ภาวะตลาดหุ้นไทย (https://www.suthichaitalk.com/8-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%84-%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%81/)ปิดลบ 7.60 จุด ผันผวนหนักรับความไม่แน่นอนสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,619.10 จุด ลดลง 7.60 จุด (-0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 149,938.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,633.50 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,580.80 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 573 หลักทรัพย์ ลดลง 1,424 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 398 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน ค่อนข้างมาก หลังจากต้นภาคช่วงเช้ารีบาวด์ขึ้นมาในแดนบวก ก่อนจะปรับตัวลดลงไปลึกถึง 45.90 จุด จากนั้นดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้ ซึ่งยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ แม้ประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบทางตรง แต่เป็นผลกระทบทางอ้อมจากราคาพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ได้ หลังจากภาพรวมดัชนีสองวันนี้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว แต่ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาเพื่อหาทางออก
โดยให้แนวรับ 1,600 จุด และ แนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 7,007.96 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,476.83 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,273.12 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,967.70 ล้านบาท ปิดที่ 11.70 บาท ลดลง 0.40 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,915.83 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง