทดสอบ และลดจำนวนครั้งที่ทดสอบกับรถจริง

MICHELIN Pilot Sport 4S K1 ยางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ยางรุ่นนี้ได้รับการยอมรับในด้านสมรรถนะบนท้องถนนและเหมาะสำหรับการใช้งานในสนามแข่งเป็นครั้งคราว โดยมีคุณสมบัติช่วยให้รถมีความสมดุลในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างที่ต้องการ และมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่พร้อมด้วยอายุการใช้งานที่ยืนยาว หน้ายางผลิตขึ้นจากส่วนประกอบของยางหลายชนิดรวมกัน ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้เป็นการนำส่วนประกอบที่แตกต่างกันสี่อย่างมารวมเข้าด้วยกัน (ในยางล้อหน้าสองชนิดและยางล้อหลังสองชนิด) เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูงสุดและมอบการขับขี่ที่แม่นยำในสภาพถนนแห้งควบคู่ไปกับการยึดเกาะอย่างปลอดภัยในสภาพถนนเปียก
ยางสำหรับสนามแข่งที่ใช้งานบนถนนทั่วไปได้ MICHELIN Pilot Sport Cup 2R K2 เอาใจผู้ที่ชื่นชอบความรู้สึกตื่นเต้นในการขับขี่ด้วยข้อดีของการผสมผสานส่วนประกอบของเนื้อยางในแบบพิเศษที่มี Function Elastomers ช่วยเพิ่มความเป็นอันหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือรองรับแรงเหวี่ยงได้ดีบนถนนแห้งทำให้เข้าโค้งได้เร็ว มีการทรงตัวที่ดีเยี่ยมแม้ขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสริมประสิทธิภาพให้ความต้านทานการหมุนของล้อ และเพิ่มการยึดเกาะพื้นผิวถนนที่เปียก
ยางทั้งสองรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมที่มิชลินเป็นผู้คิดค้นและพัฒนา:

เข็มขัดรัดหน้ายางแบบไฮบริดที่ประกอบด้วยอะรามิดและไนลอน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมการส่งกำลัง (Hybrid Aramid and Nylon belt)
เทคโนโลยีผสานเนื้อยางสองสูตรในหนึ่งเดียว (Multi compound technology)
เทคโนโลยีนวัตกรรมโครงสร้างภายใน (Wavy Summit)
ตัวเลือกยาง
ยางหน้า: 245/35ZR20 (95Y) XL TL PILOT SPORT 4 S K1
ยางหลัง: 305/35ZR20 (107Y) XL TL PILOT SPORT 4 S K1
หรือ
ยางหน้า: 245/35 ZR20 (95Y) XL TL PILOT SPORT CUP 2 R K2
ยางหลัง: 305/35 ZR20 (107Y) XL TL PILOT SPORT CUP 2 R K2
#2383
รัสเซียระงับส่งออกธัญพืชไปอดีตสหภาพโซเวียตชั่วคราวถึง 30 มิ.ย.นี้

รัสเซียสั่งระงับการส่งออกธัญพืชไปยังกลุ่มประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตเป็นการชั่วคราว รวมถึงการส่งออกน้ำตาลส่วนใหญ่ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า รัสเซียจะยังคงให้สิทธิ์เทรดเดอร์ที่ได้รับโควต้าอยู่ในขณะนี้เป็นกรณีพิเศษ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ได้ลงนามในคำสั่งห้ามส่งออกน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายดิบจนถึงวันที่ 31 ส.ค. และห้ามส่งออกข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด ไปยังประเทศสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) โดยมีผลไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.นี้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียแสดงความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกธัญพืชไปยังประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งอยู่ในเขตปลอดภาษีภายใต้กรอบความร่วมมือ EAEU โดยสินค้าที่ส่งอออกไปยังสหภาพ EAEU ไม่ได้เข้าข่ายโควต้าการส่งออกธัญพืชและภาษีในปัจจุบันของรัสเซีย

แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า รัสเซียนำมาตรการดังกล่าวมาใช้เพื่อป้องกันตลาดอาหารในประเทศซึ่งเผชิญกับข้อจำกัดจากปัจจัยภายนอก

อย่างไรก็ดี รัฐบาลรัสเซียไม่ได้กล่าวถึงใบอนุญาตการส่งออกในแถลงการณ์ แต่ระบุว่า การขนส่งลำเลียงธัญพืชจากต่างประเทศผ่านทาง EAEU จะยังคงทำได้

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่สุดของโลก โดยมีอียิปต์และตุรกีเป็นประเทศผู้นำเข้าหลัก และรัสเซียยังเป็นคู่แข่งการส่งออกข้าวสาลีกับสหภาพยุโรป (EU) และยูเครน
#2384
สวัสดีค่ะ คู่รักคู่ไหนบ้างค่ะที่มีปัญหาเรื่องบนเตียง.. ไม่ว่าเรื่อง แฟนเสร็จเร็ว ต่อรอบไม่ได้ น้องชายไม่แข็งตัว..
วันนี้แอนมีผลิตภัณฑ์ของ BLX Balance X มาแนะนำ เมื่อก่อนแฟนเสร็จเร็วมาก ไม่เกิน 2 นาทีเสร็จแล้ว
หมดความสนุกเรื่องบนเตียงจืดชืดไปเลย แต่พอได้ลอง BLX Balance X ปัญหาที่พูดมาหมดไปเลยค่ะ..
ช่วยให้แข็งตัวดี แข็งตัวไว ไวต่อการกระตุ้นด้วยนะคะ รู้สึกดีมาก..เสร็จแล้วต่อรอบได้สบาย..แค่ทานก่อนมีกิจกรรม15-30นาที..
แค่นี้ก็พร้อมแล้วค่ะ ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ก็ปลื้มซิค่ะ ปลอดภัยมีอย. สารสกัดมาจากธรรมชาติ 1 กล่องมี 10 แคปซูล..อย่าลืมซื้อมาลองทานนะคะ
เพราะตัวนี้แก้ปัญหาเรื่องบนเตียงได้จริงค่ะ..
รายละเอียดเพิ่มเติม BLX Balance X
#2385
โรบินฮู้ด ร่วมมือ สตาร์บัคส์ นำร้านกาแฟยอดนิยมขึ้นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่
 
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือ เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ปัจจุบันโรบินฮู้ดมีไรเดอร์ที่ให้บริการส่งอาหารทั้งสิ้น 28,000 คน โดยประมาณ 70% ทำเป็นอาชีพเสริมจากงานหลัก อีก 30% วิ่งส่งอาหารกับเราเป็นอาชีพหลัก ค่าเฉลี่ยปริมาณงานต่อวันของไรเดอร์หนึ่งคนจะอยู่ที่ประมาณ 13 งาน ทีมงานจึงคิดหาหนทางในการช่วยเพิ่มความถี่ เพิ่มจำนวนงานต่อไรเดอร์หนึ่งคนให้มากขึ้น เพราะการที่ไรเดอร์มีงานที่มากขึ้นแปลว่าเขาจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย สามารถนำไปดูแลจุนเจือครอบครัวของตนได้

บริษัทจึงได้สานต่อไอเดียในการชวนแบรนด์ดังยอดนิยมมาร่วมบนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด ซึ่งในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากทาง "สตาร์บัคส์ ประเทศไทย" นำแบรนด์ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ที่ลูกค้ามีความชื่นชอบและคุ้นเคยเป็นอย่างดีมาให้บริการบนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด ซึ่งชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยพลังของแบรนด์สตาร์บัคส์จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับโรบินฮู้ดไรเดอร์ได้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะได้เห็นร้านเล็กๆ อีกมากมายที่อยู่บนแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดมีเพิ่มขึ้นเช่นกัน

นางเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สตาร์บัคส์มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ โรบินฮู้ด ผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทยที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในการขยายฐานลูกค้าเพื่อส่งมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ แก่ผู้บริโภคไทย ที่นิยมใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น จากสถานะการณ์ปัจจุบันที่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม และการทำงานที่บ้านมากกว่าเคย

สตาร์บัคส์เชื่อมั่นว่าโรบินฮู้ดมีความเชี่ยวชาญและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในฐานะแอปพลิเคชันที่ให้บริการส่งอาหารและเครื่องดื่มยอดนิยม และจะช่วยให้สตาร์บัคส์สามารถตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ ที่ต้องการรื่นรมย์กับเครื่องดื่มแก้วโปรดได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกโอกาส สตาร์บัคส์ยังคงเดินหน้าใส่ใจและพิถีพิถันในการส่งมอบเครื่องดื่มทุกแก้วแบบ customization เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์สตาร์บัคส์ จากช่องทางเดลิเวอรีเช่นเดียวกับการแวะมาที่ร้านสตาร์บัคส์ด้วยตนเอง และมองหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่จะช่วย ส่งเสริมโอกาสและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมเพื่อชุมชน และโลกของเรา
#2386
'ตาชำนิ' เตรียมขาย IPO 70 ล้านหุ้น-เข้า mai ใน Q2/65 หลังนับหนึ่งไฟลิ่ง

นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.ตาชำนิ (CEYE) เปิดเผยว่า ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ CEYE ที่ได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และคาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (service) ในช่วงไตรมาส 2/65

ปัจจุบัน CEYE มีทุนจดทะเบียน 135,000,000 บาท ทุนที่เรียกชำระแล้ว 100,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบธุรกิจให้บริการผลิตภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณา สื่อโทรทัศน์และภาพยนตร์ และบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยมีบริษัทย่อย คือ บริษัท ไม้ยืนต้น จำกัด ให้บริการเช่าสตูดิโอโรงถ่ายภาพยนตร์ โฆษณาและรายการโทรทัศน์ โดยมีกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทั้งลูกค้าเอเจนซีโฆษณา (Advertising Agency) และเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

CEYE มีจุดเด่น จากทีมผู้บริหารและผู้ก่อตั้งมีชื่อเสียง และประสบการณ์กว่า 30 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการโฆษณา ไม่หยุดนิ่งในการมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพของการให้บริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระยะยาว รวมถึง กลยุทธ์ในการต่อยอดสื่อโฆษณาที่บริษัทมีความแข่งแกร่ง ไปยังแพลตฟอร์มหรือช่องทางใหม่ๆ รับเทรนด์ผู้บริโภคและเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยชูความครีเอทีฟและคุณภาพงานเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ มีฐานลูกค้าเป็นองค์กรมีชื่อเสียง ถึงแม้ภายใต้สถานการณ์โควิด แต่เทรนด์สื่อโฆษณายังเป็นที่น่าจับตามอง

อย่างไรก็ดี มองว่าสถานการณ์โควิด-19 ในปี 64 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการการจำกัดการรวมตัวกัน ซึ่ง CEYE มีการปรับตัวให้เข้ากับฐานวิถีชีวิตใหม่ (New normal) มากขึ้น จึงทำให้กลุ่มบริษัทมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการ Lockdown สะท้อนจากผลประกอบการช่วงโค้งสุดท้ายของปี 64 โดย CEYE เริ่มเติบโตในอัตราเร่งและมีรายได้รวมไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 ถึง 3/64 จึงคาดว่า แนวโน้มในปี 65 เศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศที่สำคัญ ตามความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง CEYE จึงพร้อมนำเงินระดมทุนเสริมโอกาสการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันบริษัทฯ เตรียมนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในช่วงปลายเดือนมี.ค.65

นางสาวสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ CEYE กล่าวว่า แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายบริการให้ครบวงจร เป็น One stop services creative and production solution และลงทุนในส่วนขั้นตอนภายหลังการผลิต ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และโปรดักชันแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมครีเอทีฟ และการให้บริการด้านผลิตคอนเทนต์ ให้มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของการตลาดในยุคต่อไป และความพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ แบบไร้ขีดจำกัด

โดยแบ่งประเภทธุรกิจเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.บริการผลิตภาพนิ่งสำหรับสื่อโฆษณา 2.บริการผลิตภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณา 3.บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ 4.บริการให้เช่าสตูดิโอ และ 5.บริการอื่นๆ ได้แก่ ผลิตสื่อออนไลน์ 5 สื่อ ประกอบด้วย Spectrum, Shifter, Love Like Laugh, Myanmar Good Friend และLandmark ผ่านช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram, Website, Twitter และ TikTok และให้บริการบริหารสื่อออนไลน์ให้แก่ลูกค้า เช่น Facebook

วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ลงทุนโครงการในอนาคต รองรับโอกาสในการขยายไปยังกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสามารถในการเติบโต และสร้างผลตอบแทนสูงสุดต่อผู้ถือหุ้น โดยนำไปใช้ลงทุนโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ พื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร และโครงการลงทุนในส่วนอุปกรณ์การผลิต โดยลงทุนในอุปกรณ์การถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ นอกจากนี้ นำไปชำระคืนเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน

สำหรับภาพรวมผลประกอบการงวดประจำปี 64 มีรายได้รวม 272.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.53% และมีกำไรสุทธิ 28.45 ล้านบาท เติบโต 101.89% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีรายได้เติบโตขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการผลิตภาพนิ่ง 50.07% ผลิตภาพเคลื่อนไหว 26.73% รายได้จากการให้บริการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ 11.50% รายได้จากการให้เช่าสตูดิโอ 3.82% และรายได้จากการให้บริการอื่นๆ ได้แก่ บริหารสื่อออนไลน์ (Social Media Management) และผลิตสื่อออนไลน์ (Online Media) อยู่ที่ 5.50% ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ที่น่าจับตามอง เพราะกำลังจะต่อยอดไปสู่รูปแบบบริการ และกิจกรรมใหม่ๆ ที่บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่จะสามารถสร้างความเติบโตได้ในระยะยาว และมีรายได้อื่นอีก 2.38%

นอกจากนี้ในไตรมาส 4/64 มาตรการผ่อนคลายของรัฐบาลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 63 ถึงไตรมาส 3/64 ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown และมาตรการการจำกัดการรวมกลุ่ม ส่งผลให้ผลประกอบการ ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยมีรายได้รวม 87.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.95%จากไตรมาสก่อน และกำไรสุทธิ 15.30 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1,430.00% จากไตรมาสก่อน

ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตของกลุ่มบริษัทมีทิศทางสดใสมากขึ้น สอดรับกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 65 อีกทั้งการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และมาตรการการจำกัดการรวมกลุ่ม ทำให้กระบวนการผลิตสื่อโฆษณาสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ
#2387
ติดต่อทางไลน์เพิ่มเติมได้ครับ
@iamtheme.th
 https://iamtheme.com/  
ขายเว็บดูหนังออนไลน์ เว็บอนิเมะ เว็บผล.สด รับออกแบบเว็บหนัง รับออกแบบเว็บผล.สด
ดูเครดิตซื้อขาย  
**โปรโมชั่น**
บริการ API หนัง + สคริปเว็บหนังรายเดือน 12,000 บาท/เว็บ
พร้อมบริการอัพเดทหนังทุกๆ 2 - 3 วัน อัพเดทผ่านAPI เราใช้เซิฟเวอร์สำหรับสตรีมโดยเฉพาะ รับรองว่าเร็วและแรง ใช้เวลาติดตั้งแค่ 2 ชม 

บริการเว็บผล.สดรายเดือน 15,000 บาท/เว็บ
ราคานี้ทางเราจัดการให้หมดทุกอย่าง ผล.สดแบบเรียวไทม์ โปรแกรม. พร้อมใส่ช่อง.สด AIS PLAY | True Premier | True Sport | ช่องกีฬาต่างประเทศ ใช้เวลาติดตั้งแค่ 2 ชม 

สคริปเว็บหนังอย่างเดียวราคา 7,999 บาท/จ่ายครั้งเดียวไม่ล็อคโค๊ด สามารถนำไป Custom ได้ ตัวอย่างสินค้า

**เว็บหนัง Movie2free**
DEMO URL   
https://movie-1.iamtheme.com/ 
Admin Dashboard   https://movie-1.iamtheme.com/admin/login 
Username   admin
Password   123456789 

**เว็บหนัง iPay**
DEMO URL   https://movie-2.iamtheme.com/ 
Admin Dashboard   https://movie-2.iamtheme.com/admin/login 
Username   admin
Password   123456789 
**เว็บอนิเมะ**DEMO URL 
https://anime-demo.iamtheme.com/ 
Admin Dashboard   https://anime-demo.iamtheme.com/admin/login 
Username   admin
Password   123456789
 **เว็บผล.สด**
DEMO URL   https://live-demo.iamtheme.com/  
Admin Dashboard   https://live-demo.iamtheme.com/admin/login 
Username   admin
Password   123456789

ติดต่อทางไลน์เพิ่มเติมได้ครับ
@iamtheme.th 
https://iamtheme.com/ 
ดูเครดิตซื้อขาย 
#2388
กิจการร่วมค้า CK-STEC เซ็น 2 สัญญารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้กว่า 3.5 หมื่นลบ.

บมจ.ช.การช่าง (CK) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำสัญญากิจการร่วมค้ากับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) โดยใช้ชื่อว่ากิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-พีแอล มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าร่วมการประกวดราคาตามประกาศและข้อกำหนดการประกวดราคาสำหรับงานโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โดยมีสัดส่วนการร่วมลงทุน ได้แก่ CK 55% และ STEC 45 %

ทั้งนี้ กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-พีแอล ได้ลงนามเป็นผู้รับจ้างในสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. สัญญาที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน (ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ) วันลงนามสัญญา 11 มี.ค.65 มูลค่าสัญญาทั้งสิ้น 19,430,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาแล้วเสร็จ ประมาณ 2,005 วัน นับจากวันแจ้งให้เริ่มงาน

2. สัญญาที่ 2 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน (ช่วงหอสมุดแห่งชาติ-ผ่านฟ้า) วันลงนามสัญญา 11 มี.ค.65 มูลค่าสัญญาทั้งสิ้น 15,878,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาแล้วเสร็จ ประมาณ 2,005 วัน นับจากวันแจ้งให้เริ่มงาน
#2389
QYou 8เป็นกลุ่ม 8 สมุนไพรที่ดูแลเรื่องเลือดได้ชัดเจนขึ้นเพิ่มความเข้มข้นของสารสกัดเปลือกสนเมอร์ไทด์เพิ่มโสมซานชี สุดยอดของโสมที่ดูแลเรื่องระบบเลือดและ เพิ่มสูตร เก๋ากี้ พุทราจีนและขิง ซึ่งเป็นสามประสานในการปกป้องหลอดเลือดป้องกันหลอดเลือด แตก ตีบ ตันและช่วยลดภาวะการเกิดซีสต์ในที่ต่างๆ ได้ ช่วยลดอาการปวดหลังปวดท้องระหว่างมีรอบเดือนได้ มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เพิ่มขึ้น ช่วยลดขยะและของเสียไขมัน ที่อยู่ในหลอดเลือดให้น้อยลง ช่วยเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ลดอาการชาปลายมือปลายเท้าอันเนื่องมาจากเลือดใหลเวียนได้น้อยให้อาการดีขึ้นราคากล่องละ 990 บาท ราคาสมาชิก 500 บาทสนใจสมัครตัวแทนได้ที่ลิงค์ด้านล่างhttps://www.qyousatta.com/?ref=62สั่งซื้อสินค้าได้ที่ LINE : ttps://line.me/ti/p/Upkd4c7jzG

#2390
อาหารเสริม เพื่อสุขภาพ  BLB Balance Brand มีหลายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผู้ชาย ผู้หญิง 
รายละเอียดเพิ่มเติมBLB Balance
#2391
เตรียมเรื่องเงินให้พร้อม ก่อนออกรถใหม่ที่มอเตอร์โชว์
 
งานมอเตอร์โชว์กำลังจะกลับมาอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ถือเป็นหนึ่งอีเวนต์ใหญ่ประจำปีที่คนรักรถเฝ้ารอ โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหารถในฝันคันใหม่และต้องการจะจับจองเป็นเจ้าของ แต่นอกเหนือไปจากการติดตามข้อมูลเรื่องยี่ห้อและรุ่นรถที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การวางแผนเรื่องการเงินและสินเชื่อ "กรุงศรี ออโต้" ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จึงขอแนะนำเคล็ดลับในการเตรียมตัว เพื่อให้สามารถเลือกซื้อรถคันใหม่ได้อย่างมั่นใจ

ประเมินความสามารถในการชำระเงินของตนเอง
รถถือเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูงที่จะอยู่กับเราไปอีกหลายปี เช่นเดียวกับภาระในการผ่อนชำระ หากเลือกที่จะใช้บริการสินเชื่อ ดังนั้น คำถามแรกที่ต้องตอบตนเองให้ได้คือ เรามีรายได้เท่าไรในแต่ละเดือน และเมื่อหักค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ รวมถึงภาระหนี้สินที่มีอยู่แล้ว เหลือเงินที่จะผ่อนรถอีกเท่าใด หากตอบคำถามดังกล่าวได้ เราจะพอรู้ว่า ควรเลือกซื้อรถในราคาระดับไหนที่เหมาะสมกับศักยภาพทางการเงินของตนเอง ซึ่งความสามารถในการชำระเงินนี้จะเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการสินเชื่อพิจารณาในการอนุมัติสินเชื่อรถของเรานั่นเอง
เช็กวงเงินประเมินสินเชื่อเบื้องต้น
สำหรับใครที่ลองคำนวณความสามารถในการชำระเงินคร่าวๆ แล้ว แต่ยังรู้สึกไม่แน่ใจ ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์บางรายมีบริการเช็กวงเงินประเมินเบื้องต้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจว่ามีความพร้อมในการเลือกซื้อรถ เพียงตอบคำถามส่วนตัวตามความเป็นจริง เช่น รายได้ต่อเดือน อายุงาน สินเชื่อที่เคยใช้บริการ เป็นต้น ก็จะทราบถึงวงเงินประเมินสินเชื่อที่แม่นยำพอสมควรเลยทีเดียว
วางแผนการผ่อนชำระสินเชื่อ
เมื่อทราบความสามารถในการซื้อรถของตนเอง อีกขั้นตอนหนึ่งที่จะช่วยเสริมความมั่นใจก่อนออกรถได้ คือ การวางแผนค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งจะแปรผันตามการวางเงินดาวน์ จำนวนงวดผ่อน และอัตราดอกเบี้ย โดยสามารถดูจากรายละเอียดที่มาพร้อมกับวงเงินประเมินเบื้องต้น หรือหากใครที่ไม่ได้ใช้บริการดังกล่าว แต่มีแบรนด์และรุ่นรถในใจแล้ว สามารถใช้เครื่องคำนวณค่างวด และดูตารางการผ่อน ซึ่งมักมีอยู่บนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์แต่ละรายได้เช่นกัน
เช็กโปรค่ายรถและไฟแนนซ์
มอเตอร์โชว์เป็นช่วงเวลาแห่งความคุ้มค่าสำหรับคนอยากออกรถใหม่ เพราะค่ายรถมักจัดเต็มโปรโมชันและของแถมต่างๆ ในขณะที่ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ก็เตรียมแคมเปญเพื่อรองรับอีเวนต์นี้ด้วย ตั้งแต่อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ระยะเวลาผ่อนชำระ ไปจนถึงของสมนาคุณ ที่หาไม่ได้จากแหล่งอื่น ดังนั้น ควรหาข้อมูลให้ดี เพื่อจะได้ไม่พลาดดีลสุดพิเศษจากงาน
ดาวน์โหลดแอปฯ ให้พร้อม เอกสารไม่ต้อง
ปัจจุบัน ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์บางรายมีบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล (Digital Auto Lending) ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมยืนยันตัวตนผ่าน National Digital ID (NDID) เช็กข้อมูลเครดิตบูโร และสามารถเตรียมเซ็นสัญญาได้เลยภายในงาน โดยไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม
ผู้ใช้รถทุกคนล้วนมีความต้องการและข้อจำกัดทางการเงินที่ต่างกันไป ดังนั้น ผู้ขอสินเชื่อจึงควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำในเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้เราได้ทั้งรถในฝัน และผ่อนชำระได้อย่างสบายใจในระยะยาว
 
#2392
บัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้ จัดหนักมหกรรมคุ้มตัวท็อป 'Shopee 3.15 Consumer Day คืนกำไรให้นักช้อป' 15 มี.ค. 65 วันเดียวเท่านั้น
 
บัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้ ย้ำคอนเซปต์ 'คุ้มตัวท็อป' จัดโปรโมชันหนัก ๆ ในวันที่ 15 มี.ค. 65 วันเดียวเท่านั้น รับโค้ดส่วนลดสูงสุด 4,000 บาท โดยจะปล่อยสิทธิ์ทั้งหมด 2 ช่วงเวลา เที่ยงคืนและเที่ยงวัน แถมรับจุก ๆ คะแนนสะสม K Point สูงสุด x10 ที่ Shopee

ช้อปครบ 8,000 บาท รับส่วนลด 1,550 บาท (จำกัด 346 โค้ด) โค้ดส่วนลด 315KBKSP1550
ช้อปครบ 20,000 บาท รับส่วนลด 4,000 บาท (จำกัด 50 โค้ด) โค้ดส่วนลด 315KBKSP4000
พิเศษสุด ต้อนรับลูกค้าใหม่ที่สมัครบัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้ รับคะแนนสะสม K Point สูงสุด 14,000 คะแนน โดยสามารถนำไปแลกเป็นโค้ดส่วนลด Shopee ได้รวมมูลค่าสูงสุดถึง 2,100 บาท หรือใช้แลกได้อย่างหลากหลายผ่านแอป K+ อาทิ เติม Wallet, ชำระบิล, แลกซื้อสินค้าใน K+ Market, หรือแลกรับเครดิตเงินคืนได้อีกด้วย เพียงสมัครบัตรและใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรที่แอปฯ Shopee ครบ 500 - 4,999 บาท ภายใน 30 วัน รับ K Point 1,000 คะแนน หรือ ใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรที่แอปฯ Shopee ครบตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ภายใน 30 วัน รับ K Point 5,000 คะแนน และพิเศษเมื่อใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรที่แอปฯ Shopee และร้านค้าออนไลน์อื่น ๆ ครบ 50,000 บาท ภายใน 90 วัน รับ K Point เพิ่มอีก 9,000 คะแนน สมัครเลย ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2565 - 15 กรกฎาคม 2565

สมัคร 'บัตรเครดิตกสิกรไทย-ช้อปปี้' ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ผ่าน K PLUS หรือ กดสมัครผ่านเว็บไซต์ https://kbank .co/3IUQxo2 และธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารและช้อปปี้กำหนด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปฯ Shopee หรือเว็บไซต์ของธนาคาร หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ K-Contact Center โทร.02-8888888
#2393
5 เหตุผล Slip Sheet ตอบโจทย์ต่อ การขนส่งมากกว่า

สำหรับงานอุตสาหกรรม พาเลท เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการขนส่ง โดยหน้าที่ของพาเลทมีไว้เพื่อรองกล่องสินค้า แต่ด้วยพาเลทต้องใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง คงทน จึงมีความหนาที่ทำให้เปลืองเนื้อที่ ทำให้บริษัทขนส่งสินค้าหลายแห่งจึงเปลี่ยนมาใช้ สลิปชีท แทน โดยสาเหตุที่หลายแห่งใช้ Slip Sheet มีเหตุผลดังนี้

Slip Sheet มีขนาดกะทัดรัด ด้วย สลิปชีท มีความบางมากกว่าจึงช่วยประหยัดพื้นที่ในการขนส่งสินค้าได้มากกว่า โดยในปัจจุบัน สลิปชีท มีให้เลือก 2 ประเภท คือ Slip Sheet แบบกระดาษและ Slip Sheet แบบพลาสติก การเลือกใช้ Slip Sheet แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่แตกต่างกัน 
ช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง เนื่องจาก Slip Sheet มีราคาที่ไม่สูง จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถนำเงินส่วนที่ประหยัดได้นี้ไปพัฒนาสินค้าต่อไปได้
ช่วยลดโลกร้อน ด้วย Slip Sheet แบบกระดาษ ผลิตจากต้นไม้ จึงทำให้สามารถนำ Slip Sheet กลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดโลกร้อนได้ดีกว่า
สะดวกในการเคลื่อนย้าย Slip Sheet มีขอบให้เลือกถึง 3 แบบ คือ แบบขอบหนึ่งด้าน, แบบขอบสองด้าน และแบบขอบสี่ด้าน โดยขอบของ Slip Sheet มีหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวหนีบเวลาเคลื่อนย้ายสินค้า
สามารถออกแบบใหม่ได้ สลิปชีท เป็นแผ่นรองที่สามารถออกแบบขนาดใหม่เพื่อให้เหมาะกับขนาดของสินค้า จึงทำให้สะดวกต่อการขนส่งสินค้าที่มีขนาดหรือรูปทรงเฉพาะได้ดีกว่า
ด้วยเหตุผลทั้ง 5 ประการจึงทำให้ Slip Sheet เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมใช้ในงานขนส่งสินค้า

Tags :: Slip Sheet,slipsheet,สลิปชีท






#2394
ธนาคารโลกเตือนเงินเฟ้อจากสงครามยูเครนอาจจุดชนวนประท้วง-เหตุจลาจล

นางคาร์เมน ไรน์ฮาร์ต หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกออกโรงเตือนว่า ราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงขึ้นจากผลพวงของการรุกรานยูเครนของรัสเซียอาจเพิ่มความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารในตะวันออกกลางและแอฟริกาและอาจกระตุ้นให้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบเพิ่มมากขึ้น

"ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่ความไม่มั่นคงทางอาหารถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ประชาชนลุกฮือจนกลายเป็นการประท้วงแบบเหตุการณ์อาหรับ สปริง (Arab Spring)" นางไรน์ฮาร์ตกล่าว พร้อมเสริมว่า เกิดการรัฐประหารทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ เพิ่มมากขึ้นตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อาหรับ สปริงคือการประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยและการก่อปฏิวัติที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือตั้งแต่ปี 2553 โดยเปิดฉากขึ้นในประเทศตูนิเซีย ก่อนจะลุกลามไปยังอีก 5 ประเทศ ได้แก่ ลิเบีย, อียิปต์, เยเมน, ซีเรียและบาห์เรน

ราคาอาหารที่พุ่งขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนสามารถนำไปสู่สถานการณ์ความไม่สงบในสังคมเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2550 ? 2551 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาอาหารแพงขึ้นทั่วโลกจนนำไปสู่เหตุจลาจลในกว่า 40 ประเทศ

ทั้งนี้ เยอรมนีจะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีเกษตรของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติหรือ G7 ผ่านทางระบบออนไลน์ในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.นี้ เพื่อหารือถึงผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก และวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างเสถียรภาพในตลาดอาหาร
#2395
ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.99 กลับมาแข็งค่าตามภูมิภาค จับตาประชุม ECB-ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาคที่แข็งค่าเช่น กัน เนื่องจากตลาดมีการเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ออกมาหนุนให้โอเปคเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน มากขึ้น ซึ่งทำให้ตลาดเริ่มคลายกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.0 - 33.15 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ยังต้องติดตามการ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐ รวมทั้งผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)

THAI BAHT FIX 3M (9 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.57355% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.63977%

ปัจจัยสำคัญ
เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.05 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 115.82 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1042 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0983 ดอลลาร์/ยูโร
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.180 บาท/ดอลลาร์
ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจ กรุงศรี-กรุงไทย จับตาภาวะน้ำมันแพงเว่อร์ กดดันเงินเฟ้อถีบตัว ไทยเริ่มเสี่ยง
Stagflation คาดดอกเบี้ยนโยบายไม่ปรับขึ้น ตรึง 0.50% ตลอดทั้งปี
หอการค้าฯ หวั่นสงคราม "รัสเซีย-ยูเครน" กระทบหนัก เผยต้องมีแผนรองรับวิกฤตพลังงาน ด้านทองคำแท่งในประเทศ
พุ่งกระฉูด ชี้ระหว่างวันขายออกแตะ 32,100 บาท
ศึกรัสเซีย-ยูเครนพ่นพิษหนัก ราคาน้ำมันพุ่งกระทบทั่วโลก "บิ๊กตู่" ตั้งวงถก กพช.รับมือ ยันตรึงดีเซล 30 บาทจนถึงที่สุด
ปลดล็อกเพดานกู้เงินอัดฉีดกองทุนน้ำมัน พลังงานอุบไต๋ให้ลุ้นฟังมาตรการ 11 มี.ค. พาณิชย์ตั้งวอร์รูมสั่งห้ามขึ้นราคาอาหารสด-สินค้าจำ
เป็น 18 หมวด
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ปัญหาการสู้รบของรัสเซียและยูเครน จะส่งผลต่อเป้าจำนวน
นักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้ในไตรมาส 1 ที่ไม่เป็นไปตามแผนแน่นอน คาดว่าจะลดลง 30-40% จากที่ตั้งไว้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ
338,645 คน สร้างรายได้ 26,065 ล้านบาท เพราะนอกจากการลดลงของนักท่องเที่ยวรัสเซีย คงจะกระทบต่อการเดินทางของนักท่อง
เที่ยวยุโรป แต่ยังหวังว่าจากการหยุดเดินทางช่วง 2 ปีที่มีโควิด-19 จะทำให้ชาวยุโรปยังอยากเดินทางท่องเที่ยว ส่วนราคาน้ำมันก็จะ
กระทบต้นทุนการเดินทางเช่นกัน
"คลัง" นัด ก.ค.-ส.ค. 2565 ดีเดย์เปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ชูดึงเทคโนโลยีเสริมแกร่ง เชื่อมโยงข้อมูลตรวจ
สอบถี่ยิบ โวคัดกรองสุดเข้มข้น ฟุ้งคนละครึ่งเฟส 4 ยอดใช้จ่ายสะพัด 5.23 หมื่นล้านบาท
เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมกพอ. ได้สั่งการให้
โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลักทั้ง 4 โครงการ คือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 ท่า
เรือแหลมฉบังเฟส 3 และสนามบินอู่ตะเภา ที่ได้เซ็นสัญญากับเอกชนร่วมทุนแล้ว เดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะเกิดปัญหาระหว่างทางบ้างก็ตาม
แต่ต้องแก้ไขโดยให้ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นให้ได้ ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่เริ่มเข้าสู่การก่อ
สร้างแล้ว
สธ.เคาะแผน 4 ระยะประกาศโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น 1 ก.ค.นี้ เร่งเดินเครื่องลดตัวเลขยอดติดโควิด-เสียชีวิต คาด
ปลายเดือน มิ.ย.เหลือป่วย 1-2 พันคน/วัน พร้อมปรับแก้ กม. 9 ฉบับรองรับการรักษาที่เหมาะสม
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนและกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความหวังที่ว่าสงครามใน
ยูเครนใกล้ยุติลง หลังจากมีข่าวว่ายูเครนได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง
นั้น กำลังมีความคืบหน้า พร้อมกับยืนยันว่ารัสเซียไม่มีความประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน และไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน
สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน
(JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 185,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 11.263 ล้าน
ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อทียบกับสกุลต่าง ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (9 มี.ค.)
เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงเช่นยูโรและปอนด์ หลังคลายความวิตกกังวล
เกี่ยวกับสงครามยูเครน
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 50 ดอลลาร์ในวันพุธ (9 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะ
สินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า ซึ่งอาจจะปูทางให้สงครามในยูเครนยุติลง
นักลงทุนจับตาธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และการเปิดเผยตัวเลขดัชนี
ราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่ง

เป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้
#2396
บิตคอยน์พุ่งทะลุ $42,000 นักลงทุนคลายกังวลสหรัฐคุมเข้มคริปโทฯ

บิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 42,000 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลต่อการที่สหรัฐจะออกมาตรการคุมเข้มการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยแนวทางที่รัฐบาลจะเข้าดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

ณ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์พุ่งขึ้น 9.54% สู่ระดับ 42,229.50 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase

นางเยลเลนกล่าวชื่นชมทำเนียบขาวที่เตรียมออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดให้หน่วยงานของรัฐบาลเร่งทำการศึกษาข้อดีและข้อเสียของการใช้คริปโทเคอร์เรนซี

นางเยลเลนระบุว่า คำสั่งดังกล่าวระบุถึงประโยชน์ด้านนวัตกรรมของคริปโทฯ รวมทั้งการรับมือกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย, การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน และการป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐจะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อรวบรวมรายงานเกี่ยวกับระบบการเงินและการชำระเงินในอนาคต รวมทั้งจะจัดการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการกำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (FSOC) เพื่อประเมินความเสี่ยงที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงิน และประเมินว่าควรใช้มาตรการป้องกันหรือไม่ นอกจากนี้ ทางกระทรวงจะร่วมมือกับพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการเพิ่มมาตรฐานและยกระดับตลาดการลงทุนในสกุลเงินคริปโทฯ

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับความคิดเห็นของสาธารณชนเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโทฯ จนถึงวันที่ 20 พ.ค. หลังจากที่เฟดได้ออกรายงานการศึกษาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC)

 
#2397
สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยลดความเสี่ยงโรครูมาตอยด์ได้
ผู้ที่ป่วยเป็นรูมาตอยด์หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จะต้องเผชิญกับอาการปวดบวมตามข้อมือ ข้อศอก ข้อเท้า และเข่า รวมทั้งคอได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผิวหนัง ดวงตา อวัยวะภายใน เช่น ปวด หัวใจ ไต ได้อีกด้วย 
•สาเหตุของโรครูมาตอยด์ ไม่แน่ชัด
ปัจจุบันยังไม่รู้สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรค แต่พบว่าเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง บางรายที่มีอาการภูมิคุ้มกันในร่างกายทำลายตัวเอง จะทำให้เกิดการติดเชื้อโรคได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดบวม อักเสบตามร่างกาย 
•ลดความเสี่ยงของโรครูมาตอยด์ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
เราสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรครูมาตอยด์ได้ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง เริ่มจาก
1.ออกกำลังกาย เพื่อช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงตามข้อมือ ข้อศอก และทุกส่วนในร่างกาย 
2.ไม่ยกของหนัก ไม่กระโดด หรือนั่งพับเพียบ เพื่อลดการทำลายข้อ 
3.ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป เพื่อลดการรับน้ำหนักของข้อเข่า ข้อเท้า 
นอกจากนี้ ยิ่งเราเสริมการดูแลด้วย Balance U Core เป็นประจำทุกวัน ยิ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้แน่นอน
BALANCE U Core (BLU)
จดทะเบียนในชื่อ ยูคอร์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม)
UCore (SOFT GEL DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT)
เลขที่ อย. 13-1-07458-5-0233
ขนาดบรรจุ 30 แคปซูล
ปกติ 1,290 บาท
ราคาพิเศษเพียง 990 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ!
2กระปุก แถม1 กระปุก 
ส่งฟรีเคอรี่ มีบริการเก็บเงินปลายทาง
**ของแท้จากบริษัทโดยตรง**
สอบถาม LINE: @balances
U Core ของแท้
เพจ Balance UCore
#2398
บอร์ดกพอ.ไฟเขียวจัดงาน Thailand International Air Show คาดสร้างรายได้กว่า 8 พันลบ.

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า ที่ประชุม กพอ. พิจารณาให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับกองทัพเรือ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย (Thailand International Air Show) ในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อแสดงศักยภาพและความพร้อมธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยาน และจะส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค

อีกทั้งทำให้เกิดแรงจูงใจกับนักลงทุน และเชื่อมโยงนักธุรกิจในอุตสาหกรรมการบินระดับโลกเข้ามาลงทุนในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก เกิดการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจร่วมกัน จุดนี้ถือเป็นกำลังสำคัญที่จะเสริมแกร่งการลงทุนเข้าสู่ในพื้นที่ EEC ตามเป้าหมายเม็ดเงินลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี

การจัดงานฯ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 68 สอดคล้องกับระยะเวลาเปิดบริการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานรวมประมาณ 5,425 คน และการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบในปี 70 จะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 36,300 คน มีผู้เข้าแสดงงานประมาณ 1,240 ราย

ทั้งนี้ การดำเนินงานภายใต้โครงการฯ จะมีการจัดงานที่เกี่ยวข้องทั้งงานใหม่และงานที่จัดต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปี 66-70 จำนวน 28 งาน ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าทางเศรษฐกิจของงาน Thailand International Air Show ทั้งหมด จะสามารถสร้างรายได้รวมให้แก่ประเทศมากถึงประมาณ 8,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุม กพอ. รับทราบโครงการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนและผู้ค้ารายย่อยใน EEC นำเทคโนโลยีมาส่งเสริมสินค้าโอทอป (OTOP) เพิ่มศักยภาพการขยายช่องทางจำหน่ายให้ตรงตามความต้องการของตลาด อีกทั้งช่วยหาแหล่งเงินทุนให้ผู้ค้ารายย่อย ชุมชน พร้อมตั้งกลุ่มเป้าหมายและสินค้าที่นิยมในพื้นที่นำร่องอย่างน้อย 10 ชุมชน ได้แก่จังหวัดระยอง เช่น ทุเรียนทอดกรอบ เครื่องเงิน จังหวัดชลบุรี เช่น พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ข้าวกล้อง สบู่เปลือกมังคุด จังหวัดฉะเชิงเทรา เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ หมูแท่งอบกรอบ เป็นต้น

โดยมีแนวทางดำเนินการ 2 รูปแบบ ได้แก่ ตั้งบรรษัทวิสาหกิจชุมชน (EEC EnterPrise) เช่น การลงทุนร่วมระหว่าง สกพอ. สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน เอกชน ทำหน้าที่วางแผนการผลิต การตลาด ส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และศูนย์พัฒนาธุรกิจชุมชน (EEC Incubation Center) ทำหน้าที่ ศึกษาวิจัย พัฒนาสินค้าชุมชนให้มีคุณภาพในระดับมาตรฐาน มีรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ รวมทั้งฝึกอบรมบุคลากรให้ทำงานร่วมกับนวัตกรรมใหม่

ทั้งนี้ คาดว่าโครงการฯ จะเริ่มดำเนินการได้ภายในตุลาคม 65 นี้ ประโยชน์ที่ได้รับคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าชุมชนไม่ต่ำกว่า 30% รายได้รวม (GDP) ระดับชุมชนประมาณ 20% และเศรษฐกิจชุมชนเพิ่มขึ้นประมาณ 20% นอกจากนี้ ทำให้ผู้ซื้อสินค้า ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว ได้ใช้สินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพ เกิดแรงจูงใจกลับมาเที่ยวซ้ำ ทำให้ชุมชนคนพื้นที่ EEC เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง
#2399
ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 2/2565 การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2565


โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ กพอ. เป็นประธาน ประชุมผ่าน
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ได้รับทราบ และพิจารณาความก้าวหน้า การดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

1. ยกระดับสินค้าโอทอป นำนวัตกรรมพัฒนาสินค้า ขายตรงความต้องการตลาด เพิ่มรายได้ชุมชนในพื้นที่ อีอีซี

ที่ประชุม กพอ. รับทราบ โครงการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนและผู้ค้ารายย่อยในอีอีซี นำเทคโนโลยี มาส่งเสริมสินค้าโอทอป (OTOP) เพิ่มศักยภาพการขยายช่องทางจำหน่ายให้ตรงตามความต้องการของตลาด อีกทั้ง ช่วยหาแหล่งเงินทุนให้ผู้ค้ารายย่อย ชุมชน พร้อมตั้งกลุ่มเป้าหมายและสินค้าที่นิยมในพื้นที่นำร่อง อย่างน้อย 10 ชุมชน ได้แก่

จังหวัดระยอง เช่น ทุเรียนทอดกรอบ เครื่องเงิน จังหวัดชลบุรี เช่น พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ข้าวกล้อง สบู่เปลือกมังคุด จังหวัดฉะเชิงเทรา เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ หมูแท่งอบกรอบ เป็นต้น โดยมีแนวทางดำเนินการ 2 รูปแบบ ได้แก่ ตั้งบรรษัทวิสาหกิจชุมชน (EEC EnterPrise) เช่น การลงทุนร่วมระหว่าง สกพอ. สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน เอกชน ทำหน้าที่ วางแผนการผลิต การตลาดส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง และศูนย์พัฒนาธุรกิจชุมชน (EEC Incubation Center) ทำหน้าที่ ศึกษาวิจัย พัฒนาสินค้าชุมชนให้มีคุณภาพ ในระดับมาตรฐานมีรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ รวมทั้งฝึกอบรมบุคลากรให้ทำงานร่วมกับนวัตกรรมใหม่ โดยคาดว่าโครงการฯ จะเริ่มดำเนินการได้ภายในตุลาคม 2565 นี้

ประโยชน์ที่ได้รับ สามารถเพิ่มยอดขายสินค้าชุมชนไม่ต่ำกว่า 30% รายได้รวม (GDP) ระดับชุมชนประมาณ 20% และเศรษฐกิจชุมชนเพิ่มขึ้นประมาณ 20% นอกจากนี้ ทำให้ผู้ซื้อสินค้า ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยว ได้ใช้สินค้าและบริการที่ดี
มีคุณภาพ เกิดแรงจูงใจกลับมาเที่ยวซ้ำ ทำให้ชุมชนคนพื้นที่ อีอีซี เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ มีรายได้ดีมั่นคง

2. สิทธิประโยชน์อีอีซี ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ก้าวสำคัญดึงลงทุนสู่พื้นที่ อีอีซี

ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการอีอีซี โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ครม. มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกิจการพิเศษ ซึ่งเป็นการกำหนดสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมพิเศษ รวม 7 เขต ได้แก่ เมืองการบิน ภาคตะวันออก (EECa) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันอออก (EECi) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เขตส่งเสริมรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (EECh) ศูนย์นวัตกรรมการแพทยครบวงจรธรรมศาสตร์ (พัทยา) การแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (บางแสน) และศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นสูงบ้านฉาง

โดยเริ่มนำร่องที่เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) เป็นพื้นที่ต้นแบบ (Sandbox) ให้สิทธิประโยชน์ อีอีซี แก่นักลงทุน ก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี โดยร่างประกาศสิทธิประโยชน์ฯ มีหลักการที่สำคัญคือ การสร้างนวัตกรรมการให้บริการสนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐ เน้นการออกแบบสิทธิประโยชน์ตรงตามความต้องการของนักลงทุน โดยการเจรจาให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนแต่ละราย ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพ ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ หุ่นยนต์ โลจิสติกส์ การแพทย์สมัยใหม่ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมกลุ่ม BCG ที่ลงทุนใน 7 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษฯ ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์อีอีซี เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้เกิดการลงทุนที่คล่องตัว เพื่อจูงใจนักลงทุนรายใหญ่เข้าสู่พื้นที่ อีอีซี ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเงินลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ได้ตามเป้าหมายของอีอีซี

3. เตรียมงานระดับโลก International Air Show โชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมการบิน จูงใจการลงทุนสู่พื้นที่ อีอีซี

ที่ประชุม กพอ. พิจารณาให้ สกพอ. ร่วมกับ กองทัพเรือ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) หรือ สสปน. จัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย (Thailand International Air Show) ในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อแสดงศักยภาพและความพร้อมธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยาน และจะส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค อีกทั้งทำให้เกิดแรงจูงใจกับนักลงทุนและเชื่อมโยงนักธุรกิจในอุตสาหกรรมการบินระดับโลกเข้ามาลงทุนในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก เกิดการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจร่วมกันจุดนี้ถือเป็นกำลังสำคัญ เสริมแกร่งการลงทุนเข้าสู่ในพื้นที่ อีอีซี ตามเป้าหมายเม็ดเงินลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี

การจัดงานฯ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2568 สอดคล้องกับระยะเวลาเปิดบริการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานรวมประมาณ 5,425 คน และการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2570 จะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 36,300 คน มีผู้เข้าแสดงงานประมาณ 1,240 ราย ทั้งนี้ การดำเนินงานภายใต้โครงการฯ จะมีการจัดงานที่เกี่ยวข้องทั้งงานใหม่และงานที่จัดต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปี 2566 - 2570 จำนวน 28 งานในพื้นที่ อีอีซี ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าทางเศรษฐกิจของงาน Thailand International Air Show ทั้งหมด จะสามารถสร้างรายได้รวมให้แก่ประเทศ มากถึงประมาณ 8,200 ล้านบาท
#2400
บอร์ด TQM ไฟเขียว เสนอผู้ถือหุ้นเข้าซื้อ TQR ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท เผยหลังปิดดีล TQM ถือหุ้นรวม 44.43%

บอร์ดบมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น หรือ TQM เตรียมเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติเข้าซื้อหุ้น TQR จากผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มพรรณนิภา เผยเข้าลงทุนในหุ้น 102 ล้านหุ้น ของหุ้น TQR ทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 5.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 520.20 ล้านบาท ระบุภายหลังดำเนินการแล้วเสร็จจะทำกลยุทธ์ร่วมกันเพื่อขยายธุรกิจ โดย TQR เป็นธุรกิจนายหน้ารับประกันภัยต่อที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงได้ดี ขณะที่ TQM มีฐานข้อมูลและความเข้าใจผู้บริโภคในตลาดเป็นอย่างดี มั่นใจจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ ที่ตรงความต้องการของลูกค้าและช่วยบริหารความเสี่ยงภัยได้เป็นอย่างดี นับเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมพร้อมยกระดับการให้บริการในธุรกิจนายหน้าประกันภัยอย่างครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย 

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าลงทุนในหุ้นของ บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR จำนวน 102 ล้านหุ้น หรือ 44.35% ของหุ้น TQR ทั้งหมดในราคาหุ้นละ 5.10 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 520.20 ล้านบาท ทั้งนี้ หลังเข้าซื้อแล้วทำให้ TQM ถือหุ้นรวม 44.43% โดยการเข้าถือหุ้นเพิ่มในครั้งนี้ส่งผลให้ TQM มีจำนวนหุ้นเกินกว่า 25% จึงต้องดำเนินการเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของ TQR (Tender offer) ที่ราคาหุ้นละ 5.10 บาท ภายในวงเงินประมาณ 651.83 ล้านบาท

"การที่ TQM เข้าซื้อหุ้นของ TQR ในครั้งนี้ นับเป็นการเข้าลงทุนในธุรกิจที่ให้การสนับสนุนระหว่างกัน เป็นการขยายธุรกิจและกระจายการลงทุน ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ระยะยาวของ TQM ที่ต้องการพัฒนาและยกระดับให้เป็นกลุ่มบริษัทนายหน้าประกันภัยที่สร้างมูลค่าให้กับลูกค้าและคู่ค้า ด้วยการนำเสนอบริการแบบครบวงจรที่สุดในประเทศไทย"

ด้านนายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ TQM จะมาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และมั่นใจว่าทั้ง 2 บริษัทจะสร้างประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ส่งผลดีทั้งแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้นในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม TQR เป็นบริษัทนายหน้ารับประกันภัยต่อที่มีศักยภาพสูง ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง รายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา TQR มีรายได้ที่ 256 ล้านบาท และกำไร 97 ล้านบาท

ทั้งนี้ TQM จะเข้าซื้อหุ้นหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2565 (AGM) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2565 คาดว่าจะเข้าทำรายการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2565 นี้