(https://i.ibb.co/cbn5KHz/162823001989.jpg)
สถาบันอาหาร โดยศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหารได้จัดทำข้อมูลอุตสาหกรรมอาหาร (https://www.zernzab.com/Guestpost/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1/)และเครื่องดื่มของไทยปี 2563 ไว้เป็นฐานข้อมูลความรู้ ระบุมีจีดีพี 870,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.5% จีดีพีประเทศ และยังคงครองแชมป์อันดับ 1 โลกที่ส่งออกทูน่า มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์สับปะรด (ส่วนแบ่งในตลาดโลก 31.3% 35.3% 37.7% ตามลำดับ) ตลาดส่งออกหลักคือ จีน 18.3% CLMV 13.9% ญี่ปุ่น 12.7% เอเซียน+5 12.1% และสหรัฐ 10%
ขณะที่ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินวิเคราะห์แนวโน้มปี 2564 ภาพรวมของผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีทิศทางดีขึ้น จากการขยายตัวของความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการที่หลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์
ทำให้มีความต้องการกักตุนอาหารเพิ่มมากขึ้นเพื่อไว้บริโภคภายในครัวเรือน ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกไปประเทศคู่ค้าหลักขยายตัว โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป อาหารพร้อมทาน-พร้อมปรุงตลอดจนอาหารที่เก็บรักษาได้นาน เช่น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋อง น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น