นายโทโยอากิ นาคามูระ สมาชิกคณะกรรมการกำกับนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้กล่าวต่อที่ประชุมผู้นำธุรกิจผ่านระบบทางไกลในจังหวัดยามานาชิในวันนี้ว่า ความพยายามในการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังผู้บริโภค (https://www.ziliosolai.com/%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%84%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%84%e0%b8%b1%e0%b8%81-26-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99-hua-lamphong-in-your-eyes-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%8a/)เมื่อไม่นานมานี้ของบริษัทต่าง ๆ อาจประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ โดยการขึ้นราคาสินค้ามีความแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในญี่ปุ่น
ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยถ้อยคำของนายนาคามูระว่า เงินเฟ้อผู้บริโภคพื้นฐานในญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมาย 2% ของ BOJ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการขึ้นราคาสินค้าในระดับ "ปานกลาง"
อย่างไรก็ดี เขายอมรับว่ายังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับพฤติกรรมการกำหนดราคาของผู้ประกอบการ โดยเตือนว่าต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อกำไรผู้ประกอบการ หากบริษัทไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้สำเร็จ
"มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทต่าง ๆ จะส่งต่อต้นทุนให้กับผู้บริโภคมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยจุดยืนเชิงรุกของบริษัทเกี่ยวกับการกำหนดราคาถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับญี่ปุ่นในการเปลี่ยนแปลงไปสู่เส้นทางการเติบโตใหม่และบรรลุเป้าหมายเสถียรภาพทางราคาของเรา" นายนาคามูระกล่าว
ที่แล้วมา บริษัทญี่ปุ่นพยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาสินค้า เพราะหวั่นกระทบอุปสงค์ผู้บริโภค แต่ต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาขายส่งทะยานสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ หนุนนำให้บริษัทจำนวนมากขึ้นตัดสินใจส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภค
นอกจากนี้ การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจและสร้างแรงกดดันขาลงต่อการบริโภคภาคเอกชนในญี่ปุ่น โดยนายนาคามูระกล่าวว่ากำลังจับตาการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนในจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก เพราะสามารถนำไปสู่ภาวะชะงักงันด้านอุปทานโลกและแรงกดดันเงินเฟ้ออันยืดเยื้อยาวนาน