• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Naprapats

#3101


จอน ราห์ม นักกอล์ฟมือ 1 โลกชาวสแปนิช เปิดฉากการแข่งขัน เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ด้วยผลงานเยี่ยมตี 8 อันเดอร์พาร์ เป็นผู้นำร่วมกับ จัสติน โธมัส เจ้าบ้าน เมื่อจบรอบแรก วันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ศึกกอล์ฟ พีจีเอ ทัวร์ รายการ เดอะ นอร์เธิร์น ทรัสต์ ชิงเงินรางวัลรวม 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 316 ล้านบาท) ณ สนาม ลิเบอร์ตี เนชันแนล กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,353 หลา พาร์ 71 นิว เจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เปิดฉากแข่งรอบแรกไปแล้ว

จบวันแรก ผู้นำคือ จอน ราห์ม สวิงเบอร์ 1 โลกจากสเปน ตีได้อย่างไร้เทียมทาน 8 เบอร์ดีไม่มีพลาด กินเต็ม 8 อันเดอร์พาร์ แต่ก็ต้องแชร์เก้าอี้กับ จัสติน โธมัส มือ 5 โลกชาวอเมริกัน ที่ตีสกอร์ขึ้นมานำร่วมเท่ากัน

"ผมรู้สึกว่าตัวเองตีได้ดีกว่าที่เห็นภายนอกมาก เมื่อคุณจัดการตัวเองได้ดี ทุกอย่างก็จะดูง่ายขึ้นจากสกอร์ที่ออกมา" ราห์ม เผยหลังจบวันแรก

ด้านผู้เล่นคนอื่น ฮิเดกิ มัตสึยาม่า มือดังจากญี่ปุ่น อันดับ 15 ร่วม หลังตีวันแรก 2 อันเดอร์พาร์ ส่วน บรูค์ส โคปก้า ซูเปอร์สตาร์เจ้าบ้าน ตีได้ 1 อันเดอร์พาร์ อันดับ 34 ร่วม
#3102


หนึ่งในโครงการสำคัญในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) คือโครงการพัฒนา "สนามบินอู่ตะเภา" และ"เมืองการบินภาคตะวันออก" ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองการบินรวมทั้งเริ่มต้นลงทุนระบบเติมน้ำมันอากาศยาน

การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีการวางแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์แล้ว และหลังจากนี้จะเป็นการพัฒนาในแต่ละส่วน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานรองรับ โดยความคืบหน้า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่มีการรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 พบว่า

บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ซึ่งรับหน้าที่พัฒนาสนามบิน ได้จัดทำแผนแม่บทสนามบินฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้ว และมีการจ้างผู้ออกแบบระดับโลก

กองทัพเรือ (ทร.) ที่รับหน้าที่พัฒนาสนามบินได้ออกแบบทางวิ่ง 2 เสร็จแล้ว และมีการปรับถมดินทางขับระยะที่ 1 คืบหน้า 80.53%

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ "อีสท์วอเตอร์" รับผิดชอบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้เตรียมก่อสร้างระบบประปาและบำบัดน้ำเสีย

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับผิดชอบวางแผนแม่บทการพัฒนาภายในสนามบินได้จัดทำแผนแม่บทศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) แผนแม่บทศูนย์บริการอุปกรณ์ภาคพื้น และแผนแม่บทศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรทักษะชั้นสูงด้านอุตสาหกรรมการบิน

บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เคยมีแผนพัฒนา MRO ได้กันพื้นที่ให้การบินไทย 103 ไร่ หากต้องการลงทุนในอนาคต

ในขณะที่การวางระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ซึ่งผู้ได้รับคัดเลือก คือ บริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด (GAA) ซึ่งร่วมทุนระหว่าง บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ "BAFS" ถือหุ้น 55% และ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ "OR" ถือหุ้น 45% ภายใต้ทุนจะทะเบียน 600 ล้านบาท

สกพอ.ได้ลงนามการเช่าพื้นที่ราชพัสดุเพื่อพัฒนาโครงการพัฒนาระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศยานกับบริษัท โกลเบิลแอโร่แอสโซซิเอทส์ จํากัด เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2564 โดยเป็นการเช่าพื้นที่บริเวณสนามบินอู่ตะเภา 17 ไร่ สัญญาเช่า 14 ปี

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิธีลงนามครั้งนี้ โดยระบุว่า โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) คืบหน้าเป็นลำดับแต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โครงการที่เกี่ยวข้องกับการบิน 3 โครงการ สะดุดบ้าง แต่มั่นใจว่าเมื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้ และมีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นจะทำให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการบินในสนามบินอู่ตะเภาคืบหน้า โดยการลงทุนระบบการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานที่เป็นการเตรียมความพร้อมสำคัญที่จะเดินหน้าโครงการต่างๆ ในอีอีซี โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศทั้งการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานภายในสนามบินเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของสนามบิน

คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกพอ.กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดย สกพอ.ร่วมกับกองทัพเรือคัดเลือกเอกชนพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ซึ่ง GAA มีประสบการณ์มานานและเชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่จากภาคเอกชน อีกทั้งลดภาระงบประมาณและบุคลากรภาครัฐ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้ทำธุรกิจมากขึ้น


หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล ประธานกรรมการ GAA กล่าวว่า การเช่าที่ดินราชพัสดุดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุน โดยโครงการมีมูลค่าการลงทุนเริ่มแรก 2,237 ล้านบาท ซึ่ง GAA จะเตรียมความพร้อมในด้านระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ส่งเสริมศักยภาพสนามบินอู่ตะเภาที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานรองรับการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของสนามบินอู่ตะเภา ในปี 2568 และการเติบโตของอีอีซีตามนโยบายการพัฒนาประเทศ

รวมทั้ง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม ด้วยความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการและการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและธุรกิจด้านพลังงาน มามากกว่า 30 ปี โดย BAFS และ OR จะสนับสนุนให้ GAA มีศักยภาพ ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้การบริหารจัดการและการให้บริการณสนามบินอู่ตะเภามีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการค้าน้ำมันเสรีแบบ Open Access ดูแลระบบท่อส่งน้ำมันใต้ลานจอด

ประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BAFS กล่าวว่า "BAFS" เป็นผู้นำในด้านการให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจรของประเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทน้ำมันและสายการบินจากทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานและส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศ โดยการจัดตั้ง GAA จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และเป็นก้าวสำคัญในการรองรับการเติบโตของโครงการในอีอีซีและประเทศไทยต่อไปในอนาคต

จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR กล่าวว่า OR ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน Flagship ของกลุ่ม ปตท. และเป็นผู้นำด้านพลังงาน OR ให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากลด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมการบิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานภายในสนามบินอู่ตะเภา สอดคล้องเป้าหมายยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินนานานชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3
#3103


เว็บไซต์นิคเคอิ เอเชีย รายงานวันนี้ (19 ส.ค.) ว่า โตโยต้า ผู้ผลิตรถรายใหญ่ที่สุดในโลก มีแผนผลิตรถ 5 แสนคันในเดือนหน้า ลดลงจากแผนเดิมซึ่งอยู่ที่ 9 แสนคัน

รายงานระบุด้วยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. เป็นต้นไป โตโยต้าจะระงับการดำเนินงานในโรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่น และลดขนาดการผลิตลงในอเมริกาเหนือ จีน และยุโรป

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตา" ที่รวดเร็วและรุนแรงขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ของโตโยต้าด้วย

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

หลังมีรายงานของนิคเคอิ ปรากฏว่า ราคาหุ้นของโตโยต้าปิดตลาดวันนี้ ร่วงลง 4.42% มาอยู่ที่ 9,295 เยน


อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังไม่แสดงความคิดเห็นต่อรายงานนี้

ก่อนหน้านี้ บรรดาคู่แข่งของค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น จำเป็นต้องชะลอหรือระงับการผลิตรถชั่วคราว เนื่องจากขาดแคลนชิพ ซึ่งไมโครชิพเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับระบบไฟฟ้าในรถรุ่นใหม่ และประสบปัญหาขาดแคลนมาตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว

เดิมนั้น ปัญหาขาดแคลนชิพและปัญหาด้านซัพพลายเชนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้โรงงานหลายแห่งในญี่ปุ่นของโตโยต้าต้องระงับการดำเนินงานไปก่อนแล้ว

ต้นเดือนนี้ โตโยต้ารายงานว่า มีผลกำไรสุทธิในไตรมาสแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลจากยอดขายรถอันแข็งแกร่งหลังฟื้นตัวจากวิกฤติโควิดได้
#3104


มื่อวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.2564 ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็น ในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดยอนุญาตให้ธนาคารสถาบันการเงินที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถเปิดให้บริการได้ มีผลวันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป โดยพิจารณาข้อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 26 ข้อ ของสมาคมศูนย์การค้าไทย

สมาคมธนาคารไทยได้ประสานกับธนาคารสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมในการให้บริการของสาขา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของลูกค้าที่มาใช้บริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน ภายใต้การบริหารจัดการภายในสาขาและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จำกัดจำนวนลูกค้าและช่องให้บริการเพื่อลดความแออัด อย่างไรก็ตาม ธนาคารสมาชิกแต่ละธนาคารจะพิจารณาการเปิดสาขาตามความเหมาะสม  และความเสี่ยงของแต่ละธนาคารรวมถึงประกาศของเจ้าของพื้นที่และการประกาศของจังหวัด โดยมีแนวทางในการเปิดให้บริการ ดังนี้ 

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
1. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด จะพิจารณากลับมาเปิดให้บริการ โดยให้บริการไม่เกิน 17.00 น.

2. สาขาในห้างสรรพสินค้า สาขาในศูนย์การค้า และสาขาในคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนอกเขตพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการ แต่ไม่เกิน 17.00 น.


3. สาขาทั่วไปที่เป็นสาขา Stand Alone สามารถเปิดให้บริการตามปกติ 5 วัน หรือ 7 วันทำการ  ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร แต่จะเปิดให้บริการไม่เกิน 15.30 น.

4. สาขาใน 3 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เปิดให้บริการไม่เกิน 15.00 น

ทั้งนี้ การเปิดสาขาและจำนวนวันทำการของแต่ละสาขาจะเป็นไปตามการพิจารณาของแต่ละธนาคารสมาชิก โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาที่เปิดให้บริการได้ทาง website หรือช่องทาง Call Center อย่างไรก็ตาม สมาคมธนาคารไทยขอแนะนำให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking  หรือตู้ ATM และติดต่อธนาคารที่ใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ทาง Call Center  Line@ Facebook Website เพื่อความสะดวกและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด ทั้งนี้ ภาคธนาคารขอแจ้งงดให้บริการแลกเหรียญ และธนบัตรย่อยเพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัส
#3105


ผู้นำด้านสาธารณสุขของสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ชาวอเมริกันในเดือนก.ย. หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสโควิด-19 จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

"เราได้เตรียมพร้อมที่จะทำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ชาวอเมริกันทุกคนเริ่มตั้งแต่สัปดาห์ของวันที่ 20 ก.ย." แถลงการณ์ระบุ

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวลงนามโดยแพทย์หญิงโรเชล วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (ซีดีซี), แพทย์หญิงเจเน็ต วู้ดคอก รักษาการประธานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ), นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (เอ็นไอเอไอดี) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐอีกหลายราย

การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากเอฟดีเอและการพิจารณาทบทวนของคณะกรรมการที่ปรึกษาวัคซีนของซีดีซี ส่วนผู้ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้แก่ ผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นามาก่อน

ซีดีซี เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ชาวอเมริกันจำนวน 72.2% ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 1 เข็ม ขณะที่จำนวน 61.8% ได้รับการฉีดครบโดสแล้ว
#3106


"ชลิต อินดัสทรี" ผู้ผลิตและและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางชั้นนำของไทยและผู้ส่งออกรายสำคัญของประเทศ ภายใต้แบรนด์ "POP" เผยผลกระทบโควิค19 ทำภาคอุสาหกรรมยายนต์หดตัว แต่ในครึ่งปีแรกความต้องการด้านชิ้นส่วนและอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน (REM) กลับเพิ่มมากขึ้น ชลิตฯ สบช่อง ทุ่มงบกว่า 200 ล้าน เตรียมผุดโรงงานใหม่แห่งที่ 2 สวนกระแสเศรษฐกิจ รองรับตลาดส่งออกเติบโต ปัจจุบันโรงงานใหม่สร้างเสร็จไปแล้วกว่า 80% และคาดจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2564 นี้ พร้อมนำวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตใหม่เข้ามาใช้ ด้วยระบบ Software อัจฉริยะควบคุม ตรวจสอบคุณภาพระดับสากล มองแนวโน้มตลาดโตทั้งในประเทศและส่งออก เพราะผู้บริโภคปัจจุบันต้องการซ่อมบำรุงและรักษามากกว่าซื้อยานยนต์ใหม่

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ "POP" ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี หนึ่งในผู้นำตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ และอะไหล่ทดแทน (Aftermarket Parts) ของไทยและผู้ส่งออกรายสำคัญของประเทศ เปิดเผยว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังซื้อเริ่มหดตัวลงตั้งแต่ครึ่งปีแรกของปี 2563 แต่ทั้งนี้ความต้องการด้านชิ้นส่วนและอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน (REM; Replacement Equipment Man.cturer) ยังคงมีการขยายตัวได้ตามยอดจำนวนยานยนต์สะสม เนื่องจากผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซ่อมบำรุงและรักษายานยนต์เก่ามากขึ้น เพื่อยืดเวลาการซื้อยานยนต์ใหม่ออกไป

"ตลาดส่งออกยังมีแนวโน้มดี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปได้อีกมาก เพราะความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าของเรา ปัจจุบันบริษัทฯมีสินค้าส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม ลาว ดูไบ ญี่ปุ่น ตุรกี เคนย่า และเเอฟริกาใต้ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด และยกระดับมาตรฐานสินค้าให้ทันสมัยและเป็นไปตามมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วโดยกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2564 นี้ ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกกว่าเดิมอีกเท่าตัว โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆเข้ามาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมถึงการใช้ระบบ Software อัจฉริยะเข้ามาช่วยดูแลด้านการควบคุม ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ในระดับสากล" นายชวิศ กล่าว

ปัจจุบัน ชลิต อินดัสทรี ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพสูงระดับโลกหลากหลายประเภท ได้รับการยอมรับจากลูกค้าทางโรงงานผลิต ผู้ประกอบการ และผู้ใช้รถในทุกภูมิภาคของโลก ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำพวกรถเก๋งและรถกระบะ ไปจนถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (สิบล้อ) โดยมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 5,000 รายการ อาทิ ยางแท่นเครื่อง (Engine Mounting) ลูกปืนรองรับเพลากลาง (Center Bearing) บูชปีกนก (Arm Bushing) ยางแท่นเกียร์, ยางกันกระแทก, ยางกันสะเทือน,ยางเพลากลาง และ บูชโช๊คอัพล่าง เป็นต้น และการรับจ้างผลิตอะไหล่ OEM (Original Equipment Man.cturer) ตามคำสั่งของผู้ซื้อให้กับผู้ประกอบการและบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอีกหลายแห่ง
ทั้งนี้การผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ ชลิต อินดัสทรี เป็นไปตามมาตรฐานสากลและได้รับความไว้วางใจให้ผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์เพื่อเป็นอะไหล่ทดแทนให้กับหลากหลายแบรนด์ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของโลก พร้อมการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 ใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวและตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark (T MARK) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่น ในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการในด้านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ และการใช้แรงงานอย่างเป็นธรรมอีกด้วย โดยได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001) จากสำนักพัฒนามาตรฐานแรงงาน

ผู้ประกอบการและลูกค้าที่สนใจชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพ ภายใต้แบรนด์ "POP" สามารถสอบถามรายละเอียด ที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย หรือเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ https://chalitindustry.com หรือโทร. 02 8026400 หรือ Email: info@chalitindustry.com
#3107


บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) ฟื้นชัด! ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2564 กำไรสุทธิพุ่งแตะ 20.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.15% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ควบคุมต้นทุนได้ดีหลังปรับโครงสร้างองค์กร ฟากซีอีโอ "ธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์" ระบุแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง เน้นกลยุทธ์ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 2,900 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้ยาวถึงปีหน้า มั่นใจช่วยผลักดันผลงานปีนี้เทิร์นอะราวนด์ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ได้แน่นอน

นายธิติพงศ์ ตั้งพูนผลวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.15% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีผลขาดทุนเท่ากับ 51.65 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีผลขาดทุนเท่ากับ 102.16 ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการบริษัทฯ มีกำไรพิเศษ รวมถึงการควบคุมต้นทุนสินค้าที่มีประสิทธิภาพ และระบบการควบคุมงบประมาณที่ดี ส่งผลให้เกิดต้นทุนต่อหน่วยลดลง ขณะที่การปรับปรุงโครงสร้างองค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

"การดำเนินธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2564 มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และสามารถมีกำไรเติบโตจากงวดเดียวกันปีก่อน แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากภายหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิต และต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเริ่มรับรู้ผลกำไรจากการลงทุนของบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง"

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 จากมาตรการกึ่งล็อกดาวน์ของภาครัฐที่มีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้าง ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าน่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง Q4/2564 เนื่องจากปริมาณงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) อยู่แล้วกว่า 2,900 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2565 ทำให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2565 จะสามารถฟื้นเทิร์นอะราวนด์ได้อย่างชัดเจน จากปริมาณงานในมือกว่า 2,900 ล้านบาท และโดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้ในส่วนของโครงการภาครัฐ และเอกชนจะกลับมาขยายการลงทุนได้อีกครั้ง
#3108
 
 
 
ข้าวอินทรีย์ (Organic Rice) ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโต สารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผลข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นข้าวหอมมะลิปลอดสาร(Organic Rice) เป็นข้าวที่ได้จากการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปุ๋ยเคมี สารควบคุมและสารกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้าวในทุกขั้นตอนการผลิตและในระหว่างการเก็บรักษาผลผลิต หากมีความจำเป็นแนะนำให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และสารสกัดจากพืชที่ไม่มีพิษต่อคนหรือไม่มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในผลผลิต ในดินและในน้ำ ในขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตผล ข้าวกล้องออแกนิคที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย ส่งผลให้ผู้บริโภคมีสุขอนามัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
       ประเภทของข้าวอินทรีย์
   1. ข้าวอินทรีย์รับรองมาตรฐาน Certified Organic เป็นระบบการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีป้องกันศัตรูพืช มีการขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานอิสระ โดยมีทั้งภาครัฐ เอกชนและหน่วยงานจากต่างประเทศ มีตราสัญลักษณ์ติดที่ผลิตภัณฑ์ และจะต้องมีการตรวจเพื่อต่ออายุใบรับรองทุกปี
 
   2. ข้าวอินทรีย์ระยะปรับเปลี่ยน In-conversion เป็นข้าวที่อยู่ในช่วงระยะเวลาที่เริ่มทำเกษตรอินทรีย์ในปีแรกก่อนจะได้รับการรับรองผลผลิตว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยระยะปรับเปลี่ยนเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
 
   3. ข้าวอินทรีย์แบบยังไม่รับรอง Non Certified เป็นการปลูกข้าวอินทรีย์แบบพึ่งตนเอง ส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรแบบพื้นบ้านหรือปลูกในระบบผสมผสานหรือในไร่หมุนเวียน ไม่มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานใดๆ เกษตรกรกลุ่มนี้อาจเป็นกลุ่มที่ทำการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนและนำผลผลิตส่วนเกินมาจำหน่ายผ่านระบบตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้อาจมีการรับรองกันเองในระบบกลุ่มหรือชุมชนข้าวหอมมะลิแดงอินทรีย์ปลูกข้าวอินทรีย์ คือ ข้าวที่ได้จากการผลิตภายใต้ระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งมีการจัดการการผลิตข้าวที่เกื้อกูลต่อระบบนิเวศรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ใช้วัตถุดิบสังเคราะห์และมีการจัดการกับผลิตภัณฑ์โดยเน้นการแปรรูปด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาสภาพการเป็นข้าวอินทรีย์และคุณภาพที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ 
ขั้นตอนการผลิตข้าวอินทรีย์  ข้าวกล้องออร์แกนิคส่งทั่วไทย ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่
ข้าวอินทรีย์วิถีพื้นบ้าน
เป็นระบบการผลิต ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย ที่ไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรทุกชนิด เช่น ปุ๋ยเคมี สารควบคุมการเจริญเติบโตสารควบคุมและกำจัดวัชพืช สารป้องกันกำจัดโรคแมลงและสัตว์ศัตรูข้าวตลอดจนสารเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้าวในโรงเก็บ การผลิตข้าวอินทรีย์นอกจากจะทำให้ผลผลิตข้าวมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษแล้วยังเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืน
ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล
การผลิตข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล มีกระบวนการผลิตการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และห้ามใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุ์ในกระบวนการผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการต้องผฏิบัติตามเพื่อให้ได้รับการรับรอง มีขั้นตอนการปฏิบัติเป็นลำดับขั้น ดังนี้
1.เกษตรกรจะต้องมีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการผลิตข้าวอินทรีย์ (  โครงการข้าวอินทรีย์ )
2.เกษตรกรจัดทำบันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต โดยแสดงแหล่งที่มาและปริมาณการใช้
3.สมัครขอรับรองต่อกรมการข้าว เกษตรกรต้องแสดงข้อมูลต่อไปนี้
- ประวัติการใช้พื้นที่
- ประวัติการใช้สารเคมี และผลการวิเคราะห์สารพิษตกค้างในดินและน้ำ (ถ้ามี)
- แผนที่และแผนผังแปลงนาที่ขอการรับรองและพื้นที่ข้างเคียง
- แผนการผลิตในทุกขั้นตอน
- บันทึกขั้นตอนการใช้ปัจจัยการผลิต
- บันทึกกิจกรรมในแปลงนา และข้อมูลอื่นๆ

นาข้าวอินทรีย์  ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์    โครงการข้าวอินทรีย์ 277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
Facebook :https://www.facebook.com/Hor.Organic
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิอินทรีย์
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวปะกาอำปึลออแกนิก #ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์
4.  ข้าวผสมหลายสายพันธุ์ปลอดสารจังหวัดสุรินทร์
5. กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์
6.ข้าวมะลินิลอินทรีย์สุรินทร์
7.  กลุ่มข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์
#ข้าวออแกนิคสุรินทร์
#ข้าวออแกนิกสุรินทร์
#ข้าวอินทรีย์สุรินทร์
#ข้าวคุณภาพสุรินทร์


 

 

 
 
#3109
บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น จำกัด ให้บริการรับวางแผนและติดตั้งสื่อ Out of Home (สื่อนอกบ้าน) ตัวอย่างเช่น สื่อป้ายโฆษณา ได้แก่ ป้ายหน้าร้าน, ป้ายผ้าใบบังแดด, ป้ายเสาไฟฟ้า, ป้ายกองโจรฯ และสื่อเคลื่อนที่ ได้แก่ รถสองแถว, รถแห่, Scooter Media, Truck Media ฯ และการตลาดออฟไลน์ จัดกิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ... ทั่วประเทศ

ให้คำปรึกษาฟรี สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณชณพิชชา ศรีทอง (นิด) 
โทรศัพท์ : 061-536-5666, 082-289-8915
ID Line : nidthicha
email : nid@achi.co.th



บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น จำกัด
1/8 ซ.รามคำแหง 30 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website : www.achi.co.th

ID Line : @achi_activation
Facebook : achiactivation 
Instagram : achi_activation
Twitter : achiactivation






 
#3110
รับจ้างโพสต์ขายบ้าน โพสต์ลงเว็บขายบ้าน รับโพสต์บ้าน โดยบทความระดับวิไอพี ทีมงานมืออาชีพ ติดGoogle หน้าแรกได้จริง รับโพสต์บ้าน โพสต์ขายบ้านที่เดียวในเมืองไทย หวังผลได้  โปรโมทโพสต์ขายบ้าน  รับจ้างโพสต์ขายบ้าน-ที่ดิน รับโพสต์อสังหา ติดGoogleหน้าแรกได้ใน7วัน รับประกัน รับจ้างโพสต์บ้าน-ที่ดิน ที่ได้ผลมากกว่า
 โพสต์ขายบ้าน แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ตั้งใจ ช่วยท่านขายบ้าน ทีดิน ได้จริงรับโพสต์บ้าน เฉพาะท่านที่ต้องการโพสต์ติดgoolge และ ต้องการโพสต์และ Salepage คุณภาพเท่านั้น
-Google ยังเป็นอับดับ1ในการค้นหาบ้าน
-การทำติดgoogleหน้าแรก ในคำสำคัญเกี่ยวข้องกับการขายทำให้ได้เปรียบคู่แข่งมาก
-การทำติดหน้าแรกgoogleยากมากและแพงมาก
ท่านจะได้รับ
1.SalePage มาตรฐานติด ทำให้googleได้ง่าย สร้างความน่าเชื่อถือ ให้การซื้อขาย สามารถนำไปแชร์ต่อได้
2.โพสต์คุณภาพสูง แตกต่าง และ สร้างสรรค์ โพสต์รับรองคุณภาพ ไม่ใช่แค่การโพสต์ด้วยมือ แต่ คือการโพสต์ด้วยบทความคุุณภาพ ไม่ซ้ำใคร การเขียนคำโฆษณาแบบ SEO มืออาชีพ ดึงดูดความสนใจเน้นเฉพาะทรัพย์สินแต่ละรายการ ให้น่าสนใจสำหรับ ผู้ซื้อ ผู้ขาย
3. เราคือเจ้าเดียวในเมืองไทย รับรองผลงาน ติดgoogleหน้าแรกเร็วที่สุดใน7วัน เจ้าเดียวที่กล้ารับรองผล เทคนิคพิเศษ ตามระบบธรรมดา ซึ่งอาจใช้เวลานับเดือน หรือ หลายเดือน ในการติดgoolgeหน้าแรกสร้างโอกาสในการขายให้เร็วยิ่งขึ้น
4.ที่สำคัญมาก คือการติดgoogle ในคำสำคัญ ในการซื้อขาย มีคนใช้มาก ระดับ หลักหมื่น,แสน หรือ ล้าน รายการค้นหา(เว็บเพจ) ตามโปรโมชั่น
5.ได้โพสต์คุณภาพในเว็บอสังหาคุณภาพที่คัดแล้ว และ ติดgoogleได้อีกด้วย ไม่ได้แค่เห็นในเว็บไซต์เหล่านั้น เท่านั้น แต่ยังเห็นได้ทั่วโลกจาก เว็บ Search ของGoogle อีกด้วย
โพส เว็บและเฟสบุ๊ค ติดgoogleหน้าแรก ได้จริง  ผลักดันลิงค์และโพสต์ ตลอดโปรโมชั่น การันตีผลงาน ทั้ง นายหน้าขายบ้าน Broker, Freelance และ เจ้าของบ้าน ขายบ้าน ที่ดิน อสังหา ขายให้เช่า
SEOอสังหา
 ที่เดียวในเมืองไทยที่กล้ารับรองผลงาน การันตีคืนเงิน ถ้าไม่ติดหน้าแรกโพสขายบ้านแบบseoปรึกษาได้ฟรี ครับ ส่งรายละเอียด ข้อมุล มาทาง email surachaithailand @ gmail.com เราจะส่งเบอร์ บัญชี ให้ หลังการแจ้งการโอน เราจะแจ้ง ลิงค์การโพสหลักเสร็จ ภายใน 1 วัน สงสัยสอบถามได้ก่อนครับ ครับ ที่เบอร์ 092 2497813  ID Line  su.banforum  หรือ กรอกข้อมุลด้านล่างนี้  ทีมงานจะติดต่อกลับโดยเร็วที่ครับรายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.รับจ้างโพสต์ขายบ้าน.com/รับจ้างโพสต์ขายบ้าน/
 
 
#3111
 

เกิดเหตุการณ์ดุเดือดก่อนที่เกมระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด หลังแฟน.ทั้งสองทีมตะลุมบอนกันอย่างสุดนัว จากการที่เป็นคู่รักคู่แค้นกันมาอย่างยาวนาน

แฟน. "ปีศาจแดง" และ "ยูงทอง" ทะเลาะวิวาทกันก่อนเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดสนามฤดูกาล 2021/22 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ตามการรายงานระบุว่า กองเชียร์ของทั้งสองทีมมีเรื่องกันบริเวณใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ มีทั้งการวิ่งไล่ชกต่อยกัน รวมไปถึงการใช้เก้าอี้ขว้างปาใส่กัน โดยสื่ออังกฤษคาดว่าเหตุทะเลาะวิวาทดังกล่าวเป็นเพราะทั้งสองทีมถือเป็นคู่รักคู่แค้นการมาอย่างยาวนาน

ทั้งนี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อนุญาตให้แฟน.เข้าชมในสนามได้อีกครั้งในฤดูกาล 2021/22 หลังซีซันที่ผ่านมาต้องเล่นกันแบบไม่มีคนดูตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผลการแข่งขันของคู่นี้จบลงที่ชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไล่ต้อนทีมเยือนไป 5-1
#3112


ทันตแพทย์ชำนาย ชนะภัย กรรมการผู้จัดการทางบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM แจ้งว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลรามคำแหง ได้เข้าซื้อหุ้นของโรงพยาบาลธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือTHG เป็นจำนวน 177,013,044 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.85 % ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของ THG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ1(ปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ 6ส.ค.64) โดยมีรายละเอียดดังนี้


1. เป็นการทยอยซื้อในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งแต่ 7 ธันวาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน

2. ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการลงทุน
2.1 เพื่อเป็นพันธมิตรกับทางธุรกิจโรงพยาบาล
2.2 บริษัทคาดว่าธุรกิจนี้จะให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผล สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด


3. ไม่เป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน
RAM และ THG ได้เป็นพันธมิตรที่ดีช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจซึ่งกันและกันตลอดมา แม้ว่าจะประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันแต่ไม่ใช่คู่แข่งกัน เนื่องจากทำแลที่ตั้งอยู่ห่างกัน และปัจจุบันไม่มีจังหวัดใดที่มีโรงพยาบาลในเครือที่มีการแข่งขันกันหรืออยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน

ส่วนในเขตกรุงเทพมหานคร THG มีโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ตั้งอยู่ที่ถนนบำรุงเมือง และ RAM มีโรงพยาบาลมเหสักข์ ตั้งอยู่ที่เขตบางรัก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้ง 2 แห่ง มีกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน โดย

- โรงพยาบาลมเหสักข์ มีกลุ่มลูกค้าประกันสังคมเป็นส่วนใหญ่
- โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง มีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
อีกทั้ง THG และ RAM มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่แตกต่างกัน ซึ่ง THG มีความ
เชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่ซับซ้อน และ RAM มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการต้นทุน เป็นต้น


ในอนาคตหาก RAM จะลงทุนหรือเข้าร่วมลงทุนในกิจการใด ๆ ก่อนลงทุน RAM ต้องศึกษา ความเป็นไปได้ในธุรกิจ (Feasibility Study) อย่างละเอียด ซึ่งต้องพิจารณาสถานที่ตั้ง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และคู่แข่งในพื้นที่ เพื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่าเหมาะสมในการลงทุน และจะไม่ลงทุนในพื้นที่ที่มีโรงพยาบาลในเครือ THG ตั้งอยู่ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย RAM จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป


โรงพยาบาลรามคำแหง ส่งกรรมการ 2 ท่าน เข้าไปเป็นกรรมการที่โรงพยาบาลธนบุรีคือ
1. นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์
2. นางสาวฤกขจี กาญจนพิทักษ์
แต่เป็นกรรมการที่ไม่มีอำนาจลงนาม และไม่มีส่วนร่วมในการบริหาร

ด้าน THG แจง สัดส่วนการถือหุ้นใน THG โดยกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง 3ครอบครัว จากข้อมูลปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่6
สิงหาคม 2564 รวมกันแล้วเป็นจํานวน 260,307,914 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ30.66ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายและชําระ
แล้วทั้งหมดของ THG ซึ่งยังมีสัดส่วนที่มากกว่า RAM ทําให้จํานวนเสียงในที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมากกว่า
โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) ครอบครัววนาสิน จํานวน 161,486,344 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ 19.02โดยมีกรรมการ 2 ท่าน ได้แก่
นายแพทย์บุญ วนาสิน และนางสาวนลิน วนาสิน
2) ครอบครัวอุนนะนันทน์ จํานวน 60,741,770 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ 7.15 โดยมีกรรมการ 1 ท่าน คือ
นายแพทย์อาศิส อุนนะนันทน์ และ
3) ครอบครัวเมฆสวรรค์จํานวน 38,079,800 หุ้น คิดเป็ นร้อยละ 4.48 โดยมีกรรมการ 1 ท่าน คือ นายศิธา
เมฆสวรรค์

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกของTHG (ข้อมูลณ 15 มี.ค. 2564)

1.บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน)ถือหุ้นจำนวน145,971,739 หุ้น หรือ  17.19%

2.นาง จารุวรรณ วนาสิน  ถือหุ้นจำนวน 118,489,119 หุ้น หรือ13.96%

3.นายแพทย์ อำนวย อุนนะนันทน์ ถือหุ้นจำนวน 43,882,670หุ้น หรือ 5.17%

4.นาย อาษา เมฆสวรรค์ ถือหุ้นจำนวน 29,794,737 หุ้น หรือ 3.51%

5.นาง ณวรา วนาสิน ถือหุ้นจำนวน 28,720,363 หุ้น หรือ3.38%

6.นาย เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ถือหุ้นจำนวน 18,259,500 หุ้น หรือ 2.15%

7.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 15,147,902 หุ้น หรือ 1.78%

8.Global Health Investment Co., Ltd. ถือหุ้นจำนวน 11,413,340 หุ้น หรือ1.34%

9.บริษัท เอฟแอนด์เอส 79 จำกัด ถือหุ้นจำนวน 8,695,656 หุ้นหรือ 1.02%

10.นาย ศิธา เมฆสวรรค์ ถือหุ้นจำนวน 8,415,063 หุ้น หรือ 0.99%
#3113


นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม. 33 ม. 39 และ ม. 40 ว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้โอนเงินเยียวยานายจ้างและลูกจ้างผู้ประกันตน ม. 33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดไปแล้ว แบ่งเป็นลูกจ้าง 2,399,459 ราย เป็นเงิน 5,998.65 ล้านบาท และทำการโอนให้นายจ้างไปแล้ว 12,711 กิจการ เป็นเงิน 594.12 ล้านบาท รวมยอดเงินที่ทำการโอนไปแล้วจำนวน 6,592.77 ล้านบาท โดยจะดำเนินการทยอยโอนให้ลูกจ้างและนายจ้าง ม. 33 พื้นที่ 16 จังหวัดที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ต่อไป พร้อมกับโอนเงินให้ผู้ประกันตน ม.39 และ ม.40 ใน 29 จังหวัด กลุ่มแรกวันที่ 24 สิงหาคมนี้ เช่นกัน ซึ่งจะทยอยโอนวันละ 1 ล้านราย โดยผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม

นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้ามาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองและนักเรียนนักศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประจำปีการศึกษา 1/2564 ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ อยู่ระหว่างการยืนยันตรวจสอบสิทธิ์การได้รับความช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นกระทรวงศึกษาธิการ จะโอนเงินช่วยเหลือให้นักเรียนและผู้ปกครองในอัตรา 2,000 บาทต่อคน ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้ สำหรับผู้ได้รับเงินเยียวยาในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีประมาณ 11 ล้านคน วงเงินรวมประมาณ 21,600 ล้านบาท

โฆษก ศบศ. กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเยียวยาและการฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษนั้น ยอดการใช้จ่ายของแต่ละโครงการ ผู้ใช้สิทธิสะสมรวม 38 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสมรวม 62,967.7 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 23.49 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 56,339.7 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 28,588.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 27,751.5 ล้านบาท 2.โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 66,101 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,161 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 31 ล้านบาท 3.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.48 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 5,110.8 ล้านบาท และ 4.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิสะสม 979,821 คน ยอดใช้จ่ายสะสม 325.2 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งพิจารณาเชื่อมต่อแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่เพื่อให้สามารถเชื่อมกับโครงการ "คนละครึ่ง" ด้วย คาดว่าจะดำเนินการเชื่อมระบบเสร็จสิ้นและพร้อมใช้งานได้ในเดือนตุลาคม 2564 นี้ เพื่อให้ทันกับการรองรับการโอนเงิน "คนละครึ่ง" รอบ 2 อีก 1,500 บาท ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเร่งเยียวยาประชาชนทุกกลุ่ม
#3114


ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ เลดีส์ สกอตติช โอเพน ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 50 ล้านบาท) ณ สนาม ดุมบาร์นีย์ ลิงส์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 สกอตแลนด์ เข้าสู่การแข่งขันวันที่สอง

ปรากฏว่า "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล สวิงสาวไทย โชว์ฟอร์มดีตี 7 เบอร์ดี เสีย 1 โบกี จบวันได้มา 6 อันเดอร์ รวมสกอร์เป็น 9 อันเดอร์พาร์ พุ่งจากอันดับ 15 ในรอบที่แล้ว ขึ้นมาเป็นผู้นำโดยมี "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล อีกหนึ่งสาวไทย นั่งอันดับ 2 ร่วม ตามหลัง 3 สโตรก

จบรอบสอง เอรียา วัย 25 ปี เผยว่า "วันนี้ฉันพยายามทำตัวสบายๆ กับการลงเล่นคอร์สนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้ดีขึ้น และทุกสิ่งที่จะทำก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นหลักด้วย"

ผลงานของสาวไทยคนอื่น "โปรจูเนียร์" จัสมิน สุวัณณะปุระ หล่นมาอยู่อันดับ 13 ร่วม หลังตีเกิน 2 โอเวอร์ สกอร์หดเหลือ 3 อันเดอร์พาร์ รองมา "โปรพริม" พริมา ธรรมมารักษ์ อันดับ 20 ร่วม สกอร์ 2 อันเดอร์พาร์

"โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ รอบนี้เก็บได้ 1 อันเดอร์ แก้ไขสกอร์เป็นอีเวนพาร์ อันดับ 35 ร่วม ส่วน "โปรเหมียว" แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ ตีเกิน 3 โอเวอร์ สกอร์อีเวนพาร์ อยู่อันดับ 35 ร่วมเช่นกัน
#3115


นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตอย่างโดดเด่น และฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมาที่มีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศและห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

โดยผลการดำเนินงานล่าสุดในไตรมาส 2 ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 3,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น

ปัจจัยที่บริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี มาจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการด้านการผลิตภายในโรงงาน โดยประสิทธิภาพในการผลิต (Efficiency Rate) ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 86.5% และในขณะเดียวกันบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กระดาษ

และบริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟิล์มพลาสติก ฝาพลาสติก ขวด PET หลอดพรีฟอร์ม ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตามกลยุทธ์ยกระดับธุรกิจสู่ Total Packaging Solutions ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มีรายได้จากการขาย 6,531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

"การเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มี Product Mixed ที่หลากหลายยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีเฉพาะบรรจุภัณฑ์แก้ว และยังทำให้บริษัทฯ มีอำนาจต่อรองที่ดีและสามารถเพิ่มยอดขายจากลูกค้าแต่ละราย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุนด้านต่าง ๆ โดยคาดว่าในปีนี้ทั้ง 2 บริษัทฯ (BVP และ BGP) จะมียอดขายรวมกันประมาณ 2,000 ล้านบาท"

จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 83.33 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ และจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 10 ก.ย.2564

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติงบลงทุน 176 ล้านบาท สำหรับ BGP เพื่อเดินหน้าขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) กำลังการผลิตสูงสุด 50 ล้านเมตรต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มพอร์ตสินค้าและความหลากหลายด้านบรรจุภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการกลุ่มถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนภายในประเทศที่มีอัตราเติบโตสูง ขยายผลิตภัณฑ์เข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำ และรองรับเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในอนาคต

คาดว่าจะเริ่มการลงทุนขยายกำลังการผลิตในไตรมาส 1 ปี 2565 และแล้วเสร็จเริ่มผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแผนการลงทุนที่จะขับเคลื่อนการเติบโตเพื่อบรรลุเป้าหมายรายได้ 2.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังยังมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามแผนงานที่วางไว้ และผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งปีเติบโตใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2562  เนื่องจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วและบรรจุภัณฑ์อื่นๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศและห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงวางเป้าหมายสร้างยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง

แม้มีปัจจัยลบและความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ โดยเชื่อว่าหากกระจายวัคซีนแก่ประชาชนได้มากขึ้นและสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย จะส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ทยอยเปิดกิจการ ทำให้ดีมานด์บรรจุภัณฑ์มีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปีถือเป็นไฮซีซั่นหรือฤดูการขายสินค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของบริษัทฯ

ขณะที่กลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเร่งเพิ่มประสิทธิภาพบริหารต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออกเป็น 10% ของรายได้รวม พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ดีมานด์ในตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนปรับระดับสต๊อกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุน ทั้งการเพิ่มประเภทพลังงานที่ใช้เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มสัดส่วนการใช้เศษแก้วในเตาหลอมเพื่อลดการใช้พลังงาน รวมถึงนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมอุณหภูมิในเตาหลอมแก้ว ช่วยลดความสูญเสียของพลังงาน อย่างไรก็ตามสำหรับราคาโซดาแอช (Soda ash) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแก้วมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่องและเศษแก้วยังคงมีราคาทรงตัว
#3116


สาวน้อยมหัศจรรย์ "บิลลี ไอลิช" เปิดตัวแรงสมศักดิ์ศรีซูเปอร์สตาร์แห่งยุค ส่งอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" คว้าอันดับ 1 บนชาร์ต billboard 200 พร้อมเปิดตัวด้วยยอดขาย 238,000 อัลบั้มภายในสัปดาห์แรก มากเป็นอันดับที่ 5 ของปี 2021

"บิลลี ไอลิช" (Billie Eilish) ซูเปอร์สตาร์คนดังที่ถูกยกให้เป็นสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งยุค กลับมาทวงคืนบัลลังก์ พาอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever"คว้าอันดับ 1 บนชาร์ต billboard 200 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

Happier Than Ever นับเป็นอัลบั้มที่ 2 ของบิลลีที่สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต billboard 200 โดยก่อนหน้านี้อัลบั้มแรกของเธอ คือ "When We All Fall Asleep, Where Do We Go?" ก็เปิดตัวคว้าอันดับหนึ่งไปเมื่อปี 2019 พร้อมสร้างชื่อเสียงให้เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่แห่งยุค

Happier Than Ever อัลบั้มใหม่ของ บิลลี ไอลิช
Happier Than Ever อัลบั้มใหม่ของ บิลลี ไอลิช

อัลบั้ม "Happier Than Ever" เปิดตัวด้วยยอดขาย 238,000 อัลบั้มภายในสัปดาห์แรก มากเป็นอันดับที่ 5 ของปี 2021 โดยมีอัลบั้ม "SOUR" ของ "Olivia Rodrigo" ที่เปิดตัวเป็นอันดับ 1 ในชาร์ต ด้วยยอดขายเทียบเท่า 295,000 อัลบั้ม

ขณะที่ก่อนหน้าอัลบั้ม "Happier Than Ever" จะปล่อยออกมาให้ฟังกันแบบเต็ม ๆ บิลลี ได้ปล่อยเพลงใหม่ในอัลบั้มนี้ ออกมา 5 เพลงด้วยกัน ได้แก่ "my future", "Therefore I Am", "Your Power", "Lost Cause" และ "NDA" ที่ขึ้นไปอยู่ใน 40 อันดับแรกบนชาร์ต Billboard Hot 100 โดยเพลงแรกที่เข้าไปอยู่บน Billboard Hot 100 ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2563 คือเพลง "my future"

บิลลี ไอลิช ใน MV เพลง Happier Than Ever
บิลลี ไอลิช ใน MV เพลง Happier Than Ever

อัลบั้ม "Happier Than Ever" เป็นอัลบั้มที่ บิลลี ไอลิช ได้สื่อสารความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมาให้คนฟังได้สัมผัส อีกทั้งยังได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเธอในหลากหลายแง่มุม ทั้งวุฒิภาวะ มุมมองการใช้ชีวิต

นอกจากนี้ บิลลี ไอลิช ยังได้โชว์ศักยภาพในผสมผสานระหว่างดนตรีคลาสสิกเก่า ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปินที่เธอชื่นชอบ เข้ากับซาวด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธออีกด้วย

เรียกได้ว่า Happier Than Ever เป็นอัลบั้มที่มีความล้ำแรงมาแรงชนิดที่ FC ของสาวน้อยมหัศจรรย์คนนี้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

บิลลี ไอลิช ส่งอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" คว้าอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด 
บิลลี ไอลิช ส่งอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" คว้าอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด


รายชื่อเพลงในอัลบั้มใหม่ "Happier Than Ever" ของบิลลี ไอลิช

1. Getting Older
2. I Didn't Change My Number
3. Billie Bossa Nova
4. my future
5. Oxytocin
6. GOLDWING
7. Lost Cause
8. Halley's Comet
9. Not My Responsibility
10. OverHeated
11. Everybody Dies
12. Your Power
13. NDA
14. Therefore I Am
15. Happier Than Ever
16. Male Fantasy
#3117


ลุยฟ้องแหลก สำหรับ "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ที่เคยคุยกับ "หมอของขวัญ" ในรายการ "โหน กะ แฉ" ที่ช่วงบ่ายวันที่ 13 ส.ค. ได้เดินทางไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นเรื่องดำเนินคดีต่อ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา"นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าศูนย์บริหารงานโควิด-19 ในมาตรา 157 โดยเจ้าตัวเผยถึงสาเหตุที่มาฟ้องว่า เป็นเพราะนายกฯ ปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง พร้อมชักชวนญาติผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ให้มาร่วมฟ้องด้วย

"ฟ้องท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา ในมาตรา 157 คือปล่อยปละละเลยในหน้าที่ ก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวผมค่อนข้างชัดเจน เพราะผมก็เพิ่งเป็นโควิด และต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง แล้วตั้งแต่เริ่มต้นจนป่านนี้ ชีวิตก็เลือกอะไรไม่ได้สักอย่าง จนตอนนี้ไม่เคยได้ฉีดวัคซีนเลย เคยร้องขอวัคซีนตั้งแต่การประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ขอกับท่านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ โทรขอทุกอย่างเพราะมีนางงามติดโควิดอยู่ในกอง นั่นคือนางงามสองประเทศ เรารักษาเขาจนหาย เราก็ค่อนข้างเสี่ยง ไม่ได้รับการอนุญาตในวัคซีน ต้องไปขออนุญาตกทม.ก็ไม่ได้

จนในที่สุดมีการลงทะเบียน ก็มีการเททิ้งกันไป ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ ผมเป็นประชาชนชาวไทยเสียภาษีถูกต้องทุกอย่างและเสียภาษีเยอะมาก แต่ผมต้องจองโมเดอร์น่า 161 โดสกับรพ.ลาดพร้าว จ่ายเงินสด 2 แสนกว่าให้พนักงานผมทุกคน รวมถึงให้ตัวผมในการวางแผน จนป่านนี้ไม่รู้โมเดอร์น่าจะมาเมื่อไหร่ สอบถามก่อนมาที่นี่ รพ.บอกว่าขึ้นอยู่กับรัฐบาล เพราะไม่มีกำหนดการที่แน่นอน เราต้องถูกการกระทำย่ำยีในสิทธิ์ที่เราควรมี เราเป็นประชาชนชาวไทย แต่ไม่เคยได้รับการดูแลเลย จะบอกว่าการมีรัฐบาลหรือนายกฯ เราไม่เคยได้รับข้อมูลหรือไดเร็กชั่นที่ชัดเจนว่าชีวิตเราจะปลอดภัย

ฉะนั้นผมเองเป็นคนนึงที่กระทบ วัคซีนก็ต้องซื้อเอง สว็อปตัวเอง จ่ายครั้งละ 3 พันกว่าบาท การันตีว่าไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งเพราะอยู่ในวงการบันเทิง ผมก็จ่ายเงินเอง หน้ากาก เจลล้างมือก็ซื้อเอง การเจ็บไข้ได้ป่วยครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง แต่โชคดีที่ผมซื้อประกัน ประกันก็รับผิดชอบให้ส่วนหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังเคลียร์ค่าใช้จ่ายกันไม่หมด เพราะผมหนีออกจากรพ. การรักษาก็ถูกละเมิดจากแพทย์ที่มีรสนิยมทางการเมืองไม่เหมือนกันอัดคลิปเสียงผมไปปล่อย มีประจักษ์หลักฐานแต่ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ไหนจะกล้องวงจรปิดอีก มันไม่มีความปลอดภัยในชีวิตผม วันนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป

ผมตัดสินใจลาออกจากการทำงานในวงการบันเทิง 25 ปี ด้วยรายรับต่อปี ต่อเดือนมหาศาล หลายล้านบาท ก็มีผลมาจากท่านประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยตรง ที่ทำให้ผมต้องหมดอาชีพการเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ ที่ผมตัดสินใจ ขณะอยู่บนเตียง ผมคิดว่ายังไงรักษาชีวิตดีกว่า เราต้องรักตัวเอง ผมยอมเสียสละตัวเองแล้ว เพื่อให้ท่านดูแลเรามากกว่านี้ แต่ผมไม่เห็นว่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าเป็นไปได้ทุกวันนี้คงไม่มีคนตายข้างถนน ยอดผู้ตายผู้ติดเชื้อคงไม่เพิ่มขึ้นทุกวันแบบนี้ วันนี้เลยตัดสินใจเป็นทางการ มาฟ้องท่านอย่างเป็นทางการ มาตรา 157 ปล่อยปละละเลย ซึ่งทำให้เกิดผลเสียหายต่อตัวผมครับ

ตัดสินใจไม่นาน เพราะเรามีเวลาอยู่รพ.ค่อนข้างเยอะ เกือบเดือน ผมก็คิดอยู่แล้ว ถ้าเป็นประเทศอื่นเขาดูแลอยู่แล้วถ้าอยู่ในระบอบประชาธิปไตย โดยมีระบบที่ชัดเจน แต่ประเทศเรา เราก็ยอมรับว่าเราพึ่งพาอาศัยกันได้ แต่ถ้าไม่รู้ทิศทางเลยเราก็ลำบากใจ แล้วเรามี 157 ก็เป็นสิทธิ์ของเราสามารถใช้ความยุติธรรมที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ เรียกร้องในสิ่งที่เราเห็น เป็นประจักษ์ และเกิดขึ้นกับตัวผมเอง ได้ปรึกษาท่านนายกสมาคมทนายความ ท่านก็ให้ความรู้ เอาเป็นว่าผมเองได้ยื่นเรียบร้อยแล้ว แต่ปลายเดือน วันที่ 30 จะนัดมาดูผลอีกที

ถามว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไปไหม ไม่มีคำว่าคุ้มค่าเป็นตัวเงิน แต่มันเป็นบรรทัดฐานของสังคมประชาธิปไตย อย่าลืมว่าคำว่ารับผิดชอบประเทศไทย คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ ระบอบนี้เจ้าของประเทศคือผู้เสียภาษี ย่อมสามารถรู้ได้ว่าเราจะปลอดภัยได้อย่างไร แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุด โควิดเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของสังคมโลกและสังคมไทยแต่ทำไมผู้ดูแลโปรเจกต์ถึงเป็นอย่างที่ผ่านมา และเราต้องมาเผชิญ ต้องคอยรองรับสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง อยากสร้างบรรทัดฐาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ตำแหน่งใดก็ตาม ความรับผิดชอบคุณต้องมี เมื่อคุณอาสามารับตำแหน่งนี้คุณต้องรับผิดชอบได้ ถ้ารับผิดไม่ได้รับฟังบ้างก็ยังดี แต่พูดตรงๆ ณ วันนี้ท่านก็ทำตามสไตล์ท่านไป ก็ไม่รู้จะไปทางไหน ผมฟ้องในนามส่วนตัว

สำหรับรัฐบาลวันนี้คู่กรณีไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว คนไทยเกือบทั้งประเทศ ผมว่าไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ผมภาวนาให้ญาติผู้เสียชีวิตมาแจ้งความทั้งหมด อย่างวันนี้ข่าวหมอแอ้ม ผมว่าแย่มาก ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ห่างกันสัปดาห์นึงก็เป็นตัวเขา น้องเขาควรมาแจ้ง ใครเป็นเหมือนรอความตาย คนไม่เป็นโควิดไม่มีวันรู้ มันพลิกได้ภายในค่ำคืน ใครไม่เป็นก็รักษาตัวเอง ถ้าแดงจัดเมื่อไหร่ คุณจะเพี้ยนไปเลย อาการพลิกไปเลยคนละเรื่อง มันหลุดไปอีกโลกนึง มันอันตรายมาก คนมีญาติผู้เสียชีวิต อย่าลืมมา 157 ช่วยคุณได้ ไม่ได้อะไรแต่ก็ได้บรรทัดฐาน ตอนนี้ไม่รู้แสงสว่างปลายอุโมงค์เลย

คดีนี้แรงนะ ผมยอมรับว่าตอนจั่วหัวมาก็แรง เพราะคู่กรณีคือนายกฯ แต่ถ้าเราไม่ทำมันก็ไม่เริ่ม มันต้องทำ เราทำในสิ่งที่เหมาะสม ท่านเป็นคนดูแลเรา ท่านเป็นลูกจ้างเรา เราไม่สนใจว่าท่านจะมาแบบไหนก็แล้วแต่ จะเหาะมา หรืออะไรมา แต่ในเมื่อท่านมาแล้ว ท่านมาก็ต้องรับผิดชอบถ้าจะเอาแต่ชอบ ผิดไม่รับไม่ได้ ต้องสอนให้ทุกคนไม่ว่าแก่แค่ไหนก็ตาม ตรงนี้ไม่ใช่ที่เสวยสุข ไม่ใช่ที่มาเล่นๆ มันเป็นความเป็นความตาย ไม่อยากให้เลยเถิด เพราะถ้าไม่จบ บอกเลยนะ เศรษฐกิจจะพังกว่านี้อีกเยอะ จะพินาศเลย แล้วจะไปทางไหน โอเค ทุกคนเครียดม็อบก็ออก เครียดเพราะเขาไม่มีทางไป ไม่มีคำตอบ ถ้าสังคมกินอิ่มนอนหลับมีเงินใช้ใครจะออกมา ตอนนี้ดูไม่ได้แล้วสภาพประเทศไทย"

ขณะที่ทนายเผยว่า ขั้นตอนการฟ้องร้อง มีตัวโจทก์เป็นผู้ดำเนินการ พร้อมรายชื่อประชาชน 7 แสนชื่อที่ได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ในนามพรรคไทยสร้างไทย มาเป็นประเด็นประกอบ ในความล้มเหลวในการบริหารจัดการของนายกฯ ณวัฒน์พูดละเอียดมาก ณวัฒน์และประชาชน 7 แสนคนได้รับผลกระทบ เมื่อศาลรับฟ้องไปแล้ว ศาลจะนัดมาฟังคำสั่งอีกครั้ง ว่ารับเป็นคดีเพื่อพิจารณาต่อไปไหม วันที่ 30 ส.ค.เวลา 09.00 น. หลังจากนั้นถ้ารับก็ไต่สวนมูลฟ้องโดยนำพยานประชาชนทั้งหมด ที่ได้รับความเดือดร้อน จากการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลว มาสืบพยานในศาลต่อไปจนกว่าจะครบถ้วน และศาลมีคำสั่งว่าจะรับคดีนี้ไว้ มีมูลหรือไม่อย่างไร ขั้นตอนจะเยอะหน่อยเพราะไม่ใช่ศาลอาญาปกติ

สิ่งต่างๆ ที่ได้รับจากประชาชน เป็นผลกระทบอย่างไรก็อยู่ในสำนวนที่นำเรียนศาลอาญาทุจริตฯ ไปหมดแล้ว อยู่ที่ศาลจะใช้ดุลยพินิจในการประกอบรับสำนวนหรือไม่อย่างไร เราคงต้องรอวันที่ 30 ส.ค. จากนั้นจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า ณวัฒน์ได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท "นายกฤษณ์พงศ์ เกียรติศักดิ์" หรือ "อาจารย์กบ" พิธีกรรายการฟ้าวันใหม่นิวส์ เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท บลู สกาย แชนแนลจำกัด ในฐานะเข้าของสถานีโทรทัศน์ช่องฟ้าวันใหม่ เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 หลังจากที่นายกฤษณ์พงศ์ ได้จัดรายการฟ้าวันใหม่นิวส์เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ละเมิดและหมิ่นประมาทอย่างชัดเจน คือบอกว่าณวัฒน์ไม่ได้ป่วยจริง จัดฉาก สร้างดรามา โจมตีรัฐบาล รวมทั้งได้กล่าวหาว่าเป็นโรคไบโพลาร์ อารมณ์สองขั้ว ส่วนที่ทำให้รู้สึกย่ำแย่มากคือการที่นายกฤษณ์พงศ์พูดว่าตนเป็นโรคสัญชาติชั่ว จึงฟ้องเป็นตัวอย่าง เพื่อไม่อยากให้หลาย คน สนุกกับการพูดไม่จริง ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 15 พ.ย. นี้
#3118


วงการป้องกันภัยโจมตีไซเบอร์บ้านเรากำลังขยายตัวคึกคัก จากเดิมที่การตื่นตัวกระจุกอยู่ที่กลุ่มธนาคารไทยและองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น วันนี้องค์กรขนาดกลางหลายบริษัทกำลังเร่งมือทุ่มงบลงทุนกับระบบป้องกันภัยโจมตีไซเบอร์แบบครอบคลุมหลายชั้นในทุกจุดความเสี่ยง 

ในมุมมองของเทรนด์ไมโคร (Trend Micro) ซึ่งเป็นบริษัทที่พูดถึงการปกป้องซีเคียวริตี้หวยออนไลน์หลายชั้นมานาน พบว่าไทยเริ่มลงทุนทำซีเคียวริตี้หลายเลเยอร์มาตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว โดยช่วงก่อนปี 63 แต่ละตลาดมีความตื่นตัวไม่เท่ากัน เพราะธนาคารและองค์กรขนาดใหญ่ตื่นตัวมาก เรียกว่าหากคะแนนเต็ม 5 ธนาคารและองค์กรขนาดใหญ่ในไทยจะได้คะแนนความตื่นตัวไป 4.5-5 คะแนนทีเดียว

สถานการณ์นี้สวนทางกับองค์กรขนาดกลางหรือที่เทรนด์ไมโครเรียกเป็นมิดมาร์เก็ต (mid-market) หรือตลาด Commercial เทรนด์ไมโครมองว่าปีที่แล้ว กลุ่มนี้อาจได้แค่ 2 คะแนน แต่ปีนี้คะแนนความตื่นตัวพุ่งไปถึงระดับ 3.5 คะแนน

แปลว่าตลาด 'กันภัยไซเบอร์' ของประเทศไทยกำลังเบ่งบานขึ้นอีก โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี64 ที่มีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก เทรนด์ไมโครเปิดเผยว่าธุรกิจในไทยเติบโต15.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และฐานลูกค้ากลุ่มบริการซอฟต์แวร์ (SaaS) โตมากกว่า 623.4% และสินค้าเรือธงใหม่อย่างวิชั่นวัน (Vision One) นั้นเติบโต 555.9%

รูปการณ์นี้ทำให้ช่วงครึ่งหลังปีนี้ เทรนด์ไมโครวางแผนจับโฟกัสที่องค์กรขนาดกลางซึ่งต้องการ 'ก้าวให้เร็ว' หรือมีปัจจัยให้ต้องพัฒนาสู่ดิจิทัลอย่างเต็มตัว แผนนี้จะเดินคู่ไปกับลูกค้ากลุ่ม enterprise ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีแผนลงทุนอยู่แล้ว กลายเป็น 2 กลุ่มเป้าหมายที่เทรนด์ไมโครจะให้ความสำคัญในช่วงครึ่งหลังปี 64

***ซีเคียวริตี้คือแกนกลาง

นีเลช เจน รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย เทรนด์ไมโคร กล่าวว่าไทยเป็น 1 ใน 3 ตลาดหลักของอาเซียน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำนวนการแฮกองค์กรในเอเชียที่ถูกโจมตีมากขึ้น นอกจากนี้กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่และองค์กรขนาดใหญ่ยังทุ่มลงทุนเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นดิจิทัลสำหรับแข่งขันกับฟินเทค ทำให้ต้องขึ้นคลาวด์ และทำดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นอย่างจริงจัง ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการลงทุนไอทีในภาพรวมเกิน 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปีที่แล้ว และจะเติบโตเกิน 7 พันล้านเหรียญได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า ตัวเลขนี้แปลว่าทุกบริษัทที่ต้องการจะผันตัวไปเป็นบริการดิจิทัล ล้วนจำเป็นต้องมองซีเคียวริตี้เป็นแกนกลาง ทำให้เชื่อว่าจะเกิดการลงทุนมากมาย

'ประเทศไทยมีการลงทุนคลาวด์สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน เวียดนามและอินโดนีเซียนั้นมีอัตราเติบโตสูง แต่ก็ถือว่ายังช้า ประเทศที่มีการลงทุนคลาวด์มากคือสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีภาคการผลิตขนาดใหญ่ และบริษัทโทรคมนาคมมีการลงทุนสูง'


ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่าบริษัทสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงครึ่งปีแรก ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถดันธุรกิจในไทยจนเติบโต 15.5% (เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 63) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากบริการใหม่อย่าง Vision One ที่เติบโตเกิน 500%

'การเติบโต 500% มาจากลูกค้าหลายกลุ่ม อันดับแรกคือกลุ่มสตาร์ทอัปซึ่งมีบุคลากรไม่มากและจำเป็นต้องใช้บริการ software as a service มากขึ้น กลุ่มที่ 2 คือองค์กรใหญ่ที่ต้องไปคลาวด์ และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มธนาคาร Banking และ SSI'
เทรนด์ไมโครเชื่อว่าการที่ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนองค์กรได้เร็ว ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นนั้น ทำให้ภัยโจมตีขยายพื้นที่ ทำให้องค์กรต้องปรับปรุงหรือ 'ทรานสฟอร์ม' ระบบซีเคียวริตี้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากวันนี้แฮกเกอร์เปลี่ยนพฤติกรรมและปรับเป้าหมาย เป็นการโจมตีที่รุนแรงขึ้นจากที่เคยฝังซอฟต์แวร์ร้ายเอาไว้ในเครือข่ายเดียว

นอกจากนี้ ภาวะที่องค์กรมีเครื่องมือดิจิทัลมากขึ้น ยังทำให้การเชื่อมต่อซับซ้อนจนอาจมีช่องโหว่ให้โจมตีได้ง่าย ดังนั้นสิ่งที่องค์กรควรมีก็คือความสามารถในการตรวจสอบ รวมถึงมุมมองที่ครอบคลุมจุดเสี่ยงได้มากขึ้น
การสำรวจของเทรนด์ไมโครพบว่าภัยไซเบอร์ปี 64 เปลี่ยนจากการฝังซอฟต์แวร์ร้ายในเครือข่ายเพื่อโจมตีเครือข่ายข้อมูลเดียว มาเป็นการวางเป้าหมายทั้ง OS หรือระบบปฏิบัติการ รวมถึงทุกอย่างที่เป็นช่องโหว่ หรือระบบแวดล้อมซึ่งจะทำความเสียหายวงกว้างกว่า

ความเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นทั้งส่วนภัยไซเบอร์และองค์กร สิ่งที่เทรนด์ไมโครเห็นคือการโจมตีและเรียกค่าไถ่บนไซเบอร์ที่เรียกว่าแรนซัมแวร์นั้นเพิ่มขึ้นถึง 34% โดย Top 4 ของอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายการโจมตีในปี 63 ได้แก่ ภาครัฐบาล ธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต และเฮลธ์แคร์ แปลว่าองค์กรจะต้องเปลี่ยนเพื่อให้รู้ได้ตลอดเวลาว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นบนเครือข่าย

***เสี่ยงมาก ถ้าไม่รู้จุดเสี่ยง

ในเมื่อมีความเสี่ยงสูงหากองค์กรไม่รู้จุดเสี่ยง เทรนด์ไมโครจึงเน้นที่การทำ 'มัลติเลเยอร์ซีเคียวริตี้' หรือการรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลัง เทรนด์ไมโครไทยจะโฟกัสที่ระบบ Vision One มีกำหนดเปิดให้ลูกค้าไทยได้ใช้ในไตรมาสนี้จากที่เริ่มประกาศเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาสที่แล้ว

'ตอนนี้เราเป็นเทคโนโลยีเวนเดอร์ แต่จากนี้เราจะมองให้ตัวเองเป็นแพลตฟอร์มเวนเดอร์ จะมีศูนย์ให้ลูกค้าจัดการทุกอย่างได้เอง ในมุมธุรกิจ เราเป็นผู้ค้ารายเดียวที่ทำได้ครบ ง่ายต่อการตอบสนองภัยคุกคามในอนาคต' ปิยธิดากล่าว 'ในมุมลูกค้า สิ่งที่ต้องคำนึงต่อก็คือ 1. การเห็นและเข้าถึงช่องโหว่ที่เป็นจุดเสี่ยงได้ 2. ต้องยืดหยุ่นและบริหารจัดการได้เร็ว และ 3. ต้องมีเครื่องมือที่เชื่อถือได้'

เทรนด์ไมโครไทยย้ำว่าบริษัทมีการลงทุนมากขึ้นในส่วนสนับสนุนพันธมิตรที่ลึกขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันที่มากขึ้น เบื้องต้นเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโต และธนาคารยังคงอัปเดทระบบตัวเอง มีการลงทุนที่ทำให้ไทยเป็นอีโคซิสเต็มขนาดใหญ่และสำคัญระดับภูมิภาค.
#3119


วันที่ 12 ส.ค.64 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามตัวเลขการลงทุนของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการพยุงเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนต่อไป โดยเฉพาะของรัฐวิสาหกิจที่จะต้องเป็นหลักในเวลานี้ เนื่องด้วยภาคเอกชนอาจมีการชะลอการลงทุนเหตุจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รายงานว่า ช่วงหกเดือนแรกของปี 2564 เกิดเม็ดเงินจากการลงทุนในธุรกิจพลังงานแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานต่าง ๆ ภายใต้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่กำกับดูแลประกอบไปด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และบริษัทอื่น ๆ ในเครือ การลงทุนที่สำคัญ อาทิ โครงการสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งใหม่ จ.ระยอง โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 5 และโครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าทั่วประเทศ ทั้งนี้ ตั้งเป้าการลงทุนของธุรกิจพลังงานของทั้งปี 2564 ไว้ที่ 2 แสนล้านบาท

สำหรับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) นางสาวรัชดา กล่าวว่า สคร. ได้รายงานการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม ของปีงบประมาณ 2564 ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ในภาพรวมเป็นไปตามแผนหรือสูงกว่าแผน โดยสามารถเบิกจ่ายได้ 1.91 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 101 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โครงการขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้สูงกว่าแผน เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของ รฟท. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ของ รฟม.
 
"ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และเข้าใจดีว่าสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อหลายโครงการ/แผนงาน เนื่องจากบุคลากรไม่สามารถเข้าพื้นที่ที่อยู่ในเขตควบคุมเข้มข้นสูงสุดเพื่อก่อสร้างหรือตรวจรับงานได้ รวมทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงได้สั่งการให้ส่วนราชการทุกกระทรวงทำงานร่วมกับรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยผลักดันโครงการลงทุนให้ดำเนินการได้ตามเป้าหมาย นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจประเทศต่อไป" นางสาวรัชดา กล่าว


ที่มา รัฐบาลไทย
#3120


"ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง" สนามบินแห่งใหม่ ณ เมืองชิงเต่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน เปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อมต่อการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ

สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีน เปิดเผยข้องมูลเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า มณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน เปิดใช้งานท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของซานตงอย่างเป็นทางการ

ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง มีสถานะ 4เอฟ (4F) ซึ่งสูงสุดในการจัดระดับสนามบินของจีน สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ อาทิ แอร์บัส เอ380 เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)
ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)

ชิงเต่า แอร์พอร์ต กรุ๊ป ระบุว่าโครงการระยะแรกของท่าอากาศยานฯ ครอบคลุมพื้นที่ 16.25 ตารางกิโลเมตร มีมูลค่าการลงทุนเกือบ 3.6 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.8 แสนล้านบาท)

โครงการระยะแรกดังกล่าวจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารรายปีสูงถึง 35 ล้านคน ปริมาณสินค้า 5 แสนตัน และการขึ้นบิน-ลงจอดของอากาศยาน 3 แสนลำ ภายในปี 2025

นอกจากนั้นท่าอากาศยานฯ จะเชื่อมต่อชิงเต่ากับ 130 จุดหมายปลายทางในประเทศ ครอบคลุมเมืองและภูมิภาคสำคัญ รวมถึง 50 เมืองใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งมี 17 เมืองอยู่ในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)
ท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า เจียวตง (ภาพจาก สำนักข่าวซินหัว)

บรรดาผู้โดยสารสามารถเดินทางเข้าออกท่าอากาศยานฯ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งหลักอย่างสะดวกสบายผ่านบริการรถไฟใต้ดินและรถไฟความเร็วสูง

นักธุรกิจชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งในเมืองชิงเต่าของซานตง เผยว่าการเปิดท่าอากาศยานฯ ช่วยให้นักธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เดินทางพบปะลูกค้าทั่วโลกง่ายดายยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันท่าอากาศยานฯ ยังเอื้ออำนวยประโยชน์แก่การขยับขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ นำไปสู่การตัดลดต้นทุนการขนส่งอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

ปัจจุบันการก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 เริ่มดำเนินงานแล้ว หากเสร็จสิ้นจะทำให้ท่าอากาศยานฯ รองรับผู้โดยสารปีละ 55 ล้านคน สินค้า 1 ล้านตัน และเครื่องบินขึ้นลง 452,000 ลำ

ทั้งนี้ เมืองชิงเต่าได้ปิดบริการท่าอากาศยานนานาชาติชิงเต่า หลิวถิง หลังจากเปิดใช้งานท่าอากาศยานแห่งใหม่แล้ว