• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - dsmol19

#3181


นิสสัน แนะไอเดีย ลูกค้าที่ต้องการซื้อของขวัญวันแม่ กับรถยนต์ "อัลเมร่า" เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง และการใช้งาน
การตลาดรถยนต์ในยุคกำลังซื้อตึงตัว โควิดแพร่ระบาด ไม่เพียงแค่จะเน้นเรื่องการขาย การบริการหลังการขายสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเท่านั้น แต่หลายค่ายปรับตัว ด้วยรูปแบบการสร้างกิจกรรมร่วมกับลุกค้า สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

เราจึงได้เห็นการพยายามมีส่วนร่วมของบริษัทต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การสื่อสารกกับลูกค้า ที่ไม่ได้เน้นเรื่องทางเทคนิค เช่น สมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง แต่เป็นเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น รูปแบบการบรรทุกสิ่งของ การใช้งานเบาะ ฯลฯ

และในโอกาสวันแม่ปีนี้ ทางนิสสัน อัลเมร่า ก็มีกิจกรรม เช่นกัน ด้วยการออกมาสื่อสารถึงลูกค้า แนะนำการเลือกซื้ออุปกรณ์ติดรถบางอย่าง สำหรับเป็นของขวัญวันแม่ ไม่ว่าจะเป็น

โดยสิ่งที่อัลเมร่า แนะนำลูกค้าให้หาติดรถไว้มีหายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น  

อุปกรณ์ค้นหากุญแจรถ (Car Key Finder)
จากการที่พบว่า หลายๆ ครั้งเมื่อต้องการเดินทาง หลายคนใช้เวลานานกว่าจะออกจากบ้านได้ นั่นเป็นเพราะหากุญแจรถไม่เจอ ทำให้ต้องเสียเวลาหาอยู่เป็นนานสอนาน

ซึ่งอุปกรณ์ช่วยหากุญแจ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ทำให้หากุญแจได้รวดเร็ว หรือหากลืม หรือทำกุญแจหล่นหาย ยังมีเสียงเตือน ที่ช่วยให้สามารถค้นหากุญแจจากระยะไกลได้อีกด้วย 



เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ (Smart Car Air Purifier)
เนื่องจากสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันไม่ดีนัก และส่งผลต่อสุขภาพ ดังนั้นการดูแลรักษาความสะอาด และฟอกอากาศในรถ เป็นอีกวิธีที่จะช่วยดูแลรักษาสุขภาพของคุณแม่ ไม่ให้ต้องเสี่ยงเป็นหวัดจากไรฝุ่น หลีกเลี่ยงการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมสู้ไวรัสเสมอ ไม่ว่าจะไปไหนก็มีอากาศสะอาด สดชื่นทุกการเดินทาง

แก้วน้ำเก็บความร้อน-เย็น (Tumbler)
น้ำดื่มเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญต่อร่างกาย และการมีแก้วน้ำที่สามารถคงอุณหภูมิไว้ได้นาน ก็จะช่วยให้การมีความสดชื่นยิ่งขึ้น

ผ้าห่มหรือหมอนใบเล็กๆ
การมีผ้าห่ม หรือหมอนนุ่มๆ ติดรถไว้ ช่วยให้การผักผ่อนในขณะเดินทางง่ายขี้น จากความนุ่มสบาย หรือ ห่มหากอุณหภูมิในห้องโดยสารเย็นเกินไป

สำหรับ นิสสัน อัลเมร่า เป็นอีโค คาร์ รหัสขายดีของนิสสัน และล่าสุดเปิดตัวรุ่นตกแต่งพิเศษ "อัลเมร่า สปอร์ตเทค" ที่เพิ่มความสปอร์ตและพรีเมียม ทั้งภายนอกและภายในมากขั้น
#3182


นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (HEC) ผู้ร่วมริเริ่มก่อตั้งโครง Covid-19 Home Care เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางโครงการฯ ได้มีการหารือกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อนำระบบ Line OA ชื่อ Covid-19 Home Care ไปปรับใช้ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งกักตัวอยู่ที่บ้านหรือ Home Isolation (HI) เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วย ทั้งการติดตามอาการและการส่งความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ทั้งยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่จำเป็น

"ท่านรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะตรงกับนโยบายของทางกระทรวงที่ต้องการสนับสนุนให้มีการนำระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาโควิด-19 จึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งมีหลายแห่งสนใจเข้ามาขอติดตั้งเพื่อนำไปใช้งานในการดูแลคนไข้" นพ.ฆนัทกล่าว


สำหรับ ระบบ Line OA ดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดยบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เมื่อได้ใช้งานจริงแล้วจึงมีการหารือกันว่าระบบนี้น่าจะเกิดประโยชน์กับหน่วยงานอื่นหรือโรงพยาบาลอื่น ๆ ด้วย เพราะปัจจุบันยังไม่มีระบบรองรับการดูแลผู้ป่วยกักตัวที่บ้าน รวมทั้งระบบการเบิกจ่ายตามสิทธิการรักษาพยาบาลอาจจะยังไม่ลงตัว เพราะเป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นระบบที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะช่วยแก้ปัญหาในการทำงานของโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้

"กระทรวงสาธารณสุข โดย สปสช. ออกเงื่อนไขในการเบิกจ่ายมาแล้ว แต่ขั้นตอนวิธีการปฏิบัติทุกอย่างมันแล้วแต่โรงพยาบาล โรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็อาจมีระบบของเขาอยู่บ้างแล้วก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ แต่บางโรงพยาบาลหรือหากเป็นโรงพยาบาลเล็กก็ไม่มีอะไรเลย หากจะไปพัฒนาระบบเองค่าใช้จ่ายก็สูง เราก็เลยประสานตรงส่วนนี้ให้ เพื่อจะใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลคนไข้ได้มากขึ้น" นพ.ฆนัทกล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลของโครงการ Covid-19 Home Care กว่า 2,000 คน โดยระบบ Line OA ดังกล่าวสามารถช่วยให้การทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยมีความสะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ป่วยโควิดสามารถติดต่อโครงการได้ทางไลน์ @covidhomecare หรือทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ 'We care network – เครือข่ายเราดูแลกัน'
#3183


The 1 ผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ผนึกกลยุทธ์ Omnichannel ร่วมกับเครือเซ็นทรัล เดินหน้ามอบความสะดวกสบายและความเอ็กซ์คลูซีฟให้กับสมาชิกกลุ่ม The 1 Exclusive ลูกค้าคนพิเศษของ The 1 ในช่วงโควิด ด้วยฟีเจอร์ล่าสุด ปุ่มโทรออกถึง Personal Shopper ติดต่อผู้ช่วยช้อปส่วนตัวได้โดยตรงในคลิกเดียว

เพียงสมาชิก The 1 Exclusive ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น The 1 แล้วกดปุ่มโทรออกที่หน้าโปรไฟล์หรือหน้า The 1 Exclusive Hub แอปฯ จะทำการโทรออกถึงผู้ช่วยส่วนตัวที่ The 1 ได้มอบหมายให้ดูแลคุณโดยเฉพาะไว้ก่อนหน้าโดยไม่จำเป็นต้องบันทึกเบอร์โทรศัพท์ พิเศษยิ่งกว่า! เฉพาะสมาชิก The 1 Exclusive ที่ช้อปผ่านผู้ช่วยช้อปส่วนตัว จะได้รับคะแนน The 1 เพิ่มเป็น 3 เท่า สำหรับทุกการสั่งซื้อที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 - 31 สิงหาคม 2564

สัมผัสประสบการณ์พิเศษจาก The 1 Exclusive ได้แล้ววันนี้ โดยสมาชิก The 1 สามารถอัปเกรดสถานะสมาชิกเป็น The 1 Exclusive ในเดือนถัดไปหลังจากเพียงสะสมยอดใช้จ่ายในกลุ่มเซ็นทรัลตั้งแต่ 250,000 บาทขึ้นไป หรือ 400,000 บาทเมื่อรวมกับยอดใช้จ่ายจากร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลและเซ็นทรัล เอ็มบาสซีที่เข้าร่วม ผ่านการยื่นใบเสร็จ ณ จุดแลกของสมนาคุณทุกสาขา โดยสามารถเช็คยอดใช้จ่ายสะสมแบบ Real Time ได้ผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ซึ่งจะเแสดงผลยอดซื้อสะสม ทั้งแบบเฉพาะเครือเซ็นทรัล รีเทล และแบบรวมยอดทั้งเครือเซ็นทรัล รีเทล และร้านค้าผู้เช่าในศูนย์การค้าเซ็นทรัล และเซ็นทรัล เอ็มบาสซีที่เข้าร่วม

อัพเดต / ดาวโหลด แอป The 1 เวอร์ชั่นใหม่ ได้แล้ววันนี้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ดีกว่าได้ทุกวัน ทั้งบน App Store, Play Store และ Huawei AppGallery
https:// go.the1.co.th/UohD/78f4c04
#3184


นายดีเค อากาวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจ Combined PET, IOD และ Fibers บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2564 D/E จะลดลงต่ำกว่าระดับ 1.2 เท่า จาก ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ระดับ 1.27 เท่า เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทผ่านกลยุทธ์การควบรวมกิจการ (M&A)

ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัท Ultrapar เพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัท Oxiteno S.A. ประเทศบราซิล โดย Oxiteno เป็นผู้ผลิตสารลดแรงตึงผิวแบบบูรณาการในทวีปอเมริกาและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกา เบื้องต้นประเมินมูลค่าดีลซื้อกิจการเบื้องต้น 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5 หมื่นล้านบาท)


อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าจากการเตรียมความพร้อมทั้งกระแสเงินสดและ D/E ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน อีกทั้งมูลค่าการซื้อขายมีโอกาสน้อยกว่าที่เคยแจ้งนักลงทุนเอาไว้

นอกจากนี้ IVL ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เบื้องต้นคาดว่ายอดขายจะเติบโต 9% โดยมาจากธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (Integrated Oxide and Derivatives: IOD) ที่คาดว่าจะฟื้นตัว จากช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ที่ถูกผลกระทบโควิด-19 สภาพอากาศหนาวจัด (Polar Vortex) และโรงงานก๊าซแครกเกอร์ใน Lake Charles ประเทศสหรัฐที่จะกลับมาเดินเครื่องครึ่งแรกในไตรมาส 3 ปี 2564 หลังปิดซ่อมบำรุงจากเหตุการณ์ฟ้าผ่าตั้งแต่เดือน ส.ค.2563

ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนของไทยจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงกว่า 10% นั้น มองเป็นผลบวกต่อบริษัท เนื่องจากมีสัดส่วนกำไรในต่างประเทศที่สูง โดยเฉพาะสหรัฐและยุโรป ขณะที่สัดส่วนพอร์ตในเอเชียที่ 8-9% มาจากหลายประเทศไม่เฉพาะไทยเท่านั้น เมื่อแปลงกำไรในสกุลเงินอื่นๆ กลับเข้ามาในประเทศ ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากค่าเงินเพิ่มขึ้น
#3185


รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (10 ส.ค.) เห็นชอบเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมการระบาดสูงสุด (สีแดงเข้ม) ที่ให้มีการล็อกดาวน์ 29 จังหวัดตามประกาศของ ศบค.ตามที่ คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานเสนอ โดยให้มีการช่วยเหลือแรงงานประกันสังคมในกลุ่มนี้รวมประมาณ 6.6 ล้านราย ได้รับการช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท 

แบ่งเป็นวงเงินสำหรับมาตรา 39 ใน 29 จังหวัด วงเงิน 7.18 พันล้านบาท และวงเงินสำหรับมาตรา 40 ใน 29 จังหวัดวงเงินรวม 2.62 หมื่นล้านบาท 


สำหรับคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย


- เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย

- มีสถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่3 สิงหาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัด)

- เป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564

- กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39

- กรณีผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง

-  กรณีเป็นผู้ประกันตนในฐานทะเบียนประกันสังคม (สถานะ Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ต้องอยู่ใน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา.สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา

- กรณีเป็นผู้ประกันตนในฐานทะเบียนประกันสังคม (สถานะ Active) ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ต้องอยู่ใน 16 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ นครราชสีมา  ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

- กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ที่มีสถานะ W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ที่อยู่ระหว่างรอชำระเงินสมทบ ต้องอยู่ในพื้นที่ 29 จังหวัด โดยให้ชำระเงินสมทบภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เพื่อเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สมบูรณ์ตามกฎหมาย

ก่อหน้านี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับ กรุงเทพธุรกิจ ว่ากระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ให้รายละเอียดแรงงาน และนายจ้างที่อยู่ในกลุ่มประกันสังคมมาตรา 39 และ 40 ใน 29 จังหวัดทั้งที่เป็นผู้ประกันตนเดิม และที่ลงทะเบียนใหม่ตามมติ ครม.ให้กับ สศช.เรียบร้อยแล้วเพื่อให้ได้กรอบและจำนวนที่แน่นอนเสนอให้ ครม.อนุมัติหลังจากก่อนหน้านี้อนุมัติในหลักการแล้ว 

ทั้งนี้แรงงานในกลุ่มนี้ทั้ง 29 จังหวัดที่เข้าเงื่อนไข รวมทั้งอาชีพอิสระจะได้เงินเยียวยาเป็นจำนวน 5,000 บาท โดยในส่วนของ 13 จังหวัดแรกที่มีการประกาศล็อกดาวน์มีผู้ประกันตนในมาตรา 39 ประมาณ 1 ล้านราย ส่วนในมาตรา 40 เดิมมีผู้ประกันตนประมาณ 1 ล้านราย และมีการลงทะเบียนเพิ่มเติมมา 3.1 ล้านราย รวมเป็น 4.1 ล้านราย 

สำหรับ 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2. กาญจนบุรี 3. ชลบุรี 4. ฉะเชิงเทรา 5. ตาก 6. นครปฐม 7. นครนายก 8. นครราชสีมา 9. นราธิวาส 10.นนทบุรี 11.ปทุมธานี 12.ประจวบคีรีขันธ์ 13.ปราจีนบุรี 14.อยุธยา 15.เพชรบุรี 16.ปัตตานี 17.เพชรบูรณ์ 18.ยะลา 19.ระยอง 20.ราชบุรี 21.ลพบุรี 22.สงขลา 23.สิงห์บุรี 24.สมุทรปราการ 25.สมุทรสงคราม 26.สมุทรสาคร 27.สระบุรี 28.สุพรรณบุรี และ 29.อ่างทอง
#3186


ความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (9 ส.ค.2564) ปิดที่ 1,540.19 จุด เพิ่มขึ้น 18.47 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.21% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 69,892.57 ล้านบาท โดยเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ระหว่างวันมีจุดสูงสุดที่ 1,543.71 จุด และต่ำสุดที่ 1,525.29 จุดทั้งนี้ กองทุนซื้อสุทธิ 2,381.82 ล้านบาท ส่วนรายย่อยในประเทศขายสุทธิ 1,848.46 ล้านบาท ต่างชาติ 436.05 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ 97.31 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์กิม​เอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มธนาคาร รวมถึงกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (บิ๊กแคป) ที่ราคายังปรับขึ้นช้ากว่าตลาด (แลกการ์ด) อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเศรษฐกิจ (Reopening Play) ตอบรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่ปรับตัวลงเล็กน้อย ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่เคลื่อนไหวในแดนบวก และกระแสข่าวการเปิดประเทศตามเป้าหมาย 120 วัน


อย่างไรก็ดี คาดว่าเป็นการฟื้นตัวระยะสั้นเท่านั้น หลังจากที่ดัชนีปรับลงทดสอบแนวรับ 1,515 จุด และคาดว่าระยะกลาง-ยาวดัชนียังมีโอกาสหลุดแนวรับดังกล่าวได้ โดยประเมินกรอบดัชนีครึ่งหลังของปี 2564 ระหว่าง 1,460-1,580 จุดเพราะยังต้องติดตามการรายงานกำไรของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2 ปี 2564 และมาตรการของภาครัฐ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในปัจจุบันอาจไม่สะท้อนสถานการณ์ที่แท้จริง จากการตรวจหาเชื้อที่อยู่ในระดับต่ำและอัตราการติดเชื้อต่อการตรวจที่เร่งตัวขึ้น

"ดังนั้น การลงทุนจึงแนะนำตั้งรับมากกว่าซื้อไล่ราคา โดยแนะนำกลุ่มส่งออกที่ราคาหุ้นมีโอกาสไปต่อและได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ TU GFPT และ EPG"

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้กรณีฐานคาดว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะคลี่คลายลงได้ในเดือน ส.ค. อย่างไรก็ดี การลงทุนยังต้องเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) เช่นเดิม โดยแนะนำซื้อกลุ่มหุ้นปลอดภัย (Defensive Play) ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มโรงพยาบาล ADVANC BCPG BGRIM และ BDMS กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า STA NER NYT GFPT และ FORTH รวมถึงกลุ่มแลกการ์ด KBANK CPALL และ SCC ทั้งนี้ เพราะมองกลุ่ม Reopening Play ที่ฟื้นตัวขึ้นวานนี้ยังมีความเสี่ยงผันผวนจากกำไรที่ถูกผลกระทบโควิด-19

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่รออยู่ในระยะข้างหน้า แต่มองเป็นโอกาสของการลงทุน โดยแนะนำแบ่งเงินซื้อหุ้นในช่วงที่ดัชนีเคลื่อนไหวหลุดแนวรับ 1,500 จุด และเข้าซื้ออีกครั้งบริเวณแนวรับ 1,490-1,460 จุด ตามลำดับ โดยแนะนำหุ้นบิ๊กแคปที่พื้นฐานดี และมีแนวโน้มกำไรเติบโต ได้แก่ ADVANC KCE SAT BDMS GULF GPSC CRC TIDLOR และ AMATA
#3187


นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์  อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายการเข้าพบของ นายวิฑูรย์ เเนวพานิช ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์บริการเดินรถแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหารถแท็กซี่ของสหกรณ์                 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19  เบื้องต้นต้องการให้ช่วยประสานหาพื้นที่จอดรถแท็กซี่ที่ต้องหยุดวิ่งบริการเนื่องจากประชาชนงดเดินทางทำให้จำนวนผู้ใช้บริการแท็กซี่ลดลง  ซึ่งสหกรณ์ได้นำรถแท็กซี่บางส่วนไปจอดไว้ที่หน้ากระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงขอความร่วมมือสหกรณ์แท็กซี่นำรถออกจากบริเวณด้านหน้าของหน่วยงานดังกล่าว และประสานกับกรมธนารักษ์ และหน่วยงานต่าง  ๆ               จัดหาพื้นที่ว่างเพื่อรองรับรถแท็กซี่ไปจอดไว้ในช่วงสถานการณ์โควิด  ขณะนี้ ได้พื้นที่จอดภายในโรงงานยาสูบ จอดได้ 150 คัน บริษัท แคทเทเลคอม จังหวัดนนทบุรี จอดได้ 120 คัน


ที่ซอยเสรีไทย 66 พื้นที่ 10 ไร่และที่ในเขตหนองจอก                     สามารถจอดได้ประมาณที่ละ 1,000 คัน และพื้นที่ของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กรมชลประทาน ปากเกร็ด 300 คัน  พื้นที่ของสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ เขตดุสิต ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 1 และ 2                            และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี รวม 500 คัน และอยู่ระหว่างการขอความอนุเคราะห์ใช้พื้นที่กับการรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มเติม เพื่อให้สหกรณ์แท็กซี่ใช้พื้นที่ในการจอดรถแท็กซี่ที่ไม่สามารถประกอบการได้  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของสหกรณ์ในการเช่าพื้นที่จอดรถ

            "นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยในความเดือดร้อนของพี่น้องสมาชิกสหกรณ์แท็กซี่  จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสหกรณ์นอกภาคการเกษตร                 โดยจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ให้กู้ยืมไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ช่วงสถานการณ์โควิด"


 รวมทั้งประสานกับกระทรวงแรงงาน เพื่อให้คนขับรถบริการที่อยู่ในระบบสหกรณ์ ทั้งรถแท็กซี่ สามล้อเล็ก รถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าสู่มาตรา 40 ของกฎหมายแรงงาน ให้มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 5,000 บาท                           อย่างไรก็ตาม กรมฯอยากขอความร่วมมือจากหน่วยงานและประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์จะจัดจ้างรถโดยสารขนของในช่วงนี้ ขอให้ใช้บริการผ่านทางสหกรณ์บริการเดินรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับรถแท็กซี่ให้มีรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว และสามารถผ่านวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน"

ปัจจุบันสหกรณ์แท็กซี่มีจำนวน 59 แห่ง มีสมาชิก 50,974 คน มีจำนวนรถแท็กซี่ 19,555 คัน ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีหนังสือหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเยียวยาช่วยเหลือสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งผลกระทบด้านภาระค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการ ค่าใช้จ่าย              ในการตรวจสภาพรถ ค่าเชื้อเพลิง และค่าเบี้ยประกันภัยภาคสมัครใจ ผลกระทบด้านการชำระหนี้สถาบันการเงิน

 

  รวมทั้งขอเข้าร่วมโครงการเยียวยาจากภาครัฐตามมาตรการต่าง ๆ แล้ว ซึ่งขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือของ             แต่ละหน่วยงาน  
#3188


"นพ.สันต์" ติงสื่อฟังไม่ได้ศัพท์ กรณีนักวิจัย "ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้" ขอถอนต้นฉบับที่กำลังรอตีพิมพ์ แม้ค่า p-value สรุปผลไม่แตกต่างจากยาหลอก แต่ไม่ได้หมายความว่า รักษาโควิดไม่ได้ เพียงแต่ต้องวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น ชี้พิเศษกว่าคู่แข่ง "ฟาวิพิราเวียร์" ที่มีข้อมูลน้อยพอกัน คือ แค่ทำวิจัยเพิ่มอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้ว อีกทั้งยังหาง่าย ราคาถูก มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติ

จากกรณี นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว เผยแพร่บทความว่า ทีมผู้วิจัยชาวไทย ที่สรุปผลได้ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิด-19 ลดการเกิดปอดอักเสบได้ ทำการขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับของตนเองที่รอตีพิมพ์กลับคืนจากคลังวารสารรอตีพิมพ์ (medRxiv) เหตุผิดพลาดในการคำนวณค่านัยสำคัญของความแตกต่าง (p-value) ซึ่งหากคำนวณอย่างถูกต้องแท้จริงแล้วค่านัยสำคัญจริงๆ คือ p=0.1 แปลได้ว่า "การใช้ฟ้าทะลายโจรลดปอดบวมได้ไม่แตกต่างจากใช้ยาหลอก" ทำให้สื่อหลายแห่งตีความไปว่าฟ้าทะลายโจร ใช้รักษาโควิดไม่ได้ (อ่านบทความ : จำเป็นต้องมีการวิจัยรักษาโควิด-19 ด้วยฟ้าทะลายโจรซ้ำด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้น)

วันนี้ (8 ส.ค. 2564) นพ.สันต์ จึงชี้แจงว่า สื่อตีความผิดพลาด เนื่องจากค่า p-value ที่ได้นั้น ไม่ได้หมายความว่า ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดไม่ได้ เพียงแต่ต้องทำการวิจัยนี้ซ้ำใหม่ด้วยกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม


เมื่อวานนี้ ผมเล่าเรื่องคณะผู้วิจัยชาวไทย ที่ทำวิจัยฟ้าทะลายโจรรักษาโควิดได้ขอถอนต้นฉบับของตัวเองกลับออกมาจากเว็บไซต์งานวิจัยรอตีพิมพ์ (medRxiv) เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการคำนวณเชิงสถิติในประเด็นการคิดค่านัยสำคัญทางสถิติ (p-value) คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ตัดเอาบทความของผมครึ่งบรรทัดไปโพนทะนาผ่านทางหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ ว่า ฟ้าทะลายโจรใช้รักษาโควิดไม่ได้ ผลเสียแล้วควรต้องเลิกใช้..ไปโน่นเลย ผู้คนก็พากันกระต๊าก กระต๊าก ต่อๆ กันไป ซึ่งเป็นการตัดบทความของผมเอาไปแค่บรรทัดเดียวแล้วเอาไปกระเดียดที่ได้ผลแบบอะเมซซิ่งทิงนองนอยมากส์

ตัวผมเองไม่ถือสานะครับ เพราะเรื่องก็ดี ชื่อก็ดี ภาพของผมก็ดี มักมีคนชอบเอาไปทำยำใหญ่ใส่สาระพัดเป็นประจำอยู่แล้ว เอาไปขายยาสีฟันก็ยังเคยมีเลย หิ หิ ครั้งนี้ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่กลับมองเห็นเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ผู้คนได้หันมาสนใจและพยายามทำความเข้าใจงานวิจัยทางการแพทย์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จะได้ไม่ถูกคนกระเดียดข้อมูลให้ตื่นตกใจได้ง่ายๆ

ขอย้อนไปเริ่มต้นที่สนามหลวงก่อนนะ

เมื่อมีโรคโควิด-19 มา ได้มีการทำวิจัยในห้องทดลองที่ไต้หวันและในเมืองไทย แล้วสรุปผลได้ตรงกันว่า ฟ้าทะลายโจรระงับยับยั้งเชื้อไวรัสซาร์สโควี 2 ซึ่งเป็นเชื้อต้นเหตุของโรคโควิด-19 ทั้งนอกเซลล์และในเซลล์ได้ [1, 2]

ต่อมาก็ได้มีการทดลองใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ในคนกลุ่มเล็ก (case series) จำนวน 6 คน ซึ่งสรุปผลได้ว่าฟ้าทะลายโจรในขนาดที่ใช้ (180 มก.ของแอนโดรกราฟโฟไลด์ต่อวันนาน 5 วัน) สัมพันธ์กับการที่ไวรัสลดจำนวนลงและหมดไปจากตัว (viral shedding) ได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงที่มีนัยสำคัญ งานวิจัยนี้ไม่ได้ตีพิมพ์ แต่นำเสนอในที่ประชุมวิชาการโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [3]

ต่อมาพัฒนาการทางวิชาการในเรื่องนี้ ก็แยกกันทำไปสองทาง ทางหนึ่งคือ ได้มีการทำวิจัยแบบย้อนหลังตามดู (retrospective cohort study) กลุ่มคนไข้โควิด-19 ที่ได้รับการรักษาต่างกันสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งใช้ฟ้าทะลายโจร 309 คน อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ใช้ฟ้าทะลายโจร 526 คน แล้วพบว่า กลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นปอดบวม 3 คน (0.9%) กลุ่มที่ไม่ได้ฟ้าทะลายโจรเป็นปอดบวม 77 คน (14.64%) ซึ่งเป็นความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.001) งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในรูปของรายงานสรุป (short communication) ในวารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก [4]

อีกด้านหนึ่งก็มีการทำวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโควิด-19 ในรูปของการวิจัยแบบสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ซึ่งถือว่าเป็นระดับหลักฐานชั้นสูงสุดของการวิจัยทางการแพทย์ รายละเอียดของงานวิจัยมีอยู่ว่าผู้วิจัยได้ใช้ผู้ป่วย 57 คน สุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่ง 29 คน ให้กินฟ้าทะลายโจรซึ่งมีเนื้อยาแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก.ต่อวันกินนาน 5 วัน อีกกลุ่มหนึ่ง 28 คน ให้กินยาหลอก โดยใช้การเกิดปอดอักเสบ (pneumonia) เป็นตัวชี้วัด พบว่า กลุ่มที่กินยาหลอกเกิดปอดอักเสบ 3 คน (10.7%) ขณะที่กลุ่มที่กินฟ้าทะลายโจรไม่เกิดปอดอักเสบเลย (0 คน) เป็นความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.039) ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ส่งผลไปตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ โดยเผยแพร่นิพนธ์ต้นฉบับล่วงหน้าในเว็บไซต์งานวิจัยรอการตีพิมพ์ (medRxiv)[5] แต่ต่อมาคณะผู้วิจัยพบความผิดพลาดในการคำนวณค่า p-value ว่าที่คำนวณได้ p = 0.039 นั้นผิดไป ที่ถูกต้องเป็น p = 0.1 จึงได้ขอถอนนิพนธ์ต้นฉบับกลับมาแก้ไขความผิดพลาดดังกล่าว

ผมได้เล่าเรื่องการขอถอนต้นฉบับกลับมาแก้ไขให้แฟนบล็อกฟัง และแจ้งเปลี่ยนข้อสรุปของผมเองที่เคยพูดว่าหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทลายโจรรักษาโรคโควิด-19 มีมากพอแล้วนั้น ผมต้องขอแก้ไขคำพูดใหม่ เป็นหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนให้ใช้ฟ้าทลายโจรรักษาโรคโควิด-19ในคนยังมีไม่มากพอ (เพราะยังขาดงานวิจัยระดับ RCT) จึงต้องทำวิจัยซ้ำโดยการขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้น

เพราะการที่กลุ่มตัวอย่างเล็กได้ค่า p มากกว่า 0.05 ก็บอกได้แค่ว่ายังบอกไม่ได้ว่าความแตกต่างในผลการรักษา (คือการเกิดปอดบวม) ในทั้งสองกลุ่มมันต่างกันจริงหรือไม่ การจะรู้ได้ก็ต้องมีกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่านี้

ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรสักแอะเดียวที่จะบ่งชี้ว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 ไม่ได้ผล ฟังให้ดีนะ "ยังไม่มั่นใจว่ามันได้ผลจริงหรือเปล่า" ไม่เหมือนกับ "ใช้แล้วไม่ได้ผล"

ซึ่งยาคู่แข่งกันที่ใช้ในเมืองไทยอีกตัว คือ Favipiravir ก็มีข้อมูลน้อยประมาณเดียวกัน คือ ทุกอย่างติดอยู่ที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ นับถึงวันนี้การใช้ Favipiravir แล้วจะทำให้ไวรัสโควิด-19 หายไปจากตัวเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ..รึก็เปล่า จะทำให้ใช้ออกซิเจนน้อยลง..รึก็เปล่า จะทำให้ต้องเข้าไอซียูน้อยลง..รึก็เปล่า และที่สำคัญจะทำให้คนป่วยตายน้อยลง..รึก็เปล่า [6]

แต่ฟ้าทะลายโจรมันมีความพิเศษกว่า Favipiravir ตรงที่แค่ทำวิจัยซ้ำขยายกลุ่มตัวอย่างให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดเดียว ก็จะเห็นดำเห็นแดงแล้วว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลต่างจากยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ เท่าที่ผู้รู้ทางสถิติคำนวณให้คร่าวๆ หากพิจารณาจากอัตราการเป็นปอดบวมของผู้ใช้และผู้ไม่ใช้ฟ้าทะลายโจรในงานวิจัย retrospective cohort ที่ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แค่ขยายกลุ่มตัวอย่างในงานวิจัย RCT ไปให้ได้กลุ่มละ 40 คน คือ ขยายอีกกลุ่มละ 10 คน ก็จะเห็นดำเห็นแดงกันแล้ว

อีกทั้งฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสามัญในท้องถิ่น หาง่ายกว่า ราคาถูกกว่า มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชาติมากกว่าไปซื้อยาเขามาทั้งๆ ที่ผลการรักษาก็แปะเอี้ย ในแง่การค้าขายระดับนานาชาติ หากจะขายฟ้าทะลายโจร ก็ต้องมีงานวิจัยระดับ RCT สนับสนุน ตัวหมอสันต์จึงลุ้นตัวโก่งให้ทำงานวิจัยนี้ต่อให้เบ็ดเสร็จสะเด็ดน้ำ โดยยินดีช่วยทุกอย่างเท่าที่หมอแก่คนหนึ่งจะช่วยได้
#3189


"คอปเปอร์ ไวร์ด "กวาดรายได้รวม 944.83 ล้านบาท โตกว่า 60% กำไรสุทธิ 6.95 ล้านบาท เติบโต 494% แม้ต้องรับมือสถานการณ์โควิดระบาดรุนแรง  สินค้ากลุ่ม Apple โดดเด่น ได้รับการตอบรับต่อเนื่องจากปลายปีก่อน  ขณะ มีสาขาภายใต้การบริหารแล้ว 45 สาขา และช่องทางออนไลน์ที่เติบโตแรงกว่า 90% จับตาครึ่งปีหลังแรงรับไฮซีซั่น หนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้วางไว้โต 20% 

นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 2/2564 ของบริษัทฯ และบริษัทฯ ย่อย มีรายได้รวมอยู่ที่ 944.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 353.51 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59.78 และมีกําไรสุทธิ 6.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 494.02 สะท้อนสินค้าเทคโนโลยีเติบโตอยู่ในกระแสความต้องการของผู้บริโภค และการบริหารจัดการภายในทำได้มีประสิทธิภาพ ภายใต้มาตรการของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

สำหรับรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 944.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกัน ของปีก่อน 356.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 60.72 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้า คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ และสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้า Apple เป็นจำนวนร้อยละ 83.07 ของรายได้และบริการสุทธิ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 80.51 ขณะที่รายได้จากการขายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ มีสัดส่วนร้อยละ 32.71 ของรายได้จากการขายและบริการสุทธิ เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 37.79

"ในไตรมาสสองของปีนี้สินค้ากลุ่ม Apple มีการเติบโตที่ดีขึ้น จากยอดขาย iPhone 12 รวมทั้ง iPad และ MacBook ที่วางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีมากในปัจจุบัน รวมทั้งกระแสการทำงานที่บ้าน (Work from Home) หรือการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ สนับสนุนความต้องการสินค้า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ขณะที่ สินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์แม้จะปรับลดลงในไตรมาสนี้ แต่จะกลับมาสร้างการเติบโตได้อีกมาก จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G IoT AR และ VR คาดจะเข้ามากระตุ้นตลาดให้คึกคัก" นายปรเมศร์ กล่าว

ทั้งนี้ รายได้จากช่องทางออนไลน์มีสัดส่วนร้อยละ 11.64 ของรายได้จากการขายและบริการ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 92.97 จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยบริษัทฯ จะพยายามขยายการเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเป็นอีกช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่ง

ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 บริษัทฯ มีร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารงานจํานวน 45 สาขา (จากไตรมาส 2/2563 มีจำนวน 44 สาขา) ประกอบด้วย ร้าน .life (ดอทไลฟ์) จํานวน 23 สาขา ร้าน Apple Brand Shop จํานวน 17 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จํานวน 13 สาขา U-Store by copperwired จํานวน 3 สาขา และ Ai_ จํานวน 1 สาขา) และศูนย์บริการ iServe จํานวน 5 สาขา สืบเนื่องจากมาตรการของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2564 บริษัทฯ ได้ปิดร้านค้าปลีกจํานวน 2 สาขา เป็นการชั่วคราว (ใน 6 เดือนแรกของปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 16 พฤษภาคม 2563 บริษัทฯ ได้ปิดร้านค้าปลีกจํานวน 41 สาขา)

สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,983.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 607.98 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.20 และมีกำไรสุทธิรวมจำนวน 31.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้้นจากปีก่อนจำนวน 19.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 149.92 อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 1.61 จากร้อยละ 0.93 ในงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน 20% ตามที่วางไว้ โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่สินค้าใหม่ทยอยเปิดตัวและวางจำหน่าย รวมทั้ง การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ นำออนไลน์เสริมทัพ โดยในปีนี้วางแผนเปิดสาขาใหม่ 7 สาขา ยังคงตามแผนเดิม และส่วนใหญ่จะเร่งเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากต้องระมัดระวัง และคำนึงถึงโอกาสอันเหมาะสม ควบคู่การจับมือพันธมิตรชั้นนำอย่างเอไอเอส เพิ่มความได้เปรียบในการจัดทำแผนการตลาดร่วมกัน และตอบโจทย์ผู้บริโภคด้วยการใช้ชีวิตแบบ Smart Living ได้อย่างสมบูรณ์

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ประกาศซื้อกิจการ IBIZ Plus รุกตลาดร้านโทรศัพท์มือถือ-อุปกรณ์เสริม มูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเดือนกันยายนนี้ เพื่อขยายช่องทางการจำหน่าย และเพิ่ม Product Mix ในมือ ภายใต้แบรนด์ AIS, Telewiz, Buddy, Samsung และ Xiaomi ในประเทศไทย เสริมจากการเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่สินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ และแบรนด์ Apple คาดจะเป็นปัจจัยสำคัญรับโอกาสยุคเทคโนโลยีบูมในปี 2565 ให้มีสาขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
#3190


วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.45 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความคืบหน้าการสร้างห้องความดันลบ (Modular ICU) สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรง (สีแดง) โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลธนบุรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ณ ชั้น 1 โรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์)

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ปรับระบบการรักษาและพื้นที่บริเวณ ชั้น 1 ของโรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์) จากเดิมใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยสีเหลือง สร้างเป็นห้องความดันลบ (Modular ICU) เพื่อรองรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่มเติม สามารถรองรับได้ 40 เตียง ขณะนี้การดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว จะเปิดรับผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรง (สีแดง) ในช่วงบ่ายวันนี้(8 ส.ค.64) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการ Modular ICU แล้ว 4 อาคาร (ICU 1,2,3,4) รองรับผู้ป่วยได้ 40 เตียง ผู้ป่วยเข้าพักเต็มแล้ว จำนวน 40 เตียง โดยมีแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลราชพิพัฒน์และโรงพยาบาลธนบุรีร่วมดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการ Modular ICU เมื่อวันที่ 12 ก.ค.64 มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาประมาณ 200 ราย ภายหลังจากที่อาการดีขึ้น ได้ย้ายไปดูแลในโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีเขียว จนรักษาหายกลับบ้านแล้วกว่า 50 ราย อนึ่ง ขณะนี้โรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์) มีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดรวม 160 เตียง แบ่งเป็นผู้ป่วยสีแดง 80 เตียง และผู้ป่วยสีเหลือง(ชั้น 2) 80 เตียง
#3191


พิธีปิดมหกรรมกีฬา โอลิมปิก โตเกียว เกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น มีขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พร้อมส่งไม้ต่อให้เจ้าภาพในอีก 3 ปีข้างหน้าคือ ฝรั่งเศส ในปี 2024

เจ้าภาพ ญี่ปุ่น เริ่มโหมโรงด้วยพลุไฟสุดอลังการ ก่อนที่ธงแต่ละประเทศที่ร่วมชิงชัยเหรียญรางวัลกันมาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการเชิญเข้าสู่สนาม โดยจะไม่มีลำดับใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อสื่อถึงการฉลองความสำเร็จร่วมกัน จากนั้นประตูทั้ง 4 ทิศของสนามก็เปิดต้อนรับนักกีฬาทั้งหมดเข้ามาอิ่มเอมกับบรรยากาศสุดท้ายนี้

ขณะที่ไทยมอบให้ "แต้ว" สุดาพร สีสอนดี เหรียญทองแดงมวยสากลสมัครเล่นร่วมพิธีปิด ส่วนอีกคนคือเหรียญทอง "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่ล่วงหน้ากลับมาก่อนแล้ว ส่วนเจ้าเหรียญทองใน โตเกียว เกมส์ 2020 ครึกครื้นเป็นพิเศษคือ สหรัฐอเมริกา ทำไปทั้งสิ้น 39 เหรียญทอง 41 เหรียญเงินและ 33 เหรียญทองแดง

จากนั้นเจ้าภาพก็เสิร์ฟการแสดงมากมายที่ประทับใจสุดเห็นจะเป็นดวงไฟมากมายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าประกอบกันเป็นสัญลักษณ์ห่วง โอลิมปิก สื่อถึงจิตวิญญาณที่รวมอยู่ในตัวทุกคน รวมถึงร่วมรำลึกถึงคนที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีสร้างสรรค์งานให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งได้รับคำชมมากว่า ญี่ปุ่น ทำอย่างไรกับเทคโนโลยีถึงได้ภาพที่สวยงามเช่นนี้

ปีนี้นักกีฬาทุกคนไม่ได้รับอิสระให้ออกไปข้างนอกได้ตามอำเภอใจเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้น ญี่ปุ่น จึงจัดการแสดงต่อมาเป็นสวนสาธารณะเหมือนให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย

แน่นอนว่า ญี่ปุ่น เจ้าแห่งอนิเมะจัดโชว์จาก ดาบพิฆาติอสูร ซึ่งถูกใจสาวกยิ่งนัก โดยเป็นการนำเด็กๆ มัธยมมาเล่นเพลงจากอนิเมะเรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์แบบสุดๆ

ช่วงท้าย ยูริโกะ โคอิเคะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว ได้ส่งมอบธงต่อให้เจ้าภาพครั้งต่อไปคือ ฝรั่งเศส โดยเป็น โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่รับและส่งต่อให้ แอนน์ ฮิดัลโก นายกเทศมนตรีกรุงปารีส

พร้อมกันนี้อีกฟากธง โอลิมปิก ปารีส 2024 ถูกเชิญขึ้นหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นธงที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดยาว 90 เมตร กว้าง 60 เมตรซึ่งเกือบเท่าสนามฟุต.

จากนั้นฝูงบินผาดโผน The Patrouille Acrobatique de France ที่เป็นหนึ่งในฝูงบินผาดโผนที่เก่าแก่ที่สุดของโลก จะร่วมบินในพิธีเปิดตัวธง พร้อมปล่อยควันเป็นลายธงชาติฝรั่งเศส

สุดท้าย ญี่ปุ่น จัดการแสดงแบบเรียบง่ายปิดท้ายพิธีปิด โอลิมปิก โตเกียว เกมส์ 2020 พร้อมทั้งกระถางคบเพลิงที่ดับไฟกับการขึ้นคำว่า "อาริกาโตะ" ขอบคุณทุกๆ คน
#3192


นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า จากการที่องค์การฯได้ทำการปรับแผนการผลิตยาฟาวิพิราเวียร์(ยาฟาเวียร์) ให้เพิ่มขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้พบว่าความต้องการใช้ยารักษากลุ่มโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติที่ได้วางแผนไว้ ทำให้มีผลกระทบต่อสายการกำลังการผลิตยารักษาโรคเรื้อรัง ที่องค์การฯผลิตอยู่ และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่าน จึงได้จัดประชุมวางแผนการผลิตยาของประเทศในสถานการณ์ระบาดโควิด-19 โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(กองยา) องค์การเภสัชกรรม โรงงานเภสัชกรรมทหาร สภากาชาดไทย และสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน (TPMA) ร่วมประชุมด้วย เพื่อวางแผนและจัดสรรกำลังการผลิตยาในภาพรวมให้เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ

โดยในส่วนขององค์การฯเห็นว่าเพื่อให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังมียาใช้เพียงพอ อย่างต่อเนื่อง จึงได้ขอความร่วมมือจากสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนซึ่งดูแลบริษัทผู้ผลิตยาเอกชนในประเทศ ร่วมดำเนินการผลิตยารักษาโรคเรื้อรังจำนวน 7 รายการ ประกอบด้วย 1.ยาซิมวาสแตติน (Simvastatin) ใช้ลดระดับคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในหลอดเลือด 2.ยาเมทฟอร์มิน (Metformin) ยาใช้รักษาโรคเบาหวาน

3.ยาลอซาร์แทน (Losartan) ใช้ลดความดันโลหิตที่ออกฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว 4.ยาโพรพาโนลอล (Propanolol)ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง 5.วิตามินB1 6 12 6.ยากรดโฟลิก (Folic acid) รักษาภาวะโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดง และภาวะขาดกรดโฟลิก 7.ยาฟลูออกซิทีน รักษาโรคซึมเศร้า (Fluoxetine) และยาลอราตาดีน (Loratadine) รักษาภูมิแพ้ ซึ่งปัจจุบันองค์การฯไม่ได้ผลิตแล้ว

ทั้งนี้ยา7 รายการในข้างต้นองค์การฯยังคงมีการผลิตและสำรองให้ผู้ป่วยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ และองค์การฯได้ขอความร่วมมือให้ บริษัทผู้ผลิตยาเอกชนอื่น ๆซึ่งมีทะเบียนตำรับยาดังกล่าวอยู่ ดำเนินการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการประชุม สมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบันยินดีที่จะนำไปวางแผนร่วมกับบริษัทผลิตยาเอกชนอื่น ๆ เพื่อเร่งทำการผลิตต่อไป


นอกจากนั้นยังพบว่าขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตยาในประเทศบางบริษัทได้เริ่มทำการวิจัยพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์ ขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งสิ่งที่เป็นน่ายินดีที่จะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในส่วนยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มมากขึ้น

"แผนการผลิตยาฟาวิพิราเวียร (ยาฟาเวียร์) ขององค์การเภสัชกรรม ในเดือนสิงหาคม จำนวน2.5 ล้านเม็ด กันยายนผลิตเพิ่มเป็น 23 ล้านเม็ด และตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะผลิตเพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 40 ล้านต่อเดือน ซึ่งจะมีการบริหารจัดการและการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งจากการนำเข้าจากต่างประเทศและผลิตเอง ให้เพียงพอสอดคล้องกับสถานการณ์ของการระบาดของโรคโควิด 19 ของประเทศ"

ดร.ภญ.มุกดาวรรณ ประกอบไวทยกิจ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า อภ. ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และได้มีการวางแผนการผลิตยาในส่วนของยาอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และอภ.ยังคงยืนหยัดที่จะทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ดำเนินการในทุกภารกิจทั้งด้านยา วัคซีน และเวชภัณฑ์ ให้กับพี่น้องประชาชน และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันแสดงศักยภาพโดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้
#3193


วานนี้ (6 ส.ค.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวสวิสอย่างมาก ล่าสุดได้ทำจดหมายแสดงความเสียใจไปถึงสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ยอมรับว่ากรณีนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่ควรเกิดขึ้นในปัจจุบันที่ประเทศไทยเปิดโครงการ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" เปิดเมืองภูเก็ตนำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาเที่ยวแบบไม่กักตัวในช่วงที่โรคโควิด-19 ยังมีการระบาดทั่วโลก ซึ่งกำลังถูกจับตาจากหลายๆ ประเทศในโลกนี้ว่าจะเดินไปได้ขนาดไหน หากสำเร็จ หลายประเทศก็จะเดินตามทำแซนด์บ็อกซ์แบบประเทศไทย หากไม่สำเร็จก็จะนำจุดอ่อนไปแก้ไข

"เรื่องนี้ถือว่าเราผิดพลาดและไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น"

ในฐานะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นผู้เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งมีกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวต่างชาติที่จ่ายเยียวยาให้ได้ภายใต้หลักเกณฑ์สูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมดูแลการส่งร่างของผู้เสียชีวิตกลับประเทศ และดูแลญาติผู้เสียชีวิตที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทย

ทั้งนี้ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทางนายกฯกำชับให้ดูแลเรื่องนี้ และสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาติดตามเรื่องที่ภูเก็ตด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะประสานเพื่อขอความร่วมมือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร ให้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนอีก

พร้อมขยายผลไปยังพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งโครงการ "สมุย พลัส โมเดล" ซึ่งเปิดโครงการไปแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงโครงการ "กระบี่ อีเวน มอร์ อะเมซิ่ง" เปิดพื้นที่นำร่อง 3 เกาะใน จ.กระบี่ ได้แก่ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล และโครงการ "พังงา พร้อมต์" นำร่องด้วยเขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ จ.พังงา ที่สองโครงการหลังเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยววันที่ 15 ส.ค.นี้ ใช้สูตร 7+7 คือเปิดให้เที่ยวเชื่อมโยงจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สู่พื้นที่นำร่องในสุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา คาดเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมโยงจริงตั้งแต่ 22 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

"ผมจะโทรศัพท์ประสานไปยังผู้ว่าราชการทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทย รวมทั้งจะหารือกับนายกฯเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้น เพราะหากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไม่สะดุดกลางคัน คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามาในช่วงไฮซีซั่นไตรมาส 4 ปีนี้และไตรมาส 1 ปี 2565 เพิ่มมากขึ้น สร้างรายได้ท่องเที่ยวแก่จังหวัดภูเก็ตมากกว่าเดือน ก.ค.ที่นักท่องเที่ยวนำเงินมาใช้จ่าย 829 ล้านบาท สร้างเงินหมุนเวียนราว 2,000 ล้านบาท" รมว.การท่องเที่ยวฯกล่าว
#3194


เคียวโก ฟุรุฮาชิ แนวรุกทีมชาติญี่ปุ่น ที่เพิ่งย้ายร่วมทีม กลาสโกว์ เซลติก สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก สกอตติช ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรก และทำประตูได้ทันที

โดย กลาสโกว์ เซลติก บุกไปเอาชนะ ยาโบลเนช ทีมจากสาธารณรัฐเช็ก 4-2 ในเกมยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ซึ่งดาวเตะวัย 26 ปี เพิ่งจะย้ายจาก วิสเซล โกเบ ทีมในศึกเจลีก ไปร่วมทีมเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านยูโร (ประมาณ 193 ล้านบาท) สัญญา 4 ปี

สำหรับ เคียวโก ฟุรุฮาชิ โชว์ฟอร์มโดดเด่นกับ วิสเซล โกเบ โดยฤดูกาลนี้ ยิงประตูในเจลีกไปแล้ว 14 ประตู ขึ้นนำเป็นดาวซัลโว ก่อนย้ายสู่ทีมดังลีกสกอตแลนด์
#3195


Community Isolation หรือ ศูนย์พักคอย 4 มุมเมือง ภายใต้การสนับสนุนของ "เมืองไทยประกันภัย" และ "มูลนิธิมาดามแป้ง" โดย "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เปิดรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวแล้ว 2 แห่งแรก ในเขตบึงกุ่มและวังทองหลาง พร้อมส่งทีมอาสากล้าใหม่เข้าอบรมเป็นผู้ช่วยร่วมทำงานกับบุคลากรทางการแพทย์

สำหรับ Community Isolation เขตบึงกุ่ม ได้จัดตั้งขึ้นที่ โรงเรียนสุขุมนวพันธ์อุปถัมภ์ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ด้วยขนาด 124 เตียง ขณะนี้ทดลองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวแล้ว 10 ราย และอีกเขตที่เปิดบริการเรียบร้อยแล้วคือ วิทยาลัยพาณิชยการอินทราชัย ในเขตวังทองหลาง โดยโรงพยาบาลลาดพร้าว ซึ่งมีขนาด 100 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว 14 ราย โดยทั้งสองแห่งนี้จะทยอยรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวโดยรอบชุมชน ที่ได้ลงทะเบียนตามระบบไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเต็มอัตราภายในสัปดาห์นี้

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ซีอีโอ บมจ. เมืองไทยประกันภัย และในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง กล่าวว่า "นอกจากการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในศูนย์ทั้ง 4 ศูนย์ ได้แก่ บึงกุ่ม, วังทองหลาง, ราษฎร์บูรณะ และภาษีเจริญ แล้ว เรายังจัดส่งทีมอาสากล้าใหม่กลุ่มแรก นำร่องจำนวน 12 คน เข้าร่วมการอบรมกับทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ประจำศูนย์ต่าง ๆ ที่เปิดบริการทั้ง 4 ศูนย์ เพื่อแบ่งเบาภาระงานของแพทย์ พยาบาลในโรงพยาบาลแต่ละแห่งที่มีกำลังคนไม่เพียงพอ และยังเป็นการเพิ่มทักษะให้แก่กลุ่มอาสากล้าใหม่ในการดูแลผู้ป่วยในชุมชนของตนเอง เพื่อรับมือกับปรากฏการณ์ New High จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องอีกด้วย"

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ สามารถบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ หรือร่วมสมัครเป็นทีมอาสากล้าใหม่กับเราได้ที่ http://bitly.ws/dsfM

#ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน #มูลนิธิมาดามแป้ง #เมืองไทยประกันภัย
#3196


นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อีก 2 รายการ ได้แก่ ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ และเครื่องเคลือบเวียงกาหลง ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI แล้ว 141 รายการ จาก 77 จังหวัด ซึ่งการขึ้นทะเบียน GI จะช่วยคุ้มครองชื่อสินค้าให้เป็นสิทธิเฉพาะของชุมชน มีการรักษามาตรฐานของสินค้าและภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างความเชื่อมั่นในแหล่งต้นกำเนิดคุณภาพของสินค้า และจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและสร้างรายได้ให้กับชุมชนด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถผลิตได้เฉพาะท้องถิ่น

​นายสินิตย์ กล่าวว่า ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่  เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่มีเนื้อสัมผัสเนียน แน่นหนึบ แห้ง ละเอียด เส้นใยน้อย มีสีเหลืองอ่อนสม่ำเสมอทั้งผล กลิ่นหอมอ่อน รสชาติหวาน มัน ปลูกในอำเภอปากช่องซึ่งจัดอยู่ในพื้นที่ทุ่งหญ้าเขตร้อน มีมรสุมหลักพัดผ่าน ทำให้อากาศชุ่มชื้น มีฝนตกชุก สภาพอากาศกลางวันร้อนกลางคืนเย็น จึงทำให้ธาตุอาหารโพแทสเซียมที่สะสมอยู่ในเวลากลางคืนทำงานได้ดี ส่งผลให้ทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าวรสชาติดี

ส่วนเครื่องเคลือบเวียงกาหลง มีลักษณะเด่นในการขึ้นทะเบียน GI คือ ทนความร้อนสูง ผิวเรียบใสแต่ไม่มันเงา มีรอยแตกที่ผิวจากน้ำเคลือบ ดินที่ใช้ในการผลิต เป็นดินขาวเนื้อละเอียด มีความหนืดสูงคล้ายผงชอร์ค และดินดำเป็นดินที่อยู่ใต้ชั้นดินทราย สีดำแกมเทา มีความละเอียดสูง และมีทรายปนเล็กน้อย ซึ่งเป็นดินในพื้นที่ตำบลเวียงกาหลงเชียงรายหรือพื้นที่ข้างเคียงเท่านั้น ด้วยกรรมวิธีการเผา ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีพื้นผิวสีเขียวอมฟ้า เขียวไข่กา หรือขาวอมเหลือง โดยมีการเขียนสีด้วยสีธรรมชาติ เป็นลวดลายเป็นเอกลักษณ์​

ด้านนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากเร่งผลักดันการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ กรมฯ ยังส่งเสริมการควบคุมคุณภาพ ซึ่งทำให้สร้างความเข้มแข็งให้สินค้าชุมชนอย่าง GI เติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สินค้า GI ไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างและสร้างรายได้สู่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป
#3197


"เดอะ ด็อกเตอร์" ในวัย 42 ปี สร้างชื่อจากการคว้าแชมป์โลกได้ทุกรุ่นที่ลงทำการแข่งขัน ตั้งแต่ 125 ซีซี, 250 ซีซี อย่างละ 1 สมัย และโมโต จีพี อีกถึง 7 สมัย โดยฤดูกาล 2021 เจ้าตัวย้ายจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ไปอยู่กับ เปโตรนาส ยามาฮ่า แต่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

"มันยากที่จะพูดออกมา เมื่อรู้ว่าปีหน้าผมจะไม่ได้ลงแข่งขันมอเตอร์ไซค์อีกแล้ว" รอสซี เริ่มกล่าว

"ถือเป็นช่วงเวลาที่ลืมไม่ลง มันเยี่ยมมาก ผมสนุกกับมันมากๆ มันคือการเดินทางที่แสนยาวนาน และสนุกสุดๆ ไปเลย"

"ตลอดระยะเวลา 25-26 ปี ในศึกชิงแชมป์โลก มันยอดเยี่ยมมาก และปีหน้าชีวิตของผมจะเปลี่ยนไป" ยอดนักบิดชาวอิตาเลียน ทิ้งท้าย

ทั้งนี้เจ้าของตำนานหมายเลข 46 คว้าชัยไปทั้งหมด 115 สนาม ขึ้นโพเดียมไป 235 ครั้ง พร้อมกับคว้าตำแหน่งโพล ไป 65 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มลงชิงชัยในรุ่น 125 ซีซี เมื่อปี 1996

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยืนยันว่าหลังจากนี้จะหันไปทุ่มเทกับการบริหารทีมมอเตอร์ไซค์ของเขาเอง อย่าง อารัมโค เรซซิ่ง ทีม วีอาร์ 46 ที่จะมาลงชิงชัยโมโต จีพี ในปี 2022
#3198


รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ได้รับรายงานการจำหน่าย หุ้นของ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR โดยนายศึกษิต เพชรอำไพ ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2564จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 9.189% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 9.189% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ทั้งนี้เป็นการทำธุรกรรมผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) และยื่นแบบรายงานต่อ ก.ล.ต.วันที่ 5 ส.ค. จำนวนหุ้นที่จำหน่าย 50 ล้านหุ้น หรือ 9.189%

นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังได้รับรายงานการจำหน่าย หุ้นของ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) โดยนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2564 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 5.5134% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 0.0029% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ส่วนจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 5.5134% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 0.0029% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ
#3199


เอเอฟพี - ผู้นำสหรัฐฯแถลงต่อประชาชนผ่านทางโทรทัศน์ในวันอังคาร (3 ส.ค.) ว่าสหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกในการต่อสู้การระบาดไวรัสเดลตาประสบความสำเร็จบริจาควัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 110 ล้านโดสใน 65 ประเทศทั่วโลก ยืนยัน "วัคซีนอเมริกาของฟรีไม่ได้ขาย"

เอเอฟพีรายงานวันนี้ (4 ส.ค.) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ไปยังประชาชนทั่วประเทศในวันอังคาร (3) ชี้ว่า สหรัฐฯ เป็นชาติผู้นำในการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกท่ามกลางการระบาดไวรัสสายพันธุ์เดลตา เป็นการประกาศตามหลังสหรัฐฯ เพิ่งประสบความสำเร็จเห็นตัวเลขชาวอเมริกันในประเทศเข้าฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มจำนวน 70% ช้ากว่ากำหนดที่ตั้งไว้ในวันชาติสหรัฐฯ 4 ก.ค

"เป็นความพยายามเริ่มแรกของสหรัฐฯ ในการเข้าช่วยเหลือโลกเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาด" ทำเนียบขาวแถลง

ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวผ่านทางโทรทัศน์มีใจความว่า "มาจนถึงวันนี้เราได้ส่งมอบไปแล้วกว่า 110 ล้านโดสไปยัง 65 ประเทศ" และเขายังเสริมต่อว่า "วัคซีนเหล่านี้ที่บริจาคมาจากอเมริกาเป็นของฟรี เราไม่ได้ขาย" และชี้ว่า "ไม่มีเงื่อนไขข้อผูกมัดใดๆ เพราะเราทำไปเพื่อช่วยชีวิตผู้คนแค่นั้นเอง"

เอเอฟพีรายงานว่า สหรัฐฯ ได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19 จำนวน 111.7 ล้านโดส ส่วนใหญ่ผ่านโครงการโคแวกซ์ รวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศเป็นต้นว่า สหภาพแอฟริกา AU และชุมชนแคริบเบียน ที่รู้จักในนาม CARICOM

ไบเดนแถลงว่า "อ้างอิงจากสหประชาชาติ นี่มันมากไปกว่าการบริจาคเมื่อเทียบกับจำนวนชาติอื่นๆ รวมกันทั้งหมด"

เอเอฟพีรายงานว่า ชาติผู้รับบริจาคส่วนใหญ่คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โคลัมเบีย เวียดนาม บังกลาเทศ ปากีสถาน และแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ บังกลาเทศประกาศวานนี้ (4) ว่า ธากามีวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการบริจาคจากจีนและสหรัฐฯ ผ่านโครงการโคแวกซ์อย่างเพียงพอที่จะสามารถฉีดให้ประชาชนจำนวน 12 ล้านคนได้ใน 1 สัปดาห์

"โครงการแจกวัคซีนโควิด-19 จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค สำหรับเจ้าหน้าที่การแพทย์แนวหน้าบังกลาเทศที่ศูนย์สาธารณสุข 14,000 แห่ง" เอ.เค.เอ็ม โมซัมเมล เฮค (A.K.M Mozammel Haque) รัฐมนตรีอาวุโสบังกลาเทศแถลง

และเสริมต่อว่า "จะมีประชาชนจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านจะได้รับวัคซีนโควิด-19 ภายใน 1 สัปดาห์ ผู้สูงอายุ แรงงาน และเจ้าของกิจการร้านค้าจะได้รับตามลำดับความเหมาะสม"

เอเอฟพีรายงานว่า ธาการยังประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดออกไปในวันอังคาร (3)

ซึ่งถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะออกมาเป็นชาติผู้นำการแจกวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลก แต่กลับเป็นว่าคนในประเทศยังลังเลที่จะฉีดวัคซีน เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานในวันจันทร์ (2) ว่า มีจำนวนตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 50,000 คนต้องเข้าโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นทั่วสหรัฐฯ ขณะที่โรงพยาบาลต่างออกมาชี้ว่า "ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19"

ไบเดนใช้โอกาสนี้ร้องขอไปยังชาวอเมริกันที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้เข้ารับวัคซีนโควิด-19 โดยเร็วโดยชี้ว่า การระบาดไวรัสเดลตาเหมือนไฟป่าที่ไหม้ลามอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

เขาระบุว่า "มันเป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดโดยเฉพาะมันเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้"

และในการแถลงเขายังกล่าวไปถึงบริษัทใหญ่ในอเมริกาที่ออกคำสั่งให้พนักงานต้องเข้ารับวัคซีนโควิด-19 และแนวโน้มกระแสคนไม่รับวัคซีนเพิ่มโดยเฉพาะในพื้นที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว

เอเอฟพีรายงานว่า บริษัทดิสนีย์ เฟซบุ๊ก กูเกิล วอลมาร์ท และบริษัทผลิตเนื้อสัตว์ ไทสัน ฟู๊ดส์ (Tyson Foods) ต่างออกมาชี้ว่าบริษัทเหล่านี้มีหน้าที่ต้องกำหนดให้พนักงานของตัวเองเข้ารับวัคซีนโควิด-19
#3200
 
 
 
 


Kato Academy [Marketing Media Prodction]
สอนการตลาดออนไลน์ สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ตัวต่อตัว, Line OA, Chatbot, Website Salepage, Pixel Code, ยิงแอด Conversion
สอนผลิตสื่อโฆษณา สอนถ่ายรูป ตกแต่งรูป สอน Photoshopตัวต่อตัว , Lightroom, Illustrator, โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ PremiereKato Academy [Marketing Media Prodction]
สอนการตลาดออนไลน์ สอนยิงโฆษณา Facebook Ads ตัวต่อตัว, Line OA, Chatbot, Website Salepage, Pixel Code, ยิงแอด Conversion
สอนผลิตสื่อโฆษณา สอนถ่ายรูป ตกแต่งรูป สอน Photoshopตัวต่อตัว , Lightroom, Illustrator, โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ Premiere

หลักสูตร สอนเฟสบุ๊ค ตัวต่อตัว/กลุ่ม [พื้นฐาน-ขั้นสูง] [10.00-16.00น.] ไม่เป็นไม่กลับ
- สอนพื้นฐานของเฟสบุ๊ค และการตั้งค่าต่างๆที่ควรรู้ ก่อนทำธุรกิจ
- สอนสร้างเพจเฟสบุ๊คยังไงให้น่าโดนใจกลุ่มเป้าหมาย
- สอนเช็คข้อความและรูปภาพใน Facebook ลดปัญหาการทำงานที่เสียเวลา
- รู้ทันกับกฎระเบียบต่างๆในการสร้างโฆษณาเฟสบุ๊ค 
-  วิธีการนำเพื่อนหรือ พนักงานเข้ามาช่วยบริหารในเพจเฟสบุ๊ค ลดความเสี่ยงจากการโดยยึดเพจ
- สอนการสร้างบัญชีธุรกิจ โดยไม่ต้องใช้บัญชีส่วนตัวในการยิง เลี่ยงการถูกปิดบัญชี
- สอนวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายด้วยสถิติ [ผู้สอนจบโทด้านงานวิจัยสถิติโฆษณาโดยตรง]
 - สอนดูคู่แข่งเพื่อมาวิเคราะห์ และพัฒนาสินค้าของตัวเองอย่างมืออาชีพ
- สอนสร้างกลุ่มเป่าหมาย แบบตีวง ล้อมคอก เพื่อเผด็จศึก
- สอนสร้างกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ
- สอนการยิงแอดเฟสบุ๊คแบบ การมีส่วนร่วม, การเพิ่มยอดไลค์, วีดีโอและข้อความ เชิงลึกแบบเป็นระบบ วิเคราะห์เห็นภาพ
- สอนยิงแอดแบบไม่ให้คู่แข่งดึงข้อมูลของเราได้
- สอนการสร้างกลุ่มเป้าหมาย การตั้งค่ายิงแอดบน Instagram
- A/B Testing (การทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพการเข้าถึงของโฆษณา)
- สอนสร้าง Lookalike Audience เพื่อหาลูกค้าที่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน เชิงสถิติ
- การวางแผน สร้างระบบข้อความตอบกลับอัตโนมัติ(Chatbot) ในกล่องข้อความเฟสบุ๊ค
- วิธีใช้ เครื่องมือสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติ(Chatbot)เพื่อปิดการขาย
- วิธีการตั้งค่าการชำระเงิน /การออกใบเสร็จรับเงิน จากเฟสบุ๊ค
- สอนให้วิเคราะห์เพจของผู้เรียนแบบมืออาชีพ แบบยั่งยืนไม่โดนหลอก
- Workshop เพื่อศึกษาสินค้าหรือ วิเคราะห์สินค้าว่ามีส่วนไหนที่ควรพัฒนา

หมายเหตุ :การสอนอาจจะเลยเวลาที่กำหนด เพื่อประโยชน์ของผู้ลงเรียน

Facebook :https://www.facebook.com/katostock
- สอนตัวต่อตัว / กลุ่ม / ออนไลน์
- หลังจบ สามารถโทรปรึกษาได้ตลอด
ประวัติผู้สอน
ตรี-ออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
โท-จิตวิทยาการสื่อสาร & โฆษณา
ประสบการณ์ด้านการตลาด-โฆษณา-ผลิต 20 ปี
ผลงานผู้สอนคลิก : https://katoacademy.com/profile_kato

วัตถุประสงค์ของผู้สอนในการเปิดสอน ?
1. ต้องการผลัดดันผู้ที่เรียน หรือผู้ประกอบการ นำเครื่องมือต่างๆมา สร้างผลงานใหม่ๆ หรือสินค้าใหม่ๆ
2. เพื่อต้องการให้ผู้เรียนในแต่ละคอส ได้คิดนอกกรอบ มากกว่าสิ่งที่มีอยู่ในโปรแกรมที่สอน
3. เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาองค์กร ด้วยระบบความคิดที่เป็นกระบวนการ

#สอนเฟสบุ๊ค #สอนเฟสบุ๊คตัวต่อตัว #สอนการตลาดออนไลน์ #สอนถ่ายรูป #สอนโฟโต้ช๊อป