• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Beer625

#3221
ข้าวออแกนิคคือ  ข้าวกล้องอินทรีย์ส่งทั่วไทย#ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวกล้องมะลินิลออแกนิค คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




ข้าวหอมมะลิออแกนิกข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)   ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลออร์แกนิคเลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิค เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ข้าวกล้องหอมมะลินิลออแกนิคสำหรับทารก แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเกษตรอินทรีย์ 
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf1bev6bzbun6ssb.net/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวเกษตรอินทรีย์หอมมะลิ
2.  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
3.  ข้าวปะกาอำปึลorganic
4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5.  ปลูกข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์6.  ข้าวกล้องเกษตรอินทรีย์หอมมะลินิล7.  ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 
 
#3222


ทวิตเตอร์ คือ สิ่งที่เกิดขึ้น #WhatsHappening และสิ่งที่ผู้คนกำลังพูดถึง ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทวิตเตอร์ได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของข่าวสารและข้อมูลล่าสุดที่มาจากแหล่งข่าวน่าเชื่อถือ ในช่วงเวลานี้ที่ #StayAtHome และ #WorkFromHome กลายเป็นเรื่องปกติของใครหลายๆ คน ทำให้

ไลฟ์สไตล์และรูปแบบของการบริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับหวยออนไลน์การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ของผู้บริโภคในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ทวิตเตอร์จึงได้วิจัยบทสนทนาที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคบนทวิตเตอร์ประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 - 31 พฤษภาคม 2021 พบว่าในช่วงการแพร่ระบาด

ของโควิด-19 มีบทสนทนาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้ถูกพูดถึง 5 อันดับแรก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม, ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน

ผลการวิจัยพบว่า ในประเทศไทยมี 3 เทรนด์ที่สำคัญเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่

1.การเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ

ช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 อีคอมเมิร์ซเป็นเพียงเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรง แต่ปัจจุบันนี้อีคอมเมิร์ซและการ
ส่งของออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย ตลาดนัดขายของแบบเดิมถูกดิสรัปต์ และ
ทวิตเตอร์ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้บริโภคจะเข้ามาค้นหาข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าในปัจจุบัน

2. การล็อกดาวน์บางส่วนไม่ได้เป็นแค่แรงขับเคลื่อนเดียวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในประเทศไทย

ถึงแม้ว่าการล็อกดาวน์บางส่วนและการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคจะมีความเกี่ยวพันกันอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป จากการวิจัยของทวิตเตอร์พบว่าแม้จะอยู่ในช่วงที่มีการผ่อนปรนมาตรการการลงเพื่อให้ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเปิดให้ผู้คนเข้ามาใช้บริการได้ แต่บทสนทนาบนทวิตเตอร์ยังคงพูดถึงเรื่องของการ
ซื้อของที่สะดวกสบาย ซึ่งอีคอมเมิร์ซคือตัวขับเคลื่อนหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ของผู้บริโภคไทยที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องในอนาคต

3. แม้ว่าโปรไฟล์กลุ่มเป้าหมายของสินค้าอุปโภคบริโภคแต่ละกลุ่มจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่ในบางเรื่อง

ผู้หญิงจะมีอิทธิพลในบทสนทนายอดนิยม 5 อันดับแรกทั้งหมดที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม, ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เท่ากันทั้งหมดในทุกบทสนทนา แต่จากการวิจัยพบว่าผู้หญิงจะทวีตข้อความเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่าผู้ชาย อีกทั้งยังพบว่านอกเหนือไปจากบทสนทนาที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค 5 อันดับแรก กลุ่มเป้าหมายก็ยังมีความคล้ายคลึงกันใน

บทสนทนาหัวข้ออื่นๆ อย่างเช่นโปรไฟล์ของกลุ่มเป้าหมายในเรื่องของ "ความสนใจอื่นๆ" โดย 2 อันดับแรกที่เหมือนกัน ได้แก่ ดนตรีและศิลปะ

ชานดาน ดีฟ หัวหน้าแผนก Emerging Business ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า "ไม่แปลกใจเลยที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิถีการจับจ่ายใช้สอยของผู้คนในปัจจุบัน รวมไปถึงผู้คนบนทวิตเตอร์ในประเทศไทย เราเห็นว่าเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคได้กลายมาเป็น บทสนทนาที่สำคัญ และคนไทยอยากจะเป็นคนแรกที่ได้ซื้อ ลองใช้ และแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าใหม่ชนิดนั้นอย่างไร แบรนด์เองก็รู้สึกตื่นเต้นที่กลุ่มเป้าหมายขยับใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้นและเลือกใช้ทวิตเตอร์ในการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพนับล้านคนบนทวิตเตอร์"

บทสนทนาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค 5 อันดับยอดนิยมบนทวิตเตอร์ประเทศไทย ได้แก่

1. ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป (Packaged Food)

บทสนทนาที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปบนทวิตเตอร์ประเทศไทยเกิดขึ้นทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และยังเป็นอันดับหนึ่งจากทั้ง 5 อันดับในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งมีการเติบโตขึ้นถึง 22% นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของ ปี 2020 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2021 ซึ่งมีแรงประสานร่วมกันที่ชัดเจนระหว่างการเติบโตของบทสนทนาบนทวิตเตอร์และการล็อกดาวน์บางส่วน

เนื่องจากคนไทยที่ใช้งานทวิตเตอร์ชอบพูดคุยกันในเรื่องของอาหารตั้งแต่สินค้า ผลิตภัณฑ์อาหาร ร้านอาหาร ไปจนถึงตัวเลือกในการช้อปปิ้งอาหารผ่านออนไลน์ อีกทั้ง นวัตกรรมสินค้ารสชาติใหม่ๆ ขนมรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น และการเปิดตัวสินค้าบนทวิตเตอร์ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากคนไทยบนทวิตเตอร์ต้องการเป็นคนแรกที่ได้ซื้อและได้ลอง

ในขณะที่ บทสนทนาเกี่ยวกับการทำอาหารและการทำขนมเป็นหัวข้อยอดนิยมมาตั้งแต่ก่อนจะเกิดโควิด-19 แล้ว แต่ในไตรมาสแรกของปี 2021 บทสนทนาบนทวิตเตอร์ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะความนิยมเกี่ยวกับขนมขบเคี้ยว ของกินเล่น ความชื่นชอบในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้อและร้านค้าปลีกที่เป็นอีคอมเมิร์ซ

เครดิตทวีตจาก: https:// twitter.com/NanJeera/status/1370003555654934528

2. เครื่องดื่ม (Beverages)

ช่วงโควิด-19 มีบทสนทนาเกี่ยวกับเครื่องดื่มบนทวิตเตอร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบทสนทนาเกี่ยวกับเครื่องดื่มมักมีความเชื่อมโยงกับอาหารและได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมาก จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ และการดึงเหล่าเซเลบริตี้ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ อาทิ เป๊ก ผลิตโชค (@peckpalit) วงแบล็กพิงก์ (@BLACKPINK) และดาราไทยจากซีรีส์ F4 ซึ่งช่วยขับเคลื่อนบทสนทนาและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

เครดิตทวีต: https:// twitter.com/winnieboy_2102/status/1409496936739004416

เทรนด์ของบทสนทนาเกี่ยวกับเครื่องดื่มในไตรมาสแรกของปี 2021 จะเป็นพวกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะเครื่องดื่มที่ช่วยในเรื่องของความงามและผิวพรรณ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน

3. ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม (Hair Care)

บทสนทนาที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศที่มีจำนวนมากที่สุดในช่วงที่มีการแพร่ระบาด คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมโดยมีวัฒนธรรมป็อบเป็นตัวหลักในการจุดกระแสของบทสนทนาหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นสีผมหรือสไตล์ทรงผมล่าสุดของศิลปินดารา K-pop และไอดอลไทยที่ทำให้แฟนๆ เข้ามาพูดคุยและตอบรับกับกระแสอย่างต่อเนื่อง

บนทวิตเตอร์ บทสทนาที่กำลังมาแรงนี้มีวิวัฒนาการตั้งแต่การขายสินค้าและการรีวิวสินค้าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 มาจนถึงการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะในไตรมาสแรกของปี 2021 เนื่องจากคนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้มากขึ้นและมีการแชร์เคล็ดลับรวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ

เครดิตทวีตจาก: https:// twitter.com/eri_pmpm/status/1365135239983423489


เนื่องจากความอยากที่เป็นผู้นำเทรนด์ล่าสุด คนไทยบนทวิตเตอร์จึงเป็นคนกลุ่มแรกที่อยากซื้อและทดลองใช้สินค้าหรือสไตล์ใหม่ๆ ล่าสุด นอกจากนี้ยังกระตือรือร้นที่จะแชร์คำแนะนำต่อให้กับคนอื่นๆ ทำให้ทวิตเตอร์กลายเป็นตลาดในการขายสินค้าและเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ล่าสุดของเทรนด์ในการดูแลเส้นผมอีกด้วย

เครดิตทวีตจาก: https:// twitter.com/Hamkdy_/status/1421072145329709066

4. ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิว (Personal and Skin Care)

บทสนทนาที่เกี่ยวกับความงามบนทวิตเตอร์ประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมและแทบไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าบทสนทนาหัวข้อนี้ได้รับความนิยมมากสุดในกลุ่มผู้หญิง 62% แต่การทวีตข้อความที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวก็ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชายมากถึง 38%

กลุ่มเป้าหมายชาวไทยบนทวิตเตอร์เปิดใจรับกับผลิตภัณฑ์ความงาม ทำให้ทวิตเตอร์กลายเป็นสถานที่สำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการเปิดตัวสินค้าดูแลและบำรุงผิวตัวใหม่ล่าสุด และด้วยความอยากลองใช้สินค้าตัวใหม่ล่าสุด คนไทยบน ทวิตเตอร์จึงรีบไปซื้อสินค้ามาลองใช้เพื่อแชร์ประสบการณ์ในการใช้งาน

นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ยังชอบแนะนำและ ขายต่อ ทำให้ทวิตเตอร์กลายเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ความงามและแบรนด์ต่างๆ เพราะว่าคนไทยยังคงมองหาสินค้าที่จะมาใช้ในกิจวัตรการดูแลความงามของตัวเองอย่างต่อเนื่องในช่วงโควิด

ซึ่งบทสนทนาในหัวข้อนี้ก็ไม่ได้ขับเคลื่อนเฉพาะแค่เรื่องความปรารถนาที่จะดูดีเพียงอย่างเดียว แต่เรื่องของสุขภาพก็เป็นอีกหนึ่งบทสนทนาที่สำคัญเนื่องจากผู้คนหันมาใช้ทวิตเตอร์ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพผิว ตั้งแต่เรื่องสิว ไปจนถึงเรื่องของการมีผิวกระจ่างใสและขอคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องผิวพรรณ

เครดิตทวีตจาก: https:// twitter.com/FKYz_/status/1420332191708454912

5. ผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน (Home Care)

การแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงแรกผู้คนต่างมุ่งความสนใจไปในเรื่องการฆ่าเชื้อโรคในบ้านทำให้บทสนทนาที่เกี่ยวกับการดูแลบ้านเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ติดอยู่ใน 5 อันดับบทสนทนาที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค แม้ว่าบทสนทนาใน
หัวข้อนี้จะลดน้อยลงไปในระดับหนึ่ง แต่การดูแลบ้านยังคงเป็นหัวข้อบทสนทนาที่มีความสำคัญอยู่บนทวิตเตอร์ประเทศไทย

ชาวทวิตภพมักทวีตเกี่ยวกับการดูแลรักษาและการป้องกันบ้านที่อยู่ของพวกเขา และจากการสนทนาเกี่ยวกับการดูแลรักษาที่อยู่อาศัย มาจนถึงไตรมาสแรกของปี 2021 เทรนด์การสนทนาได้เปลี่ยนมาเป็นเรื่องของความงามและสุนทรียศาสตร์แทนเนื่องจากคนส่วนใหญ่หันมาโชว์บ้านหรือห้องของตัวเองที่ดูสะอาดสะอ้านสบายตาและการตกแต่งที่ดูดีมีสไตล์ทำให้บทสนทนาในหัวข้อนี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องบนทวิตเตอร์ประเทศไทย

เครดิตทวีตจาก: https:// twitter.com/JorOrYor/status/1416250284364369920

คลิกที่นี่ครบจบ เช็คสิทธิ 'ประกันสังคม' www.sso.go.th ม.33 ม.39 ม.40
ยึดทรัพย์​กว่า 100 ล้าน ปธ.สโมสรฟุต.ดังเมืองเหนือ น้องใหม่ไทยลีก 2 คดีค้ายาเสพติด
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยิ่งหนัก! พบติดเชื้อเพิ่ม 23,418 ราย เสียชีวิต 184 ราย ไม่รวม ATK อีก 1,523 ราย
การเปลี่ยนแปลงเทรนด์ของผู้บริโภคสร้างโอกาสใหม่ให้กับแบรนด์

การวิจัยของทวิตเตอร์แสดงให้เห็นว่าเทรนด์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ความ
ชื่นชอบที่เกิดจากความพึงพอใจในทันทีผ่านการซื้อของออนไลน์และการช้อปปิ้งที่ร้านสะดวกซื้อทำให้เทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงต่อไปเรื่อยๆ

และหากมองจากมุมมองของแบรนด์ ทวิตเตอร์ ถือเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่แบรนด์สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ โดยผู้ใช้งาน 71% ให้คะแนนในการโต้ตอบกับแบรนด์ว่า "ดี / ดีเยี่ยม" (มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ) นอกจากนี้ทวิตเตอร์ยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการเปิดตัวสินค้าอุปโภคบริโภคใหม่ๆ

โดยผู้ใช้งาน 77% ให้คะแนนในเรื่องของการที่ทวิตเตอร์แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกอยู่ในขณะนั้นว่า "ดีมาก / ดีที่สุด" (มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ) ดังนั้นแบรนด์ที่ชาญฉลาดจะใช้ประโยชน์จากทวิตเตอร์ในการทำความเข้าใจเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันและในอนาคต ขณะเดียวกันยังเป็นการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพผ่านการใช้เครื่องมือโฆษณาสร้างสรรค์ของทวิตเตอร์และใช้พลังของการสนทนาบนทวิตเตอร์ได้อีกด้วย
#3223


วันนี้ (12ส.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ห่วงใยสถานการณ์ขยะติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีความต้องการใช้หน้ากากอนามัยสูงขึ้น เป็นที่มาของขยะติดเชื้อ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งล้อม กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ให้ปฏิบัติตามมาตรการจัดเก็บและกำจัดขยะติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู่ ชุดตรวจ Antigen Test Kit ไปจนถึงขยะติดเชื้อจากสถานพยาบาล ฯลฯ อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชน ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อันเกิดจากขยะดังกล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำชับให้เน้นย้ำระบบการจัดการขยะติดเชื้อตั้งแต่ต้นทาง โดยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงวิธีการทิ้งขยะติดเชื้ออย่างถูกต้องตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด กลางทางคือกระบวนการจัดเก็บ ทั้งจากแหล่งชุมชน โรงพยาบาล โรงพยายามสนาม รวมถึงสถานที่กักตัวในชุมนุม (Community Isolation) โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามมาตรการการจัดเก็บอย่างเคร่งครัด มีระบบการป้องกันอย่างรัดกุม ก่อนจะไปถึงปลายทางคือกระบวนการทำลาย ซึ่งต้องทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้รายงานปริมาณขยะติดเชื้อพบว่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลย้อนหลัง 5 วัน พบปริมาณขยะติดเชื้อ ดังนี้ วันที่ 10 ส.ค. มีปริมาณขยะติดเชื้อรวม 125,072 กิโลกรัม เป็นมูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 61,114 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 63,958 กิโลกรัม , วันที่ 9 ส.ค. มีปริมาณ 118,150 กิโลกรัม เป็นมูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 60,161 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 57,989 กิโลกรัม , วันที่ 8 ส.ค. มีปริมาณ 126,700 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 70,380 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 56,320 กิโลกรัม , วันที่ 7 ส.ค. มีปริมาณ 109,070 กิโลกรัม เป็นมูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 67,113 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด 41,957 กิโลกรัม และ วันที่ 6 ส.ค มีปริมาณ 112,310 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อทั่วไป 68,386 กิโลกรัม มูลฝอยติดเชื้อโควิด-19 43,924 กิโลกรัม

ดังนี้ รัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชน ให้มีการคัดแยกขยะติดเชื้อตั้งแต่ต้นทาง สำหรับการทิ้งหน้ากากอนามัย ให้พับแล้วใช้สายรัดพันให้แน่น นำหน้ากากอนามัยใส่ถุงแล้วรัดปากถุงให้แน่น เพื่อป้องกันการกระจายของเชื้อ เขียนกำกับบนถุงว่าขยะติดเชื้อ ทิ้งลงถังรองรับหน้ากากอนามัยใช้แล้ว (ถังสีส้ม) เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ทันทีหลังทิ้งหน้ากากอนามัย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนชุดตรวจ Antigen Test Kit กระทรวงสาธารณสุข แนะนำวิธีกำจัด ไว้ 2 กรณี 1) ชุมชนที่มีระบบการเก็บขยะติดเชื้อ ให้เก็บรวบรวมขยะติดเชื้อเป็นประจำทุกวัน โดยใส่ถุงขยะ (ถุงแดง) 2 ชั้น มัดปากถุงชั้นในและชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ ก่อนเคลื่อนย้ายไปไว้ยังจุดพักขยะที่จัดไว้เฉพาะ เพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป

2) ชุมชนที่ไม่มีระบบการเก็บขนมูลฝอยติดเชื้อ ให้เก็บรวบรวมและทำลายเชื้อ โดยใส่ถุงขยะ 2 ชั้น ถุงใบแรกที่บรรจุมูลฝอยติดเชื้อแล้ว ให้ราดด้วยสารฆ่าเชื้อหรือน้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ จากนั้นมัดปากถุงให้แน่นแล้วฉีดพ่นบริเวณปากถุงด้วยสารฆ่าเชื้อ ซ้อนด้วยถุงขยะอีก 1 ชั้น มัดปากถุงชั้นนอกด้วยเชือกให้แน่น และฉีดพ่นด้วยสารฆ่าเชื้อบริเวณปากถุงอีกครั้ง จากนั้นให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อนำไปกำจัดต่อไป
#3224


นางสาวโรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า "จุดประสงค์ของการเปิดตัวโฆษณารณรงค์ดังกล่าว เนื่องมาจากทุกวันนี้ในประเทศไทยมีช้างราวๆ 2,800 ตัวที่ถูกใช้ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิง แต่เบื้องหลังที่นักท่องอาจไม่เคยรู้ คือ การพรากลูกช้างจากแม่ เพื่อนำมาฝึกตั้งแต่ยังเด็ก โดยช้างจะถูกบังคับ กักขัง ถูกขอสับซ้ำๆ ทั้งล่ามโช่ ทำร้าย ใช้งานหนัก เพื่อให้หวาดกลัวมนุษย์และเชื่องพอที่จะแสดงกิจกรรมที่ผิดธรรมชาติ การที่นักท่องเที่ยวร่วมชื่นชมการแสดงของช้างแสนรู้เป็นการสนับสนุนให้ช้างต้องถูกทรมานทางอ้อมโดยที่เราไม่รู้ตัว"

"องค์กรฯ มีเป้าหมายที่อยากเห็นช้างเลี้ยงรุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด และไม่มีการผสมพันธุ์เชิงพาณิชย์อีก อยากเห็นช้างที่เป็นสัตว์ป่า ได้รับการปกป้องในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของพวกเขา ถ้าคุณรักช้าง ทุกคนต้องช่วยกันปกป้องพวกเขาให้ได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ แต่หากอยากเที่ยวอยากชมช้างจริงๆ แนะนำให้ศึกษาช้างในแหล่งธรรมชาติอย่างอุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้างซึ่งมีมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสูง""

โฆษณารณรงค์ชุดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นเสียงสะท้อนสำหรับช้างเท่านั้น แต่ต้องการสร้างความตระหนักให้กับคนดูเห็นว่า เบื้องหลังของการแสดงช้างที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู จริงๆ แล้วคือช้างเหล่านี้ต้องผ่านการฝึกอย่างหนักและทารุณเพื่อยุติสัญชาตญาณของสัตว์ป่าเพื่อให้ช้างเชื่องและหวาดกลัวพอที่จะออกแสดงโชว์ได้ และถ้าหากเรายังไม่หยุดสนับสนุนกิจกรรมมีเบื้องหลังโหดร้าย วงจรแห่งความทารุณนี้ก็จะสร้างความบอบช้ำไม่รู้จบ เพียงเพื่อแลกกับความบันเทิงชั่วคราวของนักท่องเที่ยว



นายฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ช้างเป็นสัตว์ป่า สมควรได้อยู่ในป่า ผลสำรวจของเราพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวในไทยเริ่มรับไม่ได้กับกิจกรรมที่เป็นการทำร้ายสัตว์มากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 ยิ่งทำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่สามารถเป็นที่พึ่งของช้างนี้ได้ เห็นได้จากข่าวเกี่ยวกับช้างตกงาน ถูกปล่อยกลับบ้าน และอดอยากมากมาย"

"เมื่อวิกฤติจากโควิด-19 บรรเทาลงแล้ว เรามองว่านี่เป็นโอกาสดีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะหันมาปรับปรุงสวัสดิภาพช้างให้ดีขึ้น ให้สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่มุ่งไปสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ภาครัฐเองก็ควรจริงจังกับเรื่องนี้มากขึ้นเช่นกัน ผ่านการออกกฎหมายและนโยบายที่ปกป้องสัตว์ป่าอย่างเป็นระบบ ถ้าทำได้จริง จะกลายเป็นตัวอย่างที่ดีในสังคมโลกและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย"

ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตวแห่งโลก พร้อมภาคีเครือข่าย นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ได้ร่วมผลักดันร่างพระราชบัญญัติปกป้องและคุ้มครองช้างไทย พ.ศ.... ซึ่งเป็นร่างกฎหมายฉบับแรกที่จะปกป้องช้างจากการทารุณกรรมช้างในทุกรูปแบบ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญอย่างการยุติผสมพันธุ์ช้างเชิงพาณิชย์ ยกระดับการจัดสวัสดิภาพช้าง ยุติการใช้กระบวนการฝึกช้างที่โหดร้ายทารุณ และไม่บังคับช้างให้แสดงพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ เป็นต้น
#3225


สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(11ส.ค.)ปรับตัวขึ้น 96 เซนต์หลังสหรัฐระบุว่าอยู่ระหว่างติดต่อไปยังสมาชิกโอเปกและพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมัน โดยไม่เรียกร้องให้บรรดาผู้ส่งออกเพิ่มกำลังผลิตแต่มีเป้าหมายเพื่อประสานงานในระยะยาว ไม่จำเป็นต้องได้รับการตอบสนองในทันที



นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐที่ระบุในวันพุธ(11ส.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนสต๊อกเบนซินลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งในภาพรวมคลังน้ำมันดิบสำรองลดลงต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ สืบเนื่องจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ ปิดที่ 69.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ ปิดที่ 71.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

เติมด่วน! 'โออาร์-บางจาก' ปรับขึ้นน้ำมันทุกชนิด 40 สต. เว้น E85 ขยับ 20 สต.

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 "โออาร์-บางจาก" ผู้ค้าน้ำมันปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิด 40 สต./ลิตร ยกเว้น E85 ขึ้น 20 สต./ลิตร มีผลวันที่ 28 ก.ค. 64 เวลา 05.00 น.


สำหรับราคาใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันพรุ่งนี้จะเป็นดังนี้

ดีเซล B7 ลิตรละ 29.39 บาท
E85 ลิตรละ 22.84 บาท
E20 ลิตรละ 28.34 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 29.58 บาท
แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 29.85 บาท
(ราคานี้ยังไม่รวมภาษีท้องที่ของแต่ละจังหวัด)
#3226


ออร่าความเท่ ไม่มีแผ่ว ทำสาวๆหรือใครๆเห็นแล้วอยากจะขยับเข้าใกล้ ล่าสุดพระเอกดาวรุ่งพุ่งแรงสามีแห่ง "ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล" ขึ้นแท่นรับตำแหน่งเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ "สเปรย์ฉีดผ้าลดรอยยับ Mrs. WoW" คนใหม่ล่าสุด ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนครบทุกด้าน สื่อถึงผู้บริโภครุ่นใหม่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตัวช่วยให้การทำงานบ้านในการรีดผ้าโดยเฉพาะผู้ชายเป็นเรื่องที่ง่าย ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ด้วยนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับคนรักผ้าเรียบแค่ฉีดแล้วลูบก็ทำให้ผ้าเรียบโดยไม่ต้องใช้เตารีด พร้อมมีสารแอนตี้แบคทีเรีย ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปถึงโครงสร้างของเนื้อผ้า และคุณสมบัติพิเศษให้ผ้าหอมยาวนานตลอดทั้งวัน

"ผมว่ามันเวิร์คมากและเหมาะมากๆสำหรับคนที่ไม่มีเวลารีดผ้า โดยเฉพาะเหล่าคุณผู้ชายที่จะต้องมีตัวช่วยแบบนี้ไว้ติดบ้าน เพราะวิธีใช้งานง่าย สะดวกสบาย แค่ฉีดแล้วลูบ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผ้าเรียบและมีกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยเรื่องการระงับกลิ่น ฆ่าเชื้อโรค และยังช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตจากเนื้อผ้ากับผิวได้ดีอีกด้วย ทำให้เราฟีลกู๊ดไปได้ทั้งวัน"

เตรียมพบกับโปรเจ็กต์พิเศษพร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุก ให้แฟนๆ ได้ฟิน และมีส่วนร่วมกับแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์ ก๊อต จิรายุ ตลอดทั้งปี รอติดตามได้ในเร็วๆนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http:// www.mrswow-thailand.com/
#3227
111-Lotto 111  ตัวแทนจำหน่าย ล็อตเตอรี่ออนไลน์ รายใหญ่ของ มังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์  ปรับเปลี่ยนรูปแบบการซื้อล็อตเตอรี่แบบใหม่  ยุค new normal




ไม่ต้องไปหน้าแผง ไม่ต้องเสียเวลาก้มหาเลข ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะมีเลขที่อยากได้มั้ย แค่แอดไลน์ หาเรา บอกเลขที่ต้องการ เลขเด็ด เลขดัง แจ้งโอนเงิน จะได้รับ SMS ยืนยัน




ถ้าถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินได้จริง ได้รับเงินจริงไม่เกิน 24 ชม โดยปกติใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกเท่านั้น 

ขั้นตอนการซื้อ ล็อตเตอรี่ออนไลน์ กับเรานั้น ง่ายๆ มาก มี 2 แบบให้เลือกแล้วแต่สะดวก

1. แอดไลน์ @111-lotto หรือคลิกทีนี่ เพื่อ คุยกับแอดมินโดยตรงและทำการสั่งซื้อและโอนเงินผ่านไลน์ มีเจ้าหน้าที่แนะนำทุกขั้นตอน 

111-lotto รีบแอดไลน์เพื่อเลือกเลขรางวัลก่อนใคร

Add Line : @111-lotto





2. สั่งซื้อผ่านระบบ 111-lotto ล็อตเตอรี่ของของมังกรฟ้าล็อตเตอรี่ออนไลน์ ด้วยตัวเอง จะทำที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ Add Line : @111-lotto


 


 
#3228


ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด-19" ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงทุกวัน ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุกให้มากขึ้นในหลายๆ ชุมชน พร้อมกันนั้นทาง กทม. ก็ได้จัดตั้ง "ศูนย์พักคอย" หรือ Community Isolation ให้ครอบคลุมทุกเขตพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพื่อรองรับ "ผู้ป่วยโควิด" ที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ ให้มาแยกกักที่ศูนย์ฯ

โดยเมื่อวานนี้ (9 ส.ค.64) มีข้อมูลอัพเดทเกี่ยวกับจำนวนศูนย์พักคอยที่เปิดให้บริการแล้ว พร้อมทั้งจำนวนเตียงทั้งหมดที่มีของแต่ละแห่ง โดยมีทั้งหมด 49 แห่ง แบ่งเป็น 6 โซนทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนี้

1. โซนกรุงเทพฯ เหนือ

เขตบางเขน : ศูนย์กีฬารามอินทรา      มี 150 เตียง
เขตจตุจักร : ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์    มี 180 เตียง
เขตจตุจักร : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยจตุจักร มี 120 เตียง
เขตดอนเมือง : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยดอนเมือง มี 113 เตียง
เขตหลักสี่ : ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่         มี 118 เตียง
เขตสายไหม : วัดราษฎร์นิยมธรรม      มี 170 เตียง
เขตบางซื่อ : วัดมัชฌันติการาม          มี 120 เตียง
เขตลาดพร้าว : อาคารสำนักงานส่งเสริมวิชาการ 2 (พม.) มี 141 เตียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

เช็ค 26 จุดตรวจโควิด! 'ชมรมแพทย์ชนบท' ลุยภารกิจวันสุดท้าย ย้ำ 'ไม่เสร็จไม่เลิก'
'หมอชนบท'ลงพื้นที่ 'ตรวจโควิด' 26 จุดใน กทม. พบการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่
'ผู้ป่วยโควิด-19' รอเตียงกว่า 2,000 ราย ครองเตียงเกือบ 4 หมื่นราย
อัพเดท 'โควิดวันนี้' 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม.พุ่ง 4,226 ราย
สมัครผ่อนของ 0% 40 เดือนกับ Citi คลิกเลย

2. โซนกรุงเทพฯ กลาง 

เขตพระนคร : วัดอินทรวิหาร อาคารปฏิบัติธรรม มี 170 เตียง
เขตดินแดง : อาคารกีฬาเวสน์ 2  มี 150 เตียง
เขตดุสิต : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกาย  มี 52 เตียง
เขตห้วยขวาง : ศูนย์พักคอยตันปัน มี 145 เตียง
เขตวังทองหลาง : วิทยาลัยพาณิชยการอินทราชัย มี 100 เตียง
เขตป้อมปราบฯ : วัดมังกรกมลลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เฉพาะพระ-เณร  มี 20 เตียง
เขตพญาไท : ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนชุมชนวัดไผ่ตัน มี 50 เตียง
ราชเทวี : อาคารวิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการเจ้าพระยา มี 170 เตียง
3. โซนกรุงเทพฯ ใต้

เขตสาทร : วัดสุทธิวราราม มี 70 เตียง
เขตคลองเตย : วัดสะพาน มี 500 เตียง
เขตสวนหลวง : วัดปากบ่อ มี 140 เตียง
เขตบางนา : โรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ มี 99 เตียง
เขตบางคอแหลม : วัดไทร มี 40 เตียง
เขตยานนาวา : โรงเรียนวัดดอกไม้ มี 150 เตียง
เขตวัฒนา : โรงเรียนสุเหร่าบ้านดอน มี 85 เตียง
เขตปทุมวัน : โรงเรียนวัดบรมนิวาส มี 50 เตียง
เขตพระโขนง : วัดบุญรอดธรรมาราม มี 71 เตียง
เขตบางรัก : โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒารามฯ มี 50 เตียง
4. กรุงเทพฯ ตะวันออก

เขตประเวศ : ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมหนองบอน มี 120 เตียง
เขตลาดกระบัง : ร้านจงกั๋วเหยียน มี 200 เตียง
เขตสะพานสูง : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยสะพานสูง มี 140 เตียง
เขตบางกะปิ : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางกะปิ มี 133 เตียง
เขตหนองจอก : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยหนองจอก มี 100 เตียง
เขตบึงกุ่ม : โรงเรียนสุขุมนวพันธ์อุปถัมภ์ มี 100 เตียง
เขตมีนบุรี : ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มี 200 เตียง
เขตคลองสามวา : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยคลองสามวา  มี 176 เตียง
'พยากรณ์อากาศ' วันนี้ 'กรมอุตุนิยมวิทยา' ชี้ ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง - กทม. มีฝน 40%
สุดเศร้า! สาธารณสุขเมืองกรุงล้มเหลว ล็อกดาวน์ไร้ผล ยอด 'ผู้ติดเชื้อ' พุ่งคนตายเพียบ
จับตาอสังหาฯ"ซอมบี้เฟิร์ม"พุ่งหลังวิกฤติซ้อนวิกฤติต้นทุนพุ่ง-ดีมานด์ลด
5. กรุงธนเหนือ 

เขตบางกอกน้อย : วัดศรีสุดาราม  มี 80 เตียง
เขตทวีวัฒนา : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทวีวัฒนา  มี 114 เตียง
เขตคลองสาน : อาคารกิจไพบูลย์ อิมพอร์ต  มี 150 เตียง
เขตธนบุรี : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ  มี 94 เตียง
เขตจอมทอง : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยจอมทอง  มี 70 เตียง
บางพลัด : โรงเรียนบางยี่ขัน  มี 91 เตียง
เขตบางกอกใหญ่ : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางกอกใหญ่  มี 50 เตียง
เขตตลิ่งชัน : โรงเรียนวัดตลิ่งชัน  มี 56 เตียง
6. กรุงธนใต้

เขตบางแค : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางแค  มี 150 เตียง
เขตบางขุนเทียน : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบางขุนเทียน มี 120 เตียง
เขตทุ่งครุ : ศูนย์สร้างสุขทุกวัยทุ่งครุ มี 51 เตียง
เขตทุ่งครุ : โรงเรียนสอนศาสนามูฮัมมะดียะห์ มี 60 เตียง
เขตภาษีเจริญ : ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย มี 140 เตียง
เขตหนองแขม : โรงเรียนมนต์จรัสสิงห์อนุสรณ์ มี 100 เตียง
เขตราษฎร์บูรณะ : ศูนย์พักคอยโกดัง บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ มี 200 เตียง
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ Call Center สายด่วน 1330 สปสช. และ "สายด่วนโควิด" ของทั้ง 50 เขตในกรุงเทพฯ รวบรวมมาให้ทราบกันด้วย โดยจะรับเคสผู้ป่วยโควิดในกรุงเทพฯ เข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล 2 แบบ คือ 1) การกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation และ 2) การกักตัวในชุมชนที่ศูนย์พักคอย หรือ Community Isolation

1. กรุงเทพฯ เหนือ

จตุจักร 0 2026 3100
ดอนเมือง 0 2026 3122
บางเขน 0 2026 3166
บางซื่อ 0 2026 3233
ลาดพร้าว 0 2026 3499
สายไหม 0 2026 3500
หลักสี่ 0 2026 6800

2. กรุงเทพฯ กลาง

ดินแดง 0 2092 7016
ดุสิต 0 2092 7121
ป้อมปราบศัตรูพ่าย 0 2092 7313
พญาไท 0 2092 7580
พระนคร 0 2092 7643
ราชเทวี 0 2092 7701
วังทองหลาง 0 2092 7910
สัมพันธวงศ์ 0 2094 1429
ห้วยขวาง 0 2096 9112

3. กรุงเทพฯ ใต้

คลองเตย 0 2096 2823
บางคอแหลม 0 2096 2824
บางนา 0 2096 2825
บางรัก 0 2096 2826
ปทุมวัน 0 2096 2827
พระโขนง 0 2096 2828
ยานนาวา 0 2096 2829
วัฒนา 0 2096 2830
สวนหลวง 0 2096 2831
สาทร 0 2096 2832



4. กรุงเทพฯ ตะวันออก

คลองสามวา 0 2096 9202
คันนายาว 0 2483 5000
บางกะปิ 0 2483 5001
บึงกุ่ม 0 2483 5002
ประเวศ 0 2483 5003
มีนบุรี 0 2483 5004
ลาดกระบัง 0 2483 5005
สะพานสูง 0 2483 5006
หนองจอก 0 2483 5007

5. กรุงธนเหนือ

คลองสาน 0 2023 9900
จอมทอง 0 2023 9911
ตลิ่งชัน 0 2023 9922
ทวีวัฒนา 0 2023 9933
ธนบุรี 0 2023 9944
บางกอกน้อย 0 2023 9966
บางกอกใหญ่ 0 2023 9977
บางพลัด 0 2023 9988

6. กรุงธนใต้

ทุ่งครุ 0 2483 5008
บางขุนเทียน 0 2483 5009
บางแค 0 2483 5010
บางบอน 0 2483 5011
ภาษีเจริญ 0 2483 5012
ราษฎร์บูรณะ 0 2483 5013
หนองแขม 0 2483 5014

----------------------

อ้างอิง : ศบค.(7 ส.ค. 64), สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล (9 ส.ค. 64)
#3229


ภาคอีสาน-ACE รวมพลังคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาในกลุ่มสู้โควิด-19 เดินหน้าผลิตเตียงสนามจากไฟเบอร์บอร์ด จำนวนรวมกว่า 2,000 เตียง ส่งมอบแก่หน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาล และชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ โดยทยอยส่งมอบล็อตแรกทั่วโคราชรวม 300 เตียง



นางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE ผู้นำด้านพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นจนส่งผลให้โรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศประสบปัญหาขาดแคลนเตียงรองรับผู้ป่วย บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนของปัญหาที่เกิดขึ้น จึงผนึกกำลังคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสาในกลุ่ม ACE ร่วมกันผลิตเตียงสนามจากแผ่นไม้ไฟเบอร์บอร์ด จำนวนรวมกว่า 2,000 เตียง สำหรับส่งมอบแก่หน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาล รวมถึงชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ



สำหรับแผ่นไม้ไฟเบอร์บอร์ดที่ ACE นำมาผลิตเตียงสนามสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 200 กิโลกรัม โดยทำมาจากต้นยูคาลิปตัสที่บริษัทในเครือส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเพื่อสร้างรายได้เสริม ลดการตัดไม้จากป่าธรรมชาติอันเป็นสาเหตุให้เกิดสภาวะโลกร้อน



นางสาวจิรฐากล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ACE เริ่มทยอยส่งมอบเตียงสนามแล้ว โดยล็อตแรกจำนวน 300 เตียงถูกส่งมอบแก่หลายหน่วยงานในจังหวัดนครราชสีมา เช่น เทศบาลตำบลโชคชัย จำนวน 20 เตียง อำเภอโชคชัย จำนวน 50 เตียง ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา จำนวน 50 เตียง โรงพยาบาลจักราช จำนวน 10 เตียง ศูนย์พักคอย อบต.โชคชัย จำนวน 44 เตียง อบต.พลับพลา 17 เตียง ฯลฯ และอยู่ระหว่างเร่งผลิตเพื่อกระจายส่งมอบทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง



นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ACE ยังได้บริจาคขวดเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัยให้แก่ชุมชน รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องสแกนวัดอุณหภูมิ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพอัตโนมัติแก่โรงพยาบาลและสถานพยาบาลในบริเวณรอบพื้นที่โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดของ ACE ใน 23 จังหวัดทั่วประเทศ และยังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือเคียงคู่คนไทยสู้โควิด-19 จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย
#3230


การระบาดของโควิด 'เดลดา' ในไทย ทำให้มีผู้ป่วยรายใหม่สูงสุดมากกว่าสองหมื่นราย เสียชีวิตเพิ่มสองร้อยกว่าราย และคาดว่ายังไม่ถึงจุดสูงสุด ปรากฏการณ์ดังกล่าวคล้ายๆ กับหลายประเทศที่กลับมาระบาดอีกครั้งหลังเดลตากระจาย 132 ประเทศทั่วโลก

เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งกระจาย 132 ประเทศทั่วโลก ไม่เพียงแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา 60% แต่มีหลักฐานว่าก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงและอันตรายมากกว่าสายพันธุ์เดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน นอกจากนี้ ยังพบผู้ที่มีอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยลง ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบไม่ว่าชนิดไหน มีโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ ไม่แตกต่างจากผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่อาการมักไม่รุนแรง


ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ออกแนวปฏิบัติล่าสุด 27 ก.ค. แก้ไขจากแนวคิดเดิม เนื่องจากสหรัฐ มีการแพร่ระบาดของเดลตา ขณะเดียวกัน การฉีดวัคซีนยังไม่ไปถึงจุดที่ควรจะเป็น โดยแนะนำ เร่งฉีดวัคซีนโควิดให้เร็วมากขึ้นและกลับมาแนะนำว่าขอให้ประชาชนอเมริกัน ไม่ว่าจะไปที่ใดขอให้พิจารณาเรื่องการใส่หน้ากาก จากที่ก่อนหน้านี้บางรัฐส่งสัญญานว่าไม่ต้องใส่หน้ากาก เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 5 เท่า จากปลายเดือน มิ.ย. เฉลี่ย 12,000 ราย เฉลี่ยนเป็น 60,000 รายในปลายเดือน ก.ค. และ 50 รัฐ มีการกระจายเดลตากว่า 80%


การแพร่ระบาด อาจนำไปสู่การกลายพันธุ์

วานนี้ (10 ส.ค. 64) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงอัปเดตสถานการณ์การรับมือกับ สายพันธุ์ เดลตา จากทั่วโลก ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ Mahidol Channel โดยระบุว่า สัดส่วนของประชากรที่ได้รับวัคซีนที่มากพอ จะมีส่วนสำคัญในการลดการแพร่ระบาดและอัตราการเสียชีวิต แต่ไม่ควรเป็นข้อบ่งชี้ในการยกเลิกหรือผ่อนคลายการระวังตนเอง คือ ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นทำความสะอาดมือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมากในพื้นที่ ที่จำกัด


"การแพร่ระบาดในกลุ่มคนจำนวนมาก อาจนำสู่การเกิดการกลายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเร็ว จะทดแทนสายพันธุ์เดิมหรือสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดช้ากว่า ขณะที่ ความปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ขึ้นกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อในโลก"


ฉีดวัคซีน ลดเสียชีวิต ยังแพร่เชื้อได้
ขณะนี้ ประเทศไทยขณะนี้ (10 ส.ค. 64)  ฉีดวัคซีนไปแล้ว 21,171,110 โดส ใน 77 จังหวัด "ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์" ระบุว่า  วัคซีนยังครอบคลุมเดลตาได้ระดับหนึ่ง โดยยังคงเร่งฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คนอ้วน ซึ่งถ้าน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมก็ฉีดได้เลยไม่จำกัดอายุ รวมไปถึงเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด เพราะตัวเลข 60-70% ของผู้เสียชีวิตเป็นคนอายุเกิน 60 ปี ขณะที่ CDC ระบุว่า การฉีดวัคซีนยังสามารถลดความรุนแรงกับการเสียชีวิตได้ แต่โอกาสการลดการแพร่กระจายลดลงไปเยอะ เพราะอย่างสหรัฐก็ออกมายอมรับเรื่องนี้เช่นกัน

ติดตามมาตรการหลัง สหรัฐ เริ่มกลับมาใส่หน้ากาก
ขณะเดียวกันมาตรการของไทยในขณะนี้ ต้องติดตาม และต้องมีการปรับเปลี่ยน เหมือน CDC สหรัฐ เมื่อฉีดได้ดีก็เริ่มจะให้ยกเลิกการใส่หน้ากากอนามัย แต่เมื่อระบาดขึ้นอีก 11 สัปดาห์ให้หลังก็ต้องกลับมาใส่หน้ากากใหม่อีกครั้ง ทุกประเทศเหมือนกัน ดังนั้น จึงต้องติดตามมาตรการ หากตัวเลขไม่ลงอย่างที่ควรจะเป็น ก็ต้องมาเข้มมาตรการ แต่หากตัวเลขเริ่มนิ่ง ป้องกันปัจจัยรอบข้างได้ เร่งฉีดวัคซีน ก็จะเกิดคุมไวรัสได้ ซึ่งอาจผ่อนมาตรการลงได้ในเวลาที่เหมาะสม


"ส่วนประชาชนให้ความร่วมมือก็ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีรายงานให้เห็นการทำกิจกรรมบางอย่าง  เช่น กิจกรรมทางศาสนา ทำให้มีการรวมกลุ่มจำนวนมาก จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ยังมีโรงงานที่อยากทำบับเบิ้ล แอนด์ ชิล แต่ระบบอาจยังทำไม่ได้มาก ทำให้ยังมีคลัสเตอร์ที่อาจควบคุมได้ไม่เต็มที่ แต่สังคมโดยรวมอย่าง กทม. เท่าที่เห็นการ์ดยังไม่ตก และเริ่มเห็นการติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มลดลง หากรักษาระยะแบบนี้ได้ และเร่งฉีดวัคซีนจะช่วยได้"

"โดยปัจจุบันไทยฉีดได้ราว 22% ของทั้งประเทศ คาดว่าจะได้ 25% ภายใน ส.ค. และไต่ยอดไปเรื่อยๆ ช่วง ก.ย.-ต.ค. น่าจะเห็นจุดที่วัคซีนมากพอ คู่ขนานกับมาตรการต่างๆ คาดว่าจะเห็นตัวเลขลดลง แต่ต้องไม่มีสิ่งใดเข้ามาก่อให้เกิดการแพร่กระจายมากขึ้น"

ไทยยังไม่ถึงจุดพีค
ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงจุดพีค เพราะตัวเลขของกราฟ ไม่ว่าในกทม. หรือต่างจังหวัด ยังขึ้นอยู่ เพียงแต่บางพื้นที่ขึ้นด้วยความชันน้อยลง ขณะเดียวกัน ช่วงเวลานี้ไปจนถึงปลายปียังมีการแย่งวัคซีนในแต่ละประเทศ การผลิตให้มากไม่สามารถทำได้ทัน ประกอบกับสายพันธุ์ที่กระจายเร็วซึ่งทำให้วัคซีนรุ่นแรกๆ ประสิทธิภาพลดลง ด้าน องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่แนะนำเข็ม 3 เพราะอยากให้ทั่วโลกได้รับวัคซีนให้เยอะพอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริบท ความจำเป็นของของแต่ละประเทศ


สิ่งสำคัญต้องดูสถานการณ์โลกควบคู่กับประเทศไทย ตราบใดที่ทั่วโลกร้อน ไทยไม่มีทางเย็น เพราะวัคซีน ยา และสิ่งอื่นๆ ยังต้องแย่งกัน เป็นสิ่งที่หลุดจากสิ่งคาดการณ์เดิม เดลตาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้สิ่งที่จัดการได้ จัดการไม่ได้ เช่น สหรัฐ หรืออิสราเอล หากไม่ช่วยกัน หากมีการแพร่ระบาดมาก และโชคร้ายมีสายพันธุ์ใหม่อีก ตอนนั้นจะยิ่งเดือดร้อน ตอนนี้จึงต้องเร่งหยุดการแพร่กระจายให้เร็วที่สุด
เข้มมาตรการ เร่งฉีดวัคซีน สกัดโควิด 

"ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์" กล่าวต่อไปว่า การลดความเสียหายที่เกิดจากวิกฤตที่เกินศักยภาพของระบบการดูแลสุขภาพ โดยการเร่งลดโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อ ขึ้นอยู่กับ 3 มาตรการ สำคัญ คือ 1. มาตรการทางการปกครอง 2. มาตรการทางการสาธารณสุข คือ การบริหารจัดการควบคุมโรค การพัฒนา ศักยภาพการตรวจหาผู้ติดเชื้อ การบริหารจัดการเตียง สถานพยาบาล และ 3.มาตรการส่วนบุคคล และทางสังคม


รวมถึง การเร่งฉีดวัคซีนเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ได้แก่ กลุ่มเสี่ยง สูงวัย 7 โรคเรื้อรัง และ ตั้งครรภ์ มากและเร็ว การเร่งค้นหาผู้เสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อ (ATK; RT-PCR) การได้รับยาที่เร็ว (แจ้งลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ) พัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ติดเชื้อ (Home Isolation, Community Isolation)

รวมถึงการเร่งฉีดวัควีน ป้องกันการติดเชื้อ ผู้เสี่ยง สูงวัย 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ ให้มากและเร็ว ขณะเดีวกัน การเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อและเสี่ยงแพร่เชื้อ ซึ่งขณนี้มี Antigen Test Kit (ATK) ในการตรวจได้เร็ว ยี่ห้อต่างๆ มีความแม่นยำดีระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะความไวและจำเพาะกว่า 90% การตรวจ ATK  จะสามารถค้นหาคน ควบคุม เข้ากระบวนการรักษา ให้เร็ว และให้ยาเร็ว ตอนนี้มีนโยนบายออกมาแล้ว ในกลุ่มที่เสี่ยงจะอาการรุนแรง มีการแจกยา แต่ต้องลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเพื่อติดตาม รวมถึง การพัฒนาศักยภาพ การดูแลผู้ติดเชื้อ Home Isolation และ Community Isolation
#3232


ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 84 รายระหว่างรักษาตัวที่บ้าน ในจำนวนนี้ 36 รายมีอาการทรุดลงอย่างรวดเร็ว เสียชีวิตใน 1-9 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ, 11 รายเสียชีวิตในช่วง 10-19 วัน, 9 รายเสียชีวิตไปแล้วจึงรายงานว่าติดเชื้อโควิด ระยะเวลาผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิตยาวนานที่สุดคือ 30 วันหลังรายงานผลติดเชื้อ และมี 24 รายที่ไม่รู้ว่าระยะเวลาเสียชีวิตชัดเจน

ผู้ป่วยที่เสียชีวิตกว่าร้อยละ 80 เป็นผู้สูงอายุ โดยมี 36 รายที่อายุ 80 ปีขึ้นไป, ช่วงวัย 70 ปีเสียชีวิต 24 ราย, ช่วงวัย 60 ปีเสียชีวิต 11 ราย, ช่วงวัย 50 ปีเสียชีวิต 7 ราย, ช่วงวัย 40 ปีเสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในช่วงวัย 30 ปีมี 3 ราย และช่วงวัย 20 ปีเสียชีวิต 1 ราย



การระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาสร้างความกังวลว่า ผู้ติดเชื้อจะมีอาการทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนอาจเสียชีวิตได้ระหว่างรักษาตัวที่บ้าน

นายกฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ประกาศนโยบายเมื่อต้นเดือนนี้ ให้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่รักษาตัวที่บ้านเป็นหลัก เพื่อสงวนเตียงในโรงพยาบาลให้สำหรับผู้ที่อาการหนักเท่านั้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้านในขณะนี้มีมากกว่า 45,000 คน เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้า

อัตราผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นเพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่ติดเชื้อได้ง่าย และผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่ยังไม่ถึงคิวได้รับวัคซีน



นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า จะติดตามอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เพื่อตัดสินใจว่าจะให้การแข่งขัน "พาราลิมปิก" มีผู้ชมหรือไม่ โดยงานพาราลิมปิกจะเริ่มต้นในวันที่ 24 ส.ค.นี้

ขณะนี้ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ผู้นำญี่ปุ่นระบุว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะในการควบคุมการระบาด เขาเรียกร้องให้คนหนุ่มสาวหลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา โดยมีข้อมูลว่าร้อยละ 70 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี.
#3233


ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (10 ส.ค.)ปรับตัวขึ้น 162 จุด โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 162.82 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 35,264.67 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 4,436.75 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 72.09 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 14,788.09 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทได้ปัจจัยบวกจากการที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ก่อนส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

ทำเนียบขาวระบุว่า โครงการดังกล่าวรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมทั้งโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ

ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบิน ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นในวันนี้ตามการดีดตัวขึ้นของของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี

นักลงทุนวิตกว่า หากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินคิวอีในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ส่งสัญญาณในการกล่าวถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินคิวอีภายในปีนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

ขาดแคลนแรงงาน:ปัญหาใหญ่นิวซีแลนด์
ทั้งนี้ นายแคลริดากล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566

"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว

"หากการคาดการณ์ของผมเป็นจริง ก็คาดว่าเฟดจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแคลริดาสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ว่าการของเฟด โดยนายวอลเลอร์ระบุว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดวงเงินคิวอีภายในเดือนต.ค.
#3234


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ " Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา" รวมพลังพนักงานทั่วประเทศ มีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม นำร่องกิจกรรมปลูกต้นไม้ และ บริโภคอาหารอย่างรู้คุณค่า ไม่เหลือทิ้ง ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟในฐานะบริษัทผลิตอาหารและเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ร่วมสร้างความยั่งยืน โดยดำเนินธุรกิจใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ" Sustainability in Action ยั่งยืนได้ ด้วยมือเรา" เพื่อให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนไปด้วยกัน ลงมือทำในระดับบุคคล ผ่านกิจกรรม "กล้าจากป่า พนาในเมือง" นำต้นไม้ไปปลูกที่บ้าน และ กิจกรรม "กินเกลี้ยง เลี้ยงโลก" บริโภคอาหารให้หมดจาน ไม่ให้เกิดขยะเหลือทิ้ง สอดรับตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)

"ซีพีเอฟมุ่งหวังว่าความร่วมมือของพนักงานในองค์กร จะเป็นพลังในการส่งต่อโครงการดีๆ จากภายในไปสู่ภายนอก เป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลสำเร็จในระดับของภาคประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน " นายประสิทธิ์ กล่าว


สำหรับกิจกรรม "กล้าจากป่า พนาในเมือง" (Forest in the City) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ( ปี 2564-2568) ที่ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมปลูกต้นไม้ 100,000 ต้น จากต้นกล้าที่เพาะโดยชุมชน เป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมรักษาป่า และเกิดการจ้างงานชุมชนในการเพาะกล้าพันธุ์ไม้ โดยบูรณาการกับโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าของซีพีเอฟ คือ โครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง จ.ลพบุรี และ โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน ซึ่งมีทั้งไม้เศรษฐกิจ อาทิ พะยูง ยางนา พยอม มะค่าโมง แดง ตะเคียนทอง พฤกษ์ และไม้กระถางที่สามารถดักฝุ่น PM 2.5 อาทิ ลิ้นมังกร โกศลแผ่นดินทอง เสน่ห์จันทน์แดง ไทรใบสัก เป็นต้น

ส่วนกิจกรรม "กินเกลี้ยง...เลี้ยงโลก" (Empty Plate...Save the Planet) เป็นโครงการระยะ 5 ปี ที่มีเป้าหมายร่วมลดปริมาณขยะอาหาร 100,000 จาน หรือ 720 กิโลกรัม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 18,200 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยโครงการฯจัดทำ เพจกินเกลี้ยง เลี้ยงโลก เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับขยะอาหารและการกำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในการลดปริมาณขยะอาหารและขยะสู่หลุมฝังกลบ

นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟตระหนักดีถึงการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศ(Good Corporate Citizen) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้บริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนได้ประกาศความมุ่งมั่นไม่ตัดไม้ทำลายป่า มุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ สอดรับกลยุทธ์ความยั่งยืนปี 2030 และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs 17 ประการ./
#3235


รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้กับประชาชนในราวปีหน้า โดยได้สั่งจองวัคซีน "โนวาแวกซ์" และ "โมเดอนา" เตรียมไว้แล้ว

นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องวัคซีนโควิดของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้เจรจาเพื่อสั่งจองวัคซีนโมเดอนาเพิ่มเติมอีก 50 ล้านโดส และวัคซีนโนวาแวกซ์ 150 ล้านโดส โดยจะส่งมอบในต้นปีหน้า

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังติดตามตัวอย่างของประเทศต่าง ๆ ที่ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติมให้ประชาชน เช่น อิสราเอลที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนเยอรมนี สวีเดน และอังกฤษก็เตรียมจะทำเช่นเดียวกันในราวเดือนกันยายน

รัฐบาลญี่ปุ่นจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือไม่ โดยรวบรวมผลการทดลองทางคลินิกในต่างประเทศ ทั้งเรื่องกลุ่มคนที่จำเป็นต้องรับวัคซีนกระตุ้น และการใช้วัคซีนจากต่างบริษัทกับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 ซึ่งในญี่ปุ่นใช้วัคซีนของไฟเซอร์ และโมเดอนาเป็นหลัก



ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิดในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ผู้สูงอายุราว 80.0% ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากที่สุดในขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้กับประชาชนทุกคนได้ภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ปีนี้ และกำลังติดตามผลข้างเคียงของวัคซีน รวมทั้งประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์

บริษัทโมเดอนาได้ระบุเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า วัคซีนของตนสามารถคงภูมิคุ้มกันได้ที่ระดับ 93% นาน 6 เดือนหลังฉีดเข็มที่ 2 พร้อมชี้ว่าอาจมีความจำป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อการปกป้องไวรัสกลายพันธุ์หลังจากที่ภูมิคุ้มกันลดน้อยลง

อย่างไรก็ตาม นายทีโดส อัดฮานอม กรีบีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยต่าง ๆ ระงับโครงการฉีดวัคซีนกระตุ้นไว้ก่อนจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เพราะผู้คนหลายล้านคนในประเทศกำลังพัฒนายังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว.
#3236
โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย- สมุทรสาคร ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป ท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร ทุกท่อน 

โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย-สมุทรสาคร ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป  ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย สมุทรสาคร ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย-สมุทรสาคร ราคาถูกพิเศษ ถูกกว่าทั่วไป  ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย ขายเหล็กรูปพรรณเกรดบี ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย ท่อดำกลมเกรดบีราคาโรงงาน ราคาถูกพิเศษ

1. 60ตันขึ้นไป – กิโลละ 21บาท
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย ขายเหล็กรูปพรรณเกรดบี ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย ท่อดำกลมเกรดบีราคาโรงงาน ราคาถูกพิเศษ
1. 60ตันขึ้นไป – กิโลละ 21บาท
2. 30ตัน-59ตัน – กิโลละ 23บาท
3. ตํ่ากว่า30ตัน – กิโลละ 25บาท
เหล็กขนาด ยาว6เมตรทุกท่อน

ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย, ขายเหล็กเกรดบี-สมุทรสาคร, โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย. ขายเหล็กเกรดบีถูกพิเศษ, ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย

สนใจติดต่อ
บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน)

นัดดูของได้ที่นี่
คุณแป๊ป เบอร์ 0819196666 line ID varoonchai_papp
Email varoonchai@gmail.com


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://prakasfree.website/โรงงานขายเหล็กเกรดบีมห/


ขายเหล็กเกรดบี-มหาชัย
คำค้น
ขายเหล็กเกรดบีมหาชัย,ขายเหล็กเกรดบี-สมุทรสาคร,โรงงานขายเหล็กเกรดบีมหาชัย. ขายเหล็กเกรดบีถูกพิเศษ, ขายท่อดำกลมเกรดบี-ยาว6เมตร
#3238


ต้อนรับเดือนสิงหาคมนี้แบบอิ่มอร่อยเต็มที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ขอแนะนำบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มล่าสุด อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ ที่เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ ขอการันตีความอร่อยเช่นเดิมที่เพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับแขกตลอดการเข้าพัก ด้วยนำเสิร์ฟทุกมื้ออาหารแบบส่วนตัวภายในห้องพักที่จะมอบความสะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง



พร้อมต้อนรับสู่บรรยากาศพักผ่อนริมทะเลหัวหินด้วยความปลอดภัยและอุ่นใจเต็มที่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน นำโดยเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ แนะนำบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มล่าสุด อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ (In-room Dining Delights) ที่พร้อมบริการทุกมื้ออาหารแสนอร่อย ที่ยังคงความสดใหม่และรสชาติการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน แต่เพิ่มเติมความอุ่นใจอีกระดับด้วยการนำเสิร์ฟแบบส่วนตัวภายในห้องพัก พร้อมยกระดับมาตรฐานบริการด้านความปลอดภัยทางสุขภาพและสุขอนามัย เซ็นทารา คอมพลีท แคร์ (Centara Complete Care) อย่างรัดกุม แต่ยังคงไว้ซึ่งความเอาใจใส่และประสบการณ์การบริการที่อบอุ่นอย่างเหนือระดับ การันตีมื้ออาหารสุดโปรดของแขกให้อิ่มอร่อยและอุ่นใจเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พลางเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลหัวหินจากทุกห้องพักของโรงแรม



เริ่มต้นด้วย อาหารนานาชาติมื้อเช้า จากห้องอาหารเรลเวย์ ที่นำเสนอรายการอาหารเช้านานาชาติให้ได้เพลิดเพลินแบบรายการ อะ ลา คาร์ท เกือบ 100 รายการ ที่ขอมอบความอิ่มอร่อยอย่างเต็มที่เช่นเคยตลอดทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ชุดอาหารเช้าและเมนูไข่คลาสสิกสไตล์ตะวันตก รายการอาหารจานเดียวยอดนิยมสำหรับชาวไทย สลัดผักและผลไม้สดเพื่อสุขภาพ ขนมปังธัญพืชและขนมอบสดใหม่ น้ำผลไม้และเครื่องดื่มหลากรายการ โดยนำเสิร์ฟและบริการถึงทุกห้องพักตลอดมื้อเช้าระหว่าง 06.30 - 10.30 น.



ต่อเนื่องที่ ห้องอาหาร โคสต์ บีชคลับและบิสโทร ที่ยังคงเปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่ 11.00 - 20.00 น. สำหรับการสั่งเพื่อกินภายในห้องพัก ด้วยรายการ อะ ลา คาร์ท แปลกใหม่ในสไตล์คอสโมโพลิแทน (Cosmopolitan) ที่นำเสนออาหารจานเด่นกว่า 50 รายการที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด เคล้ากลิ่นอายตะวันตกแต่ผสานรสชาติแบบตะวันออกไว้อย่างลงตัว อาทิ สลัดผักหลากชนิดพร้อมเดรสซิ่งสูตรพิเศษ สเต็กเนื้อคุณภาพเยี่ยมพร้อมซอสและเครื่องเคียง เมนูปลาและอาหารทะเลสดใหม่ตามความชอบของคุณ พาสต้าและรีซอตโต้สไตล์อิตาเลี่ยนต้นตำรับ รวมถึงพิซซ่าคลาสสิคที่เต็มไปด้วยรสชาติแปลกใหม่จากซอสพิซซ่าเข้มข้นที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับแป้งพิซซ่าสูตรบางกรอบพิเศษที่มีที่โคสต์เท่านั้น



หรือหากกำลังมองหาตัวเลือกอาหารว่างมื้อดึก ห้องอาหารเรลเวย์ พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมงด้วยเมนู ออลเดย์ ดีไลท์ (All-day Delights) กับกว่า 60 รายการอาหารจานเด่นจากหลายวัฒนธรรมทั่วทุกมุมโลก อาทิ เบอร์เกอร์เนื้อวัวแองกัสและฟิชแอนด์ชิปส์สไตล์อเมริกัน สลัดนิซัวส์และอกเป็ดย่างซอสมัลเบอร์รี่สูตรต้นตำรับฝรั่งเศส พิซซ่าและพาสต้าเมนูโปรดตำรับอิตาเลียนแท้ อาหารว่างสไตล์เม็กซิกันอย่างทอสทาดาและทาโก้ ฉู่ฉี่ปลาแซลมอนและข้าวซอยไก่รสเข้มแบบไทย หรือจะเป็นเมนูยอดนิยมอย่าง ผัดไทยกุ้งสด ต้มยำกุ้ง ผัดกะเพราไข่ดาว ข้าวผัดสับปะรด ก็มีให้ได้เลือกเช่นเดียวกัน พร้อมรับประกันความอร่อยเต็มที่ในทุกจานอย่างแน่นอน



ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารรูปแบบไหนโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน พร้อมดูแลตลอดการเข้าพักด้วย อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟ สตีเฟ่น ฮอฟเฟอร์ ขอการันตีความอร่อยเช่นเดิม และเพิ่มเติมความอุ่นใจให้กับแขกในทุกๆ วันตลอด 24 ชั่วโมง

อินรูม ไดน์นิง ดีไลท์ (In-room Dining Delights) ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทและวิลลา หัวหิน ให้บริการตลอดทุกวันแบบรายการ อะ ลา คาร์ท สำหรับการกินในห้องพัก ในราคาเริ่มต้น 140++ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่ 0-3251-2021 หรืออีเมลล์ chbr@chr.co.th
#3239


ผศ.ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ หัวหน้าศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาการบริหารจัดการ วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ระบบนิเวศ (ecosystem) หมายถึง ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่อาศัย ณ ที่ใดที่หนึ่ง ความสัมพันธ์มี 2 ลักษณะ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิตและระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตด้วยกันเอง โดยมีการถ่ายทอดพลังงานและสารอาหารในบริเวณนั้น ๆ สู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นความหมายที่เรารู้จักกันใน การศึกษานิเวศวิทยา (ecology) ซึ่งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งว่าด้วยการศึกษาสิ่งมีชีวิตในแหล่งอาศัย รวมถึง การศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ความสัมพันธ์ทั้งสองลักษณะนี้ เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน และเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน ไม่สามารถอยู่ได้เพียงลำพังโดยไม่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบต่าง ๆ ความสัมพันธ์ภายในระบบนิเวศนั้น มีความสมดุลอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ยกเว้นว่าจะมีสิ่งใดมารบกวนระบบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ขึ้น แต่ก็มีการปรับตัวมาเหมือนเดิมได้ใหม่ยกเว้นกรณีที่สิ่งที่มารบกวนนั้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ระบบนั้นก็จะถูกทำลายลงได้

ADVERTISING

ในปัจจุบันนี้ ในด้านธุรกิจ ก็มีการพูดถึง Ecosystems เช่นเดียวกัน นั่นก็คือระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่มีความเชื่อมโยงกันเหมือนระบบนิเวศของสัตว์ป่า ซึ่งต้องอาศัยประโยชน์ของกันและกันในการดำรงอยู่ โดยระบบนิเวศธุรกิจก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ ซึ่งระบบนิเวศเศรษฐกิจจะประกอบไปด้วย ระบบนิเวศธุรกิจ ระบบนิเวศเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภค และระบบนิเวศของหน่วยงานรัฐที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับระบบนิเวศของธุรกิจของเราดำเนินการไปได้ด้วยดี

การทำธุรกิจในอดีตส่วนใหญ่จะดำเนินธุรกิจในรูปแบบของ One-Sided Business โดยเริ่มตั้งแต่จัดการเรื่องเงินทุนด้วยตนเอง จัดหาวัตถุดิบด้วยตนเอง ตั้งโรงงานด้วยตนเอง ไปจนถึงการหาทางเข้าถึงลูกค้าด้วยตนเอง แบบนี้เรียกว่าการทำธุรกิจแบบทิศทางเดียว ในปัจจุบันหากเราต้องการที่จะแข่งขันกับธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในยามวิกฤติ เราต้องหันไปพึ่งพาพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพมากพอที่จะช่วยเราฝ่าฟันวิกฤติต่าง ๆ ไปได้ เช่น การทำธุรกิจแบบระบบนิเวศ เป็นต้น

ดังนั้น การออกแบบระบบนิเวศทางธุรกิจ จึงมีความสำคัญ เสมือนการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยบริการ และการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า (User Experience) ที่มีกลไกกระตุ้น (Trigger) ที่ทำให้เรา ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายต้องเกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในวังวนของธุรกิจ ที่หากเราค้นไปลึกๆ ธุรกิจเหล่านั้นก็คือ เจ้าของหรือเครือเดียวกัน

ธุรกิจประเภท Ecosystem Businesses จะเกิดการได้เปรียบในการแข่งขัน ถ้าเปิดธุรกิจต้อนรับคู่ค้าหรือพาร์ทเนอร์รายอื่นที่มีศักยภาพที่ดีพอที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นได้

Ecosystem Business แบ่งได้เป็น 2 แบบ ดังนี้ 1. Ecosystem Partnerships คือ การหาพาร์ทเนอร์ธุรกิจที่ตอบโจทย์การดำเนินงานของเราได้ เช่น ธุรกิจ E-Commerce มีพาร์ทเนอร์เป็นธุรกิจโลจิสติกส์ที่เอื้ออำนวยต่อการขนส่งสินค้า หรือการเป็นพาร์ทเนอร์กับบัตรเครดิต เป็นต้น และ 2. Ecosystem Corporate Sustainability คือ การสร้างทรัพยากรทางธุรกิจขึ้นมาเอง โดยให้ลูกค้าเข้ามาใช้เครือข่ายบริการที่เราสร้างขึ้นมาทั้งหมด เช่น Facebook ที่มีทั้ง live streaming, messenger, marketplace หรือ Facebook page เป็นต้น

สรุปได้ว่า หากเราต้องการทำธุรกิจให้เติบโตในอุตสาหกรรมและประหยัดต้นทุนด้านทรัพยากร การทำธุรกิจแบบ Ecosystem Businesses คืออีกหนึ่งแนวคิดในการทำธุรกิจให้เป็นทางรอดขององค์กรในยุคใหม่
#3240


จากกรณีที่ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีน "ไฟเซอร์" จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส โดยได้จัดส่งถึงประเทศไทย พร้อมกับให้ดำเนินการจัดสรรให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศนั้น  

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นรับมอบ "วัคซีนไฟเซอร์" ล็อตแรก 9,840 โดส โดยกองโรคติดต่อทั่วไปจัดส่งวัคซีนโควิด 19 ไฟเซอร์ รอบต้นเดือนสิงหาคม 2564 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อลดการป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต และปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ



โดยมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาเร่งรัดการให้วัคซีนกับกลุ่มเป้าหมาย ภายในอาทิตย์ นี้ เบื้องต้นมีบุคลากรด่านหน้าแจ้งความประสงค์ ฉีด 17,000 คน แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

ประเภทที่ 1


บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทุกคนที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 จากการปฏิบัติงานทั่วประเทศ รวมทั้งนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโควิดจากการปฏิบัติงาน เช่น แผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน หรือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 อื่นๆ ตามการพิจารณาของสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด 


โดยมีหลักการให้วัคซีน ดังนี้

1.1 บุคลากรที่ได้รับวัคซีน Sinovac หรือ Sinopharm ครบ 2 เข็ม อย่างน้อย 1 เดือนพิจารณาให้วัคซีน Pfizer กระตุ้น 1 เข็ม 
1.2 บุคลากรที่ได้รับวัคซีนใดๆ มาแล้วเพียง 1 เข็ม พิจารณาให้วัคซีน Pfizer เป็นเข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดส ตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก
1.3 บุคลากรที่เคยติดเชื้อโควิด 19 และไม่เคยได้รับวัคซีน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 1 เข็ม โดยมีระยะห่างจากวันที่พบการติดเชื้ออย่างน้อย 1 เดือน
ประเภทที่ 2

บุคลากรที่ไม่เคยได้วัคซีนใดๆ มาก่อน พิจารณาให้วัคซีน Pfizer 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ทั้งนี้เนื่องจากวัคซีนจะเก็บอยู่ในอุณหภูมิ  2 -  8 องศาเซลเซียส ได้เพียง 1 เดือน ดังนั้น กองโรคติดต่อทั่วไป  จะส่งวัคซีน Pfizer สำหรับผู้รับวัคซีนเข็ม 2 ในกลุ่มเป้าหมายประเภท 2 ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2564  และหากจังหวัดได้ตรวจสอบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณสมบัติตามกลุ่มเป้าหมายประเภทที่ 1  และ 2 เพิ่มเติมสามารถแจ้งขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมได้ที่กรมควบคุมโรค


ต่อมา วานนี้ (7 ส.ค.) องค์กรแพทย์ รพ.ขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการขอวัคซีน "ไฟเซอร์" ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่น ความว่า ตามที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส และจะมีการจัดสรรให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ

โรงพยาบาลขอนแก่นนับเป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแลผู้ป่วยโควิดทุกความรุนแรงของจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ผู้ป่วยคลัสเตอร์ฟันน้ำนม คลัสเตอร์แรงงาน คลัสเตอร์เรือนจำและทัณฑสถาน ไปจนถึงผู้ป่วยหนักอาการวิกฤตสำหรับโควต้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มีบุคลากรทางการแพทย์ลงชื่อรับวัคซีนไฟเซอร์เป็นจํานวน 1,400 คน แต่โรงพยาบาลขอนแก่นกลับได้รับการจัดสรรวัคซีนเป็นจำนวนเพียง 700 โดสเท่านั้น ทั้งที่เป็นการขอตรงตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นจึงขอเรียกร้องให้มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้เพียงพอต่อจำนวนบุคลากรด้านหน้าของโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อเป็นการปกป้องชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ทุ่มเทรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด