• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Cindy700

#9557


วันที่ 8 ก.ย. 2564 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาในรูปแบบ New Normal ผ่านทางสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ Streaming หัวข้อ "ตอบโจทย์ ตรงใจ ขนส่งปลอดภัย กับมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก Q Mark" ภายใต้โครงการศึกษาและพัฒนากลยุทธ์สำหรับการยกระดับภาพลักษณ์ ระบบมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) เพื่อสนับสนุนความปลอดภัยในการขนส่งสินค้าทางถนน ซึ่งเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง กรมการขนส่งทางบก และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีผู้ประกอบการขนส่ง หน่วยตรวจประเมินอิสระ (IB) ผู้ตรวจประเมิน สำนักงานขนส่งจังหวัด และบุคคลทั่วไป
ให้ความสนใจเข้าร่วมการสัมมนา

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้สร้างระบบมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก หรือ มาตรฐาน Q Mark ซึ่งเป็นเพียงมาตรฐานเดียวในประเทศไทยที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อเป็นการรับรองคุณภาพสำหรับรถบรรทุก ในขณะนี้ มีผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจำนวน 411 ราย ผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Q Mark จะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการอย่างมีระบบ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการขนส่ง หมั่นดูแลรักษายานพาหนะอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับพนักงานขับรถที่มีทักษะและความพร้อมในการขนส่งอย่างปลอดภัย ส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลงด้วย ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแล้วนั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ว่าจ้าง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกของประเทศไทยให้มีศักยภาพในการเติบโต และแข่งขันกับคู่แข่งจากต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น

การสัมมนาในวันนี้มีการนำเสนอสรุปผลการศึกษาโครงการศึกษาและพัฒนากลยุทธ์สำหรับการยกระดับภาพลักษณ์ระบบมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) ซึ่งจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการเชิงกลยุทธ์ เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งเข้าสู่ระบบมาตรฐาน Q Mark ให้มากยิ่งขึ้น กรมการขนส่งทางบก จึงมุ่งสื่อสารไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการรับรู้มาตรฐาน Q Mark รวมถึงการสร้างพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจนนำมาสู่ความร่วมมือเพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางถนนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดเสวนา ในหัวข้อ "การสร้างแบรนด์และการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สำหรับการขนส่งทางถนนในยุคโควิด 19" เพื่อเป็นการช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุก พร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และช่วยสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงได้ด้วยคุณภาพมาตรฐานอย่างยั่งยืน
#9560


คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

การแข่งขันฟุต.โลกทุกๆ 2 ปีตามเอกสารของ สหพันธ์ฟุต. ซาอูดี อาราเบีย ที่เสนอให้ทาง สหพันธ์ฟุต.นานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (Fédération Internationale de Football Association - FIFA) พิจารณาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ก็ใช่ว่า ฟีฟ่า จะโยนทิ้งตะกร้าไปโดยไม่ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้เสียเลย แต่เขาว่ามันจะเป็นการลดคุณค่าความขลังของ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ (FIFA World Cup) สุดยอดทัวร์นาเม้นท์ของกีฬาฟุต.ที่ 4 ปีมีครั้ง เช่นนั้น ผมก็ขอแทงสวนไปเลยด้วยการนำเสนอ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ (FIFA World Cup Lottovip knockout) ก็แล้วกัน

อารแซน เว็งเกอร์ (Arsène Wenger) อดีตผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล (Arsenal FC) ยาวนานที่สุด ชาวฝรั่งเศส วัย 71 ปี ซึ่งในปัจจุบันเขาเป็น ประธานฝ่ายพัฒนากีฬาฟุต.ของ ฟีฟ่า ก็ได้แสดงความเห็นด้วยอย่างชัดเจน โดยบอกว่า เขาต้องการเห็น ฟุต.โลก และ ฟุต.ยูโร แข่งกันทุกๆ 2 ปีและอยากให้เขี่ยพวกทัวร์นาเม้นท์เห่ยๆทิ้งไปเลย หันมาเน้นรายการที่สำคัญจริงๆ ซึ่งนั่นแหละจะช่วยยกระดับกีฬาฟุต. เกมฟุต.จะได้รับการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพไปพร้อมๆกับการปรับปรุง กฎ กติกา (Laws of the game) โดยผ่านการแข่งขันที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
โค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ เดอะ กันเน่อร์ส (The Gunners) เสนอทางออกให้ยกเกมคัดเลือกฟุต.โลกไปรวมแข่งกันในช่วงปิดการแข่งขันของลีกในประเทศอันเป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้เกมทีมชาติ นั่นคือ ช่วงก่อนเปิดและหลังปิดฤดูกาลประจำปีในเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคม และก็ควรมีการแบ่งกลุ่มให้ประกอบด้วยบรรดาชาติที่อยู่ใกล้ๆกัน นักเตะจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลบักโกรก หากทำได้อย่างนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับสโมสรด้วย อย่างไรก็ตาม กว่าจะเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดนั้นได้ก็ต้องรอหลังปี 2024 โน่น เพราะปฏิทินของ ฟีฟ่า ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว

แม้ว่าจะมีบุคคลในวงการฟุต.เห็นดีด้วยกับความคิดนี้หลายคน แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ เชเฟริน (Aleksander Čeferin) ประธาน สหสมาคมฟุต.ยุโรป (Union of European Football Associations - UEFA) วัย 53 ปี ชาวสโลเวเนีย เขากล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สโมสรยุโรปที่ เมืองเชอแน้ฟ (Genève) ประเทศสวิส เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ต่อหน้าผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมถึง 166 สโมสรว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการจัดแข่ง ฟุต.โลก ในทุกๆ 2 ปี เพราะจะทำให้ความขลังที่ตั้งนานจึงจะมีครั้งหนึ่งอันทำให้ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ เป็นสุดยอดทัวร์นาเม้นท์ของกีฬาฟุต.ที่สำคัญที่สุดในโลกที่ทุกคนรอคอยต้องเสื่อมถอยจืดจางลง

ผมก็ไม่เห็นด้วยที่ทัวร์นาเม้นท์แบบนี้จะเกิดขึ้นถี่ขนาดนั้น แต่อยากนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งที่เคยคิดไว้นานแล้วคือ เราน่าจะมี ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ ในทุก 4 ปีต่างหาก โดยจัดคร่อมกับ ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ อันนี้เปรียบเสมือนฟุต. น้อคเอ๊าท์ แบบพวก เอ๊ฟ เอ คัพ นั่นแหละ ทีมชาติสมาชิกของ ฟีฟ่า ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวน 211 ชาติจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด โดยแต่ละรอบจัดแข่งระบบ น้อคเอ๊าท์ เหย้า-เยือน จนได้คู่ชิงชนะเลิศไปแข่งกันเกมเดียวในสนามกลาง

การประกบคู่นั้น ก่อนอื่นก็ต้องจัดอันดับทุกทีมตาม ฟีฟ่า เวิร์ลด์ แร้งกิ้ง (FIFA World Rankings) โดยการจัดแข่งขันก็ต้องคำนึงถึง กฎกำลังของ 2 (Power of two) เพื่อที่จะให้ได้จำนวนทีมที่ลงตัวนำมาประกบคู่กันให้ได้ 64 คู่ แล้วแข่งกันจนเหลือทีมชนะ 64 ทีม นำมาประกบคู่กันได้ 32 คู่ แข่งกันจนได้ทีมชนะ 32 ทีม นำมาประกบคู่กันได้ 16 คู่ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนเหลือเพียง 2 ทีมมาเป็นคู่ชิงชนะเลิศ โดยอาจวางทีม 80 อันดับแรกไว้ใน รอบน้อคเอ๊าท์ รอบ 3 และวางทีมอันดับต่อไป 48 ทีมไว้ใน รอบ น้อคเอ๊าท์ รอบ 2 ส่วนอีก 83 ทีมจากท้ายสุดก็นำมาประกบคู่แข่งกันในรอบแรก ซึ่งอาจมีทีมที่ได้ชนะผ่านโดยไม่ต้องแข่งบ้าง เพื่อให้ได้ทีมชนะ 48 ทีมเข้าไปในรอบ 2 ทั้งนี้ การประกบคู่อาจใช้ระบบก้างปลาอย่างในกีฬาเท็นนิส ทำให้ทีมอันดับดีๆแยกย้ายกันไปอยู่ในสายบนสายล่างและได้เจอกับทีมอ่อน ทีมแข็งระดับต้นๆของโลกไม่ต้องมาเจอกันเองก่อนเวลาอันควร

ฟีฟ่า เวิร์ลด์ คัพ น้อคเอ๊าท์ จะทำให้ทุกทีมทั้ง 211 ชาติสมาชิกของ ฟีฟ่า ได้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุต.โลก อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ต้องหัวใจสลายร่วงหล่นหลุดวงโคจรแค่ใน รอบคัดเลือก อยู่ร่ำไป รูปแบบนี้ ทีมมาตรฐานแข่งกันไม่เยอะ แค่ 7 รอบก็ไปถึงแช้มพ์โลก นักเตะไม่โทรมมาก ที่สำคัญ มันเป็นระบบที่แฟร์ แบ่งปันรายได้ให้เจ้าบ้าน และดีต่อหัวใจแฟน.ทั่วโลกด้วยครับ
#9561
สนใจเชิญให้เข้าร่วมกลุ่ม Line "บ้านที่ดิน HouseLand" เพื่อรับการอัพเดทที่ดิน
https://bit.ly/3xFTxOS

ติดต่อคุณชัย
โทร. 0918849203
LINE ID : @614skoug
เว็บบ้านที่ดิน  https://housetheland.com/index.php?topic=44
กดไลค์กดแชร์ กดติดตาม คือ
https://www.youtube.com/channel/UCIz5DVj6igFVHKPUqY-Z4RA
https://www.facebook.com/HouseTheLand
#9562
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip lock ซิปล๊อค  ควบคุมน้ำหนัก กล่องละ 590 บาท เท่านั้น ของแท้ 100 %


การรับประทานอาหาร ในปริมาณที่มากเกินไป

มักไม่ได้เกิดจากความหิว แต่เกิดจาก...

"ความอยากอาหาร และการติดในรสชาติ"

ส่งผลให้เกิดการรับประทานแบบไม่เลือก

ทั้งอาหารที่มีแป้งและไขมันสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก

ที่นำไปสู่ปัญหา "น้ำหนักเกิน"  ไปจนกระทั่งการเป็น "โรคอ้วน"

ด้วยความเข้าใจในสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านี้

จึงเป็นที่มาของงานวิจัยทางคลินิคที่ได้ค้นพบ

สารสกัดเอกสิทธิ์ นวัตกรรมนำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้

" Yeast Extract Hydrolysate "

ช่วย รูดซิป..ล็อคความอยากอาหาร ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับประทาน

พร้อมด้วยสารสกัดที่เป็นสูตรเฉพาะ 15 ชนิด

ซึ่งทำหน้าที่ "บล็อก" การดูดซึมของแป้งและไขมัน

เข้าสู่ร่างกาย พร้อมส่งเสริมการเผาผลาญและสลายไขมันส่วนเกิน

รูปร่างดีได้...โดยไม่ต้องอด

ปิดซิปความอยากอาหาร

เปิดซิปกระตุ้นการเผาผลาญเต็มรูปแบบ

" Zip you fat...Zip you body "

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip

ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา

ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-5-0083



สารสกัดจากส้มแดง 100 มก

สารสกัดจากส้มซิตรัส ออรานเทียม 100 มก

สารสกัดจากยีสต์ 80 มก

แอล-ฟีนิลอะลามีน 50 มก

ผงน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 30 มก

แอล-คาร์นิทีน 50 มก

สารสกัดจากเจียวกู้หลาน 30 มก

สารสกัดจากส้มแขก 30 มก

L l-tyrosine 20 มก

สารสกัดจากพริก 20 มก

สารสกัดจากถั่วขาว 20 มก

สารสกัดจากชาเขียว 20 มก

สารสกัดจากพริกไทยดำ 12 มก

สารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว 7 มก

โครเมียม พิโคลิเนต 1 มก

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อ
 ทักแชทได้เลยหรือติดต่อได้ที่

โทร. 0846623662

id line : teerapat999

website  คลิก  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Zip lock ซิปล๊อค



    ***รับสมัครตัวแทนจำหน่าย***

#รับตัวแทนไม่ต้องสต็อกสินค้า

#สินค้าขายดี #zipyourfatzipyourbody #ziplock #zipwheyplus #zipwheyplus #zipwhey #theicongroup #ลดน้ำหนักแบบปลอดภัย #ลดไขมัน
#9563


การมาถึงของดิจิทัลดิสรัปชั่น (Digital Disruption) ไปจนถึงภาวะโรคระบาดโควิด -19 ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดการค้าโลกเปลี่ยนแปลงไป โลกทั้งใบเสมือนไร้พรมแดนโดยมีการค้าออนไลน์ช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เล็งเห็นความสำคัญนี้ จึงพร้อมผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีทิศทางและยั่งยืนขึ้น โดยที่ผ่านมาเป็นตัวกลางในการบ่มเพาะองค์ความรู้ต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการในหลายโครงการ จนมาถึงล่าสุดกับ 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' ที่พร้อมติดอาวุธเป็นองค์ความรู้ใหม่ให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดการค้าโลกยุค New Normal แข็งแกร่งในตลาดโลก ด้วยองค์ความรู้ที่เป็นรูปธรรม

มล.คฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้ทำงานคลุกคลีอยู่กับผู้ประกอบการไทยมายาวนาน เปิดเผยว่า ความโดดเด่นของผู้ประกอบการ SMEs ไทย คือการมีศักยภาพด้านการผลิตที่สามารถต่อยอดได้จากฐานทรัพยากรภายในประเทศ เพียงแต่ในวันที่ตลาดเปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอบการจำเป็นอย่างมากที่ต้องเข้าใจตลาดให้มากขึ้นเพื่อการเติบโตอย่างมีทิศทางและยั่งยืน ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ และนโยบายของ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' ที่ให้ความสาคัญกับยุทธศาสตร์ 'ตลาดนำการผลิต' พร้อมกับผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเป็น 'Smart Lottovip Enterprise' โดยการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ที่มีนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยี รวมถึงสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับ ทั้งในระดับอาเซียน และเวทีการค้าโลก
"การส่งเสริมเรื่องการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมาก โดยที่ผ่านมา กรมได้ทำโครงการ 'IDEA LAB' ขึ้นมา หวังจุดประกายแนวคิดใหม่ๆ ในสร้างแบรนด์ให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ได้มองเห็นคุณค่าในตัวเองชัดขึ้น รวมถึงเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ โดยรับสมัครผู้ประกอบการให้เข้ามาร่วมโครงการเพื่อเรียนรู้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ การปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และแนวทางการสื่อสารทางการตลาดที่ชัดเจน รวมถึงได้ปรับแนวทางการสร้างแบรนด์ใหม่ (Rebranding) เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ซึ่งใน 4 ครั้งที่ผ่านมา เราได้เห็นชัดเจนว่า องค์ความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์ กลายเป็นใบเบิกทางที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ไทยอย่างมาก โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีมานี้ มีผู้ประกอบการไทยที่ผ่านโครงการ IDEA LAB จำนวนถึง 78 แบรนด์ ผ่านการบ่มเพาะด้านการสร้างแบรนด์ และปรับภาพลักษณ์แบรนด์ จนได้เข้าร่วมโครงการ Top Thai Brand พร้อมเผยศักยภาพของของตนในฐานะผู้ประกอบการหน้าใหม่ในตลาดอาเซียนด้วยสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจอย่างมาก หลายแบรนด์ยังกลายเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ได้รับความสนใจจากผู้นำเข้า เพื่อสั่งซื้อ และขอเป็นตัวแทนจำหน่ายในระยะยาวอีกด้วย"
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการมอบองค์ความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์ผ่านโครงการ IDEA LAB ของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นำไปสู่การบ่มเพาะองค์ความรู้ครั้งใหม่ที่เท่าทันยุคมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการไทย ผ่านโครงการในชื่อ 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' โดยได้เปิดรับผู้ประกอบการไทยที่ผ่านโครงการ IDEA LAB ใน 4 ครั้งที่ผ่านมา เข้ามาต่อยอดองค์ความรู้ด้านการสร้างแบรนด์ดิจิทัล พร้อมเสริมทักษะต่างๆ ที่จำเป็นโดยเฉพาะ โดยเป้าหมายของ 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' ครั้งนี้ ยังอยู่ที่การนำพาแบรนด์ไทยทั้งหมดจากโครงการ เดินไปสู่เวทีจริงในรูปแบบต่างๆ ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 10 - 12 กันยายน 2564 รวมถึงเวทีการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์กับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ (Online Business Matching) ที่จะเกิดขึ้นจริง ในวันที่ 14 – 16 กันยายน 2564 นี้อีกด้วย



'IDEA LAB FESTIVAL 2021' เคี่ยวกรำเพื่อการเติบโตในตลาดโลก

การต่อยอดโครงการ Idea Lab มาสู่ 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' ครั้งนี้ จึงนับเป็นอีกย่างก้าวสำคัญของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อบ่มเพาะ เคี่ยวกรำ และนำพาผู้ประกอบการไทยเดินไปอย่างมีทิศทาง เพื่อประสบความสำเร็จบนเวทีโลก โดยเฉพาะเมื่อตลาดการค้าออนไลน์โลกกำลังเติบโตขึ้น

"เราได้นำแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 22 แบรนด์มาบ่มเพาะความรู้ ผ่าน 'ห้องเรียนการค้า' ก่อนจะเดินทางไปถึงเวทีจริงในรูปแบบต่างๆ ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 - 12 กันยายน 2564 รวมถึงเวทีการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์กับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ (Online Business Matching) ที่จะเกิดขึ้นจริง ในวันที่ 14 – 16 กันยายน 2564 นี้ โดยจัดฝึกอบรมเพิ่มทักษะด้านการใช้เทคโนโลยี และโปรแกรมในการเจรจาต่อรองการค้ากับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนทักษะการสื่อสาร การเจรจาต่อรองธุรกิจต่างประเทศ ให้แก่ผู้ประกอบการในโครงการ รวมถึงการ Live Streaming ผ่านสื่อออนไลน์ของกรมฯ ขณะเดียวกันยังได้จัดกิจกรรมจำลองการเจรจาการค้าระหว่างประเทศเสมือนจริง (Role Play) ให้ผู้ประกอบการได้ฝึกซ้อมเสมือนจริง เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำกิจกรรม Online Business Matching ที่จะเกิดขึ้นจริง พร้อมกันนั้นยังได้เพิ่มทักษะการนำเสนอแบรนด์และสินค้าในรูปแบบ 'Elevator Pitch' ซึ่งเป็นเทคนิคการนำเสนอแบรนด์หรือสินค้าให้จับใจผู้ฟังในช่วงเวลาอันสั้น ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ให้เกิดการติดตาม การซื้อ หรือการใช้บริการ อันเป็นทักษะการเสนอขั้นสูงที่มีความจำเป็นมากในปัจจุบัน"



โดย IDEA LAB FESTIVAL 2021ครั้งนี้ มีผู้ประกอบการร่วมโครงการจำนวน 22 แบรนด์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มสินค้า คือ กลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มสินค้าประเภทสุขภาพและความงาม และกลุ่มสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งหมดได้ฝึกฝนในห้องเรียนการค้า ก่อนจะพบกับเวทีจริง โดยในวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 17.00 – 18.00 น. ผู้ประกอบการในโครงการจะได้ร่วม รายการเกมส์โชว์แบบ Live Streaming ทางไทยรัฐ ออนไลน์ ซึ่งจะต้องทำการเสนอขายสินค้าภายในเวลา 2 นาที และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการค้าระหว่างประเทศร่วมเป็น Commentator เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ ว่า "ปัง"หรือ "แป้ก"

ส่วนในวันที่ 11 กันยายน 2564 เวลา 14.30 - 16.00 น. และวันที่ 12 กันยายน 2564 เวลา 12.30 – 14.00 น. จะจัดให้มีเวทีการค้าจริงอีกเวทีหนึ่งที่น่าสนใจ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้ง 22 แบรนด์ นำเสนอขายบนแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Lazada ผ่านการ Live Streaming กับ KOL ที่มีชื่อเสียงของไทย เพื่อให้เกิดการซื้อขายจริง ซึ่งการได้นำเสนอขายสินค้าแก่สมาชิกผู้ติดตามในแพลตฟอร์มลาซาด้าจริงในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับสถานการณ์จริง รวมถึงเห็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย

นอกจากนี้แล้ว 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' ยังมาพร้อมเวทีสำคัญอีกเวทีหนึ่งที่จะช่วยเปิดโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยในโครงการในครั้งนี้ด้วย นั่นคือ เวทีการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์กับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ หรือ Online Business Matching ที่จะเกิดขึ้นจริง ในวันที่ 14 – 16 กันยายน 2564 นี้ ซึ่งนับเป็นการเปิดประตูบานสำคัญอีกบานหนึ่งสู่การค้าโลก รวมถึงเป็นความหวังที่จะก้าวต่อไปประกาศความสำเร็จบนเวทีโลกของผู้ประกอบการไทยด้วย

มล.คฑาทอง ยังเปิดเผยด้วยว่า 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' ครั้งนี้ จัดขึ้นในรูปแบบกิจกรรมออนไลน์ 'ร้อยเปอร์เซ็นต์' พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อรับชม รวมถึงร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กับตนเอง โดยครั้งนี้จัดให้มีการสัมมนาออนไลน์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ในด้านการค้าระหว่างประเทศยุคใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การสัมมนาหัวข้อเรื่อง การสร้างแบรนด์เพื่อเข้าสู่โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) โดยคุณจิรชัย ตั้งกิจงามวงศ์ กรรมการผู้จัดการด้านการตลาดวิจัยและพัฒนาบริษัท อุตสาหกรรม ดีสวัสดิ์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการค้าค้าระหว่างประเทศ ,หัวข้อ สูตรสำเร็จการสร้างแบรนด์ด้วยดิจิตัลแพลตฟอร์มในยุค Next Normore โดยคุณแมรี่ อมรรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอริส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของแบรนด์ 4U2 และหัวข้อ "พลิกชีวิต SMEsไทย สร้างโอกาสครั้งใหม่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 " โดย นายเปรมณัช สุวรรณานนท์ (เป๊ก) ดารา-นักแสดง ผู้มีหัวใจสีเขียวกับปลุกปั้น Green Tourism โครงการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรภาคเหนือ​

ผู้สนใจรับชมกิจกรรมต่างๆ จาก 'IDEA LAB FESTIVAL 2021' สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, DitpDesign และ YouTube Channel : DitpDesign
#9565
รับถมดิน ราคาถูก ติดต่อ 080-022-3804 www.mmee2000.com
#9566
ราคาดีมากกก!!!!!!!!
#9567


สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนำผู้ประกอบการไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 เดินหน้าโครงการ Made in Thailand โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถผลักดันสินค้า Made in Thailand : MiT เข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้แล้วกว่า 68,000 ล้านบาท คาดสิ้นปี 64 จะมีมูลค่าการค้าทะลุ 100,000 ล้านบาท พร้อมทั้งจับมือเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป นำผู้ประกอบการในเครือข่ายขึ้นทะเบียนเพิ่ม และต่อยอดส่งออก นำร่องเจรจาการค้ากับบาห์เรน จีน อินเดีย ขยายตลาดต่างประเทศ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในภาวการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง และการออกมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ ทำให้กำลังซื้อภายในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่พึ่งพาตลาดภายในประเทศ ดังนั้นจึงมีเพียงตลาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเท่านั้นที่มีกำลังซื้อเพียงพอที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ผ่านสภาวะที่ยากลำบาก

โดยแนวทางที่สำคัญในการเจาะตลาดภาครัฐของเอกชน คือ โครงการ Made in Thailand ที่ ส.อ.ท.ได้ผลักดันร่วมกับภาครัฐในการปรับกฎระเบียบเอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการในประเทศไทยที่เข้ามาขึ้นทะเบียนสินค้า Made in Thailand : MiT ได้มากขึ้น เพื่อซื้อหวยออนไลน์เข้าถึงเม็ดเงินการจัดจ้างภาครัฐมีมากกว่า 1.3 ล้านล้านบาทต่อปี โดยในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมา ส.อ.ท.ได้เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนสินค้า Made in Thailand ให้กับผู้ประกอบการแล้วกว่า 2,000 ราย โดยล่าสุดข้อมูลจากกรมบัญชีกลางพบว่ามีผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกว่าร้อยละ 52 สามารถยื่นเสนองานต่อภาครัฐได้แล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 68,000 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลากหลายทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รวมไปถึงผู้ประกอบการ SMEs



ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปี 2564 จะมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทะเบียนกว่า 5,000 ราย มีจำนวนสินค้ากว่า 50,000 รายการ โดยที่ผ่านมามีสินค้าที่มาขึ้นทะเบียนมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1.อุปกรณ์งานก่อสร้าง อันดับ 2.ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อันดับ 3 เครื่องปรับอากาศ อันดับ 4 สินค้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอันดับ 5.สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม

"จากการดำเนินโครงการ Made in Thailand ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากหน่วยราชการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมที่ผู้บริหารต่างผลักดันนโยบายร่วมกัน หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่สอบถามเพื่อสืบค้นส่วนของที่หน่วยงานมีความต้องการในฐานของ MiT เข้ามาอย่างต่อเนื่องอาทิ ท่าอากาศยาน, กรมทางหลวง, สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล,กรมที่ดิน,กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น, โรงพยาบาล และหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณแทนผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก ถือว่าทุกภาคส่วนได้ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 ให้สามารถเดินต่อไปได้"

นางพิมพ์ใจ ลี้อิสระนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและประธานสายงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงาน Made in Thailand ของสภาอุตสาหกรรมฯ กล่าวว่า นอกจากหน่วยงานภาครัฐที่เป็นคู่ค้าสำคัญที่ตอบรับสินค้า Made in Thailand เป็นอย่างดีแล้ว โอกาสทางการตลาดอื่นๆ ของสินค้า Made in Thailand ก็มีมากเช่นเดียวกัน โดย ส.อ.ท. ได้หารือร่วมกับหน่วยงานเอกชนในส่วนของการขายปลีกและขายส่ง ซึ่งในปัจจุบันได้มีพันธมิตรภาคเอกชนรายใหญ่ให้การสนับสนุน อาทิ กลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่กำลังผลักดันผู้ค้าในเครือข่ายมาขึ้นทะเบียน Made in Thailand โดยกลุ่มบริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เช่น ไทวัสดุ บีทูเอส และออฟฟิศเมท ได้เข้ามาเจรจาธุรกิจกับเอสเอ็มอี ที่ขึ้นทะเบียน Made in Thailand เพิ่มเติมด้วย และหลังจากนี้ ส.อ.ท.จะหารือกับภาคเอกชนรายอื่นๆให้ช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย,สมาคมค้าปลีกไทย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยในภาวะที่ยากลำบาก

โดยนอกจากตลาดในประเทศแล้ว ส.อ.ท. ยังร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สร้างโอกาสทางการค้าในต่างประเทศ โดยนำร่องกลุ่ม SMEs เจรจาธุรกิจที่ตลาดบาห์เรน, ตลาดอินเดียและตลาดจีน ที่นิยมสินค้าไทยอยู่ระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งหากสินค้าได้รับการรับรอง Made in Thailand ก็ยังจะสร้างความน่าเชื่อถือและมั่นใจให้กับคู่ค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand ก็จะได้เปรียบคู่แข่งขันรายอื่นๆ โดยหลังจากนี้ ส.อ.ท. จะมีการผลักดันโอกาสทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการให้มาขึ้นทะเบียน เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

ทั้งนี้ขอเชิญชวนภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า ภาคบริการ และเอสเอ็มอี ทั้งสมาชิก ส.อ.ท.และเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยหรือ Made in Thailand : MiT เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสขยายตลาดเข้าสู่การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ และโอกาสการค้าในรูปแบบหน่วยงานธุรกิจกับหน่วยธุรกิจ (B2B) และโอกาสการค้ากับผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ทั้งในประเทศและต่างประเทศก่อให้เกิดรายได้ทั้งซัพพลายเชน เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศจากผลกระทบของ Covid-19 สามารถขึ้นทะเบียนสินค้า Made in Thailand ได้ที่ www.mit,or,th สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ส.อ.ท.โทร. 02-345-1109 และ 02-345-1100 หรือ Line : @mitofficial
#9570


"โต๊ะเล็กช้างศึก" คว้าแชมป์ฟุตซอล SAT International FUTSAL CHAMPIONSHIP THAILAND 2021 เอาฤกษ์เอาชัยก่อนลุยฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ประเทศลิทัวเนีย ระหว่างวันที่ 12 กันยายน - 3 ตุลาคม 2564

"ฟุตซอลทีมชาติไทย" ที่กำลังเตรียมทีมสู้ศึกฟุตซอลเวิลด์คัพ 2021 ลงสนามอุ่นเครื่องพบกับ "ออสตาร์บราซิล" โดยทั้งสองทีมเก็บชัยชนะมาทั้งสองนัด นัดนี้ถือเป็นการชิงแชมป์

เริ่มเกม "โต๊ะเล็กช้างศึก" มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะซัดเต็มข้อของ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ในนาทีที่ 3 ขณะที่ ออสตาร์บราซิล เร่งเกมบุกพยายามทวงประตูคืนแต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับช้างศึกได้ จบครึ่งแรกไทยนำ 1-0

ครึ่งหลัง ไทยมาได้ประตูขึ้นนำ 2-0 จาก มูฮัมหมัด อุสมานมูซา นาที 27 แต่ในนาทีเดียวกัน อราสซ่า ยิงให้ออสตาร์บราซิล ไล่ตามมา 2-1

ช่วงท้ายเกม ออสตาร์บราซิล ต้องการประตูคืนเปลี่ยนมาเล่นแบบพาวเวอร์เพลย์ กดดันอย่างหนักก่อนที่ไทยจะพลาดโดนตีเสมอ นาที 39 จบเกมเสมอกันไปแบบสุดมันส์ 2-2 ส่งผลให้ "โต๊ะเล็กช้างศึก" ที่มีประตูได้เสียดีกว่าคว้าแชมป์ฟุตซอล SAT International FUTSAL CHAMPIONSHIP THAILAND 2021 ไปครอง

ส่วนผลการแข่งขันคู่แรก ชิลี เอาชนะ โอมาน 2-0 โดยได้ประตูจาก ฮอร์เก้ กาลาซ นาที 31 และ พาโบล เอสปิโนซา นาที 36 (PEN) คว้าอันดับ 3 ไปครอง
สำหรับ ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ประเทศลิทัวเนีย "โต๊ะเล็กช้างศึก" ทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับ โปรตุเกส, โมร็อกโก, หมู่เกาะโซโลมอน มีโปรแกรมการแข่งขันรอบแรก ดังนี้

วันที่ 13 กันยายน 2564
เวลา 00:00 น. ไทย พบ โปรตุเกส

วันที่ 16 กันยายน 2564
เวลา 00:00 น. ไทย พบ โมร็อกโก

วันที่ 19 กันยายน 2564
เวลา 00:00 น. หมู่เกาะโซโลมอน พบ ไทย

โดย ทุกนัดถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV HD 36 (ตามเวลาประเทศไทย)