อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท (https://www.roietnews.com/Guestpost/%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86-%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1/) ทยอยลดช่วงอ่อนค่าและฟื้นตัวกลับมาสอดคล้องกับทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย และแรงหนุนจากสัญญาณฟันด์โฟลว์ กรอบการเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 33.20-33.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ
อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 33.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงแรก แต่ทยอยลดช่วงอ่อนค่าและฟื้นตัวกลับมาสอดคล้องกับทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย และแรงหนุนจากสัญญาณฟันด์โฟลว์ โดยในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 4,580.87 ล้านบาท และ 971 ล้านบาทตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2564 โดยธปท. อยู่ที่ 0.20 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 3.25 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 33.20-33.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในประเทศ ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนต.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.