• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Chigaru

#11251


รอยเตอร์ - กัมพูชาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม ครอบคลุมครึ่งหนึ่งของประชากรแล้ว นับเป็นอัตราสูงสุดในเอเชีย ตามข้อมูลของทางการที่เผยแพร่วันนี้ (11) โดยการทูตวัคซีนมีส่วนสำคัญในความสำเร็จของประเทศ

กัมพูชา พันธมิตรของจีนและหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดของเอเชีย เริ่มฉีดวัคซีนด้วยวัคซีนที่ผลิตขึ้นในจีนในเดือน ก.พ. ขณะเดียวกันประเทศยังได้รับวัคซีนหลายล้านโดสจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอังกฤษ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวเมื่อวันอังคาร (10) ว่า กัมพูชาควรบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ประชากร 10 ล้านคน ได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้ราว 7-8 เดือน

จากประชากรในประเทศทั้งหมด 16 ล้านคน ปัจจุบันมีชาวเขมร 8.3 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และในจำนวนดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 6.4 ล้านคน

อัตรานี้ใกล้เคียงกับมาเลเซีย ที่ประชากรในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 49.4% แต่สูงกว่าไทยซึ่งอยู่ที่ 25% และเวียดนาม 12%

จีนได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กัมพูชาแล้ว 18.7 ล้านโดส ในจำนวนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่บริจาคให้ 3.2 ล้านโดส ตามการระบุของสถานทูตจีน

สหรัฐฯ ประกาศในสัปดาห์นี้ว่าจะให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่กัมพูชา 4 ล้านดอลลาร์ หลังบริจาควัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 1 ล้านโดส ผ่านโครงการโคแว็กซ์

"สหรัฐฯ จะยังคงบริจาควัคซีนเพิ่มเติมทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อวัคซีนมีมากพอ" โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุ

เซบาสเตียน สแตรนจิโอ นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า ไม่ว่าด้วยเจตนาหรือความบังเอิญ กัมพูชาทำได้ดีจากการแข่งขันระหว่างประเทศ

"กัมพูชาได้ประโยชน์จากการเป็นประเทศกำลังพัฒนาทำให้ประเทศเข้าถึงวัคซีนผ่านโครงการโคแว็กซ์ ผู้สังเกตการณ์ภายนอกจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐฯ จะไม่สงสัยในเรื่องของความก้าวหน้าด้านวัคซีนของกัมพูชาหากมองผ่านเลนส์ของความสัมพันธ์ใกล้ชิดของกัมพูชากับจีน และชัดเจนว่าการบริจาคของจีนคือคำอธิบายสำหรับความสำเร็จของประเทศ" สแตรนจิโอ กล่าว.
#11252


ถึงไทยแล้ว "VIRASPEC" ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองชนิดตรวจจากน้ำลาย ใช้ง่ายกับทุกเพศทุกวัย SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) นำเข้าจากสวีเดน คุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป พร้อมกระจายผ่าน Morhello (หมอฮัลโหล) แพลตฟอร์มเพื่อสุขภาพและการแพทย์ ทั่วประเทศ

ศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ (มหาชน) กล่าวว่า "บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) บริษัทชั้นแนวหน้าในวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวบริษัท JP WORLD MEDICAL เพื่อรองรับธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางด้านดูแลสุขภาพและการแพทย์ โดยขณะนี้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Thyrolytics AB จากประเทศสวีเดน ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายชุด Antigen rapid test kit ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย ชื่อ "VIRASPEC" SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองคุณภาพระดับมาตรฐานยุโรป โดยบริษัท JP WORLD MEDICAL ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Thyrolytics AB ประเทศสวีเดน ให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายถึง 16 ประเทศในแถบอาเซียน ได้แก่ ไทย เวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว พม่า มาเลเซีย กัมพูชา ออสเตรเลีย อินเดีย บังกลาเทศ ญี่ปุ่น ปากีสถาน และศรีลังกา



โดยได้รับการเปิดเผยจากบริษัทเจพีฯ ว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส "VIRASPEC" ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test Cassette (Saliva) ล็อตแรกจำนวน 1,000,000 ชุด ได้รับการจัดส่งถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมเร่งกระจายแก่ประชาชนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็ว หวังช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศลงได้ ซึ่งชุดตรวจแบบโฮมยูสนี้จะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าสู่กระบวนการแยกกักตัวตนเองจากครอบครัว และผู้ใกล้ชิดได้อย่างทันท่วงที ก่อนเข้ารับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ต่อไป

ศิริญากล่าวว่า ขณะนี้บริษัทณุศาศิริฯ เริ่มจากการเปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสุขภาพและการแพทย์ ชื่อ "MORHELLO" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จะเป็นศูนย์กลางในเรื่องสุขภาพและการแพทย์แบบครบวงจร ที่คุณจะสามารถเข้าถึงแพทย์ง่ายๆ ทางออนไลน์ เรายังเปิดบริษัท JP WORLD MEDICAL เพื่อรองรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์ โดยเราเปิดทั้งสองสิ่งนี้จุดประสงค์คือ เพื่อจะได้ร่วมดูแลสุขภาพคนไทยแบบครบวงจร



ขณะนี้บริษัท JP ของเราได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียน Rapid Antigen Test (ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองแบบโฮมยูส (Home Use) ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย จาก อย.ไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งชุด Rapid Antigen Test kit ชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายของ "VIRASPEC" นี้ เราได้นำเข้าจากประเทศสวีเดน เป็นชุดตรวจที่ได้รับมาตรฐานยุโรป มีข้อดีคือ สามารถใช้ได้ง่าย รวดเร็ว เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับเด็กซึ่งจะมีปัญหาในการตรวจหาเชื้อทางโพรงจมูก และยังมีความแม่นยำสูงมาก

โดยขณะนี้เราได้วางแผนการนำเข้าชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล็อตแรกที่จัดส่งถึงประเทศไทยแล้ววันนี้มีจำนวน 1,000,000 ชุด และล็อตที่สอง ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม อีก 500,000 ชุด โดยจัดจำหน่ายในราคาปลีกชิ้นละ 390 บาท (1 กล่อง / 1 ชิ้น) สำหรับให้แต่ละครอบครัวสามารถใช้ตรวจกันเองได้ ซึ่งเราจะเริ่มจัดจำหน่ายในประเทศภายในเดือนสิงหาคมนี้ ผ่านแพลตฟอร์ม Morhello ของเรา และโรงพยาบาลพานาซี

หากผู้สนใจอยากได้ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองชนิดตรวจหาเชื้อจากน้ำลายของ "VIRASPEC" สามารถสั่งซื้อเข้ามาได้ที่ https://morhello.com/home และ line : @PanaceeHospital เราจะส่งชุดตรวจนี้ไปถึงบ้านของท่านโดยไม่ต้องออกมาเสี่ยงการติดเชื้อนอกบ้าน ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้ใช้งานศึกษารายละเอียดการใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งที่กล่องชุดตรวจโควิด-19 แบบโฮมยูส จะมีฉลากภาษาไทยติดกำกับพร้อม QR Code สำหรับชมวิธีการใช้อย่างชัดเจน"
#11259


ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) ส่งเสียงแสดงความกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยหายาก ซึ่งที่ผ่านมาพบเห็นเฉพาะในภูมิอากาศเขตร้อนเท่านั้น โดยเฉพาะในเอเชียใต้และทางเหนือของออสเตรเลีย

เวลานี้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและคนไข้ 2 คนหายป่วยแล้ว หลังติดเชื้อเมลิออยโดสิส (Melioidosis) โรคทีไม่เคยตรวจพบมาก่อนบนแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ปัจจุบันพบเคสผู้ติดเชื้อเมลิออยโดสิส ในรัฐจอร์เจีย รัฐแคนซัส รัฐเทกซัสและรัฐมินนิโซตา ตามรายงานของ LiveScience หลังจากที่ผ่านมาเคยพบเคสผู้ติดเชื้อเมลิออยโดสิส ในหมู่เกาะเวอร์จินและเปอร์โตริโก ในแถบแคริบเบียนเท่านั้น

คนไข้ทั้ง 4 รายต่างอ้างว่าไม่ได้เดินทางออกไปนอกประเทศก่อนหน้าการล้มป่วย ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงกรกฏาคมที่ผ่านมา

ทางซีดีซีระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(9ส.ค.) เชื่อว่าต้นตอที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือมันมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์นำเข้า(อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ผลิตภัณฑ์ความสะอาด ยา) หรือปนเปื้อนในวัตถุดิบผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งที่กล่าวมา

คณะผู้ตรวจพบได้เก็บตัวอย่างดิน น้ำและข้าวของทั่วไปที่ใช้ทั้งในและรอบๆบ้านพักของคนไข้แต่ละคน มากกว่า 100 ตัวอย่าง เพื่อหาความเชื่อมโยงของทั้ง 4 เคส เบื้องต้นจนถึงตอนนี้ยังไม่พบต้นตอร่วม แต่ผลการถอดรหัสพันธุกรรมจีโนมของแบคทีเรีย พบว่ามีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 4 เคสมีความสัมพันธ์กับบางอย่าง

ในแต่ละปีจะพบเห็นเคสติดเชื้อเมลิออยโดสิสหลายสิบเคสในอเมริกันชน แต่เกือบทั้งหมดมักเกี่ยวข้องกับการเดินทาง และคราวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่แพทย์มองว่าอาการป่วยเมลิออยโดสิส ดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดภายในผืนแผ่นดินของสหรัฐฯ

โรคเมลิออยโดสิสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ Burkholderia pseudomallei มันใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะแสดงอาหารหลังติดเชื้อ อาการต่างๆเหล่านั้นประกอบด้วยไอ หายใจติดขัด อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้สูงเป็นครั้งคราวและมีผื่นขึ้นตามร่างกาย

เชื้อสามารถเข้าทางผิวหนังหรือปอด เช่น กรณีที่มีบาดแผล เชื้ออาจเข้าทางบาดแผลและติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ความดันโลหิตต่ำ ช็อค เป็นฝีในตับหรือในม้าม สามารถเสียชีวิตได้ภายใน 2-3 วัน หากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง นอกจากการติดเชื้อตามที่กล่าวมา ยังมีการติดเชื้อชนิดเรื้อรังอีกหนึ่งประเภทในโรคเมลิออยโดสิส

การวินิจฉัยโรคช้าเกินไปทำให้รักษาไม่ทันเวลา ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตตามมา เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การเกิดภาวะไตวาย หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ทำให้อวัยวะอื่นทำงานบกพร่องไป การได้รับยาไม่ถูกชนิดเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรงของโรคได้

ตัวเชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายทาง ได้แก่ ผ่านทางผิวหนัง เช่น หากมีบาดแผลและเดินบนดินหรือน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ผ่านทางลมหายใจ กรณีที่มีการฟุ้งของฝุ่นหรือดินที่มีเชื้ออยู่และสูดดมเข้าไป ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด จะส่งผลให้เกิดอาการปอดอักเสบ

ในคนดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคเมลิออยโดสิส หากสัมผัสไปโดนสารคัดหลั่งก็มีโอกาสติดเชื้อได้ รวมถึงผู้ที่ดูแลวัวหรือควายซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถป่วยเป็นโรคเมลิออโดสิสได้ มีความเสี่ยงเช่นกัน สำหรับเชื้อที่อยู่ในซากสัตว์ที่ตายไปแล้วและถูกฝัง เชื้อจะคงอยู่ในดินบริเวณนั้นและอยู่ตลอดไป หากมีการสัมผัสที่ดินบริเวณนั้นก็มีโอกาสได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

กลุ่มเสี่ยงจากการติดเชื้อ ประกอบด้วยผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับหรือไต โรคปอดเรื้อรัง มะเร็งหรืออาการอื่นๆที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

หนึ่งในเคสเมลิออยโดสิสในสหรัฐฯ ได้แก่ลีลาห์ เบเกอร์ เด็กหญิงวัย 4 ขวบ ในเทกซัส ทั้งนี้ไม่มีใครรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงใดๆตอนที่หนูน้อยก่อนวัยเรียนรายนี้ล้มป่วยในเดือนพฤษภาคม ลีลาห์ต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียูของศูนย์การแพทย์เด็กดัลลัสนานหลายเดือน ใช้เครื่องช่วยหายใจและท้ายที่สุดแล้วสมองก็ได้รับความเสียหาย

"เธอมีสุขภาพแข็งแกรง เป็นเด็กหญิงทั่วไปที่จะเริ่มเข้าสู่ชั้นเตรียมอนุบาลในฤดูใบไม้ร่วง ไม่เคยมีโรคประจำตัวมาก่อน" แอชลีย์ เคนนอน คุณป้าของเด็กเย "ดังนั้นทุกคนจึงประหลาดใจมาก ไม่รู้ว่าแบคทีเรียนั้นมาจากไหน"

(ที่มา:นิวยอร์กโพสต์)
#11260


วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2564 จะมีการส่งมอบศูนย์พักคอยเพื่อรอการส่งต่อโควิด เขตลาดพร้าว 2 ซึ่งเป็นการส่งมอบในนามโครงการ Save Thai Fight Covid ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคม วุฒิสภา บริษัทในเครือ RBS group

ศูนย์พักคอยเพื่อรอการส่งต่อเขตลาดพร้าว 2 มีเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ ทั้งหมด 176 เตียง แบ่งเป็นเตียงสําหรับผู้หญิง 88 เตียง และเตียงสําหรับผู้ชาย 87 เตียง

ทั้งนี้ ศูนย์พักคอยเพื่อรอการส่งต่อโควิด เขตลาดพร้าว 2 เป็นศูนย์พักคอยได้รับการช่วยเหลือด้านสถานที่จาก บริษัทในเครือ RBS group ซึ่งได้มีการนํานวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ มาสนับสนุนในด้านการสร้างระบบ เพื่ออํานวยความสะดวกให้กับทั้งผู้ป่วย และบุคคลากรทางการแพทย์ภายในศูนย์

ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ ผู้จัดทําโครงการจึงเชื่อว่าศูนย์พักคอยเพื่อรอการส่งต่อโควิด เขตลาดพร้าว 2 จะเป็นศูนย์พักคอยเพื่อการส่งต่อที่ดีที่สุดในประเทศ โดยวัดจากปัจจัยตามมาตรฐานสากล และ ระบบที่ใช้สําหรับการจัดการภายในศูนย์

จึงขอเรียนสื่อมวลชนร่วมทําข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม 2564 พิธีการส่งมอบเริ่มในเวลา 10.30 น. ผู้ป่วยคนแรกเดินทางเข้าศูนย์ในเวลา 13.00 น. ณ RBS Warehouse 8, 8.1, 8/2, 8/3, 8/4 ช.ประเสริฐมนูกิจ 29 (แยก 4) ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ติดต่อ : 0813558181 สรวง สิทธิสมาน ที่มประชาสัมพันธ์โครงการ Save Thai Fight Covid
#11262


"วัคซีน" ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ที่คนไทยให้ความสนใจ ทั้งการจัดหาวัคซีนยี่ห้อต่างๆ เมื่อได้วัคซีนมาแล้วการกระจายแจกจ่ายฉีดให้กับประชาชนมีการจัดสรรอย่างไร และการฉีดให้ประชาชนมีความรวดเร็ว ครอบคลุมแค่ไหน ส่วนการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าเกิดจากอะไร แม้กระทั่งประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนจากนานาประเทศเพื่อนำมาฉีดให้กับ "บุคลากรทางการแพทย์" ซึ่งเป็น "ด่านหน้า" กลับถูก "ทวงถาม" จากบุคคลเหล่านั้น 

การบริหารจัดการวัคซีนของภาครัฐที่ยังไม่ถูกใจประชาชนหลายภาคส่วน เกิดมีข้อกังขามากมาย ล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,503,450 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับมีกระแสข่าวการจับฉลากได้ฉีดวัคซีน จำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรคไม่สอดคล้องกับบุคลากร เป็นต้น  

ทั้งนี้  ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม​ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า ...

"โดนเทซ้ำซาก....ที่ธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ร่วมต่อสู้โควิด-19มาตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้วโดยประกาศจัดตั้งรพ.สนามเป็นแห่งแรกของประเทศ เราได้ร่วมต่อสู้มาทุกระลอก จนปัจจุบัน เรามีรพ.สนาม ที่ดูแลเคสสีเหลืองกว่า400เตียง ที่เตียงเต็มตลอด มีรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่ดูเคสสีแดงกว่า100 เตียงซึ่งเตียงก็เต็มตลอด เราตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนที่ฉีดวันละ2-3พันคนต่อวัน มียอดคนฉีดกับเราไปแล้วกว่า1แสนคน มีจัดตั้ง Home isolation ที่มีผู้ป่วยในการดูแลกว่า 1,000 คน

แต่ในวันนี้เราได้รับการจัดวัคซีนไฟเซอร์มาเพียง 60% ของที่ขอไป ทั้งที่ ยอดนี้ลดลงกว่าครึ่งในตอนแรกเพราะฉีดเข็ม3ด้วย Az ไปแล้วเพราะไม่เชื่อใจในการบริหารวัคซีนของรัฐบาล ทั้งที่เราส่งชื่อรายชื่อไปใหม่เป็นบุคลากรด่านหน้าที่จำเป็นต้องได้เท่านั้นตามข้อบ่งชี้ที่กระทรวงกำหนดซึ่งส่วนใหญ่คือแพทย์และพยาบาล......" 




พร้อมกันนี้ นักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยอย่าง "ปิติ ภิรมย์ภักดี" ผู้บริหารและทายาทของเครือบุญรอดบริวเวอรี่ หรือค่ายสิงห์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน ความว่า..

"ผมว่าจะไม่ลงละนะ แต่สงสารคนไทย

ศบค.พูดโคตรชัดว่าวัคซีนทำให้จำนวนคนตายลดลง

แล้วทำไมถึงเลื่อน ทำไมถึงฉีดไม่ได้ตามเป้า วัคซีนหายไปไหน รักกันมากๆหน่อยสิ

เตือนไว้ก่อนด่ามาจะด่ากลับ หมดความอนทนแล้วเหมือนกัน

ไม่ต้องชื่นชมหรือมาซื้อของบริษัทผม ผมแค่ทำหน้าที่คนไทยคนนึงที่อยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้น"

นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์ครั้งนี้เพื่อเสียสละเป็นกระบอกเสียงให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั่นเอง 


"ด่านหน้าต้องจับฉลากเพื่อจะได้ฉีด บางโรงพยาบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน ผมขอสละตัวเองเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าครับ และเมื่อผมเอาจริงคือเอาจริง"

อย่างไรก็ตาม ปิติ ได้ย้ำการโพสต์ข้อความดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือบุคคลอื่นในครอบครัวแต่อย่างใด 

"ผมมาจากครอบครัวใหญ่ครับ ทุกอย่างที่ผมเขียนหรือพูดไป ผมรับผิดชอบตัวเองได้ครับ ไม่เกี่ยวกับบริษัทหรือคนอื่นในครอบครัว"

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าว มีคนไลก์กว่า 1.7 หมื่นไลก์(Like) แสดงความคิดเห็น(Comment)กว่า 1,000 และแชร์โพสต์ไปแล้วกว่า 1,600 แชร์ (ณ เวลา 09.36 น.) โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยถึงความกล้าในการออกมาแสดงความคิดเห็นท่ามกลางช่วงวิกฤติโรคระบาด เพราะทุกฝ่ายต่างต้องการให้สถานการณ์ดีขึ้น และการบริหารจัดการวัคซีนดี มีประสิทธิภาพ