ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองในบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเชื่อว่า ทางการจีนกำลังเตรียมการเพื่อเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 2.6% ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ที่ทะยานขึ้น 5.5% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้น 1.5% ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า 2.6% เมื่อวานนี้
การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น (https://www.modtood.com/look-at-the-earnings-profit-of-betagro-before-btg-shares-trade/)จีนและฮ่องกงเกิดขึ้นหลังจากนายหาว ฮง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า "นายหวัง หูหนิง หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) กำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่จีนได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากพบว่าต้นทุนทางเศรษฐกิจพุ่งสูงขึ้น และประชาชนรวมทั้งนักลงทุนต่างกันวิตกกังวลมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาปรับลดระยะเวลาการกักตัวในโรงแรมสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าจีนลงเหลือ 2 วัน และจากนั้นให้กักตัวต่อที่บ้าน 5 วัน จากเดิมที่ต้องกักตัวในโรงแรม 7 วันและให้กักตัวต่อที่บ้าน 3 วัน
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มเวชภัณฑ์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในวันนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศก็ดีดตัวขึ้นด้วย เช่น หุ้นบริษัททัวร์และหุ้นบริษัทกาสิโนในมาเก๊า
ทั้งนี้ แม้ว่านายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมากล่าวว่า เขายังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ตลาดยังคงเชื่อว่า ข่าวดังกล่าวมีมูลความจริง และคาดหวังว่าการกลับมาเปิดประเทศของจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจและอุปสงค์ฟื้นตัว และจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย