ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => ธุรกิจ งาน => Topic started by: Thetaiso on January 04, 2022, 11:36:21 PM

Title: ดาวโจนส์ประเดิมปีใหม่พุ่งเกือบ 100 จุด นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง
Post by: Thetaiso on January 04, 2022, 11:36:21 PM
ดาวโจนส์ป (https://www.amnatnews.com/%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99/)ระเดิมปีใหม่พุ่งเกือบ 100 จุด นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง ขณะเมินโอมิครอน

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของปี 2565 โดยนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง และหันเข้าซื้อหุ้น หลังจากที่คลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ท่ามกลางความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

ณ เวลา 21.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,433.98 จุด บวก 95.68 จุด หรือ 0.26%

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 18.7% ในปี 2564 ส่วนดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้น 26.9% และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้น 21.4% โดยดัชนีทั้ง 3 ปรับตัวขึ้นติดต่อกันถึง 3 ปี ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2542

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสายการบิน และกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ ต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้

หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 8.4% หลังจากบริษัทรายงานว่าสามารถส่งมอบรถยนต์จำนวน 308,600 คันในไตรมาส 4/64 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยถึงแม้ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้รัฐบาลของหลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ทางด้านเจพีมอร์แกน เชส ออกรายงานก่อนหน้านี้ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสอดคล้องกับรูปแบบวิวัฒนาการของไวรัสในอดีต และจะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้โควิด-19 กลายสภาพเป็นเพียงโรคประจำฤดูกาล

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งหากออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้