• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Joe524

#7966


นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT เปิดเผยว่า นับจากจัดตั้งและนำทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา สามารถรักษาผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานล่าสุดในไตรมาส 2/2564 มีรายได้รวม 110.79 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 73.29 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 107.95 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 71.73 ล้านบาท เนื่องจากอัตราการเช่าของกองทรัสต์ฯ สูงขึ้น จากโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ) ย่านบางนา-ตราด กม.23 ที่มีคุณภาพและความหลากหลาย โดยมีทั้งคลังสินค้าและโรงงานในพื้นที่เขตปลอดอากร (Free Trade Zone) และพื้นที่ทั่วไป (General Zone) รวมถึงทำเลที่ตั้งที่ดีมีศักยภาพสูง

สำหรับสถานการณ์ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โครงการ BFTZ มีอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 98% เทียบกับไตรมาสแรกที่ผ่านมาอยู่ที่เกือบ 96% เนื่องจากได้เซ็นสัญญากับผู้เช่าใหม่ 10 ราย คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมประมาณ 14,000 ตารางเมตร โดยมีทั้งผู้ประกอบการไทย จีน และสหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่กำลังเติบโต ส่วนผู้เช่าเดิมมีอัตราการต่อสัญญามากกว่า 75% และได้ผู้เช่าใหม่มาแทนผู้เช่าเดิมทั้งหมด

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินเฉลี่ยคืนทุนจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 ในอัตรารวม 0.2870 บาท จะปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ตอบแทนและเงินเฉลี่ยคืนทุนในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และจ่ายเงินออกให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 8 กันยายน 2564

"ปัจจุบันโครงการ BFTZ มีพื้นที่ให้เช่าคงเหลือใน General Zone อีกประมาณ 4,000 ตารางเมตร ที่ผ่านมามีผู้ติดต่อแสดงความสนใจเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังทางโครงการจะสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ให้อยู่ในระดับเดิมหรือใกล้เคียง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง" นางสาวอรอนงค์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อทรัพย์สินเพิ่มเติมโดยไม่ต้องเพิ่มทุน ทั้งทรัพย์สินจากพรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ที่เป็นบริษัทแม่ และทรัพย์สินของผู้พัฒนาโครงการรายอื่นๆ เนื่องจาก PROSPECT เป็นกองทรัสต์ที่จัดตั้งโดยบริษัทแม่ที่เป็นผู้เสนอขายทรัพย์สิน แต่มีนโยบายการลงทุนได้อย่างอิสระ ส่วนการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2565 รวมถึงทางบริษัทแม่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ BFTZ 2 และ BFTZ 3 มีพื้นที่รวมประมาณ 120,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้และปี 2565ซึ่งหากมีการเสนอขายให้แก่กองทรัสต์ ทาง PROSPECT จะได้รับสิทธิ์พิจารณาก่อน

ผู้จัดการกองทรัสต์ PROSPECT กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 โครงการ BFTZ ได้วางแผนรับมือและให้ความช่วยเหลือผู้เช่า โดยการตรวจคัดกรองผู้ผ่านเข้า-ออกอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งประสานงานกับเทศบาลตำบลบางเสาธง และสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลในกรณีที่ได้รับการร้องขอจากผู้เช่า และประสานงานในการปฏิบัติตามมาตรการ Bubble and Seal ในกรณีที่มีผู้เช่าพบพนักงานติดเชื้อ

นอกจากนี้ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ PROSPECT ได้ประสานงานกับศูนย์พักคอยรอการส่งต่อผู้ป่วยในพื้นที่ ภายใต้การดูแลของสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการและเทศบาลตำบลบางเสาธง และร่วมสนับสนุนงบช่วยเหลือ พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นคนกลางในการอำนวยความสะดวกจัดส่งผู้ป่วยระดับสีเขียว (ที่ไม่แสดงอาการ) ไปพักรักษาตัวยังศูนย์ฯ ดังกล่าว ระหว่างรอการส่งตัวไปที่โรงพยาบาล ตลอดจนประสานงานการจัดหาวัคซีนทางเลือกและการลงทะเบียนฉีดวัคซีนตามสิทธิ์ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ให้แก่พนักงานของผู้เช่า โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนขอรับวัคซีนแล้วกว่า 50% ส่วนพนักงานของผู้เช่าที่ฉีดวัคซีนและได้รับแจ้งคิวฉีดวัคซีนแล้ว มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 15%
#7967


ชมรมแพทย์ชนบท  ออกมาเปิดเผย รายงานการวิจัยการประเมินคุณภาพ ของ ชุดทดสอบ Lepu Medical SARS CoV2 Antigen Test ใน Nasopharyngeal swab และ Saliva เปรียบเทียบกับวิธีมาตรฐาน Real Time PCR ในประเทศปากีสถาน
ได้รับการตีพิมพ์ ในวารสาร Virology Journal เมือวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 วารสาร Virology Journal นี้เป็นวารสารที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับจากนักวิจัยทั่วโลกอีกด้วย

วิธีวิจัย

การวิจัยนี้ผู้เขียนคือนักวิจัย ในนามสถาบัน Isalamabad Diagnostics Center โดยทําการวิจัยที่เมือง Isalamabad และ Ralwalpindi
เมื่อวันที่ 3-10 ตุลาคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการประเมิน
คุณภาพและประสิทธิภาพของชุดทดสอบโควิดแอนติเจนยี่ห้อ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ในสิ่งส่งตรวจ Nasopharyngeal swab และ นํ้าลาย โดยทําการทดสอบในประชากรกลุ่มเสี่ยง, บุคลากรทางการแพทย์,ผู้ต้องขัง ,ช่างตัดผม,กลุ่มสัมผัสใกล้ชิด และประชากรทั่วไป ทั้งหมดจํานวน 33,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อโควิดที่ให้ผลบวก 100 คน ที่ยืนยันโดยวิธี Real Time PCR แบบ 3 gene ที่ได้รับมาตรฐาน USFDA approval โดย
ผลการวิจัยนี้จะนํามาซึ่งข้อมูลประสิทธิภาพการใช้ชุดตรวจนี้ในโครงการคัดกรองการติดเชื้อในระดับประเทศในลําดับถัดไป

ผลการวิจัย

พบว่าชุดทดสอบ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ให้ผลความไว 52% เมื่อตรวจ กับ Nasopharyngeal Swab ซึ่งให้ผลลบปลอมที่ 48% และมีความไวที่21% เมื่อตรวจในนํ้าลายโดยมีผลลบ
ปลอมที่ 79% โดย มีผลลบปลอมอยู่ที่ 100% เมื่อใช้ตรวจในนํ้าลายเด็ก เปรียบเทียบผลกับวิธีมาตรฐาน RealTime PCR ซึ่งให้ผล False negative ที่มีนัยสําคัญ


สรุปผลการวิจัย

พบว่า การใช้ชุดทดสอบ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ที่ตรวจใน Nasopharyngeal swab จะให้ผลความถูกต้องมากว่าการตรวจจากนํ้าลายมากถึง 2.5เท่า โดยชุดทดสอบ นี้ให้ผล ความไว ที่ 52 % เมื่อ
ทดสอบกับ Nasopharyngeal swab หมายถึงชุดทดสอบมีโอกาสเกิดผลลบปลอมที่ 48% ซึ่งผู้วิจัยพบว่า
โรงงานผู้ผลิตมีการรายงานความไวชุดทดสอบไว้ที่ 90% ดังนั้นพบว่าชุดทดสอบให้ผลระดับความไวตํ่ากว่าตัวเลขความไวที่รายงานโดยบริษัทผู้ผลิตเองซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยในประเทศจีน ( งานวิจัยชื่อDiagnosis of AcuteRespiratory Syndrome Coronavirus 2 infection by detection Nucleocapsid Protein:2020 ) ที่ให้ผลความไวการทดสอบที่ 68% เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าชุดทดสอบมีความไว ที่ 21% เมื่อใช้ตรวจกับนํ้าลาย
ผู้ใหญ่ และ มีความไว 0% เมื่อใช้ตรวจกับนํ้าลายเด็ก ซึ่งให้ผลลบปลอมสูงถึง 79%-100%

บทสรุปจากงานวิจัย

ทําให้ทาง ประเทศปากีสถานมีความหวาดกลัวและคิดว่า ATK ยี่ห้อ Lepu Medical SARS CoV 2 antigen ไม่เหมาะที่จะนํามาใช้ในโครงการการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในประเทศด้วยเหตุผลที่ชุดทดสอบให้ความไวตํ่าที่จะ
นํามาซึ่งผลลบปลอมที่สูงมากทั้งการตรวจใน Nasopharyngeal swab และตรวจในนํ้าลาย เมื่อนํามาใช้งานภาคสนามจริงๆ
#7968


สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. จัดงาน "ARDA Virtual Event : ต่อยอดงานวิจัยเกษตรไทย มิติใหม่แห่งการลงทุน" ในวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 10.00 – 13.00 น. บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยของ สวก. ให้เป็นที่รับรู้และรู้จักอย่างกว้างขวาง ส่งเสริมและผลักดันผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย สาธารณะ และพาณิชย์

โดยนำเสนอเทคโนโลยี "ต่อยอดงานวิจัยเกษตรไทย มิติใหม่แห่งการลงทุน" จำนวน 12 โครงการ ซึ่งพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่ภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จของภาคเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัยของ สวก. จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ 1) บริษัท เอ็ม.วาย.อาร์.คอสเมติคส์ โซลูชั่น จำกัด 2) บริษัท ไบโอเมดอินโนเวชั่น จำกัด และ 3) บริษัท เจอาร์ แลบโบราทอรี่ จำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผลงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ได้จริง


ทั้งนี้ ยังมีการเสวนา เรื่อง "ศักยภาพของสมุนไพรไทยในการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูโรคโควิด 19" เพื่อยกระดับงานวิจัยด้านสมุนไพรไทย นำไปต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลก

ภายในงาน จะสามารถให้ผู้ที่ร่วมลงทะเบียนเข้าชมนิทรรศการผลงานวิจัยของ สวก. ในรูปแบบ Virtual Event บนแพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนกว่า 60 ผลงาน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 ผลิตภัณฑ์ผลงานวิจัยจาก "หิ้งสู่ห้าง" มากกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ที่มีการผลิตและจำหน่ายจริง อาทิ เครื่องสำอางชะลอความชราจากข้าว เครื่องดื่มข้าวสินเหล็ก ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงและแมลง ผลิตภัณฑ์เส้นบุก เครื่องสำอางจากดอกไม้สีเหลือง และเครื่องสำอางจากน้ำมันปาล์มแดง เป็นต้น

โซนที่ 2 ต้นแบบผลงานวิจัยพร้อมใช้ "เชิงพาณิชย์" มากกว่า 20 ผลงาน อาทิ ตำรับยาเม็ดฟ้าทะลายโจร ตำรับยาจากพืชกระท่อม อาหารสุขภาพสำหรับโรคเรื้อรังจากสาหร่าย เป็นต้น


โซนที่ 3 ต้นแบบองค์ความรู้วิจัยพร้อมใช้ "เชิงสาธารณะ" มากกว่า 20 ผลงาน อาทิ คู่มือเทคโนโลยีการผลิตภัณฑ์ปลาช่อน Food loss เทคโนโลยีการให้น้ำด้วยการใช้อ่างน้ำจากยางรถยนต์เก่าและระบบไส้ตะเกียง และนวัตกรรม Cement ring แบบประหยัดน้ำ เป็นต้น

โซนที่ 4 การให้บริการข้อมูลของ สวก. (ARDA Contact) ได้แก่ การสนับสนุนทุนวิจัย ทุนพัฒนาบุคลากรวิจัย ระบบคลังข้อมูลการวิจัยการเกษตรไทย (TARR) ช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ และช่องทางการติดต่อ สวก.

ทั้งนี้ ท่านผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ ได้ที่ http://www.ardavirtual2021.com/

หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักส่งเสริมการใช้ประโยชน์ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โทร. 02-579-7435 และ Facebook : Agricultural Research Development Agency (ARDA)
#7969
ข้อมูลการติดต่อหน่วยงานสถานการณ์โควิด สำหรับผู้ป่วยโควิท และ ประชาชนทั่วไป ร่วมกันช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือนร้อนจากโควิด19  ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับสถาณการ์โควิท สำหรับผู้ป่วยโควิท และ ประชาชนทั่วไป


 ข้อมูลการติดต่อหน่วยงานสถานการณ์โควิด สำหรับผู้ป่วยโควิท และ ประชาชนทั่วไป ร่วมกันช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือนร้อนจากสถานการณ์โควิดได้ที่  www.jitasa.care

 ข้อมูลการติดต่อหน่วยงานสถานการณ์โควิด เว็บ JITASA.CARE จิตอาสาดูแลไทย (สำหรับอาสาสมัคร)  ร่วมกันช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือนร้อนจากโควิด19

เว็บ ร่วมกันช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือนร้อนจากโควิด19  ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับสถาณการ์โควิท สำหรับผู้ป่วยโควิท และ ประชาชนทั่วไป
.
สายด่วนสถานการณ์โควิด-19, ข้อมูลการติดต่อหน่วยงานสถานการณ์โควิด (กรุงเทพมหานคร),แนวทางปฏิบัติในการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation),
แนวทางการจัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19

และ ข้อมูลติดต่อฉุกเนิน ต่างๆเช่น

-สายด่วนกรมการแพทย์ ช่วยเหลือผู้ป่วยในการหาเตียง โทร 1668
-สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินทันที /โทร 1669
-สายด่วน สปสช. ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการดูแลรักษาในโรงพยาบาล โทร 1330
-ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน โทร 1111
-สบายดีบอต หาเตียง Line Official: https://bit.ly/Covid-SaBaiDee
-กรุงเทพมหานคร Line ID: @bkkcovid19connect หรือ https://bit.ly/Covid-BKK
-เราต้องรอด Facebook: www.facebook.com/savethailandsafe Line ID: @iwillsurvive หรือ https://bit.ly/ Covid-iwillsurvive
-โควิดติดล้อถึงเตียง Facebook: www.facebook.com/CC.Kontumngan


และข้อมูลอื่นๆ คลิก JITASA.CARE 

รายละเอียดเพิ่มเติม
https://prakasfree.website/ข้อมูลการติดต่อหน่วยงา/



คำค้น
#ช่วยเหลือโควิท, #ร่วมกันช่วยเหลือคนเดือดร้อนจากโควิท19, สายด่วน สถานการณ์โควิด-19, ข้อมูลการติดต่อหน่วยงานสถานการณ์โควิด,
แนวทางปฏิบัติในการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation), แนวทางการจัดการศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
 
#7972
บริษัท สบายใจการบัญชี  จำกัด
9/54  หมู่ที่ 8  ตำบลบางเลน  อำเภอบางใหญ่  จังหวัดนนทบุรี   11140
โทร & Line ID.087-347-6299
https://gladnessaccounting.co.th

สำนักงานบัญชีจังหวัดนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย , สำนักงานบัญชีบางกร่าง , สำนักงานบัญชีบางใหญ่ , สำนักงานบัญชีบางศรีเมือง , สำนักงานบัญชีเลี่ยงเมือง , สำนักงานบัญชีพิมลราช , สำนักงานบัญชีบางคุรัด , สำนักงานบัญชีบางรักพัฒนา , สำนักงานบัญชีบางแม่นาง , สำนักงานบัญชีไทรม้า , สำนักงานบัญชีตลาดขวัญ , สำนักงานบัญชีบางรักน้อย , สำนักงานบัญชีบางพลับ , สำนักงานบัญชีศาลากลางนนทบุรี , สำนักงานบัญชีถนนกาญจนาภิเษกนนทบุรี , สำนักงานบัญชีบางกรวย-จงถนอม , สำนักงานบัญชีถนนชัยพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีถนนติวานนท์ , สำนักงานบัญชีท่าอิฐ , สำนักงานบัญชีถนนบางไกรใน , สำนักงานบัญชีถนนราชพฤกษ์ , สำนักงานบัญชีตลิ่งชัน , สำนักงานบัญชีถนนเรวดี , สำนักงานบัญชีถนนศรีสมาน , สำนักงานบัญชีถนน345
#7973
 กลุ่มข้าวอินทรีย์ ข้าวอินทรีย์กรมการข้าวส่งทั่วไทย #ข้าวออแกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิค หรือ #ข้าวออร์แกนิก หรือ "#ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (#OranicRice)
ข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก (#OranicFood) หรือเรียกง่ายๆเป็นภาษาไทยว่า "ข้าวเกษตรอินทรีย์" หรือ "ข้าวอินทรีย์" / ข้าวมะลินิลเพื่อสุขภาพ  คือ ข้าวที่ผ่านการผลิตทางการเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือวัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น (รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ ข้าวที่ไม่ตัดต่อทางพันธุกรรม) กระบวนการผลิตข้าวไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ก่อนการปลูกข้าวจะต้องเตรียมหน้าดินก่อนด้วยวิธีธรรมชาติ ทุกขั้นตอนการผลิตข้าวจะไร้สารปนเปื้อนที่เกิดมนุษย์ จะไม่ผ่านการฉายรังสี ไม่เพิ่มเติมสิ่งปรุงแต่งลงไปในข้าว 




 ข้าวหอมมะลิสุขภาพข้าวออแกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิค หรือ ข้าวออร์แกนิก หรือ "ข้าวเกษตรอินทรีย์"  (Oranic Rice)  ข้าวกล้องหอมมะลิเพื่อสุขภาพ คืออะไร?
1. ส่วนประกอบทุกอย่างล้วนมากจากธรรมชาติ โดยข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารสังเคราะห์ใด ๆ ในการเพาะปลูก  ข้าวปะกาอำปึลนิลอินทรีย์เลย ข้าวก็จะถูกปลูกและเจริญเติบโตมาด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วน ๆ ส่วนข้าวก็จะเป็นการปลูกในนา ไม่ใส่วัตถุสังเคราะห์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และสารเคมีหรือยาฆ่าแมลง ใช้แต่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกข้าว ส่วนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่นำมาเพาะปลูกจะต้องไม่มีตัดต่อพันธุกรรม และต้องมีการเตรียมหน้าดินก่อนการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีธรรมชาติ คือ จะต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการสร้างอาหารแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง 100% มีกลิ่นหอมตามแบบธรรมชาติ ทุกขั้นตอนในการปลูกข้าวและการแปรรูปข้าวจะต้องอยู่ในมาตรฐานที่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนประกอบทุกอย่างจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษตกค้างหรือสารก่อมะเร็ง
2. ข้าวออแกนิคจะไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ เลย ส่วนประกอบทุกอย่างจะต้องมาจากธรรมชาติ เพราะถ้ามีการใช้สารเคมีก็จะไม่ถือว่าเป็นข้าวออแกนิค ซึ่งการไม่ใช้สารเคมีที่ว่านั้นหมายถึง การไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี 
3. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการปลูก  ข้าวหอมมะลิแดงออแกนิก เพราะข้าวออแกนิคนั้น นอกจากจะมุ้งเน้นให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการใช้สารเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี หรือสารเร่งการเจริญเติบโตต่าง ๆ นั้นจะก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งกว่าจะย่อยสลายไปได้บางทีก็อาจใช้ระยะเวลาเป็นสิบ ๆ ปี ซึ่งวิธีการปลูก  ขายข้าวกล้องหอมมะลินิลอินทรีย์ แบบธรรมชาตินี้เองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูธรรมชาติที่เสียไป เพราะนอกจากจะได้รับประทานข้าวที่ปลอดสารพิษแล้ว ยังช่วยลดมลพิษต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ข้าว Hor.Boutique ข้าวอินทรีย์สุรินทร์   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : https://xn--22c6bf3bcuv6dva2b1ntb.com/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ
1.  ข้าวหอมมะลิปลอดสารพิษ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิสุขภาพ
3.  ข้าวกล้องปะกาอำปึลออร์แกนิค
4.  ข้าวอินทรีย์ผสมหลายสายพันธุ์ จ.สุรินทร์
5. ข้าวกล้องอินทรีย์หอมมะลิแดง6.  ข้าวกล้องหอมมะลินิลorganic7.  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิค


#ข้าวออร์แกนิกสุรินทร์  #ข้าวออแกนิคสุรินทร์  #ข้าวออแกนิกสุรินทร์   #ข้าวอินทรีย์สุรินทร์  #ข้าวสุขภาพสุรินทร์
 
 
#7974


เออร์โรล สเปนซ์ จูเนียร์ กำปั้นชาวอเมริกัน ถอนตัวจากไฟต์พบ แมนนี ปาเกียว จาก ฟิลิปปินส์ หลังได้รับบาดเจ็บที่ตา และต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

สเปนซ์ มีโปรแกรมป้องกันเข็มขัด รุ่นเวลเตอร์เวต ของ สภามวยโลก (WBC) และ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ปะทะ "เดอะ แพ็คแมน" วันที่ 21 สิงหาคมนี้

ทว่า เจ้าของสถิติชนะรวด 27 ไฟต์ (21 น็อกเอาท์) แจ้งข่าวร้ายเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า จำเป็นต้องถอนตัว

ทำให้ ยอร์เดนิส อูกัส นักชกคิวบาวัย 35 ปี ถูกเรียกมาขึ้นสังเวียนแทน สเปนซ์ เพื่อ.เข็มขัด สมาคมมวยโลก (WBA) เส้นเดียวกับที่ริบคืนจาก ปาเกียว ช่วงต้นปี 2021 เนื่องจากไม่ป้องกันตำแหน่งภายในระยะเวลาที่กำหนด

สเปนซ์ วัย 31 ปี กล่าว "ผมผิดหวังมากที่ผมไม่สามารถชกกับ แมนนี ปาเกียว วันที่ 21 สิงหาคม ผมตื่นเต้นที่จะขึ้นสังเวียนไฟต์นี้"

"โขคร้ายเหลือเกิน แพทย์พบรอยฉีกตรงตาซ้าย แล้วบอกว่าผมจำเป็นต้องผ่าตัดด่วนที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่มีทางที่ผมจะขึ้นสังเวียนด้วยการบาดเจ็บตา ผมขอโทษทุกๆ คน ผมจะกลับมาโดยเร็วที่สุด เราจะกลับมาจากจุดที่แย่สุด"

ปาเกียว วัย 42 ปี ไม่มีคิวชกตั้งแต่เอาชนะ คีธ เธอร์แมน วัย 32 ปี คว้าแชมป์ของ WBA เดือนกรกฎาคม 2019 เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 ระบาด จึงเก็บตัวอยู่บ้าน ที่กรุงมะนิลา
#7975


นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564/65 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2564 สถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยยังคงมีความผันผวน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.2564 อย่างไรก็ตาม VGI สามารถบริหารจัดการการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยมีรายได้ที่ 596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิที่ 10 ล้านบาท จากประสบการณ์ในปีที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเตรียมรับมือกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ทั้งนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน มีรายได้ 378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.9% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 266 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการเติบโตในสื่อโฆษณาทุกหน่วยธุรกิจจากการใช้แคมเปญการจองใช้สื่อโฆษณาล่วงหน้าที่บริษัทฯ ได้เสนอแพคเกจพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีการทำสัญญาในระยะยาว รวมถึงการรับรู้รายได้จากการขายสื่อโฆษณาประเภทสตรีทเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถูกบันทึกภายใต้หน่วยธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน

- สื่อโฆษณาในระบบชนส่งมวลชน มีรายได้ 349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 236 ล้านบาท

- สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่นๆ มีรายได้ 29 ล้านบาท ลดลง 2.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ก 30 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจบริการด้านดิจิทัล มีรายได้ 218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าคอมมิชชั่น และ Lead Generation ภายใต้กลุ่มแรบบิท

ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้มาพร้อมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยบริษัทฯ มีต้นทุนการให้บริการอยู่ที่ 410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราต้นทุนต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 68.9% จาก 74.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31.1% เพิ่มขึ้นจาก 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ การขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ลดลงมาอยู่ที่ 42.1% จาก 54.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสาเหตุจากอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มากกว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมจำนวน 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุน 22 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) จากการรับรายได้ค่าตอบแทนขั้นต่ำในธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศ และความสำเร็จในการเจรจาต่อรองลดค่าสัมปทานของธุรกิจสื่อโฆษณาในสนามบิน Kuala Lumpur International Airport ของธุรกิจสื่อโฆษณาในต่างประเทศ

จากผลการดำเนินธุรกิจที่กล่าวไปทั้งหมดนั้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ 1.7%
#7977


รัฐบาลสิงคโปร์แถลงวันนี้ (11 ส.ค.) ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวดีเกินคาดในช่วงไตรมาส 2 และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ว่าจะเติบโตระหว่าง 6-7% โดยมีปัจจัยหนุนจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ ทั้งในสิงคโปร์และตลาดสำคัญอื่นๆ

กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว 14.7% เมื่อเทียบปีต่อปี สูงกว่าตัวเลข 14.3% ที่รัฐบาลคาดการณ์เอาไว้ และมากกว่าตัวเลข 14.2% ที่นักวิเคราะห์คาดหมาย ทว่ายังคงต่ำกว่าจีดีพีไตรมาส 2/2019 หรือช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ประมาณ 0.6%

รัฐบาลยังได้ปรับคาดการณ์จีดีพีตลอดทั้งปีว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 6-7% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียง 4-6%

แกเบรียล ลิม ปลัดกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ ระบุว่า "เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างสู่ภายนอก (outward-oriented sectors)"

ลิม ชี้ว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดนจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่อิงกับผู้บริโภคโดยตรง (consumer-facing sectors) และลดปัญหาขาดแคลนคนทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องพึ่งแรงงานต่างด้าว

อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวยังคงฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินไว้ โดยคาดว่ากิจกรรมจะยังคงต่ำกว่าระดับก่อนมีโควิด-19 ไปจนถึงสิ้นปีนี้

กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ระบุด้วยว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา แต่อัตราการฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งช่วยให้ประเทศเหล่านี้สามารถเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจได้

แม้จะยังคงมาตรการจำกัดทางสังคมบางส่วนไว้ แต่รัฐบาลสิงคโปร์ได้เริ่มวางยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว โดยจะเน้นไปที่การฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด

สถานการณ์โควิด-19 ในสิงคโปร์ยังถือว่าเบากว่าหลายๆ ประเทศ โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 65,000 คนเศษ และเสียชีวิต 45 คน

ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี 
#7979


หุ้นเช้าปิดลบ 3.01 จุด ขายทำกำไรหุ้นปลอดภัยคาดหวังเร่งฉีดวัคซีนหนุนคลายล็อก-เปิดประเทศ ช่วงนี้จึงได้เห็นการเริ่มปรับพอร์ต ขายทำกำไรหุ้นปลอดภัย อย่างกลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มชิปปิ้ง เป็นต้น หันมาเก็บหุ้น Domestic play และหุ้นที่ราคาลงไปจากผลกระทบโควิด ก็สามารถหาจังหวะในการซื้อได้ คาดว่า 3-4 เดือนข้างหน้าหลังคลายล็อกดาวน์แล้วหุ้นกลุ่มเหล่านี้จะกลับมา

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มเห็นการชะลอมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยดัชนีฯขึ้นไปแถว 1,550 จุดจากนั้นย่อตัวลงมา แม้ดาวโจนส์ทำนิวไฮตอบรับวุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างงาน โดยตลาดฯขึ้นต่อไปได้ไม่นานก็ย่อตัวลงในเวลาต่อมา

แต่บ้านเรามีปัจจัยหนุนจากการเร่งฉีดวัคซีนได้มากขึ้นเกิน 4 แสนโดสต่อวัน จึงเกิดความคาดหวังจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู้เร็วขึ้น นำไปสู่การคลายล็อกดาวน์และการเปิดประเทศได้เร็วตามมา ช่วงนี้จึงได้เห็นการเริ่มปรับพอร์ต ขายทำกำไรหุ้นปลอดภัย อย่างกลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มชิปปิ้ง เป็นต้น หันมาเก็บหุ้น Domestic play และหุ้นที่ราคาลงไปจากผลกระทบโควิด ก็สามารถหาจังหวะในการซื้อได้ คาดว่า 3-4 เดือนข้างหน้าหลังคลายล็อกดาวน์แล้วหุ้นกลุ่มเหล่านี้จะกลับมา

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบอย่างไร้ทิศทาง พร้อมแนะติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป

ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,539.61 จุด ลดลง 3.01 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.20% มูลค่าการซื้อขายราว 50,980 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด
#7980


ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยสีสันและฉากหลังที่เหมือนอยู่ในดินแดนแห่งความฝันทำให้"เกาะบาหลี"ดึงดูดความสนใจเหล่าผู้ผลิตภาพยนต์จากต่างประเทศให้ไปปักหลักถ่ายทำภาพยนต์ที่นั่นมานับไม่ถ้วน

ตั้งแต่ภาพยนต์เรื่อง "Legong, Dance of the Virgins"ภาพยนตร์เงียบแนวดรามาเกี่ยวกับการท่องเที่ยว สร้างเมื่อปี 2478 ภาพยนต์เรื่อง "Baraka" ภาพยนต์สารคดีแนวคัลท์ สร้างเมื่อปี 2535 ,ภาพยนต์เรื่อง"The Endless Summer II" สร้างปี 2537 และภาพยนต์ที่ดัดแปลงจากหนังสือบันทึกความจำที่ขายดีที่สุด "Eat, Pray, Love" มีจูเลีย โรเบิร์ตส นักแสดงชื่อดังของฮอลลีวู้ดนำแสดง

นอกจากถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์มาช้านาน บาหลียังเป็นโลเคชันสุดปรารถนาในการถ่ายทำขนาดเล็กกว่าการถ่ายทำภาพยนต์อย่างโฆษณาทางทีวีมากมายหลายชิ้น และตอนนี้ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติและท้องถิ่นต้องการเป็นสะพานอุดรอยโหว่ระหว่างสตูดิโอผลิตภาพยนต์ระดับโลกของฮอลลีวู้ดและเหล่าครีเอทีฟชาวอินโดนีเซียด้วยการสร้างสตูดิโอผลิตภาพยนต์บนเกาะแห่งนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ระบุว่า "ยูไนเต็ด มีเดีย เอเชีย แอนด์ ครีเอทีฟ อาร์ทิส เอเจนซี" (ยูเอ็มเอ)ในสหรัฐ ได้เปิดเผยโครงการนี้ที่เทศกาลภาพยนต์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนที่แล้ว โดยมองเห็นถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของเกาะบาหลีที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลักแม้ว่าเศรษฐกิจบนเกาะแห่งนี้จะหดตัวโดยเฉลี่ยปีละ 9.3%

"ภายใต้แผนการผลิตภาพยนต์นี้ ยูเอ็มเอจะว่าจ้างพนักงานในท้องถิ่นที่มีความรู้ความสามารถซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจบนเกาะบาหลี ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด-19 บาหลีเป็นโลเคชันในอุดมคติในการสร้างภาพยนต์"มิสซี เทวี โฆษกยูเอ็มเอ ระบุ

ดูเหมือนแผนการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลอินโดนีเซีย โดย"แซนดิอากา อูโน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นความพยายามของยูเอ็มเอที่จะสร้างและบ่มเพาะบาหลีให้เป็นศูนย์กลางการผลิตเนื้อหาระดับโลก

ยูเอ็มเอ ถูกก่อตั้งเมื่อปี 2561 โดย"Michy Gustavia"นักแสดงหญิงและโปรดิวเซอร์ชาวอินโดนีเซีย พร้อมการสนับสนุนด้านเงินทุน 20 ล้านดอลลาร์จากกลุ่มบริษัทสื่อคอมพาส กรามีเดีย (Kompas Gramedia)โดยเน้นผลิตเนื้อหาให้แก่ผู้ชมในท้องถิ่น 270 ล้านคนในภาษาอินโดนีเซีย โดยอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมากสุดอันดับ4ของโลก มีอายุผู้ชมโดยเฉลี่ยแค่ 29.7 ปีเทียบกับสหรัฐที่มีอายุผู้ชมโดยเฉลี่ย 38.1 ปี

หนังสือพิมพ์จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่าช่วง5ปีที่ผ่านมา บ็อกซ์ ออฟฟิศในอินโดนีเซียขยายตัวปีละ 7% และชาวอินโดนีเซียเป็นผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดูภาพยนต์ออน-ดีมานด์ผ่านแพลทฟอร์มต่างๆ อาทิ เน็ตฟลิกซ์ โดยคาดว่าจะมีชาวอินโดนีเซียเข้าไปใช้บริการในแพลทฟอร์มนี้มากถึง 18% หรือ 50 ล้านคนภายในปี 2568

"ตลาดบันเทิงของอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ถ้าไม่นับจีนและยูเอ็มเอได้วางกลยุทธ์ รวมทั้งเพิ่มการลงทุนเพื่อผลิตเนื้อหาสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น"เทวี ระบุ

แต่มีคำถามว่า บาหลี ที่ปัจจุบันยังคงมีปัญหาไฟฟ้าดับๆติดๆและน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่จะทำหน้าที่ศูนย์กลางการผลิตภาพยนต์ในระดับภูมิภาคได้หรือเมื่อเทียบกับโกลด์ โคสต์ของออสเตรเลีย หรือกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ซึ่ง"แอนดรี ดานันจายา"จากโคเปอร์นิก เอ็นจีโอ ซึ่งทำโปรเจคมากมายเกี่ยวกับการผลิตภาพยนต์สารคดีประเด็นสิทธิมนุษยชนเชื่อมั่นว่าบาหลีทำได้

"ตั้งแต่ดีไซเนอร์ด้านเสียงและด้านเสื้อผ้าไปจนถึงช่างภาพถ่ายทำภาพยนต์ ในบาหลีมีผู้มีความสามารถในด้านต่างๆเหล่านี้หลายพันคน หากสตูดิโอต้องการผลิตภาพยนต์ที่มีเนื้อหาต่างประเทศ สามารถเริ่มได้ทันที แม้สตูดิโอจะมีข้อจำกัด แต่ด้วยความที่บาหลีมีทัศนียภาพที่หลากหลาย โปรดิวเซอร์จึงสามารถเลือกที่จะถ่ายทำในโลเคชันที่เหมาะสมได้มากกว่าถ่ายทำในสตูดิโอ"ดานันจายา กล่าว

ดานันจายา กล่าวด้วยว่า ในสตูดิโอผลิตภาพยนต์ทุกแห่งต้องติดตั้งระบบสำรองไฟฟ้าไว้ เพราะฉะนั้นการจ่ายกระแสไฟฟ้าบนเกาะจึงไม่ใช่ปัญหา

ขณะที่"ลาโคทา มอยรา"บริษัทผลิตภาพยนต์สัญชาติสหรัฐที่มีฐานดำเนินงานอยู่บนเกาะบาหลี และเป็นผู้ผลิตภาพยนต์เรื่อง

"Pulau Plastik,"หรือ Rubbish Island สารคดีความยาวเท่าภาพยนต์ที่ตีแผ่ปัญหามลภาวะขากขยะในอินโดนีเซีย มีความเห็นต่อเรื่องนี้คล้ายๆกัน

"บนเกาะนี้มีคนมีความรู้ความสามารถมากมาย หากมีแพลทฟอร์มที่ช่วยกระจายผลงานไปยังกลุ่มผู้ฟังที่กว้างขวางขึ้นจะช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจแก่เกาะแห่งนี้มากขึ้น"มอยรา กล่าว

ด้านโอมริ เบน-คานาอัน ชาวฝรั่งเศสจากบาหลีพร็อด โพรดักชั่นเฮาส์ที่ผลิตโฆษณาทางทีวีและเสนอการบริการสำหรับผู้ผลิตสารคดีในราคาตายตัวบนเกาะบาหลี บอกว่า กำลังคิดที่จะเปิดสตูดิโอผลิตภาพยนต์บนเกาะแห่งนี้

"ตั้งแต่เราเริ่มทำธุรกิจเมื่อ5ปีที่แล้ว ก็เจอคำถามมากมายว่าทำไมไม่เปิดสตูดิโอผลิตภาพยนต์ จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ผมก็ยังคิดว่าอินโดนีเซียมีความพร้อมและเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นแหล่งผลิตภาพยนต์" เบน-คานาอัน กล่าว