• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Prichas

#8656


Boom เปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ ทั่วประเทศ

+ มีสินค้าสุขภาพหลากหลาย ให้ทำตลาด
+ไม่ต้องรักษายอดตลอดชีวิต
+จับมือทำจนกว่าจะเป็น ไม่มีประสบการณ์ก็ทำได้
+ แถมฟรี!!! เว็บสำหรับขายสินค้าและคอร์สเรียนยิงแอด
+ เปิดบิลขั้นต่ำแค่ 5 ชิ้น คละได้หลายสินค้า

!!เศษรฐกิจแย่ ว่างงาน ธุรกิจหน้าร้านขาดทุน เบื่อเป็นพนักงานประจำ หาเงินผ่อน บ้าน รถ ปิดหนี้ สร้างอาชีพได้จริงการันตีได้จากผลงาน คุณพอลอายุน้อยร้อยร้าน!!! ล้มเหลวจากที่อื่นมาปรึกษาเราได้  ขอรายละเอียดเพิ่ม คลิกลิ้งค์

ADD LINE :: https://lin.ee/l88281N

Facebook :: https://facebook.com/dealerboom
#8657
การสั่งจองคัมภีร์พระเวทย์
โดยประสิทธิ์ให้เป็นรายบุคคล ท่านใดต้องการจอง ค่าครู 399 บาท



คัมภีร์พระเวทย์ มีวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

บทนำ บทสวดมนต์ การอัญเชิญบรมครู การขึ้นพานครู บทไหว้ครู บทอัญเชิญครู วิชาเชิญแม่คุ้มครอง วิชากันภัย ๘ ทิศ

วิชากำลังช้างสาร วิชาเสกน้ำปลุกตัว วิชากำแพงแก้ว วิชาตาข่ายเพชรพระเจ้า ๕ พระองค์ วิชาผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้าน

วิชากันขโมย วิชาปล่อยปลาต่ออายุ การทำสังฆทาน วิชาแก้กรรมทำแท้ง วิชาแก้อาถรรพ์ (ไปรับวัตถุมงคลที่ไม่ดี, รับขันธ์ ฯลฯ) วิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยตนเอง วิชาตั้งหิ้งพระค้าขาย วิชาการแก้กรรมเฉพาะกิจ วิชาทวงหนี้

วิชาแก้ไฝในที่ลับ วิชาพฤกษาชาติเสริมชะตา วิชาขอขมาพ่อแม่ วิชาลอยสรรพเคราะห์ด่วน วิชาทำน้ำมนต์ประทุมทิพย์

วิชาแก้เคล็ดเสริมลาภ วิชามงกุฎยอดทรัพย์ วิชาไหว้ผีปู่ผีย่า วิชาสร้างปราณเสริมลาภ การทำน้ำมนต์ถอนคุณไสย

วิชาถอนของ ของสมเด็จโต วิชาแก้ของในร้านค้า วิชาเรียกของหาย พระคาถาต่าง ๆ พระคาถาขุนแผน พระคาถาคิ้วทอง

พระคาถาพระลักษณ์หน้าทอง พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง พระคาถาเขี้ยวแก้ว พระคาถาราศีทอง พระคาถาสาลิกามัดจิต

พระคาถาไม้สวรรค์ พระคาถาเมตตาอ่อนใจ พระคาถาผูกใจ พระคาถาเสกสีผึ้ง พระคาถาพ่นบุหรี่ พระคาถามหาระรวย

พระคาถามหานิยม พระคาถาเทพรัญจวน พระคาถานะหน้าทอง พระคาถานกแขกเต้า พระคาถาเสกสีผึ้งสีปาก

พระคาถาการะเวกเสียงทอง พระคาถาสาลิกาดลใจ พระคาถาพญาไก่แก้วทั้ง ๑๖ ลืมรัง วิชาฤามหานิยม

การทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน วิชาทำหุ่น ทำรัก-ทำเลิก การทำเสน่ห์การ้องทัก (เรียกจิต) วิชาฤาษีมัดใจ(เสกของกิน)

มนต์เสน่ห์มัดใจ(รักกันจนวันตาย) มนต์ปู่จ้อยมหาเสน่ห์ วิชาหงส์ร่อนมังกรรำ วิชามนต์เทพมัดจิตบังคับใจ

วิชากลับธาตุกลับใจ วิชากรงทอง คาถาเสริมลาภ เสกธูปเรียกขนหงส์ทอง คาถาขอลาภ เสกธูปเรียกคน

พระคาถาเรียกเงิน การทำน้ำมนต์ค้าขาย มนต์ขุนแผนเรียกคน บทสวดขอลาภ การทำเทียนสะเดาะเคราะห์

คาถาเรียกเลข วิชาลงทอง เสกน้ำล้างหน้า เหตุใดคาถาถึงศักดิ์สิทธิ์และไม่ศักดิ์สิทธิ์ มนต์ทำงัวธนู การบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาแก้ฝันร้าย รวมทั้งนิมิตร้าย และลางร้ายต่างๆ เชิญอาคมเข้าสู่ตัว คาถาอาวุธ ๔ ประการ คาถาขอทรัพย์พญานาคราช คาถาบูชาจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธมัจฉราชจริยาคาถา คาถาปลาช่อน (คาถาขอฝน) การบูชาพระราหู พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เปิดโลก (เรียกบุญบารมีเดิม) คาถาเงินล้าน คาถาชินบัญชร การฝึกสมาธิ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่



โทร. 0846623662

id line : teerapat999



ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632506885.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfMp9Zq0



#8658
" BOOM COLLAGEN PLUS "  คอลลาเจน+วิตามินผิว 36 ชนิด



เติมความสดชื่น ผิวลื่นไปอีกก !!  หอม อร่อย สดชื่น ปังมาก

Boom Collagen+

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพผิว ผม เล็บ  ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง

ให้คุณดูดีจากภายในสู่นอก ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด



นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

 ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์ 



เสริมสร้างสุขภาพได้ง่ายๆ

- นอกจากช่วยให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยบำรุงข้อกระดูก ช่วยลดอาการเสื่อมของข้อต่อ

-เสริมสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ...ดื่มทุกวัน ดีทุกวัน...

ผิวบูมได้ทุกวัน ง่ายๆ

อย่างครบวงจร ให้คุณดูดีจากภายในสู่ภายนอก

ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด

นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก



Collagen คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

คอลลาเจนเป็นโปรตีนมีอยู่ในสัดส่วน 30 % ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

โดยพบมากที่สุดที่ผิวหนัง

ด้วยคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์



ผิวบูมได้ทุกวัน

เพื่อให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่พร้อม เปล่งประกาย

เพียงแค่ดื่ม BOOM วันละ 1-2 ซอง

ผิวของคุณก็จะค่อยๆดูดีขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Boom

ช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน

สู่ความสวยใสเปล่งประกาย สู่ผิวพรรณภายนอก

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0104

ราคา 590 บาท


สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999



รายละเอียดเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1232


#ปัญหาฝ้า #กระ #จุดด่างดำ #ผิวหมองคล้ำ #ดูดซึมง่ายทันที #พกพาสะดวก  #ขาวใส
#8659


โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ เผยเทรนด์ตลาดบ้านหลังที่สอง หรือฮอลิเดย์โฮม ในเมืองพัทยาดีมานด์ยังดี เนื่องจากระบุเทรนด์การทำงานที่บ้านยาวนานขึ้น ส่งผลผู้ซื้อมองหาที่พักระยะยาวเพื่อพักผ่อน และทำงานพร้อมๆ กัน แจงลูกค้าสนใจ "โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา" ซื้อขายต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 พร้อมเปิด 2 มุมมองผู้ซื้อจริง "อยู่เอง" เพื่อการพักผ่อน และ "ลงทุน" เป็นสินทรัพย์ส่งต่อถึงรุ่นลูก เชื่อมั่นศักยภาพเมืองพัทยาจะฟื้นกลับมาได้ในอนาคต

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยายังคงเป็นที่น่าจับตามองแม้ในวิกฤตโควิด-19 ที่กำลังระบาด แม้ว่าโดยรวมจะพบว่าผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ แต่ในขณะเดียวกัน มีกำลังซื้อบางส่วนที่ต้องการหาซื้อบ้านพักตากอากาศหรือบ้านพักหลังที่ 2 ยังมีแนวโน้มยอดขายเติบโตได้ ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถคลี่คลายได้ภายในปีนี้ ตลาดก็มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะค่อยๆ ฟื้นตัว เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติได้ในช่วงปี 65 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี แม้ในสถานการณ์ของการระบาดโควิด-19 ความต้องการซื้ออสังหาฯ ในเมืองพัทยายังเติบโตได้ดี จากข้อมูลของคอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า ณ ครึ่งแรกปี 64 อัตราการขายเฉลี่ยในตลาดคอนโดมิเนียมพัทยาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 69.20% เพิ่มขึ้นประมาณ 1.20% จากในช่วงครึ่งหลังของปี 63 ปัจจัยหลักๆ จากที่ยังไม่มีซัปพลายเติมเข้าสู่ตลาดมากนักจนไม่เกินภาวะล้นเกิน ศักยภาพของเมืองที่แข็งแกร่งจากการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานให้กับเมืองอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน ได้ส่งผลให้พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนไป ปรับสู่การทำงานที่บ้านมากขึ้น หรือ Work from Home และด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยทำให้คนทำงานยุคใหม่ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะ แต่ปรับวิถีไปเป็น Work from Anywhere มากขึ้นเชื่อว่าจะเป็นเทรนด์ใหม่หลังยุคโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ บ้านตากอากาศ หรือฮอลิเดย์โฮม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง ทั้งเพื่อการพักผ่อน ทำงาน และสร้างมูลค่าจากการลงทุนในอนาคต เทรนด์ Work From Home ยาวขึ้น ส่งผลพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน



นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 63 จนถึงปัจจุบัน เทรนด์การทำงานจากที่บ้านที่ยาวนานขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและเริ่มมองหาชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนมากขึ้น รวมถึงการจำกัดพื้นที่และการเคลื่อนย้ายจากการประกาศล็อกดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ สะท้อนทิศทางที่สอดรับสภาพความเป็นจริงของการขายและการตลาดฮอลิเดย์โฮมในพื้นที่พัทยา 

โดยเฉพาะโครงการของบริษัท "โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา" ได้รับความสนใจจากการซื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงโควิด-19 ที่กำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากในประเทศ ที่จะมองว่าพัทยายังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการพักผ่อนตากอากาศบ้านหลังที่ 2 บรรยากาศโดยรวมเอื้อต่อการท่องเที่ยว มีกิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำร่วมกัน อีกทั้งใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น

"จากแนวโน้มการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่หรือ New Normal ผู้ประกอบการอสังหาฯ กำลังเผชิญกับรสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจทำให้เริ่มมีการมองหาที่พักระยะยาว หรือบ้านหลังที่ 2 สำหรับพักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆ กัน" นายณพงศ์ กล่าว
#8660


นายธีระ ทองวิไล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์บ้านพฤกษามาอย่างยาวนานเปิดเผยว่า "บ้านพฤกษา มีจุดแข็งที่โดดเด่นอยู่แล้วในเรื่องการออกแบบฟังก์ชัน พื้นที่ใช้สอยที่พอเพียง ตรงกับความต้องการลูกค้า เเละไม่หยุดที่จะพัฒนาบ้านคุณภาพ แต่เนื่องจากไลฟ์สไตล์ลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ของโลก ทำให้เราต้องกลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้การออกแบบบ้านและโครงการในวันนี้ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้ดีที่สุด ทั้งในอนาคต ดังนั้น ในปี 2021 นี้ เราจึงนำแนวคิด "พฤกษาใส่ใจ...เพื่อทั้งชีวิต Tomorrow Reimagined." ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้ชีวิตที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Living Innovation หรือ Smart Living ที่พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งในวันนี้ และพรุ่งนี้


ในด้านการปรับเปลี่ยนของตัวบ้าน ได้มีการดึงผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและตกแต่ง Exterior, Interior และ Landscape มาทำงานร่วมทีมของพฤกษา เพื่อให้ได้มิติของการออกเเบบที่ครบรอบด้าน ทั้งเเง่ความสวยงาม ความร่มรื่น เเละฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง เพื่อความสมบูรณ์แบบของการเป็น "บ้านหลังเเรก" โดยออกแบบให้เป็นบ้านที่ทุกคนอยู่สบาย มีความเรียบง่าย ดูร่มรื่น ซึ่งเหมาะสำหรับภูมิอากาศของประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน และยังคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางของผู้อาศัย โดยออกแบบให้ตัวบ้านสามารถระบายความร้อน มีช่องระบายอากาศ ช่องรับแสงธรรมชาติต่างๆ การวางผังบ้านเพื่อหลบทิศทางของแดดรับลมได้มากขึ้น ในสวนส่วนกลางจะใช้พรรณไม้ที่เป็นสไตล์ทรอปิคอล เพิ่มร่มเงา มีพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับกิจกรรมของทุกช่วงอายุในแบบ Universal Design รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ Pet Zone ซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตามอง เพราะในปัจจุบันสังคมไทยยุคใหม่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก และมีสัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่ให้ความสำคัญมากขึ้น รวมถึงยกระดับมาตรฐานด้านบริการเพื่อรองรับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายทั้งในวันนี้และในอนาคตข้างหน้า"



ทางด้าน น.ส.อังคณา ลิขิตจรรยากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันพฤกษาเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมในระดับราคา 1-3 ล้านบาท เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า จึงได้มีการรีแบรนด์ "บ้านพฤกษา" ครั้งใหญ่ในรอบ 28 ปี ชูคอนเซ็ปต์ "บ้านหลังแรก เพื่อชีวิตที่ดีกว่า"

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญและความเป็นผู้นำด้านทาวน์โฮมของบ้านพฤกษา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบบ้านและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้คนไทย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่อยากให้คนไทยมีบ้าน พร้อมปรับเปลี่ยนดีไซน์โลโก้ของแบรนด์บ้านพฤกษา ด้วยการหยิบเอา Brand DNA "บ้านหลังเเรก เพื่อชีวิตที่ดีกว่า" (First home, .ter life) มาเป็นหลักคิดในการออกแบบโลโก้ใหม่ มีการใช้กราฟิกรูปใบไม้ซึ่งบ่งบอกถึงชีวิต การเติบโต ยั่งยืน เสมือนการสร้างชีวิต ก้าวใหม่ที่เติบโตไปด้วยกันที่บ้านหลังแรก การใช้โทนสีน้ำเงินสื่อถึง Positioning ของบ้านพฤกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทาวน์โฮมมายาวนาน และโทนสีเขียว สื่อถึงความสุขและความร่มเย็น สะท้อนถึงการมีชีวิตการอยู่อาศัยที่ดีกว่าที่บ้านพฤกษา โดยยังจับกลุ่มลูกค้าในช่วงอายุ 28-40 ปี รายได้ครัวเรือนประมาณ 25,000-50,000 บาท ซึ่งมีความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลที่สะดวกในการใช้ชีวิต ใกล้แหล่งชุมชน ตลาด มีรถสาธารณะ สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก และมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อการใช้งาน โดยพฤกษาก็มีการเฟ้นหาทำเลที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง

บ้านพฤกษา พร้อมเปิดตัวบ้านแนวความคิดใหม่ในหลายหลายทำเล ทั้ง กทม.และปริมณฑล สอบถามข้อมูลโทร.1739 หรือ https://baanpruksa.pruksa.com/
#8661
การสั่งจองคัมภีร์พระเวทย์
โดยประสิทธิ์ให้เป็นรายบุคคล ท่านใดต้องการจอง ค่าครู 399 บาท



คัมภีร์พระเวทย์ มีวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

บทนำ บทสวดมนต์ การอัญเชิญบรมครู การขึ้นพานครู บทไหว้ครู บทอัญเชิญครู วิชาเชิญแม่คุ้มครอง วิชากันภัย ๘ ทิศ

วิชากำลังช้างสาร วิชาเสกน้ำปลุกตัว วิชากำแพงแก้ว วิชาตาข่ายเพชรพระเจ้า ๕ พระองค์ วิชาผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้าน

วิชากันขโมย วิชาปล่อยปลาต่ออายุ การทำสังฆทาน วิชาแก้กรรมทำแท้ง วิชาแก้อาถรรพ์ (ไปรับวัตถุมงคลที่ไม่ดี, รับขันธ์ ฯลฯ) วิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยตนเอง วิชาตั้งหิ้งพระค้าขาย วิชาการแก้กรรมเฉพาะกิจ วิชาทวงหนี้

วิชาแก้ไฝในที่ลับ วิชาพฤกษาชาติเสริมชะตา วิชาขอขมาพ่อแม่ วิชาลอยสรรพเคราะห์ด่วน วิชาทำน้ำมนต์ประทุมทิพย์

วิชาแก้เคล็ดเสริมลาภ วิชามงกุฎยอดทรัพย์ วิชาไหว้ผีปู่ผีย่า วิชาสร้างปราณเสริมลาภ การทำน้ำมนต์ถอนคุณไสย

วิชาถอนของ ของสมเด็จโต วิชาแก้ของในร้านค้า วิชาเรียกของหาย พระคาถาต่าง ๆ พระคาถาขุนแผน พระคาถาคิ้วทอง

พระคาถาพระลักษณ์หน้าทอง พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง พระคาถาเขี้ยวแก้ว พระคาถาราศีทอง พระคาถาสาลิกามัดจิต

พระคาถาไม้สวรรค์ พระคาถาเมตตาอ่อนใจ พระคาถาผูกใจ พระคาถาเสกสีผึ้ง พระคาถาพ่นบุหรี่ พระคาถามหาระรวย

พระคาถามหานิยม พระคาถาเทพรัญจวน พระคาถานะหน้าทอง พระคาถานกแขกเต้า พระคาถาเสกสีผึ้งสีปาก

พระคาถาการะเวกเสียงทอง พระคาถาสาลิกาดลใจ พระคาถาพญาไก่แก้วทั้ง ๑๖ ลืมรัง วิชาฤามหานิยม

การทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน วิชาทำหุ่น ทำรัก-ทำเลิก การทำเสน่ห์การ้องทัก (เรียกจิต) วิชาฤาษีมัดใจ(เสกของกิน)

มนต์เสน่ห์มัดใจ(รักกันจนวันตาย) มนต์ปู่จ้อยมหาเสน่ห์ วิชาหงส์ร่อนมังกรรำ วิชามนต์เทพมัดจิตบังคับใจ

วิชากลับธาตุกลับใจ วิชากรงทอง คาถาเสริมลาภ เสกธูปเรียกขนหงส์ทอง คาถาขอลาภ เสกธูปเรียกคน

พระคาถาเรียกเงิน การทำน้ำมนต์ค้าขาย มนต์ขุนแผนเรียกคน บทสวดขอลาภ การทำเทียนสะเดาะเคราะห์

คาถาเรียกเลข วิชาลงทอง เสกน้ำล้างหน้า เหตุใดคาถาถึงศักดิ์สิทธิ์และไม่ศักดิ์สิทธิ์ มนต์ทำงัวธนู การบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาแก้ฝันร้าย รวมทั้งนิมิตร้าย และลางร้ายต่างๆ เชิญอาคมเข้าสู่ตัว คาถาอาวุธ ๔ ประการ คาถาขอทรัพย์พญานาคราช คาถาบูชาจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธมัจฉราชจริยาคาถา คาถาปลาช่อน (คาถาขอฝน) การบูชาพระราหู พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เปิดโลก (เรียกบุญบารมีเดิม) คาถาเงินล้าน คาถาชินบัญชร การฝึกสมาธิ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่



โทร. 0846623662

id line : teerapat999



ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632506885.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfMp9Zq0



#8662
" BOOM COLLAGEN PLUS "  คอลลาเจน+วิตามินผิว 36 ชนิด



เติมความสดชื่น ผิวลื่นไปอีกก !!  หอม อร่อย สดชื่น ปังมาก

Boom Collagen+

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพผิว ผม เล็บ  ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง

ให้คุณดูดีจากภายในสู่นอก ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด



นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

 ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์ 



เสริมสร้างสุขภาพได้ง่ายๆ

- นอกจากช่วยให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยบำรุงข้อกระดูก ช่วยลดอาการเสื่อมของข้อต่อ

-เสริมสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ...ดื่มทุกวัน ดีทุกวัน...

ผิวบูมได้ทุกวัน ง่ายๆ

อย่างครบวงจร ให้คุณดูดีจากภายในสู่ภายนอก

ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด

นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก



Collagen คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

คอลลาเจนเป็นโปรตีนมีอยู่ในสัดส่วน 30 % ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

โดยพบมากที่สุดที่ผิวหนัง

ด้วยคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์



ผิวบูมได้ทุกวัน

เพื่อให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่พร้อม เปล่งประกาย

เพียงแค่ดื่ม BOOM วันละ 1-2 ซอง

ผิวของคุณก็จะค่อยๆดูดีขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Boom

ช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน

สู่ความสวยใสเปล่งประกาย สู่ผิวพรรณภายนอก

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0104

ราคา 590 บาท


สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999



รายละเอียดเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1232


#ปัญหาฝ้า #กระ #จุดด่างดำ #ผิวหมองคล้ำ #ดูดซึมง่ายทันที #พกพาสะดวก  #ขาวใส
#8663


ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพุธ(1ก.ย.) หลังโอเปกและพันธมิตรเห็นพ้องคงนโยบายปัจจุบันสำหรับเพิ่มกำลังผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบ ท่ามกลางข้อมูลภาคแรงงาน เช่นเดียวกับราคาทองคำ นักลงทุนรอตัวเลขภาคแรงงานอันสำคัญที่จะเปิดเผยช่วงปลายสัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 4 เซนต์ ปิดที่ 71.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โอเปกและพันธมิตรในวันพุธ(1ก.ย.) หรือที่เรียกว่าโอเปกพลัส เห็นพ้องคงนโยบายปัจจุบันสำหรับเพิ่มกำลังผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อุปสงค์พลังงานปี 2022 และกำลังเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้เพิ่มกำลังผลิตเร็วขึ้น

ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสเห็นพ้องกันในเดือนกรกฏาคมว่าจะลดระดับมาตรการลดกำลังผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันเป็นเวลา 1 เดือน แต่จากการตัดสินใจล่าสุด นั่นหมายว่าความโอเปกพลัสจะปล่อยน้ำมันสู่ตลาดเพิ่ม 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม ขยายกรอบเวลาเพิ่มเติมจากเดือนกันยายน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(1ก.ย.) ปิดผสมผสานในกรอบแคบๆ จับตาข้อมูลการจ้างงานอเมริกา ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงบั่นทอนการฟื้นตัว

ดาวโจนส์ ลดลง 48.20 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,312.53 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.41 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,524.09 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 50.15 จุด (0.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,309.38 จุด

วอลล์สตรีทพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆนี้ นักลงทุนเมินความเสี่ยงจากเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และมีความหวัง หลังจากเฟดส่งสัญญาณยังคงใช้แนวทางอะลุ้มอล่วยในนโยบายทางการเงิน

อย่างไรก็ตามข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่เผยแพร่ในวันพุธ(1ก.ย.) พบว่านายจ้างเอกชนมีการจ้างงานน้อยกว่าที่คาดหมายไว้ในเดือนสิงหาคม ก่อความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการจ้างงานที่ครอบคลุมกว่านี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์(3ก.ย.)

ด้านราคาทองคำในวันพุธ(1ก.พ.) ปิดลบเล้กน้อย นักลงทุนรอข้อมูลภาคแรงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงทิศทางแนวโน้มของเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,816.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์/เอเอฟพี)
#8664



ผู้เชี่ยวชาญเตือนการเริ่มปลดล็อกมาตรการเข้มงวด อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของไทยและอินโดนีเซียดีดกลับ เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนยังต่ำ ซ้ำเจอตัวกลายพันธุ์ที่ระบาดรวดเร็วอย่าง "เดลตา" ด้านอิสราเอลเดินหน้านโยบาย "อยู่กับโควิด" ด้วยการเปิดโรงเรียนวันแรกเมื่อวันพุธ (1 ก.ย.) ภายใต้ข้อกำหนดใหมให้นักเรียนต้องสวมหน้ากากป้องกัน และแสดงหลักฐานยืนยันผลตรวจเป็นลบ กรณีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

หลังจากควบคุมการระบาดได้ดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ ของโลกเมื่อปีที่แล้ว เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ จากการมาเยือนของตัวกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา

กระนั้น แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ ทว่า อินโดนีเซียและไทยกลับเริ่มผ่อนคลายคำสั่งห้ามรับประทานอาหารในร้านและยอมให้เปิดห้างสรรพสินค้าเพื่อผ่อนคลายผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์

ในวันอังคาร (31 ส.ค.) อินโดนีเซียรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 10,534 คน ลดลงจากสถิติสูงสุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 5 เท่า ขณะที่ไทยรายงานตัวเลขอยู่ที่ 14,802 คนในวันพุธ (1) ลดลง 37% จากช่วงที่โควิด-19 ระบาดรุนแรงที่สุดกลางเดือนสิงหาคม

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า การผ่อนคลายมาตรการจำกัดเข้มงวด ทำให้เกิดความเสี่ยง เนื่องจากระดับการฉีดวัคซีนของทั้งสองประเทศยังต่ำ และขาดแคลนชุดทดสอบ รวมทั้งผลการตรวจที่เป็นบวกยังสูงกว่า 5% ตามเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ

อบิเชริก ริมาล ผู้ประสานงานด้านสุขภาพฉุกเฉินประจำเอเชีย-แปซิฟิกของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ แสดงความกังวลกับการผ่อนคลายมาตรการจำกัด ทั้งที่ 2 ประเทศยังมีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์ที่ WHO เสนอ และสำทับว่า จากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาขณะนี้ ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน

ทั้งนี้สัดส่วนผู้ป่วยที่ให้ผลทดสอบเป็นบวกของอินโดนีเซียล่าสุดอยู่ที่ 12% ส่วนไทย 34%

อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 4 ล้านคน และเสียชีวิตรวมกว่า 133,000 คนนับจากโควิดเริ่มระบาด สำหรับไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 1.2 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 11,841 คน

ทั้งสองประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มแรกอยู่ที่ราว 30% ของจำนวนประชากร โดยอินโดนีเซียมีผู้ได้รับวัคซีนครบโดส 17% และ 11% สำหรับไทย

เดล ฟิชเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านโรคติดเชื้อของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ กล่าวว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ทว่า ประเทศที่ต้องการคลายล็อกต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชน

ในอีกด้านหนึ่ง อิสราเอลอนุญาตให้นักเรียนกลับไปเรียนตามปกติเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ โดยบังคับให้สวมหน้ากากป้องกันและมีผลตรวจโควิด-19 ยืนยัน ทั้งนี้ เพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่ที่กำลังบ่อนทำลายแผนเปิดประเทศของอิสราเอลซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่โครงการฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จมากที่สุด

ทว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกังวลว่า การเริ่มภาคเรียนใหม่โดยที่นักเรียนส่วนใหญ่กลับเข้าห้องเรียนตามปกติจะทำให้การระบาดยิ่งรุนแรงก่อนเทศกาลวันหยุดของชาวยิวในเดือนนี้ ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลต้องล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกรอบ

จำนวนผู้ติดเชื้อในอิสราเอลกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งจากสายพันธุ์เดลตา และทำสถิติสูงสุดในวันอังคารที่ 10,947 คน จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคน

การเปิดโรงเรียนภายใต้นโยบาย "อยู่ร่วมกับโควิด" ของนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเน็ตต์ ซึ่งส่วนหนึ่งประกอบด้วยการเร่งฉีดวัคซีนกระตุ้นให้ประชาชนนั้น กำหนดให้นักเรียนและครูที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนต้องตรวจโควิด

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลประกาศมาตรการใหม่ก่อนเปิดเทอมเพียงไม่กี่วัน ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่พอใจเนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก

ภายใต้มาตรการใหม่ นักเรียนอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์อายุต่ำสุดในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ต้องแสดงบันทึกของผู้ปกครองเพื่อยืนยันว่า ได้ตรวจโควิดเองที่บ้านและมีผลเป็นลบ อย่างไรก็ดี ทางการยกเว้นการตรวจในวันเปิดเทอมวันแรก แต่จะต้องตรวจก่อนและหลังเทศกาลวันหยุดซึ่งครอบครัวขนาดใหญ่มักใช้เวลาอยู่ร่วมกัน โดยเทศกาลวันหยุดวันแรกคือวันที่ 6 และวันสุดท้ายคือวันที่ 30 เดือนนี้

สำหรับในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง โรงเรียนที่มีนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนไม่ถึง 70% ต้องเรียนออนไลน์แทน ทั้งนี้ เว็บไซต์ข่าววายเน็ตรายงานว่า ในวันพุธมีนักเรียนอิสราเอลเพียง 10% ที่เรียนออนไลน์

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)
#8665


รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ประกาศคว้าตัว เอดูอาร์โด คามาวิงกา มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ แรนส์ มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัว 31 ล้านยูโรบวดแอดออน

กองกลางวัย 18 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ แรนส์ ต้นสังกัดเดิมในลีกเอิง ฝรั่งเศส นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งเจ้าตัวตกเป็นข่าวกับบิ๊กทีมในยุโรปหลายสโมสร ก่อนที่สุดท้ายจะลงเอยกับทีม 'ราชันชุดขาว' ในที่สุด โดยเซ็นสัญญายาวถึงปี 2027

รีล มาดริด จ่ายเงินให้กับ แรนส์ เพียงแค่ 31 ล้านยูโร พร้อมแอดออนโบนัสต่างๆ และเนื่องด้วยสัญญาที่เหลือเพียง 1 ปี ทำให้ยอดทีมแห่งศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ไม่รอช้าที่จะปล่อยตัวแข้งรายนี้ไปค้าแข้งในแดนกระทิงดุ

สำหรับ เอดูอาร์โด คามาวิงกา เป็นเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของแรนส์ และถูกส่งประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 16 ปีเท่านั้น ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดอีกด้วย

โดยเจ้าตัวลงเล่นให้กับ แรนส์ ไป 88 นัดในทุกรายการ ทำไป 2 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ และเคยถูกเรียกไปติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ มาแล้ว
#8666
การสั่งจองคัมภีร์พระเวทย์
โดยประสิทธิ์ให้เป็นรายบุคคล ท่านใดต้องการจอง ค่าครู 399 บาท



คัมภีร์พระเวทย์ มีวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

บทนำ บทสวดมนต์ การอัญเชิญบรมครู การขึ้นพานครู บทไหว้ครู บทอัญเชิญครู วิชาเชิญแม่คุ้มครอง วิชากันภัย ๘ ทิศ

วิชากำลังช้างสาร วิชาเสกน้ำปลุกตัว วิชากำแพงแก้ว วิชาตาข่ายเพชรพระเจ้า ๕ พระองค์ วิชาผูกหุ่นพยนต์เฝ้าบ้าน

วิชากันขโมย วิชาปล่อยปลาต่ออายุ การทำสังฆทาน วิชาแก้กรรมทำแท้ง วิชาแก้อาถรรพ์ (ไปรับวัตถุมงคลที่ไม่ดี, รับขันธ์ ฯลฯ) วิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ต่อชะตาด้วยตนเอง วิชาตั้งหิ้งพระค้าขาย วิชาการแก้กรรมเฉพาะกิจ วิชาทวงหนี้

วิชาแก้ไฝในที่ลับ วิชาพฤกษาชาติเสริมชะตา วิชาขอขมาพ่อแม่ วิชาลอยสรรพเคราะห์ด่วน วิชาทำน้ำมนต์ประทุมทิพย์

วิชาแก้เคล็ดเสริมลาภ วิชามงกุฎยอดทรัพย์ วิชาไหว้ผีปู่ผีย่า วิชาสร้างปราณเสริมลาภ การทำน้ำมนต์ถอนคุณไสย

วิชาถอนของ ของสมเด็จโต วิชาแก้ของในร้านค้า วิชาเรียกของหาย พระคาถาต่าง ๆ พระคาถาขุนแผน พระคาถาคิ้วทอง

พระคาถาพระลักษณ์หน้าทอง พระคาถาสาลิกาลิ้นทอง พระคาถาเขี้ยวแก้ว พระคาถาราศีทอง พระคาถาสาลิกามัดจิต

พระคาถาไม้สวรรค์ พระคาถาเมตตาอ่อนใจ พระคาถาผูกใจ พระคาถาเสกสีผึ้ง พระคาถาพ่นบุหรี่ พระคาถามหาระรวย

พระคาถามหานิยม พระคาถาเทพรัญจวน พระคาถานะหน้าทอง พระคาถานกแขกเต้า พระคาถาเสกสีผึ้งสีปาก

พระคาถาการะเวกเสียงทอง พระคาถาสาลิกาดลใจ พระคาถาพญาไก่แก้วทั้ง ๑๖ ลืมรัง วิชาฤามหานิยม

การทำเสน่ห์ด้วยใบรักซ้อน วิชาทำหุ่น ทำรัก-ทำเลิก การทำเสน่ห์การ้องทัก (เรียกจิต) วิชาฤาษีมัดใจ(เสกของกิน)

มนต์เสน่ห์มัดใจ(รักกันจนวันตาย) มนต์ปู่จ้อยมหาเสน่ห์ วิชาหงส์ร่อนมังกรรำ วิชามนต์เทพมัดจิตบังคับใจ

วิชากลับธาตุกลับใจ วิชากรงทอง คาถาเสริมลาภ เสกธูปเรียกขนหงส์ทอง คาถาขอลาภ เสกธูปเรียกคน

พระคาถาเรียกเงิน การทำน้ำมนต์ค้าขาย มนต์ขุนแผนเรียกคน บทสวดขอลาภ การทำเทียนสะเดาะเคราะห์

คาถาเรียกเลข วิชาลงทอง เสกน้ำล้างหน้า เหตุใดคาถาถึงศักดิ์สิทธิ์และไม่ศักดิ์สิทธิ์ มนต์ทำงัวธนู การบูชาท้าวเวสสุวรรณ คาถาแก้ฝันร้าย รวมทั้งนิมิตร้าย และลางร้ายต่างๆ เชิญอาคมเข้าสู่ตัว คาถาอาวุธ ๔ ประการ คาถาขอทรัพย์พญานาคราช คาถาบูชาจ้าวปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธมัจฉราชจริยาคาถา คาถาปลาช่อน (คาถาขอฝน) การบูชาพระราหู พระคาถาพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เปิดโลก (เรียกบุญบารมีเดิม) คาถาเงินล้าน คาถาชินบัญชร การฝึกสมาธิ



ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อบูชา ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่



โทร. 0846623662

id line : teerapat999



ลาซาด้า

https://pdp.lazada.co.th/products/i2632506885.html?spm=a1zawg.20038917.content_wrap.6.2f304edfMp9Zq0



#8667


จากนโยบาย "รับยาที่ร้านยา" ของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอยนานของผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ซึ่งคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีมติเห็นชอบและดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายไปแล้วนั้น มีผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 1 ม.ค. 2564 โดยพบว่า มีผู้ป่วยไปรับยาที่ร้านยาสะสม 29,299 คน จำนวนใบสั่งยาสะสม 54,730 ใบ มีโรงพยาบาลเข้าร่วม 141 แห่ง และร้านยา 1,081 แห่ง

จากการ "ประเมินผลโครงการนำร่องให้ผู้ป่วยรับยาที่ร้านยาเพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล ระยะที่ 2" ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ชี้ให้เห็นว่า ผู้ป่วยใช้เวลาสำหรับการรอรับยา ลดลงจาก 42นาที เหลือ 6 นาทีจากการรับยาที่ร้านยา นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าเดินทางและค่าอาหารจากการไปรับยาที่ร้านยาได้เฉลี่ย 95 บาทต่อครั้งเมื่อเทียบกับการไปรับยาที่โรงพยาบาล รวมทั้งการรับยาที่ร้านยายังช่วยในเรื่องความสะดวกจากการนัดหมายเวลาไปรับยาได้ และเภสัชกรมีเวลาในการอธิบายการใช้ยาให้กับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ตลอดจนเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
ร้านสมนึกเภสัช ใน อ.เมือง จ.ชลบุรี หนึ่งในร้านยาในโครงการนำร่องร่วมกับโรงพยาบาลชลบุรี ซึ่ง ภญ.สุณีรัตน์ กิตติคุณ เภสัชกรร้านยาสมนึกเภสัช ให้ข้อมูลในเรื่องนี้ว่า ทางร้านร่วมโครงการรับยาที่ร้านยา ในรูปแบบที่ 1 ในช่วงตุลาคม 2562 โดยโรงพยาบาลจะจัดยาของผู้ป่วยแต่ละรายให้แก่ร้านยา และได้เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบที่ 3 คือ ร้านยาบริหารจัดการยาเอง ครอบคลุมทั้งด้านการคัดเลือกและจัดซื้อยา การสำรองยา การจัดเตรียมยาและจ่ายยา พร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยรายบุคคล โดยผู้ป่วยยังคงต้องเข้าพบแพทย์ที่ รพ. เพื่อรับการตรวจรักษาและสั่งยาเหมือนปกติ แต่ข้ามขั้นตอนรอรับยาที่ รพ. ไปรับยาที่ร้านยาที่กำหนดแทน ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองระบบตั้งแต่มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา

ภญ.สุณีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มุมมองเภสัชกรร้านยาเรายินดีที่จะใช้วิชาชีพของเราช่วยเหลือรัฐและชุมชนแม้จะอยู่ร้านยาแต่เราไม่ใช่แค่คนที่ซื้อมาขายไป เราสามารถส่งมอบการใช้ยา และแนวทางการดูแลคนไข้ได้เต็มที่ เสมือนเป็นห้องยาเล็กๆของโรงพยาบาล ซึ่งค่าตอบแทนจากบริการ ถ้าเราจะคิดแค่ในเชิงธุรกิจก็ไม่ได้คุ้มค่ามาก แต่สิ่งที่เราคิดและได้คือความภูมิใจมากกว่า เพราะได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและระบบสุขภาพ

ปัจจุบัน จ.ชลบุรี มีผู้ป่วยร่วมโครงการประมาณ 800 ราย มีร้านยาเครือข่ายของ รพ.ชลบุรี 27 ร้าน ภญ.สุณีรัตน์ เล่าว่า ที่ร้านดูแลผู้ป่วยประมาณ 300 ราย ระยะแรกผู้ป่วยยังกังวลในบริการที่อาจไม่เหมือนโรงพยาบาล แต่สิ่งที่เภสัชกรของร้านมีให้ คือ ไม่ใช่แค่ผู้ป่วยมารับยาแล้วเราบอกว่าต้องกินอย่างไร แต่ก่อนจ่ายยาเรามีการวัดความดัน ซักถามประเมินอาการ และที่เราให้มากกว่ายาคือ แนวทางปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ลดผลไม้ที่ให้ค่าน้ำตาลสูง โดยทุกเดือนเราได้ติดตามผล เมื่อผู้ป่วยน้ำหนักลดลง ค่าน้ำตาลดี ความดันปกติเราก็รู้สึกสุขใจ เหมือนเป็นติวเตอร์ให้ผู้ป่วยที่ผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาจากเภสัชได้นานขึ้น หรือกรณีผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องกินยาทุกวัน ยาบางตัวอาจจะไม่เห็นผลทันที จึงทำให้ผู้ป่วยหยุดยาเอง ซึ่งอาจส่งผลกับการกำเริบของโรคและปริมาณยาที่เหลือเยอะขึ้น ซึ่งจะแนะนำให้กินยาต่อเนื่อง เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หากหยุดยาจะเกิดอันตราย เช่นเกิดอัมพาตได้ กรณีแบบนี้เราต้องโทรไปติดตามการใช้ยาร่วมด้วย ความใกล้ชิดลักษณะนี้ ผู้ป่วยบางรายกล้าเปิดใจกับเรามากขึ้น เราจะเข้าใจปัจจัยต่างๆเกี่ยวกับผู้ป่วยซึ่งเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการใช้ยาและการดูแลรักษาโรคให้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนั้น ในสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ร้านยายังมีบทบาทสำคัญในเรื่องต่างๆ ซึ่งในเรื่องนี้ ภญ.สุณีรัตน์ กล่าวว่า "เนื่องจากชลบุรีเป็น 1 ใน 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ทางร้านยาของเราได้แจ้งความประสงค์สมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยกระจายชุดตรวจโควิด ATK ตามนโยบายของ สปสช. ตั้งแต่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติ โดยในช่วง ส.ค.-ก.ย.นี้ เราพร้อมที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้ชุดตรวจ ตลอดจนการดูแลรักษาตัวที่บ้านอย่างเหมาะสม ทั้งผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและพบว่าป่วยในกลุ่มสีเขียว"

สำหรับความสำเร็จโครงการนำร่องฯ ของ รพ.ชลบุรี ดร.พญ.สุชาดา อโณทยานนท์ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลชลบุรี กล่าวถึงปัจจัยสำคัญว่ามาจาก 1.ภาคนโยบาย คือ กระทรวงสาธารณสุข ที่สนับสนุนการแก้ระเบียบที่เป็นข้อจำกัด, สปสช. สนับสนุนงบให้หน่วยบริการและร้านยา 2.ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ รพ.ชลบุรี กับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินจำนวนผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ เช่น กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือมีระดับอาการคงที่ ไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์, การปรับปรุงระบบ IT เพื่อรองรับการปฏิบัติการ 3.ทีมหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองชลบุรี เป็นทีมปฐมภูมิเชิงปฏิบัติการ ได้แก่ แพทย์ ที่ช่วยแนะนำผู้ป่วยร่วมโครงการและมีระบบรองรับช่วยเหลือหากเกิดปัญหาสุขภาพในการส่งต่อมาที่ รพ. สร้างความมั่นใจกับผู้ป่วย, ทีมสหวิชาชีพ เช่น พยาบาลคัดกรอง เภสัชกรช่วยจัดยา และทีมสนับสนุน/ประสานงาน 4.ร้านยาและเครือข่าย เช่น สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชน(ประเทศไทย) สมาคมร้านยารวมใจไทยภาคตะวันออก สมาคมเภสัชกรจังหวัดชลบุรี สมาคมผู้ประกอบการร้านยาจังหวัดชลบุรี รวมถึงกลุ่มเภสัชกรยังได้มีการเรียนรู้ร่วมกัน เมื่อมีการขยายร้านยาในพื้นที่จะอบรมกันเองหรือช่วยประสานการทำงานที่ตอบสนองกับความต้องการของรัฐ เพื่อให้ระบบดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และ 5.ผู้ป่วยและครอบครัว เห็นถึงความสำคัญโครงการ ตลอดจนชี้แนะจุดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้การดำเนินงานราบรื่นถึงปัจจุบัน

ดร.ภญ.นพคุณ ธรรมธัชอารี ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. กล่าวสรุปทิ้งท้ายในเรื่องนี้ไว้ว่า งานวิจัยนี้เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ข้อเสนอแนะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายนำไปใช้ในการออกแบบระบบบริการด้านยา ที่แยกการจ่ายยาของเภสัชกรออกจากการสั่งยาของแพทย์ ลดความแออัดในโรงเพยาบาล ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับบริการและการดูแลการใช้ยาอย่างมีคุณภาพ ลดปริมาณความสูญเสียที่เกิดจากยาเหลือใช้ได้ ที่สำคัญผู้ให้บริการ คือโรงพยาบาล ได้ทำงานเป็นทีมร่วมกับร้านยา มีเภสัชกรจากร้านยาช่วยทำงานดูแลผู้ป่วยเพิ่ม โดยที่โรงพยาบาลไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจ้างเภสัชกร เภสัชกรโรงพยาบาลมีเวลามากขึ้นในการดูแลผู้ป่วยที่ยังจำเป็นต้องใช้ยาในโรงพยาบาล ด้านผู้ให้บริการ คือเภสัชกรร้านยา ได้ใช้ความรู้ดูแลผู้ป่วยหรือชุมชนบ้านเกิดไปพร้อมกัน

นับเป็นแนวทางให้กับผู้กำหนดนโยบายสำหรับนำไปพิจารณาขยายและพัฒนาโครงการต่อไป หรือส่งต่อตัวอย่างดำเนินการให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อนำไปปรับใช้ โดยเฉพาะด้านการบริการจากร้านยาชุมชนโดยเภสัชกรที่ให้มากกว่ายา คือ "หัวใจของการดูแล" รวมทั้งยังสามารถปรับประยุกต์การดำเนินงานรับยาที่ร้านยาให้เป็นประโยชน์กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นช่องทางใหม่ในการดูแลสุขภาพของชุมชน
#8668
" BOOM COLLAGEN PLUS "  คอลลาเจน+วิตามินผิว 36 ชนิด



เติมความสดชื่น ผิวลื่นไปอีกก !!  หอม อร่อย สดชื่น ปังมาก

Boom Collagen+

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพผิว ผม เล็บ  ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง

ให้คุณดูดีจากภายในสู่นอก ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด



นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

 ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์ 



เสริมสร้างสุขภาพได้ง่ายๆ

- นอกจากช่วยให้ผิวสวยแล้ว ยังช่วยบำรุงข้อกระดูก ช่วยลดอาการเสื่อมของข้อต่อ

-เสริมสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ...ดื่มทุกวัน ดีทุกวัน...

ผิวบูมได้ทุกวัน ง่ายๆ

อย่างครบวงจร ให้คุณดูดีจากภายในสู่ภายนอก

ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดที่มีมากถึง 36 ชนิด

นำเข้าจากต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก



Collagen คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

คอลลาเจนเป็นโปรตีนมีอยู่ในสัดส่วน 30 % ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย

โดยพบมากที่สุดที่ผิวหนัง

ด้วยคุณสมบัติที่อุ้มน้ำได้ดี ให้ความแข็งแรงและยืดหยุ่น

ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง แน่นเนียนกระชับ ลดริ้วรอย ดูอ่อนเยาว์



ผิวบูมได้ทุกวัน

เพื่อให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่พร้อม เปล่งประกาย

เพียงแค่ดื่ม BOOM วันละ 1-2 ซอง

ผิวของคุณก็จะค่อยๆดูดีขึ้น มีชีวิตชีวาขึ้น

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Boom

ช่วยในการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายใน

สู่ความสวยใสเปล่งประกาย สู่ผิวพรรณภายนอก

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0104

ราคา 590 บาท


สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ

Tel. 0846623662

Line id : teerapat999



รายละเอียดเพิ่มเติม  http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1232


#ปัญหาฝ้า #กระ #จุดด่างดำ #ผิวหมองคล้ำ #ดูดซึมง่ายทันที #พกพาสะดวก  #ขาวใส
#8669


ช่วงบ่ายของวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 5 ห้องว่าการแขวงผ้งสาลี ได้มีพิธีเซ็นบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างแผนกแผนการและการลงทุน ในฐานะตัวแทนแขวงผ้งสาลี กับบริษัทยู่เจิง ลงทุน จากจีน ผู้ลงนามในสัญญา ได้แก่ ทองสุก เปาสุลี หัวหน้าแผนกแผนการและการลงทุนแขวง สมหวัง สุมวิไล เจ้าเมืองยอดอู และเซินปิ่ง ประธานบริษัทยู่เจิง ลงทุน โดยมีคำผอย วันนะสาน เจ้าแขวงผ้งสาลี เป็นสักขีพยาน

เนื้อหาของ MOU อนุญาตให้บริษัทยู่เจิง ลงทุน สำรวจพื้นที่ 250 ตารางกิโลเมตร ในเมืองยอดอู เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยม ลาว จีน เวียดนาม รวมถึงจัดทำแผนโดยละเอียดของโครงการ และทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสังคม มานำเสนอต่อแขวง

ยังไม่มีรายละเอียดของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยม ลาว จีน เวียดนาม ถูกเปิดเผยออกมา แต่ในเบื้องต้น เนื้อที่สำหรับสร้างเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษฯ แบ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรม 150 ตารางกิโลเมตร เขตบริการและท่องเที่ยวอีก 100 ตารางกิโลเมตร รวมถึงสร้างถนนจากบ้านใหญ่อูเหนือ ในเมืองยอดอู ไปถึงสามเหลี่ยมจุดบรรจบชายแดน 3 ประเทศ ลาว จีน เวียดนาม

เจ้าหน้าที่ในแขวงผ้งสาลีผู้หนึ่ง บอกกับสถานีวิทยุเอเซียเสรี ภาคภาษาลาว ว่า แขวงผ้งสาลีได้วางแผนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ไว้นานแล้ว แต่เพิ่งได้เซ็น MOU ให้บริษัทยู่เจิง ลงทุน เข้ามาสำรวจศึกษาความเป็นไปได้

ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในพิธีเซ็น MOU ไม่ได้ให้รายละเอียดของบริษัทยู่เจิง ลงทุน เพียงระบุว่า MOU ฉบับนี้มีอายุ 18 เดือน กำหนดให้บริษัทต้องเริ่มลงสำรวจพื้นที่ภายใน 30 วัน นับจากวันลงนาม และบริษัทยู่เจิง ลงทุน ได้วางเงินค้ำประกันไว้ที่แขวง 80 ล้านกีบ หรือประมาณ 2.4 แสนบาท ตลอดอายุ MOU

"ยอดอู"เป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของลาว มีพื้นที่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติฮาหนี และอี๋ เจียงเฉิง จังหวัดผูเอ่อร์ มณฑลยูนนาน ของจีน และอำเภอเหมืองแญ้ จังหวัดเดี่ยนเบียน เวียดนาม เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอู ความยาว 448 กิโลเมตร ที่ไหลไปลงแม่น้ำโขงที่แขวงหลวงพระบาง โดยตลอดลำน้ำสายนี้ มีเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำอู ที่เป็นการลงทุนของบริษัท Sinohydro Corporation จากจีน ตั้งอยู่ถึง 7 แห่ง ลดหลั่นลงไปตามลำดับความสูงของพื้นที่


ปัจจุบัน ลาวมีเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งตั้งอยู่ตรงจุดรอยต่อชายแดน 3 ประเทศแล้ว 1 แห่ง คือเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นการลงทุนของจีน ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว อยู่ริมแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน เมียนมา

นอกจากนี้ ยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตั้งอยู่ชายแดน ได้แก่ เขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนงาม ซึ่งเป็นการลงทุนจากจีนอีกเช่นกัน ตั้งอยู่ที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ตรงข้ามกับเมืองบ่อหาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน , เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน อยู่ที่เมืองเซโน แขวงสะหวันนะเขต ตรงข้ามกับจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐบาลลาวและนักลงทุนมาเลเซีย และเขตเศรษฐกิจพิเศษวังเต่า-โพนทอง ของนักลงทุนลาว ตั้งอยู่ในบริเวณด่านสากลวังเต่า ตรงข้ามกับด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
#8670


เปิดประเด็นข้อเท็จจริง จริงหรือไม่? ที่อเมริกาและประเทศพันธมิตร ไม่อนุญาตให้ "นักศึกษาจีน" ไปเรียนอีกต่อไป

การเรียนต่อต่างประเทศของนักเรียน "นักศึกษาจีน" เป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเคียงคู่ไปกับกระแสที่ทางการจีนปฏิวัติ "ธุรกิจการศึกษา" และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในจีน เพราะจำนวนนักศึกษาจีนไปเรียนต่อยังต่างประเทศในแต่ละปีถือว่าสูง เอาแค่ย้อนไปเมื่อราว 20 ปีที่ผ่านมา ช่วงปี 2002–2007 จำนวนนักศึกษาจีนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ อยู่ที่ประมาณ 100,000 คนต่อปี และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีมานี้ โดยเฉพาะการไปเรียนต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา

แต่มีการชะลอตัวไปบ้างในช่วงสามปีมานี้ เนื่องจากจีนมีปัญหาสงครามการค้ากับอเมริกา และต่อเนื่องด้วยความขัดแย้งทางการเมือง อย่างประเด็นการแพร่ระบาดโควิด และการเมืองไต้หวัน-ฮ่องจง ซึ่งจีนมองว่าอเมริกาเข้าไปแทรกแซง ทำให้มีประเด็นการแบนและตั้งข้อจำกัดที่ทำให้คนจีนขอวีซ่าไปเรียนในอเมริกายากขึ้นออกมาในพื้นที่สื่อทั่วโลก จนถึงขั้นเกิดข่าวลือในช่วงนี้ว่า "อเมริกาตัดสินใจห้ามนักศึกษาจีนเข้าไปเรียนที่อเมริกา รวมถึงประเทศที่เป็นพันธมิตรอเมริกาด้วย อย่าง แคนาดา ญี่ปุ่น"

จริงหรือไม่? นักเรียนนักศึกษาจีนทั้งหมดถูกอเมริกาและอีกบางประเทศ ห้ามไปเรียน!

อ้ายจง ขอบอกอย่างนี้ครับว่า อเมริกาไม่ได้ "ห้าม" หรือ "ไม่อนุญาต" ให้ "นักศึกษาจีน" เข้าไปเรียนที่อเมริกาอีกต่อไปเหมือนดังได้รับข่าวลือที่ออกมานะครับ ยังคงมีนักศึกษาจีนได้รับการตอบรับเพื่อเข้าเรียนในอเมริกา และเริ่มเดินทางไปยังอเมริกาแล้วโดยเฉพาะเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากอเมริกาผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในการขอวีซ่าและเดินทางเข้าอเมริกา โดยอนุญาตให้นักเรียนจีนเดินทางเข้าอเมริกาได้ สำหรับโปรแกรมการศึกษาที่จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2021 เป็นต้นไป มีเงื่อนไขว่า "เดินทางเข้าอเมริกาล่วงหน้า ไม่เกิน 30 วัน ของเวลาเปิดเทอมหรือเริ่มต้นคอร์สเรียน" 

และ ตามข้อมูลจาก China Daily สื่อจีนรายใหญ่ ระบุว่า จำนวนนักศึกษาจีนทั้งหมดที่เรียนในอเมริกาช่วงปีการศึกษา 2019-2020 ยังคงครองสัดส่วนใหญ่ในอเมริกา มีทั้งหมด 372,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของนักศึกษาต่างชาติหลักล้านคนในอเมริกา

ต้องยอมรับว่า ณ ขณะนี้ คนจีนเจอข้อจำกัดในการไปเรียนต่อเมริกาและต่างประเทศมากขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น จากวิกฤติโควิด ค่าตั๋วค่าเดินทางแพงขึ้น

ข้อมูลจาก SCMP (South Morning China Post) สื่อเอกชนสายจีน กล่าวถึง ค่าตั๋วเครื่องบินจากจีนเข้าอเมริกา ราคาสูงมาก เป็นหนึ่งในข้อจำกัดสำคัญ ตัวอย่างเช่น ตั๋วเที่ยวเดียวจากปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ ไปยังปลายทางมหานครนิวยอร์ก บอสตัน หรือเมืองใหญ่อีกหลายเมืองในอเมริกา ต้องจ่ายเงินสูงถึงราว 20,000 หยวน (ประมาณ 1 แสนบาท) เลยทีเดียว

ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างจีนและอเมริกา มีผลกระทบต่อการเรียนต่อในอเมริกาของพลเมืองจีน อเมริกาแบนและจำกัดการขอวีซ่าจริงๆ ถึงขั้นแบนมหาวิทยาลัยจีนบางแห่งเลยก็มีนะครับ แต่แบนและจำกัดเฉพาะบางราย ไม่ใช่ 100% โดยมุ่งเน้นไปที่การศึกษาต่อในสายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และ คณิตศาสตร์ หรือเรียกรวมว่า STEM จากประเด็นความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ สหรัฐอเมริกาเกรงกลัวว่า ข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ STEM รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่นๆ จะหลุดรั่วไหลไปยังรัฐบาลจีนและกองทัพจีน ผ่านทางนักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจีน

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

ปี 2020 อเมริกาประกาศ "แบนและยกเลิกวีซ่านักศึกษาแก่นักศึกษาจีน" อย่างน้อย 2 รอบ สืบเนื่องมาตั้งแต่ความขัดแย้งทางการค้าในสงครามการค้าของทั้งสองประเทศ โดยเหตุผลที่ยกเลิกวีซ่า อเมริกายกเหตุผลว่า "นักศึกษาจีนเหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับทางการทหารจีน และขโมยข้อมูลสำคัญของทางอเมริกาไปให้แก่ทางจีน" คาดว่ามีนักศึกษาจีนได้รับผลกระทบอย่างน้อย 3,000–5,000 คน เมื่อเทียบกับสัดส่วนตัวเลขจำนวนนักศึกษาจีนในอเมริกา 372,000 คน คิดเป็น 0.8–1.3% เท่านั้น

เมื่อพฤษภาคมปีนี้ Global Times สื่อกระบอกเสียงทางการจีน เผยแพร่รายงานข้อมูลจาก Gewai Education บริษัทแนะแนวศึกษาต่ออเมริกา ซึ่งเผยข้อมูลการขอวีซ่าอเมริกาของนักเรียนจีนจำนวนหนึ่งโดนปฏิเสธ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงอยู่ในหน่วยงานเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศจีน รวมถึงหน่วยงานปราบปรามคอรัปชั่นและตรวจคนเข้าเมือง ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่า เหตุผลการแบนในข้างต้นเป็นความจริง โดยเพิ่มเติมโพรไฟล์และภูมิหลังของครอบครัวด้วย ถ้าหากเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน อาจมีแนวโน้มโดนแบน ไม่ได้วีซ่าอเมริกา

นักศึกษาจีน บางคนที่โดนแบนให้สัมภาษณ์กับสื่อ อย่างเช่น นักศึกษาหนุ่มจีนนาม "Dennis Hu" ให้สัมภาษณ์ต่อ CNN ว่า เดินทางกลับจากอเมริกาไปยังบ้านในประเทศจีน เพื่อฉลองตรุษจีน (ช่วงจีนเกิดระบาดโควิด) และจะกลับไปต่อวีซ่าอเมริกา เพื่อกลับไปทำปริญญาเอกทางด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ให้จบ แต่ปรากฏว่าเขาเป็น 1 ในนักศึกษาจีนนับพันคนที่ "โดนแบนวีซ่า" ไม่ให้กลับไปศึกษาต่อในอเมริกา และแน่นอนว่าเขาก็เหมือนกับทุกคนที่โดนแบน ยืนยัน ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ หรือเป็นสายลับให้กับรัฐบาลจีน

อย่างที่กล่าวไปแล้ว นอกเหนือจากแบนและจำกัดการขอวีซ่าแก่พลเมืองจีน รัฐบาลอเมริกายังแบนตัวมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา-สถาบันวิจัยในจีนอีกด้วย กล่าวคือ ตั้งแต่ช่วงสงครามการค้าจีนอเมริกาอย่างหนักในปี 2019 อเมริกาประกาศแบนหลายสินค้าและบริษัทของจีน ไม่เว้นแม้แต่สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยในจีนที่โดนแบนไปทั้งหมด 6 แห่ง ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับสายเทคโนโลยีและวิศวกรรมของจีน และถือเป็นหน่วยงานที่ทำโปรเจกต์สำคัญๆ แก่รัฐบาลจีน

ในฐานะที่ อ้ายจง เป็นศิษย์เก่าสถาบันที่มีอยู่ในรายชื่อแบนของอเมริกา (Beihang University หรือรู้จักในนาม มหาวิทยาลัยการบินและอวกาศปักกิ่ง) ผมสอบถามไปยังเพื่อนคนจีนที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น โดยได้รับคำตอบว่า เคยมีเหมือนกันที่อาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษาปัจจุบัน และศิษย์เก่า รู้สึกว่า "ขอวีซ่าเข้าอเมริกายากขึ้นจริง" แต่ยังเข้าไปได้อยู่ อาจยากขึ้นกว่าสมัยก่อน แต่ยังไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ

จากมาตรการของประเทศสหรัฐอเมริกา เข้มงวดเรื่องวีซ่าแก่นักเรียนนักศึกษาจีน รวมถึงนักวิจัยจีน ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยและความมั่นคง เคยมีการนำเสนอข่าวออกมาโดยสื่อต่างประเทศเหมือนกันว่า ประเทศพันธมิตรของอเมริกาบางประเทศ มีการดำเนินนโยบายคล้ายๆ กันนี้ อย่างเช่น ญี่ปุ่น ตามการรายงานข่าวของ The Straits Times

แคนาดา ก็เคยมีการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแคนาดา ระมัดระวังการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยจีน เพราะข้อมูลอาจรั่วไหลไปถึงรัฐบาลจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการทหารจีน เป็นความวิตกกังวลและกลัวในประเด็นเดียวกันกับที่อเมริกาให้เหตุผลแบนวีซ่านักเรียนนักศึกษาและนักวิจัยจีน

แน่นอนว่า "จีน" ไม่ได้ปล่อยให้ประชาชนของตนโดนแบนและถูกตราหน้าว่า "ลักลอบขโมยข้อมูลสำคัญในประเทศอเมริการวมถึงประเทศอื่นๆ" จีนพยายามตอบโต้นโยบายเข้มงวดแก่นักศึกษาจีนของอเมริกามาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2019 สงครามการค้าจีนอเมริกา รัฐบาลจีนออกประกาศเตือนประชาชนถึงการไปเรียนต่อและเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ระมัดระวังในเรื่องของการขอวีซ่าที่มีข้อจำกัดมากขึ้น ให้ระยะเวลาอยู่ในอเมริกาลดน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะส่งผลโดยตรงต่อนักศึกษาจีนที่ต้องการไปเรียนต่อที่อเมริกา

ประเทศจีนเองเพิ่มความเข้มงวดและข้อจำกัดในการขอวีซ่าแก่ชาวอเมริกาเช่นกัน ในเดือนมิถุนายน 2020 ทางการจีนออกมาตรการ "เพิ่มข้อจำกัดในการออกวีซ่าแก่ชาวอเมริกัน ที่มีพฤติกรรมเชิงลบต่อเรื่องราวของจีนและฮ่องกง" ปีเดียวกันกับอเมริกาเริ่มแบนและยกเลิกวีซ่าแก่นักศึกษาจีนแบบจริงจัง สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญและสื่อต่างประเทศ "อเมริกาแบนและตั้งข้อจำกัดวีซ่าแก่จีน ไม่ใช่แค่มาจากเรื่องความมั่นคง แต่เบื้องลึกคือ แสดงออกถึงการต่อต้านการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนนำไปใช้กับฮ่องกง"

อย่างไรก็ตาม เราอาจได้เห็นนักศึกษาจีนไปเรียนยังอเมริกาหรือต่างประเทศลดน้อยลง ไม่ใช่เพียงจากเหตุผลทางการเมือง หรือการแพร่ระบาดโควิด ยังมีเหตุผลเรื่อง "ชาตินิยม" ที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง และการแก้ไขปัญหาเรื่อง "สมองไหล หัวกะทิ คนจีนผู้มากความสามารถ ไปเรียนและทำงานต่างประเทศของรัฐบาลจีนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย" จีนดำเนินนโยบายดึงดูดคนจีนเก่งๆ ให้กลับมาประเทศจีน ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามการค้าจีนอเมริกาและการขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนัก

จากประสบการณ์จริงของอ้ายจง สมัยไปทำวิจัยที่เมืองซีอานปี 2014 ตอนนั้นที่แลปดีลกับมหาวิทยาลัยในอเมริกาและยุโรปเยอะมากในด้านทำการวิจัย ภายใต้การร่วมมือแต่ละครั้ง ทางแลปและมหาวิทยาลัยจะดีลโดยตรงส่วนตัวกับอาจารย์และศาสตราจารย์จีนที่ทำงานในอเมริกา ให้มาเป็นอาจารย์และนักวิจัยในมหาวิทยาลัยจีน ดึงดูดด้วยผลตอบแทนและโอกาสก้าวหน้าทางอาชีพ เพื่อให้คนเก่งหัวกะทิเหล่านี้มั่นใจว่า "คุ้มค่าในการกลับไปยังประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตน"  

 อ่านบทความทั้งหมดของ อ้ายจง ได้ที่ https:// www.bangkokbiznews.com/blog/blogger/504