• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Cindy700

#3181


วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทย มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อลดลง จำนวนผู้ป่วยรักษาหายสูงกว่ารายใหม่ต่อเนื่อง วันนี้หายป่วย 18,262 ราย รายใหม่ 14,653 ราย เสียชีวิต 271 ราย ส่วนวัคซีนทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค และไฟเซอร์ วานนี้ ฉีดได้เพิ่มขึ้น 865,074 โดส รวมสะสม 34,292,537 โดส เป็นผู้ได้รับเข็ม 1 รวม 24,542,140 ราย คิดเป็นร้อยละ 34.1 ได้รับครบ 2 เข็ม 9,152,799 ราย คิดเป็นร้อยละ 12.7 และเข็มกระตุ้น 597,598 ราย

นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า จากการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา ทำให้วัคซีนทุกตัวที่ใช้ มีประสิทธิภาพลดลง จึงมีการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีนและกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อสู้กับสายพันธุ์เดลตา โดยการวิจัยของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ผลสอดคล้องกันว่า การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ทำให้ภูมิคุ้มกันสูงในเวลารวดเร็ว ต่อสู้กับสายพันธุ์เดลตาได้ ซึ่งหลายประเทศ เช่น เยอรมนี และอิตาลี ก็มีการฉีดสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้า ตามด้วยไฟเซอร์

สำหรับการฉีดไขว้ในประเทศไทยนั้น วันนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือ ศบค.สธ. ได้เห็นชอบการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ คือ 1. วัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ เป็นสูตรหลักของประเทศไทย และเพิ่มสูตรไขว้แอสตร้าเซนเนก้าตามด้วยไฟเซอร์ ระยะห่าง 4-12 สัปดาห์ ซึ่งสูตรนี้จะใช้แพร่หลายในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เนื่องจากจะมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ จำนวนมาก 2. การฉีดกระตุ้นในผู้ที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า และ 3. ผู้ที่หายป่วยโควิดในช่วง 1-3 เดือน ซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 2 เข็ม หรือครบ 2 เข็ม แต่ไม่ถึง 14 วันแล้วติดเชื้อ ให้ฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์ 1 เข็ม

นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในประเทศไทยตามความสมัครใจตามนโยบายรัฐบาลตั้งแต่ปี 2563 ได้ติดต่อกับบริษัทต่างๆ เพื่อสั่งจองซื้อวัคซีน ขณะนั้นยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ผลิตได้สำเร็จ การจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีการลงนามสัญญาจองซื้อตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่มีมีวัคซีนออกมา จึงไม่ได้กำหนดเวลาส่งมอบชัดเจน แต่มีการหารือมาเป็นระยะ และจากการที่โรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในประเทศไทย เมื่อผลิตสำเร็จจึงมีการส่งมอบให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกและได้รับอย่างต่อเนื่องตามที่ตกลงกัน โดยเดือนกันยายนนี้ส่งมอบอย่างน้อย 7.3 ล้านโดส ตุลาคม 10 ล้านโดส และพฤศจิกายน-ธันวาคมเดือนละ 13 ล้านโดส

ส่วนวัคซีนไฟเซอร์นั้น กรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ มีการติดต่อประสานงานพูดคุยกับตัวแทนของทางไฟเซอร์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง จนมีการลงนามในสัญญา 2 ฉบับ รวมวัคซีน 30 ล้านโดส ส่งมอบล็อตแรกปลายกันยายน 2 ล้านโดส ตุลาคม ประมาณ 8 ล้านโดส และพฤศจิกายน-ธันวาคม เดือนละ 10 ล้านโดส จนครบ และก่อนหน้านี้ ได้รับบริจาค 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐอเมริกาได้กระจายให้กลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งทำให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์จะเป็นวัคซีนที่มีมากที่สุดใน 3-4 เดือนข้างหน้า ทำให้เกิดความมั่นคงของวัคซีนที่มีเพียงพอและคนไทยเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง
#3182


สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ เตรียมจัดงานแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ต้นแบบการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ ในโครงการเพิ่มผลิตภาพกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้สัก ให้ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Production) ภายใต้โครงการเพิ่มมูลค่าเฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ไม้สักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ในวันที่ 6 กันยายน 2564 โรงแรมแพร่นครา อ.เมือง จ.แพร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ ปรับกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับอุตสาหกรรมในครัวเรือน และกลุ่มผู้ผลิตชุมชนให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแปรรูปรูปเศษวัสดุให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม

ภายในงานพบกับการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต้นแบบไม้สัก จากการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ที่ผู้ประกอบการในจังหวัดแพร่นำมาพัฒนา จำนวน 15 สถานประกอบการ จากการผ่านเข้าร่วมการอบรมเชิงลึกในการแปรูรูปเศษวัสดุเหลือใช้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีมูลค่าเพิ่มตลอดระยะเวลากว่า 5 เดือน โดยสามารถติดตามข่าวสารการจัดงานและรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวได้ที่  https://www.facebook.com/Industry.Phrae/ และ http://old.industry.go.th/phrae/
#3183


วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย แถลงข่าวประสิทธิผลการใช้ชุดตรวจ ATK ด้วยตนเอง

นพ.สุรโชค กล่าวว่า ประเทศไทยมีการใช้ชุดตรวจโควิด ATK ด้วยตนเองมากขึ้น นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงตั้งคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อก่อโรคโควิด 19 ATK เพื่อให้คำแนะนำในการกำหนดและนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน สำหรับการขึ้นทะเบียนชุดตรวจ บริษัทผู้ผลิต/นำเข้า ต้องส่งตัวอย่างไปประเมินทดสอบทางคลินิก ก่อนนำข้อมูลมายื่นให้ อย.และสภาเทคนิคการแพทย์ร่วมกันประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อออกใบอนุญาต ปัจจุบันมีชุดตรวจโควิดด้วยตนเองขึ้นทะเบียน 45 ราย สังเกตได้จากข้อความระบุว่า คัดกรองเบื้องต้น เมื่อผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด จะติดตามตรวจสอบคุณภาพ สถานที่เก็บผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย หากพบการโฆษณาเกินจริง หรือปัญหาคุณภาพชุดตรวจ ATK สามารถสอบถามหรือแจ้งข้อมูลที่สายด่วน 1556 เพื่อให้อย.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ศ.ดร.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกศึกษา พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองด้วย ATK คือ 1.ระยะเวลาการรับเชื้อ หากตรวจในช่วง 7 วันหลังรับเชื้อและเริ่มมีอาการ จะมีประสิทธิภาพสูงมาก 2.กระบวนการเก็บสิ่งส่งตรวจด้วยตนเองทั้งจากโพรงจมูกหรือน้ำลาย ต้องถูกต้อง โดยศึกษาได้จากคู่มือการใช้งานหรือวิดีโอสาธิต หรือได้รับการฝึกฝนการเก็บตัวอย่าง 3.ปริมาณเชื้อไวรัสในสิ่งส่งตรวจ ยิ่งมีเชื้อมากจะตรวจพบได้ง่าย ถ้าปริมาณน้อยอาจตรวจไม่พบ ทำให้เกิดผลลบปลอมได้ และ 4.คุณภาพน้ำยาในการตรวจ การเก็บรักษาและความคงทนของชุดตรวจ ทั้งนี้ อย.ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ กำกับดูแลชุดตรวจก่อนออกสู่ตลาด โดยจัดทำมาตรฐานการตรวจ (Standardized Protocol) เพื่อเปรียบเทียบอ้างอิงยืนยันผลทดสอบ และหลังออกตลาด จะมีการติดตามเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และข้อร้องเรียนต่างๆ โดยรวบรวมข้อมูลที่มีนัยสำคัญ เพื่อวางแผนสุ่มเก็บตัวอย่าง การตรวจประเมินประสิทธิภาพ และการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า ชุดตรวจมีการกำกับดูแลตรวจสอบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

ด้าน ผศ.นพ.กำธร กล่าวว่า ชุดตรวจ ATK เป็นการตรวจหาโปรตีนของไวรัส แตกต่างจากการตรวจแบบ RT-PCR ที่มีการขยายสารพันธุกรรมไวรัส ทำให้การตรวจด้วย ATK มีความไวน้อยกว่า RT-PCR แต่ปัจจุบันชุดตรวจ ATK อยู่ในระดับดี นำมาใช้ได้ทั่วไปได้ โดยต้องตรวจในจังหวะที่มีโอกาสเจอเชื้อได้มากที่สุด คือ ช่วงก่อนที่จะเริ่มมีอาการ 2 วัน จนถึงมีอาการแล้ว 4-7 วัน แต่ตรวจก่อนหรือหลังจากนี้โอกาสตรวจเจอเชื้อจะน้อยลง ส่วนคนที่ไม่มีอาการและไม่มีการสัมผัสโรค ผลตรวจที่ได้จะมีความน่าเชื่อถือต่ำ อาจเกิดผลบวกปลอม หรือผลลบปลอมกรณีไม่มีอาการแต่มีความเสี่ยง เนื่องจากเชื้อมีปริมาณน้อยจนยังตรวจไม่เจอ จึงต้องระมัดระวัง เนื่องจากหากชะล่าใจอาจแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้

"การใช้ชุดตรวจ ATK จะมีประโยชน์สูงสุด เมื่อตรวจผู้ที่มีประวัติเสี่ยงสัมผัสโรคและมีอาการ ส่วนการตรวจคัดกรองอาจใช้ในกรณีอยู่ในสถานที่เสี่ยงติดเชื้อสูง เช่น พื้นที่ปิด ร้านอาหาร ร้านตัดผม ชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น ตลาดนัด โรงงาน หรือลูกจ้างในสถานที่นั้นมีการติดเชื้อและมีโอกาสแพร่เชื้อสูง เช่น ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร คนทำงานภาคบริการ และคนทำงานที่สัมผัสผู้คนจำนวนมาก โรงเรียน สถานศึกษา โดยการตรวจต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ถ้าเสี่ยงมากตรวจ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะลดปัญหาผลลบปลอมในคนเสี่ยงสูง หรือหากยังเป็นผลลบติดต่อกันหลายครั้งและไม่มีอาการ ก็จะมั่นใจได้มากขึ้นว่าเป็นผลลบจริง" ผศ.นพ.กำธรกล่าว
#3184
 ทำไมข้าวออแกนิกถึงปลอดภัยกว่าข้าวธรรมดาที่ใช้สารเคมี
ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ (ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ) ถึงแพงกว่าข้าวธรรมดา     ข้าวอินทรีย์ไทยมีราคาแพง   การผลิตข้าวอินทรีย์(ออแกนิค)   ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างก็ให้ความสนใจกับการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น  อย่างยิ่งกับการเลือกซื้ออาหารที่ปลอดภัยซึ่งมีมากมายหลากหลายในปัจจุบัน  รวมถึงผลผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคทั้งหลายให้ความไว้วางใจ  แต่ก็ยังมีคำถาม ข้อสงสัย ติดอันดับยอดนิยมจากผูบริโภคว่า  "ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ถึงราคาแพงกว่า ทั่วไป ทั้งที่ข้าวในนาผลิตตามธรรมชาติ ไม่ต้องมีต้นทุนปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง"    ข้าวอินทรีย์ไทยมีราคาแพง  ข้อมูลจากเวปไซด์ขององค์กรการอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวถึงข้อเท็จจริงบางประการ ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิคที่เป็นเหตุผลของราคาผลผลิตและสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สูงกว่าเอาไว้  ดังนี้- ฟาร์มเกษตรอินทรีย์มีขนาดเล็ก ใช้แรงงานต่อหน่วยในการผลิตมากกว่าฟาร์มทั่วไป (สาเหตุหนึ่งที่ต้นทุนการผลิตสูง)
- ค่าใช้จ่ายในขบวนการหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรอินทรีย์  ข้าวออร์แกนิคแฟร์เทรด   สูงกว่าเพราะในการขนส่ง หรือแปรรูปจะต้องแยกออกจากผลผลิตทั่วไปอย่างชัดเจน
- ปริมาณของข้าวเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างน้อย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการกระจายสินค้าต่อหน่วยของ ข้าวสุขภาพ ออกสู่ตลาดนั้นสูงกว่าผลผลิตทั่วไป
- ข้าวเกษตรอินทรีย์ทำให้เกษตรกรได้รายได้ที่เป็นธรรมและพอเพียง
- ข้าวเกษตรอินทรีย์ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์  มีการจัดการมาตรฐาน คุ้มครองสัตว์เลี้ยงในฟาร์มได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
- และสุกท้ายที่สำคัญที่สุด ข้าวเกษตรอินทรีย์มีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้บริโภค
เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา  




ข้าวฮอร์ (HOR)  ข้าวสุรินทร์ ได้รับมาตรฐาน 
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้"  จากกรมการข้าว  จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   ในประเภทของ 
2.1  ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)  
2.2  ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)  
2.3  ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวเกษตรอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย   ข้าวเกษตรอินทรีย์
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : xn--12cbh7f2bxa6ba6b0a4lsdyb.net/
Facebook :   www.facebook.com/NewYearGifts.FarewellGifts
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ  ข้าวปลอดสารพิษสุรินทร์ ปลูกข้าวอินทรีย์ส่งทั่วไทย
1. ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรีย์
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5. ข้าวกล้องหอมมะลิแดงเพื่อสุขภาพ
6.  ข้าวสุขภาพมะลินิล
7. ข้าวไรซ์เบอรี่  กลุ่มข้าวกล้องหอมมะลิแดงอินทรีย์

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค  #ข้าวออแกนิก #ข้าวอินทรีย์ 
#ข้าววสุขภาพ  #ข้าวเกษตรอินทรีย์
 

 

 

 
 
#3185


"DDD" รุกเซ็นสัญญา ดึง "แคทรีโอนา เกรย์" (Catriona Gray) มิสยูนิเวอร์สปี 2018 เป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่แบรนด์ "สปาร์คเคิล" (Sparkle) ขยายตลาดฟิลิปปินส์เพิ่ม พร้อมวางเป้าติด Top 10 แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟันในประเทศฟิลิปปินส์ ในปี65

นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ "SNAILWHITE" เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ "สปาร์คเคิล" (Sparkle) หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครืออย่าง บริษัท  คิวรอน  จำกัด ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 ว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของผู้บริโภคมากขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ ขยายตลาด และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศ

ล่าสุด บริษัทฯได้เซ็นสัญญากับ "แคทรีโอนา เกรย์" (Catriona Gray) มิสยูนิเวอร์สปี 2018 จากประเทศฟิลิปปินส์ มาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ให้กับแบรนด์ "สปาร์คเคิล" (Sparkle) เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ และทำตลาดในประเทศฟิลิปปินส์มากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ "สปาร์คเคิล" (Sparkle) ที่จะเข้าทำตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ จะประกอบไปด้วยยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, น้ำยาบ้วนปาก และผลิตภัณฑ์ฟอกฟันขาว ที่ไม่ทำลายเคลือบฟัน ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์จะเป็น ช่องทางห้างสรรพสินค้า และออนไลน์เป็นหลัก 

สำหรับเหตุผลที่บริษัทฯเลือก "แคทรีโอนา เกรย์" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฟิลิปปินส์และอาเซียนในขณะนี้ อีกทั้งยังมีบุคลิกที่เปล่งประกาย และมีรอยยิ้มบนใบหน้าที่สวยงาม มียอดผู้ติดตามบนอินสตาแกรมสูงถึง 12.3 ล้านคน โดยเป้าหมายหลังจากที่เดินหน้าทำตลาดในประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการขยายตลาดผ่านช่องทางขายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ คาดว่าในปี2565  "สปาร์คเคิล" (Sparkle) จะที่ติด 1 ใน 10 ของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟันในประเทศฟิลิปปินส์
#3186


นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย (Zipmex) เปิดเผยว่า วานนี้ ( 31 ส.ค.) ซิปเม็กซ์ แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกาศการระดมทุนรอบ Series B   มูลค่า 1,300 ล้านบาท ร่วมมือกับบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน (CVC) ในเครือธนาคารกรุงศรีฯ  , บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) , บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) ,MindWorks Capital ซึ่งเป็นบริษัทจากฮ่องกง และ Jump Huay Capital ผู้บริหารเงินที่ร่วมลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำการระดมทุนรอบ Series A  และยังลงทุนต่อเนื่องในรอบนี้ 

โดยเงินทุนระดมครั้งนี้ นำมาใช้พัฒนาปรับปรุงระบบต่างๆให้ดีขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างต่อเนื่องจากเดิมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าต่อไป  

ล่าสุด บริษัทเตรียมพัฒนาการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลนำไปชำระสินค้า ในรูปแบบของบัตรคริปโตการ์ด เริ่มใช้แล้วในออสเตรเลียและสิงค์โปร ส่วนในไทยอยู่ระหว่างกาารหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)และริษัทสามารถให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยในรูปของเงินบาทได้ คาดว่าจะหารือกับทางกรุงศรีเพิ่มเติมต่อไป  รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์ม NFTs (Non-Fungible Token)ในต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

บริษัทตั้งเป้าหลังระดมทุนใหม่รอบนี้ คาดว่าจะผลักดันเข้าสู่บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ 330,000 ล้านบาทหรือเป็นบริษัทระดับยูนิคอร์น ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จากระดับ 33,000 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทเติบโตเร็วกว่าที่คาดมากและยังมีเงินระดมทุนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกในครั้งนี้ หลังจากบริษัทเปิดดำเนินการเมื่อกลางปี 2563หรือเพียง 1 ปีเท่าและในปีนี้คาดว่าทำกำไรได้แล้ว 

ปัจจุบัน ซิปเม็กซ์ มีผู้ลงทะเบียนใช้งานกว่า 1 ล้านบัญชี  คิดเป็นสัดส่วนของไทย 40%  ขณะที่มีปริมาณการซื้อขายสินทรััพย์ดิจิทัลทั้งสิ้นกว่า 140,000 ล้านบาท  คิดเป็นสัดส่วนของไทย  50%  และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 300,000 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ 


นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด ในเครือธนาคารกรุงศรีกล่าวว่า สาเหตุที่เลือกลงทุนในซิปเม็กซ์ เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งอยู่ต่างประเทศและไทยรวม 4 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 

ขณะเดียวกันกรุงศรีได้เข้าดูแลในด้านของระบบการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล การชำระเงิน โอนเงินให้กับ ซิปเม็กซ์ด้วย และยังจะพัฒนาทางด้านอื่นด้วยกันต่อไปในอนาคต อีกทั้งคาดว่า ซิปเม็กซ์มีโอกาสเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ใดที่หนึ่งได้เร็วกว่าสตาร์ทอัพปกติใช้เวลาราว 4-5ปี ทั้งนี้ ขึ้นกับโอกาสและความเหมาะสม

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัดในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.บลูบิค กรุ๊ป  กล่าวว่า คาดบลูบิค จะเปิดเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวน25 ล้านหุ้น ในกลางเดือนก.ย. 2564 และคาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ภายในเดือนก.ย.นี้ 
#3187


บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด จับมือเป็นพันธมิตร ภายใต้แคมเปญ "Together4More Possibility - ร่วมก่อ ต่อโอกาสให้ชีวิต" เพื่อนำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งและนวัตกรรมด้านการรักษา ซึ่งรวมถึงการรักษาโรคมะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด ที่ช่วยรักษาชีวิตและช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระหว่างการรักษาให้ดียิ่งขึ้น การร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ มุ่งหวังให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจถึงทางเลือกในการรักษาและมีโอกาสในการเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า เพื่อร่วมกันสรรสร้างความหวังที่มากกว่าวันพรุ่งนี้

ซิกน่าประกันภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันสุขภาพระดับโลก มุ่งหน้าสู่ความเป็นผู้นำด้วยการนำเสนอแผนประกันสุขภาพที่เข้าถึงได้ง่าย ในราคาที่เหมาะสม และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ในขณะที่ยังจัดหาข้อมูลทางด้านสุขภาพให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ หากลูกค้าเจ็บป่วยและต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาล ซิกน่ายังคงมุ่งเน้นสู่ความเป็นเลิศในการจัดหานวัตกรรมการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้า

นายธีรวุฒิ สุธนะเสรีพรประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำนวัตกรรมการรักษาใหม่ ๆ เข้ามาดูแลคนไทยร่วมกัน เพื่อที่จะหาแนวทางใหม่ๆ ในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้นในด้านการแสวงหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการรักษาโรค เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตและการตัดสินใจ ตลอดจนเพื่อลดความเสี่ยงทางด้านสุขภาพ โดยการผนึกกำลังร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของทั้งซิกน่าและเอ็มเอสดี เพื่อสร้างความหวังของการรักษาโรคร้ายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด เราสัญญาว่าเราจะเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างโอกาสและเปิดช่องทางใหม่ ๆ ในการนำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง และนวัตกรรมการรักษาให้แก่ลูกค้าต่อไป"

"ทั้งนี้ แผนประกันใหม่ของซิกน่า เกิดขึ้นจากการที่เราเรียนรู้ถึงพฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเราเล็งเห็นถึงจำนวนสถิติของผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งในประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี เราจึงต้องการยกระดับการรักษาโรคมะเร็ง ให้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย และมีประสิทธิภาพสูงสุด เราจึงนำนวัตกรรมยาภูมิคุ้มกันบำบัดเข้ามาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้า และคลายกังวลในด้านค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลได้อย่างครอบคลุม เนื่องจากการรักษาทางเลือกใหม่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้นลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่า หากโรคที่ไม่คาดฝันมาเยือน ซิกน่าจะดูแลคุณอย่างดีที่สุด ตลอดจนเรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ต่อไป เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกมิติอย่างแท้จริง" นายธีรวุฒิ กล่าวเสริม

สำหรับบริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ เมอร์ค แอนด์ คัมปะนี, อินคอร์ปอเรท ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีภาระกิจหลักตลอดเวลากว่า 130 ปี ในการทุ่มเททำงานวิจัยทางการแพทย์เพื่อพัฒนายาและวัคซีนใหม่ๆ ให้กับคนทั่วโลกและคนไทย ได้เข้าถึงนวัตกรรมในการป้องกันและรักษาโรคร้ายต่างๆ อันจะนำไปสู่การที่คนจะมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในประเทศไทย ยาของเอ็มเอสดี
ได้นำมาใช้รักษาโรคให้คนไทยมานานกว่า 70 ปี

ดร. แมรี เสรฐภักดีกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอสดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือและเข้ามาเป็นเป็นพันธมิตรกับ ซิกน่า ประกันภัย ในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เราได้นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ล่าสุด ที่เรามีความเชี่ยวชาญ มาเผยแพร่และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่สนใจ ร่วมกับซิกน่า เพราะในประเทศไทย โรคมะเร็งถือเป็นโรคที่เป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากที่สุด โดยในปี พ.ศ.2563 มีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยใหม่ว่าเป็นโรคมะเร็งจำนวนมากกว่า 190,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งจำนวนเกือบมากถึง 125,000 คน (อ้างอิงจาก Globocan) โดยเฉพาะในครั้งนี้ เราจะเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค แนวทางการรักษา รวมถึงการรักษาโรคมะเร็งด้วยนวัตกรรมล่าสุดแบบภูมิคุ้มกันบำบัด โดยหวังว่าข้อมูลความรู้จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย การมีความรู้เปรียบเสมือนสร้างภูมิเพื่อป้องกันโรคมะเร็ง และหากจำเป็นต้องเผชิญกับโรคร้ายจะได้นำความรู้เหล่านั้นมาช่วยในการตัดสินใจในการวางแผนการรักษา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการอยู่รอดของผู้ป่วยมะเร็งในระหว่างการรักษาให้ดีขึ้น เราเชื่อว่าหากเราทำงานร่วมกัน เราจะสามารถช่วยให้คนไทยมีโอกาสได้รับผลลัพธ์ในการรักษาโรคมะเร็งที่ดีขึ้นเพื่อร่วมกันสรรสร้างความหวังที่มากกว่าวันพรุ่งนี้ให้กับคนไทยทุกคนได้"

"ในฐานะที่ เอ็มเอสดี เป็นผู้ที่ทำงานวิจัยและมีประสบการณในการพัฒนาและผลิตยาและวัคซีนใหม่ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ทำให้ความรู้และความเข้าใจที่ซับซ้อนเกี่ยวกับโรคมะเร็งของเราจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้เราสามารถค้นพบโมเลกุลใหม่และพัฒนารูปแบบและวิวัฒนาการการรักษาใหม่ได้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นและพัฒนาและนำนวัตกรรมการรักษามาสู่ป่วยโรคมะเร็งนวัตกรรมการรักษาและป้องกันโรคเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยอย่างต่อเนื่อง ซึงนอกเหนือจากองค์ความรู้ในนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับมะเร็งประเภทต่างๆ และความก้าวหน้าของการรักษาโรคมะเร็งให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ เพื่อพิจารณาใช้ในการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพในประเทศไทย ความมุ่งมั่นของเราไม่เพียงแต่จำกัดอยู่ที่การช่วยมนุษยชาติต่อสู้กับการรักษาโรคมะเร็งเท่านั้น เรายังค้นคว้าวิจัยและพัฒนาวัคซีนเพื่อการป้องกันโรคมะเร็งอีกด้วย อาทิ วัคซีน HPV เพื่อช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกในเด็กและสุภาพสตรี และยังสามารถช่วยป้องกันสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งจากไวรัส HPV ในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งศีรษะและลำคอ และมะเร็งในช่องปากอีกด้วย" ดร. แมรี กล่าวเสริม

ความร่วมมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ซิกน่าประกันภัย และ เอ็มเอสดี มีความมุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำในการให้ข้อมูลความรู้ล่าสุดที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับโรคมะเร็งและการรักษาต่างๆ ซึ่งรวมถึงการรักษาโรคมะเร็งด้วยนวัตกรรมล่าสุดแบบภูมิคุ้มกันบำบัด ภายใต้แคมเปญ "Together4More Possibility - ร่วมก่อ ต่อโอกาสให้ชีวิต" มุ่งหวังให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจในทางเลือกการรักษาและมีโอกาสในการเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งกว่า เพื่อร่วมสร้างความหวังที่มากกว่าวันพรุ่งนี้ให้กับคนไทย

#CignaxMSD #TogetherMorePossibility #ร่วมก่อต่อโอกาสให้ชีวิต #Immunotherapy
#MoreHopefulTomorrow#InnovativeCancerTreatment #ความหวังที่มากกว่าวันพรุ่งนี้

เกี่ยวกับบริษัท ซิกน่าประกันภัย ประเทศไทย
ซิกน่า ประเทศไทย เป็นบริษัทในเครือของซิกน่า บริษัทประกันสุขภาพระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีลูกค้ากว่า 180 ล้านคนทั่วโลก ซิกน่าเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2545 โดยดำเนินธุรกิจเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเสนอประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันสุขภาพผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้งและการตลาดทางตรงในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของซิกน่าประเทศไทยคือแผนประกันสุขภาพ แผนประกันอุบัติเหตุ และ แผนประกันการเดินทางที่เป็นนวัตกรรมเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้ารายบุคคลรวมถึงบุคคลในครอบครัวอันเป็นที่รัก สามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิกน่าประเทศไทยได้ที่ www.Cigna.co.th

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพของซิกน่าประกันภัย
ผู้ที่สนใจซื้อแผนประกันความคุ้มครองซิกน่า ซีเล็คแคร์ อิมมูโนเทอราพี (ภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3kdGn8C หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: CignaThailand หรือ โทร 02 035 2929 (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลาทำการ 9:30 – 18:00 น.)

เกี่ยวกับบริษัท เอ็มเอสดี
บริษัท เอ็มเอสดี (MSD) หรือที่มีชื่อเต็มว่า เมอร์ค แอนด์ คัมปานี, อินคอร์ปอเรท (Merck & Co. Inc.)
มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Kenilworth มลรัฐ New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะรู้จักเป็นการทั่วไปในชื่อ เมอร์ค (Merck) ในประเทศสหรัฐฯ และประเทศแคนาดาเท่านั้น นอกเหนือจากสองประเทศนี้ จะใช้ชื่อ เอ็มเอสดี (MSD) รวมถึงในประเทศไทยด้วย

กว่า 130 ปี เอ็มเอสดี ได้ประดิษฐ์ พัฒนา และผลิตยาและวัคซีน เพื่อรักษาโรคที่มีความท้าทายเป็นจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายในการรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เราได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีให้ต่อผู้ป่วยเอง และต่อประชาสังคม โดยการพัฒนาการเข้าถึงการดูแลสุขภาพด้วยนโยบายที่แผ่ขยายออกไป

ผ่านโปรแกรม และพันธมิตรต่าง ๆ ในวันนี้ เอ็มเอสดี ยังคงมุ่งมั่นเป็นแนวหน้าในการวิจัยพัฒนาเพื่อหาทางรักษาและป้องกันโรคที่คุกคามมนุษยชาติ รวมทั้งมะเร็ง โรคติดเชื้อชนิดต่าง ๆ เช่น HIV และ Ebola

ดั่งปณิธานของเราในการเป็นบริษัท วิจัย พัฒนา ชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำของโลก ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวได้ที่ เว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.msd.com หรือ www.facebook.com/MSDinTH
#3188


นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดดีลคว้าตัว ซานติอาโก มูญอซ หัวหอกดาวรุ่งชาวเม็กซิกัน มาร่วมทัพ ซึ่งกลายเป็นที่ฮือฮาเนื่องจากชื่อของนักเตะละม้ายคล้ายคลึงกับ ซานติอาโก มูเญซ ในภาพยนต์เรื่อง Goal!

แข้งวัย 19 ปี เกิดในเมืองเอล ปาโซ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งบ้านเกิดของเขามีชายแดนที่ติดกับประเทศเม็กซิโก แต่เจ้าตัวเริ่มต้นอาชีพนักฟุต.กับทีมซานโตส ลากูน่า ยักษ์ใหญ่ในลีกแดนจังโก้ และมีชื่อติดทีมชาติเม็กซิโก รุ่นอายุไม่เกิน 17 และ 23 ปี ไปแล้ว

โดย 'สาลิกาดง' ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ ซานติอาโก มูญอซ ในรูปแบบของสัญญายืมตัวยาว 18 เดือน พ่วงอ็อปชั่นซื้อขาด ทั้งนี้่เจ้าตัวจะต้องมาลงเล่นให้กับทีมอะคาเดมีของ นิวคาสเซิล เสียก่อน และค่อยลุ้นไต่เต้าขึ้นทีมชุดใหญ่อีกครั้ง

การย้ายทีมในครั้งนี้ของ ซานติอาโก มูญอซ เรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นอย่างมาก เนื่องจากชื่อของเขาดันไปคล้ายคลึงกับ ซานติอาโก มูเญซ ตัวละครเอกในภาพยนต์เรื่อง Goal! ซึ่งในเรื่องนั้น มูเญซ เป็นชาวเม็กซิกัน และได้ทำตามความฝันคือการได้มาเล่นฟุต.อาชีพกับ นิวคาสเซิล ที่เกาะอังกฤษ

สำหรับ ซานติอาโก มูญอซ ทำผลงานได้น่าประทับใจให้กับซานโตส ลากูน่า เขามีชื่อลงเล่นทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปี เคยช่วยทีมจังโก้คว้าแชมป์คอนคาเคฟ ยู-17 ด้วยการซัดไปถึง 5 ประตูในทัวร์นาเมนต์ และยังเป็นหนึ่งในขุนพลเม็กซิโก ยู-17 ที่คว้ารองแชมป์โลกเมื่อปี 2019 อีกด้วย
#3189


ภาพจาก AFP
คอลัมน์ "เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น" โดย "ซาระซัง"

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ในขณะที่คนมากมายทั่วโลกต้องการวัคซีนเหลือเกิน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ลังเลหรือปฏิเสธวัคซีน ทำให้ความหวังที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เป็นไปได้ยากขึ้น สัปดาห์นี้เรามาดูกันว่าอะไรทำให้คนญี่ปุ่นและคนอเมริกันบางกลุ่มไม่ยอมฉีดวัคซีน และการเลือกเสรีภาพที่จะไม่ฉีดวัคซีนของคนอเมริกันนำมาซึ่งราคาที่ต้องจ่ายอย่างไรบ้าง

กลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน

หนึ่งในเหตุผลที่คนกังวลเกี่ยวกับวัคซีนมากที่สุด ดูเหมือนจะเป็นเรื่องผลข้างเคียงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น คนญี่ปุ่นจะกลัวว่าฉีดแล้วอาจเป็นภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันแบบบางคนที่เห็นในข่าว (ซึ่งที่จริงอาการนี้สามารถเกิดจากการแพ้ยา อาหาร และแมลงสัตว์กัดต่อยได้ด้วย ไม่ใช่จากวัคซีนโควิดเท่านั้น) หรือกลัวว่าอีก 10-20 ปีผลข้างเคียงอาจจะเริ่มส่งผลแบบที่บางคนเจอจากวัคซีนบางตัวในอดีตที่ผ่านมา

นอกจากนี้การพัฒนาวัคซีนโควิดภายในเวลาอันสั้น อีกทั้งวัคซีนที่ใช้ในญี่ปุ่นและอเมริกาส่วนใหญ่เป็นวัคซีน mRNA ซึ่งนำมาใช้กับมนุษย์เป็นครั้งแรก และยังไม่แน่ว่าจะส่งผลต่อร่างกายในระยะยาวอย่างไรบ้าง จึงทำให้คนรู้สึกว่าฉีดวัคซีนเสี่ยงอันตรายกว่าเสี่ยงรับเชื้อโควิดเลยไม่อยากฉีด

ไม่เข้าใจการทำงานของวัคซีน

คนจำนวนหนึ่งเข้าใจผิดว่าเมื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคใดแล้วจะไม่เป็นโรคนั้น เช่น คิดว่าถ้าฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วก็จะไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ หรือฉีดวัคซีนโควิดแล้วจะไม่ติดโควิด ทำให้บางคนคิดว่าถ้าฉีดวัคซีนแล้วยังติดโรคได้อีกจะฉีดไปทำไม หรือบางคนก็คิดว่าขนาดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่เคยฉีดก็ยังไม่เคยติดไข้หวัดใหญ่เลย จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องฉีดป้องกันโควิดก็ได้

แต่ในความเป็นจริงวัคซีนโควิดไม่ได้ป้องกันโควิดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา จากที่อาจร่อแร่เสี่ยงตายเมื่อติดโควิดก็อาจจะอาการไม่หนักมากนัก อย่างญี่ปุ่นเองก็พบผู้ติดโควิดจำนวนหนึ่งหลังฉีดวัคซีนครบโดสในช่วงเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ไม่มีคนที่อาการหนักเลย ส่วนอเมริกาพบผู้ติดเชื้อปะทุในรัฐที่อัตราการฉีดวัคซีนต่ำ คนที่ต้องเข้าห้องฉุกเฉินเกือบหมดคือคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน สิ่งเหล่านี้จึงพอบ่งบอกได้ว่าการฉีดวัคซีนน่าจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้จริง

ข้อมูลลวงโลก

ที่ญี่ปุ่นมีข่าวแพร่สะพัดไปในสื่อสังคมออนไลน์มากมาย อาทิเช่น วัคซีนโควิดจะเปลี่ยนดีเอ็นเอบ้าง ทำให้เป็นหมันบ้าง มีไมโครชิปฝังอยู่บ้าง หรือทำให้ร่างกายมีสภาพเหมือนแม่เหล็กบ้าง เชื่อกันว่าญี่ปุ่นรับข้อมูลเหล่านี้มาจากทางอเมริกาซึ่งมีข่าวลวงลักษณะเดียวกันเป๊ะ และยังมีข้อมูลเท็จอื่น ๆ อีกจำนวนมากทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา

ข้อมูลเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเลือกไม่ฉีดวัคซีนของประชาชน เชื่อว่าตัวเองจะไม่ติดหรือติดก็อาการไม่หนัก คนหนุ่มสาวส่วนหนึ่งเห็นว่าคนวัยเดียวกับตนที่ติดโควิดแล้วอาการหนักมีน้อย จึงชะล่าใจว่าตนเองไม่เป็นไร แค่สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เช็ดแอลกอฮอล์ ก็พอแล้ว 

บางคนก็คิดว่าไม่อยากรับสารเคมีอะไรเข้าร่างกาย อยากใช้วิถีธรรมชาติบำบัด กินอาหารมีประโยชน์ ให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ก็คงไม่ติดโควิดเอง หรือบางคนแม้จะเห็นข่าวว่าผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่เห็นคนใกล้ตัวติดโควิดขึ้นมา ก็ไม่ค่อยรู้สึกว่าวันหนึ่งตัวเองอาจติดโควิดได้

อีกอย่างที่สำคัญคือ คนประเมินคำว่า "อาการน้อย" กับ "อาการรุนแรง" ต่ำไป ต่อให้มีอาการน้อย คนที่เคยเป็นแล้วก็บอกว่า
"เป็นสภาพที่ทรมานที่สุดในชีวิต" ส่วนอาการรุนแรงหมายถึง "สภาพที่เสี่ยงต่อความเป็นความตาย"

อาจารย์หมอชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งกล่าวว่าจำเป็นต้องให้คนเข้าใจชัดเจนว่าเราฉีดวัคซีนกันไปเพื่ออะไร และต้องให้คนหนุ่มสาวเห็นข้อดีของการฉีดวัคซีนครอบคลุมในวงกว้าง เช่น มาตรการต่าง ๆ จะผ่อนคลายลง สามารถไปดื่มกินตามร้านอาหารได้ ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญเองก็ต้องวางแผนผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ไปตามอัตราการฉีดวัคซีนด้วย

หายนะที่มาพร้อมเสรีภาพในการไม่ฉีดวัคซีนของคนอเมริกัน

การประท้วงเรียกร้องเสรีภาพที่จะไม่ฉีดวัคซีนเกิดขึ้นหลายแห่งในสหรัฐฯ โดยมองว่าการให้ฉีดวัคซีนหรือบังคับสวมหน้ากากอนามัยเป็นการริดรอนเสรีภาพและเป็นเผด็จการ อีกทั้งผู้นำทางการเมืองในรัฐที่ผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้น ๆ ก็ให้การส่งเสริมสิทธิเสรีภาพที่สวนกระแสกับนโยบายด้านสาธารณสุขเช่นนี้

บางรัฐที่ผู้ติดเชื้อสูงอันดับต้น ๆ อย่างฟลอริดา ถึงกับห้ามโรงเรียนบังคับสวมหน้ากากอนามัย และยังขู่จะตัดงบโรงเรียนซึ่งไม่ยอมทำตามอีกด้วย


น่าเศร้าที่คนอเมริกันส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธวัคซีนหรือยังลังเลที่จะฉีด บัดนี้กำลังเผชิญกับราคาที่ต้องจ่ายเมื่อตนเองหรือคนในครอบครัวติดโควิดขึ้นมาจากการไม่ฉีดวัคซีน อีกทั้งการระบาดก็ทวีขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ จนศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ​ ฯ ถึงกับขนานนามการระบาดครั้งล่าสุดว่าเป็น "การระบาดของกลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน" เลยทีเดียว

ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการติดโควิดให้สัมภาษณ์สื่อว่า เธอมัวแต่เชื่อข่าวลือว่ารัฐบาลจะเอาอะไรก็ไม่รู้มาฝังในร่างกายประชาชน หรือไม่ก็คิดว่าวัคซีนนี้ยังมีการศึกษาไม่มากพอ เลยไม่ยอมไปฉีดวัคซีน พอเธอติดโควิดและทรมานจากการที่ร่างกายเหลือออกซิเจนเพียง 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ ก็ได้คิดว่าตัวเองโง่ที่ไม่ยอมฉีด เพราะถ้าฉีดแล้วเธอก็คงไม่ต้องทรมานอย่างนั้น แล้วครอบครัวก็ไม่ต้องทุกข์ไปกับเธอด้วย แม้ตอนนี้จะรอดตาย แต่เธอยังคงต้องใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่บ้าน จะเดินไปไหนมาไหนหรืออาบน้ำต้องให้ลูกคอยช่วยเหลือ เธอคนนี้ตั้งใจจะไปฉีดวัคซีน และจะให้ทุกคนในบ้านฉีดด้วย


บางคนไม่ถึงขนาดคิดว่าจะไม่ฉีดวัคซีน เพียงแต่ยังหาเวลาไปฉีดไม่ได้ หรือกลัวว่าถ้าฉีดแล้วไข้ขึ้นหรือปวดแขนขึ้นมาก็ทำให้ต้องลางาน หรือบางคนก็รอดูสถานการณ์ก่อนว่าคนอื่นไปฉีดแล้วปลอดภัยไหม ปรากฏว่าติดโควิดเสียก่อน คุณหมอซึ่งอยู่ในรัฐที่มีผู้ติดโควิดอันดับต้น ๆ ของอเมริกาบอกว่า ได้ยินมาเยอะแล้วที่พอคนไข้มาถึงมือหมอ ก็บ่นเสียใจที่ตัวเองไม่ยอมฉีดวัคซีนแต่เนิ่น ๆ

ในขณะเดียวกันก็มีคนที่ป่วยมาโรงพยาบาล พอหมอแจ้งว่าติดโควิดก็หาว่าหมอโกหก และบางคนแม้จะอาการหนักอยู่โรงพยาบาลก็ยังบอกว่าจะไม่ฉีดวัคซีนอยู่ดี เพราะไม่รู้ว่าวัคซีนปลอดภัยจริงไหม จะเปลี่ยนดีเอ็นเอหรือทำให้เป็นหมันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ บ้างก็ไม่เชื่อในประสิทธิภาพของวัคซีนว่าจะป้องกันโควิดได้

คุณหมอท่านหนึ่งพูดว่า "ผมหงุดหงิดที่เรามาถึงจุดที่เราให้ค่ากับข่าวลือผิด ๆ ทัดเทียมกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ มันไม่เท่ากันสักหน่อย...และเราก็แพ้ในการสู้รบกับข้อมูลเท็จพวกนี้" ในขณะที่พยาบาลคนหนึ่งบอกว่า "คนเชื่อข้อมูลที่ส่งต่อกันทางโซเชียลง่ายมาก ทั้ง ๆ ที่คนให้ข้อมูลเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์อะไรเลย" หมออีกคนกล่าวว่า "ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่หมอพบว่าวัคซีนเป็นสิ่งที่ใคร ๆ พากันเยาะเย้ยเหยียดหยาม"


ทุกวันนี้การไม่ฉีดวัคซีนของคนกลุ่มหนึ่งกำลังสร้างหายนะให้คนอเมริกันทั้งประเทศ ยิ่งในรัฐที่อัตราคนฉีดวัคซีนน้อย หมอและพยาบาลก็ยิ่งต้องรับมือกับผู้ป่วยโควิดล้นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำงานแทบไม่ได้หยุด ทั้งเครียด ทั้งสงสารคนป่วยและครอบครัว ส่วนผู้ป่วยโรคอื่น ๆ ก็ไม่สามารถรับการรักษาหรือผ่าตัดที่โรงพยาบาลได้เพราะเตียงล้นไปด้วยผู้ป่วยโควิด อีกทั้งหมอพยาบาลก็ไม่เพียงพอ สาธารณชนพากันตั้งคำถามว่าในเมื่อบางคนเลือกจะไม่ฉีด ไม่เชื่อวิทยาศาสตร์การแพทย์ พอติดโควิดขึ้นมาทำไมจึงมาพึ่งการแพทย์ที่พวกเขาดูถูก ทำให้คนมากมายต้องเดือดร้อนเช่นนี้

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐ ฯ ทำการสำรวจครั้งใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าการระบาดของโควิดทำให้บุคลากรทางการแพทย์เกินครึ่งหนึ่งมีํปัญหาสุขภาพจิตรุนแรง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานนานหลายชั่วโมงและไม่สามารถหาเวลาพักผ่อนได้ อาการเหล่านี้ได้แก่ ความเครียด ความกังวล ความคิดฆ่าตัวตาย และโรคเครียดหลังเหตุการณ์ร้ายแรง

เมื่อต้นสัปดาห์ที่อเมริกาได้เผยแพร่คลิปวีดีโอสั้นชื่อ "Dying in the Name of Vaccine Freedom" (ตายในนามของเสรีภาพเรื่องวัคซีน) โดยสัมภาษณ์คนในเมืองที่มีอัตราฉีดวัคซีนต่ำมาก รวมถึงคนที่อยู่บนเตียงโรงพยาบาลเพราะติดโควิดโดยไม่ได้ฉีดวัคซีนด้วย ฉันรู้สึกโดนใจที่เขาบอกว่า "เสรีภาพของคนคนหนึ่งอาจนำมาซึ่งความตายของอีกคนหนึ่ง" อยากให้ลองดูกันค่ะ เป็นสารคดีสั้น ๆ ที่สื่อสารได้ดียิ่งว่าเสรีภาพเรื่องวัคซีนนำมาซึ่งอะไรบ้าง และทางออกจะอยู่ที่ใด
#3190


 จากข้อมูลวิจัยบริษัทไนท์แฟรงค์ประเทศไทย เผยว่า ตลาดคอนโดช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลัง 2563  ผลกระทบของโควิด-19 ยังคงแผ่ขยายอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกของปี 2564  ตลอดจนการติดเชื้อที่แพร่ระบาดจากคลื่นลูกใหม่ของโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้กำลังซื้อคอนโดมิเนียมจากผู้ซื้อชาวไทยยังคงลดลงและกำลังซื้อจากชาวต่างชาติยังคงไม่กลับมา 
ผู้พัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ต้องเลื่อนหรือชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เป็นไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ขณะที่หันมาเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเพื่อรองรับกลุ่มผู้ซื้อที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย


• อุปทานสะสมของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 652,081 หน่วย  ช่วงครึ่งปีแรก 2564  โดยมี 6,293 หน่วย ที่มาจาก 20 โครงการที่เปิดตัวในครึ่งปีแรก 2564  โดยอุปทานใหม่ในครึ่งปีแรก 2564 ลดลง 38.7% เมื่อเทียบกับอุปทานใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563

• จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในเขตชานเมืองกรุงเทพฯ คิดเป็น 66% ของอุปทานใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวในครึ่งแรกของปี 2564 ขณะที่พื้นที่รอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) คิดเป็น 29% และพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจคิดเป็น 5%

• จากจำนวน 6,293 หน่วยของอุปทานใหม่ มีเพียง 2,333 หน่วยที่ขายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ คิดเป็นอัตราการขายที่ 37.1% ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการขายที่เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 • ราคาเสนอขายคอนโดมิเนียมย่านศูนย์กลางธุรกิจอยู่ที่ 240,609 บาทต่อตร.ม. ลดลง 4.3% จากครึ่งปีหลัง 2563 คอนโดมิเนียมย่านรอบนอกศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) อยู่ที่ 116,225 บาทต่อตร.ม. ลดลง 5.9 % จากครึ่งปีหลัง 2563  และคอนโดมิเนียมย่านชานเมืองกรุงเทพฯ อยู่ที่ 64,390 บาทต่อตร.ม. ลดลง 6.6% จากครึ่งปีหลัง 2563 


ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้หันไปเน้นการพัฒนาตลาดแนวราบสำหรับบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ แม้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯจะมีผลประกอบการที่ลดลงอย่างรวดเร็ว แนวโน้มการทำงานจากที่บ้าน (work from home) ได้รับแรงผลักดันจากความจำเป็นที่เกิดขึ้น  โควิด-19 ได้เปลี่ยนความคาดหวังของผู้ซื้อมาเป็นความต้องการบ้านขนาดใหญ่หรือมีจำนวนห้องเพิ่มเพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำงาน ซึ่งยังช่วยผลักดันให้เกิดความความต้องการบ้านในพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งมีราคาถูกกว่า


• ตลาดบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปถือเป็นตลาดบ้านระดับลักชัวรี ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างเล็กและมีความต้องการจำกัด

• ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินสำหรับบ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีทั้งสิ้น 578 หน่วย

• มีโครงการบ้านจัดสรรพร้อมขายจำนวน 224 โครงการ โครงการเหล่านี้มีหน่วยทั้งหมดรวมกัน 20,018 หน่วย โดยขายได้แล้วที่ประมาณ 13,276 หน่วย จาก 20,018 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ 66%

 • หากจำแนกตามระดับราคา พบว่าบ้านที่มีความต้องการสูงที่สุดมีราคาขายระหว่าง 10 ถึง 20 ล้านบาท โดยมียอดขายสะสม 7,218 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ 61% ส่วนบ้านราคาขายระหว่าง 21 ถึง 30 ล้านบาท และ 31 ถึง 40 ล้านบาท มีความต้องการอยู่ที่ 2,612 หน่วย และ 1,871 หน่วย ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการขายที่ 77% และ 73% ตามลำดับ 

• หน่วยขายได้ใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีจำนวน 1,610 หน่วย แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนหน่วยขายใหม่ที่ขายได้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่มีจำนวนหน่วยใหม่ที่ขายได้เฉลี่ยเพียง 2,500 หน่วยต่อปีเท่านั้น
#3191


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ภายใต้นโยบาย "MTL Trusted Lifetime Partner" และด้วยสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมดูแลลูกค้าคนสำคัญ เพื่อให้สามารถผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน

โดยบริษัทฯ ขอมอบความอุ่นใจสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยความคุ้มครองการรักษาผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา 337 แห่ง รวมถึงหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ที่เครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา เปิดให้บริการ และโรงพยาบาลสนาม (Field Hospital) ตามเกณฑ์การส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทางและได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยให้คุ้มครองกรณีการเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ตามผลประโยชน์ความคุ้มครอง ทั้งประกันสุขภาพรายบุคคลและรายกลุ่ม ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

สำหรับผู้ป่วยโรคทั่วไป บริษัทฯ ยังได้จัดเตรียมทีมงาน "MTL Health Buddy" ซึ่งเป็นบริการผู้ช่วยด้านสุขภาพครบวงจร สิทธิพิเศษที่มอบให้เฉพาะลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ที่พร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ ค้นหาศูนย์แพทย์เฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค ทำการ นัดหมาย ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสิทธิพิเศษแบบเหนือระดับอีกมากมาย เพียงโทรเข้ามาที่ 02-290-2424 จากนั้นแจ้งข้อมูลและความต้องการใช้บริการหรือข้อมูลด้านสุขภาพที่ต้องการแก่ MTL Health Buddy ได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มี Hospitel ให้บริการ ได้ที่ www.muangthai.co.th หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญาได้โดยตรง

หมายเหตุ:
- การพิจารณาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และ Hospitel เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และได้รับการประเมินอาการโดยสถานพยาบาลต้นทางแต่ละแห่ง
- เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
#3192


ใครที่เป็นสาย 'แซ่บ' ห้ามพลาดร้านนี้ "ระฆังทอง น้ำปลาหวาน" ของขึ้นชื่อตลาดโต้รุ่งนครปฐม ที่ต่อคิวยาวรอซื้อกันเลยทีเดียว และพลาดไม่ได้กับสถานที่เช็คอิน กิน เที่ยว ถ่ายรูป ใน จ.นครปฐม ที่มาถึงแล้วไม่ควรพลาด คลายล็อกดาวน์เมื่อไหร่ต้องไปในทันที



อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อที่ใครมา จ.นครปฐม ต้องไปซื้อทานให้ได้ต้องร้านนี้ "ระฆังทอง น้ำปลาหวาน" เจ้าของ คือ คุณมยุรฉัตร แพร่อ่ำภา (คุณยุ) เล่าถึงธุรกิจร้านน้ำปลาหวานว่า ตนเริ่มจากร้านขายฝรั่ง และมะม่วงน้ำปลาหวานเพื่อหารายได้ระหว่างเรียน ซึ่งสูตรน้ำปลาหวานได้มาจากทางครอบครัวของสามี ตั้งโต๊ะเล็กๆ ขาย จนมะม่วงน้ำปลาหวานเริ่มขายดีจึงหันมาขายแต่มะม่วงน้ำปลาหวานอย่างเดียว และพัฒนามาเป็นรถ food truck จนปัจจุบันขายมาแล้วกว่า 10 ปี

มยุรฉัตร แพร่อ่ำภา
มยุรฉัตร แพร่อ่ำภา

ถามว่า "ระฆังทอง น้ำปลาหวาน" มีความพิเศษโดดเด่นอย่างไร คุณยุ บอกว่า เครื่องแน่น หอมแดงซอยจัดเต็ม กุ้งทั้งเล็ก-ใหญ่เต็มกระปุก กับรสชาติหวานเค็มเผ็ดที่ลงตัว นอกจากเมนูน้ำปลาหวานแล้ว ยังมี กะปิน้ำ กะปิแห้ง ให้เลือกทานแบบหลากหลาย ในส่วนของมะม่วง เลือกมะม่วงที่รสชาติดี ไม่เปรี้ยวมาก ได้แก่ มะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น เดือน 9 และมะม่วงน้ำดอกไม้ที่แก่จัด ซึ่งการเลือกมะม่วงมาขายจะต้องคัดสรรเป็นอย่างดีให้ความสำคัญพอๆ กับการทำน้ำปลาหวาน



โดยราคาจำหน่ายน้ำปลาหวานเริ่มต้นที่ 30 – 70 - 100 บาท ส่วนเซ็ตน้ำปลาหวานพร้อมมะม่วง ราคา 50 บาท เมนูเด็ดยอดนิยมที่ลูกค้ารอต่อคิวซื้อ คือ น้ำปลาหวาน กะปิหวาน ยอดขายไม่ต่ำกว่า 150 กระปุกต่อวัน นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายแบบออนไลน์ส่งทั่วประเทศ (facebook : ระฆังทองมะม่วงน้ำปลาหวาน) ซึ่งน้ำปลาหวาน กะปิหวาน สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 15 วัน

ใครที่สนใจหรือมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยว จ.นครปฐม สามารถแวะไปลองทานได้ที่ ตลาดโต้รุ่ง โซนตลาดร้านค้าภาคกลางคืน เปิดขายตั้งแต่ 17.00 – 21.00 น. facebook : ระฆังทองมะม่วงน้ำปลาหวาน หรือ โทร.08-5999-9021



มานครปฐมทั้งทีกินของแซ่บแล้ว พลาดไม่ได้ต้องแวะเที่ยวรอบเมืองด้วย โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดโต้รุ่ง คือ "วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร" ที่คนส่วนใหญ่นิยมมานมัสการ องค์พระปฐมเจดีย์ ขนาดใหญ่ รูประฆังคว่ำ เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก และอีกหนึ่งวัดที่ต้องมาคือ "วัดไร่ขิงพระอารามหลวง" กราบสักการะ หลวงพ่อวัดไร่ขิง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครปฐม และยังสามารถเดินเที่ยวช้อปของกินของฝากละลานตาถูกใจที่ "ตลาดน้ำดอนหวาย"

อีกหนึ่งตลาดน้ำที่ขาเที่ยวต้องมาย่ำคือ "ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง" ตลาดแนวพักผ่อนเชิงธรรมชาติ สามารถมาชมบัวแดงได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญ ดอกบัวของทุ่งบัวแดง ณ บางเลน แห่งนี้ ไม่ว่าจะมาเที่ยวในเวลาไหนก็จะเห็นบัวบานได้ตลอดทั้งวัน ภายในตลาดน้ำมีร้านค้าขายอาหารทั้งคาวหวานให้ได้เลือกซื้อหามากมาย พร้อมบริการนั่งเรือชมทุ่งบัวแดงแบบใกล้ๆ อีกทั้งมีมุมน่ารักๆ ให้เลือกถ่ายรูปมากมายอีกด้วย



ส่วนใครที่มองหาร้านอาหารติดริมน้ำในบรรยากาศอบอุ่น แนะนำ "มีน้ำคาเฟ่@เพาะฟาร์มรัก" ที่นี่มีอาหารเรียกน้ำย่อยให้เลือกทานหลากหลายไม่ว่าจะเป็น สเต็ก สปาเก็ตตี้ สลัดผัก กาแฟสด น้ำผสมไม้ เล้งแซ่บ ยำบก กุ้งทอดพริกเกลือ เป็นต้น เหมาะแก่การนั่งชิลทานอาหารกับบรรยากาศลมพัดเย็นสบายริมน้ำ หากยังไม่จุใจแนะนำ "ครัวระเบียงโรงนา" ร้านอาหารไทยสไตล์รีสอร์ท ติดริมน้ำ บรรยากาศดี มีความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่น ร้านอาหารไทยสไตล์รีสอร์ท เมนูอาหารส่วนใหญ่เน้นไปทางอาหารไทย ใครชอบทานอาหารไทยจะไม่ผิดหวังกับร้านนี้แน่นอน

นครปฐมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรักกล้วยไม้ ในชื่อ "แอร์ ออร์คิดส์ แอนด์ แล็บ ซุปเปอร์มาร์เก็ต กล้วยไม้" ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 250 ไร่ ภายใต้โรงเรือนและระบบการเพาะเลี้ยงกล้วยไม้นานาพันธุ์ เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรักกล้วยไม้ตัวยง ที่นี่ยังมี The Flask Cafe by Air Orchids คาเฟ่ที่ให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมอีกด้วย นอกจากนี้ "ดูบัว คาเฟ่ ฟาร์ม" สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกหนึ่งที่ที่ต้องติดใจ ล้อมรอบด้วยบึงบัวกว้างใหญ่ ที่นี่มีคาเฟ่ ร้านอาหาร ฟาร์มสัตว์ บริการจักรยานและเรือถีบให้ปั่นเล่น รวมถึงมุมให้นั่งชิล ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย เรียกได้ว่ามาที่เดียวเที่ยวคุ้มกันเลยทีเดียว



ส่วนใครที่มองหาที่พัก "ชวาลัน รีสอร์ท" อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำ ด้วยบรรยากาศบ้านพักริมทะเลสาบตกแต่งด้วยสวนและไม้นานาพรรณ อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำภายในรีสอร์ทรับรองไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน   เรียกน้ำย่อยขนาดนี้ มีโอกาสแวะมานครปฐมต้องไล่เที่ยวให้ครบ จังหวัดนครปฐม ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แล้วคุณจะพบที่เที่ยวครบรสในบรรยากาศที่หลากหลาย
#3193


ลาวเผยข้อมูลประชากร 55.57% ได้ฉีดวัคซีนแล้ว กระทรวงสาธารณสุขยืนยัน ในเวียงจันทน์ และทุกแขวงมี 7,568 เตียง เตรียมไว้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ เพียงพอทั้งบุคลากรและอุปกรณ์การแพทย์

ดร.คำพั้ว สุดทิสมบัด หัวหน้ากรมรักษาพยาบาลและฟื้นฟูสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขลาว ได้กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ถึงกรณีมีข่าวว่า ลาวกำลังเผชิญกับสถานการณ์เตียงไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วยที่ถูกตรวจพบมากขึ้นทุกวัน ว่า ไม่เป็นความจริง จำนวนเตียงในลาวขณะนี้ยังเพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่ตรวจพบ

ดร.คำพั้ว ให้รายละเอียดว่า ปัจจุบันคณะเฉพาะกิจควบคุมโควิด-19 ได้จัดให้โรงพยาบาล 20 แห่ง ทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น รวมถึงตั้งโรงพยาบาลสนามอีก 22 แห่ง เพื่อใช้เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ

ในนครหลวงเวียงจันทน์ มี 3 โรงพยาบาลหลัก คือโรงพยาบาลมิดตะภาพ 150 เตียง โรงพยาบาลเสดถาทิราด และโรงพยาบาล 103 กองทัพ นอกจากนี้ มีโรงพยาบาลสนาม 5 แห่ง คือ ศูนย์กีฬาล้านช้าง ศูนย์หลัก 27 ศูนย์กีฬาห้วยหง ศูนย์ มซ.ดงโดก และศูนย์กีฬาหลัก 16 รวมเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยในส่วนกลางได้ 1,376 เตียง กำลังใช้รักษาผู้ป่วยอยู่ 890 เตียง เหลือเตียงที่ว่างพร้อมรับผู้ป่วยได้อีก 234 เตียง

นอกจากนี้ คณะเฉพาะกิจฯ มีแผนจะตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นอีก 2 แห่ง คือ ที่อาคารศูนย์กีฬาหลัก 16 สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 180 เตียง และที่อาคารของศูนย์ มซ.ดงโดก ที่จะรองรับได้อีก 150 เตียง หากยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอีกในช่วงหลังจากนี้

สำหรับโรงพยาบาลตามแขวงต่างๆ ทั่วประเทศ มีเตียงรองรับผู้ป่วยได้ 1,133 เตียง และยังมีโรงพยาบาลสนามสำหรับใช้รักษาผู้ป่วยอาการหนักอีก ได้แก่ แขวงสะหวันนะเขตมี 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนาม หลัก 9 โรงพยาบาลสนามอับเกน และโรงพยาบาลสนาม วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ รองรับผู้ป่วยได้รวมทั้งหมด 2,230 เตียง

แขวงคำม่วน มีโรงพยาบาลสนามศูนย์วัฒนธรรม โรงพยาบาลสนาม โรงเรียนมัธยมปลายท่าแขก โรงพยาบาลสนาม ตลาดพะนมพอน มีเตียงรองรับผู้ป่วยรวม 990 เตียง แขวงจำปาสัก มีโรงพยาบาลที่ใช้ดูแลผู้ป่วย 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนามโพนทอง โรงพยาบาลวิทยาลัยการเงิน โรงพยาบาลสนาม วิทยาลัยจำปาสัก และโรงพยาบาลทหาร 106 มีเตียงรองรับผู้ป่วยรวม 1,176 เตียง ส่วนแขวงสาละวัน มีโรงพยาบาลสนาม โรงเรียนมัธยมสมบูนชนเผ่า รองรับผู้ป่วยได้ 663 เตียง

รวมจำนวนเตียงที่มีอยู่ในปัจจุบันสำหรับใช้รักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศลาว ทั้งที่เป็นโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม ทั้งสิ้น 7,568 เตียง โดย ดร.คำพั้ว ยืนยันว่า จำนวนเตียงที่ใช้รองรับผู้ป่วย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์การแพทย์สำหรับใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 ในลาว ขณะนี้มีเพียงพอ

ข้อมูลล่าสุดจากการแถลงของคณะเฉพาะกิจควบคุมโควิด-19 เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (28 ส.ค.) ลาวพบผู้ป่วยใหม่อีก 115 ราย รวมผู้ป่วยสะสมขณะนี้ 14,466 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 4,843 ราย และเสียชีวิตรวม 12 ราย

ณ วันที่ 27 สิงหาคม ลาวมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว 4,001,318 คน คิดเป็น 55.57% ของจำนวนประชากรรวมทั้งประเทศ ในนี้เป็นผู้ที่ได้ฉีดเข็มแรก 2,278,765 คน คิดเป็น 31.65% และได้ฉีด 2 เข็มแล้ว 1,722,553 คน คิดเป็น 23.92%.
#3194


SWEAT16 ประกาศ 'เพชร-พาด้า-ซอนญา' ขอยุติการเป็นไอดอล 31 ส.ค.นี้ พบเหลือสมาชิกแค่ 4 คน จ่อดึง 'เด็กฝึกหัด' ขึ้นแทน

ทำเอาแฟนคลับตกใจไม่น้อยสำหรับการประกาศยุติการเป็นไอดอลของสมาชิกวงไอดอลสาว 'สเวตซิกซ์ทีน' (SWEAT16) ทีเดียว 3 คนรวด ได้แก่ 'เพชร-พรรษา บุญยะกลัมพ' , 'พาด้า-ปภาดา ตันติประสงค์ชัย' และ 'ซอนญา-ชิษณุชา ดอลเนลลี่' เมื่อ 27 ส.ค.2564 โดยเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กแฟนเพจ SWEAT16 ได้ระบุว่า หลังจากที่สมาชิกและทีมงานได้หารือกันแล้ว สำหรับเส้นทางเดินใหม่ของทั้ง 3 คน จึงขอยุติบทบาทตั้งแต่ 31 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป

โดย 'เพชร พรรษา' , 'พาด้า ปภาดา' และ 'ซอนญา ชิษณุชา' เป็นสมาชิกรุ่นแรกของวงมีผลงานร่วมกับ SWEAT16 ทุกซิงเกิล โดย 'เพชร' เคยเป็นเซ็นเตอร์คู่กับ 'เฟรม-สุธาสินี เอมทอง' ในเพลง 'หมุนไปหมุนมา' (Kurukuru Colourful Everyday) ด้วย ซึ่งการออกจากวงของทั้ง 3 คน ทำให้สมาชิก SWEAT16 เหลือเพียง 4 คน คือ 'ม่านมุก-ชดาธาร ด่านกุล' , 'พิม ขจรเวคิน' , 'เฟรม' และ 'พราวด์-ปัทมาริษา ปัดภัย'

ทางด้าน 'เพชร พรรษา' พี่ใหญ่ของวง ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ข้อความผ่านทางแฟนเพจ Petch Sweat16 ระบุว่า ตนอยากขอบคุณตลอด 4 ปีที่ผ่านมา บนเส้นทางและชีวิตไอดอลในฐานะเพชร Sweat16 ทุกความสุข ทุกรอยยิ้มและกำลังใจ จะผ่านมันมาไม่ได้เลยถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้จากการสนับสนุนของทุกคน เป็นประสบการณ์และความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้

'ตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจเข้ามาจนถึงตอนนี้ ไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยจริงๆ ทุกช่วงเวลามีคุณค่าและมีความหมายกับเพชรมากๆ ขอบคุณทุกความหวังดีที่มีให้กันมาตลอดนะ ดีใจที่ได้เป็นแรงผลักดันให้ใครหลายๆคน ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน และเรื่องเรียน ขอบคุณที่มองเพชรต้นแบบในหลายๆเรื่องเลยถึงไม่ได้เป็นคนเก่งที่สุด แต่ก็พยายามและตั้งใจที่สุดเหมือนกัน และเชื่อว่าทุกคนก็ทำได้ เพชรจะคอยส่งกำลังใจให้ทุกคนจากตรงนี้ต่อไปน้า' เพชร ระบุ

'เพชร พรรษา' ระบุต่อว่า ขอบคุณ 'วิม มโนพิโมกษ์' ประธานบริษัท โยชิโมโต้ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด และผู้ใหญ่ทุกๆท่านที่ให้โอกาสและสนับสนุนเส้นทางในวงการไอดอลของตนเสมอและตลอดมา ตั้งแต่เริ่มเรียน ป.โท ทำงาน และเป็นไอดอล รวมถึงพี่ๆ ทีมงานทุกคนที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือตนอย่างดีในทุกๆ เรื่องตลอดมา และถึงสมาชิกที่รักทุกคน รักทุกคนมากๆๆ ล้มลุกคลุกคลานด้วยกันมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ดีใจและมีความสุขที่สุดเลยที่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับทุกคน ตั้งแต่มีกัน 13 คน จนตอนนี้ก็จะมีน้องๆ Sweat16 เพิ่มขึ้นมาอีก สัญญาว่าเราจะไม่หายจากกันไปไหน จะคอยเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆและน้องๆที่น่ารักของเพชรเสมอ ฝาก "Sweat16" กับทุกคนต่อไปด้วยนะ เราภูมิใจกับชื่อนี้มากที่สร้างมาด้วยกัน! รักเสมอนะ

'สุดท้ายนี้เพชรไม่ได้หายไปไหนแน่นอน แค่ถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางบ้าง ยังไงก็ยังอยู่ตรงนี้เป็น "เพชร พรรษา" คนเดิมนะ ยินดีมากๆที่ได้รู้จักกัน ยังติดตามกันได้เสมอนะ เผื่อจะได้เห็นเพชรในรูปแบบอื่นๆบ้าง รอน้า'

ด้าน 'พาด้า ปภาดา' ก็ได้เผยแพร่ข้อความผ่านแฟนเพจ Pada​ Sweat16 ระบุว่า ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่คอยติดตามตน ตลอดที่ตนอยู่ Sweat16 มันจะเป็นความทรงจำที่จดจำตลอดไป ตนดีใจที่ได้เจอพี่ๆ เพื่อนๆ และแฟนคลับทุกคน หลังจากนี้ฝากติดตามน้องๆ และเพื่อนๆ ที่ยังอยู่ต่อไปด้วยนะ แล้วต่อจากนี้ตนจะมีผลงานหรืออะไรหวังว่าแฟนๆ จะยังอยู่คอยติดตามกันต่อไปนะ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้แฟนเพจ SWEAT16 ได้แย้มออกมาว่า ตอนนี้วงกำลังมีการปรับเปลี่ยนและต้อนรับน้องใหม่กันอยู่ โดยนำสมาชิกฝึกหัดจากโครงการ S16 New Gen Project ขึ้นมาเป็นสมาชิกรุ่น 2 ซึ่งก็มีภาพซึ่งอ้างถึงสมาชิกบางคน อาทิ 'จินนี่' , 'บิว' และ 'วีวี่' เปลี่ยนโปรไฟล์เป็น SWEAT16 ขณะที่สมาชิกฝึกหัดของโครงการปัจจุบันเหลือ 8 คน
#3195


กทม. จัดระบบ Home Isolation หรือ การแยกกักรักษาตัวที่บ้าน สำหรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่มีอาการเล็กน้อย พร้อมให้ความดูแลรอบด้าน  ทั้งอาหารและยา  รวมถึงทีมแพทย์ติดตามอาการ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน   โดยมีผู้ป่วยที่ทำ Home Isolation รักษาหายแล้วกว่า 5 หมื่นราย

พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยสมัครใจแยกกักตัวในบ้านหรือที่พักอาศัยของตนเอง หรือ Home Isolation ระหว่างรอเข้ารักษาในโรงพยาบาล จะต้องผ่านการพิจารณาและวินิจฉัยจากแพทย์ว่าสามารถรักษาตัวที่บ้านได้ โดยจะต้องเป็นผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ ไม่มีภาวะอ้วน ไม่มีโรคประจำตัว และไม่เป็นผู้สูงอายุ

"ขอให้มั่นใจว่าผู้ป่วยที่เข้าระบบการรักษาแบบ Home Isolation จะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง มีการให้ยาเพื่อระงับความรุนแรง เช่น ยาฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ ในระหว่างการแยกกักตัวที่บ้าน จะมีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ อาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) คอยดูแลและประเมินอาการผู้ป่วยทุกวัน มีการตรวจวัดค่าออกซิเจน และให้ยาตามอาการ  ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีอาการ  เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง  จะรีบนำส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย" ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าว
#3196


จากการที่ไทยเราขึ้นทะเบียน กลุ่มป่าแก่งกระจาน ขึ้นเป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ แห่งใหม่ล่าสุด ต่อจากทุ่งใหญ่-ห้วยขาแห้ง ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และล่าสุด "กลุ่มป่าแก่งกระจาน" ซึ่งมี 3 อุทยานแห่งชาติ คืออุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และ อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ส่วนอีก 1 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำภาชี ซึ่งอุทยานแห่งชาติกุยบุรีมีสมญานามว่าซาฟารีเมืองไทย และ "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" นั้น แทบจะไม่ต้องแนะนำอะไรกันเลย แต่ "อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน" นี่สิ สมควรที่จะต้องเอาไฟส่องมาดูกันหน่อย (ส่วนเขตฯลุ่มแม่น้ำภาชี จะได้มาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป)

ที่ทำการ "อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน" นั้นย้ายออกมาจากบริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านไทยประจันออกมาอยู่ที่น้ำพุร้อนโป่งกระทิงที่บ้านน้ำพุ ต.บ้านบึง อ.ป่าคา จ.ราชบุรี ด้วยเหตุผลของการสื่อสารที่พอไปอยู่ในที่อับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้การติดต่อราชการอะไรเป็นไปอย่างยากลำบาก


น้ำพุร้อนโป่งกระทิง

การเดินทางก็ไปไม่ยากไปได้หลายทาง ตั้ง GPS ไว้ที่บ้านพุน้ำร้อน อ.บ้านคา ระยะทางจากตัวเมืองราชบุรีจะอยู่ราว 83 กิโลเมตร หย่อนก็ไม่มาก


"อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน" นี้ ตั้งขึ้นเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งทรงมีพระชนมพรรษา 5 รอบ ในปี พ.ศ. 2535 เพื่อสนองพระราชปณิธานที่จะทรงอนุรักษ์ป่าไม้ โดยให้ราษฎรช่วยกันรักษาป่าอันเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของราษฎร ซึ่งได้ทรงมีพระราชดำริไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่จะให้มีป่าไม้หลายๆ แห่งที่อุดมสมบูรณ์ตามสภาพและประเภทของป่าไม้ที่เคยเห็นอีกทั้งเป็นแบบอย่างของการพัฒนาฟื้นฟูสภาพป่า และอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทย


ที่ทำการแห่งใหม่


ศาลารับเสด็จ สมเด็จพระพันปีหลวง ริมอ่างเก็บน้ำแม่ประจันในปี 2539


ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เคยอยู่ใต้อิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีการต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรง เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากมาย

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถเข้ามาควบคุมพื้นที่ได้จึงเกิดความสงบสุขขึ้น จากนั้นได้ดำเนินการวางแผนเร่งรัดพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในส่วนที่ถูกทำลายให้สอดคล้อง กับพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และส่งเสริมพัฒนาอาชีพแก่ราษฎรในพื้นที่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


อ่างเก็บน้ำแม่ประจัน

ในปี พ.ศ. 2546 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พิจารณาความเหมาะสมที่จะประกาศจัดตั้งพื้นที่โครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยตั้งชื่อว่า "อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน" ตามคำสั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชที่ 2393/2546 ลงวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2546

โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่บริเวณที่ดินป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ป่ากงเกวียน ป่าพุยาง และป่าพุสามซ้อน ในท้องที่ตำบลอ่างหิน ตำบลทุ่งหลวง ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ ตำบลหนองพันจันทร์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ประมาณ 328.74 ตารางกิโลเมตร ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 129 ตอนที่ 9 ก วันที่ 24 มกราคม 2555 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 124 ของประเทศไทย


ป่าสมบูรณ์ของอุทยานฯไทยประจัน /ภาพ อานนท์ พลอินทร์

พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นทิวเขาสูงสลับซับซ้อน วางตัวในแนวเหนือ-ใต้อยู่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดราชบุรี จนไปจรดประเทศเมียนมา ในท้องที่อำเภอปากท่อ อำเภอสวนผึ้ง และอำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี มียอดเขาสูงสุดชื่อ เขายืดหรือเขาพระรอบ มีความสูงประมาณ 834 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง สภาพป่าจะเป็นป่าเบญจพรรณ ซึ่งมีป่าไผ่เป็นส่วนประกอบ แต่ป่าแบบนี้ก็อย่าคิดว่าไม่เป็นป่าต้นน้ำ ซึ่งป่าทุกประเภท ลองไม่ถูกทำลาย มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ก็ล้วนเป็นป่าต้นน้ำได้ทั้งสิ้น

พื้นที่อุทยานแห่งชาตินี้มีทิวเขาป่าแม่ประจันเป็นแหล่งต้นน้ำของลำห้วยหลายสาย ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของห้วยพุไทร ห้วยท่าเคย ห้วยพุน้ำร้อน ลุ่มน้ำแม่ประจัน ไหลลงทางใต้ ผ่านหนองหญ้าปล้อง แล้วไหลลงไปรวมแม่น้ำเพชรบุรี และอีกหนึ่งลุ่มน้ำคือลุ่มแม่น้ำภาชี ไหลผ่าน อ.สวนผึ้ง อ.จอมบึง แล้วไปสมทบกับแม่น้ำแม่กลองอีกครั้งหนึ่ง และไม่น่าเชื่อว่าป่าแบบนี้ จะมีสมเสร็จ ซึ่งเป็นสัตว์หายากอยู่ในรพื้นที่ด้วย


ฝูงนกเงือก กรามช้างในอุทยานฯไทยประจัน / ภาพ อานนท์ พลอินทร์

'เยียวยาประกันสังคมมาตรา 40' เช็คโอนพร้อมเพย์-ทบทวนสิทธิ์ ยังไม่ได้เงินทำไง?
ด่วน! ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ยังตายสูง! พบเสียชีวิต 292 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 17,984 ราย ไม่รวม ATK อีก 2,535 ราย
เตรียมตัวให้พร้อม "ร้านนวด-เสริมสวย" คลายล็อก 1 ก.ย. นี้
แหล่งท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้คือน้ำพุร้อนโป่งกระทิง ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งน้ำพุร้อนนี้ก่อนที่จะมีสถานการณ์โควิด-19 มา ก็มีนักท่องเที่ยว มาอาบ มาแช่กันเหมือนกัน แม้ไม่มากมายเท่าที่แจ้ซ้อน แต่ก็ไม่เคยร้างคน


นักท่องเที่ยวมาแช่น้ำร้อน

แต่ที่เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วก็คือ ย่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเก่า ซึ่งตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำไทยประจัน ที่บ้านไทยประจันนั่นเอง เพราะที่นี่จะมีลานกางเต็นท์ริมลำธารลำห้วยไทยประจัน ก่อนที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นที่นิยมของคนที่ชอบกางเต็นท์มาก และยังมีทางลำลองเข้าไปในป่า จะผ่านลำห้วยแม่ประจันที่วกไปเวียนมา บางช่วง บางจุดก็จะเป็นแก่งน้ำตก

ทางลำลองนี้จะเจอลำห้วยถึง 5 ครั้ง โดยมีชื่อต่างๆ กัน เช่น โตรกทิวไผ่ โตรกธารหิน (หรือแก่งเทียนป่า) โตรกแซวสวรรค์ โตรกบังไพร และโตรกลีลา ซึ่งโตรกทั้งหมดนี้มีเพียงโตรกธารหิน ที่มีลักษณะน้ำตกที่ไหลผ่านลานหินแล้วตกลงในชั้นต่างระดับสูงราว 2-3 เมตรเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นบริเวณแก่งน้ำทั่วไปมีก้อนหินอยู่กลางลำธาร มีต้นไคร้น้ำขึ้นเท่านั้น


แก่งเทียนป่า

แต่ถ้าเดินเท้าจากโตรกลีลา ระยะทาง 20 กิโลเมตร ไปตามทางในป่า ซึ่งมีขึ้นเขาและลงหุบห้วยในบางช่วง ก็จะถึงน้ำตกไทยประจันชั้นที่ 1 ซึ่งน้ำตกนี้จะมีทั้งสิ้น 11 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันราว 5-20 เมตร สูงตั้งแต่ 4-11 เมตร ชั้นที่สูงที่สุดคือ ชั้นที่ 9 และชั้นที่ 11 สูงราว 20 เมตร แต่ทางขึ้นไปค่อนข้างชัน รอบๆ เป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง มีน้ำตลอดทั้งปี ซึ่งคนที่สนใจจะต้องเป็นแนวนักท่องเที่ยวที่เดินป่า คือแบกเป้ไปกินนอนในป่า เพราะต้องใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 3 วัน 2 คืน และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางด้วย


น้ำตกไทยประจัน / ภาพจากอุทยานฯ

จะเห็นว่าแม้ "อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน" จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก แต่คุณค่าของพื้นที่ไม่ได้ลดหายหรือด้อยลงแต่อย่างใด ยังคงทำหน้าที่เสริมเพิ่มให้ "มรดกโลกทางธรรมชาติ" ของไทยเราแห่งนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สมควรกับการได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ "มรดกโลก" อย่างแท้จริง...
#3197


ราคาน้ำมันดีดตัว 2% ในวันศุกร์(27ส.ค.) นับเป็นสัปดาห์ที่ปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี จับตาพายุลูกหนึ่งกำลังถาโถมเข้าหาอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำปิดบวก จากความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ณ ที่ประชุมประจำปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บรรดาบริษัทน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯเร่งอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะต่างๆนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ก่อนคาดหมายว่าเฮอร์ริเคนไอดาจะซัดถล่มรัฐลุยเซียนาในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

สำนักความปลอดภัยและการบังคับใช้ทางสิ่งแวดล้อมแห่สหรัฐฯเปิดเผยว่าด้วยพายุลูกที่ 9 ของฤดูกาลนี้กำลังคืบคลานเข้าหาแท่นขุดเจาะน้ำมันหลักนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ส่งผลให้เหล่าผู้ผลิตน้ำมันในวันศุกร์(27ส.ค.) ต้องลดปฏิบัติการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลง 59%

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(27ส.ค.)พุ่งแรง ดันเอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ เป็นครั้งที่ 4 ในรอบสัปดาห์ หลังความเห็นของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ณ ที่ประชุมประจำปี ในเมืองแจ็คสัน โฮล สยบความกังวลเกี่ยวกับกรอบเวลาลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 242.68 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 35,455.80 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.37 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,509.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 183.69 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,129.50 จุด

แม้ พาวเวลล์ ไม่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนในเรื่องของกรอบเวลาลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ดูเหมือนเขาส่งสัญญาณอะลุ้มอล่วยกว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)คนอื่นๆ ในนนั้นรวมถึง เจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์และโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ซึ่งคาดหวังว่าจะเริ่มลดระดับเข้าซื้อพันธบัตรเร็วๆนี้และจะปิดโครงการในปีหน้า

อย่างไรก็ตามด้วยความคิดเห็นของ พาวเวลล์ ไม่ได้ก่อความประหลาดใจใดๆแก่นักลงทุน เกี่ยวกับแผนของเฟด ส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์(27ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 24.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ที่มา:รอยเตอร์)
#3198


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทได้เข้าซื้อธุรกิจสุกร ในประเทศรัสเซีย โดย LLC RBPI Voronezh ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นใหม่ของ CPF โดยจะชำระค่าตอบแทนเป็นเงิน 22,000 ล้านรัสเซียรูเบิล หรือเทียบเท่าประมาณ 9,900 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าการเข้าทำรายการจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. 2565

ส่วนเงินที่ใช้ในการลงทุนครั้งนี้ จะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและภายในกลุ่ม ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เห็นว่า การเข้าทำรายการดังกล่าว มีความสมเหตุสมผลและจะทำให้บริษัท มีศักยภาพในการขยายธุรกิจสุกรในรัสเซียให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ซื้อและผู้ขายได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement หรือ Agreement) โดยภายใต้ Agreement ดังกล่าว โดยผู้ซื้อจะชำระค่าตอบแทนดังกล่าว เพื่อให้ได้มาซึ่งรายการต่อไปนี้ 1.หุ้นทั้งหมดใน LLC Agro-Sojuz TS และ LLC Mjaso-Sojuz T หรือ บริษัทเป้าหมาย และ 2.หนี้เงินกู้ยืมที่ผู้ขายให้กู้ยืมแก่บริษัทเป้าหมาย และเมื่อการทำรายการแล้วเสร็จ บริษัทเป้าหมายดังกล่าวและบริษัทย่อยจะมีสถานะเป็รบริษัทย่อยทางอ้อมของ CPF

ทางด้านผู้ขายหุ้นดังกล่าว ที่ บริษัทย่อย CPF ซื้อมานั้น ประกอบด้วย 1.Tönnies Russland Agrar GmbH 2.RKS Agrar.eiligungs GmbH และ 3.Tönnies Holding ApS & Co. KG
#3199


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางพลังงานไทยกับเป้าหมายลดการปล่อย CO2" ในงานสัมนาทิศทางพลังงานไทย จะไปสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างไร? โดยรัฐบาลมีแผนการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป้าหมายที่ชัดเจนคือจะเริ่มจากการส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถ EV ในสัดส่วน 30% ภายในปี ค.ศ. 2030  


ทั้งนี้หลังจากที่คณะทำงานเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลได้ทำงานมาระยะหนึ่งในเดือน ก.ย.จะมีความชัดเจนเรื่องของมาตรการสนับสนุนทั้งในเรื่องมาตรการภาษีและมาตรการส่งเสริมที่ไม่ใช่ภาษีซึ่งมาตรการนี้จะช่วยจูงใจทั้งผู้ผลิต และผู้ใช้รถให้มีความสนใจในการใช้รถ EV มากขึ้น 

"การออกมาตรการมาสนับสนุน EV จะเป็นการนำร่องออกมาโดยไม่ต้องรอให้ตลาดมีความต้องการที่ชัดเจนมากแต่มาตรการที่ออกมาจะจูงใจ ควบคู่ไปกับการวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆให้มีความพร้อมรองรับรถ EV มากขึ้น"


นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยว่าว่ารัฐบาลมีเป้าหมายที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาพลังงานสะอาดและการลดการปล่อยคาร์บอนไดร์ออกไซด์ (CO2) ที่สอดคล้องกับทิศทางของนานาชาติ โดยในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับล่าสุดได้มีการกำหนดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดไว้ที่ 50% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม


โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ไปกำหนดแผนและรายละเอียดต่างๆแบ่งเเป็นแผนระยะ 5 ปี และ 10 ปี โดยแผนนี้จะต้องสอดคล้องกับแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของไทยให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2075 ที่เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยประกาศเป็นเป้าหมายในการลด CO2 ให้เป็นศูนย์ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่าการทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดการปล่อย Co2 จะต้องมีการปรับลดการผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล การเพิ่มพลังงานหมุนเวียน การส่งเสริมรถ EV รวมทั้งการทำแผนการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแผนนี้ สนพ.อยู่ระหว่างการจะนำแผนไปรับฟังความคิดเห็น และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) ในปีหน้า โดยเป็นหนึ่งใน 5 แผนที่อยู่ในแผนทั้งหมดของแผนพลังงานชาติที่จะมีการนำเสนอต่อไป  

โดยการลงทุนในเรื่องของพลังงงานสีเขียวจะมีผลต่อการฟื้นเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 โดยต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาด ความมั่นคงเรื่องพลังงาน และเรื่องของการรักษาเสถียรภาพค่าไฟฟ้าที่ไม่กระทบกับต้นทุนของธุรกิจ และค่าครองชีพประชาชนในระยะยาว 

"แผนพลังงานชาติจะเน้นในเรื่องของพลังงานสะอาด แผนเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมในเขตเมือง โดยในช่วงการเปลี่ยนผ่านยังเป็นการใช้ก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์ต่อที่สุด"
#3200
Zoom Meeting พระเอกตัวจริงของแพลตฟอร์มสื่อสารผ่าน ระบบประชุมทางไกล วันนี้เราสามารถเชื่อมต่อทุกการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Team, Google Meet, Cisco และอื่นๆ แต่เราก็มักพบว่าผู้ติดต่อของเราส่วนหนึ่งก็จะขอประชุมผ่าน Zoom และวันนี้หลายหน่วยงานและมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีการรับสมัคร มีการนัดสัมภาษณ์ผ่าน Zoom หรือส่งการนัดหมายการประชุมเป็น Link สำหรับเข้าประชุมผ่าน Zoom มาให้เรา นอกจากนี้ถ้าเรามองในส่วนของงานสัมมนาและ Event ต่างๆ ต้องบอกว่าส่วนมากเลือกจัดผ่านโปรแกรม Zoom Conference วันนี้ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรม หรือ Zoom Software อยู่บนอุปกรณ์วันนี้ผมมาชวนให้ติดตั้งไปพร้อมๆกันครับ

คำถาม : ผู้เข้าร่วมหรือผู้เข้ารับการสัมภาษณ์จำเป็นต้องซื้อ License Zoom ก่อนหรือเปล่า ..?
คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ วันนี้ หลังจากคุณติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถลงสมัครใช้งาน Zoom Free หรือ แพคเกจ Basic ได้เลย ซึ่งคุณสามารถใช้ฟังชั่น Meeting, Chat, Contact, Apps ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารพัดฟีเจอร์ที่อยู่ได้ Zoom ได้อีกด้วยในเวอร์ชั่นฟรีนี้

ตามที่ได้รายงานไว้ข้างต้น ว่ามีการนำ Zoom Meeting ไปใช้เพื่อประโยชน์ในงานสรรหาบุคลากรด้วยการนำเอาคุณลักษณะอันโดดเด่นของ zoom meeting ไปใช้สัมภาษณ์งานแบบเสมือนจริง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับการทำงาน ทั้งนี้สามารถประเมินผู้สมัครได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงผู้มีความสามารถชั้นนำได้จากทั่วโลก ด้วย Zoom Meeting ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ สรรหาบุคลากรได้ตามความต้องการตามแผนกำลังคน โดยลดขั้นตอนและกระบวนการต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไปได้หลายขบวนการ ทั้งการกรอกใบสมัครการแนบเอกสารหลักฐานที่ปัจจุบันทำได้ผ่านทางออนไลน์แทบทั้งสิ้น ส่วนในการสัมภาษณ์และการทำแบบทดสอบต่างๆ สามารถทำได้ผ่าน Zoom Meeting ทั้งสิ้นและสามารถทราบผลคะแนนได้แบบเรียลไทม์ โดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลสามารถกำหนดเวลาและจัดการสัมภาษณ์ผู้สมัครได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Zoom ซึ่งสามารถเลือกเวลาได้ตามความหมูของทั้งสองฝ่าย


ติดตามข่าวสารและอัพเดตชีวิตแบบตามติดเทคโนโลยีที่ Zoom ThailandTag : แหล่งที่มา