• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Prichas

#3101
นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet  ชอบหวานน้อย นมเน้นๆ มีแคลเซียม ต้องลอง นมอัดเม็ด milk tablet หลายเจ้าในตลาดมากมาย แต่ทำไมนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletแจ้งเกิดเป็นนมอัดเม็ดดาวรุ่งพุ่งแรง เพราะ ความนัวนม ย้ำว่านัวนมๆจริง และรสชาติหวานน้อย ที่เอาใจคนที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รสชาติไม่หวานเลี่ยน การันตีไม่หวานแหลมแสบคอ  นมก็นมแท้ๆแน่นๆ จากนิวซีแลนด์ มี 2 ขนาดให้เลือก 





1.นมอัดเม็ดไทยชอง  milk tablet ขนาด 20 กรัมเป็นรูปซองขวด 1 ซองมี 15 เม็ด ขายปลีกซอง 12 บาท ฮัลโล ไม่แพงน้า รสชาติต้องได้ลอง เลือกคุณภาพ ประโยชน์ และ อร่อยด้วย คุ้มค่า

 

2.นมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet ขนาด 27 กรัม ซองสี่เหลี่ยม ตกซองละ 18 บาท 
จะซื้อแบบกล่อง หรือ ซื้อแบบซองก็ได้ แบบกล่องซื้อไปเป็นของขวัญของใกเก๋ไก๋ ดูดีมีราคา เพราะแพคเกจเค้าน่ารักเว่อร์ 
 


นมอัดเม็ด milk tabletเป็นขนมทีมีประโยชน์นะคะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอัดเม็ดไทยชอง milk tabletใช้นมแท้ๆ คุณภาพดีมาเป็นส่วนผสมหลักที่เข้มข้น ทำให้คนทานได้ แคลเซียมและวิตามินบี 2  ใครที่เน้นดูแลเรื่องกระดูกและฟัน และ ลดหวานเพื่อสุขภาพ แนะนำมากๆ กับนมอัดเม็ดไทยชอง milk tablet

สั่งซื้อ คลิกเลย >>> https://lin.ee/sSGXFCK 
 
#3102


สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เปิดเผยในวันนี้ ว่า พบผู้ที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมกีฬาระดับโลกติดโควิด-19 เพิ่มอีก 26 รายในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของมหกรรมโอลิมปิก ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 430 ราย นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.

นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ไม่พบนักกีฬาติดเชื้อโควิด-19 โดยในจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26 รายนั้น ประกอบด้วยผู้รับเหมา 16 ราย สื่อมวลชน 5 ราย อาสาสมัคร 3 ราย เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการแข่งขัน 1 ราย และพนักงานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 1 ราย โดยทั้งหมดไม่ได้พักอยู่ในหมู่บ้านักกีฬา และ 19 คนในจำนวนนี้เป็นพลเมืองญี่ปุ่น
#3103
เติมคอยส์ COINS เติมเงิน Kitty Live, Mico เติมเพชร Kitty Live, Mico

"ได้เยอะกว่าเติมผ่านแอป"
พร้อมรับสมัครวีเจ มีเงินเดือน+ค่าของขวัญ 





111Topup เปิดบริการ เติมคอยส์ เติม COINS เติมเพชร เติมรูบี้ วิธีการเติมเงิน เติมคอยส์ MICO, KittyLive เติม COINS เติมเพชรง่ายนิดเดียว เพียงแค่โอนเงินผ่านเลชบัญชีธนาคารของเรา แจ้งโอน พร้อมบอกเลขไอดี รอรับคอยส์ไม่เกิน 30 วินาที การันตีได้คอยส์ชัวร์ แถมเยอะกว่าเติมผ่านในแอป ไม่โกง ไม่หลอก แน่นอน โดยมีการเติมเงินแบบ 2 ช่องทางหลักคือ

1. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมผ่านระบบธนาคาร ATM,ฝากเงินผ่านตู้, Mobile Banking ,ผ่านเว็บไซด์ธนาคาร


2. เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เติมเงินผ่านบัตรเติมเงิน ทรูมันนี่ 


111Topup รีบแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่น แถมคอยส์เพิ่มขึ้น
เติมคอยส์ MICO, KittyLive




Add Line : @111Topup


วิธีการเติมเงิน Kitty Live, Mico คอยส์ COINS เพชร


1.     แอดไลน์ @111Topup (มี @ ด้วยนะคะ) เติมคอยส์ MICO, KittyLive 


2.     โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ตามที่ระบุไว้ หรือ ถ้าเติมผ่านบัตรทรูมันนี่ ให้ส่งหลักฐานบัตรมาที่ไลน์แอด @111Topup


3.     แจ้งเลขไอดี แอฟ Kitty Live, Mico ในไลน์


4.     เมื่อทีมงานรับเรื่องแล้วไม่เกิน 30 วินาทีคุณจะได้รับคอยส์ (COINS) ใน แอฟ Kitty Live, Mico


5.     เติมคอยส์ MICO, KittyLive  เปิดบริการเติมเงินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 02.00 น. (8โมงเช้า-ตี2 ทุกวัน)


 


 


รับสมัครวีเจ ไลฟ์ มีเงินเดือน + ค่าของขวัญ เงินเดือนขั้นต่ำ 6000 บาท 


 


สมัครวีเจ เข้า สังกัด 111 ทำงาน ขั้นต่ำ 20 วัน 30 ชั่วโมงต่อเดือน ทำงานที่บ้านไลฟ์ ออนไลน์ผ่านมือถือ 


มีการันตีเงินเดือน 6000-10000 บาท สำหรับวีเจใหม่ มีเทรนด์งานก่อนขึ้น ไลฟ์ดี ตั้งใจไลฟ์ สังกัดพร้อมซัพพอร์ต ในการหายูสให้แน่นอน รายได้หลักหมื่น - ถึงแสน บาทต่อเดือน


** วีเจที่เคยไลฟ์ BIGO VIBIE YAYA MCAT MLIVE มีการันตีพิเศษ คลิ๊กเลย


สนใจสมัครวีเจ คลิ๊กเลย  https://lin.ee/0apXPWf


 
#3104


"วีริศ" เผยที่ประชุมร่วม 4 หน่วยงานเห็นพ้องใช้มาตรการ "Bubble and Seal" แยกผู้มีความเสี่ยงในโรงงานกักตัวและทำงานต่อเนื่อง หวังภาคผลิตไม่สะดุด ลดการกระจายความเสี่ยงผู้ติดเชื้อสัมผัสชุมชนใกล้เคียง เล็งหารือนิคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งด่วน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงหรรษา รักษาคม ผู้อำนวยการกองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค แพทย์หญิงนฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ นายปรนนท์ ฐิตะวรรโณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นพ.ฆนัท ครุธกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ (HEC) ผ่านระบบออนไลน์ ในประเด็นแนวทางการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อกำหนดนโยบายของ กนอ.เกี่ยวกับการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมในสถานการณ์โควิด-19

ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และแนวปฏิบัติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในการแบ่งกลุ่มพนักงานเป็นกลุ่มๆ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างกัน หรือ Bubble And Seal และระบบดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ภายในโรงงาน (โรงพยาบาลสนามในโรงงาน) หรือ Factory Isolation โดยแบ่งกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำให้กักตัวในสถานประกอบการ เพื่อจำกัดวงของการระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้การดำเนินงานในภาคการผลิตยังดำเนินต่อไปได้ตามปกติ


"การเฝ้าสังเกตอาการของผู้มีความเสี่ยงสูงและผู้มีความเสี่ยงต่ำนั้น กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรแยกจากกันอย่างชัดเจนเป็นคนละกลุ่ม และยังให้เขาทำงานได้ตามปกติ แต่ต้องเฝ้าสังเกตอาการใกล้ชิด ไม่ให้มีการข้ามกลุ่มกันไปมา ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องปิดโรงงาน ไม่เกิดการระบาดในชุมชน และพนักงานยังคงมีรายได้ เพื่อให้กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากขณะนี้ต้องยอมรับว่าภาคอุตสาหกรรมถือเป็นภาคส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ ดังนั้นเราจะหามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ดำเนินงานได้อย่างดีที่สุด"

สำหรับมาตรการ Bubble and Seal จะต้องใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคเข้ามากำกับดูแล เช่น ต้องมีการประเมินความเสี่ยงทุกวัน ตรวจคัดกรองกลุ่มที่มีไข้ด้วยแอนติเจนท์ เทสต์ คิท กรณีมีแรงงานเข้ามาใหม่ต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการดูแลด้านสังคมด้วย เช่น จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงาน ชุมชน โรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับหากมีผู้ติดเชื้อ รวมทั้งสนับสนุนปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ มีการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ มาตรการ Bubble and Seal ถูกใช้มาแล้วในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง และสามารถจำกัดการระบาดของไวรัสได้ดีในจังหวัดสมุทรสาครในระลอกที่ 2 ดังนั้นจึงมองว่า หาก กนอ.นำไปประยุกต์ใช้กับโรงงานในนิคมฯต่างๆทั่วประเทศ น่าจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ขณะเดียวกันรูปแบบที่ใช้ต้องเหมาะสมกับประเภทกิจการพื้นที่และแรงงานด้วย

"กนอ.จะหารือกับหน่วยงานปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เร่งจัดทำมาตรการ แนวทาง และรูปแบบในการดำเนินการ รวมทั้งอาจจะมีการพัฒนาระบบการแชร์ข้อมูลเพื่อรายงานผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินผลการดำเนินงานต่อไป ขณะที่กระทรวงดิจิทัลฯพร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องของสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณ WiFi ด้วย"
#3105


นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

แอสเซทไวส์ ได้มองหาโอกาสในการพัฒนากลยุทธ์ในด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากที่สุด รวมถึงจับมือกับพันธมิตรหลากหลายรูปแบบ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหารที่อยู่ในทำเลใกล้ แอทโมซ คอนโด (Atmoz Condo) เช่น ร้านสถานีมีหอย พร้อมด้วย TikTokInfluencer ไม่ว่าจะเป็น พรฟ้า ปุณิกา รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 และ สไปรท์บะบะบิ "ร่วมรีวิวโครงการ" โดยเฉพาะมุมไฮไลท์เอ็กซ์คลูซีฟของคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์แอทโมซ (Atmoz) บนทำเลท็อปฮิต ลาดพร้าว, รัชดา-ห้วยขวาง และ แจ้งวัฒนะ พร้อมแจกโค้ดส่วนลดพิเศษแคมเปญ "Atmoz FAST พร้อมอยู่ ไวเว่อร์" เฉพาะลูกค้าที่จองคอนโดแอทโมซ ประกอบด้วย แอทโมซ ลาดพร้าว 15, แอทโมซ ลาดพร้าว 71, แอทโมซ รัชดา-ห้วยขวาง และ แอทโมซ แจ้งวัฒนะ ผ่านร้านค้าที่ร่วมรายการ เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ และพันธมิตรที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ เพื่อให้ธุรกิจรอดไปด้วยกัน

แอสเซทไวส์ ยังเดินหน้าลุยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ทุกมิติ เพื่อปลุกกำลังซื้อในกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย ด้วยแคมเปญ "Kave แร๊ป LIVE FAST 8.8" ยกขบวนคอนโดมิเนียมใกล้มหาวิทยาลัย 4 โครงการ ได้แก่ เคฟ ทาวน์ สเปซ,เคฟ ทาวน์ ชิฟท์, เคฟ ทียู และ เคฟ ศาลายา จัดโปรโมชั่นห้องราคาพิเศษ โดยมีแขกรับเชิญป๊อป-อภิวัฒน์ ชินอักษร หรือ SIRPOPPA แร็ปเปอร์ชื่อดังและปูน-ธนพัต ยิ้มสู้ เจ้าของเพจพ่อบ้านบ้าคอนโด มาบอกเล่าถึงความอลังการของแคมปัสคอนโด ภายใต้แบรนด์ "เคฟ" ผ่าน Facebook LIVE วันที่ 8 ส.ค. เวลา 15.00-17.30 น. ที่Facebook Fanpage KAVE CONDO ผู้สนใจร่วมกิจกรรม ลุ้นรับรางวัลมากมาย

ขณะเดียวกัน ส่งมอบประสบการณ์เสมือนจริง ด้วย "AssetWise Real Time" ผ่าน Virtual Tour 360 เยี่ยมชมโครงการเสมือนสัมผัสด้วยตาตัวเอง ครบทุกมุมมองกับ 12 โครงการพร้อมอยู่ และโครงการใหม่จากแอสเซทไวส์ เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมโครงการเสมือนเดินเข้าไปชมในตำแหน่งต่างๆ รอบทิศทาง 360 องศา และลูกค้าสามารถจองโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที ขณะที่ลูกค้าที่สนใจมาเยี่ยมชมโครงการ แอสเซทไวส์ มีมาตรการเข้มข้น 5 ขั้นตอนในการดูแลความสะอาด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย
#3106


นีเลช เจน รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย เทรนด์ไมโคร กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้รูปแบบการทำงานภายในองค์กรเปลี่ยนไปสู่การทำงานจากระยะไกล ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัยเนื่องจากมีผู้คุกคามจำนวนมากขึ้นที่พยายามฉวยโอกาสจากภาวะการณ์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19

เทรนด์ไมโครพบว่า ระบบนิเวศที่ทั้งแพลตฟอร์มและบริการต่างๆ ต้องทำงานร่วมกัน ทำให้รูปแบบการจัดการและการป้องกันไม่เพียงพออีกต่อไป เนื่องจากนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤติเป็นต้นมา พบการเพิ่มขึ้นจำนวนมากของอีเมลต้มตุ๋น สแปม และการล่อลวงแบบฟิชชิ่งที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และแน่นอนว่าอาชญากรไซเบอร์ยังคงมุ่งที่จะฉวยโอกาสและออกแคมเปญที่ใช้โคโรน่าไวรัสเป็นธีมหลักในการโจมตี


'เฮลธ์แคร์' เป้าหมายโจรไซเบอร์

เขากล่าวว่า ปีนี้องค์กรธุรกิจต้องต่อสู้เพื่อการดำเนินงานที่ปลอดภัย และจากนี้โควิด-19 จะยังคงสร้างความท้าทายด้านการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการค้าบนอีคอมเมิร์ซ ซึ่งอาชญากรจะพยายามบุกเข้าไปในระบบโลจิสติกส์ โดยกรณีที่เกิดขึ้นได้เช่น การก่อวินาศกรรมการผลิต การลักลอบขนส่ง (trafficking) และการขนส่งสินค้าลอกเลียนแบบจะกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่เกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดใหญ่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์" จะยิ่งกลายเป็นที่จับตามองมากขึ้น เนื่องจากแพทย์จำนวนมากหันไปใช้ระบบการรักษาทางไกล (telemedicine) และการให้บริการทางการแพทย์ทวีความสำคัญมากขึ้น 

"ความปลอดภัยด้านไอทีสำหรับระบบเฮลธ์แคร์จะถูกทดสอบ ทีมรักษาความปลอดภัยไม่เพียงต้องจัดการกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลผู้ป่วยและการโจมตีของมัลแวร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเป็นไปได้ของการจารกรรมทางการแพทย์"

ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นและเร่งการเกิดกระบวนการปฏิรูปทางดิจิทัลอย่างกว้างขวางทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการใช้เทคโนโลยีก็จะทำให้รูปแบบและภูมิทัศน์ของภัยคุกคามเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน

เทรนด์ไมโครพบว่ามี 4 เรื่องที่น่าสนใจและเป็นจุดที่สามารถนำไปสู่อาชญากรรมบนไซเบอร์ หรือภัยคุกคามต่อการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ในปัจจุบันได้ นั่นคือ การเวิร์คฟรอมโฮม, การใช้งานฟู้ดดิลิเวอร์รี แมสเซจจิ้งแอพพลิเคชั่น ตลอดจนข่าวสารข้อมูลที่ออกมาจากภาคส่วนต่างๆ ก็กลายเป็นความท้าทายใหม่ๆ สำหรับการรักษาความปลอดภัย

ปี 2563 เทรนด์ไมโครดำเนินการบล็อคภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นจำนวน 62.6 พันล้านครั้ง หรือคิดเป็นตัวเลขประมาณ 119,000 ต่อนาที โดยข้อมูลที่ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า 91% ของภัยคุกคามเกิดจากอีเมล, การโจมตีบนเครือข่ายภายในบ้านเพิ่มขึ้นถึง 210% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ขณะที่ รูปแบบของการโจมตีและเรียกค่าไถ่บนไซเบอร์ที่เรียกว่าแรนซัมแวร์มีการเปลี่ยนแปลงและมีรูปแบบการโจมตีตามสายพันธุ์ เพิ่มขึ้นถึง 34 % โดยท็อป 10 ของอุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายการโจมตี ได้แก่ ภาครัฐบาล ธนาคาร อุตสาหกรรมการผลิต เฮลธ์แคร์ การเงิน การศึกษา เทคโนโลยี อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และประกันภัย ตามลำดับ

สำหรับเทรนด์ไมโคร มุ่งนำเสนอเกราะป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์เชิงรุก ด้วยเพลตฟอร์ม "Vision One" ที่ช่วยขยายการตรวจจับและการตอบสนองแบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนใสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการทำงานให้ได้ประสิทธิผลยิ่งขึ้น ที่สำคัญช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน

ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นตลาดระดับท็อป 3 ในภูมิภาคอาเซียนของเทรนด์ไมโคร ซึ่งจากนี้จะยังคงให้ความสำคัญและเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกตลาดประเทศไทยเติบโต 15.5% เฉพาะซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิสเติบโต 623.4%, คลาวด์ซิเคียวริตี้(Cloud One) เติบโต 555.9%
#3107


นับเป็นอีกหนึ่งข่าวอื้อฉาวสนั่นวงการ ไม่ต่างจากคราวของ 'เจิ้งส่วง' เลยทีเดียว สำหรับกรณีของ 'คริส วู' (Kris Wu) หรือ 'อู๋อี้ฟ่าน' (吴亦凡) ที่เมื่อช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาได้กลายเป็นประเด็นร้อนเกี่ยวกับคดีล่อลวง-ล่วงละเมิดทางเพศ โดยล่าสุดหลังจากที่ดาราหนุ่มถูกตำรวจควบคุมตัวเพื่อนำไปสอบสวนเพิ่มเติมและเริ่มมีหลาย ๆ แพล์ตฟอร์มของจีนได้ทยอยออกมาลบข้อมูลทั้งหมดของ 'คริส วู' ออกจากระบบ ก็ทำให้ชาวเน็ตจีนจำนวนมากเกิดความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ในอนาคตของซีรีส์ "บันทึกปิ่น" ที่นำแสดงโดย 'คริส วู' และ 'หยางจื่อ' ว่าจะเป็นอย่างไรกันต่อไป...

เรียกได้ว่านับวันข่าวคราวเรื่องคดีความของ 'คริส วู' ก็ยิ่งมีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ 'คริส วู' ถูกตำรวจจากสถานีเฉาหยางในกรุงปักกิ่งควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมในวันที่ 31 ก.ค. วันถัดมาทางแพล์ตฟอร์ตสื่อมีเดียต่าง ๆ อาทิเช่น QQ Music, NetEase Music, KuGou Music, iQIYI ฯลฯ ได้ทยอยออกมาทำการลบข้อมูลเพลงและนักร้องของ 'คริส วู' ออกจากระบบทั้งหมด นอกจากนั้นช่องทางบนโลกโซเชียลของ 'คริส วู' ทั้งแอคเคาน์เว่ยป๋อ (Weibo) ของเจ้าตัวและสตูดิโอ รวมถึง Douyin (Tiktok ของฝั่งจีน) ต่างถูกระบบระงับการใช้งานไปแล้วทั้งสิ้น

ไม่เพียงแค่นั้นห้อง Super Topic บนเว่ยป๋อในชื่อของ 'อู๋อี้ฝาน' ซึ่งเหล่าแฟนคลับเคยใช้เป็นพื้นที่พูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ 'คริส วู' ก็ได้ถูกลบออกจากระบบ อีกทั้งซ้ำร้ายยังมีการทยอยปิดกลุ่มแฟนคลับ 'คริส วู' รวมถึงแอคเคาน์ที่เกี่ยวข้องไปแล้วเกือบหนึ่งพันบัญชีอีกด้วย


หลังจากข่าวอื้อฉาวต่าง ๆ นานาของ 'คริส วู' ได้ถูกเผยแพร่ออกมา สถานการณ์ของพีเรียดจีน "บันทึกปิ่น" หรือ "The Gloden Hairpin" (青簪行) ซึ่งเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกในชีวิตของ 'คริส วู' ที่ได้มาประกบคู่กับ 'หยางจื่อ' (杨紫) และกำลังรอออกอากาศฉายอยู่นั้น ก็ไม่วายได้รับความสนใจและถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องจากบรรดาคอซีรีส์และแฟน ๆ ที่กำลังรอติดตาม โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา (หลังจากมีการคุมตัว 'คริส วู') ทางแอคเคาน์หลักของซีรีส์ก็ได้ทำการลบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ 'คริส วู' ออกจากหน้าเว่ยป๋อด้วยเช่นกัน จากจุดนี้เองอาจเป็นลางบอกเหตุกลาย ๆ ว่ายังไงแล้วการจะได้เห็นซีรีส์เรื่องนี้ในเวอร์ชั่นที่ยังมีหน้าของดาราหนุ่มนำแสดงอยู่ด้วยนั้นคงจะเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน

แอคเคาน์หลักของซีรีส์ บันทึกปิ่น ได้ออกมาลบโพสต์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ คริส วู จนเหลือแต่รูปเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น 
แอคเคาน์หลักของซีรีส์ บันทึกปิ่น ได้ออกมาลบโพสต์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ คริส วู จนเหลือแต่รูปเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น

แน่นอนว่าเมื่อซีรีส์หรือภาพยนตร์ที่ได้ถ่ายทำไปแล้ว หากแต่ถ้าไม่สามารถออกอากาศหรือเข้าฉายได้ ทางทีมงานย่อมต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่ โดยในกรณีนี้ของซีรีส์ "บันทึกปิ่น" มีสื่อจีนหลายฝ่ายต่างออกมานำเสนอข้อมูลที่ว่า เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่นักแสดงถูกแบนเช่นนี้ ทางทีมผู้จัดของซีรีส์อาจมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาได้สองวิธี อย่างแรกคือเปลี่ยนนักแสดง ให้นักแสดงคนใหม่ถ่ายทำฉากของ 'คริส วู' ซ้ำแล้วตัดต่อลงในซีรีส์เรื่องนี้ใหม่ อย่างที่สองคือนำเทคโนโลยี AI Face-changing เข้ามาใช้ในการเปลี่ยนหน้านักแสดงแทน


ซึ่งการแก้ไขปัญหาในกรณีที่นักแสดงถูกแบนทั้งแบบการถ่ายซ้ำโดยเปลี่ยนคนแสดงหรือการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเปลี่ยนหน้านั้นล้วนแต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น โดยกรณีของการถ่ายซ้ำโดยเปลี่ยนคนแสดงเคยเกิดขึ้นกับซีรีส์เรื่อง "จักรวรรดิฉิน พลิกแผ่นดินมังกร ภาค 3" (The Qin Empire III: 大秦帝国之崛起) ที่ 'หวังเสวี๋ยปิง' (王学兵) เจ้าของเดิมของบท "ขุนพลไป๋ฉี่" ได้ถูกแบนจากกรณีข่าวลือที่ว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ตอนหลังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง) ทางทีมงานได้เชิญ 'สิงเจียต้ง' (邢佳栋) ให้มาถ่ายซ้ำตามฉากที่ 'หวังเสวี๋ยปิง' เคยแสดงและทำการตัดต่อฝังลงไปใหม่ โดยจากการแก้ไขปัญหาเช่นนี้แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะมีโอกาสที่ได้ออกอากาศตามกำหนดการปกติ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้ทุนสร้างอีกจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ช่วงหลังซีรีส์เรื่องนี้ประสบกับการมีทุนสร้างไม่เพียงพอ ฉากสงครามที่ควรจะเป็นไฮไลท์ของเรื่องกลับทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ตอนหลังกระแสของซีรีส์จึงค่อนข้างตกลงไปมาก
#3108


ใกล้จะถึงเทศกาลวันแม่เข้าไปทุกที แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงน่ากังวล หลายคนเลยต้องแตะเบรกยกเลิกกิจกรรมฉลองวันแม่ ไม่ว่าจะเป็นทริปพาคุณแม่เที่ยว รับประทานอาหารกับครอบครัวที่ร้านโปรด หรือพาคุณแม่ไปช้อปปิ้งนอกบ้านได้เหมือนปีที่ผ่านๆ มา ทำให้หวนคิดถึงบรรยากาศวันแม่แบบเดิมอยู่ไม่น้อย ลาซาด้าจึงขอชวนสองหนุ่มหล่ออย่าง "บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล" และ "พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร" มาส่งแรงใจคูณสองให้กับทุกคน พร้อมชวนช้อปไอเทมออนไลน์สุดคุ้มค่า เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์คุณแม่เนื่องในโอกาสวันแม่ที่กำลังจะมาถึง กับแคมเปญ Lazada 8.8 Super Saving Day ในวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นี้เท่านั้น

เหล่าสาวกนักช้อปคงรู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญไหนๆ ลาซาด้าก็ขนดีลเด็ด พร้อมโปรโมชั่นจัดหนักมาให้ช้อปเป็นประจำ พิเศษสุด! สำหรับเดือนสิงหาคมนี้ ลาซาด้าชวนสร้างความประทับใจให้คุณแม่แบบ New Normal ที่ไม่ต้องออกจากบ้านก็หาของขวัญเซอร์ไพรส์คุณแม่ได้ง่ายๆ เตรียมพบกับส่วนลดสูงสุดกว่า 80% พร้อมรับลาซาด้าโบนัส 30 บาท เมื่อซื้อครบทุกๆ 400 บาท และลด 100 บาท เมื่อซื้อครบทุกๆ 1,500 บาท และไม่ว่าจะช้อปจากที่ไหน ลาซาด้าก็มีคูปองส่งฟรีทั่วไทยอีกด้วย โปรเด็ดคุ้มหลายต่อขนาดนี้ กดสินค้าที่คุณแม่ต้องปลื้มเข้ารถเข็นไว้ให้พร้อม

"พีพี กฤษฏ์" เผยว่า "ช่วงนี้ไม่ได้ไปไหนเลยครับถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ที่สำคัญตอนนี้ใกล้เทศกาลวันแม่แล้วด้วย สำหรับผมจริงๆ คือทุกวันอยู่แล้ว เพราะผมกับคุณแม่ค่อนข้างสนิทกันมาก ปกติจะชอบหาของขวัญมาเซอร์ไพรส์คุณแม่ทุกเทศกาลอยู่แล้ว ยิ่งลาซาด้ากำลังจะมี แคมเปญ 8.8 ลดจัดหนักมาก ผมเลยไปลองดูสกินแคร์ที่คุณแม่ชอบเอาไว้ ว่าจะกดสั่งมาให้ช่วงแคมเปญ 8.8 นี้แหละ คุณแม่น่าจะแฮปปี้กับของขวัญที่ผมเตรียมนะครับ เพราะได้ใช้เป็นประจำแน่นอน"

ส่วนหนุ่ม "บิวกิ้น พุฒิพงศ์" กล่าวว่า "ตอนนี้ผมมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้มีเวลาเรียนรู้และค้นพบความสามารถในด้านอื่นของตัวเอง อย่างการชงกาแฟ ผมซื้อเอสเพรสโซ่แมชชีนมาลองทำเอง เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ ทดลองและฝึกเทคนิคยากๆ ในการทำกาแฟให้หอมอร่อย โดยมีคุณแม่เป็นกรรมการคอยช่วยติชมและมีประสบการณ์ร่วมกับเราตลอด วันแม่ปีนี้ก็คงพิเศษไม่แพ้ทุกปีครับ ได้ชงกาแฟดีๆ ให้คุณแม่ดื่ม ถ้าคุณแม่อยากได้อุปกรณ์เครื่องครัวมาทำอาหารชิ้นไหนเราก็สั่งจากลาซาด้าให้มาส่งที่บ้านเลย เพราะในลาซาด้ามีครบทุกอย่างจริงๆ แถมกำลังจะมีแคมเปญ 8.8 ขนดีลเด็ดมาไม่อั้นอีกด้วย ใครมีแพลนกำลังหาของขวัญให้คุณแม่อยู่ ห้ามพลาดนะครับ" 
เห็นสองหนุ่มบิวกิ้น-พีพี เตรียมตัวหาของขวัญเซอร์ไพรส์วันแม่กันแล้ว แฟนคลับของสองหนุ่มต้องรีบมาช้อปปิ้งเลือกของขวัญให้คุณแม่กันบ้างแล้วล่ะ กับ Lazada 8.8 Super Saving Day คุ้มหลายต่อ ลดแล้ว ลดได้อีก ในวันที่ 8 สิงหาคม 2564 นี้เพราะนอกจากดีลแจกส่วนลดแบบจุกๆ แล้ว ลาซาด้ายังร่วมกับแบรนด์สินค้าชั้นนำจาก LazMall ที่การันตีแบรนด์แท้ราคาดี ส่งฟรีถึงบ้านคุณ พร้อมรับประกันคืนสินค้าภายใน 15 วัน มามอบดีลและโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลดแร๊งแรง! พร้อมของสมนาคุณมากมาย กับ Crazy Brand Mega Offer เฉพาะ 2 ชั่วโมงแรก ตั้งแต่เที่ยงคืน - ตี 2 เท่านั้น และยังใช้ส่วนลดได้ถึง 6 ต่อ งานนี้พลาดไม่ได้แล้ว! รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https:// bit.ly/2TjIdtk
#3109


เฉลิมชัย เร่งเดินหน้าโครงการ "เกษตรกร Happy" ประสานไปรษณีย์และผู้ประกอบการเอกชน ขนส่งผลไม้ภาคใต้สู่ผู้บริโภคโดยตรง ปลื้มใจนายกรัฐมนตรีอุดหนุนผลไม้ช่วยเกษตรกรและส่งมอบให้บุคลากรด่านหน้า ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์จัดทำโครงการ "เกษตรกร Happy" โดย ขอความร่วมมือไปยังบริษัท ไปรษณีย์ไทยเปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษเร่งด่วนพร้อมกัน 105 สาขาใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนให้นำส่งผลไม้จากเกษตรกรถึงผู้รับในพื้นที่สีแดงทุกพื้นที่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทยจะเร่งกำชับไปรษณีย์ทุกสาขาดำเนินการตามข้อเสนอ

แต่การจัดส่งอาจช้ากว่าปกติ 1 วันเพราะต้องใช้สาขาปลายทางที่อยู่นอกพื้นที่สีแดงผลัดเวรกันส่งเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสบางคนของสาขาในพื้นที่สีแดงติดโควิด-19 โดยไปรษณีย์ไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อช่วยชาวสวน ซึ่งขอขอบคุณบริษัทไปรษณีย์ไทยและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่ร่วมมือ นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทเคอรรี่ ซึ่งตกลงที่จะเปิดบริการอีกครั้งเช่นกัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 เนื่องจากระบบขนส่งเป็นกลไกสำคัญในการค้าขายและระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตทั้งการค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์

          ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยเกษตรกร โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ ประสานกับหน่วยงานต่างๆ ช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งเมื่อวานนี้นายกฯ ซื้อผลไม้ทั้งมังคุดภาคใต้และลำไยภาคเหนือ แล้วส่งมอบเป็นกำลังใจไปให้กับเจ้าหน้าที่และจิตอาสาด่านหน้าด้วย

          นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว. เกษตรฯ เดินทางไปภาคใต้เพื่อช่วยแก้ไขขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และปัญหาการขาดแคลนแรงงานรวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าผลไม้(ล้ง)ทั้งค้าภายในและส่งออกให้ลงมาซื้อมังคุดด้วยมาตรการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องทำให้สถานการณ์เริ่มกระเตื้องขึ้น เช่นจังหวัดนครศรีธรรมราชมีล้งเข้ามาซื้อขายมังคุดและผลไม้เพิ่มขึ้นจาก 40 ล้งเป็น 146 ล้ง

นอกจากนี้สมาคมผู้ส่งออกทุเรียนมังคุดแจ้งว่า สามารถจองตู้คอนเทนเนอร์ที่จะส่งออกผลไม้ทางเรือได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคมซึ่งจะทำให้ลดการขนส่งทางรถไปประเทศจีนที่แออัดติดขัดที่ด่านโหยวอี้กวนและด่านโมฮ่านมีผล จนทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หมุนกลับมาภาคใต้ไม่ทันนั้นดีขึ้น หากตู้คอนเทนเนอร์ทยอยกลับมาขนมังคุดได้มากขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า จะทำให้การซื้อขายเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อราคาที่จะขยับตัวสูงขึ้น

          "ขอให้คนไทยช่วยกันอุดหนุนผลไม้ไทย ผ่าน facebook : Thailandpostmart และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย  ได้แก่ มังคุด จ.นครศรีธรรมราช เงาะ จ.สุราษฎร์ธานี และลำไย จ.พะเยา ด้วยการการตลาดแบบใหม่ใช้ช่องทาง  Line My Shop และ QR Code ให้ผู้ซื้อ/ลูกค้า ทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลไม้และราคาที่นำมาขายและสามารถสแกนซื้อที่ QR Code ของโครงการได้เลย โดยกระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนค่าขนส่งและค่ากล่องให้กับประชาชนที่สั่งซื้อผลไม้ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทยไปรษณีย์ไทย ซึ่งจัดส่งให้ฟรีทั่วไทยด้วย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร นอกจากนี้อาจส่งมอบแก่บุคลากรด่านหน้าเพื่อเป็นกำลังใจด้วย"นายเฉลิมชัย กล่าว

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อโรคของประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกมังคุดและผลไม้อื่น ๆ ของไทย ที่เกิดจากปัญหาการขนส่งล่าช้า การขาดแคลนตู้คอนเทรนเนอร์และตะกร้าใส่ผลไม้ รวมทั้งปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่ที่ทำได้ยาก การขาดแคลนแรงงาน และตะกร้ามีไม่พอเช่นกัน ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งระดับนโยบายและระดับพื้นที่ เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยกระจายมังคุดในประเทศ

เชื่อมโยงและกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิตโดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิตกิโลกรัมละ 3 บาทซึ่งกรมการค้าภายในโอนเงินให้จังหวัดดำเนินการจำนวน 50,850,000 บาทตามที่ฟรุ้มบอร์ดอนุมัติเพื่อกระจายมังคุดจำนวน 16,950 ตันออกนอกแหล่งผลิตอย่างเร่งด่วน
สนับสนุนค่าขนส่งสำหรับผลไม้ที่ส่งผ่านไปรษณีย์กรมการค้าภายในร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทยสนับสนุนกล่องไปรษณีย์และสติกเกอร์ส่งฟรีผลไม้ทั่วประเทศส่งเสริมการขายผ่านออนไลน์แก่เกษตรกรรายย่อยจำนวน 20,000 กล่องกล่องละ 10 กิโลกรัมเพื่อช่วยกระจายผลเม้ 2000 ตันโดยได้จัดส่งกล่องพร้อมสติกเกอร์ให้จังหวัดต่างๆ แล้ว
เชื่อมโยงผู้รับซื้อของกรมการค้าภายในให้ช่วยเร่งระบายมังคุดเกรดรองหรือตกเกรดออกจากแหล่งผลิตโดยเร่งด่วน กรณีเกิดปัญหาระบายมังคุดไม่ทันในบางพื้นที่.
#3110


วันที่ 4 ส.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยรายชื่อจังหวัดที่มีคำสั่ง และประกาศให้มีการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่รวม 62 จังหวัด จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564 เวลา 15.00 น. ประกอบด้วย

• ภาคเหนือ 17 จังหวัด

1. กำแพงเพชร

2. เชียงราย

3. เชียงใหม่


4. ตาก

5. นครสวรรค์

6. น่าน

7. พะเยา

8. พิจิตร

9. พิษณุโลก

10. เพชรบูรณ์

11. แพร่

12. แม่ฮ่องสอน

13. ลำปาง

14. ลำพูน

15. สุโขทัย

16. อุตรดิตถ์

17. อุทัยธานี

• ภาคกลาง-ตะวันออก 14 จังหวัด

1. กาญจนบุรี

2. จันทบุรี

3. ฉะเชิงเทรา

4. ชัยนาท

5. นครนายก

6. ประจวบคีรีขันธ์

7. ปราจีนบุรี

8. ระยอง

9. ราชบุรี

10. ลพบุรี

11. สระบุรี

12. สิงห์บุรี

13. สุพรรณบุรี

14. อ่างทอง

ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท

• ภาคใต้ 11 จังหวัด

1. กระบี่

2. ชุมพร

3. ตรัง

4. นครศรีธรรมราช

5. พังงา

6. พัทลุง

7. ยะลา

8. ระนอง

9. สงขลา

10.สตูล

11. สุราษฎร์ธานี

• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด

1. กาฬสินธุ์

2. ขอนแก่น

3. ชัยภูมิ

4. นครราชสีมา

5. นครพนม

6. บึงกาฬ

7. บุรีรัมย์

8. มหาสารคาม

9. มุกดาหาร

10. ยโสธร

11. ร้อยเอ็ด

12. เลย

13. ศรีสะเกษ

14. สกลนคร

15. สุรินทร์

16. หนองคาย

17. หนองบัวลำภู

18. อำนาจเจริญ

19. อุดรธานี

20. อุบลราชธานี
#3111


"โตโน่" ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักแสดงชื่อดัง และผู้เล่นสโมสร ราชบุรี เอฟซี พร้อมด้วยแฟนสาว "ณิชา" ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ได้มอบเงินสนับสนุนให้กับ กำแพงเพชร เอฟซี ในศึกไทยลีก 3

โดย "โค้ชเศก" เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสร กำแพงเพชร เอฟซี เปิดเผยว่า "โตโน่" ภาคิน กับแฟนสาวได้มอบเงินสำหรับสนับสนุนสโมสร ซึ่งสโมสรก็พร้อมตอบแทนด้วยการพิมพ์ชื่อทั้งคู่ไว้ในชุดแข่งของสโมสร

"ขอบคุณน้องโตโน่กับน้องณิชาที่สนับสนุนสโมสรกำแพงเพชรเอฟซีครับ มิตรภาพระหว่างการเก็บตัวช่วงการแข่งขัน ACL ทำให้โตโน่ ภาคิน สอบถามถึงแนวทางการทำทีมของผม ประกอบการดูรายการ PERSPECTIVE ทำให้น้องเขาอยากช่วยเหลือให้ทีมขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยต้องการนำทีมฟุต. "แข้งข้าวเหนียว" ทีมดารามาเตะเพื่อหาทุนช่วยเหลือทีม แต่ก็ต้องระงับโครงการไว้ก่อนเนื่องจากโควิดระบาด"

"เมื่อวานคู่รักทั้ง 2 คนได้มอบงบประมาณสนับสนุนทีมจำนวนหนึ่งผ่านบัญชีของบริษัทกำแพงเพชรฟุต.คลับจำกัด ทางสโมสรกำแพงเพชร เอฟซี จึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้และขออนุญาตนำชื่อคู่รักมาใส่ที่เสื้อทั้ง 4 สีของสโมสรครับ"

สำหรับ "โค้ชเศ" เศกสรร ศิริพงษ์ รับหน้าที่กุนซือชั่วคราวของ ราชบุรี เอฟซี ระหว่างศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 เนื่องจากมีใบอนุญาตโค้ชระดับ โปร ไลเซนส์ และมีโอกาสร่วมงานกับ "โตโน่" ภาคิน ที่เซ็นสัญญาเป็นนักฟุต.อาชีพครั้งแรกกับทีม "ราชันมังกร" นั่นเอง
#3112


ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในเช้าวันนี้ โดยบางส่วนได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากข่าวความคืบหน้าในการผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,446.78 จุด ลดลง 17.51 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,580.03 จุด ลดลง 200.99 จุด หรือ -0.72% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,289.06 จุด เพิ่มขึ้น 53.26 จุด หรือ +0.20%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ขณะที่ภาครัฐและเอกชนของสหรัฐฯ ได้ประกาศกฎระเบียบใหม่ในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งรวมถึงการกำหนดให้พนักงานที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยแม้ว่าจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม และมีบริษัทหลายแห่งออกกฎบังคับให้พนักงานต้องฉีดวัคซีนก่อนที่จะเข้ามาทำงานในออฟฟิศ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 59.5 ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 60.9 หลังจากแตะระดับ 60.6 ในเดือน มิ.ย. โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของคำสั่งซื้อใหม่

นักลงทุนจับตาการผลักดันร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคของสหรัฐฯ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน American Jobs Plan จะช่วยสร้างงานหลายล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจและความเคลื่อนไหวของประเทศเอเชียในวันนี้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ค.ของเกาหลีใต้ และธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075732
#3113


ประชุม ศบค.สั่งเข้มเพิ่มล็อกดาวน์อีก 1 เดือน พร้อมเพิ่มเป็น 29 จังหวัด จากเดิม 13 จังหวัด เคอร์ฟิวห้ามออกจากบ้าน 3 ทุ่ม-ตี 4 งดบริการขนส่งข้ามจังหวัด แต่ปรับให้เปิดแคมป์ก่อสร้าง กทม.-ปริมณฑล ส่วนร้านอาหารในห้างกลับมาขายเดลิเวอรีได้อีกครั้ง

วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานในที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีการเสนอยกระระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จากเดิม 13 จังหวัดปรับเพิ่มเป็น 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่เพิ่มประกอบด้วย กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จากเดิม 53 จังหวัด ปรับลดลงเป็น 37 จังหวัด ประกอบด้วย กาพสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ

ขณะที่พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 10 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 12 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) จากเดิม 1 จังหวัดเป็นศูนย์ และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) คงเดิมคือศูนย์จังหวัด

สำหรับมาตราการป้องกันการควบคุมโรคโควิด-19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรนั้น พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จะเพิ่มมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น งดให้บริการขนส่งข้ามเขตจังหวัด และตั้งด่านสกัดระหว่างเขตจังหวัดเพื่อเป็นการจำกัดการเดินทาง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 5 คน ส่วนศูนย์การค้า คอมมูนิตีมอลล์ ห้างสรรพสินค้า หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดบริการได้เฉพาะร้านอาหาร เครื่องดื่มให้บริการผ่านระบบเดลิเวอรี และร้านยา เวชภัณฑ์เปิดได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ร้านเสริมสวย ร้านนวด สถานเสริมความงาม สถานที่เล่นกีฬา หรือแข่งขันกีฬายังปิดให้บริการทั้งหมด ขณะที่สถานศึกษาทุกระดับ และสถาบันกวดวิชาห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ยังคงมาตรการเดิม ทั้งนี้ เบื้องต้นจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 -31 ส.ค.นี้

อสังหาฯ เฮ! ศบค.ผ่อนปรนเปิดแคมป์คนงานได้แล้ว

สำหรับในสถานประกอบกิจการประเภทโรงงาน แคมป์แรงงานบริษัทจะต้องควบคุมในรูปแบบการป้องกันควบคุมโรคเฉพาะพื้นที่ หรือ Bubble and Seal ส่วนแคมป์ก่อสร้างเขตพื้นที่ กทม. และปริมณฑลให้ดำเนินกิจการได้ภายใต้มาตรการ Bubble and Seal หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปิดการดำเนินการ ทั้งนี้ การยกระดับและผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวจะมีประเมินใน 2 สัปดาห์หลังออกประกาศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แคมป์คนงานก่อสร้าง เป็นหนึ่งในคลัสเตอร์ที่เกิดการระบาดของเชื้อไวโควิด-19 จนทำให้ ศบค.ได้ออกมาตรการปิดแคมป์คนงานชั่วคราวตลอดเดือน ก.ค. ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากในบางโครงการอยู่ในระหว่างตกแต่งห้องชุดหรือที่อยู่อาศัยแนวราบเพื่อเตรียมส่งมอบให้ลูกค้า การชะลอและหยุดโครงการตลอดเดือน ก.ค.ส่งผลให้รายได้ของบริษัทอสังหาฯ ลดลง

โดยการปิดแคมป์ครั้งนี้ (ก.ค.) หากประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากตัวเลขมูลค่าตลาดอสังหาฯ ทั้งแนวราบและแนวสูงในประเทศไทยปีละ 9 แสนล้านบาท หารด้วย 12 เดือน เดือนหนึ่งตกประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการหยุดการก่อสร้าง ที่ยังไม่รวมถึงอุตสาหกรรมต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำที่ต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075245
#3114


กระทรวงสาธารณสุข เผยการทำ Home Isolation , Community Isolation ในผู้ติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย ซึ่งพบร้อยละ 85 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ช่วยลดการใช้เตียงในโรงพยาบาล ช่วยผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลางและรุนแรง หรือกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลเต็มที่

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับมาตรการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค จากสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดได้รวดเร็ว ทำให้พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ความต้องการเตียงจึงมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด มีประมาณร้อยละ 15 ที่มีอาการปานกลางหรืออาการรุนแรง ต้องรับไว้ในโรงพยาบาลและต้องการใช้เครื่องมือแพทย์ ซึ่งส่วนมากอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง รวมถึงคนอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่อีกร้อยละ 85 จะมีอาการเล็กน้อยหรือไม่มีอาการเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาล ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน ทำลายเชื้อโรคได้ดี สามารถทำ Home Isolation อยู่ที่บ้านได้ และต้องทำการกันป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อสู่คนในครอบครัวรวมทั้งพี่น้องที่อยู่ด้วย แต่หากไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้ จะนำมาอยู่รวมกันเป็น Community Isolation โดยให้ชุมชนช่วยกันดูแล เพื่อจะได้มีเตียงเพียงพอสำหรับให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง สีแดงได้รับการดูแลอย่างเต็มที่

นายแพทย์ธงชัยกล่าวต่อว่า หลังทราบผลการติดเชื้อ ให้ตรวจสอบอาการตนเอง หากไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำๆ ไม่มีอาการหายใจเร็ว หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ สามารถอยู่ที่บ้านได้ ให้โทรไปได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 จะได้รับการติดต่อกลับพร้อมนำชุดเซ็ตในการดูแลตัวเองที่บ้านไปให้ เช่น ปรอท ที่วัดออกซิเจน ยาฟ้าทะลายโจร หรือยาฟาวิพิราเวียร์ทานที่บ้านได้เลย และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อประสานติดตามอาการวันละ 2 ครั้ง หากเริ่มมีอาการที่หนักขึ้น เช่น หายใจติดขัด ไอ แน่นหน้าอก ออกซิเจนต่ำ ก็จะมีรถไปรับ มารักษาที่โรงพยาบาล
#3115


หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ โดยคณะกรรมการบริการทางการเงิน หรือ FSC ได้ออกประกาศสั่งปิดเว็บกระดานเทรดสกุลเงินคริปโตในประเทศจำนวน 11 แห่ง เนื่องจากตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย

จากการรายงานของ The Korea Herald ระบุถึงแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมคริปโตว่าการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในพื้นที่เกาหลีกำลังจะถูกปิดตัวลง เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของประเทศได้ตรวจพบกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของพวกเขาเมื่อเร็วๆ นี้ และจะมีการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้

ตามแหล่งข่าวระบว่ากระดานเทรดจำนวน 11 แห่ง ที่ใช้บัญชีร่วมที่ฉ้อโกงจะต้องปิดตัวลงเนื่องจากคณะกรรมการบริการทางการเงินวางแผนที่จะหยุดการทำธุรกรรมและแจ้งกิจกรรมที่ผิดกฎหมายให้กับอัยการและตำรวจ อย่างไรก็ดีชื่อของกระดานเทรดเหล้านั้น ยังไม่ถูกเปิดเผย อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นความยากลำบากสำหรับกระดานเทรดเหล่านั้นที่จะได้รับการอนุมัติให้กลับมาดำเนินงานโดย FSC ได้ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมกล่าว

ทั้งนี้ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่าการแลกเปลี่ยน crypto จะปิดตัวลงในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ ยกเว้นบริษัท crypto ยักษ์ใหญ่อย่าง Upbit, Bithumb, Coinone และ Korbit

ซึ่งประเด็นมาจากกฏระเบียบข้อกำหนดในการเปิดบัญชีชื่อจริงสำหรับลูกค้า ซึ่งเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับ การดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทแลกเปลี่ยนขนาดกลางหลายแห่งได้ประกาศแผนการที่จะปิดบริการหรือธุรกิจของตน เนื่องจากนักเทรดไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยชื่อจริง

ขณะที่ Darlbit ได้ประกาศเลิกกิจการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้ว หลังจากแจ้งลูกค้าเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าจะหยุดให้บริการฝากและถอนเงิน

ขณะที่ CPDAX ได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าจะปิดบริการในวันที่ 1 กันยายนนี้ ซึ่ง "ไม่ใช่มาตรการชั่วคราว แต่เป็นมาตรการถาวรในการปิดธุรกิจ สำหรับผู้ที่มี cryptocurrencies ในบัญชีจะต้องถอนออกก่อน 15:00 น. เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม" บริษัทกล่าว

ในส่วนของ Bitsonic ได้ประกาศผ่านช่องทางการส่งข้อความอย่างเป็นทางการของ Telegram เมื่อวันศุกร์ว่าจะหยุดให้บริการชั่วคราว โดยเตรียมที่จะมีการเจรจาเพื่อเสนอราคาในการต่ออายุระบบบริการ

"เมื่อเราต่ออายุเสร็จแล้ว เราคาดว่าจะบรรลุระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล" บริษัทกล่าว

ในส่วนของ ISMS อยู่ในช่วงของการเตรียมขั้นตอนในการจัดการข้อมูลของลูกค้าโดยจำกัดการละเมิดความปลอดภัยในเชิงรุก เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นอื่นที่จำเป็นสำหรับการแลกเปลี่ยนเพื่อดำเนินการในเกาหลี แต่คำถามยังคงอยู่ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปิดชั่วคราวหรือไม่

ทั้งนี้กระดานเทรดที่ถูกขึ้นบัญชีดำทั้ง 11 กระดานเทรดนั้นจะต้องได้รับการอนุมัติจาก FSC ภายในวันที่ 24 กันยายนสำหรับการดำเนินธุรกิจ แต่บริษัทกล่าวว่าจะได้รับ ISMS หลังจากหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมถึง 30 พฤศจิกายนเท่านั้น เนื่องจากไทม์ไลน์ไม่เพิ่มขึ้นและต้องใช้เวลามากในการบรรลุข้อตกลงด้านการจัดการ ISMS ขณะที่ในส่วนของ Bitsonic จะปิดตัวลงโดยพฤตินัย ตามข้อมูลภายในตลาด

ในขณะเดียวกัน โช เมียงฮี สมาชิกสภาคองเกรสของ People Power Party กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขยายระยะเวลาการรายงานกระดานเทรดในประเทศเกาหลีที่เปิดทำการจนถึงวันที่ 24 ธันวาคม

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านการเงินกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าการบังคับใช้จะเป็นไปตามแผนเดิมที่จะเสร็จสิ้นกระบวนการภายในวันที่ 24 กันยายนนี้ หลังจากที่ให้ระยะเวลาผ่อนผันไปแล้ว 6 เดือนตั้งแต่เดือนมีนาคม

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075282
#3116


ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังร่วงลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันสถานการณ์โควิด -19 ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตขยับขึ้นสูง การฉีดวัคซีนยังล่าช้า การบังคับใช้มาตราการเข้มข้นยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้หุ้นหลายกลุ่มทรุดหนัก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานที่หลายตัวทำราคา NEW LOW ในรอบปี 64 และอีกหลายตัวทำราคาลงมาใกล้เคียงกับ NEW LOW ในปี 63 อีกด้วย

1.PTT (บมจ.ปตท.) มาร์เกตแคป 992,564 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 34.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 45.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 44.50 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 23.20 บาท แล้วไปปิดที่ 28.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 47.75 บาท ก่อนปิดที่ 46.75 บาท (8 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 34.75 บาท เหลืออัพไซด์ 41.73% จากราคาเป้าหมาย 49.25 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลา โดย 5 วัน -3.47%, 20 วัน -11.46%, 60 วัน -13.12%, 120 วัน -7.95%, และ YTD -18.24%

2.OR (บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก) มาร์เกตแคป 333,000ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาปิด 27.75 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ซึ่งในปีนี้ เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 36.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 34.00 บาทในวันที่ 15 ก.พ.64

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 27.75 บาท เหลืออัพไซด์ 3.42% จากราคาเป้าหมาย 28.70 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -2.63%, 20 วัน -9.02%, 60 วัน -9.02% ส่วนถ้าเทียบจากราคา IPO ที่ 18.00 บาท ล่าสุด 27.75 บาท บวก 9.75 บาท หรือ +54.17%

3.TOP (บมจ.ไทยออยล์) มาร์เกตแคป 89,761 ล้านบาท ล่าสุด (30 ก.ค. 64) ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 44.00 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 66.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 64.25 บาท ในวันที่ 8 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 25.25 บาท แล้วไปปิดที่ 27.50 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 73.50 บาท ก่อนปิดที่ 70.00 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 44.00 บาท เหลืออัพไซด์ 44.32% จากราคาเป้าหมาย 63.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -6.88%, 20 วัน -19.27%, 60 วัน -25.74%,120 วัน -19.27%, YTD -15.38%

4.BGRIM (บมจ.บี.กริม เพาเวอร์) มาร์เกตแคป 102,972 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 39.00 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 39.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 56.00 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 55.25 บาทในวันที่ 13 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 27.25 บาท แล้วไปปิดที่ 36.25 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 69.25 บาท ก่อนปิดที่ 65.00 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 39.50 บาท เหลืออัพไซด์ 35.44% จากราคาเป้าหมาย 53.50 บาท อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -4.24%, 20 วัน -5.95%, 60 วัน -7.60%, 120 วัน -22.55%, YTD -18.56%

5.RATCH (บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง) มาร์เกตแคป 61,625 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 42.25บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 42.50 บาท ซึ่งในปีนี้ทำราคาสูงสุดระหว่างวัน 57.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 54.00 บาทในวันที่ 6 ม.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 39.50 บาท แล้วไปปิดที่ 50.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 76.50 บาท ก่อนปิดที่ 74.50 บาท (21 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 42.50 บาท เหลืออัพไซด์ 11.50% จากราคาเป้าหมาย 54.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน 20 วัน -7.10%, 60 วัน -15.84%, 120 วัน -14.14%, YTD -19.81%

6.PTG (บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี) มาร์เกตแคป 26,219 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค. 64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 15.50 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆ ปิดที่ 15.70 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 21.90 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 20.80 บาทในวันที่ 9 มี.ค.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 8.95 บาท แล้วไปปิดที่ 9.10 บาท 26 มี.ค.63 ส่วนสูงสุดทำได้ 19.30 บาท ก่อนปิดที่ 18.40 บาท (22 ก.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 15.70 บาท เหลืออัพไซด์ 46.50% จากราคาเป้าหมาย 23.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -5.42%, 20 วัน -15.14%, 60 วัน -21.89%, 120 วัน -8.72%,YTD -1.26%

7.ESSO (บมจ.เอสโซ่) มาร์เกตแคป 25,264 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาระหว่างวันต่ำสุด 7.20 บาท ทำ NEW LOW ในรอบปี 64 ก่อนจะดีดขึ้นเล็กๆปิดที่ 7.30 บาท ซึ่งในปีนี้เคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 9.40 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 9.05 บาทในวันที่ 16 ก.พ.64 และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 3.14 บาท แล้วไปปิดที่ 3.36 บาท (19 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 9.70 บาท ก่อนปิดที่ 8.90 บาท (6 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 7.30 บาท เหลืออัพไซด์ 7.12% จากราคาเป้าหมาย 7.82 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -1.35%, 20 วัน -11.52%, 60 วัน -14.62%, 120 วัน -12.57%, YTD -1.35%

8.EGCO (บมจ.ผลิตไฟฟ้า) มาร์เกตแคป 90,025 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 171.00 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุด 168.50 บาท (24 พ.ค.) ส่วนสูงสุดปีนี้คือ 213.00 บาท (6 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 161.00 บาท แล้วไปปิดที่ 210.00 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 350.00 บาท ก่อนปิดที่ 342.00 บาท (15 ม.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 171.00 บาท เหลืออัพไซด์ 78.07% จากราคาเป้าหมาย 304.50 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน +0.59%, 20 วัน -2.29%, 60 วัน -3.12%, 120 วัน -4.20%, YTD -11.17%

9.TTW (บมจ.ทีทีดับบลิว) มาร์เกตแคป 46,284 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 11.60 บาท ซึ่งในปี 64 ต่ำสุดระหว่างวัน 11.40 บาท แล้วไปปิดที่11.50 บาท (6 พ.ค.64) และเคยทำราคาสูงสุดระหว่างวันถึง 12.50 บาท ก่อนจะไปปิดที่ 12.30 บาท (11 ม.ค.64) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 11.00 บาท แล้วไปปิดที่ 11.30 บาท (17 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 14.70 บาท ก่อนปิดที่ 14.30 บาท (19 ก.พ.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค. 64 ปิด 11.60 บาท เหลืออัพไซด์ 20.69% จากราคาเป้าหมาย 14.00 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.85%, 20 วัน -0.85%, 60 วัน 0.00%, 120 วัน -4.92%, YTD -6.45%

10.GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์) มาร์เกตแคป 393,060 ล้านบาท ล่าสุด 30 ก.ค.64 ราคาปิด 33.50 บาท ซึ่งราคาตำสุดของปีนี้ 31.00 บาท (19 เม.ย.) ห่างจากต่ำสุด 2.50 บาท ก็จะเป็น NEW LOW ในรอบปี 64 ส่วนปีนี้เคยทำราคาสูงสุด 38.00 บาท (8 ม.ค.) และเมื่อย้อนดูเมื่อปี 63 ทำราคาต่ำสุดระหว่างวัน 22.35 บาท แล้วไปปิดที่ 26.79 บาท (13 มี.ค.63) ส่วนสูงสุดทำได้ 41.03 บาท ก่อนปิดที่ 38.81 บาท (21 พ.ค.63)

ราคาล่าสุด 30 ก.ค.64 ปิด 33.50 บาท เหลืออัพไซด์ 26.33% จากราคาเป้าหมาย 42.32 บาท ขณะอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังลบเกือบทุกช่วงเวลาโดย 5 วัน -0.74%, 20 วัน -2.19%, 60 วัน -2.90%, 120 วัน 0.00%, YTD -2.19%

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง มีสตอรี่และเป็นที่นิยมของนักลงทุนกันมาก แต่เมื่อเผชิญโควิด-19 รอบนี้ จึงถูกถูกกดดันหนัก จึงน่าจับตาว่า จะลงไปถึงจุดต่ำสุดเท่าไร และเมื่อไรกัน?

https:// m.mgronline.com/stockmarket/detail/9640000075283
#3117


เจอตอเข้าให้แล้ว "ไวท์" และครอบครัว แถลงข่าวทั้งน้ำตา สุดแค้นใจโดนคู่กรณีลูกชายข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรม ทำร้ายร่างกาย หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่นจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ อย่ามาอ้างว่าป่วยจิต

เป็นเรื่องเลยทีเดียว หลังจากนักแสดงวัยรุ่น "ไวท์ ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม" ออกมาโพสต์เดือด กรณีที่พ่อและแม่ของเจ้าตัวถูกคู่กรณีขับรถปาดหน้า และลงจากรถมาทำร้ายร่างกายกลางถนน โดยคุณพ่อโดนของแข็งตีที่หัว ส่วนคุณแม่ถูกตบหน้าจนหูอื้อ พร้อมกับโยนกระเป๋าของแม่ทิ้ง และโยนกุญแจรถทิ้ง ซึ่งหลังจากก่อเหตุคู่กรณีได้ขับรถหนีไปหน้าตาเฉย ทั้งยังออกมาโพสต์ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ผิด ท้าให้ไปคุยกันที่ศาล พร้อมกับส่งข้อความไปข่มขู่หนุ่มไวท์ ด่าเป็นดาราอย่าโง่

ล่าสุด วันนี้ (1 ส.ค. 64) หนุ่มไวท์ และคุณพ่อสุระศักดิ์ พุ่มโพธิงาม, คุณแม่นฤมล อริยานุวัฒน์ พร้อมทนายความส่วนตัว "นายไพศาล เรืองฤทธิ์" และ "ทนายพิพัฒน์ รำจวน" ได้เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน สุดงงโดนคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน ยอมรับกลัวจะไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกข้าราชการระดับสูง แต่ขอสู้ตายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ซึ่งระหว่างแถลงข่าว ไวท์ พ่อและแม่ ถึงกับร้องไห้ออกมา

พ่อ : "ผมก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรเขาครับ ตอนผมออกมาจากปั๊มน้ำมันก็เห็นรถเขาออกมา แต่ตอนออกมาเราก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พอออกมาตรงถนนเขาก็ขับมาจี้ตูดรถผม ผมก็ขับหนีเขา ตอนที่อยู่ในอุโมงค์เขาขับจี้รถท้ายผมแบบติดเลย จนภรรยาบอกว่าพอได้แล้วเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ ก็ปล่อยให้เขาไป เขาก็ขับตบมาหารถผมเพื่อให้ผมชน ผมก็เลยเบรก"

"พอผมเบรก เขาก็ขับออกไปอีกรอบแล้วไปดักหน้ารถผม แล้วขับตบเข้ามาหารถผมอีกแล้วเบรกเพื่อให้ผมชน พอผมขับรถชนเขา ผมก็ลดกระจกเพื่อจะถามเขา แต่ไม่ทันจะได้ถามเขาเลย เขาก็ต่อยผม แล้วตรงขมับซ้ายของผมก็เหมือนโดนอะไรแข็งๆ แล้วผมก็ต่อยเขา จนเขาเลือดไหล"

"พอเห็นเขาเลือดไหลผมก็เลยถอยออกมา แล้วก็มีคนมาห้าม ผมก็เลยบอกว่าพอแล้วน้อง น้องเลือดไหลแล้ว ผมไม่ทำน้องแล้ว เขาก็เอะอะโวยวาย เอาเท้าถีบรถผม กระทืบ แล้วก็เอากระเป๋าของภรรยาผมเขวี้ยงทิ้ง แล้วปิดกุญแจแล้วตบหน้าภรรยาผม ตอนที่เขาต่อยหน้าผม ผมก็แค้นนะ แต่อย่าไปทำเขา (เสียงสั่น จนไวท์ลูกชายต้องยื่นมือมาจับขาพ่อเพื่อปลอบใจ ในขณะที่ไวท์และแม่ก็ร้องไห้ออกมาเช่นเดียวกัน) ผมก็กลัวไวท์เสียชื่อเสียงด้วย ผมก็เลยหยุดเพราะผมก็ไม่อยากทำเขาอีกแล้ว"

"ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาทำผมทำไม ผมไม่ได้ปาดหน้าเขา ไม่ได้ไปทำอะไรเขาเลย เขามาทำแบบนี้กับผมทำไม ผมอยากถามเขาว่า มาทำผมทำไม ผมไม่ได้ไปทะเลาะอะไรกับเขาเลย ไม่ได้อะไรกับเขาสักอย่างเลยครับ พอเขาตบหน้าผมเขาก็ขับรถออกไป แล้วก็ถอยหลังมาชนรถผมอย่างแรง จนรถเลื่อนไปชนลูกน้องผมจนบริเวณเอวช้ำ แล้วเขาก็หนีเลย ผมก็เลยไปแจ้งความครับ"

"ตอนเขาลงมาจากรถ เขาไม่พูดอะไรเลย เขาต่อยอย่างเดียวเลย เหมือนเขาเป็นคนบ้า ตาเขา... แฟนเขายังบอกช่วยหนูด้วยๆ แฟนเขายังร้องไห้วิ่งหนีไปท้ายรถกระบะที่เห็นในคลิปเลยครับ พอจบแฟนเขาถึงวิ่งกลับมาพอเขาขึ้นรถไป"

พอไปแจ้งความตำรวจว่าไงบ้าง?
พ่อ : "เขาไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะว่าตอนแรกผมไม่รู้ทะเบียนรถเขาเพราะตกใจเลยจำไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่าเจอเขาที่ปั๊มน้ำมันก็เลยขับรถกลับไปที่ปั๊ม เพื่อขอดูคลิปที่ปั๊มก็เลยรู้ทะเบียนรถเขา ตอนที่อยู่ที่ปั๊มผมก็ไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ"

แม่ : "เหตุการณ์ตอนนั้นเขาขับรถมาเบรกเพื่อให้สามีชนรถเขา พอเขาชนเสร็จก็เหมือนที่สามีเล่าเลยค่ะ พอชนเสร็จเขาก็ลงมาจากรถ แล้วสามีก็ลดกระจกรถลง แล้วสามีก็ลงไปจากรถ แต่เรายังอยู่ในรถกับลูกน้อง พอลูกน้องบอกสามีเราโดนต่อย เราก็เลยลงไปจากรถเพื่อไปห้าม ก็บอกให้สามีออกมาเพราะเขาไม่ได้ใส่แมสก์ แล้วเราก็กลัวด้วย เราก็ต้องป้องกันตัวเอง เราก็ดันสามีออกมา คือขวางเลย"

"ก็ถามเขาวว่าพี่ไปทำอะไรให้น้องเหรอ ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้กับพี่ ถ้าเกิดแฟนพี่ทำอะไรไปพี่ขอโทษ แต่เขาไม่ฟังเราเลย เหมือนเขาทำสามีเราไม่ได้ เขาก็ไปคว้าเอากระเป๋าเราที่อยู่ในรถไปโยนทิ้ง พอโยนทิ้งเขาก็มาตบเราเลย เราพยายามบอกว่าพอได้แล้ว เราไม่อยากจะมีเรื่องแล้ว อยู่ดีๆ มาตบเรา ก็งงมากค่ะ ตบแรงจนเราหูอื้อเลยค่ะ อารมณ์เขารุนแรงมาก ตอนนั้นไม่มีการปะทะคารมอะไรกันเลยค่ะ"

พ่อ : "ไม่มีเลยครับ ผมยังงงเลยว่าไปทำอะไรเขา ถ้าผมไปทะเลาะกับเขา ผมยังจะเป็นคนผิด แล้วผมก็ไม่ได้ไปปาดหน้ารถเขา เพราะรถเขาอยู่หลังรถผม เขาขับมาจี้ท้ายรถผมจนเกิดเรื่องครับ ไม่มีชนวนเหตุอะไรเลย ฝากผ่านสื่อด้วยนะครับว่าผมไปทำอะไรให้เขา แล้วเขามาตบหน้าเมียผมทำไม (ร้องไห้) ถ้าคุณเป็นลูกผู้ชายคุณออกมาพูด"

พอได้ทราบเรื่องไวท์รู้สึกยังไง?
ไวท์ : "รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากครับ แต่ที่ผมเสียใจมากก็คือคู่กรณีตบแม่ผมครับ แล้วผมเพิ่งทราบครับว่าคู่กรณีคนนี้ได้เอาค้อนตีหัวพ่อผมครับ (ร้องไห้) ผมรู้สึกว่ามันไม่สมควรครับ และผมได้ทราบมาว่า คู่กรณีของพ่อเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมครับ ผมกลัวว่าถ้าวันนั้นพ่อและแม่ของผมเป็นอะไรขึ้นมา ใครจะช่วยเหลือผม ผมไม่รู้ว่าผมต้องทำยังไงเพราะผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุตรงนั้น"

"ผมรู้สึกเสียใจมากที่คู่กรณีคนนั้นทำแบบนี้กับครอบครัวผมครับ ผมอยากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผมด้วยครับ (เห็นไวท์บอกว่าขอให้ใครที่มีหลักฐานในวันนั้นส่งมาให้ด้วย?) ใช่ครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองอยากที่จะโพสต์สิ่งที่พ่อและแม่ผมได้เจอเรื่องราวนั้นมาเพื่อออกสื่อ ในการที่ใครที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นช่วยส่งคลิปหรือส่งหลักฐานสำคัญมาให้ผม ผมก็เลยตัดสินใจโพสต์ลงไปเพราะว่าผมเสียใจและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวแบบนี้กับครอบครัวผมครับ"

คู่กรณีอ้างว่า รู้จักไวท์ด้วย
ไวท์ : "พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมไม่รู้ครับ และผมก็ไม่เคยเจอและไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยครับ แล้วเขามาพูดว่าเขารู้จักเพื่อนผม อันนี้ผมรู้สึกว่า... คือเขาจะรู้จักหรือไม่รู้จัก เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับครอบครัวใครก็ได้แบบนี้ครับ"

มีคนส่งหลักฐานมาให้บ้างรึยัง?
พ่อ : "มีคนส่งมาให้แล้วครับ แต่เราขอปิดไว้ก่อนครับ"

พอไวท์เห็นภาพหลักฐานที่คนส่งมาให้ ไวท์รู้สึกยังไงบ้าง?
ไวท์ : "ผมเข้าใจครับว่า คุณพ่อผมและคู่กรณีคนนี้เขาอาจจะรู้สึกว่าบนท้องถนน อาจจะผิดทั้งคู่ในการที่ขับรถประมาทในระดับนึง แต่อย่างที่คุณพ่อผมบอกว่าไม่ได้ไปหาเรื่องเขา แล้วในเหตุการณ์ที่คุณแม่ผมโดนตบ คุณแม่ผมแค่จะเข้าไปห้ามเขา แต่ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายคู่กรณี ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่คุณแม่ผมจะต้องโดนตบครับ แล้วเขายังมาทำลายข้าวของในรถ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า และกุญแจรถด้วยครับ"

คู่กรณีไปคอมเมนต์ด้วยว่าเรื่องจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันหนังคนละม้วน เดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล ด้านทนายยอมรับว่ารู้สึกกังวลเพราะพ่อของคู่กรณีเป็นข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม
ทนายไพศาล : "เบื้องต้นทางทีมทนายเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ผมทราบจากข่าวว่าคู่กรณีเคยมีข่าวเรื่องการทำร้ายพนักงานร้านโทรศัพท์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดซ้ำซาก ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และทราบมาว่าเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทีมทนายเราก็มีความกังวลในเรื่องของการทำคดี เริ่มต้นตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน"

"แต่ยังไงก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์บนท้องถนนครับ เพราะว่าพฤติการณ์และพฤติกรรมไม่ยำเกรงกฏหมายเลย มีการจงใจขับรถหวาดเสียว ปาดหน้า แล้วถอยหลังมาให้ชน ซึ่งพยานหลักฐานทั้งหมดเราจะไปพิสูจน์กันในศาล (หลักฐานที่เรามีเรามั่นใจมั้ยว่าจะชนะคดี?) ก็ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินครับ ต้องอธิบายแบบนี้ว่า จากที่ทราบในข่าวทางคู่กรณีมีการกระทำผิดหลายครั้งแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะมั่นใจ แต่ในทางเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และเราเชื่อว่าเราเป็นผู้บริสุทธิ์แล้วเขาจะต้องได้รับการลงโทษ อันนี้ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลตามพยานหลักฐาน ทางผู้เสียหายยืนยันแล้วว่าดำเนินคดีถึงที่สุดแน่นอน"

"เบื้องต้นเราได้ข้อมูลมาว่ามีการใช้ค้อนเป็นอาวุธในการทำร้ายด้วย ซึ่งสามารถเล็งเห็นได้ว่าเขาประสงค์ให้มีการบาดเจ็บสาหัส หรือประสบถึงชีวิต ซึ่งในข้อกว่าหาตรงนี้อยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวนครับ แต่ข้อกล่าวหาหลักๆ เลยคือทำร้ายร่างกายคุณแม่ และการขับรถประมาทหวาดเสียว"

ข้อกล่าวหาทั้งหมดโทษหนักแค่ไหน?
ทนายไพศาล : "ข้อกล่าวหาที่คุณทนายแจ้งไปนั้นยังเป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่หนัก แต่ข้อกล่าวหาเบื้องต้นที่มีการใช้ค้อนในการตีไปที่อวัยวะสำคัญ มันเป็นข้อหาหนักแต่ขอยังไม่บอก เดี๋ยวขอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งพฤติการณ์พฤติกรรมไม่ยำเกรงต่อกฏหมายบ้านเมือง คือไม่สำนึก แล้วทราบจากข่าวคู่กรณีเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงของกระบวนการยุติธรรมด้วย ซึ่งผู้เสียหายก็มีความกังวลในเรื่องของคดีว่าเขาจะได้รับความยุติธรรมไหม"

คู่กรณีอ้างป่วย
"แล้วที่ผมทราบจากข่าวเขาอ้างตนว่าป่วย แต่ในตอนที่เกิดเหตุมีสติพูดรู้เรื่องหมดนะ ฉะนั้นมันอ้างไม่ได้ มันฟังงไม่ขึ้นนะครับ หลังเสร็จรูปคดีทางนี้จะแถลงข่าวอีกครั้งครับ แต่คดีนี้มีโทษหนักแน่นอน เพราะอาวุธที่ใช้ตีไปที่อวัยวะสำคัญด้วย ประสงค์ต่อผลเลยนะครับ อาจจะถึงชีวิตเลย แล้วทราบจากข่าวว่าเขาเคยก่อเหตุแบบนี้มาแล้ว และมีการยอมรับผิดแล้ว และมีการให้ข่าวไปแล้วว่าจะไม่ทำอีก แต่ก็ยังทำอีกนะครับ พฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก ไม่สำนึกไม่ยำเกรงกฎหมาย แล้วยังเป็นลูกของข้าราชการระดับสูงด้วย เดี๋ยวต้องพิสูจน์กันในศาลครับ"

"ก็ต้องฝากสื่อให้ช่วยติดตามครับ ผมขอยกตัวอย่างไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ถ้ามีบุคคลยกตัวว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้มีอำนาจ เป็นคนรวย แล้วจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ผมถามกลับนักข่าวว่ามันทำได้หรือไม่ มันถูกต้องไหม สังคมจะอยู่ยังไง ความสงบเรียบร้อยในสังคมจะเกิดยังไง"

"อีกประเด็นนึง ถ้ามีการกล่าวอ้างว่าป่วย มีบัตรจิตเวช มีการได้รับการรักษา แล้วปล่อยปละให้ออกมาทำแบบนี้ในสังคม ไปทำคนอื่น แล้วเราจะอยู่กันยังไงครับ คนป่วยต้องได้รับการรักษานะครับ ต้องมีผู้ดูแลนะครับ ผมสมมตินะครับว่าถ้าเขาไปโดนคนอื่นทำร้ายจนถึงตาย โดนกระทืบตายข้างถนน แล้วผู้ดูแลเขาจะไม่เสียใจเหรอครับ ฉะนั้น ผมอยากให้ดูแลพาไปรักษาครับ แต่อันนี้มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นในส่วนของรูปคดี เพราะการกระทำมีสติ พูดรู้เรื่องทุกอย่างนะครับ"

หลังจากที่ไวท์โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คู่กรณีก็ไดเรกแมสเสจมาหา
ไวท์ : "หลังจากที่ข่าวลงไป เขาได้ส่งไดเรกแมสเสจมาหาผม และได้เข้ามาโพสต์ไอจีผมต่างๆ นานา ผมก็กลัวครับ ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูงก็ยิ่งกลัวครับ เขาก็ส่งข้อความมาว่า เป็นดาราอย่าโง่ มึงคิดว่าพ่อแม่มึงถูกมากใช่ไหม ไปคุยกันในชั้นศาล เดี๋ยวคุณก็รู้ เขาก็ขู่ในทำนองนั้นครับ (ไวท์รู้สึกว่าข้อความที่เขาส่งมาส่วนตัวเป็นการข่มขู่เรา?) ใช่ครับ"

ทนายไพศาล : "ทางครอบครัวกลัวมากนะ เขาเป็นลูกข้าราชการระดับสูง หนึ่งกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม สองกลัวรูปคดีไม่เป็นข้อเท็จจริง วันนี้หลังจากแถลงข่าวเสร็จทางทีมทนายจะพาผู้เสียหายไปให้การเพิ่มเติมที่ สน.ท้องที่เกิดเหตุครับ อยากให้สื่อมวลชนสร้างบรรทัดฐานให้สังคมครับ ยอมรับว่าทางทีมทนายก็กังวล มันอาจจะมีผล แต่เหนืออื่นใดคือข้อเท็จจริงครับ ความจริงก็คือความจริงครับ อยากให้สังคมและสื่อมวลชนช่วยจับตาดูคดีนี้ว่าจะจบยังไง เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก มันหลายครั้งแล้ว"

ไม่ขอไกล่เกลี่ย เอาเรื่องให้ถึงที่สุด
พ่อ : "ไม่ครับ ผมจะทำให้เขารู้ว่าอย่าไปทำกับคนอื่นอีก เพราะผมเห็นเขาทำกับคนอื่นมาหลายครั้งแล้ว ผมอยากจะฝากบอกเขาว่าออกมาพูดความจริง แล้วคุณทำผมเพื่ออะไร ผมไม่ได้ไปทำอะไรคุณเลย ผมอยากจะถามเขาว่าคุณมาทำผมทำไม แค่นี้เองครับ (ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?) ครับ"

ไวท์ : "เขาทะเลาะกับพ่อผม ผมเข้าใจ แต่ที่ผมไม่เข้าใจก็คือเขาตบแม่ผม ผมเสียใจมากและผมจะดำเนินคดีเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดครับ (อยากบอกอะไรเขา?) อย่างที่คุณบอกกับพี่นักข่าวเมื่อวานว่า ถ้าคุณรู้ว่าสองคนนี้คือพ่อแม่ของผมแล้วคุณจะไม่ทำ มันไม่ใช่หรอกครับ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่น คุณก็ไม่สมควรทำครับ"
 
#3118



ในงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ณ อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี ประชาชนที่สนใจรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป รับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ AM ความถี่ 891 กิโลเฮิรตซ์ และสามารถรับชมผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th แอปพลิเคชันของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล "GLO Lottery official" ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนแล้วทำรายการซื้อสลากงวดวันที่ 16 สิงหาคม 2564 ในวันที่ 4 สิงหาคม 2564 และจองล่วงหน้าสลากงวดวันที่ 1 กันยายน 2564 ในวันที่ 5-6 สิงหาคม 2564 ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารกรุงไทย

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดให้ลงทะเบียนจองคิวเพื่อขอรับเงินรางวัลสลากงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th หรือแอปพลิเคชัน GLO Lottery โดยเริ่มจองคิวได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ถูกรางวัลได้รับบริการที่สะดวกและเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ผู้ถูกรางวัลสามารถรับเงินรางวัลได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถขึ้นเงินรางวัลงวดปัจจุบันได้ทุกรางวัลยกเว้นรางวัลที่ 1 โดยมีค่าธรรมเนียมการให้บริการจากผู้ขอรับเงินรางวัล ในอัตราร้อยละ 1 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 0-2528-9999

สำนักงานสลากฯ ขอเตือนตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อจองล่วงหน้าฯ การนำสลากไปขายต่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือเว็บไซต์ต่างๆ เป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขในสัญญา และหลักเกณฑ์การรับสลากไปจำหน่าย

สำนักงานสลากฯ ขอเตือนผู้ซื้อสลาก การซื้อสลากผ่านช่องทางดังกล่าว หากยังไม่ได้รับสลากมาไว้ในครอบครอง เมื่อถูกรางวัลท่านอาจไม่สามารถนำสลากมารับเงินรางวัลได้

https:// www.thairath.co.th/news/local/2150636
#3119



การประชุมคณะกรรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปี 2564 – 2566 เพื่อรองรับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติระยะที่ 2 โดยกำหนดโควตาให้นำเข้าในปี 2564 จำนวน 4.8 แสนตันต่อปี ส่วนปี 2565 นำเข้าได้ 1.74 ล้านตันต่อปี และปี 2566 นำเข้าได้ 3.02 ล้านตันต่อปี

เมื่อภาคนโยบายกำหนดปริมาณการนำเข้าที่ชัดเจนตามข้อสั่งการของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมเชื้อแพลิงธรรมชาติ และบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT พิจารณากำหนดปริมาณการนำเข้า LNG ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และให้ กกพ. บริหารความสามารถของ LNG Terminal และทบทวนความเหมาะสมของ TPA Regime และ TPA Code 

ทั้งนี้ ให้ กกพ. เป็นผู้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางในการพิจารณาการดำเนินงานให้เป็นไปตามรูปแบบการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่า การนำเข้า LNG ของผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper)รายใหม่ จะดำเนินการได้ทันภายในไตรมาส 3 ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมในหลายเรื่อง เช่น การประชุม กบง. และกพช.นัดถัดไป ซึ่งก็ต้องลุ้นว่า จะเกิดขึ้นในไตรมาส 3นี้ หรือไม่ จากเดิมกำหนดจะประชุมในไตรมาส 2 รวมถึง แผนบริหารจัดการนำเข้า LNG ของ กกพ. หลัง กบง. อนุมัติโควตาช่วง 3 ปีแล้ว จะสามารถจัดทำวิธีการปฏิบัติได้เสร็จทันหรือไม่

หลังได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า ขณะนี้ กกพ. ประสานขอตารางการจอง LNG Terminal ที่ว่างอยู่ ของ ปตท. เพื่อจัดส่งให้ Shipper พิจารณาเลือกคิวที่ต้องการโดยเร็วที่สุด รวมถึง กกพ.จะส่งเอกสารให้ Shipper แต่ละราย ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการใช้สิทธิ์โควตานำเข้าในปริมาณเท่าไหร่ และห้ามมีเงื่อนไขโดยเด็ดขาด ซึ่งจะพยายามดำเนินการให้เสร็จภายในกลางเดือน ส.ค.นี้ เพื่อจะได้มีเวลานำเข้า LNG ได้ทันโควตาในปีนี้


"เท่าที่ทราบ บอร์ด กกพ. เมื่อเร็วๆนี้ ยังไม่อนุมัติให้ผู้ Shipper รายใด นำเข้า LNG ตามโควตา 4.8 แสนตันในปีนี้ เพราะ Shipper บางรายตั้งเงื่อนไข เช่น จะนำเข้า LNG หากราคาอยู่ในระดับที่ต้องการ หรือจะนำเข้า LNG ก็ต่อเมื่อจอง LNG Terminal จาก ปตท. ได้ก่อน ทำให้ กกพ.ต้องเข้มหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อป้องกันกรณี Shipper ไม่นำเข้า LNG ตามจริง ซึ่งอาจทำให้ประเทศประโยชน์ได้"


แหล่งข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ระบุว่า สำนักงาน กกพ. อยู่ระหว่างเตรียมส่งเอกสารถึง Shipper ทั้ง 7 ราย อีกครั้ง เพื่อให้ยืนยันปริมาณความประสงค์ที่จะนำเข้า LNG และจัดส่งตารางจอง LNG Terminal พร้อมใบเสร็จชำระค่าจองใช้ LNG Terminal ที่ชัดเจนมายังกกพ. ก่อนที่จะอนุมัติสิทธินำเข้าในปีนี้

ส่วนปี 2565 ที่มีโควตานำเข้า อยู่ที่ 1.74 ล้านตัน ทาง กกพ. เตรียมพิจารณาออกบทลงโทษหาก Shipper ยื่นขอใช้สิทธิแต่ไม่นำเข้ามาจริง เช่น หาก Shipper ไม่สามารถจัดหา LNG มาส่งให้กับลูกค้าโรงไฟฟ้าได้ ขั้นแรกต้องไปยืม LNG จาก Shipper รายอื่น แต่หากยังไม่สามารถยืมได้ และจะหันมาซื้อก๊าซฯ จาก ปตท. ในระบบ จะต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่ม เป็นต้น โดยการกำหนดบทลงโทษนี้ จะเสนอ กพช. พิจารณาอนุมัติใช้ในการประชุมนัดถัดไป

สำหรับ Shipper ทั้ง 7 ราย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.),บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน),บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด,บริษัท บี.กริม แอลเอ็นจี จำกัด,บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป, บริษัท PTT Global LNG Company Limited หรือ PTTGL และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG


นางราณี โฆษิตวานิช รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยืนยันว่า กฟผ.มีความพร้อมที่จะนำเข้า LNG ในปีนี้ ตามปริมาณที่เคยแจ้งต่อ กกพ.ไปแล้ว อยู่ที่ ประมาณ 3 แสนตัน ซึ่งในส่วนของการจอง LNG Terminal นั้น ในส่วนของ กฟผ.ได้ดำเนินการจองคลังก๊าซฯภายใต้โควตา 1.5 ล้านตันไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นในส่วนของประเด็นนี้สำหรับกฟผ.ไม่น่าจะมีปัญหา

"กฟผ.เราพร้อมมาก หาก กกพ.อนุมัติปริมาณนำเข้า และ กบง.เห็นชอบแล้ว ทาง กฟผ.ก็พร้อมออก TOR เปิดประมูลจัดหาฯ LNG ทันที ซึ่งปริมาณนำเข้า 3 แสนตัน น่าจะมีมูลค่าราว 4-5 พันล้านบาท"

อย่างไรก็ตาม ตามแผนเดิมนั้น กฟผ.จะเริ่มทยอยนำเข้า LNG ตั้งแต่เดือน ส.ค. ถึงเดือน ต.ค.ปีนี้ แต่ขณะนี้กระบวนการอนุมัติจากภาครัฐยังไม่เกิดขึ้น ฉะนั้น คาดว่า เดือน ส.ค.นี้ คงนำเข้า LNG ไม่ทัน และน่าจะเริ่มนำเข้าได้ในช่วงเดือน ก.ย.นี้ เป็นต้นไป ก็อาจส่งผลให้ปริมาณนำเข้า LNG ปีนี้ ลดลงจากแผนบ้าง ส่วนปีหน้าก็ยังคาดหมายที่จะนำเข้าในปริมาณ 1.2-1.3 ล้านตันต่อปี

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951931
#3120



สงครามต่อสู้กับโควิด-19 เปลี่ยนไป สืบเนื่องจากตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก จากคำกล่าวของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) ส่งสารอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการบังคับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนและกลับมาสวมหน้ากากโดยทั่วไป ท่ามกลางข้อมูลที่พบว่ามีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ(breakthrough cases) จำนวนมาก ในนั้นติดเชื้ออาการหนักและเสียชีวิตแล้วกว่า 6,500 ราย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงเอกสารภายในของซีดีซีระบุว่าตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียและตอนนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก สามารถติดต่อได้ง่ายพอ ๆ กับ โรคอีสุกอีใส และสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วและง่ายกว่าไข้หวัด มันสามารถแพร่กระจายเชื้อได้แม้กระทั่งจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว และอาจเป็นต้นตอของอาการป่วยหนักกว่าสายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

เอกสารที่มีชื่อว่า "ปรับปรุงการสื่อสารเกี่ยวกับเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อและประสิทธิภาพของวัคซีน (Improving communications around vaccine breakthrough and vaccine effectiveness)" ระบุว่าด้วยตัวกลายพันธุ์นี้ จำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่เพื่อช่วยให้ประชาชนตระหนักถึงอันตราย ในนั้นรวมถึงส่งสารอย่างชัดเจนว่าบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 10 เท่า

"ยอมรับว่าสงครามเปลี่ยนไปแล้ว" เอกสารระบุ "ปรับปรุงการสื่อสารเกี่ยวกับความเสี่ยงรายบุคคลในหมู่คนฉีดวัคซีนแล้ว"

ในคำแนะนำด้านมาตรการป้องกันไว้ก่อนต่างๆนานานั้น รวมไปถึงการบังคับฉีดวัคซีนสำหรับผู้ประกอบอาชีพด้านสาธารณสุข เพื่อปกป้องกลุ่มคนอ่อนแอ และหวนกลับมาสวมหน้ากากป้องกันโดยทั่วไป

ซีดีซียอมรับว่าเอกสารฉบับนี้เป็นของจริง หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์นำเสนอรายงานข่าวนี้เป็นแห่งแรก

แม้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วมีความเป็นไปได้น้อยที่จะติดเชื้อ แต่ครั้งที่พวกเขาติดเชื้อตัวกลายพันธุ์เดลตาในลักษณะ breakthrough cases เวลานี้พวกเขาก็เหมือนๆกับคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ที่สามารถแพร่เชื้อสู่คนอื่นๆได้เช่นกัน ซึ่งต่างจากตัวกลายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

กรณีนี้นับว่าน่ากังวลมาก เพราะผู้ที่ได้รับวีคซีนแล้วติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา คือกลุ่มที่เป็นตัวแปรสำคัญในการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แล้วได้รับเชื้อจากคนกลุ่มนี้ ยิ่งเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรง

เมื่อวันศุกร์(30ก.ค.) ซีดีซีเผยแพร่ข้อมูลจากผลการวิจัยหนึ่งซึ่งศึกษาการแพร่ระบาดในรัฐแมสซาชูเซตส์ พบว่า 3 ใน 4 ของผู้ติดเชื้อ เป็นกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญยิ่งในการตัดสินใจของซีดีซีเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่แนะนำให้บุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วกลับมาสวมหน้ากากในบางสถานการณ์ จากการเปิดเผยของโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซี

ซีดีซีรายงานว่าจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคม มีเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้อ(breakthrough cases)อาการหนักหรือเสียชีวิต 6,587 ราย ในขณะที่ซีดีซีหยุดรายงานเคสฉีดวัคซีนครบแล้วแต่ยังติดเชื้ออาการเล็กๆน้อยๆมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ในรายงานล่าสุด พวกเขาประมาณการว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อแบบแสดงอาการราวๆ 35,000 รายต่อสัปดาห์ในสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามตัวเลขของซีดีซียังชี้ให้เห็นว่า วัคซีนนั้นยังมีความสามารถในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์เดลตา โดยที่นายจอห์น มัวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาจากนิวยอร์ก กล่าวว่า "โดยรวมแล้ว โควิดสายพันธุ์เดลตานั้นคือสายพันธุ์ที่สร้างความลำบากให้เรามากที่สุดเท่าที่เห็นมา แต่ฟ้าก็ยังไม่ถล่มเสียทีเดียว และวัคซีนนั้นก็ยังสามารถป้องกันไม่ให้สถานการณ์มันแย่ไปมากกว่านี้"

เวลานี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่สหรัฐฯเกือบ 1 ใน 3 ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว แต่พื้นที่ต่างๆที่มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำ พบเห็นเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เกรงว่าอีกไม่นานจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเสียชีวิตจำเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์ คาดหวังว่าวัคซีน ซึ่งเวลานี้เพิ่งอยู่ในขั้นได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉิน จะเริ่มได้รับอนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบโดยสมบูรณ์ในเดือนสิงหาคม ซึ่งมันน่าจะช่วยโน้มน้าวให้ประชาชนเข้าฉีดวัคซีนกันมากขึ้น

(ที่มา:รอยเตอร์/วอชิงตันโพสต์) https:// m.mgronline.com/around/detail/9640000075092