วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทางไฟเซอร์ได้ร่วมผลิตกับบริษัทไบออนเทค (https://www.mukdahanpress.com/Guestpost/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E-%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%AA-%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81/) มีประสิทธิภาพมากถึง 95.6% กับกลุ่มประชากรเด็กอายุ 5-11 ปี
วันที่ 23 ตุลาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัท "ไฟเซอร์ อิงค์" ได้เปิดเผยข้อมูลการทดลองว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทางไฟเซอร์ได้ร่วมผลิตกับบริษัท "ไบออนเทค" มีประสิทธิภาพป้องกันโควิดมากถึง 95.6% กับกลุ่มประชากรเด็กอายุ 5-11 ปี พร้อมกับระบุด้วยว่า วัคซีนได้สร้างระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับเด็ก
โดยก่อนหน้านี้ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้รายงานข้อมูลว่า วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค มีประสิทธิภาพมากถึง 93% ในการป้องกันอาการป่วยจากการติดเชื้อ สำหรับประชากรกลุ่มอายุ 12-18 ปี โดยจากประชากรกลุ่มดังกล่าว มากถึง 97% ที่ติดโควิด-19 และต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ไม่ได้ฉีดวัคซีน
ขณะเดียวกัน ทางไฟเซอร์ และ ไบออนเทค แถลงการณ์ข้อมูลจากการทดลองว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมผลิต เมื่อฉีดวัคซีนเป็นเข็ม 3 หรือ "บูสเตอร์ โดส" แล้วนั้น วัคซีนมีประสิทธิภาพมากถึง 95.6% เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดเข็มดังกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติการฉีดวัคซีนของบริษัท "โมเดอร์นา" และ "จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน" เป็นวัคซีนบูสเตอร์โดส รวมถึงให้ทางเลือกชาวอเมริกัน ฉีดวัคซีนของคนละบริษัท จากที่ก่อนหน้านี้ฉีดไปได้