Michelin หรือ Michelin Star เป็นเหรียญที่แสดงถึงมาตรฐานร้านอาหารที่มีคุณภาพทั้งอาหารและวัตถุดิบที่ดีเยี่ยม เป็นไอเดียที่เกิดจากบริษัท Michelin ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ของโลก ที่อยากให้คนมีรถนั้นขับรถไปรับประทานไปเที่ยวนอกบ้าน จึงได้จัดทำหนังสือ "The Michelin (https://mekwamsook.com/travel/7-%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b9%80%e0%b8%88%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%99/) Guide" ขึ้นเพื่อแนะนำร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และโรงแรมในฝรั่งเศส ตีพิมพ์เล่มแรกเมื่อปี 1900 ซึ่งหลักการคัดเลือกของ Michelin Star ถือเป็นหลักการวัดความเป็นเลิศที่ทั่วโลกใช้พาดพิง กระทั่งในปี 1926 จึงเริ่มมีการให้ดาวมิชลินแก่ร้านอาหารเป็นครั้งแรกโดยในช่วงเริ่มต้นทุกร้านจะมี 1 ดาวเท่ากันหมด จากนั้นในปี 1931 ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงให้มี 1 ดาว, 2 ดาว และ 3 ดาว โดยเริ่มการตีพิมพ์ลงในหนังสือเล่มแรกในปี 1936 พร้อมเปลี่ยนสีหน้าปกมิชลินไกด์ให้เป็นสีแดงจากของเดิมที่เป็นสีน้ำเงิน ที่เน้นแค่ร้านอาหารเพียงอย่างเดียว โดยนิยามของระดับดาวไว้ดังนี้1 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่ดีมากในประเภทเดียวกัน
2 ดาว คือ ร้านอาหารที่ยอดเยี่ยม ถึงขั้นคุ้มค่าที่จะเดินทางไปกิน
3 ดาว หมายถึง ร้านอาหารที่เลิศเลอ ต่อให้ไกลแค่ไหนก็ควรเดินทางไปกินโดยมาตราฐานการประเมินของ Michelin Star มีหลักการประเมิน 5 ข้อ ได้แก่
1. คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้
2. ความโดดเด่นของรสชาติและเทคติกการทำอาหาร
3. เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่สะท้อนออกมาในอาหารและประสบการณ์ในมือนั้น
4. ความคุ้มค่าคุ้มราคา
5. ความคงที่ คงเส้นคงวาของคุณภาพและรสชาติอาหารและแน่นอนว่าในประเทศไทยเองก็มีร้านระดับ Michelin Star อยู่ไม่น้อยและในปี 256 นี้ได้มีร้านอาหารที่คว้ารางวัล 2 ดาว ทั้งหมด 6 ร้าน ดังนี้ Chef's Table (เชฟส์เทเบิล) , Le Normandie (เลอ นอร์มังดี) , Mezzaluna (เมซซาลูน่า) , R-Haan , Sorn (ศรณ์) และ Sühring นอกจากร้านทั้ง 6 นี้แล้วยังมีร้านที่ติดระดับ 1 ดาวครั้งแรกอีก 6 ร้านโดยทุกร้านอยู่ในเขตกรุงเทพได้แก่