• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#2281
รัฐบาล รุกแก้ปัญหาหนี้ กยศ. ดึงลูกหนี้ผิดนัดไกล่เกลี่ยก่อนถูกฟ้อง

นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีนโยบายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งกลุ่มผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องให้ความช่วยเหลือ

ล่าสุด กยศ. ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเชิงรุก โดยการร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ในการเชิญผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ที่ถูกบอกเลิกสัญญาและกำลังจะถูกฟ้อง ประจำปี 2563 และประจำปี 2564 จำนวน 170,000 ราย เข้ามาไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนฟ้อง ภายในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นทั้งหมด 12 ครั้ง ในกรุงเทพฯ และภูมิภาคซึ่งขณะนี้ได้จัดไปแล้ว 3 ครั้ง ที่กรุงเทพฯและปริมณฑล, จ.นครราชสีมา และที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเหลือสัญจรอีก 9 ครั้งในภูมิภาค ดังนี้ วันที่ 1 เม.ย. ที่ จ.นครศรีธรรมราช, วันที่ 28 เม.ย. ที่ จ.เชียงใหม่, วันที่ 6 พ.ค. ที่จ.สุราษฎรธานี, วันที่ 19 พ.ค. ที่จ.ระยอง, วันที่ 27 พ.ค. ที่จ.พิษณุโลก, วันที่ 10 มิ.ย. ที่ จ.อุดรธานี, วันที่ 17 มิ.ย. ที่จ.ราชบุรี และ วันที่24 มิ.ย. ที่จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับการไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนฟ้องคดีนี้เป็นกรณีการใช้กลไกของพ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 เข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ถูกดำเนินคดีและเข้าสู่กระบวนการศาล โดยผู้เข้าร่วมจะได้ส่วนลดเบี้ยปรับ ได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี ขณะที่ผู้ค้ำประกันก็มีโอกาสได้รับการปลดภาระตามกฎหมายใหม่ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขคือ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ. .... โดยเมื่อกฎหมายมีผลบังคับแล้ว กยศ. จะสามารถปลดภาระผู้ค้ำประกันได้ หากผู้กู้มีการชำระเงินต้นมาแล้ว 25% ของเงินต้นที่ค้างชำระ

"ในการสัญจรจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศที่เหลืออีก 9 ครั้งพร้อมกับกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและกรมบังคับดคี กยศ. จะส่งหนังสือถึงผู้กู้ยืมในแต่ละจังหวัดหรือจังหวัดที่ใกล้เคียงสถานที่จัดงานให้เข้ารับการไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนถูกฟ้องร้อง" นางสาวไตรศุลี กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลของ กยศ. ณ วันที่ 28 ก.พ. 2565 พบว่า ตั้งแต่ กยศ. เปิดให้กู้ยืมตั้งแต่ปี 2539 ได้ปล่อยกู้แก่นักเรียน นักศึกษาแล้ว 6,215,161 คน ชำระหนี้แล้วเสร็จ 1,565,712 คน หรือคิดเป็น 25% ของผู้กู้ยืมทั้งหมด อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,521,858 คน หรือ 57% อยู่ระหว่างการปลอดหนี้ 1,060,259 คนหรือ 17% และเสียชีวิต/ทุพพลภาพ 67,332 คน หรือ 1%

 
#2282
HPT มั่นใจรายได้ปี 65 โตเข้าเป้า 20-30% ตุน Backlog 149 ลบ.เน้นบริหารต้นทุน
 
นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บมจ.โฮม พอตเทอรี่ (HPT) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 65 เป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 20-30% จากปีก่อนมีรายได้ 208.25 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ในกรอบ 5-10%
บริษัทมองแนวโน้มผลประกอบการจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะยังคงมีอยู่ แต่ด้วยการกระจายการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรงมากนักประชาชนจึงกลับมาเดินทางมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

ปัจจุบัน บริษัทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้า (Backlog) แล้ว 149.14 ล้านบาท แบ่งเป็นในทวีปยุโรป 67.61% ทวีปอเมริกา 18.30% ทวีปออสเตรเลีย 4.42% ทวีปเอเชีย 9.60% และในประเทศไทย 0.08% ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่บริษัทยังคงบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าต้นทุนต่อหน่วยจะปรับตัวลดลงตามคำสั่งซื้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ช่วยหนุนให้การใช้กำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังได้ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟที่ข่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้เพิ่มเติมด้วย บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกราว 30-40% ด้วยงบลงทุนราว 20 ล้านบาท ด้วยการขยายเตาเผาเพิ่มเติม เพื่อที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และ รองรับคำสั่งซื้อที่ขยายตัว หลังจากหลายๆประเทศทั่วโลกเริ่มกลับมาผ่อนคลายมาตรการต่างๆส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
#2283
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนประเมินความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ-สงคราม

หุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ โดยมีแนวโน้มว่าจะปิดตลาดปรับตัวลงรายสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนพิจารณาความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลงท่ามกลางสงครามในยูเครน

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์และเหมืองนำการปรับขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงมากที่สุด

ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 453.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด หรือ +0.05%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดตลาดวันนี้ที่ 14,332.26 จุด เพิ่มขึ้น 58.47 จุด หรือ +0.41% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดตลาดวันนี้ที่ 6,569.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.68 จุด หรือ +0.21%
#2284
'สตาร์ อัลไลแอนซ์' ชี้พาสปอร์ตวัคซีนยังขาดมาตรฐานกลาง-อนาคตอาจไม่ต้องใช้
 
สตาร์ อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรสายการบินใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า ในอนาคตนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตวัคซีนอีกต่อไป เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากขึ้นฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่ความพยายามที่จะกำหนดมาตรฐานพาสปอร์ตวัคซีนให้เป็นไปในทางเดียวกันนั้นก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศที่แตกต่างกัน

นายเจฟฟรีย์ โกห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสตาร์ อัลไลแอนซ์กล่าวให้สัมภาษณ์ในสิงคโปร์ว่า 'ไม่มีทางที่จะออกพาสปอร์ตวัคซีนให้ใช้ด้วยกันได้หมด หากมองถึงอนาคต เมื่อเราฉีดวัคซีนกันหมดแล้ว หรือครอบคลุมถึง 90% ทำไมต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีน ในเมื่อเราไปถึงจุดที่อาจไม่จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตวัคซีน'

นายโกห์กล่าวว่า ความพยายามจัดทำพาสปอร์ตวัคซีนเพื่อให้เดินทางสะดวกขึ้นนั้นเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากรัฐบาลบางประเทศไม่ยอมรับวัคซีนของบริษัทบางแห่ง นอกจากนี้ สายการบินและรัฐบาลยังใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ต่างกันหลายรูปแบบ ทำให้ยากต่อการหามาตรฐานเดียวกัน และจากการที่ภาคการท่องเที่ยวเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ความกังวลที่จะเกิดขึ้นตามมาในทันทีก็คือ ประชาชนอาจต้องใช้เวลาในการรอตรวจสอบข้อมูล เนื่องจากมีเอกสารหลายรายการที่ต้องใช้ ทำให้เพิ่มภาระงานของระบบสนามบิน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กิจกรรมการท่องเที่ยวพักผ่อนจะช่วยให้การเดินทางฟื้นตัวกลับคืนสู่ระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2562 ได้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 ขณะที่มีความเป็นไปได้ว่า การเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจอาจมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ พยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
#2285
ญี่ปุ่นจ่อฉีดบูสเตอร์โควิดเข็ม 4 หลังรัฐบาลเห็นชอบซื้อไฟเซอร์-โมเดอร์นา

ญี่ปุ่นเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 4 หลังรัฐบาลระบุว่า จะดำเนินการจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมจากบริษัทผู้ผลิตยาของสหรัฐ

คณะอนุกรรมการของกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า จะมีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ในการฉีดวัคซีนและกลุ่มที่เข้าเกณฑ์การฉีดในลำดับต่อไป

มติเห็นชอบของสมาชิกคณะฯ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นพ้องดำเนินการจัดซื้อวัคซีน 145 ล้านโดสจากไฟเซอร์และโมเดอร์นา เพื่อเตรียมสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4

นอกจากนี้ คณะฯ ยังอนุมัติให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 3 ของไฟเซอร์ในกลุ่มเด็ก อายุ 12-17 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดได้เร็วสุดในต้นเดือนเม.ย.

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในระหว่างการประชุม สมาชิกคณะฯ ยังเห็นด้วยกับข้อเสนอเพื่อเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 เพื่อยับยั้งการติดเชื้อและการเจ็บป่วยที่รุนแรง ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวคาดว่าจะใช้วัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นาในการฉีดเป็นเข็มที่ 4 โดยคาดว่าผู้ที่รับวัคซีนเข็มที่ 3 ไปแล้วจะได้รับสิทธิ์ให้ฉีดเข็ม 4 อย่างไรก็ดี กระทรวงจะยังคงศึกษาประเด็นนี้ต่อไป
#2286
ราคาน้ำมันพุ่งรับข่าวกบฏฮูตีถล่มโรงงานน้ำมันซาอุฯ WTI ทะลุ $113 เบรนท์ทะลุ $120
 
ราคาน้ำมันดิบพลิกทะยานขึ้นในวันนี้ โดยล่าสุด สัญญาล่วงหน้า WTI ทะลุระดับ 113 ดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะลุ 120 ดอลลาร์

ณ เวลา 23.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX บวก 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.09% สู่ระดับ 113.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) บวก 1.17 ดอลลาร์ หรือ 0.98% สู่ระดับ 120.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังมีรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโคในเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้มีควันไฟพวยพุ่งจำนวนมาก

สื่อรายงานว่า เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอาจเกิดจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน หลังจากที่กลุ่มดังกล่าวระบุว่าจะมีการออกแถลงการณ์ในไม่ช้าเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในซาอุดีอาระเบีย

ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากการที่สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับแผนการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย รวมทั้งรายงานที่ว่า บริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) จะกลับมาส่งออกน้ำมันบางส่วนในวันนี้

นายโบลัต อัคชูลาคอฟ รัฐมนตรีพลังงานของคาซัคสถาน กล่าวว่า CPC สามารถส่งออกน้ำมันจากโรงงานน้ำมัน 1 แห่งในวันนี้ และคาดว่าโรงงานอีก 2 แห่งที่ประสบความเสียหายจากพายุ จะต้องใช้เวลาราว 1 เดือนในการซ่อมแซม

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและพันธมิตรประสบความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งหากมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ก็จะปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด

การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านได้ดำเนินไปเป็นเวลา 11 เดือนแล้ว และนักการทูตต่างเชื่อว่าขณะนี้ถึงขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจา

ก่อนหน้านี้ อิหร่านผลิตน้ำมันเฉลี่ย 2.4 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2564 และคาดว่าจะผลิตได้ 3.8 ล้านบาร์เรล/วัน หากมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

นายจาวาด โอจิ รมว.น้ำมันอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านสามารถผลิตน้ำมันเต็มศักยภาพได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับชาติตะวันตก

ทั้งนี้ อิหร่านเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่การผลิตน้ำมันของอิหร่านได้ลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ที่ถูกสหรัฐคว่ำบาตรในปี 2561 หลังจากที่อดีตประนาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ในปี 2558

 
#2287
องค์การยายุโรปไฟเขียวใช้ยา 'เอวูเชลด์' ของแอสตร้าฯป้องกันโควิด-19

องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ประกาศเมื่อวานนี้ (24 มี.ค) เกี่ยวกับคำแนะนำให้ใช้ยา 'เอวูเชลด์' (Evusheld) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่ยุโรปกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น และอัตราการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ที่ไม่คืบหน้า

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า อัตราการติดเชื้อในยุโรปพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในเดือนนี้ ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่หยุดนิ่งอยู่ที่ระดับเหนือ 83% เพียงเล็กน้อย

ทั้งนี้ EMA แนะนำว่า ควรใช้ยาเอวูเชลด์ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยติดเชื้อโควิด-19

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยาแอนติบอดีของบริษัทอื่น ๆ เช่น รีเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอล (Regeneron Pharmaceuticals), อิไล ลิลลี่ (Eli Lilly), แกล็กโซสมิธไคลน์ (GSK) และเวียร์ ไบโอเทคโนโลยี (Vir Biotechnology) ได้รับการอนุมัติสำหรับใช้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว โดยรายงานระบุว่า ยาแอนติบอดีของรีเจเนอรอนก็สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้

ทั้งนี้ คาดว่ายาเอวูลเชลด์จะมีการนำไปใช้กับกลุ่มที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอเพื่อแบ่งเบาภาระของระบบสาธารณสุข เนื่องจากวัคซีนทั่วไปจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีและเซลล์ต้านไวรัสที่ต้องการขึ้นมาซึ่งระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแออาจไม่สามารถทำได้ ในขณะที่ยาเอวูเชลด์นั้นมีแอนติบอดีสังเคราะห์ที่สามารถคงอยู่ในร่างกายได้หลายเดือนเพื่อควบคุมไวรัสในกรณีที่ติดเชื้อ
#2288
สหรัฐเผยโควิดทำประชากรปี 64 หดตัวในเขตต่าง ๆ กว่า 73% ของประเทศ

สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐ (U.S. Census Bureau) รายงานในวันนี้ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนประชากรของสหรัฐในปี 2564 ในเขตเคาน์ตีจำนวนเกือบ 3 ใน 4 ของประเทศ หดตัวลงมากขึ้น เมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้า

ข้อมูลระบุว่า เขตเคาน์ตีต่าง ๆ ของสหรัฐกว่า 73% มีอัตราการตายมากกว่าอัตราการเกิด เทียบกับระดับ 55.5% ในปี 2563 และ 45.5% ในปี 2562

"ในปี 2564 อัตราการเกิดที่ลดลง ประชากรสูงอายุ และอัตราการตายที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้ให้ประชากรสหรัฐหดตัวลง" สำนักงานฯ ระบุ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานฯ ระบุว่า เขตลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเขตที่มีประชากรลดลงมากที่สุด โดยสูญเสียประชากร 159,621 คน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลล่าสุดนี้ยังคงเป็นไปตามแนวโน้มเดิมที่ประชากรในเขตเคาน์ตีต่าง ๆ กว่า 50% ของประเทศ หดตัวลงมาโดยตลอดในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2553

ก่อนหน้านี้ ข้อมูลของสำนักงานฯ เมื่อเดือนส.ค. 2564 ระบุว่า การเติบโตของประชากรกระจุกตัวเฉพาะในเขตมหานครเป็นส่วนใหญ่ โดยข้อมูลปี 2563-2564 พบว่า เขตมหานครราว 65% มีประชากรเพิ่มขึ้น
#2289
นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 10,239 ราย

กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์รายงานว่า นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจำนวน 10,239 รายในวันอาทิตย์ (27 มี.ค.)

ในบรรดาผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบล่าสุดนี้ มี 1,886 รายอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ ส่วนผู้ติดเชื้อที่เหลือกระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้แก่ 913 รายอยู่ในเขตไวกาโตที่อยู่ใกล้เคียง, 617 รายอยู่ในเขตเบย์ออฟเพลนตี้, 692 รายอยู่ในเดอะเลคส์ และ 1,750 รายอยู่ในแคนเทอร์เบอรี

นอกจากนี้ กระทรวงฯ กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพิ่มอีก 33 ราย

รายงานระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 848 รายที่ได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล รวมทั้ง 28 รายในห้องผู้ป่วยหนักหรือแผนกดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่นิวซีแลนด์รายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 4 ราย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดในนิวซีแลนด์รวมอยู่ที่ 596,402 รายในปัจจุบัน นับตั้งแต่เริ่มต้นของการแพร่ระบาด

ปัจจุบัน นิวซีแลนด์กลายเป็นพื้นที่สีแดงภายใต้กรอบการป้องกันโควิด-19 ของประเทศ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (25 มี.ค.) การชุมนุมในร่มจะจำกัดผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 200 คน แต่ยังไม่มีข้อจำกัดสำหรับการชุมนุมกลางแจ้ง
#2290
ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งกว่า 20 ดอลลาร์ ทะลุ $1,960 อานิสงส์แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 1,960 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และวิกฤตยูเครน

ณ เวลา 22.56 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้น 26.10 ดอลลาร์ หรือ 1.35% สู่ระดับ 1,963.40 ดอลลาร์/ออนซ์

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทองสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564

นายมิไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และเป็นผู้นำคณะเจรจาของยูเครน กล่าววานนี้ว่า การเจรจาสันติภาพกับรัสเซียกำลังเผชิญความยากลำบากอย่างมาก

"เรายังคงเจรจาผ่านระบบออนไลน์ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝ่ายยูเครนมีจุดยืนและหลักการที่ชัดเจน" นายโปโดลยักกล่าว
ทางด้านรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนในการเจรจา และระบุว่าสหรัฐกำลังพยายามทำให้รัสเซียและยูเครนอยู่ในสถานะสงครามให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่ประสบความคืบหน้าใดๆ แม้ก่อนหน้านี้มีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามในข้อตกลงหยุดยิง

นักลงทุนจับตาการประชุมฉุกเฉินขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในวันนี้เพื่อหามาตรการตอบโต้รัสเซียจากการที่ส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์เมื่อวานนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของ 3 กลุ่มในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การประชุมนาโต, การประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 และการประชุมสหภาพยุโรป (EU)

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังมีกำหนดเดินทางเยือนโปแลนด์ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงวอชิงตันในวันเสาร์
#2291
เดอะคลาสสถานพยาบาล เป็นคลินิกเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ตัดถุงใต้ตา ไร้รอยแผล
การรับรองประสิทธิภาพให้เป็นสถานพยาบาลที่ตามมาตรฐานทางการแพทย์  ตัดถุงใต้ตา ไร้รอยแผล
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เท่ากันโรงหมอโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์  ตัดถุงใต้ตา ไร้รอยแผล
จบบอร์ดเฉพาะทาง และ เสริมความงาม
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีนายแพทย์ ธีรภัทร์ ใจประสาท อาจารย์หมอ  ตัดถุงใต้ตา ไร้รอยแผล
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งใจให้บริการทุกท่านภายใต้หลักความคิดที่ว่า

"ผู้เจ็บป่วยทุกคนจะต้องได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3iCX7nzhttps://bit.ly/3iCX7nz
#2292

เดอะคลาสสถานพยาบาล เป็นคลินิกเวชศาสตร์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ตกแต่ง ที่ได้รับ ลดขนาดหน้าอก
การรับรองคุณภาพให้เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์  ลดขนาดหน้าอก
ที่มีห้องผ่าตัดขนาดใหญ่เท่ากันโรงหมอโดยกระทรวงสาธารณสุข เปิดให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยแพทย์  ลดขนาดหน้าอก
จบบอร์ดเฉพาะทาง และก็ เสริมความงาม
ด้านผิวพรรณ ภายใต้การดูแลโดย พันตรีแพทย์ ธีรภัทร์ หัวใจประสาท คุณครูหมอ  ลดขนาดหน้าอก
เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง มีความตั้งอกตั้งใจให้บริการทุกคนภายใต้หลักความนึกคิดที่ว่า

"ผู้ป่วยทุกคนจำต้องได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแบบที่เป็นคุณ"


https://bit.ly/3JHL5W1
#2293
ปธ.FETCO แนะวางแผนดันตลาดทุนโตรูปแบบใหม่,ส.ดิจิทัล เตือนสร้าง Balance กำกับ-สนับสนุน
 
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวในการเสวนา "แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. กับทิศทางเศรษฐกิจและตลาดทุนปี 65"ว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมช่วงแรกของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก จากนั้นก็ฟื้นตัวมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับตลาดทุนอื่นๆทั่วโลก เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนไทยค่อนข้างแข็งแรง ซึ่งในปี 64 มีผลกำไรรวมกันกว่า 9 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 62 ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ในส่วนของตลาดแรกพบว่าการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ถือว่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในด้านมูลค่าของการระดมทุน และการระดมทุนขนาดใหญ่สามารถทำได้โดยไม่ติดปัญหาใดๆ และในด้านตลาดรอง มูลค่าการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 90,000-100,000 ล้านบาท/วัน ถือว่าสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 4-5 ปี ในขณะเดียวกันยังได้มีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาให้นักลงทุนได้เลือกเข้าลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดทุนไทยจำเป็นต้องการวางแผนการเติบโตในรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มเติม ด้วยการเติบโตไปกับภูมิภาค และผลักดันให้ขนาดของตลาดทุนไทยสูงไปสู่ระดับ 200-300% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) จากปัจจุบันอยู่ที่ 120% ของ GDP ด้วยการใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งเงินทุนให้กับภาคธุรกิจอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถตอบโจทย์ของประเทศที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้นเพื่อสร้าง New S-curve ของประเทศ

ด้านนายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเข้าสู่ตลาดหมี (Bear Market) อย่างสมบูรณ์แล้ว โดยจะเห็นได้จากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลหลักอย่างบิทคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับ 40,000 เหรียญสหรัฐ และปริมาณการซื้อขายปรับตัวลดลง

นายศุภกฤษ์ เสนอแนะว่า หน่วยงานภาครัฐควรมีเป้าหมายและแผนงานชัดเจนต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และมีการบูรณาการให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้วัตถุประส้งค์ที่ชัดเจน หากต้องการจะนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ยังมองว่าการออกกฎเกณฑ์หรือระเบียบต่างๆมาควบคุมนั้นควรจะเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกดิจิทัล

"เวลาเราคิดว่าจะนำเรื่องอำนาจหรือการควบคุมกำกับดูแลมาที่ตัวเอง ไม่ได้มาแค่อำนาจ แต่มาพร้อมหน้าที่ และงานทั้งหมดก็มากองอยู่ที่ตัวเอง ปัญหาที่เจอคือผู้ประกอบธุรกิจโดยเฉพาะในกลุ่มดิจิทัล เวลาและตลาดสำคัญมากๆ ซึ่งกฎเกณฑ์ที่ออกมาค่อนข้างที่จะขัดกับแนวทางดำเนินธุรกิจที่แค่จะสู้กับคู่แข่งก็ยากแล้ว จะต้องมามีข้อกำหนดหรือข้อจำกัดอะไรบางอย่างจากผู้ที่ไม่ได้มีส่วนจะรับผิดชอบต้นทุนหรือกำไรของบริษัท อันนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องกลับมาคิดหรือเปล่าว่าแนวทางไหนจะสามารถทำให้เกิด Balance ของการกำกับดูแล"นายศุภกฤษฎ์ กล่าว
#2294
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กร "บ. อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม" ที่ "BBB" แนวโน้ม "Stable"

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ?BBB? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทเกิดจากองค์ประกอบระหว่างอันดับเครดิตเฉพาะ (Stand-alone Credit Profile ? SACP) ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ระดับ?bbb? และสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยหลัก (Core Subsidiary) ของ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ILINK) ตาม ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ? (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในการให้บริการวงจรสื่อสารข้อมูลผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง ตลอดจนผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ และฐานรายได้ประจำของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็ถูกลดทอนบางส่วนจากความไม่แน่นอนและความผันผวนของธุรกิจโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Project) และการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมด้วยเช่นกัน

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในการให้บริการสื่อสารข้อมูลผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง

บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรายหลักในธุรกิจวงจรสื่อสารและการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงในประเทศไทย โดยความได้เปรียบทางการแข่งขันของบริษัทมาจากการมีโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่ครอบคลุมกว้างขวาง รวมถึงคุณภาพของเครือข่ายและการให้บริการที่ดี คณะผู้บริหารและวิศวกรที่มีประสบการณ์ และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า บริษัทติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักตลอดแนวเส้นทางรถไฟและทางหลวงทั่วประเทศไทย และให้บริการเชื่อมต่อวงจรสื่อสารคุณภาพสูงแก่ลูกค้าด้วย ซึ่งจุดแข็งดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและเข้าร่วมในโครงการโทรคมนาคมของภาครัฐที่เกี่ยวเนื่องกับสายใยแก้วนำแสงหลากหลายโครงการ

ขยายฐานรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง

รายได้จากธุรกิจให้บริการโครงข่ายวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง (Data Service Business) และจากธุรกิจการให้บริการพื้นที่ศูนย์ข้อมูล (Data Center Business) ถือเป็นแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่สำคัญของบริษัท โดยรายได้จากธุรกิจทั้ง 2 ประเภทนี้คิดเป็นสัดส่วนรวม 55% ของรายได้รวมของบริษัท ทั้งนี้ รายได้ประจำของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวมาอยู่ที่ระดับ 1.4 พันล้านบาทในปี 2564 จากระดับ 600 ล้านบาทในปี 2560 ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ประจำของบริษัทจะเติบโตต่อไปเนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งที่สำคัญคือโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่ครอบคลุมกว้างขวางและคุณภาพการให้บริการที่ดีซึ่งจะช่วยให้บริษัทเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากยิ่งขึ้นและสามารถชนะประมูลโครงการใหม่ ๆ

บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีและสามารถคงสถานะทางการแข่งขันในตลาดให้บริการผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงมาได้ ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจ Data Service ในช่วงปี 2559-2564 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ระดับประมาณ 27% การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ได้ทำให้บริษัทเอกชนและหน่วยงานภาครัฐหันมาให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีรวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบการสื่อสารและขั้นตอนการทำงาน ซึ่งส่งผลให้มีอุปสงค์ในการใช้บริการสื่อสารข้อมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจ Data Service ที่ระดับ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2563 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล

ในขณะที่รายได้จากธุรกิจ Data Center นั้นค่อนข้างคงที่โดยอยู่ที่ระดับ 85-95 ล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากลักษณะของสัญญาของลูกค้าส่วนมากที่เป็นสัญญาระยะยาว

รายได้โครงการมาจากโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ

บริษัทได้ดำเนินธุรกิจให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation Business) ขนาดใหญ่โดยใช้ความเชี่ยวชาญในการให้บริการวงจรสื่อสารข้อมูลรวมทั้งการติดตั้งและซ่อมบำรุงสายเคเบิลใยแก้วนำแสงที่บริษัทมีมาพัฒนาต่อยอด โดยธุรกิจ Installation นั้นครอบคลุมทั้งการติดตั้งโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง การให้บริการซ่อมบำรุง และโครงการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology -- IT) เนื่องจากธุรกิจ Installation ส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นลักษณะโครงการที่รายได้เกิดขึ้นตามความสำเร็จของโครงการ ดังนั้น รายได้จากธุรกิจนี้จึงมีความผันผวนสูงกว่ารายได้จากธุรกิจ Data Service และธุรกิจ Data Center โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจ Installation อยู่ที่ระดับ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 800 ล้านบาทในปี 2563 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 44% ของรายได้รวมของบริษัท

ธุรกิจ Installation นั้นขึ้นอยู่กับโครงการภาครัฐซึ่งเกี่ยวข้องกับงบประมาณด้าน IT และการประมูลงานของหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ โครงการ IT เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเกิดความล่าช้าในการดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ หลายประการ โดยการดำเนินงานมักประสบกับปัญหาต่าง ๆ เช่น ความล่าช้าในการก่อสร้างหรือในขั้นตอนการชำระเงินและบางครั้งก็ขาดความต่อเนื่องของงบประมาณด้าน IT ของหน่วยงานภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่ารัฐบาลไทยยังคงมีความพยายามที่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ของประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้ขยายงานสู่โครงการใหม่ ๆ ที่สร้างการเติบโตของรายได้ เช่น โครงการอากาศยานไร้คนขับ (Drone) และโครงการอุปกรณ์ต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti Drone) รวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น การติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด และโครงการเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงจำนวนโครงการที่มีอยู่ในแผนและการขยายเข้าสู่โครงการใหม่ ๆ แล้ว ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับรายได้จากธุรกิจ Installation เอาไว้ได้

มูลค่างานที่ยังไม่ได้ส่งมอบช่วยสนับสนุนรายได้

ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีสัญญางานที่อยู่ระหว่างการพัฒนาที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) มูลค่ารวมเกือบ 3.5 พันล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 70% เป็นงานในธุรกิจ Data Service และธุรกิจ Data Center ส่วนที่เหลือเป็นงานในธุรกิจ Installation และโครงการโทรคมนาคมอื่น ๆ โดยมูลค่างานในมือประมาณ 2 พันล้านบาทคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2565 และอีกประมาณ 1.5 พันล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ในระหว่างปี 2566-2568 ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าสัญญาให้บริการที่กำลังจะหมดอายุในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าจะได้รับการต่อสัญญาต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐเพิ่มเติมซึ่งจะทำให้บริษัทมี Backlog เพิ่มมากยิ่งขึ้นและจะช่วยสนับสนุนรายได้ในอนาคต

ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ 2.9-3.2 พันล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2565-2567 เมื่อพิจารณาจากอุปสงค์การเข้าถึงการเชื่อมต่อข้อมูลและอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น ตลอดจนฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โครงการพัฒนาระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่อยู่ในแผนดำเนินการ และโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

ขยายสู่ธุรกิจออกแบบและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์

เมื่อไม่นานมานี้บริษัทได้ประกาศแผนในการขยายเข้าสู่ธุรกิจออกแบบและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ (IT Solutions) ผ่านการซื้อกิจการของ บริษัท เวทเธอเรีย อี จำกัด ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 51% ใน บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทจะจ่ายชำระการทำธุรกรรมมูลค่ารวม 153 ล้านบาทดังกล่าวด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัท

บริษัทบลู โซลูชั่น ประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ระบบ IT และให้บริการแบบครบวงจรซึ่งรวมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ โดยบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 181 ล้านบาทในปี 2563 ทริสเรทติ้งคาดว่าการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะทำให้เกิดการผสานพลังทางธุรกิจจากการประหยัดต้นทุนและการเพิ่มฐานรายได้เมื่อบริษัททำการควบรวมกิจการแล้วเสร็จและประสบความสำเร็จในการผสานธุรกิจภายหลังจากการควบรวม

มีความสามารถในการทำกำไรที่ดี

การที่บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีนั้นเกิดจากการมีฐานรายได้ประจำที่เพิ่มสูงขึ้นและการควบคุมต้นทุนที่รอบคอบ ทั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ ดังนั้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยทำให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 40%-46% ในช่วงปี 2563-2564 จากระดับ 31%-37% ในอดีต

นอกจากนี้ บริษัทยังมีอัตรากำไรที่ดีในสายธุรกิจหลักแต่ละประเภทอีกด้วย โดย EBITDA Margin ในธุรกิจ Data Service อยู่ที่ระดับ 50%-60% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ในธุรกิจ Data Center นั้นอยู่ที่ระดับ 50%-55% ส่วนธุรกิจ Installation นั้น บริษัทรักษาอัตรากำไรได้ที่ระดับประมาณ 15%-20%

ในช่วง 3 ปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ประจำรวมถึงความพยายามในการปรับปรุงการใช้สินทรัพย์ของบริษัทจะสามารถรองรับต้นทุนการดำเนินงานคงที่ที่อยู่ในระดับสูงได้และจะช่วยทำให้อัตรากำไรมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าบริษัทจะบริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจใหม่อย่างระมัดระวังโดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรโดยรวม โดยในช่วงปี 2565-2567 ทริสเรทติ้งคาดว่า EBITDA Margin ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 35%-40% อีกทั้งยังคาดว่าอัตรากำไรจากโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จที่บริษัทได้งานเข้ามาใหม่จะอยู่ที่ระดับประมาณ 15%-20% ในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย

ภาระหนี้จะค่อย ๆ ลดลง

บริษัทมีกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้และภาระหนี้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ในมุมมองของทริสเรทติ้ง โดยในปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA อยู่ที่ระดับ 4.6 เท่า รวมทั้งมีอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินอยู่ที่ระดับ 16.3% และมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนอยู่ที่ระดับ 62%

ในช่วง 3 ปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่าระดับภาระหนี้สินทางการเงินของบริษัทจะค่อย ๆ ลดลง เนื่องจากบริษัทได้มีการติดตั้งโครงข่ายหลักครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ดังนั้น เงินลงทุนในอนาคตของบริษัทจึงเป็นไปเพื่อการเชื่อมต่อโครงข่ายไปยังลูกค้าปลายทางเป็นหลัก โดยทริสเรทติ้งคาดว่าเงินลงทุนโดยรวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาทในช่วงปี 2565-2567 และเมื่อพิจารณาจากกระแสเงินสดที่เติบโตขึ้น ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าบริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นเงินลงทุนในบางส่วน โดยทริสเรทติ้งคาดว่า EBITDA ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 1-1.2 พันล้านบาทต่อปีในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินที่ปรับปรุงแล้วต่อ EBITDA ของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4.2 เท่าในปี 2565 และจะลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 3.5 เท่าในช่วงระหว่างปี 2566-2567 ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ในช่วง 17%-23% ในระหว่างปี 2565-2567

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) ชุดใหม่คือ ITEL-W3 และได้สำรองหุ้นใหม่ไว้สำหรับการใช้สิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ ดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิ ITEL-W3 จะหมดอายุในเดือนเมษายน 2566 ซึ่งหากผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีการใช้สิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนก็จะช่วยทำให้ฐานทุนของบริษัทแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินที่ได้รับจากการใช้สิทธินี้ไปชำระหนี้ที่มีอยู่และใช้สนับสนุนการดำเนินงานของบริษัท

ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีหนี้สินรวมทั้งสิ้นที่ระดับ 4 พันล้านบาท ซึ่งประมาณ 1.75 พันล้านบาทเป็นหนี้เงินกู้โครงการซึ่งมีการโอนสิทธิ์รับเงินไปที่เจ้าหนี้โครงการ (Project loans) และหนี้ที่มีหลักประกัน เนื่องจากบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินที่มีสิทธิ์ได้รับชำระก่อน (Priority Debt) ต่อหนี้ทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่ระดับ 44% ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50% ตามที่กำหนดไว้ใน ?เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้? ของทริสเรทติ้ง ในการนี้ ทริสเรทติ้งจึงเห็นว่าเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทไม่มีความเสียเปรียบอย่างมีนัยสำคัญในการเรียกร้องค่าทดแทนจากสินทรัพย์ของบริษัท

สภาพคล่องอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้

ทริสเรทติ้งประเมินว่าสภาพคล่องของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ บริษัทมีแหล่งเงินทุนซึ่งประกอบไปด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 275 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2564 รวมถึงวงเงินกู้จากธนาคารที่ยังไม่ได้เบิกใช้อีกเกือบ 1 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอีกประมาณ 750-800 ล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าจะได้รับเงินสดจำนวนประมาณ 750 ล้านบาทจากการขายสินทรัพย์ Data Center เข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust ? REIT) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นี้อีกด้วย

บริษัทจะใช้เงินทุนสำหรับการลงทุนที่จำนวน 300-400 ล้านบาทต่อปีและจะใช้สำหรับชำระหนี้สินทางการเงินที่จะครบกำหนด โดย ณ เดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีภาระหนี้ระยะสั้นมูลค่า 2.25 พันล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เงินกู้โครงการที่จะต้องชำระคืนสถาบันการเงินเมื่อโครงการแล้วเสร็จ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงความสามารถของบริษัทในการดำเนินโครงการและสถานะเครดิตของเจ้าของโครงการแล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะได้วงเงินกู้ใหม่เพื่อทดแทนวงเงินกู้ระยะสั้นเดิมได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน บริษัทยังมีหนี้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2565 อีกจำนวนประมาณ 524 ล้านบาทอีกด้วย

ข้อกำหนดทางการเงินที่บริษัทมีกับธนาคารระบุให้บริษัทต้องคงระดับอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนไม่ให้เกิน 2.5 เท่าและอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Service Coverage Ratio ? DSCR) มากกว่า 1.2 เท่า ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 1.36 เท่าและ 1.53 เท่าตามลำดับ ในการนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะยังคงสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขของข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวตลอดช่วงเวลาประมาณการได้

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

? รายได้จะอยู่ในช่วง 2.9-3.2 พันล้านบาทต่อปีในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า

? EBITDA Margin จะอยู่ที่ระดับ 35%-37% ในระหว่างปี 2565-2567

? เงินลงทุนโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันและมีผลการดำเนินงานที่ดีในธุรกิจ Data Service รวมทั้งยังจะได้รับสัญญาโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จใหม่ ๆ สำหรับธุรกิจ Installation อีกทั้งยังคาดว่าผลการดำเนินงานและระดับการก่อหนี้ของบริษัทจะยังคงสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้งอีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากผลการดำเนินงาน ตลอดจนกระแสเงินสด และสถานะทางการเงินของบริษัทและกลุ่ม ILINK ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในทางตรงกันข้าม การปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทและของกลุ่มถดถอยลงอย่างมาก ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทอาจเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเช่นกันในกรณีที่สถานะทางการเงินของ ILINK หรือสถานะของบริษัทที่มีต่อกลุ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงินสำหรับธุรกิจทั่วไป, 11 มกราคม 2565

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (ITEL)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating. com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
#2295
หัวขับลม
SIRCA Pneumatic actuator หัวขับลม SIRCA
ข้อมูลที่จำเป็นในการเลือกขนาดแอคทูเอเตอร์
1)ทราบว่าแรงบิดที่แท้จริงของวาล์วหรือเครื่องมืออื่นๆจะเป็นแบบอัตโนมัติ โดยพิจารณาถึงสัมประสิทธิ์ความปลอดภัย (SIRCA แนะนำอย่างน้อย 25%) แรงบิดของวาล์ว (แนะนำความปลอดภัยอย่างน้อย 25%)
2) ตัดสินใจว่าตัวควบคุมต้องทำหน้าที่สองครั้งหรือสปริงกลับ - การทำงานแบบ Double Act หรือ Spring Return
3) ทราบแรงดันอากาศจริงที่พร้อมใช้งาน - แรงดันใช้งานขั้นต่ำที่ใช้ได้ HOW TO SIZE แอคทูเอเตอร์คู่ (DA) - การเลือกแอคทูเอเตอร์คู่ (DA) ขนาดของแอคทูเอเตอร์แบบดับเบิลแอคทูเอเตอร์นั้นง่ายอย่างยิ่ง จำเป็นต้องทราบแรงบิดที่ต้องการของวาล์วที่มากขึ้นขั้นต่ำ 25%) รวมทั้งความกดอากาศที่มีอยู่ต่อจากนั้น ให้เข้าร่วมการอ้างอิงทั้งสองและก็รับแบบจำลองแอคทูเอเตอร์ที่เกี่ยวข้องทันที
ตัวอย่าง: ต้องทำวาล์วอัตโนมัติที่ต้องการแรงบิด 80Nm เพิ่มขึ้น 25% = 100Nm ที่ 5 บาร์ของการจ่ายอากาศ ตัวเลือกนี้ตกอยู่ที่รุ่น AP 4 DA ซึ่งพัฒนาแรงบิด 119 Nm





ข้อควรระวัง: ค่าแรงบิดที่เลือกซึ่งระบุรุ่นของแอคชูเอเตอร์ต้องไม่น้อยกว่าค่าแรงบิดของวาล์วที่อยากได้ ระบุแรงบิดของวาล์วที่อยากได้ ซึ่งควรรวมถึงระยะขอบความปลอดภัย 25% แล้วก็แรงดันใช้งานขั้นต่ำที่มี อ้างถึงตารางแรงบิดแรงดัน abd เลือกคอลัมน์แรงดันต่ำสุดที่ใช้งานได้ ทำตามคอลัมน์นี้กระทั่งพบค่าไม่น้อยกว่าที่ต้องการ ต่อไปอ่านข้ามไปที่คอลัมน์ทางซ้ายและอ่านลำดับที่รุ่นที่จะสั่งซื้อ วาล์วทอร์คที่เลือกซึ่งระบุประเภทของแอคทูเอเตอร์ต้องไม่ต่ำกว่าที่ระบุ ค่าแรงบิดของวาล์ว ทอร์คแอคทูเอเตอร์

กระบอกลม (Pneumatic Air Cylinder)
หรือเรียกอีกชื่อว่า Actuator เป็นเครื่องมือที่ใช้ลมทำให้ก้านกระบอกลมเคลื่อนที่ไปในแนวเส้นตรง หรือหมุน 90, 180, 270 หรือ 360 องศา
เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนแปลงพลังงานในรูปแบบความดันลมให้เป็นพลังงานกลในรูปแบบของการเคลื่อนที่โดยแบ่งตามแนวทางการทำงานหรือการเคลื่อนที่ได้ 3 ประเภท คือ
1. กระบอกลูกสูบลม (Cylinder) ทำงานตามแนวเส้นตรง
2. กระบอกลม (Air Cylinder) ทำงานตามแนวเส้นรอบวง
3. กระบอกลมนิวเมติกส์ทำงานแบบพิเศษ (Special Actuator) คือกระบอกลมนิวเมติกส์ที่มีลักษณะการทำงานไม่เหมือนกับ 2 ชนิดที่กล่าวมา กระบอกลมนิวเมติกส์แต่ละชนิดจะมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันไปตามจุดมุ่งหมายของการนำไปใช้งาน





กระบอกลม Air Cylinder จำพวกต่างๆ
1. กระบอกลมมาตรฐาน (Standard Cylinder)
ส่วนประกอบของกระบอกจะผลิตด้วยวัสดุที่เป็นอลูมิเนียมเหลว ที่ถูกอัดลงบนแม่พิมพ์กระบอกลมอีกทีหนึ่ง กระบอกลมจำพวกนี้จะมีมาตรฐาน ISO 15552 มีหลายแบบให้เลือกใช้งาน เช่น กระบอกลมแบบติดวาล์วควบคุมทิศทาง (Pneumatics Control), กระบอกลมแบบสี่เสา(Tie Red Type Cylinders), กระบอกลมแบบโปรไฟล์ (Profile Type Cylinders) แล้วก็กระบอกลมที่เป็นแบบล็อคก้านสูบได้ (Lock Cylinder)
2. กระบอกลมขนาดเล็ก (Mini Cylinder)
เหมาะกับงานที่ใช้แรงดันลมไม่มากนัก งานสร้างสำหรับงานเฉพาะทาง โดยมีขนาดต่างๆตัวอย่างเช่น กระบอกลมแบบมินิ (Mini Cylinders), กระบอกลมปากกา (Pen Sign Cylinders)
3. กระบอกลมแบบคอมแพค (Compact Cylinder)
มีความเด่นในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งาน ลักษณะของกระบอกจะเป็นแบบสี่เหลี่ยม แบบทรงแผ่น และก็แบบมีเพิ่มก้านนำทาง
1. กระบอกลมแบบไม่มีก้านสูบ (Rodless Cylinders)
มีความต่างจากกระบอกลมชนิดอื่นตรงที่ไม่มีก้านลูกสูบ มีการใช้งานกันอยู่ 2 จำพวก คือ
– แบบแมคคานิคอลจ๊อย(Mechanically Jointed Rod less Cylinder)
– แบบใช้แรงดูดของแม่เหล็ก (Magnetically Coupled Cylinder)
รูปแบบการทำงานของกระบอกลมชนิดนี้คือ กระบอกลมจะเคลื่อนที่บนแกนเพลาที่ยึดหัวเเละท้าย เคลื่อนที่ได้จากแรงของแม่เหล็กที่เคลื่อนที่ไป-มาอยู่ตลอดเวลา กระบอกลมจำพวกนี้เหมาะสมกับงานที่ต้องการช่วงชักยาว
4. กระบอกลมแบบเลื่อน/สไลด์ (Slide Table Cylinder)
คุณลักษณะเด่นของกระบอกลมจำพวกนี้คือ สามารถเลื่อนได้ (Slide Table Air Cylinder) ซึ่งกระบอกลมจำพวกอื่นทำไม่ได้ แบ่งได้ 3 จำพวก
1. แบบแผ่นเลื่อนความแม่นยำสูง (Air Slide Table/Precision Cylinder)
2. แบบเลื่อนยาว (Air Slide Table/Long Stroke)
3. แบบเลื่อนชนิดคอมแพ็ค (Compact Air (Cylinder) Slide Table) สามารถปรับแก้ช่วงชัก หรือตำแหน่งการติดตั้งได้อย่างอิสระ

เกจวัดแรงดัน (pressure gauge)
เป็นอุปกรณ์จำเป็นในการใช้วัดหรืออ่านค่าแรงดันก๊าซและของเหลว เกจวัดแรงดันแบ่งออกเป็นหลากหลายชนิดมาก การจะเลือกซื้อเกจวัดแรงดันไปใช้ให้ถูกงานนั้นต้องคำนึงถึงประเภทต่างๆของเกจวัดความดันดังนี้
เกจวัดแรงค่าดันจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆด้วยกัน คือ
1.General pressure gauge ใช้วัดแรงดันที่เป็นย่านค่าบวก
2. Vacuum gauge ใช้วัดแรงดันที่เป็นย่านค่าลบ
3. Compound gauge สามารถวัดแรงดันได้ทั้งค่าบวกและก็ลบได้ในตัวเดียวกัน
เกจวัดแรงดัน (Pressure Gauge) เป็นอุปกรณ์ที่สำหรับใช้ในการวัดที่ทนต่อแรงสั่นเพื่อใช้สำหรับการวัดความดันซึ่งควรพิจารณาให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยสามารถแบ่งเกจได้เป็นทั้งยังแบบอนาล็อกและเกจดิจิตอล





เกจวัดแรงดัน อนาล็อกหรือดิจิตอล
1. เกจวัดแรงดันแบบดิจิตอล จะมีราคาสูงกว่าเพจอนาล็อกแต่จะมีข้อดีกว่าตรงเกจแบบดิจิตอลมีความเที่ยงตรงมากกว่า เหมาะกับงานที่ต้องการการวัดความดันถูกต้องแม่นยำสูง นอกจากนั้นเกจวัดแรงดันแบบดิจิตอลในหลายรุ่นสามารถเชื่อมต่อข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถอ่านค่าได้จากระยะไกลได้ด้วย
เพรสเชอร์เกจแบบดิจิตอล เกจวัดแรงดันแบบดิจิตอล
2. เกจวัดแรงดันแบบอนาล็อก (แบบเข็ม) มีจุดเด่นคือราคาถูกมากกว่าไม่ต้องการการบำรุงรักษามากเมื่อเทียบกับเกจแบบดิจิตอล โดยเกจวัดแรงดันแบบอนาล็อกนั้นแบ่งออกอีกเป็น 2 ประเภท คือ
2.1 เกจวัดแรงดันอนาล็อกปรกติ มีข้อดีคือ ราคาถูก แต่จะรับแรงสะเทือนสูงไม่ได้
โดยปกติสำหรับการสั่งซื้อสิ่งที่ควรระบุสำหรับเครื่องไม้เครื่องมือวัดแรงดันมีดังนี้
- หน่วยวัด(Unit) คือ หน่วยความดันบนหน้าปัดที่พวกเราอยากให้อุปกรณ์วัดแสดง
- ย่านการวัด (Range) คือ ช่วงความดันต่ำสุด-สูงสุด ที่อุปกรณ์ตัวนั้นสามารถวัดให้เราได้
- ขนาดหน้าปัด (Dial Size) คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหน้าปัดเครื่องมือวัด มักกำหนดเป็น นิ้วหรือมิลลิเมตร
- ประเภทวัสดุ คือ ชนิดของวัสดุที่ใช้เป็นตัวเรือน : เหล็ก / พลาสติก / สแตนเลส / ทองเหลืองแล้วก็วัสดุใช้ทำเกลียว : ทองเหลือง / สแตนเลสแบบ/ขนาดของเกลียว (Type/Thread size) คือ ขนาดของเกลียวที่จะใช้ต่อกับอุปกรณ์อื่น มีทั้งยังแบบออกด้านล่างและก็ออกด้านหลัง ตัวอย่างขนาดเกลียวมาตรฐาน NPT และก็ BSP
- ออฟชั่นพิเศษต่างๆอาทิเช่น แบบมีน้ำมัน มีปีกยึดติดตู้

 
 
#2296
ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดลบ 3.10 จุด กังวลข้อพิพาทจีน-สหรัฐ

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเช้านี้ จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากรัฐบาลสหรัฐพยายามขัดขวางไม่ให้จีนช่วยเหลือรัสเซีย

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. ที่จะมีการเปิดเผยในวันอาทิตย์นี้

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ 3,247.16 จุด ลดลง 3.10 จุด หรือ -0.10%

ทั้งนี้ จีนได้เริ่มส่งสัญญาณถอยจากรัสเซีย หลังถูกนานาชาติกดดัน โดยหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า นายฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ กล่าวว่า ถึงแม้จีนและรัสเซียถือเป็นหุ้นส่วนที่ไม่มีขีดจำกัด แต่จีนก็จะยึดมั่นตามบรรทัดฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีการยอมรับทั่วโลก

 
#2297
เกษตรฯ เกาะติดสถานการณ์ด่านนำเข้าทางบกของจีน รับมือฤดูกาลผลไม้ไทยปี 65

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) สินค้าเกษตรที่ส่งออกไปยังประเทศจีนต้องมีความปลอดภัยและมั่นใจได้ว่าปลอดจากการปนเปื้อนของเชื้อโควิด ซึ่งประเทศจีนเป็นตลาดสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จีนใช้มาตรการ Zero Covid อย่างจริงจัง โดยควบคุมทั้งคนและการขนส่งสินค้าอย่างเข้มงวด ออกมาตรการระดับชาติและระดับท้องถิ่นที่แตกต่างกันไปตามความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ ซึ่งผลไม้นำเข้าจะต้องถูกตรวจสอบอย่างรัดกุมและต้องได้รับใบรับรอง 3 ชนิด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนจึงจะสามารถวางจำหน่ายในตลาดจีนได้ ได้แก่ ใบรับรองผ่านการตรวจสอบกักกัน ใบรับรองผลการตรวจโควิด และใบรับรองการผ่านการฆ่าเชื้อ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ สำนักการเกษตรต่างประเทศ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการในการติดตามและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ฝ่ายเกษตรฯ กว่างโจว ยังได้จัดทำระบบติดตามสถานการณ์ด่านนำเข้าทางบกของจีน (LandPort-Alert) และสถานการณ์ด่านต่างๆ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการสามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
#2298
ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบกว่า 10 ปี
 
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 59.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี จากระดับ 62.8 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 59.7

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นจะทรงตัวที่ระดับ 62.8 ในเดือนมี.ค.

ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน

ผู้บริโภคจำนวน 32% แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจในช่วงกลางทศวรรษ 1940

ผลการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพียงประการเดียวต่อการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคตต่างปรับตัวลง

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ สถานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
#2299
ขนส่งสินค้าจากจีนเส้นทางลาว สอบถามค่าส่งสินค้า ราคาโปโมชั่นพวกเราบริการขนส่งสินค้าทั้งโลก
มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจขนส่งสินค้ารวมทั้งเป็นคนที่มีประสบการณ์อื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการขนส่งทั้งในแล้วก็
เมืองนอกซึ่งเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมการขนส่ง

ขนส่งสินค้าจากจีนเส้นทางลาว สอบถามค่าส่งสินค้า ราคาโปโมชั่นการส่งผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศมาก
กว่า 22 ปีด้วยความเป็นจริงเป็นจังที่
อยากได้ย้ำให้ลูกค้าเพื่อได้รับ
ความพึงพอใจแล้วก็บริการอย่างยิ่ง
ขนส่งสินค้าจากจีนเส้นทางลาว สอบถามค่าส่งสินค้า ราคาโปโมชั่นสุด โดยจากจุดเริ่มแรกที่พวกเราเริ่มด้วยบุคลากรที่มี
ความตั้งใจจริง
สำหรับในการให้บริการซึ่งได้รับ
การฝึกหัดมา{เป็นอย่างดี|อย่างดีเยี่ยม


https://bit.ly/3wyn6EU
#2300

ส่งสินค้าทางเรือไปจีน สอบถามค่าส่งสินค้าพวกเราบริการขนส่งสินค้าทั่วทั้งโลก
มีประสบการณ์ในด้านธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์และก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์อื่นๆ
ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการขนส่งอีกทั้งในรวมทั้ง
ต่างแดนซึ่งเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมการขนส่ง

ส่งสินค้าทางเรือไปจีน สอบถามค่าส่งสินค้าการส่งมอบผลิตภัณฑ์ระหว่างชาติมาก
กว่า 22 ปีด้วยความตั้งใจจริงที่
อยากได้เน้นย้ำให้ลูกค้าเพื่อได้รับ
ความพอใจรวมทั้งบริการอย่างมาก
ส่งสินค้าทางเรือไปจีน สอบถามค่าส่งสินค้าสุด โดยจากจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มด้วยพนักงานที่มี
ความจริงจัง
ในการให้บริการซึ่งได้รับ
การฝึกซ้อมมาอย่างดีเยี่ยม


https://bit.ly/3Lk6bKx