(https://i.ibb.co/JxD41Vc/750x422-953955-1628587271.jpg)
ฝ่ายประชาสัมพันธ์การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ. โดยกระทรวงคมนาคม จะดำเนินการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ (https://www.thailawdata.com/Guestpost/%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86-%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9D%E0%B8%B1/)ของทางพิเศษ รวม 3 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 19 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน ในวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2564 (วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หรือ วันแม่แห่งชาติ) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ถึง 24.00 น. จำนวน 1 วัน
ซึ่งเป็นวันหยุดราชการประจำปีตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทาน ฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID 19 กทพ. ได้จำกัดการให้บริการ ทางพิเศษทุกด่านฯ ทุกสายทาง เว้นแต่รถที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนด ระหว่างเวลา 21.00 น.- 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น มาตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ กทพ.ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้ทางพิเศษอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ หากไม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทาง ออกนอกบ้าน หรือหากจำเป็นต้องใช้ทางพิเศษเดินทางในวันปกติที่ไม่ได้ยกเว้นค่าผ่านทาง ควรสมัครใช้บัตร Easy Pass เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับธนบัตรหรือเหรียญ ซึ่งอาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค รวมถึงใช้บริการเติมเงิน ในบัตร Easy Pass ผ่าน Application ของธนาคารต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะได้รับความสะดวกรวดเร็วแล้วยังจะช่วยลดความเสี่ยงจากการรับหรือแพร่เชื้อ COVID-19 ได้อีกด้วย