ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ลากยาวนี้ ผู้ประกอบธุรกิจไม่ว่าเซ็กเตอร์ไหนก็ย่อมต้องพยายามหาสภาพคล่องมาประคองธุรกิจให้เดินต่อไปได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาทำธุรกิจให้กู้กันมากขึ้น
อย่างสินเชื่อทะเบียนรถ (https://www.upuekin.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-5-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2/)ก็มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ก็เข้าสู่ธุรกิจนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และพยายามรุกมากขึ้น
ล่าสุดได้เงินทุนจาก "บีทีเอส กรุ๊ป" เข้ามาเสริมแกร่ง ซึ่งทาง "ประชาชาติธุรกิจ" ได้พูดคุยกับ "กิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER ถึงการขยับขยายธุรกิจในระยะต่อไป
โดย "กิตติพงศ์" เล่าว่า ที่ผ่านมา นอกจาก SINGER จะทำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อพวกจักรเย็บผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกันภายใต้ชื่อ "รถทำเงิน" อีกด้วย
ซึ่งเดิมทีบริษัทก็มีแผนขยายพอร์ตสินเชื่อประเภทนี้อยู่แล้ว แต่การที่ได้เงินลงทุนจาก "บมจ.ยูซิตี้" ของกลุ่มบีทีเอสเข้ามาเสริม ก็จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจได้มากขึ้น และจะสามารถลดภาระต้นทุนทางการเงินลงไปได้อย่างมาก
"เราจะมีความสามารถในการเติมได้เร็วขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่ถูกลง ก็จะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้น แข่งขันได้ดีขึ้น"
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา SINGER จะเน้นเติบโตตามเงินทุนที่มี เพราะปัจจุบันยังใช้ฐานเงินทุนจากการออกหุ้นกู้เป็นหลัก แต่เมื่อกิจกรรมการเพิ่มทุน (จากยูซิตี้) เรียบร้อย ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นทั้งหมด
ซึ่งกระบวนการคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายปีนี้ จากนั้นต้นปีหน้า SINGER ก็น่าจะขยายธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ ธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถของ SINGER จะแตกต่างกับผู้ให้บริการสินเชื่อประเภทนี้รายอื่น ๆ เพราะจะเน้นที่รถประกอบกิจการ หรือรถฟลีต อย่างพวกรถบรรทุกขนส่งสินค้าต่าง ๆ สัดส่วนกว่า 60%
หากรวมรถบรรทุกที่เจ้าของทำสัญญาเงินกู้ในรูปบุคคลธรรมดาแล้วก็จะตกกว่า 70% ที่เหลือไม่ถึง 30% จึงเป็นรถบ้าน รถยนต์นั่ง โดยบริการสินเชื่อจะมีทั้งแบบโอนเล่มทะเบียนรถ
และไม่โอนเล่มทะเบียนรถ ซึ่งบริษัทจะคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วง 15-16% ต่อปี ขึ้นกับประเภทของลูกค้า เครดิตลูกค้า ประเภทของรถ และอายุของรถ
"ปีนี้เราตั้งเป้าขยายสินเชื่อใหม่ที่ 3,600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันก็ยังเดินหน้าได้ตามแผนอยู่ และเป้าหมายสิ้นปี ถ้ารวมสินเชื่อเช่าซื้ออื่น ๆ ของ SINGER ด้วยก็จะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท"
โดยตลาดรถบรรทุกที่บริษัทเน้นปล่อยสินเชื่อนั้นยังมีโอกาสอีกมาก ทั่วประเทศจะมีอยู่ประมาณ 1 ล้านคัน จากฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งทาง SINGER รับจำนำทะเบียน ทั้งตัวรถและให้วงเงินเพิ่มสำหรับส่วนที่เป็นพ่วงด้านหลังด้วย
"ปีหน้าเรามองตัวเลขขยายสินเชื่อใหม่ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท แต่เราจะยังคงเน้นกลุ่มรถเพื่อการประกอบกิจการเป็นหลัก เพราะในสภาวะที่ภาพเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี ยังมีโควิด-19 ระบาด
ผมว่าธุรกิจด้านการเกษตรยังไปได้ดี และกลุ่มโลจิสติกส์ ขนส่งสินค้าทั่วประเทศก็ยังเดินหน้าได้ ซึ่งกลุ่มนี้มีอัตราขยายตัวที่ดีต่อเนื่องมาหลายปี ที่สำคัญ มูลค่าของรถจะไม่ค่อยลดลงมาก เมื่อเทียบกับพวกรถยนต์นั่งทั่วไป"
"ผมวางเป้าหมายไว้ว่า ภายใน 5 ปี เราจะเป็นหมายเลขหนึ่งของสินเชื่อทะเบียนรถที่เป็นกลุ่มรถบรรทุกขนส่ง ซึ่งเรามั่นใจว่าจากเงินทุนที่เราได้เข้ามารอบนี้ จะทำให้ภายใน 2 ปีข้างหน้า
เราจะมีสภาวะต้นทุนที่ได้เปรียบมากขึ้น และปีหน้าเราจะนำบริษัทลูกที่ปล่อยสินเชื่อตัวนี้เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯอีก จะทำให้อนาคตข้างหน้า พวกข้อเสียเปรียบเรื่องต้นทุนต่าง ๆ ของเราจะลดลงไปมาก" กรรมการผู้จัดการใหญ่ SINGER กล่าวอย่างมั่นใจ